เสิร์ฟรักรสสตอเบอร์รี่
เขียนโดย nooann
วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.25 น.
แก้ไขเมื่อ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 19.24 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ตอนที่ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกริ่งเข้าเรียนดังขึ้นและฉันกับเพื่อนๆก็เดินขึ้นเรียนปกตอเหมือนทุกวัน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนทุกวันคือ โต๊ะข้างๆ ฉันจากเมื่อสองวันก่อนมันยังว่างอยู่แต่วันนี้มันกลับมีกระเป๋าของใครบางคนวางอยู่
“แกๆ กระเป๋าใครไม่คุ้นนะ แกซื้อใหม่หรอ”
ฉันหันไปถามทิวลิบกับจันทร์เจ้าเพื่อนสนิทของฉัน
“แกจะบ้าหรอของฉันอยู่นี่”
“ของฉันก็อยู่นี่”
ทั้งสองคนชี้ไปที่กระเป๋าพร้อมกับทำหน้าจริงจังมากๆ
“เอ้า! งั้นของใครล่ะ”
“ของเราเอง”
เสียงนิรนามดังขึ้นก่อนที่เราจะหันไปที่ต้นเสียงพร้อมๆ กัน
“มีใครนั่งหรอ ถ้ามีเดี๋ยวเราย้ายไปนั่งที่อื่นได้นะ”
“เปล่าๆ ไม่มีหรอกนั่งได้ไม่เป็นไร”
ฉันตอบพลางโบกไม่โบกมือ ก็ทั้งห้องมีที่ข้างฉันที่เดียวเท่านั้นที่ว่าง
“ว่าแต่พึ่งย้ายมาใหม่หรอเปิดเรียนมาสองวันแล้วพึ่งจะเห็นหน้า”
“ใช่ๆ เราชื่อกันต์ แล้วเธอล่ะ”
“เราชื่ออุ๊บอิ๊บนี่เพื่อนเราชื่อทิวลิบกับจันทร์เจ้า”
ฉันพูดพลางชี้ไปทางเพื่อนทั้งสอง ฉันยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าสอนคนนี้เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉัน ก็จะไม่สนิทได้ไงล่ะก็ฉันเรียนด้วยกันมาสี่ปีเต็มๆ ปีนี้ก็ปีที่ห้าแล้ว
“นั่งได้แล้วมัวแต่คุยกันอยู่ได้ไม่เรียนกันหรือไง”
เสียงอาจารย์ดังขึ้นและมันก็สามารถทำให้วงแตกและต่างก็หาที่นั่งของตนเอง
กริ่งเลิกเรียนดังขึ้นและแน่นอนไม่ต้องพูดอะไรต่างกูรู้หน้าที่ดี เก็บของใส่กระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน
“แกจะกลับเลยไหมเนี่ย ฉันว่าจะชวนแกไปกินไอศกรีมร้านเปิดใหม่ตรงข้ามโรงงเรียนเราคนขายหล่อมากแก”
จันทร์เจ้าหันมาชวน
“จริงแกหล่อมากฉันไปกินมาเมื่อวาน”
ทิวลิบหันมาพูดพลางเก็บของใส่กระเป๋า
“ไม่รู้ดูก่อนไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ ถ้าพวกแกอยากกินแกก็ไปกันก็ได้นะ ไม่ต้องห่วงฉันไม่งอลแกหรอก”
ฉันตอบพลางเก็บของใส่กระเป๋า ทำไงได้ก็ฉันไม่อยากไปจริงๆ ก็เมื่อวานฉันพึ่งไปกินที่ซเว่นเซ่นกับแม่มา ทำเอาเบื่อไปอีกนานเลยแหละ
“ไม่แกต้องไปพร้อมพวกฉัน” << ทิวลิบ
“ใช่ๆ ถ้าไม่ไปฉันโกรธ” << จันทร์เจ้า
ทำหน้าอย่างกับจะกินฉันเข้าไปทั้งตัว ถ้าวันนี้ฉันไม่ไปฉันจะโดนฆ่าตายไหม
“สรุปคือฉันต้องไปใช่ป่ะ”
“ใช่ / ใช่”
จะประสานเสียงกันทำไมเนี่ย สุดท้ายฉันก็โดนลากมาที่ร้านจนได้ ไหนๆ ก็มาแล้วกินสักหน่อยจะเป็นไรไป ให้ตายสิใจอ่อนอีกจนได้สงสัยฉันจะอ้วนตายแน่ๆ
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็จะได้ยินเสียงกระดิ่งที่ห้อยตรงประตูทางเข้าและเสียงตอนรับของพนักงาน
“ยินดีต้องรัยครับ”
ฉันได้แต่ยิ้มรับก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะด้านในสุดริมหน้าต่าง บรรยากาศดีมากๆ ตกแต่งร้านออกแนวหวานๆ เพราะผนังเป็นสีชมพูอ่อนๆ มีโครมไฟหลายสีหลายแบบส่วนโต๊ะก็เป็นวงกลมบ้าง สี่เหลี่ยมบ้าง แต่ที่น่าแปลกก็น่าจะเป็นเก้าอี้รูปสตอเบอร์รี่นี่แหละ แต่มันก็ดูน่ารักดีนะเพราะฉันชอบสตอเบอร์รี่มาก ถ้าได้มานั่งกับแฟนคงโรแมนติกน่าดู
“รับอะไรดีครับ”
“แกเอาไรดี”
“เหมือนเดิมที่ฉันชอบกินแหละ”
ฉันหันไปตอบก่อนจะหันกลับมามองไปนอกร้าน
“แกๆ เค้กก็มีน่ากินมากอ่ะ พี่คะเอาอันนี้กับอันนี้แล้วก็ไอศกรีมสตอเบอร์รรี่คะ”
เสียงจันทร์เจ้าสั่งออเดอร์และไม่นานก็มาเสิร์ฟ และทันทีที่อาหารวางไม่ต้องเสียเวลากันมากมายเพราะเรื่องกินมันเรื่องใหญ่ (เห็นแกกินนั้นเอง)
“อ้าว! หวัดดีจำเราได้ไหมที่นั่งข้างๆเธอไง”
“จำได้ชอบกินไอศกรีมเหมือนกันหรอ”
หน้าตาไม่น่าชอบกินนะ (คิดในใจ)
“เปล่าร้านเราเอง”
ช๊อก! ดีนะคิดในใจไม่งั้นโดนจับโยนออกนอกร้านแน่เลย
“จริงหรองั้นวันนี้เลี้ยงตอนรับมิตรภาพของพวกเรากันดีป่าว”
ไม่ต้องถามว่าใครก็ยัยทิวลิบแน่นอนยัยนี่ชอบของฟรีจะตายจะว่าไปฉันก็ชอบนะ
“เอาสิ ฉันเลี้ยงเอง”
เอาแล้วไง ยังไม่รู้จักยังทิวลิบดีพอ ยัยนี่กินที่ร้านไหนร้านนั้นได้กำไรบานเลยแต่ฉันว่างานนี้จะมีคนขาดทุนแน่นอน
“แล้วย้ายมาจากไหนหรอ”
“เราย้ายมาจากต่างจังหวัด ย้ายมาอยู่กับครอบครัว”
“แล้วมีเพื่อนบ้างหรือยังล่ะมาเรียนวันแรก”
“ก็พอมีบ้างแต่ยังไม่ค่อยกล้าคุยเท่าไหร่”
“แล้วมีแฟนหรือยัง”
นั้นไงตรงมาก ยัยจันทร์เจ้าไม่รู้ไปเอาความกล้ามาจากไหน ขนาดรู้จักกันวันแรกยังถามขนาดนี้ ถ้าสนิทกันอีกหน่อยไม่ถามเลยหรอว่าพ่อชื่ออะไร
“ยังไม่มี”
กันต์ตอบทันที่โดนไม่ต้องคิดอะไรเลยสักนิด และอีกอย่างทำไมต้องหันมาทางฉันด้วย ฉันไม่ได้เป็นคนถามสักหน่อยนะ ท่าจะบ้า (ฉันคิดในใจนะ) พวกเราต่างคนต่างกินและพูดคุยกันจนสนิท
“ฉันกลับบ้านก่อนนะ ขอบใจนะที่เลี้ยง”
“ไม่เป็นไร”
กันต์เดินออกมาส่งพวกเราที่หน้าร้านก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ