ผิดไหม...ถ้าบอกรัก
-
2) กาแฟ หรือ ช็อกโกแลต
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ นับจากวันนั้นเขากับเธอก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ทั้งคู่ผลัดกันเลี้ยงข้าวเที่ยงที่โรงเรียน บางวันก็ชวนไปทานข้าวเย็นที่ร้านนอกโรงเรียนก่อนกลับบ้านและมักนั่งทานกันอยู่สองคนจนโดนเพื่อนหลายคนล้อว่าเป็นแฟนกัน ยศพลได้ยินเช่นนั้นก็เกิดอาการเขินอายแปลกๆ ผิดกับฟ้าที่ปล่อยเสียงหัวเราะขำกลิ้งก่อนบอกเพื่อนไปว่า ‘ไร้สาระน่า ฉันไม่มีทางชอบหมอนี่หรอก ฮะๆ น่าขำชะมัด’ ทำเอาเขารู้สึกผิดหวังเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้เสียใจหรือว่าอะไรนัก
“ยศ! เย็นนี้เจอกันที่ร้านเบเกอรี่หน้าโรงเรียนนะ” ฟ้าวิ่งมาตะโกนนัดแนะเย็นนี้กับเขาถึงห้องก่อนจะวิ่งกลับห้องตัวเองไปอย่างเริงร่า โดยไม่รอคำตอบจากเขาสักคำ
“ฮ้า~ วันนี้วันวาเลนไทน์นี่หว่า ยัยนั่นต้องเตรียมเค้กก้อนใหญ่ให้แกแน่” ศิลายิ้มล้อกรุ้มกริ่มจึงได้มะนาวจากเพื่อนไปประดับบนหัวสองลูกติดกัน
“พูดมากน่า...” ยศพลผลักหัวเพื่อนหันกลับไปหน้าชั้นเพราะอาจารย์ประจำวิชาต่อไปเข้ามาสอนต่อคาบบ่ายแล้ว
หลังเลิกเรียน ยศพลกับศิลาสะพายกระเป๋าออกจากห้องเรียนพร้อมกันเช่นทุกวันก่อนจะแยกกันที่หน้าโรงเรียนเพราะวันนี้เขามีนัดกับฟ้าจึงกลับบ้านพร้อมศิลาไม่ได้ ก่อนจากเด็กหนุ่มหน้าทะเล้นไม่วายทิ้งคำแซวให้เพื่อนเขินเล่นอีกจนได้
“ไม่แน่นะ ยัยฟ้าอาจเตรียมดอกกุหลาบให้แกด้วยก็ได้ อิๆ”
“เจ้าบ้านี่!” ยศพลเตะก้อนหินเล็กๆ แถวนั้นกะให้โดนหัวเพื่อน โชคดีที่ศิลาไหวตัวทันรีบเผ่นแน่บไปก่อนไม่อย่างนั้นอาจได้มะนาวลูกที่สามมาประดับบนหัวอีกก็ได้
ดวงตาสีคาราเมลละจากเพื่อนตัวดีที่วิ่งหนีขึ้นรถเมล์ไปอย่างหัวเสีย หันไปมองร้านเบเกอรี่ฝั่งตรงข้ามที่มีนักเรียนสาวหลายคนต่างกรูกันเข้าไปซื้อเค้กกันแน่นร้าน...ไม่มีผู้ชายเลยแฮะ แล้วเขาจะกล้าเข้าไปไหมเนี้ย เด็กหนุ่มคิดปลงๆ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตัดสินใจค่อยๆ เดินข้ามถนนตรงไปที่ร้านนั่น
“ยศ! ทางนี้ๆ”
ฟ้าคลี่ยิ้มกว้างโบกมือเรียกเพื่อนผู้มีหน้าตาหล่อเหลากระชากใจสาวเป็นอาวุธที่เพิ่งย่างกายเข้ามาในร้านอย่างเริงร่า ยศพลหันไปตามเสียงเรียกแล้วค่อยๆ เบียดตัวแทรกผ่านนักเรียนหญิงตรงมาหาเธอ ซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมในสุดของร้าน
“เธอนัดฉันมากินเค้กเหรอ” ดวงตาสีคาราเมลฉายแววสงสัย เมื่อเด็กสาวเลื่อนจานเค้กกาแฟกับเค้กรสช็อกโกแลตชิ้นเล็กมาตรงหน้าเขา
“ใช่ ฉันอยากให้นายเลือกทานระหว่างสองรสนี่น่ะ”
“แต่ฉันไม่ค่อยชอบกินเค้กเท่าไร” ยศพลทำท่าจะเลื่อนจานเค้กทั้งสองคืนให้เธอ แต่กลับถูกฟ้าคว้าจับมือข้างหนึ่งแล้วยัดช้อนให้เขา แถมยังส่งสายตาข่มขู่ด้วยราวจะบอกว่า ‘ถ้าไม่กินนาย...ตาย!’
“กินสิจ๊ะ เพื่อนรัก” รอยยิ้มหวานชวนสยองของเธอทำให้เขาต้องรีบเลือกเค้กหนึ่งในสองมาตักกินอย่างจำใจ ...อืม ก็อร่อยดีแฮะ
หลังตักชิมไปคำแรก เขาก็ติดใจเริ่มตักกินเรื่อยๆ จนหมดโดยมีนัยน์ตาสีดำกลมใสของสาวตรงหน้าคอยจ้องเขาอยู่ตลอด เมื่อเห็นยศพลวางช้อนลงแล้วหันไปดื่มน้ำแก้เลี่ยนนั่นแหละ ฟ้าถึงขมวดคิ้วยุ่งอย่างสงสัยปนแปลกใจ เพราะตะกี้เขาเพิ่งบอกตนอยู่หยกๆ ว่าไม่ชอบกินเค้กนี่นา
“ไหนว่าไม่ชอบไง”
“ก็... ร้านนี้เค้าทำอร่อยดีน่ะ” ยศพลยักไหล่ตอบอย่างเก้อๆ
"ทำไมนายไม่เลือกช็อกโกแลตล่ะ"
"เพราะฉันเกลียดช็อกโกแลตที่สุดไง"
"อืม เข้าใจล่ะ" ฟ้าพยักหน้าเข้าใจก่อนหันไปสั่งเค้กกาแฟใส่กล่องกับพนักงานหญิงคนหนึ่ง ส่วนเค้กช็อกโกแลตตรงหน้าถูกเธอจัดการเรียบอย่างเอร็ดอร่อย
หลังได้กล่องเค้กกาแฟที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีสวยกับริบบิ้นสีชมพูสดแล้วเด็กสาวก็ยิ้มหน้าบานไม่หุบ ยศพลเห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วยุ่งไม่เข้าใจว่าเธอมีความสุขอะไรนักหนา จนกระทั่งเดินมาถึงป้ายรถเมล์เขาทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหวจึงเอ่ยถามออกไป
"เธอจะเอาเค้กไปให้ใครเหรอ"
"แฟนน่ะ"
คำตอบของฟ้าแทบกระชากหัวใจเขาหลุดจากอก ก้อนบางอย่างแล่นขึ้นมาจุกคอจนพูดอะไรไม่ออกได้แต่ทำปากพะงาบๆ เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรและหาเสียงตัวเองไม่เจอเลย เด็กหนุ่มค่อยพยายามฝืนยิ้มเอ่ยถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าตะกี้เขาไม่ได้หูฝาดไปเอง แต่ดูเหมือนยิ่งถามยิ่งได้คำตอบที่ทำเอาหัวใจเขาถูกบางอย่างบีบรัดแน่นจนเจ็บแปลบไปหมด
"ฟะ แฟน? เธอมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่"
"จริงสิ ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับนายเลยนี่เนอะ"
ฟ้าเอาสองมือทุบกันเหมือนเพิ่งนึกออกก่อนหันมาฉีกยิ้มที่ทำให้หัวใจเขายิ่งทรมานมากขึ้น "ฉันกับเขาคบกันมาเกือบหนึ่งปีแล้วล่ะ เขาชื่อ 'พี่แนท' อยู่มหาวิทยาลัยปีหนึ่งแก่กว่าฉันปีเดียวเอง วันนี้ฉันอยากกะเซอร์ไพร์เขาก็เลยนัดนายให้มาช่วยเลือกเค้ก เพราะฉันไม่ค่อยรู้ว่าผู้ชายเขาชอบทานเค้กแบบไหนกันน่ะ"
".........."
"ขอบคุณนะ และสุขสันต์วันวาเลนไทน์ขอให้นายมีความสุขล่ะ ไปนะ" พูดจบ ฟ้าก็โบกมือยิ้มลาและวิ่งขึ้นรถเมล์ที่เข้ามาเทียบจอดรับไปอย่างเริงรื่น ผิดกับยศพลที่ยืนนิ่งเป็นหินราวกับถูกสาปอยู่ตรงนั้น
เด็กหนุ่มไม่มีแรงแม้แต่จะยกมือโบกลาเธอเช่นทุกวัน ดวงตาสีคาราเมลทำได้เพียงทอดมองรถเมล์คันที่เธอนั่งไปจนลับตาด้วยแววตาหม่นแสง เธอกลับบ้านไปโดยที่เขายังไม่ทันเอ่ยปากชวนเธอทานข้าวเย็นสักคำ ยศพลกำมือสองข้างแน่นคล้ายต้องการคลายความเจ็บปวดที่อัดแน่นอยู่ในอก มือเรียวหนาค่อยๆ ล้วงหยิบบางสิ่งในกระเป๋ากางเกงออกมา รอยยิ้มเยาะประดับบนดวงหน้าเรียวคมพลางมองสิ่งนั้นในมืออย่างเศร้าใจ
"หึ ไม่มีที่ให้แกสวมใส่แล้วขอโทษด้วยนะ"
สิ้นคำ เด็กหนุ่มก็หย่อนสร้อยคอเงินรูปจี้หัวใจทิ้งลงถังขยะข้างป้ายรถเมล์อย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะเดินคอตกขึ้นรถเมล์กลับบ้านไปด้วยแววตาสิ้นหวัง
ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่เขาแอบหวั่นไหวมาตลอดสองเดือน...จะมีเจ้าของแล้ว
ตั้งแต่วันนั้นชีวิตมอปลายของยศพลดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสุขเลย ทุกครั้งที่เขาเห็นฟ้ายิ้มแย้มหัวเราะแจ่มใสเวลาโทรศัพท์คุยกับผู้ชายคนนั้นทีไร หัวใจเขาเหมือนจะยิ่งถูกบีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออกมากขึ้นเท่านั้น มีหลายครั้งที่เขาพยายามตัดใจจากเธอแต่มันก็ทำไม่ได้สักที จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านมาถึงสิ้นเทอม
"ยศ นายจะสอบเข้าที่ไหนเหรอ" ฟ้าเอ่ยถามระหว่างนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบในห้องสมุด
"จุฬาฯ"
"ดีจัง งั้นฉันจะขอพรให้นายสอบเข้าสมใจหวังนะ เพื่อน"
"แล้วเธอล่ะ"
"ฉันจะไปเรียนเมืองนอก"
ยศพลที่นั่งอ่านหนังสือเพลินถึงกับเบิกตากว้างตกใจกับคำตอบนั่น เขาค่อยๆ ละสายตาจากหนังสือในมือเงยหน้าขึ้นสบดวงตากลมใสคู่สวยตรงหน้าด้วยความสงสัยแปลกใจว่าทำไมเธอถึงต้องไปเรียนไกลถึงเมืองนอกเมืองนาด้วย และนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้นเสียดื้อๆ ดูเหมือนฟ้าจะอ่านสายตาของเด็กหนุ่มออกจึงเอ่ยอธิบายคลายความสงสัยให้เขาฟังพร้อมรอยยิ้มกว้าง
"พ่อกับแม่ฉันจะย้ายไปทำงานที่นั่น ฉันก็เลยต้องตามไปน่ะ แต่ก็ดีนะ ฉันจะได้ไปเรียนด้านคอมพิวเตอร์ของที่นู่นด้วยเห็นว่ามีมหาวิทยาลัยดีๆ ไม่น้อยเลย แล้วนายล่ะ อยากเป็นอะไร" ฟ้าย้อนถาม สายตาส่องระยิบบอกความอยากรู้ของเธอทำให้เขาอึกอักพูดอะไรไม่ออกอยู่นานกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอแล้วตอบตะกุกตะกัก
"อ๊ะ เออ คือว่า...ฉัน ฉันอยากเป็นดารา"
สิ้นคำตอบ บรรยากาศรอบด้านดูเหมือนจะเงียบลงกว่าเดิม อาการนิ่งเงียบของคนตรงหน้าทำให้เขาชักสงสัยจึงเงยหน้าขึ้นไปก็พบ... ดวงตาสีดำกลมใสส่องประกายขบขัน ริมฝีปากบางสวยเม้มแน่นราวพยายามกลั้นเสียงหัวเราะสุดขีด เธอแกล้งเสมองไปทางอื่นก่อนตัดสินใจก้มไปหัวเราะคิกคักใต้โต๊ะ แต่การกระทำทุกอย่างนั้นอยู่ในสายตาของดาราฝึกหัดทั้งหมดแหละ
"น่าขำมากหรือไง" ยศพลกดเสียงเข้มดุกลบเกลื่อนความเขิน แต่ไม่มิดเพราะสีหน้าเขาเริ่มแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ
"เปล่า ฉันแค่ตกใจไม่คิดว่านายจะเป็นดาราน่ะ คิก!" ฟ้าหัวเราะขำกลิ้งและพยายามกดเสียงให้เบาลงเพราะไม่อยากถูกอาจารย์บรรณารักษ์ไล่ออกจากห้องสมุด
"ช่างเหอะ ว่าแต่เธอจะไปเมื่อไหร่ล่ะ"
"อืม คงเป็นหลังสอบปลายภาคเสร็จสองสัปดาห์ละมั้ง นายจะไปส่งฉันหรือเปล่า"
"แหงอยู่แล้ว" เด็กหนุ่มยักไหล่ "เพื่อนจะไปเรียนถึงเมืองนอกทั้งทีก็ต้องไปส่งอวยพรหน่อยล่ะ"
"ขอบใจนะ เพื่อนรัก" ฟ้าฉีกยิ้มแป้นดีใจ "อีกหลายปีกว่าฉันจะกลับมา กว่าจะถึงวันนั้นนายคงเป็นดาราดังไปทั่วประเทศแล้วละมั่ง"
"อืม คงจะอย่างนั้นแหละ" เขาหัวเราะขำนิดๆ ก่อนหันไปอ่านหนังสือต่อ และดูเหมือนเขาเพิ่งนึกอะไรออกจึงเอ่ยถามบางอย่างเพื่อคลายความอัดแน่นในใจ
"เออ เธอคิดว่า..."
ออด~
เสียงออดบอกเวลาเข้าเรียนคาบบ่ายดังขึ้นกลบเสียงของยศพลทำให้ฟ้าไม่ได้ยินประโยคนั้น พอเด็กสาวเอ่ยปากถามว่าตะกี้เขาจะพูดหรือถามอะไรหรือเปล่า เด็กหนุ่มกลับบอกว่าไม่มีอะไร อย่าสนใจเลย จากนั้นก็ลุกนำหนังสือทั้งหมดไปวางเก็บที่ชั้นตามเดิม โดยมีสายตาจากฟ้ามองตามหลังไปอย่างสงสัย
ยศพลแวะส่งเธอที่ห้องเรียนก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองมาด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ...ตะกี้ถ้าเสียงออดไม่ดังขัดจังหวะขึ้นมาละก็ เธอคงได้ยินคำถามที่เขาเผลอถามออกไปโดยไม่ทันคิดนั่นแน่ หึ แต่คิดอีกทีก็ถือว่าโชคดีที่เธอไม่ได้ยินคำถามนั้น...เพราะถึงถามไปเธอก็คงให้คำตอบเขาไม่ได้อยู่ดีแหละ
เขาถอนหายใจยาวอีกรอบก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนไป พร้อมกับคำถามชวนหนักใจที่ถูกทิ้งไว้ในห้องสมุดแห่งนั้น
....'เธอว่าผิดไหม ถ้าใครคนหนึ่งจะบอกรักคนที่มีเจ้าของแล้ว'
“ยศ! เย็นนี้เจอกันที่ร้านเบเกอรี่หน้าโรงเรียนนะ” ฟ้าวิ่งมาตะโกนนัดแนะเย็นนี้กับเขาถึงห้องก่อนจะวิ่งกลับห้องตัวเองไปอย่างเริงร่า โดยไม่รอคำตอบจากเขาสักคำ
“ฮ้า~ วันนี้วันวาเลนไทน์นี่หว่า ยัยนั่นต้องเตรียมเค้กก้อนใหญ่ให้แกแน่” ศิลายิ้มล้อกรุ้มกริ่มจึงได้มะนาวจากเพื่อนไปประดับบนหัวสองลูกติดกัน
“พูดมากน่า...” ยศพลผลักหัวเพื่อนหันกลับไปหน้าชั้นเพราะอาจารย์ประจำวิชาต่อไปเข้ามาสอนต่อคาบบ่ายแล้ว
หลังเลิกเรียน ยศพลกับศิลาสะพายกระเป๋าออกจากห้องเรียนพร้อมกันเช่นทุกวันก่อนจะแยกกันที่หน้าโรงเรียนเพราะวันนี้เขามีนัดกับฟ้าจึงกลับบ้านพร้อมศิลาไม่ได้ ก่อนจากเด็กหนุ่มหน้าทะเล้นไม่วายทิ้งคำแซวให้เพื่อนเขินเล่นอีกจนได้
“ไม่แน่นะ ยัยฟ้าอาจเตรียมดอกกุหลาบให้แกด้วยก็ได้ อิๆ”
“เจ้าบ้านี่!” ยศพลเตะก้อนหินเล็กๆ แถวนั้นกะให้โดนหัวเพื่อน โชคดีที่ศิลาไหวตัวทันรีบเผ่นแน่บไปก่อนไม่อย่างนั้นอาจได้มะนาวลูกที่สามมาประดับบนหัวอีกก็ได้
ดวงตาสีคาราเมลละจากเพื่อนตัวดีที่วิ่งหนีขึ้นรถเมล์ไปอย่างหัวเสีย หันไปมองร้านเบเกอรี่ฝั่งตรงข้ามที่มีนักเรียนสาวหลายคนต่างกรูกันเข้าไปซื้อเค้กกันแน่นร้าน...ไม่มีผู้ชายเลยแฮะ แล้วเขาจะกล้าเข้าไปไหมเนี้ย เด็กหนุ่มคิดปลงๆ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตัดสินใจค่อยๆ เดินข้ามถนนตรงไปที่ร้านนั่น
“ยศ! ทางนี้ๆ”
ฟ้าคลี่ยิ้มกว้างโบกมือเรียกเพื่อนผู้มีหน้าตาหล่อเหลากระชากใจสาวเป็นอาวุธที่เพิ่งย่างกายเข้ามาในร้านอย่างเริงร่า ยศพลหันไปตามเสียงเรียกแล้วค่อยๆ เบียดตัวแทรกผ่านนักเรียนหญิงตรงมาหาเธอ ซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมในสุดของร้าน
“เธอนัดฉันมากินเค้กเหรอ” ดวงตาสีคาราเมลฉายแววสงสัย เมื่อเด็กสาวเลื่อนจานเค้กกาแฟกับเค้กรสช็อกโกแลตชิ้นเล็กมาตรงหน้าเขา
“ใช่ ฉันอยากให้นายเลือกทานระหว่างสองรสนี่น่ะ”
“แต่ฉันไม่ค่อยชอบกินเค้กเท่าไร” ยศพลทำท่าจะเลื่อนจานเค้กทั้งสองคืนให้เธอ แต่กลับถูกฟ้าคว้าจับมือข้างหนึ่งแล้วยัดช้อนให้เขา แถมยังส่งสายตาข่มขู่ด้วยราวจะบอกว่า ‘ถ้าไม่กินนาย...ตาย!’
“กินสิจ๊ะ เพื่อนรัก” รอยยิ้มหวานชวนสยองของเธอทำให้เขาต้องรีบเลือกเค้กหนึ่งในสองมาตักกินอย่างจำใจ ...อืม ก็อร่อยดีแฮะ
หลังตักชิมไปคำแรก เขาก็ติดใจเริ่มตักกินเรื่อยๆ จนหมดโดยมีนัยน์ตาสีดำกลมใสของสาวตรงหน้าคอยจ้องเขาอยู่ตลอด เมื่อเห็นยศพลวางช้อนลงแล้วหันไปดื่มน้ำแก้เลี่ยนนั่นแหละ ฟ้าถึงขมวดคิ้วยุ่งอย่างสงสัยปนแปลกใจ เพราะตะกี้เขาเพิ่งบอกตนอยู่หยกๆ ว่าไม่ชอบกินเค้กนี่นา
“ไหนว่าไม่ชอบไง”
“ก็... ร้านนี้เค้าทำอร่อยดีน่ะ” ยศพลยักไหล่ตอบอย่างเก้อๆ
"ทำไมนายไม่เลือกช็อกโกแลตล่ะ"
"เพราะฉันเกลียดช็อกโกแลตที่สุดไง"
"อืม เข้าใจล่ะ" ฟ้าพยักหน้าเข้าใจก่อนหันไปสั่งเค้กกาแฟใส่กล่องกับพนักงานหญิงคนหนึ่ง ส่วนเค้กช็อกโกแลตตรงหน้าถูกเธอจัดการเรียบอย่างเอร็ดอร่อย
หลังได้กล่องเค้กกาแฟที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีสวยกับริบบิ้นสีชมพูสดแล้วเด็กสาวก็ยิ้มหน้าบานไม่หุบ ยศพลเห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วยุ่งไม่เข้าใจว่าเธอมีความสุขอะไรนักหนา จนกระทั่งเดินมาถึงป้ายรถเมล์เขาทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหวจึงเอ่ยถามออกไป
"เธอจะเอาเค้กไปให้ใครเหรอ"
"แฟนน่ะ"
คำตอบของฟ้าแทบกระชากหัวใจเขาหลุดจากอก ก้อนบางอย่างแล่นขึ้นมาจุกคอจนพูดอะไรไม่ออกได้แต่ทำปากพะงาบๆ เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรและหาเสียงตัวเองไม่เจอเลย เด็กหนุ่มค่อยพยายามฝืนยิ้มเอ่ยถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าตะกี้เขาไม่ได้หูฝาดไปเอง แต่ดูเหมือนยิ่งถามยิ่งได้คำตอบที่ทำเอาหัวใจเขาถูกบางอย่างบีบรัดแน่นจนเจ็บแปลบไปหมด
"ฟะ แฟน? เธอมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่"
"จริงสิ ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับนายเลยนี่เนอะ"
ฟ้าเอาสองมือทุบกันเหมือนเพิ่งนึกออกก่อนหันมาฉีกยิ้มที่ทำให้หัวใจเขายิ่งทรมานมากขึ้น "ฉันกับเขาคบกันมาเกือบหนึ่งปีแล้วล่ะ เขาชื่อ 'พี่แนท' อยู่มหาวิทยาลัยปีหนึ่งแก่กว่าฉันปีเดียวเอง วันนี้ฉันอยากกะเซอร์ไพร์เขาก็เลยนัดนายให้มาช่วยเลือกเค้ก เพราะฉันไม่ค่อยรู้ว่าผู้ชายเขาชอบทานเค้กแบบไหนกันน่ะ"
".........."
"ขอบคุณนะ และสุขสันต์วันวาเลนไทน์ขอให้นายมีความสุขล่ะ ไปนะ" พูดจบ ฟ้าก็โบกมือยิ้มลาและวิ่งขึ้นรถเมล์ที่เข้ามาเทียบจอดรับไปอย่างเริงรื่น ผิดกับยศพลที่ยืนนิ่งเป็นหินราวกับถูกสาปอยู่ตรงนั้น
เด็กหนุ่มไม่มีแรงแม้แต่จะยกมือโบกลาเธอเช่นทุกวัน ดวงตาสีคาราเมลทำได้เพียงทอดมองรถเมล์คันที่เธอนั่งไปจนลับตาด้วยแววตาหม่นแสง เธอกลับบ้านไปโดยที่เขายังไม่ทันเอ่ยปากชวนเธอทานข้าวเย็นสักคำ ยศพลกำมือสองข้างแน่นคล้ายต้องการคลายความเจ็บปวดที่อัดแน่นอยู่ในอก มือเรียวหนาค่อยๆ ล้วงหยิบบางสิ่งในกระเป๋ากางเกงออกมา รอยยิ้มเยาะประดับบนดวงหน้าเรียวคมพลางมองสิ่งนั้นในมืออย่างเศร้าใจ
"หึ ไม่มีที่ให้แกสวมใส่แล้วขอโทษด้วยนะ"
สิ้นคำ เด็กหนุ่มก็หย่อนสร้อยคอเงินรูปจี้หัวใจทิ้งลงถังขยะข้างป้ายรถเมล์อย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะเดินคอตกขึ้นรถเมล์กลับบ้านไปด้วยแววตาสิ้นหวัง
ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่เขาแอบหวั่นไหวมาตลอดสองเดือน...จะมีเจ้าของแล้ว
ตั้งแต่วันนั้นชีวิตมอปลายของยศพลดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสุขเลย ทุกครั้งที่เขาเห็นฟ้ายิ้มแย้มหัวเราะแจ่มใสเวลาโทรศัพท์คุยกับผู้ชายคนนั้นทีไร หัวใจเขาเหมือนจะยิ่งถูกบีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออกมากขึ้นเท่านั้น มีหลายครั้งที่เขาพยายามตัดใจจากเธอแต่มันก็ทำไม่ได้สักที จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านมาถึงสิ้นเทอม
"ยศ นายจะสอบเข้าที่ไหนเหรอ" ฟ้าเอ่ยถามระหว่างนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบในห้องสมุด
"จุฬาฯ"
"ดีจัง งั้นฉันจะขอพรให้นายสอบเข้าสมใจหวังนะ เพื่อน"
"แล้วเธอล่ะ"
"ฉันจะไปเรียนเมืองนอก"
ยศพลที่นั่งอ่านหนังสือเพลินถึงกับเบิกตากว้างตกใจกับคำตอบนั่น เขาค่อยๆ ละสายตาจากหนังสือในมือเงยหน้าขึ้นสบดวงตากลมใสคู่สวยตรงหน้าด้วยความสงสัยแปลกใจว่าทำไมเธอถึงต้องไปเรียนไกลถึงเมืองนอกเมืองนาด้วย และนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้นเสียดื้อๆ ดูเหมือนฟ้าจะอ่านสายตาของเด็กหนุ่มออกจึงเอ่ยอธิบายคลายความสงสัยให้เขาฟังพร้อมรอยยิ้มกว้าง
"พ่อกับแม่ฉันจะย้ายไปทำงานที่นั่น ฉันก็เลยต้องตามไปน่ะ แต่ก็ดีนะ ฉันจะได้ไปเรียนด้านคอมพิวเตอร์ของที่นู่นด้วยเห็นว่ามีมหาวิทยาลัยดีๆ ไม่น้อยเลย แล้วนายล่ะ อยากเป็นอะไร" ฟ้าย้อนถาม สายตาส่องระยิบบอกความอยากรู้ของเธอทำให้เขาอึกอักพูดอะไรไม่ออกอยู่นานกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอแล้วตอบตะกุกตะกัก
"อ๊ะ เออ คือว่า...ฉัน ฉันอยากเป็นดารา"
สิ้นคำตอบ บรรยากาศรอบด้านดูเหมือนจะเงียบลงกว่าเดิม อาการนิ่งเงียบของคนตรงหน้าทำให้เขาชักสงสัยจึงเงยหน้าขึ้นไปก็พบ... ดวงตาสีดำกลมใสส่องประกายขบขัน ริมฝีปากบางสวยเม้มแน่นราวพยายามกลั้นเสียงหัวเราะสุดขีด เธอแกล้งเสมองไปทางอื่นก่อนตัดสินใจก้มไปหัวเราะคิกคักใต้โต๊ะ แต่การกระทำทุกอย่างนั้นอยู่ในสายตาของดาราฝึกหัดทั้งหมดแหละ
"น่าขำมากหรือไง" ยศพลกดเสียงเข้มดุกลบเกลื่อนความเขิน แต่ไม่มิดเพราะสีหน้าเขาเริ่มแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ
"เปล่า ฉันแค่ตกใจไม่คิดว่านายจะเป็นดาราน่ะ คิก!" ฟ้าหัวเราะขำกลิ้งและพยายามกดเสียงให้เบาลงเพราะไม่อยากถูกอาจารย์บรรณารักษ์ไล่ออกจากห้องสมุด
"ช่างเหอะ ว่าแต่เธอจะไปเมื่อไหร่ล่ะ"
"อืม คงเป็นหลังสอบปลายภาคเสร็จสองสัปดาห์ละมั้ง นายจะไปส่งฉันหรือเปล่า"
"แหงอยู่แล้ว" เด็กหนุ่มยักไหล่ "เพื่อนจะไปเรียนถึงเมืองนอกทั้งทีก็ต้องไปส่งอวยพรหน่อยล่ะ"
"ขอบใจนะ เพื่อนรัก" ฟ้าฉีกยิ้มแป้นดีใจ "อีกหลายปีกว่าฉันจะกลับมา กว่าจะถึงวันนั้นนายคงเป็นดาราดังไปทั่วประเทศแล้วละมั่ง"
"อืม คงจะอย่างนั้นแหละ" เขาหัวเราะขำนิดๆ ก่อนหันไปอ่านหนังสือต่อ และดูเหมือนเขาเพิ่งนึกอะไรออกจึงเอ่ยถามบางอย่างเพื่อคลายความอัดแน่นในใจ
"เออ เธอคิดว่า..."
ออด~
เสียงออดบอกเวลาเข้าเรียนคาบบ่ายดังขึ้นกลบเสียงของยศพลทำให้ฟ้าไม่ได้ยินประโยคนั้น พอเด็กสาวเอ่ยปากถามว่าตะกี้เขาจะพูดหรือถามอะไรหรือเปล่า เด็กหนุ่มกลับบอกว่าไม่มีอะไร อย่าสนใจเลย จากนั้นก็ลุกนำหนังสือทั้งหมดไปวางเก็บที่ชั้นตามเดิม โดยมีสายตาจากฟ้ามองตามหลังไปอย่างสงสัย
ยศพลแวะส่งเธอที่ห้องเรียนก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองมาด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ...ตะกี้ถ้าเสียงออดไม่ดังขัดจังหวะขึ้นมาละก็ เธอคงได้ยินคำถามที่เขาเผลอถามออกไปโดยไม่ทันคิดนั่นแน่ หึ แต่คิดอีกทีก็ถือว่าโชคดีที่เธอไม่ได้ยินคำถามนั้น...เพราะถึงถามไปเธอก็คงให้คำตอบเขาไม่ได้อยู่ดีแหละ
เขาถอนหายใจยาวอีกรอบก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนไป พร้อมกับคำถามชวนหนักใจที่ถูกทิ้งไว้ในห้องสมุดแห่งนั้น
....'เธอว่าผิดไหม ถ้าใครคนหนึ่งจะบอกรักคนที่มีเจ้าของแล้ว'
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ