เก็บไว้.
10.0
เขียนโดย Anthika_write
วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 20.18 น.
16 ตอน
0 วิจารณ์
960 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน พ.ศ. 2567 16.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) คลุมถุงชน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ้านของชมพู่อยู่ห่างจากตัวเมืองสามสิบหกกิโลเมตร บ้านปูนสองชั้นสีขาวขนาดกะทัดรัด รอบตัวบ้านร่มรื่น พ่อของเธอปลูกไม้ดอกไม้ประดับ และผักสวนครัวหลังบ้าน เถาน้ำเต้าลูกดก มะระขี้นกเลื้อยพาดอยู่บนต้นมะนาว มะพร้าวน้ำหอม ฝรั่งขี้นกไส้ขาวลูกเล็กรูปทรงเหมือนไข่ ต้นกระท้อนออกลูกเหลืองเต็มต้นตอนกลางคืนจะมีผีเสื้อหนอนใบกระท้อนตัวใหญ่สีน้ำตาลมาเกาะสยายปีกสวยรับแสงจันทร์ ต้นมะม่วงกะล่อน มะม่วงพิมเสน มะม่วงอกร่อง มะม่วงหัวช้าง มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงสามฤดู มะเฟืองหวานลูกใหญ่ ยืนต้นกระจายอยู่ในดงกล้วยน้ำว้า
ข้างบ้านมีต้นไม้ที่พ่อชำกิ่งมาจากบ้านคุณย่า ต้นชำมะเรียงที่ออกลูกเป็นพวง ลูกสุกสีม่วงดำปนกับลูกดิบสีแดง ต้นชมพู่มะเหมี่ยวกำลังออกดอกสีแดงเต็มต้นบางดอกกลีบดอกร่วงหล่นจนพื้นดินใต้ต้นเป็นสีแดง ต้นชมพู่แก้มแหม่มที่ดกจนกินไม่ทัน ปลูกอยู่คู่กันคั่นกลางด้วยดงต้นดาหลาดอกสีชมพูอ่อน ต้นน้อยหน่าหนังครั่งปลูกเรียงเป็นแถวขนานกันอยู่อีกฝั่งทางเดิน
หน้าบ้านมีชิงช้าตั้งอยู่ใต้ต้นลำไย ความสูงของต้น ถ้าจะดูยอดก็ต้องแหงนคอตั้งบ่า ต้นมะเฟืองที่ลูกดกเต็มต้นจนร่วงลงไปกองอยู่กับกอบัวดินสีชมพู ว่านสี่ทิศสีโอลด์โรส และดอกกระเจียวที่ปลูกอยู่รอบโคนต้น ดอกเข็มสีเหลืองกับสีชมพูปลูกอยู่คู่กันจนชมพู่เคยเข้าใจว่าเป็นต้นเดียวกัน แต่พอสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่าเป็นคนละต้นกัน ต้นเข็มสีเหลืองจะลำต้นเล็กกว่า พุ่มต้นเข็มสีม่วงความสูงระดับเอวออกดอกสีม่วงสวยงาม กระถางโป๊ยเซียนกับกุหลาบหลากหลายสีตั้งเรียงกันเป็นระเบียบ และต้นไม้สูงให้ร่มเงาหลายต้น
ชมพู่เป็นลูกคนเดียวของ ‘เฌอพัฒน์’ กับ ‘อรปรียา’ เธอรูปร่างผอมสูงใบหน้าคมคายคิ้วดกหนาจมูกโด่ง ดวงตากลมโตนัยน์ตาสีน้ำตาล ผมสีดำสนิท ผิวเข้มถอดแบบพ่อมาเป๊ะ
พ่อกับแม่แต่งงานกันผ่านคำแนะนำจากคุณยายที่อยู่บ้านติดกับบ้านของคุณย่าเป็นแม่สื่อให้ หรือที่เรียกกันว่า ‘คลุมถุงชน’ นั่นแหละ คุณย่ายกที่ดินผืนเล็ก ๆ ให้พ่อเป็นของขวัญแต่งงาน พ่อกับแม่ช่วยกันเก็บหอมรอมริบ สร้างบ้านสองชั้นหลังเล็ก ๆ อยู่ด้วยกันสองคน
“ตอนนั้นแม่ทำงานเป็นสาวโรงงานผลิตดอกไม้อยู่ที่กรุงเทพฯ คุณยายเขียนจดหมายไปหาแม่ บอกให้แม่กลับมาแต่งงาน” หลังจากนั้นแม่ย้ายกลับมาทำงานอยู่บ้านที่สุพรรณบุรี โดยยึดอาชีพเย็บผ้าโหล
กล่องเก็บของของแม่ที่ใส่ไว้ในลิ้นชักหัวเตียง ข้างในมีจดหมายอยู่หลายซอง สมัยแม่ยังสาว ตอนนั้นยังไม่มีโทรศัพท์ วิธีติดต่อกันจากระยะทางไกลจึงสื่อสารกันผ่านทางจดหมาย แม้กาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานจนกระดาษกลายสภาพจากสีขาวเป็นสีน้ำตาล แต่เนื้อความและลายมือในจดหมายก็ยังคงให้ความรู้สึกสัมผัสได้ถึงความรักความห่วงใยของผู้ส่งเสมอในทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาอ่าน
ชมพู่คลอดในวันครบรอบแต่งงานหนึ่งปีของพ่อกับแม่ แม่เล่าให้ฟังว่า “พ่อไปดูหนูในห้องเด็กอ่อน แค่มองผ่านกระจกใสบานใหญ่นั่น พ่อรู้ทันทีว่าเด็กคนไหนคือลูกของพ่อ เพราะหนูผมดกดำเหมือนพ่อ”
เธอเคยเปิดดูอัลบั้มรูปงานแต่งงานของพ่อกับแม่ ท้ายอัลบั้มมีรูปตอนแม่ตั้งท้อง ใส่ชุดคลุมท้องสีเหลืองกำลังนั่งพับผ้า
ชมพู่ถามแม่ว่า “ทำไมแม่มีลูกแค่คนเดียว” แม่ตอบอย่างติดตลกว่า “มีหนูคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่แล้ว”
ชมพู่กลับถึงบ้านช่วงใกล้เที่ยง…
“กลับมาแล้วหรือลูก”
‘อรปรียา’ กำลังทำอาหารกลางวันอยู่ในครัวส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบ้าน
“กลับมาแล้วจ้ะ”
ชมพู่หยิบขวดน้ำจากตู้เย็น รินใส่แก้วยกขึ้นดื่มดับกระหาย
“เก็บของเสร็จแล้วมากินข้าวนะ แม่ทำต้มข่าไก่กับแกงส้มแป๊ะซะไว้”
“จ้ะ พ่อยังไม่กลับเหรอแม่”
“ยังจ้ะ พ่อไปติดต่องานกับลูกค้า แล้วก็คงแอบไปซื้อต้นไม้อีก น่าจะกลับค่ำ”
ชมพู่เดินขึ้นบันไดไปห้องนอนที่อยู่ชั้นสอง เก็บของเข้าที่แล้วลงไปกินข้าวกับแม่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ