บันทึกเรื่องราวของเด็กไม่มีแม่
10.0
เขียนโดย snowred
วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.44 น.
2 ตอน
6 วิจารณ์
6,102 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 18.15 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) ...หรือนี่จะเป็นแผนของยายแม่เลี้ยง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ณ ตอนนี้ ผมและยายแม่เลี้ยงกำลังเดินซื้อของที่ตลาดอยู่ เดินไปสักพักผ่านร้านขายดอกไม้ ผมเหลือบตาไปมอง สะดุดกับดอกไม้สีขาวเล็กๆ ที่จัดวางไว้เต็มโต๊ะที่ตั้งสำหรับขาย อืม... จะว่าไปแม่ค้าดูๆ แล้วน่าจะมาจากภาคกลางแฮะ (ดอกมะลิที่ไหนขึ้นในภาคอีสาน อากาศก็ค่อนข้างแห้งแล้ง ดอกไม้และพืชอื่นไม่ชอบหรอก) ...ก่อนที่มีมืออันน่าขยะแขยงมาดึงเบาๆ ชายเสื้อผม
"บักเขีย ดอกมะลิสวยเนอะ ดีจังที่มีแม่ค้าจากภาคกลางมาขายด้วย"
"เออ ก็ดี" วุ้ย! รำคาญจริง
"ฮิๆ อ่า เดี๋ยวแม่มานะ ว่าจะซื้อดอกมะลิปลอมไปฝากแม่น่ะจ้ะ"
จะไปไหนก็ไป -_-
ไม่ถึงหนึ่งนาที แม่เลี้ยงก็เดินมาหาผมพร้อมกับช่อดอกมะลิปลอมขนาดเล็กในมือ ...ซื้อเร็วดีนะ
"แล้วหนูไม่ซื้อให้... เอ่อ เดี๋ยวไปอีกสองร้านนะ แม่จะซื้อวัตถุดิบไปปรุงอาหารน่ะ" ประโยคที่ฟังดูขัดแย้งก็พูดขึ้น ดูเหมือนแม่ (เลี้ยง) จะรู้ว่าคำพูดแถวๆ หน้าไม่สมควรจะพูด
...เพราะมันเหมือนจะเป็นการทำร้ายจิตใจผม... ยังไงล่ะ
ผมไม่ต้องการหรอก คำว่าสงสารน่ะ เห็นใจก็ด้วย ไม่ต้องเอ่ยหรือแสดงความรู้สึกออกมาหรอก ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย มันเหมือนกับเป็นการจี้ปมในใจ
-นี่น่ะหรือมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่สามารถทนกับการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติและสามารถล้มมันได้ ...แต่ทำไม กะอีแค่ความรู้สึกของตนเอง ...ทำไมล่ะ ทำไมถึงล้มมันไม่ได้
เจ็บใจที่สุดเลย!
"..."
"..."
ผม-และแม่เลี้ยงไม่มีฝ่ายใดเอ่ยอะไรออกมา มีแต่เสียงอื่นเล็ดลอดมาแทนที่ สองมือที่กำไว้ในกระเป๋ากางเกงของรร. จิกเล็กที่ยาวเข้าไปในเนื้อ ...รู้สึกกดดัน...
"...บักเขีย..."
"...อะไร?"
"แม่... อาจจะไปต่างประเทศภายในสัปดาห์นี้น่ะ เลยว่าจะมาบอกลูกก่อนที่จะไป อยู่กับพ่อสองคนได้ไหมจ๊ะ?" นำ้เสียงหวานที่ผมคาดว่าแสร้งบอกผม ผมหันไปมองด้านข้างที่เป็นทุ่งนาสีขาวชืดยามเย็น พลางนึกไปว่าจะพูดอะไรต่อ
"อือ"
"อยู่ที่นี่ก็ตั้งใจเรียนนะ"
"ก่อนพูดน่ะ คิดซะบ้าง ...เชย" คำพูดที่ผมคิดว่าน่าจะทำร้ายจิตใจยายแม่เลี้ยงได้ดีก็เอ่ยกับหล่อน
"จ้ะ"
เอ๊ะ
มือบางขาวเอื้อมมาสำผัสใบหน้าสีแทนของผม ก่อนที่ริมฝีปากบางจะประกบลงมาที่แก้มข้างซ้ายผม และมืออีกข้างเลื่อนมากุมมือผมไว้พร้อมกับที่ยายแม่เลี้ยงส่งยิ้มอ่อนโยน... เป็นยิ้มที่ดูอบอุ่นจนผมดูไม่ออกเลยว่าหล่อนแสร้งทำหรือยิ้มด้วยใจจริง ...ผมฉุกใจได้ว่าคำพูดเมื่อกี้กลับไม่ได้ทำให้หล่อนเสียความรู้สึก
เราสองคนจนกระทั้งถึงบ้าน-แยกย้าย ตัวผมไปอาบน้ำส่วนยายแม่เลี้ยงไปทำอาหารสำหรับมื้อเย็น ระหว่างตักนำ้ให้อยู่ในขันขึ้นมาก็นึกอะไรเหม่อๆ ...อะไรของหล่อนกัน เล่นละครเก่งจริงๆ นี่เกลียดผมถึงขนาดจะแสดงละครให้ผมตายใจและหักหลัง เสียความรู้สึกในภายหลังงั้นหรือเนี่ย ร้ายกาจมากเลยนะ ...ฮึ แต่คิดเหรอว่าผมจะอ่อนข้อให้น่ะ
ซ่า!
ฝันไปเหอะ!!!
น้ำในขันถูกผมรินเทใส่ศีรษะจนตัวชุ่มไปด้วยน้ำ เสียงสายน้ำที่ไหลผ่านตกกระทบกับพื้น ผมสูดหายใจเข้า ภาวยาในใน ...พุธ ...โธ ทำใจให้สงบ หากเราใจร้อนคิดจะตีกลับก็จะมีแต่ผลเสีย เพราะฉะนั้นต้องใจเย็นๆ เข้าไว้
"บักเขีย ดอกมะลิสวยเนอะ ดีจังที่มีแม่ค้าจากภาคกลางมาขายด้วย"
"เออ ก็ดี" วุ้ย! รำคาญจริง
"ฮิๆ อ่า เดี๋ยวแม่มานะ ว่าจะซื้อดอกมะลิปลอมไปฝากแม่น่ะจ้ะ"
จะไปไหนก็ไป -_-
ไม่ถึงหนึ่งนาที แม่เลี้ยงก็เดินมาหาผมพร้อมกับช่อดอกมะลิปลอมขนาดเล็กในมือ ...ซื้อเร็วดีนะ
"แล้วหนูไม่ซื้อให้... เอ่อ เดี๋ยวไปอีกสองร้านนะ แม่จะซื้อวัตถุดิบไปปรุงอาหารน่ะ" ประโยคที่ฟังดูขัดแย้งก็พูดขึ้น ดูเหมือนแม่ (เลี้ยง) จะรู้ว่าคำพูดแถวๆ หน้าไม่สมควรจะพูด
...เพราะมันเหมือนจะเป็นการทำร้ายจิตใจผม... ยังไงล่ะ
ผมไม่ต้องการหรอก คำว่าสงสารน่ะ เห็นใจก็ด้วย ไม่ต้องเอ่ยหรือแสดงความรู้สึกออกมาหรอก ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย มันเหมือนกับเป็นการจี้ปมในใจ
-นี่น่ะหรือมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่สามารถทนกับการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติและสามารถล้มมันได้ ...แต่ทำไม กะอีแค่ความรู้สึกของตนเอง ...ทำไมล่ะ ทำไมถึงล้มมันไม่ได้
เจ็บใจที่สุดเลย!
"..."
"..."
ผม-และแม่เลี้ยงไม่มีฝ่ายใดเอ่ยอะไรออกมา มีแต่เสียงอื่นเล็ดลอดมาแทนที่ สองมือที่กำไว้ในกระเป๋ากางเกงของรร. จิกเล็กที่ยาวเข้าไปในเนื้อ ...รู้สึกกดดัน...
"...บักเขีย..."
"...อะไร?"
"แม่... อาจจะไปต่างประเทศภายในสัปดาห์นี้น่ะ เลยว่าจะมาบอกลูกก่อนที่จะไป อยู่กับพ่อสองคนได้ไหมจ๊ะ?" นำ้เสียงหวานที่ผมคาดว่าแสร้งบอกผม ผมหันไปมองด้านข้างที่เป็นทุ่งนาสีขาวชืดยามเย็น พลางนึกไปว่าจะพูดอะไรต่อ
"อือ"
"อยู่ที่นี่ก็ตั้งใจเรียนนะ"
"ก่อนพูดน่ะ คิดซะบ้าง ...เชย" คำพูดที่ผมคิดว่าน่าจะทำร้ายจิตใจยายแม่เลี้ยงได้ดีก็เอ่ยกับหล่อน
"จ้ะ"
เอ๊ะ
มือบางขาวเอื้อมมาสำผัสใบหน้าสีแทนของผม ก่อนที่ริมฝีปากบางจะประกบลงมาที่แก้มข้างซ้ายผม และมืออีกข้างเลื่อนมากุมมือผมไว้พร้อมกับที่ยายแม่เลี้ยงส่งยิ้มอ่อนโยน... เป็นยิ้มที่ดูอบอุ่นจนผมดูไม่ออกเลยว่าหล่อนแสร้งทำหรือยิ้มด้วยใจจริง ...ผมฉุกใจได้ว่าคำพูดเมื่อกี้กลับไม่ได้ทำให้หล่อนเสียความรู้สึก
เราสองคนจนกระทั้งถึงบ้าน-แยกย้าย ตัวผมไปอาบน้ำส่วนยายแม่เลี้ยงไปทำอาหารสำหรับมื้อเย็น ระหว่างตักนำ้ให้อยู่ในขันขึ้นมาก็นึกอะไรเหม่อๆ ...อะไรของหล่อนกัน เล่นละครเก่งจริงๆ นี่เกลียดผมถึงขนาดจะแสดงละครให้ผมตายใจและหักหลัง เสียความรู้สึกในภายหลังงั้นหรือเนี่ย ร้ายกาจมากเลยนะ ...ฮึ แต่คิดเหรอว่าผมจะอ่อนข้อให้น่ะ
ซ่า!
ฝันไปเหอะ!!!
น้ำในขันถูกผมรินเทใส่ศีรษะจนตัวชุ่มไปด้วยน้ำ เสียงสายน้ำที่ไหลผ่านตกกระทบกับพื้น ผมสูดหายใจเข้า ภาวยาในใน ...พุธ ...โธ ทำใจให้สงบ หากเราใจร้อนคิดจะตีกลับก็จะมีแต่ผลเสีย เพราะฉะนั้นต้องใจเย็นๆ เข้าไว้
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ