เสิร์ฟรักรสสตอเบอร์รี่
9.7
เขียนโดย nooann
วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.25 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
7,879 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 19.24 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) ตอนที่ 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันศุกร์แห่งชาติ
ปั้งๆ ปั้งๆ ปั้งๆ
“รู้แล้วจะเคาะให้มันพังเลยหรือไง”
“รู้แล้วก็ลุกสักทีจะนอนไปถึงไหน”
“เออ น่ารำคาญ”
ฉันจำต้องลุกจากที่นอนแล้วไปอาบน้ำ ก่อนที่คิวจะขึ้นมาพังประตูห้องนอนหมอนี่ยิ่งซาดิสอยู่ หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ลงไปกินข้าวก่อนไปเรียน ฉันจะเดินไปเรียกพร้อมกับคิวทุกวันเพราะบ้านอยู่ใกล้โรงเรียน ยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าฉันกับคิวเป็นพี่น้องฝาแฝดกับฉันและคิวก็เป็นผู้ชาย ฉันกับคิวสูงต่างกันมากๆ เพราะฉันสูงแค่หนึ่งร้อยหกสิบห้าแต่คิวสูงตั้งหนึ่งร้อยแปดสิบสูงมาก เราสองคนมีผิวขาวเหมือนกันขนาดหน้าเรายังหวานๆ คล้ายกันเลย เพราะแบบนี้ไงสาวๆ ถึงกริ๊ดกันทั้งโรงเรียน แต่ฉันกับคิวมีสีผมไม่เหมือนกันนะ คิวมีสีผมสีดำแต่ฉันกลับมีสีผมสีน้ำตาล
“ยัยขี้เซา”
สาบานว่าเรียกฉัน จะเป็นพระคุณถ้าเลิกเรียกฉันด้วยชื่ออุบาตๆ แบบนั้น
“ว่าไง”
“เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเห็นแกไปกินไอติมร้านเด็กใหม่ ดูสนิทกันไวจริงนะไปตกลงเป็นแฟนกันแล้วหรอ”
ฉันไม่ใช่คนใจง่ายขนาดนั้นนะย่ะ แค่ชอบคนง่ายเฉยๆ มันต่างกันตรงไหนเนี่ย
“อยากรู้ไม่ไปถามเองล่ะก็เห็นอยู่กลุ่มเดียวกันแล้วไม่ใช่หรอ”
และไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้นจนถึงโรงเรียน หลังจากเข้าแถวเสร็จก็ขึ้นห้องเรียน
“หวัดดีอุ๊บอิ๊บ”
“อ้าว หวัดดีกันต์”
“แกๆ เย็นนี้ไปหาขนมเค้กกินกันป่าว”
ทิวลิบหันมาถามหลังจากที่ทุกคนนั่งที่ของตัวเอง ตั้งแต่วันที่เราไปกินไอศกรีมกันวันนั้นจนถึงวันนี้ยัยทิวลิบก็หาเรื่องไปกินฟรีตลอด จนตอนนี้ร้านเขาจะเจ้งวันไหนยังไม่รู้เลย
“นี่! นังทิวมีความเกรงใจบ้างก็ดีนะ”
“จริงๆ ฉันเห็นด้วยกับจันทร์นะ”
“เห้ย! ไม่เป็นไรเพื่อนกัน”
“กันต์! แกเลิกใจดีกับมันได้แล้ว”
ฉันหันไปดุกันต์ อีตานี่ก็ขวัญอ่อนจริงแค่นี้ทำตกใจ ตอนนี้เราเริ่มสนิทกันมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่มีแค่ฉัน จันทร์เจ้า ทิวลิบ ตอนนี้มีคิว กันต์ เบส แปลกใจใช่ไหมว่าทำไมแปลกใจใช่ไหมล่ะว่าทำไมฉันกับคิวถึงไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ก็คิวกับเบสเป็นหนุ่มที่โคตรฮอตก็เลยโคตรจะเข้าถึงยาก แต่พอกันต์เข้ามาอยู่ในกลุ่มพวกเราก็เข้ามารวมกันได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ดีฉันจะได้มีอะไรแปลกใหม่ในชีวิตบ้าง
กริ่งพักกลางวันดังขึ้น
“ได้พักสักทีฉันหิวข้าวมาก แทบจะกินควายได้เป็นตัวแล้ว”
“ทิวทำไมแกกินพวกเดียวกันเองล่ะ ไม่ดีนะ”
“จันทร์!”
“ล้อเล่นทำโมโหไปได้”
จะไปกินข้าวยังหิวจะตายแล้วเนี่ย”
คิวพูดก่อนจะลุกเดินนำออกไปก่อน แล้วพวกเราก็เดินตามออกมาติดๆ
ณ.โรงอาหาร
กริ๊ดดดดดดดดดดด..........
“พี่เบสสสส น่ารักจังเลย”
“พี่คิววววว หล่อมากเลยแก”
“แกๆ คนที่เดินมาข้างหลังพี่คิวอ่ะหล่อมากเลย ไม่เคยเห็นหน้าย้ายมาใหม่ใช่ป่ะแก”
ไหนๆ จริงด้วยน่ารักอ่ะ”
“พี่เค้าชื่อกันต์แก พี่เขาชื่อกันต์แกเจ้าของร้านไอศกรีมตรงข้ามหน้าโรงเรียนเราไงแก”
ฉันยังไม่ได้บอกใช่ไหมตั้งแต่พวกฉันกับคิวมารวมกัน เวลาไปไหนมาไหนหูฉันจะพังทุกที ก็มีแต่พวกผู้หญิงตามกริ๊ดตลอด ขนาดกันต์มาใหม่ยังกลายเป็นหนุ่มฮอตอันดับหนึ่งของโรงเรียน ส่วนคิวก็เป็นที่สองและเบสก็ที่สาม ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมได้ที่หนึ่ง ก็หน้าตาเล่นถอดมาจากนักร้องเกาหลีเลยที่เดียว กนต์สูงเท่าๆ กับคิวมีผมสีน้ำตาลเหมือนฉัน ดวงตาสีดำเหมือนฉันจะต่างก็ตรงที่ตาฉันโตแต่ของกันต์ดูเจ้าเล่ห์เวลาสบตามักจะทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ทุกที
“อิ๊บฉันว่าพวกเรารีบซื้อรีบกินรีบไปกันเถอะ หูฉันจะพังแล้ว”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ”
ทุกคนต่างแยกไปซื้อข้าวก่อนจะมานั่งกินที่โต๊ะประจำ
“พรุ้งนี้วันเสาร์ไปเที่ยวกันไหม”
จันทร์เจ้าถามขึ้นหลังจากที่ทุกคนกินข้าวเสร็จแล้ว
“ผู้หญิงวันๆ หาแต่เรื่องเสียเงิน”
“เบสถ้าแกไม่ไปฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะอย่ามาหาเรื่อง”
“หาเรื่องอะไรฉันเอ่ยชื่อเธอหรือยัง”
“ก็เมื่อกี้ฉันเป็นคนชวน ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วแกจะว่าใคร”
“ฉันว่าไปเลื่อย ใครอยากรับก็รับ”
“ไอ้เบส!”
“อะไร!”
“พอๆ ได้อ้าปากที่ไรก็เห็นสองคนนี้ต้องเถียงกันทุกทีไม่เหนื่อยหรือไง”
คิวรีบห้ามก่อนจะเกิดศึก สองคนนี้ถ้าคุยกันที่ไรเป็นต้องเถียงกันทุกที ถ้าใครไม่รู้ก็คิดว่าเบสต้องชอบกันอยู่แน่ๆ หรือว่าจะชอบกันจริงๆ ถ้าสองคนนี้เป็นแฟนกันจริงๆ มีหวังบ้านแตกแน่ยอมกันซะที่ไหนล่ะ หลังจากที่กินข้างเสร็จแล้วก็ขึ้นเรียนตอนบ่าย
กริ๊งเลิกเรียนดังขึ้น
“เย็นนี้ไปนั่งเล่นร้านเราป่าวเดี๋ยวทำขนมเค้กให้กิน”
“จริงหรอไปๆ”
“ไม่ค่อยเห็นแกกินเท่าไหร่เลยนะยัยทิว”
ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ถ้าฉันเป็นยัยทิวลิบนะฉันจะกินเค้กสตอเบอร์รี่ให้จุใจไปเลย
“ไปๆ จะนั้งรอให้ภารโรงมาไล่หรือไง”
คิวพูดก่อนจะเดินนำออกไปเหมือนทุกๆๆ ทีจะเก๊กไปไหนจริงวันไหนถ้าไม่ได้เก๊กจะลงแดงตายหรือไง
“กันต์ร้านนายก็เปิดมาเกือบเดือนแล้ว ทำไมยังไม่มีชื่อร้านอีกล่ะ”
“ใช่ๆ คำถามแกวันนี้มีสาระมากทิว”
“จันทร์สาบานว่าแกชมฉัน”
“ฉันชมแกสิจริงๆ นะ”
สองคนนี้ก็อีกคู่ ถ้าไม่ติดว่าสนิทกันฉันว่ามันต้องมีศึกระหว่างสองคนนี้แน่นอน
“เออจริงปกติเวลาคนเปิดร้านใหม่เขาก็มีชื่อร้านแล้ว”
วันนี้คิวมาแปลก ต่อมอยากรู้อยากเห็นพึ่งจะเริ่มทำงาน
“ก็พ่อให้ฉันเป็นคนตั้งชื่อร้านแต่ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไร ฉันก็เลยไม่ตั้งแล้วแต่คนจะเรียก”
“ลองให้ยัยขี้เซาตั้งสิ”
“ชื่ออุ๊บอิ๊บ เรียกให้มันถูกๆ หน่อย”
“หรอ ก็เห็นตื่นทีตะวันแทงตูดดดดด”
“ไอ้คิว!ตายยย!”
ฉันยกกระเป๋าขึ้นก่อนจะตีลงไปที่คิวแต่มันโคตรแม่น มันโดนเบสเต็มๆ มันเรียกว่าแม่นตรงไหน
“โอ๊ยยย แล้วมาตีฉันทำไมเนี่ยแจ็บนะโว๊ย!”
“ขอโทษ ไม่รู้จักหลบเองช่วยไม่ได้”
โป๊ก!!
“อะไรจะมาตีฉันทำไม เจ็บนะ!”
“จะได้หายกันไง”
“เอาคืนหรอฝากไว้ก่อนเถอะ”
“แล้วรีบๆ มาเอาคืนนะจ๊ะ”
ยังจะมาทำหน้าทะเล้นอีก ซวยจริงๆ เลยฉัน
ปั้งๆ ปั้งๆ ปั้งๆ
“รู้แล้วจะเคาะให้มันพังเลยหรือไง”
“รู้แล้วก็ลุกสักทีจะนอนไปถึงไหน”
“เออ น่ารำคาญ”
ฉันจำต้องลุกจากที่นอนแล้วไปอาบน้ำ ก่อนที่คิวจะขึ้นมาพังประตูห้องนอนหมอนี่ยิ่งซาดิสอยู่ หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ลงไปกินข้าวก่อนไปเรียน ฉันจะเดินไปเรียกพร้อมกับคิวทุกวันเพราะบ้านอยู่ใกล้โรงเรียน ยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าฉันกับคิวเป็นพี่น้องฝาแฝดกับฉันและคิวก็เป็นผู้ชาย ฉันกับคิวสูงต่างกันมากๆ เพราะฉันสูงแค่หนึ่งร้อยหกสิบห้าแต่คิวสูงตั้งหนึ่งร้อยแปดสิบสูงมาก เราสองคนมีผิวขาวเหมือนกันขนาดหน้าเรายังหวานๆ คล้ายกันเลย เพราะแบบนี้ไงสาวๆ ถึงกริ๊ดกันทั้งโรงเรียน แต่ฉันกับคิวมีสีผมไม่เหมือนกันนะ คิวมีสีผมสีดำแต่ฉันกลับมีสีผมสีน้ำตาล
“ยัยขี้เซา”
สาบานว่าเรียกฉัน จะเป็นพระคุณถ้าเลิกเรียกฉันด้วยชื่ออุบาตๆ แบบนั้น
“ว่าไง”
“เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเห็นแกไปกินไอติมร้านเด็กใหม่ ดูสนิทกันไวจริงนะไปตกลงเป็นแฟนกันแล้วหรอ”
ฉันไม่ใช่คนใจง่ายขนาดนั้นนะย่ะ แค่ชอบคนง่ายเฉยๆ มันต่างกันตรงไหนเนี่ย
“อยากรู้ไม่ไปถามเองล่ะก็เห็นอยู่กลุ่มเดียวกันแล้วไม่ใช่หรอ”
และไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้นจนถึงโรงเรียน หลังจากเข้าแถวเสร็จก็ขึ้นห้องเรียน
“หวัดดีอุ๊บอิ๊บ”
“อ้าว หวัดดีกันต์”
“แกๆ เย็นนี้ไปหาขนมเค้กกินกันป่าว”
ทิวลิบหันมาถามหลังจากที่ทุกคนนั่งที่ของตัวเอง ตั้งแต่วันที่เราไปกินไอศกรีมกันวันนั้นจนถึงวันนี้ยัยทิวลิบก็หาเรื่องไปกินฟรีตลอด จนตอนนี้ร้านเขาจะเจ้งวันไหนยังไม่รู้เลย
“นี่! นังทิวมีความเกรงใจบ้างก็ดีนะ”
“จริงๆ ฉันเห็นด้วยกับจันทร์นะ”
“เห้ย! ไม่เป็นไรเพื่อนกัน”
“กันต์! แกเลิกใจดีกับมันได้แล้ว”
ฉันหันไปดุกันต์ อีตานี่ก็ขวัญอ่อนจริงแค่นี้ทำตกใจ ตอนนี้เราเริ่มสนิทกันมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่มีแค่ฉัน จันทร์เจ้า ทิวลิบ ตอนนี้มีคิว กันต์ เบส แปลกใจใช่ไหมว่าทำไมแปลกใจใช่ไหมล่ะว่าทำไมฉันกับคิวถึงไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ก็คิวกับเบสเป็นหนุ่มที่โคตรฮอตก็เลยโคตรจะเข้าถึงยาก แต่พอกันต์เข้ามาอยู่ในกลุ่มพวกเราก็เข้ามารวมกันได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ดีฉันจะได้มีอะไรแปลกใหม่ในชีวิตบ้าง
กริ่งพักกลางวันดังขึ้น
“ได้พักสักทีฉันหิวข้าวมาก แทบจะกินควายได้เป็นตัวแล้ว”
“ทิวทำไมแกกินพวกเดียวกันเองล่ะ ไม่ดีนะ”
“จันทร์!”
“ล้อเล่นทำโมโหไปได้”
จะไปกินข้าวยังหิวจะตายแล้วเนี่ย”
คิวพูดก่อนจะลุกเดินนำออกไปก่อน แล้วพวกเราก็เดินตามออกมาติดๆ
ณ.โรงอาหาร
กริ๊ดดดดดดดดดดด..........
“พี่เบสสสส น่ารักจังเลย”
“พี่คิววววว หล่อมากเลยแก”
“แกๆ คนที่เดินมาข้างหลังพี่คิวอ่ะหล่อมากเลย ไม่เคยเห็นหน้าย้ายมาใหม่ใช่ป่ะแก”
ไหนๆ จริงด้วยน่ารักอ่ะ”
“พี่เค้าชื่อกันต์แก พี่เขาชื่อกันต์แกเจ้าของร้านไอศกรีมตรงข้ามหน้าโรงเรียนเราไงแก”
ฉันยังไม่ได้บอกใช่ไหมตั้งแต่พวกฉันกับคิวมารวมกัน เวลาไปไหนมาไหนหูฉันจะพังทุกที ก็มีแต่พวกผู้หญิงตามกริ๊ดตลอด ขนาดกันต์มาใหม่ยังกลายเป็นหนุ่มฮอตอันดับหนึ่งของโรงเรียน ส่วนคิวก็เป็นที่สองและเบสก็ที่สาม ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมได้ที่หนึ่ง ก็หน้าตาเล่นถอดมาจากนักร้องเกาหลีเลยที่เดียว กนต์สูงเท่าๆ กับคิวมีผมสีน้ำตาลเหมือนฉัน ดวงตาสีดำเหมือนฉันจะต่างก็ตรงที่ตาฉันโตแต่ของกันต์ดูเจ้าเล่ห์เวลาสบตามักจะทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ทุกที
“อิ๊บฉันว่าพวกเรารีบซื้อรีบกินรีบไปกันเถอะ หูฉันจะพังแล้ว”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ”
ทุกคนต่างแยกไปซื้อข้าวก่อนจะมานั่งกินที่โต๊ะประจำ
“พรุ้งนี้วันเสาร์ไปเที่ยวกันไหม”
จันทร์เจ้าถามขึ้นหลังจากที่ทุกคนกินข้าวเสร็จแล้ว
“ผู้หญิงวันๆ หาแต่เรื่องเสียเงิน”
“เบสถ้าแกไม่ไปฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะอย่ามาหาเรื่อง”
“หาเรื่องอะไรฉันเอ่ยชื่อเธอหรือยัง”
“ก็เมื่อกี้ฉันเป็นคนชวน ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วแกจะว่าใคร”
“ฉันว่าไปเลื่อย ใครอยากรับก็รับ”
“ไอ้เบส!”
“อะไร!”
“พอๆ ได้อ้าปากที่ไรก็เห็นสองคนนี้ต้องเถียงกันทุกทีไม่เหนื่อยหรือไง”
คิวรีบห้ามก่อนจะเกิดศึก สองคนนี้ถ้าคุยกันที่ไรเป็นต้องเถียงกันทุกที ถ้าใครไม่รู้ก็คิดว่าเบสต้องชอบกันอยู่แน่ๆ หรือว่าจะชอบกันจริงๆ ถ้าสองคนนี้เป็นแฟนกันจริงๆ มีหวังบ้านแตกแน่ยอมกันซะที่ไหนล่ะ หลังจากที่กินข้างเสร็จแล้วก็ขึ้นเรียนตอนบ่าย
กริ๊งเลิกเรียนดังขึ้น
“เย็นนี้ไปนั่งเล่นร้านเราป่าวเดี๋ยวทำขนมเค้กให้กิน”
“จริงหรอไปๆ”
“ไม่ค่อยเห็นแกกินเท่าไหร่เลยนะยัยทิว”
ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ถ้าฉันเป็นยัยทิวลิบนะฉันจะกินเค้กสตอเบอร์รี่ให้จุใจไปเลย
“ไปๆ จะนั้งรอให้ภารโรงมาไล่หรือไง”
คิวพูดก่อนจะเดินนำออกไปเหมือนทุกๆๆ ทีจะเก๊กไปไหนจริงวันไหนถ้าไม่ได้เก๊กจะลงแดงตายหรือไง
“กันต์ร้านนายก็เปิดมาเกือบเดือนแล้ว ทำไมยังไม่มีชื่อร้านอีกล่ะ”
“ใช่ๆ คำถามแกวันนี้มีสาระมากทิว”
“จันทร์สาบานว่าแกชมฉัน”
“ฉันชมแกสิจริงๆ นะ”
สองคนนี้ก็อีกคู่ ถ้าไม่ติดว่าสนิทกันฉันว่ามันต้องมีศึกระหว่างสองคนนี้แน่นอน
“เออจริงปกติเวลาคนเปิดร้านใหม่เขาก็มีชื่อร้านแล้ว”
วันนี้คิวมาแปลก ต่อมอยากรู้อยากเห็นพึ่งจะเริ่มทำงาน
“ก็พ่อให้ฉันเป็นคนตั้งชื่อร้านแต่ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไร ฉันก็เลยไม่ตั้งแล้วแต่คนจะเรียก”
“ลองให้ยัยขี้เซาตั้งสิ”
“ชื่ออุ๊บอิ๊บ เรียกให้มันถูกๆ หน่อย”
“หรอ ก็เห็นตื่นทีตะวันแทงตูดดดดด”
“ไอ้คิว!ตายยย!”
ฉันยกกระเป๋าขึ้นก่อนจะตีลงไปที่คิวแต่มันโคตรแม่น มันโดนเบสเต็มๆ มันเรียกว่าแม่นตรงไหน
“โอ๊ยยย แล้วมาตีฉันทำไมเนี่ยแจ็บนะโว๊ย!”
“ขอโทษ ไม่รู้จักหลบเองช่วยไม่ได้”
โป๊ก!!
“อะไรจะมาตีฉันทำไม เจ็บนะ!”
“จะได้หายกันไง”
“เอาคืนหรอฝากไว้ก่อนเถอะ”
“แล้วรีบๆ มาเอาคืนนะจ๊ะ”
ยังจะมาทำหน้าทะเล้นอีก ซวยจริงๆ เลยฉัน
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ