Psychopomp เรื่องเล่าสยองขวัญ

-

เขียนโดย api3api

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 14.52 น.

  10 บท
  1 วิจารณ์
  14.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 02.22 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

5) เด็กโชคร้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
            "วนิดา อินทรกาน มาพบผู้ปกครองที่ห้องฝ่ายปกครองเดี๋ยวนี้ด้วยครับ"
 
    เสียงประกาศตามเครื่องขยายเสียงทำให้ฉันปิดหนังสือเรียนด้วยความเบื่อหน่าย
 
          "เฮ่อ  ให้มันได้อย่างนี้สิ นี่มันเวลาเรียนนะ"
 
   ไม่มีอะไรที่จะน่าเบื่อไปกว่านี้อีกแล้ว ฉันเดินผ่านห้องต่างๆ ฉันไม่ชอบเท่าไรกับสายตาที่ทุกคนมองฉันแปลกๆ
          "เด็กคนนั้นไง ที่ทางบ้านเป็นคนทรงเจ้าน่ะเธอ น่ากลัวออก"
 
   ไม่สนใจ  มันธรรมดาไปแล้วที่ฉันถูกนินทาทั้งต่อหน้าและลับหลัง ฉันไม่ชอบการอยู่ร่วมในสังคมที่มองฉันเป็นสิ่งแปลกประหลาด และคงไม่คิดจะนับพวกนั้นเป็นเพื่อน แต่ฉันไม่ได้เกลียดพวกเขา
 
  /////////////////////////////////////////////////////////////////////////
 
          ภายในห้องฝ่ายปกครองมีเหล่าอาจารย์และแม่ของฉันที่กำลังจัดชุดบูชาอยู่ และกลางห้องมีเด็กนักเรียนหญิงคนนึ่งร่างกายซูบผอมนอนหายใจรวยริน เธอมองฉันด้วยสายตาวิงวอน
 
            เธอคนนี้เป็นคนสวย และมีผู้ชายหลายคนหมายปอง แม้แต่คนที่ไร้ตัวตนอย่างฉันยังรู้จัก
 
              "นิดา ขอโทษที แต่แม่คงช่วยเด็กคนนี้ไม่ไหว"
 
      ฉันถอนหายใจ และใช้สมาธิเพ่งเล็งเธอคนนั้น ฉันเป็นคนที่สัมผัสถึงพลังวิญญาณได้ แต่คนนี้ไม่มีการคุกคามจากสัมพเวสีแน่
 
            "แม่เขาไม่ชอบเครื่องบูชา มีแต่จะทำให้เขาโกรธ หนูจะทำเอง"
 
 
        ฉันใช้ตะเกียบสอดเข้าไปในปากของเธอและคีบบางอย่างออกมา
 
 
 มันยาว ยาว และดิ้นเหมือนสิ่งมีชีวิต   มันคือปรสิตในร่างคน  ครูหลายคนถึงกับอ้วกออกมาด้วยความสะอิสะเอียน
 
           ฉันคีบมันออกมาถึงสามตัว แต่ละตัวยาวถึงหนึ่งไม้บรรทัด  มันดิ้นตุบตับในขวดโหลที่เตรียมไว้  
 
         "เธอไม่ได้โดนคุณไสย์นั่นคือปลิงเจ้าที่ มันไม่ได้มีแค่นี้ แต่มันจะออกมาอีกเพื่อตามหาลูกของมัน"
 
         ทุกคนเบือนหน้าหนีเพราะเด็กคนนั้นสำรอก ปรสิตสีดำขนาดเท่าหัวนิ้วโป้งมันออกมาจากปากครึ่งตัวฉันใช้ส้อมเสียบมันแล้วดึงออกมา มันดิ้นตุบตับแล้วตายไป
 
          "เธอฆ่าปลิงด้วยความสนุกสนาน  จากนี้ไปขอขมาศาลข้างบึงที่เธอไปเล่นน้ำเถอะ จงขอบใจในวันนี้ที่ฉันยังมีชีวิตและเห็นใจเพื่อนมนุษย์เถอะ ฉันจะไม่เปิดศาลวิญญาณ"
           
                     ........................................
 
      ด้วยพลังของฉัน ทำให้วิญญาณมากมายมาวนเวียนฉัน พวกนี้ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากต้องการทำเรื่องที่เขาค้างคาเพื่อปลดห่วงให้ตัวเองและนั่นจะทำให้พวกเขาไปสู่สุขติ
                            พวกเขามาเพื่อขอยืมพลังวิญญาณของฉัน
 
        ซึ่งฉันเรียกมันว่า ศาลวิญญาณ  แต่ถ้าฉันเปิดศาลวิญญาณแล้วฉันจะมีฐานะแค่ผู้ชมเท่านั้น ไม่สามารถช่วยเหลือใครได้ แม้จะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าแค่ใหนก็ตามเพราะคนที่ตัดสินคดีไม่ใช่ฉันแต่เป็นมัจจุราช ถ้าฉันยื่นมือเข้าช่วยพลังที่วิญาณยืมไปจะไม่กลับมานั่นหมายถึงอายุขัยฉันจะสั้นลง
      ฉันจึงเลือกเฉพาะเรื่องไม่ร้ายแรง และไม่กี่ยวข้องกับมนุษย์
 
 
 
              " อีเด็กปิศาจ  อีเด็กผีสิง  อย่าเข้ามาไกล้พวกเรา"
 
    ทุกคนในห้องรังเกียจฉัน  แม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นประจำแต่มันอดน้อยใจไม่ได้  ที่ที่สงบของฉัน และที่เหมาะสำหรับฉันคือวัด
 
    คุณยายฉันเสียไปหลายสิบปีแล้วจนวิญญาณที่อยู่เหนือหลุมศพเบาบางจนแทบมองไม่เห็นแล้วตอนนี้
 
                "ย่าขา  หนู หนูไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว ย่ามารับหนูไปอยู่ด้วยที"
 
   ฉันไม่อยากอยู่กับแม่ แม่มักรับงานที่น่ากลัวและร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆและให้ฉันแก้ เพราะยิ่งเรื่องร้ายแรงยิ่งได้เงินเยอะ  ไม่ว่าที่ใหนฉันก็ไม่อยากอยู่
   คุณย่ายิ้มแล้วส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหายไป คุณย่าไปแล้วไปสู่ศาลวิญญาณอีกที่นั่นคือศาลในนรกที่ชี้ขาดว่าเราจะไปต่อแดนสุขาวดีหรือชดใช้กรรมในดินแดนอเวจี
                      ไม่มีที่ให้ฉันได้รับการปลอบประโลมอีกต่อไปแล้ว
 
 
                       ...............................................
 
             เช้าวันต่อมาโต๊ะเก้าอี้ของฉันมีแต่รอยขูดขึดด้วยมีดเหลาดินสอ
             
            "ลาออกไปซะ       อีเด็กผีสิง         พวกเรากลัวเธอ"
 
แม้แต่เด็กที่ฉันเคยช่วยชีวิตก็ยังอยู่ฝั่งที่เกลียดชังฉัน   พักเที่ยงฉันเอาข้าวกล่องขึ้นมาตักเข้าปาก รสชาติที่ผสมด้วยน้ำตา   โลกนี้ไม่น่าอยู่เลย
 
           "อู้ย หน้าหนาวนี่เย็นถึงกระดูกจริงๆว่าใหม"
 
   ฉันนิ่งมองหน้าคนที่เอาข้าวกล่องมากินกับฉัน เด็กคนนั้นที่โดนปลิงสิงร่างนั่นเอง เธอมาพร้อมผู้ชายอีกคนหนึ่ง
          "เธอเอาอะไรมากิน  อู้ย  ใข่เจียวน้ำมันมะพร้าว หอม กินด้วยสิ"
 
   ฉันยิ้มพยักหน้าเลื่อนกล่องข้าวให้ไปชิดกัน  หน้าหนาว หนาวจริงๆแหละ ฉันขยับเสื้อแขนยาวสีขาวให้กระชับ แล้วกินข้าวด้วยน้ำตา
 
      หลังจากโรงเรียนเลิกพวกเราทั้งสามคนก็ถูกแกล้ง แต่ผู้ชายคนนั้นเขาปกป้องพวกเรา
 
          "พวกแกกลัวก็ไปอยู่ไกลๆนู่น  กลัวเขาทำใมถ้าเขาไม่ใจดีจริงแล้วไอ้พวกที่เธอเคยช่วยไว้ล่ะไม่ขอบคุณแล้วยังทำร้ายเขาอีกเหรอ"
 
  ฉันรู้สึกทึ่งและเป็นครั้งแรกที่ฉันถูกปกป้อง ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าฉันรู้สึกดีๆกับเขาฉันชอบรอยยิ้มของเขา
 
 
         "งานโรงเรียนเธอจะมาด้วยใหมนิดา   มานะเราจะเที่ยวพร้อมกันทั้งสามคน"
 
   แต่ฉันมองเห็นลางร้ายที่จะเกิดขึ้นกับโรงเรียนนี้  ฉันเห็นมันอย่างชัดเจน มันทำให้ฉันกลัว
 
         "พวกเธอระวังตัวนะจะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นที่โรงเรียนนี้  น่าจะสองสามวันนี้"
 
         "จ้ะพวกเราจะระวัง"
 
 
    ทำใมฉันรู้น่ะเหรอ เพราะฉันเห็นวิญญาณมาหาฉัน มันอาฆาตรรุนแรงจนฉันแทบทรงตัวไม่อยู่ มันเป็นทหารญี่ปุ่น
 
         "ไปซะฉันไม่เปิดศาลให้แก"
 
      มันทำหน้าผิดหวัง แล้วก็ลอยหายไป ฉันไม่เคยรู้สึกโล่งอกมากขนาดนี้มาก่อน แต่ฉันต้องขนลุกอีกครั้ง
 
            "พวกเพื่อนของแกจะต้องตายเพราะแก เนื่องจากปฏิเสธคำขอของฉัน"
 
     วันงานโรงเรียนคนมาเยี่ยมชมมากมาย ฉันและเพื่อนสามคนเดินเที่ยวด้วยกัน
 
            "เอ้านิดา หมวกใบนี้เข้ากับเธอ"
  เขาคนนั้นซื้อหมวกให้ฉันแม้มันจะเป็นลายแปลกแต่ฉันก็ชอบมัน  แต่ฉันต้องชะงักเพราะฉันเห็นวิญญาณนั่นอีกแล้ว
 
            "เดี๋ยวฉันมานะ"
   ฉันรีบวิ่งตามวิญญาณทหารญี่ปุ่นนั้นไป มันหันมามองด้วยความน่าสะพรึ่ง
 
 
            "ระเบิดที่ฉันวางไว้สมัยสงคราม มันกำลังจะปะทุ   มันสายไปแล้วฉันไม่ต้องพึ่งพลังของเธอแล้ว"
 
         มันชี้นิ้วไปที่โรงเก็บของเก่า  ที่นั่นวิญญาณมากมายกำลังโหยหวน
 
 
           "นิดามีอะไรเหรอ"
 
    เขาคนนั้นวิ่งตามมา จากนั้นพริบตา แสงสว่างก็แว๊บขึ้นพร้อมกับเสียงระเบิดมรณะ
 
 
         "บรึ๊มมมมม "
 
  นักเรียนสามร้อยชีวิตที่มาเที่ยวงานโรงเรียนเสียชีวิตทั้งหมด
 
       ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากและรู้สึกชาไปทั่ว ข้อมือขวาฉันขาดและมีแผลตามตัวไปทั่ว ส่วนเขาคนนั้นนอนหมดสติอยู่ไต้ต้นมะม่วงใหญ่ มันบังแรงระเบิดให้เขา   ดีจริง  วิญญาณของคนตายหลายร้อยคนม้วนหมุนตัว และมันกำลังโกรธแค้นและกำลังหลงทาง
 
          "อีเด็กผีสิง   อีเด็กนรก ช่วยพวกเราด้วย"
    ฉันกำลังจะหมดสติ ใช่ฉันรู้ฉันกำลังจะตาย  ฉันช่วยพวกเธอไม่ได้ ขอโทษ ที่ฉันทำได้ก็แค่ชี้ทางให้พวกเธอ
 
              "เปิดศาลวิญญาณให้พวกเขาด้วยค่ะ"
 
  ฉันรู้สึกเหมือนร่างกายจะฉีกออก พลังวิญญาณของฉันแบ่งกระจายจากร่างไปหาทุกๆคน ทุกคนกลับสู่สภาพของร่างคนอีกครั้งและเดินเรียงแถวเดินเข้าสู่ประตูนรกภูมิ
 
               "ทำใมเธอทำเพื่อเรา พวกเรารังเกียจเธอ"
 
   ฉันยิ้มอาจจะเป็นยิ้มสุดท้าย พอพวกเขาเข้าไปหมดทุกคนแล้วฉันก็จะตามพวกเขาไป น้ำตาฉันไหลออกมาอาบแก้ม
 
               "ฉันไม่เคยโกรธพวกเธอ"
 
       ฉันหายใจไม่ออกแล้ว ทรมานมาก ฉันดิ้นทุรนทุราย จนขาดใจในที่สุด
 
       แต่ปลายทางของฉันกลับไม่ใช่นรกหรือสวรรค์  
 
       ฉันยังวนเวียนอยู่บนโลกนี้   โปรดอย่ามองเห็นฉัน  ถ้าเจอคนสวมหมวกแปลกๆและเสื้อแขนยาวสีขาวในชุดนักเรียนให้เลี่ยงไป   ไม่งั้นคุณอาจแก้ตัวไม่ได้
 
            /////////////////////////////////////////////////////////////
 
            
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา