ดอกรัก ใกล้รั้ว
1) ความคุ้นเคย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ป่าน ไม่อยู่ด้วยน่ะไอ้ตอนที่แป้งมันโดนเจ้าตูบมันไล่กัดอ่ะ แป้งงี่วิ่ง
ขาเกือบพันกันแน๊ะ"
เทพศักดิ์เล่าไปหัวเราะด้วยความตลกเป็นที่สุด ทั้งๆๆที่เจ้าของเรื่องนั่ง
หน้าบูดเป็นตูดลิงอยู่ เขาก็ทำเป็นไม่สนใจ
แต่จิงๆแล้วเขาอาจจะสนใจหล่อนอยู่หรอก แต่สนใจพี่สาวของหล่อน
มากกว่า
"นายอ่ะ เห็นไหม แป้งโกรธแล้ว" ป่านบ่น พอเป็นพิธีไม่ให้น้องรู้สึก
อารมณ์เสียไปมากกว่านี้
"ขำๆๆๆ ให้มันตายไปเลยนายเทพ ตายไปจะไม่ไปเผ่าผีด้วย" แป้งว่า
ไปด้วยอารมณ์ฉุน
"โอ๋ๆๆๆ ผมขอโทษ น่ะแป้ง ไม่ได้ตั้งใจ ทำให้โกรธ แค่เล่าให้ป่านฟังน่ะ"
"นายก็เล่าเรื่องอื่นไปสิ ทำไมต้องเล่าเรื่องนี้ด้วย คอยดูน่ะ ถ้านายทำให้ฉันโกรธมากๆ ฉันจะไม่ช่วยนายทำคะแนน"
หล่อนได้ทีขู่กำกับไว้ทำให้ชายหนุ่มหน้างอ คอหักเป็นปลาทูในแข่งไปเลย
"สมน้ำหน้า อยากว่าเราดีนัก"
นิญาวีญ์ คิดในใจ ขืนพูดออกมาสิ ชายหนุ่มคงหักทั้งหน้า หักทั้งคอแน่ๆ และที่คอหักน่ะ คอหล่อนน่ะไม่ใช่ของชายหนุ่ม
นิญาวีญ์และเทพศักดิ์ เป็นเพื่อนกันด้วยเหตุผลของการชอบการทำเกษตร ทั้งที่อายุหล่อนและเขาห่างกันหลายปีอยู่
นิญาวีญ์ นั้นมองเทพศักดิ์เป็นเหมือนพี่ชายที่แสนดี เพราะเขามีใจให้พี่สาวหล่อนมานานแต่ยังไม่กล้าเปิดใจได้แต่เก็บไว้ในส่วนลึก แต่ลึกยังงัยนิญาวีญ์ ก็ยังหาเรื่อง หาสาเหตุมาทำให้เขาเสียวหลังวาบๆได้อยู่เสมอ รวมทั้งคราวนี้ด้วย
เทพศักดิ์ แอบหมายปอง มอบทั้งหมดของหัวใจให้กับ วีรดาญ์ไปแล้วแต่ยังไม่กล้าเปิดใจเพราะ วีรดาญ์เองนั้นมีหนุ่มๆหลายคนมาติดพันธ์หล่อนอยู่ และดูท่าทางแล้วหล่อนมีแต่ความเป็นเพื่อนให้กับเขามากกว่าคิดเป็นอื่น ทุกวันนี้เขาก็บอกตัวเองไปวันๆว่า เป็นเพื่อนกันไปก่อน
"คะแนนอะไรหรือจร้า แป้ง" ป่านถามน้องสาว ด้วยความอยากรู้
"ก็คะแนน คะแนน ... พี่ป่านถามพี่เทพ เขาดูสิค่ะ" พอได้แย่เขาบ้าง อารมณ์ค่อยดีขึ้น มีพี่มีน้องมาแทนสรรพนามเมื่อกี้
"คะแนนอะไรหรือ เทพ" ป่านยังไมหายสงสัย พยายามถามหาคำตอบ
"ไม่มีไรหรอก จร้า ป่าน เดี่ยวผมกลับก่อนน่ะ ใกล้มือแล้ว "
"ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนหรือ พ่อได้ปลาช่อนมาจากสวน แม่แกงส้มปลาซ๋อน ของโปรด ยายแป้งเลยน่ะวันนี้"
ป่านเป็นคนชวนเทพศักดิ์ทานข้าวเย็นด้วยกันในขณะที่แป้ง เดินหายเข้าห้องไปแล้ว ซึ่งเป็นปกติธรรมดา ไปไม่ลา มาไม่ต้องไหว้ เพราะความสนิทสนมที่มีมานาน
"พ่อผู้ใหญ่ เขาชวนผมไปทานข้าวที่บ้านแก น่ะครับ เห็นบอกว่าผลไม้ในสวนขายได้กำไรดี ก็เลยจะเลี้ยงขอบคุณน่ะครับ"
"ค่ะ งั้นเชิญตามสบายน่ะค่ะ ไว้วันหน้าก็แล้วกันน่ะ"
เทพศักดิ์ และวีรดาญ์ เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ พอจบชั้นมัธยมฯ วีรดาญ์ก็เรียนต่อสาขาบัญชี จบออกมาก็ทำงานเป็นพนักงานบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่งใกล้ๆบ้าน
เทพศักดิ์ นั้นเขาได้เรียนในสาขาที่ชอบและสนใจมานาน เขาได้ไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือของประเทศซึ่งเป็นมหาวิทยลัยที่มีชื่อเสียงในเรื่อง การเกษตร เขาสำเร็จการศึกษาและกลับมารับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ควบคู่กับงานพัฒนาชุมชนไว้อีกตำแหน่งหนึ่ง ที่หัวหน้างานเต็มใจมอบหมายให้
นิญาวีญ์เป็นรุ่นน้องเขาหลายปี แต่ด้วยความที่หล่อนมีนิสัยร่าเริง ชอบทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม จึงทำให้เขากับหล่อนสนิทสนมกัน เพราะนิญาวีญ์นั้นชอบลุยสวนมากกว่านั่งทำงานในห้องแอร์ หล่อนอยากตามเขาไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันแต่พ่อของหล่อนไม่อนุญาต โดยให้เหตุผลว่า ลูกผู้หญิงน่ะ ร่ำเรียนวิชาที่สามารถทำงานสบายๆดีกว่าเรียนวิชาที่มาทำงานลำบาก ทุกวันนี้หล่อนยังไม่ยอมรับเหตุผลของผู้เป็นพ่อ เพราะหล่อนเห็นว่าเทพศักดิ์ทำงานสบาย วันๆไม่ทำอะไรเลย มีแต่เที่ยวไปวันๆ เดี่ยวไปนั่นเดี่ยวไปนี่
หล่อนเคยขอติดตามเขาไป แต่ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ไปด้วยสักที นอกจากเข้าสวนที่บ้านของเขาและสวนที่บ้านหล่อนเอง
แต่บ่อยครั้งที่เขานึกสงสัยว่า ทำไมเทพศักดิ์จึงเข้าบ้านโน้นออกบ้านนี้ ได้ทุกวันเวลา และเขาเหมือนจะมีธุระต้องทำต้องไปคุยกับทุกคนไปเสียหมด
รอบชุมชนนี้รวมถึงสวนใกล้ๆหล่อนใช้เวลาเดินไม่เกินชั่วโมงก็ทั่วถึงแล้ว แต่เขาเดินได้ทั้งวันไปที่ไหนก็มีแต่คนทักทาย หรือบางทีเขาก็ทักทายคนอื่น เหมือนมีเรื่องในคุยตลอดเวลาแถมบางที ยังหอบของฝากกลับบ้านแทบจะไม่หวาดไม่ไหวเสียอีก
หนุ่มสาวแยกย้ายกันไปเทพศักดิ์นั้นเป็นเพื่อนบ้านของทั้งสองสาวมาตั้งแต่จำความได้ เมื่อก่อนเป็นเพื่อนจริงๆไม่มีความคิดเป็นอื่นเลย แต่เมื่อไม่กี่วันกี่เดือนมานี้เขากลับตอบใจตนเองไม่ได้ว่า ทำไมมันว้าวุ่น คิดไปไกลกับวีรดาญ์ได้ แต่เมื่อใจมันเผลอคิดไปแล้วเขาก็ไม่อยากห้ามใจ ปล่อยให้มันคิดของมันไป แล้วเจ้าของหัวใจดวงนี้แหล่ะที่จะทำตามใจต้องการให้ได้ เขาคิดว่าจะเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ลึกๆในจิตใจ และจะเปิดเผยเมื่อใจและกายของเขาพร้อมมากกว่านี้ เพราะเขารู้ว่า วีรดาญ์ ชอบผู้ชายที่ร่ำรวย หล่อนเชื่อว่า ความร่ำรวยเงินทอง จะสามารถทำให้หล่อนมีชีวิตที่เป็นอยู่สุขสบาย
แต่นิญาวีญ์ หญิงสาวที่เขามองว่าเป็นน้องสาว กลับรู้เท่าทันความคิดของเขา ทั้งที่เขาบอกกับตัวเองเสมอว่ามันซ่อนอยู่ส่วนลึกของจิตใจ หรือว่า "ในใจเรามีนิญาวีญ์อยู่ด้วย"
"เฮ้ยยยยย ! ตายห่า... " เทพศักดิ์สะดุ้งสุดตัวตกใจกับความคิดของตัวเอง สงสัยจะคิดมากไปแล้วเรา เขาปลอบใจตัวเองแบบนั้น
################
"แม่คิดว่าลูกสองคนจะชวนพ่อเทพ ทานข้าวกับเราเสียอีก แม่ทำกับข้าวไว้เยอะเลย"
"ป่าน ชวนแล้วค่ะแต่เทพเขาบอกว่า พ่อผู้ใหญ่ก็ชวนเขาเหมือนกันค่ะ เขาก็เลยไม่ได้อยู่ทานกับเรา" วีรดาญ์ พูดชี้แจงผู้เป็นแม่
"แม่ไม่ต้องน้อยใจค่ะ เดี่ยวแป้งกับพ่อจัดการให้เรียบร้อยเลยค่ะ เนาะพ่อเนาะ" พูดพร้อมกับหันไปทางหัวโต๊ะที่พ่อหล่อนนั่งอยู่ เพื่อขอแรงสนับสนุน
"เป็นผู้หญิงกินเยอะไม่ดีหรอกลูก เดี่ยวอ้วนไปขายไม่ออกทำงัย แม่ขี้เกียจเลี้ยงแล้ว"ผู้เป็นแม่ดุลูกสาวคนเล็ก พร้อมกับพูดแย่เล่นและทุกคนก็ยิ้ม ขำๆกันรวมทั้งคนโดนดุด้วย
ครอบครัวหล่อนไม่เคยขาดหายความอบอุ่นและขาดแคลนความรักที่ทุกคนช่วยกันเติมเต็ม และบ่อยครั้งมันล้นทะลักไปสู่เพื่อนบ้านใกล้ๆ
"แป้งไม่กลัวอ้วนหรอกค่ะ และแป้งก็คิดไว้แล้วว่าจะอยู่ให้แม่เลี้ยงไปจนตาย"ได้ทีอ้อนแม่ซะเลย
"เอ่อ แป้งที่ทำงานพี่เขารับพนักงานหลายตำแหน่งน่ะ ลองไปสมัครดูไหม"
"ไม่ค่ะ แป้งจะอยู่ให้พ่อกับแม่เลี้ยง ไม่ยอมทำงานอะไรทั้งนั้น" เอ้า เอาเข้าไปกับหล่อนสิ
"ไม่ทำก็ไม่ต้องทำ ลูกสาวคนเดียวพ่อกับแม่เลี้ยงได้สบาย น่ะแม่น่ะ" พ่อหันไปขอแรงสนับสนุน ทุกคนยิ้ม หัวเราะชอบใจ
"เอ่อ พูดถึงผู้ใหญ่อำนาจ จริงหรือป่าวหล่ะแม่ ที่เขาว่าแกหมายปองพ่อเทพเป็น ลูกเขยคนเล็กน่ะ "
"แม่ก็ได้ยินมาแว่วๆ จร้าพ่อ แต่เรื่องแบบนี้ ไม่มีมูลหมามันไม่ขี้ น่ะพ่อ ป่าน กับแป้งพอจะรู้เรื่องกับเขาเปล่าหล่ะ" ผู็เป็นแม่หันมาถามลูกสาวทั้งสอง
"ไม่ค่ะ" ทั้งสองตอบเป็นเสียงเดียวกัน แต่ในใจของนิญาวีญ์ วุ่นวาย สับสนอย่างบอกไม่ถูก
"ตอนแรกพ่อคิดว่าพ่อเทพจะเป็นเขยบ้านนี้เสียอีก ที่ไหนได้กระโดดข้ามไปบ้านผู้ใหญ่อำนาจซะง้ัน" คำพูดของพ่อทำให้สาวๆๆนั่งไม่ติดเลย หันมาสบตากัน
ความเจ้าเล่ห์ของวีรดาญ์ หรือจะสู้นิญาวีญ์ได้
"แป้งก็คิดเหมือนพ่อค่ะ จริงไหมพี่ป่าน"
"พ่อเอาไรมาพูด ค่ะ"
สองสาวพูดพร้อมๆๆกัน ตัววีรดาญ์นั้นไม่ได้คิดอะไรมากแค่พูดออกไปให้พ่อเข้าใจเสียใหม่ ส่วนนิญาวีญ์ นั้นพูดเพื่อกลบเกลื่อนความคิดในใจ กลัวมันจะเปิดเผยออกมาให้คนอื่นรับรู้
"ตอนแรกพ่อก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกเห็นนายเทพมันเทียวไปเทียวมา วันละหลายๆรอบน่ะแค่แหย่เล่น แต่เอ่ หรือว่าพ่อเข้าใจถูกต้องอือ ยายแป้ง"
"ไว้เดียวแป้งจะถามพี่เทพให้น่ะค่ะพ่อ ว่า จะเป็นเขยบ้านไหน"
"พอๆๆ ทั้งพ่อทั้งลูก ป่านทานข้าวต่อเถอะลูกไม่ต้องคิดไรมาก เรื่องแบบนี้พูดเองเออเองไม่ได้หรอก แต่ถ้าได้พ่อเทพเป็นเขยแม่ก็เบาใจ"
"อ้าว แม่ก็เป็นไปด้วยหรือค่ะ " ป่านค้านแม่ ด้วยความตกใจเล็กน้อย
วีรดาญ์ คิดว่าทำไมทุกๆคนในบ้านจึงคิดว่า เทพศักดิ์มีใจให้หล่อน
หล่อนเห็นเขาก็ทำตัวเป็นเพื่อนปกติดี ไม่ได้แสดงอะไรพิเศษอย่างคน
จีบกัน ชอบกันซะหน่อย
หลังจากมื้อค่ำวันนั้น ทุกคนในบ้านก็คิดและเข้าใจว่า เทพศักดิ์ นั้นมี
ใจให้กับวีรดาญ์ แต่ไม่กล้าแสดงออก หลายครั้งที่คนรอบข้างวีรดาญ์
เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงออก แต่เขาก็ปล่อยโอกาสให้มันผ่านไป
เทพศักดิ์ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
################
"พี่เทพจ๊ะ พี่เทพจ๋า" เสียงนิญาวีญ์ ร้องเรียกมาแต่ไกล
"ว่างัยจ๊ะ ที่รัก เอ้ย น้องรัก" เทพศักดิ์ร้องแหย่ออกไป บางครั้งเขาก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมมีความสุขลึกๆเมื่อได้ล้อเล่นกับเจ้าหล่อน และไม่ชอบใจไม่พอใจทุกครั้งที่เห็นเธอเป็นทุกข์หรือไม่ร่าเริงเหมือนเคย เขาหวังเสมอว่าอยากเห็นเธอมีความสุขทุกเวลานาที เหมือนกับที่เขาชอบแหย่ให้หล่อนโกรธนี่แหละ เพราะเขาคิดว่าหล่อนแกล้งทำเป็นโกรธเท่านั้น ไม่ได้คิดโกรธจริงๆหรอก
"พูดแบบนี้อีกแล้วน่ะ บอกกี่ทีแล้วไม่ให้พูด เดี่ยวถ้าเกิดพี่ป่าน มาได้ยินแล้วจะเสียใจเอาน่ะค่ะ" นิญาวีญ์ พูดแบบโกรธนิดๆ งอนหน่อยๆ
"อ้าว ก็แป้งมาจ๊ะ มาจ๋า กับพี่ก่อนนิ และอีกอย่างพี่ก็ดูแล้วหล่ะ ว่าไม่มีป่านอยู่แถวนี้"
นิญาวีญ์ รู้สึกเจ็บจี๊ดในทรวงอกด้านซ้าย ยิ่งพักนี้ยิ่งรู้สึกบ่อยเสียด้วยสิและต้นเหตุของการเจ็บก็อยู่แถวนี้เสียด้วย
"อ้าว เงียบเลย เป็นไรเปล่าแป้ง หือ มีไรจะคุยกับพี่หรือ"
"ไม่มีค่ะ แป้งก็เรียกไปงั้นแหล่ะ" นิญาวีญ์ เลือกที่จะไม่พูดมันออกไปดีกว่า ช่วงนี้หาเรื่องคุยกับเขาให้น้อยลงดีกว่า หญิงสาวคิดในใจ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ