เก็บไว้.

10.0

เขียนโดย Anthika_write

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 20.18 น.

  16 ตอน
  0 วิจารณ์
  1,382 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน พ.ศ. 2567 16.22 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) กล่องเก็บของ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ชมพู่เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เลือกเรียนตามที่วางแผนไว้สอบเข้าคณะเกษตรศาสตร์เอกวิชาพืชสวน คำถามที่พบบ่อยหลังจากเข้าเรียนคณะนี้และเป็นคำถามที่คลาสสิกมากทุกยุคทุกสมัยคือ ‘จบมาแล้วจะไปทำอะไรกิน’ ชมพู่ตอบกลับไปว่า ‘ยังไม่ได้คิดเมนูเลยจ้ะ’ 

เพียงเท่านั้นผู้ถามก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างหงุดหงิด คำถามนี้ก็ได้จางหายไปโดยไม่มีใครเอ่ยปากออกมาให้เธอได้ยินอีกเลย

พ่อกับแม่ไม่เคยปลูกฝังว่า 'เรียนสูง ๆ จบมาแล้วจะได้เป็นเจ้าคนนายคน' อรปรียาจะสอนชมพู่อยู่เสมอว่า ไม่ว่าเธอจะเลือกเรียนอะไร จบมาแล้วจะทำงานอะไร ก็ขอให้เป็นสิ่งที่เธอทำแล้วมีความสุข เพราะอาชีพที่เธอจะใช้หาเลี้ยงตัวเอง เธอจะต้องตื่นขึ้นมาทำซ้ำ ๆ เดิม ๆ ทุกวัน ถ้าวันหนึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากตื่นมาเจอ การทำงานก็จะยิ่งเหนื่อยและน่าเบื่อ ท้ายที่สุดแล้วเธอก็จะไม่อยากทำอีกต่อไป

ชมพู่ค้นหาตัวเองเจอตั้งแต่มัธยมต้น ช่วงปิดเทอมเธอไปอยู่บ้านของคุณย่า ขณะเธอนั่งอยู่ที่พื้นที่ปลูกผักหลังบ้านกับคุณย่า ช่วงบ่ายใต้ร่มรำไรของต้นลำไย เธอช่วยคุณย่าปลูกต้นมะเขือเปราะที่ขุดหลุมไว้เป็นแถวตรงกันราวกับใช้ตลับเมตรวัด สายตาเธอมองไปรอบข้าง เห็นต้นไม้ ผลไม้หลากหลายชนิด 'ฉันนั่งตรงนี้ ปลูกต้นมะเขือ เดินไปมองต้นไม้ มองมะม่วงกำลังออกดอกออกผลได้อย่างไม่เบื่อ นี่แหละอาชีพที่ฉันจะทำในอนาคต' ภาพการนั่งทำงานในออฟฟิศตึกสูงหรือเป็นข้าราชการไม่เคยเกิดขึ้นในความคิดของเธอแม้สักครั้ง

เธอมีความสุขกับการมองดูผักเจริญเติบโต ผลไม้ออกดอกติดผล ดอกไม้ติดตุ่มดอกจนกระทั่งผลิบาน มากกว่าการนั่งทำงานในห้องแอร์ หรือการมียศมีตำแหน่ง ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็มั่นคงได้หากเรามีการวางแผนการทำงาน จัดสรรเงินทุน ค่าใช้จ่าย และการเก็บออมที่ดี

 

“เก็บของใกล้เสร็จหรือยังลูก พ่อขนของลงไปรอที่รถนะ”

‘เฌอพัฒน์’ เอ่ยถาม ขณะกำลังถือกระเป๋าเสื้อผ้าของชมพู่

อรปรียาจัดการเรื่องมหาวิทยาลัยและหอพักไว้ให้ตั้งแต่ก่อนชมพู่จะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย

“กล่องสุดท้ายแล้วจ้ะพ่อ เดี๋ยวชมพู่ยกลงไปเอง”



หอพักหญิงใกล้กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง…

“พ่อกับแม่กลับก่อนนะ หนูกลับบ้านบ่อย ๆ นะ แม่คิดถึง รักษาสุขภาพด้วยแม่เป็นห่วงนะ”

แม่โอบกอดชมพู่ด้วยความรักและความห่วงใย เป็นครั้งแรกที่ชมพู่ต้องออกจากอ้อมอกของแม่มาอยู่หอพักและใช้ชีวิตตามลำพัง

“จ้ะแม่ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ หนูจะดูแลตัวเองให้ดี เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะ”

“ถ้ามีหนุ่มมาจีบ รีบโทร. บอกพ่อเลยนะ พ่อจะมาจัดการให้ทันทีเลย”

“ไม่มีหรอกจ้ะพ่อ”

“หน้าตาดีถอดพ่อมาเป๊ะ ต้องมีหนุ่มมาจีบแน่ พ่อต้องรีบไว้หนวดแล้วนะ” 

เฌอพัฒน์วางมือลงบนศีรษะลูกสาวอย่างเอ็นดู ชมพู่โผเข้ากอดแก้มขวาแนบกับอกของพ่อ

 

หลังจากจัดของในห้องเสร็จเรียบร้อย ชมพู่ออกไปซื้อข้าวเพื่อกลับมานั่งกินที่ห้องพัก ขณะนั่งอยู่ในร้านอาหารตามสั่ง เธอหันไปเห็นภาพแนวสตรีทติดอยู่ที่ผนังของร้าน จึงเกิดความคิดที่จะทำงานหารายได้ไว้เป็นทุนเพื่อใช้ทำตามความฝันหลังจากเรียนจบ โดยที่ไม่ต้องรบกวนเงินของพ่อแม่

เธอเริ่มจากทำงานพาร์ทไทม์เพื่อเก็บเงินซื้อกล้องและอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ งานแรกที่ทำคือร้านสุกี้ที่อยู่ในห้างใกล้กับหอพัก ผู้จัดการร้านใจดีกับเธอมาก สัมภาษณ์เพียงไม่กี่คำถาม เขาก็รับเธอเข้าทำงานทันที

‘เวลามาทำงาน ก็แต่งหน้าแต่งตาหน่อยนะ ถ้าวันไหนติดเรียนมาไม่ได้ก็โทร. มาบอกพี่’



เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเวลาเดิมราวกับตั้งเวลาไว้ เสียงที่คุ้นเคยเปล่งดังออกมาจากปลายสาย

“เป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยก็พักนะ อย่าหักโหมเกินไป ถ้าขาดเหลือยังไง พ่อกับแม่ช่วยได้เสมอนะลูก”

เฌอพัฒน์กับอรปรียาทำธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้า แม่เคยรับจ้างเย็บผ้าโหล มีจักรเย็บและจักรโพ้งอย่างละหนึ่งตัว ส่วนพ่อเป็นพนักงานบริษัท

หลังแต่งงาน พ่อกับแม่ก็ช่วยกันเริ่มสร้างธุรกิจเย็บผ้าเล็ก ๆ เริ่มจากมีคนงานสองคนแล้วก็เพิ่มจำนวนขึ้นที่ละน้อยและขยายธุรกิจส่งออกทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อรปรียาสอนลูกสาวเสมอว่า ถ้าเธออยากได้อะไรก็ต้องหามันมาด้วยตัวเอง แม้ว่าครอบครัวของเธอจะมีทรัพย์สินมากพอที่จะซัพพอร์ตเธอได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าพ่อกับแม่จะหยิบยื่นให้เธอไปซะทุกอย่างจนเธอไม่รู้จักดิ้นรนไขว่คว้าหามันมาด้วยตัวเอง

“ไม่เหนื่อยเลยจ้ะแม่ หนูสบายดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พ่อกับแม่สบายดีไม๊จ๊ะ”

“พ่อกับแม่สบายดี แม่ไปเตรียมอาหารเย็นก่อนนะ ไว้แม่โทรหาใหม่ รักลูกนะ”

“จ้ะแม่ สวัสดีจ้ะ”

 

ชมพู่เก็บเงินที่ได้จากการทำงานพาร์ทไทม์ รวมกับเงินค่าขนมบางส่วนที่แม่โอนมาให้ทุกเดือน ซื้อกล้องดิจิตอลกับเลนส์ที่ราคาไม่แพงมาก รับถ่ายภาพในช่วงวันหยุดและหลังเลิกเรียน ทั้งพรีเวดดิ้ง งานแต่ง งานบวช ขึ้นบ้านใหม่ รับปริญญา และไปถ่ายตามสถานที่ท่องเที่ยว

เธอชอบถ่ายภาพ จึงศึกษาด้วยตัวเองจากอินเทอร์เน็ตและเข้าคอร์สเรียนถ่ายภาพ รุ่นพี่มากประสบการณ์ให้คำแนะนำและ…

นายแบบนางแบบรุ่นแรกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนและรุ่นพี่ในคณะ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้เธอซ้อมมือ กิจกรรมนันทนาการในคณะที่ต้องเก็บภาพไว้ ส่วนใหญ่ก็เป็นฝีมือของเธอ

เริ่มแรกลูกค้าส่วนใหญ่ก็มาจากเพื่อนแนะนำให้และบอกกันปากต่อปาก ทั้งรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว เพื่อนที่ต้องการภาพเวลาไปเที่ยวคาเฟ่หรือสถานที่ท่องเที่ยวทำให้ชมพู่เป็นที่รู้จักมากขึ้น

‘งานที่เริ่มจากความชอบ เราจะทำมันได้อย่างไม่รู้จักเบื่อ’

เธออดออมเก็บเงินไว้มากกว่าจะใช้จ่าย ไม่ใช่ว่าจะประหยัดเพื่อเก็บเงินไว้อย่างเดียว แต่เป็นเพราะเธอไม่มีเวลาว่างจะไปใช้จ่ายอะไรที่ไหน นอกจากซื้ออุปกรณ์เกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพเพิ่ม

 

“แกรับถ่ายรูปงานรับปริญญาด้วยใช่ไม๊ เพื่อนเราอยากได้ช่างภาพไปถ่ายในงานรับปริญญาพี่รหัสมันน่ะ แกว่างไม๊สองวัน”

เสียงใสเปล่งดังออกมาจากปลายสาย หลังจากที่นัดเจอกันที่สวนจตุจักรเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน

“ช่วงนี้ยุ่งมาก พี่สายรหัสกำลังจะเรียนจบ นอกจากจะทำการบ้านตัวเอง ก็ต้องไปช่วยพี่เขาทำวิทยานิพนธ์อีก”

“พักผ่อนเยอะ ๆ นะแก ระวังอย่าให้ป่วย”

วันนั้นเนยเอาอุปกรณ์ไปนั่งวาดภาพในสวนเพื่อส่งงานอาจารย์ ชมพู่จึงเอากล้องถ่ายดิจิตอลไปด้วย เธอถ่ายภาพเนย วิวในสวน และภาพแนวสตรีท พอกลับมาถึงห้องปรับแต่งภาพจนพอใจแล้วก็ส่งภาพที่ถ่ายในสวนจตุจักรไปให้เนย

“งานมีวันไหน…เราจะได้เตรียมตัว แล้วก็ดูตารางงานกับตารางเรียนไม่ให้ชนกันน่ะ”

“เดือนหน้า วันที่สิบสี่กับวันที่สิบแปด”

ชมพู่หันไปเปิดดูปฏิทินตั้งโต๊ะอยู่ครู่หนึ่ง “โอเคเราว่าง ไว้เจอกันนะแก” เธอจรดปากกาเขียนเตือนความจำไว้ในปฏิทิน

 

สวนจตุจักรสุดสัปดาห์ก่อน…

เนยเข้าเรียนคณะสถาปัตยกรรมตามความเห็นของพ่อ “พ่ออยากเป็นสถาปนิก ก็รับช่วงต่อกิจการของพ่อนั่นแหละ”

“แล้วแกชอบไม๊”

“ชอบ…เราเริ่มฝึกมาตั้งแต่ตอนมัธยมปลายแล้ว ช่วงนั้นที่เราเหมือนไม่ได้นอนไง ก็ไม่ได้นอนจริงแหละ กว่าจะสอบเข้าได้ ไม่ง่ายเลย”

ใบหน้างดงามมีเสน่ห์เย้ายวนฉายแววสดใสร่าเริง บ่งบอกว่าเธอต้องพยายามแค่ไหนกับการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ แม้ว่าเธอจะเรียนเก่งอันดับต้น ๆ ของรุ่น แต่เธอก็ยังใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนและช่วงวันหยุด ไปเข้ากลุ่มติวกับรุ่นพี่คณะสถาปัตยกรรมที่รับติวให้รุ่นน้องที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา