Love Wayo รักสุดใจเจ้าชายสายลม
-
เขียนโดย Killolat
วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 01.24 น.
26 บทที่
0 วิจารณ์
2,621 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567 01.41 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) <ตัด ขาด>
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลายวันต่อมา…
นี่ไม่รู้ว่าผ่านมากี่วันแล้วนะที่ฉันตกลงคบกับแม็กม่า ฉันพยายามทำให้เค้ารู้ว่าฉันใช้เค้าเป็นเครื่องมือเท่านั้น…แต่หมอนั่นกลับทำเหมือนไม่รู้อะไรซะงั้น อย่างเช่นตอนนี้…
โยนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง…แม็กม่ามาพอดี
“แม็กม่า~>o< คิดถึงนายจัง!~”
“เหรอ?! ฉันก็คิดถึงเธอนะ เย็นนี้ไปกินไอติมกัน^O^”
โยเหลียวมองนิดๆแล้วลุกไปด้วยท่าทางรำคาญ
พอโยไม่อยู่แล้ว…
“ฉันหายคิดถึงแล้ว ไปไหนก็ไปเหอะ =_=” ฉันพูดด้วยสีหน้าตายด้านม๊าก…มาก
“อ้าว~ แต่ฉันยังคิดถึงไม่หายเลย ป่ะ ไปกินติมกัน ^0^” แล้วมันก็ลากฉันไปแล้วคุยจ้อ…-_-^
ฉันก็ไม่อยากหลอกใช้เค้าหรอกนะ แค่ไม่กล้าบอกความจริงเท่านั้นเอง พอแม็กม่ามีความรักมันเหมือนกับโลกของเค้าถูกย้อมไปด้วยสีชมพู แล้วถ้าฉันบอกว่า… ‘เลิกกันเหอะ ฉันหลอกใช้นาย ฉันไม่ได้รักนายจริงๆ’ …โลกของฉันก็อาจจะถูกย้อมด้วยสีเลือดก็เป็นได้ เพราะตาโหดนี่อาจจะเอาสปาต้าเฉาะกบาลฉันชัวว์ๆ เพราะฉะนั้น…เอาไว้ฉันอยากตายเมื่อไหร่ เมื่อนั้นฉันก็คงจะกล้าบอกนายอย่างแน่นอน (-*-) เฮ้อ~กลุ้ม
ปึ่ก!
หลังจากฉันหาทางหนีจากแม็กม่าที่ตามตื้อฉันทั้งวันมาได้ ฉันก็เกิดเดินชนกับใครคนหนึ่งเข้า
“ไม่มีตารึไง!?...O_O”ฉันตะโกนใส่ด้วยความโมโห แต่พอเงยหน้าขึ้นมาได้คำที่ฉันจะพูดก็ถูกกลืนหาย…ก็ฉันดันมาเจอคนที่ไม่อยากเจอที่สุด T_T
“โทษที,,,” ชายหนุ่มร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใส่ความรู้สึกลงไป แล้วเดินผ่านฉันไปเหมือนเราไม่เคยรู้จักกัน
“โย…!”
“…” เค้าหันมามองฉัน
“เปล่า…ไม่มีอะไร ( . .)” เค้าได้เดินจากไปอีกครั้ง
ฉันพูดไม่ออก ฉันคิดเรื่องที่จะคุยกับเค้าไม่ได้…ระยะห่างของเรา…มันไกลเกินไปนั่นเป็นอีกครั้งที่ฉันพยายามจะพูดกับเค้า…อยากถามเค้าว่า ยัยโรคจิตนั่นพูดจริงเหรอ? อยากถามว่า…ทำไมเค้าทำแบบนี้?
เค้ายังรักฉันรึเปล่า..?
มันจะสายไปไหม…? ที่ฉันจะถามเค้าว่า…เราเป็นเหมือนเดิมได้ไหม? รู้บ้างไหม ว่าเวลาที่เราอยู่ห่างกันมันทำให้ฉันใจเย็นลง…แล้วใช้เหตุผลมากขึ้น ฉันอยากฟังคำอธิบายของนายที่ฉันไม่คิดจะฟังในตอนแรก…ฉันเริ่มจะหายโกรธนายแล้ว…แต่ก็ยังเจ็บใจแล้วเกลียดยัยเน่านั่นอยู่ดี
ที่ความโกรธมันเริ่มจางไปอาจเป็นเพราะเราไม่ได้พูดกัน เค้าไม่กลับมาบ้าน เราเจอกันน้อยลง…มันก็เลยกลายเป็นความเมินเฉยและเฉยชา แต่ลึกๆในใจความรู้สึกที่ฉันรักนายมันก็ไม่ได้จางไป…ฉันลืมนายไม่ได้จริงๆ!
“คิดอะไรอยู่น่ะ? เธอทำหน้าเครียดซะฉันเครียดตามเลยนะ -^-”
“โทษที ฉันกำลังคิดเรื่องข้อสอบอยู่ อีกไม่กี่วันก็สอบแล้วนี่นา ^^;”
“อ่อ จริงสิ สอบเร็จไปเที่ยวกันไหม?^___^”
“…”
“เธอชอบทะเลหรือสวนสนุกล่ะ?”
“…”
“เอวา…?”
“อ…อ๋อ อืม…”
“เธอเป็นอะไรน่ะ พักนี้เธอดูแปลกไปนะ” มือหนาทาบลงบนหน้าผากฉันเพื่อวัดไข้ ฉันปัดมือเค้าออกโดยอัตโนมัติ
“…เอวา” หน้าของแม็กม่าเจื่อนลงเล็กน้อย เสียงซึมลงอย่างเห็นได้ชัด
“ฉ…ฉันขอโทษนะ ^^; ตะกี้ยุงกัดมือนายน่ะ…” ฉันยิ้มกลบเกลื่อน
“เหรอ?^_^” รอยยิ้มของเค้าที่มีให้ฉันยังคงดูจริงใจและเปิดเผยอยู่เสมอ…ขอโทษนะแม็กม่า
“ใช่ๆ ที่จริงฉันมีธุระนิดหน่อยนายกลับก่อนเลยนะ ^__^” ฉันพูดก่อนจะรีบดึงกระเป๋าที่เค้าถือให้กลับมา แล้ววิ่งไปจากเค้า…โดยไม่ได้เหลียวกลับมาอีกเลย บ่อยครั้งที่ฉันพยายามทำตัวห่างเหินและรักษาระยะห่างจากเค้า แต่ฉันก็ยังเป็นได้แค่ยัยขี้ขลาดที่ไม่กล้าทำอะไรให้มันเด็ดขาดซักที…ขอโทษนะ
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
‘ฉัน รัก เธอ นะ’
ฉันอ่านข้อความในมือถือที่แม็กม่าจะส่งมาแทนคำว่า‘ราตรีสวัสดิ์’ทุกคืน และกดปิดมันเหมือนเป็นแค่ข้อความเตือนตังค์หมด…(ฉันนี่เลวเนอะ)
ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า…อีกเช้าที่มีเพียงฉัน…
ฉันออกมา เปิดประตูบ้านก็เจอแม็กม่ายืนอยู่เหมือนเดิม…
เค้ากล่าวทักทายฉัน…ฉันกล่าวทักทายตอบ…เหมือนทุกเช้าที่ผ่านมา
เค้าพูดจ้อ ส่วนฉันก็ตอบๆไปตามเรื่อง…
ฉันเข้ามาในห้องเรียน…วางกระเป๋า…กริ่งดัง…ฉันบอกลาเค้า…
ทุกอย่าง…ยังคงเหมือนเดิม…
“พักนี้แกดูเฉาไปนะ” สโนวที่นั่งเฉียงจากฉันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้(ฉันสลับที่นั่งกับซันไลท์แบบน่าจะถาวร)ทักฉัน
“ไม่มั้ง ^_^;” ฉันหันไปยิ้มอย่างเคย
“ดูสิ…ขนาดยิ้มยังเฝื่อนเลยO_O รอยยิ้มแกเคยดูสดใสกว่านี้เยอะนะเพื่อนรัก! แกมีเรื่องกลุ้มใจใช่ไหม?! บอกฉันสิ ฉันจะหาทางช่วยเอง!” สโนวเขย่าฉันไปมา โอ้ย~ ฉันไม่ใช่ยาคู้นะเฟ้ย!!=[]=
“ฉันไม่เป็นไรซะหน่อย คิดมากน่า ^O^”
“อืม…แต่ถ้ามีอะไรแกต้องบอกนะ อย่าเก็บไว้คิดมากคนเดียว…เราเป็นเพื่อนกันนะ T___T” สโนวทำหน้าดราม่า
“โห่~ แกทำหน้าเศร้าทำไม? ฉันซึ้งจะตายแล้วนะ=_=”
“แกทำให้ฉันคิดว่า แกจะจากไปเพราะป่วยเป็นโรคลูคิเมียเหมือนพวกนางเอกหนังเกาหลีน่ะสิ…หน้าแกดูไม่มี ออร่าเลย…” โห..นี่เพื่อนฉันบ้าหนังเกาหลีจนเพ้อได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?= =
“ฉันก็แค่เครียดเรื่องสอบ…”
“อ่อ ใช่ๆพูดถึงเรื่องสอบ หลังสอบเสร็จครูเพิ่งประกาศว่าจะให้ไปพักค่ายส่งท้ายเกรด 12 กันที่ทะเลตั้ง 3 วันแน่ะ น่าสนุกใช่ไหม ^O^ ได้ใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆ นั่งแกะปูกิน หลีหนุ่มเล่นน้ำ~ แกต้องสนุกแน่ๆเลย!” สโนวพูดตาลุกวาวอย่างชวนฝัน
อืม…ฉันก็อยากไปนะ อยากอยู่กับทุกคนก่อนที่จะถูกพ่อแม่รับไป…
“อื้ม! ต้องสนุกแน่ๆเลย ^_^”
ตอนเย็นฉันรีบชิ่งไปก่อนที่แม็กม่าจะมาเพราะมีที่ๆนึงที่อยากไปตามลำพัง พรุ่งนี้ก็สอบแล้วอีก 3 วันก็จะปิดเทอม...ฉันอาจจะไม่ได้มาที่นี่อีกก็ได้
ฉันก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นๆ จนมาถึงยอดบนสุดของหอนาฬิกา…ซึ่งเป็นที่แห่งความทรงจำ แต่กลับมีคนๆหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว ฉันจึงเตรียมจะหันหลังกลับไป แผ่นหลังของชายหนุ่มผมสีนิลบนม้านั่งนั่น…ทำไมฉันจะจำไม่ได้ล่ะว่าเป็นใคร ยังไงฉันก็ยังไม่พร้อมจะเจอเค้าในตอนนี้หรอก T_T
“เอวา…อย่าพึ่งไป” เสียงเรียกเรียบเฉยของเค้าทำฉันหยุดชะงัก
“รู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน?”
“จะมีกี่คนกัน ที่กล้ามาที่นี่” ใบหน้าขาวซีดหันมามองฉัน
“…” ฉันหลบตาเค้า ไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอะไรต่อดี
“จะไม่นั่งรึไง?” เค้าพูดกระตุ้นฉันที่ยืนนิ่ง
“นายมาที่นี่ทำไม?” ฉันพูดแล้วทรุดตัวนั่งลงข้างๆเค้า
“ฉันควรเป็นฝ่ายถาม…”เค้าตอบกลับสั้นๆ
“ฉันแค่มาที่นี่…ก่อนที่จะไม่ได้มาอีก”
“แต่…ฉันมาเพราะคิดถึงใครบางคน…”
“…” ฉันไม่กล้าคิดหรอกนะว่ามันจะหมายถึงฉัน…คงจะหมายถึงอีฟมากกว่า…
“เธอ…รู้เรื่องพ่อแม่ฉันแล้วใช่ไหม?” สายตาที่มองมาต้องการคำตอบจากฉัน
ฉันพยักหน้าเบาๆ
“ฉันคงโง่มากสินะ…” คำพูดลอยๆหลุดออกมาจากปากของฉัน
“ขอโทษนะ…” โยเอ่ยเสียงเรียบ
“พ่อกับแม่นายถูกรถชนตายอย่างที่ลุงโทนัสเคยบอกฉันรึเปล่า?”
“เปล่า…พวกท่านยังอยู่ทั้งคู่”
“ทำไมนายไม่เคยบอกฉัน!...” ฉันเริ่มอารมณ์ขึ้น -_-*
“อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยถาม”
“…”
“ทำไมยอมพูดกับฉันแล้วล่ะ…” คราวนี้โยถามฉันบ้าง “เธอไม่โกรธฉันแล้วรึไง?”
“ใช่…”
“…”
“เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว….ฉันถึงไม่จำเป็นต้องโกรธนายอีก…”
“ก็ดีแล้ว” โยตอบด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ฉันนี่บ้าจริงๆที่คาดหวังให้เค้าแคร์ในสิ่งที่ฉันพูดบ้าง
“ขอโทษที่หลอกเธอ…”
“…”
“แม่ฉันเกิดอุบัติเหตุจริงๆแต่ท่านไม่ตาย ท่านยังหลับเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่ญี่ปุ่น…พ่อเองก็มีปัญหาทางธุรกิจเลยหาเงินมารักษาแม่ไม่ได้ ฉันไม่อยู่อยากเป็นภาระก็เลยตกลงมาอยู่กับลุงที่นี่….”โยถอนหายใจออกมาแบบปลงๆ
“ตาแก่นั่นไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิดหรอกนะ”
“ลุงโทนัส…? ทำไม…”
“เพื่อเชื่อมธุรกิจกับพ่อเธอ เค้าเลยอยากให้เราแต่งงานกัน…”
“…แต่ครอบครัวของฉันก็กำลังล้มละลายอยู่นะ ฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่ มาเชื่อมธุรกิจกับครอบครัวฉันจะมีประโยชน์อะไร??” ฉันถามแบบงงๆ
“นั่นก็แค่ละครฉากหนึ่ง ที่ทำให้เธอยอมอยู่ที่นี่ไงล่ะ แม้แต่ฉันเองก็หลอกเธอ…แต่ตอนนี้มันคงถึงเวลาบอกความจริงกับเธอซักที” สายตาที่สื่อมายังฉันช่างว่างเปล่า “ตาแก่นั่นให้ข้อเสนอฉันว่าถ้าทำให้เธอรักฉันให้ได้หลังจบเกรด 12 จะช่วยจ่ายค่ารักษาแม่ให้…เพราะฉันรักแม่มาก…ฉันมันโง่เองที่มาเล่นกับหัวใจของคนอื่น”
“…”
“ฉันจะไม่ปฏิเสธว่าทำเพื่อเงิน…ฉันไม่อยากหาประโยชน์จากเธออีกแล้ว ขอโทษ…ที่โกหกเธอ” น้ำเสียงราบเรียบนั่นไม่มีความรู้สึกใดๆแฝงอยู่ทั้งสิ้น
โกหก…แปลว่าที่ผ่านมาเค้าไม่เคยรักฉันเลยเหรอ? ที่ทำไปเพราะเงินสินะ!!
“ขอบใจ…ที่ทำให้ฉันหายโง่!” แล้วน้ำตาของฉันก็ไหลพรากออกมาอาบแก้มทั้งสองข้าง มันเป็นเรื่องหลอกลวง…ที่นายทำไปเพราะต้องการเงิน…เรื่องของเรามันแค่ละครฉากหนึ่งงั้นเหรอ!!
น้ำตาของฉันไหลสะอื้น ตัวสั่นเทา หัวใจเองก็เจ็บแปลบไปหมด…ฉันไม่อยากรู้ความจริงเลย…ไม่อยากรู้เรื่องนี้!!
“ฮึก…โย…นายเคยรักฉันจริงๆรึเปล่า?,,.” ฉันมองใบหน้าเฉยชาที่ไร้ความรู้สึกแล้วจ้องเข้าไปในตาของเค้า
“…” ทำไมถึงเงียบล่ะโย!? นายควรจะตอบอะไรบ้าง…
“โย…ตอบฉัน…!” ฉันกำอกเสื้อเค้าไว้แน่น…และยังคงร้องไห้ไม่หยุด…
นิ้วเรียวปาดน้ำตาให้ฉันเบาๆแต่มันกลับทำให้ฉันยิ่งสะอื้นไม่หยุด…
“…” คำถามของฉันยังคงไร้ซึ่งคำตอบ
โยไม่พูดอะไรเพียงแต่จ้องหน้าฉันซักพักก่อนจะสอดนิ้วเข้ามาประสานมือกับฉัน ริมฝีปากของเค้าโน้มลงมาจูบฉันอย่างดูดดื่ม…จูบนั่นเหมือนเป็นการปลอบประโลมให้น้ำตาเหือดหายไป…จูบที่ลึกซึ้งนี่ทำให้หัวใจของฉันกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง มือของฉันถูกกุมไว้แน่นก่อนที่เค้าจะถอนริมฝีปากออกไปช้าๆเหมือนอยากให้สัมผัสนี้ตราตรึงไว้นานๆ…แล้วโอบกอดฉันไว้เบาๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เค้าตั้งใจจูบฉันจริงๆ…ฉันเผลอนึกดีใจไปเพราะคำพูดต่อมานั้นทำให้ฉันวูบลงทันที
“ทุกอย่างที่ฉันทำ…เรื่องของเรา…มันเป็นเรื่องโกหก ลืมมันให้หมดซะ จูบนี่คือสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะใช้บอกลาเธอจริงๆ…เธอไม่เคยรู้จักฉัน…ไม่เคยรู้จักคนชื่อ ‘วาโย’…จำเอาไว้…” เค้ายิ้มเศร้าๆให้ฉันก่อนจะเดินจากฉันไป
…หัวใจของฉันถูกกรีดอีกครั้ง…จนมันเป็นแผลลึกกว่าเดิม
นี่ไม่รู้ว่าผ่านมากี่วันแล้วนะที่ฉันตกลงคบกับแม็กม่า ฉันพยายามทำให้เค้ารู้ว่าฉันใช้เค้าเป็นเครื่องมือเท่านั้น…แต่หมอนั่นกลับทำเหมือนไม่รู้อะไรซะงั้น อย่างเช่นตอนนี้…
โยนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง…แม็กม่ามาพอดี
“แม็กม่า~>o< คิดถึงนายจัง!~”
“เหรอ?! ฉันก็คิดถึงเธอนะ เย็นนี้ไปกินไอติมกัน^O^”
โยเหลียวมองนิดๆแล้วลุกไปด้วยท่าทางรำคาญ
พอโยไม่อยู่แล้ว…
“ฉันหายคิดถึงแล้ว ไปไหนก็ไปเหอะ =_=” ฉันพูดด้วยสีหน้าตายด้านม๊าก…มาก
“อ้าว~ แต่ฉันยังคิดถึงไม่หายเลย ป่ะ ไปกินติมกัน ^0^” แล้วมันก็ลากฉันไปแล้วคุยจ้อ…-_-^
ฉันก็ไม่อยากหลอกใช้เค้าหรอกนะ แค่ไม่กล้าบอกความจริงเท่านั้นเอง พอแม็กม่ามีความรักมันเหมือนกับโลกของเค้าถูกย้อมไปด้วยสีชมพู แล้วถ้าฉันบอกว่า… ‘เลิกกันเหอะ ฉันหลอกใช้นาย ฉันไม่ได้รักนายจริงๆ’ …โลกของฉันก็อาจจะถูกย้อมด้วยสีเลือดก็เป็นได้ เพราะตาโหดนี่อาจจะเอาสปาต้าเฉาะกบาลฉันชัวว์ๆ เพราะฉะนั้น…เอาไว้ฉันอยากตายเมื่อไหร่ เมื่อนั้นฉันก็คงจะกล้าบอกนายอย่างแน่นอน (-*-) เฮ้อ~กลุ้ม
ปึ่ก!
หลังจากฉันหาทางหนีจากแม็กม่าที่ตามตื้อฉันทั้งวันมาได้ ฉันก็เกิดเดินชนกับใครคนหนึ่งเข้า
“ไม่มีตารึไง!?...O_O”ฉันตะโกนใส่ด้วยความโมโห แต่พอเงยหน้าขึ้นมาได้คำที่ฉันจะพูดก็ถูกกลืนหาย…ก็ฉันดันมาเจอคนที่ไม่อยากเจอที่สุด T_T
“โทษที,,,” ชายหนุ่มร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใส่ความรู้สึกลงไป แล้วเดินผ่านฉันไปเหมือนเราไม่เคยรู้จักกัน
“โย…!”
“…” เค้าหันมามองฉัน
“เปล่า…ไม่มีอะไร ( . .)” เค้าได้เดินจากไปอีกครั้ง
ฉันพูดไม่ออก ฉันคิดเรื่องที่จะคุยกับเค้าไม่ได้…ระยะห่างของเรา…มันไกลเกินไปนั่นเป็นอีกครั้งที่ฉันพยายามจะพูดกับเค้า…อยากถามเค้าว่า ยัยโรคจิตนั่นพูดจริงเหรอ? อยากถามว่า…ทำไมเค้าทำแบบนี้?
เค้ายังรักฉันรึเปล่า..?
มันจะสายไปไหม…? ที่ฉันจะถามเค้าว่า…เราเป็นเหมือนเดิมได้ไหม? รู้บ้างไหม ว่าเวลาที่เราอยู่ห่างกันมันทำให้ฉันใจเย็นลง…แล้วใช้เหตุผลมากขึ้น ฉันอยากฟังคำอธิบายของนายที่ฉันไม่คิดจะฟังในตอนแรก…ฉันเริ่มจะหายโกรธนายแล้ว…แต่ก็ยังเจ็บใจแล้วเกลียดยัยเน่านั่นอยู่ดี
ที่ความโกรธมันเริ่มจางไปอาจเป็นเพราะเราไม่ได้พูดกัน เค้าไม่กลับมาบ้าน เราเจอกันน้อยลง…มันก็เลยกลายเป็นความเมินเฉยและเฉยชา แต่ลึกๆในใจความรู้สึกที่ฉันรักนายมันก็ไม่ได้จางไป…ฉันลืมนายไม่ได้จริงๆ!
“คิดอะไรอยู่น่ะ? เธอทำหน้าเครียดซะฉันเครียดตามเลยนะ -^-”
“โทษที ฉันกำลังคิดเรื่องข้อสอบอยู่ อีกไม่กี่วันก็สอบแล้วนี่นา ^^;”
“อ่อ จริงสิ สอบเร็จไปเที่ยวกันไหม?^___^”
“…”
“เธอชอบทะเลหรือสวนสนุกล่ะ?”
“…”
“เอวา…?”
“อ…อ๋อ อืม…”
“เธอเป็นอะไรน่ะ พักนี้เธอดูแปลกไปนะ” มือหนาทาบลงบนหน้าผากฉันเพื่อวัดไข้ ฉันปัดมือเค้าออกโดยอัตโนมัติ
“…เอวา” หน้าของแม็กม่าเจื่อนลงเล็กน้อย เสียงซึมลงอย่างเห็นได้ชัด
“ฉ…ฉันขอโทษนะ ^^; ตะกี้ยุงกัดมือนายน่ะ…” ฉันยิ้มกลบเกลื่อน
“เหรอ?^_^” รอยยิ้มของเค้าที่มีให้ฉันยังคงดูจริงใจและเปิดเผยอยู่เสมอ…ขอโทษนะแม็กม่า
“ใช่ๆ ที่จริงฉันมีธุระนิดหน่อยนายกลับก่อนเลยนะ ^__^” ฉันพูดก่อนจะรีบดึงกระเป๋าที่เค้าถือให้กลับมา แล้ววิ่งไปจากเค้า…โดยไม่ได้เหลียวกลับมาอีกเลย บ่อยครั้งที่ฉันพยายามทำตัวห่างเหินและรักษาระยะห่างจากเค้า แต่ฉันก็ยังเป็นได้แค่ยัยขี้ขลาดที่ไม่กล้าทำอะไรให้มันเด็ดขาดซักที…ขอโทษนะ
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
‘ฉัน รัก เธอ นะ’
ฉันอ่านข้อความในมือถือที่แม็กม่าจะส่งมาแทนคำว่า‘ราตรีสวัสดิ์’ทุกคืน และกดปิดมันเหมือนเป็นแค่ข้อความเตือนตังค์หมด…(ฉันนี่เลวเนอะ)
ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า…อีกเช้าที่มีเพียงฉัน…
ฉันออกมา เปิดประตูบ้านก็เจอแม็กม่ายืนอยู่เหมือนเดิม…
เค้ากล่าวทักทายฉัน…ฉันกล่าวทักทายตอบ…เหมือนทุกเช้าที่ผ่านมา
เค้าพูดจ้อ ส่วนฉันก็ตอบๆไปตามเรื่อง…
ฉันเข้ามาในห้องเรียน…วางกระเป๋า…กริ่งดัง…ฉันบอกลาเค้า…
ทุกอย่าง…ยังคงเหมือนเดิม…
“พักนี้แกดูเฉาไปนะ” สโนวที่นั่งเฉียงจากฉันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้(ฉันสลับที่นั่งกับซันไลท์แบบน่าจะถาวร)ทักฉัน
“ไม่มั้ง ^_^;” ฉันหันไปยิ้มอย่างเคย
“ดูสิ…ขนาดยิ้มยังเฝื่อนเลยO_O รอยยิ้มแกเคยดูสดใสกว่านี้เยอะนะเพื่อนรัก! แกมีเรื่องกลุ้มใจใช่ไหม?! บอกฉันสิ ฉันจะหาทางช่วยเอง!” สโนวเขย่าฉันไปมา โอ้ย~ ฉันไม่ใช่ยาคู้นะเฟ้ย!!=[]=
“ฉันไม่เป็นไรซะหน่อย คิดมากน่า ^O^”
“อืม…แต่ถ้ามีอะไรแกต้องบอกนะ อย่าเก็บไว้คิดมากคนเดียว…เราเป็นเพื่อนกันนะ T___T” สโนวทำหน้าดราม่า
“โห่~ แกทำหน้าเศร้าทำไม? ฉันซึ้งจะตายแล้วนะ=_=”
“แกทำให้ฉันคิดว่า แกจะจากไปเพราะป่วยเป็นโรคลูคิเมียเหมือนพวกนางเอกหนังเกาหลีน่ะสิ…หน้าแกดูไม่มี ออร่าเลย…” โห..นี่เพื่อนฉันบ้าหนังเกาหลีจนเพ้อได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?= =
“ฉันก็แค่เครียดเรื่องสอบ…”
“อ่อ ใช่ๆพูดถึงเรื่องสอบ หลังสอบเสร็จครูเพิ่งประกาศว่าจะให้ไปพักค่ายส่งท้ายเกรด 12 กันที่ทะเลตั้ง 3 วันแน่ะ น่าสนุกใช่ไหม ^O^ ได้ใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆ นั่งแกะปูกิน หลีหนุ่มเล่นน้ำ~ แกต้องสนุกแน่ๆเลย!” สโนวพูดตาลุกวาวอย่างชวนฝัน
อืม…ฉันก็อยากไปนะ อยากอยู่กับทุกคนก่อนที่จะถูกพ่อแม่รับไป…
“อื้ม! ต้องสนุกแน่ๆเลย ^_^”
ตอนเย็นฉันรีบชิ่งไปก่อนที่แม็กม่าจะมาเพราะมีที่ๆนึงที่อยากไปตามลำพัง พรุ่งนี้ก็สอบแล้วอีก 3 วันก็จะปิดเทอม...ฉันอาจจะไม่ได้มาที่นี่อีกก็ได้
ฉันก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นๆ จนมาถึงยอดบนสุดของหอนาฬิกา…ซึ่งเป็นที่แห่งความทรงจำ แต่กลับมีคนๆหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว ฉันจึงเตรียมจะหันหลังกลับไป แผ่นหลังของชายหนุ่มผมสีนิลบนม้านั่งนั่น…ทำไมฉันจะจำไม่ได้ล่ะว่าเป็นใคร ยังไงฉันก็ยังไม่พร้อมจะเจอเค้าในตอนนี้หรอก T_T
“เอวา…อย่าพึ่งไป” เสียงเรียกเรียบเฉยของเค้าทำฉันหยุดชะงัก
“รู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน?”
“จะมีกี่คนกัน ที่กล้ามาที่นี่” ใบหน้าขาวซีดหันมามองฉัน
“…” ฉันหลบตาเค้า ไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอะไรต่อดี
“จะไม่นั่งรึไง?” เค้าพูดกระตุ้นฉันที่ยืนนิ่ง
“นายมาที่นี่ทำไม?” ฉันพูดแล้วทรุดตัวนั่งลงข้างๆเค้า
“ฉันควรเป็นฝ่ายถาม…”เค้าตอบกลับสั้นๆ
“ฉันแค่มาที่นี่…ก่อนที่จะไม่ได้มาอีก”
“แต่…ฉันมาเพราะคิดถึงใครบางคน…”
“…” ฉันไม่กล้าคิดหรอกนะว่ามันจะหมายถึงฉัน…คงจะหมายถึงอีฟมากกว่า…
“เธอ…รู้เรื่องพ่อแม่ฉันแล้วใช่ไหม?” สายตาที่มองมาต้องการคำตอบจากฉัน
ฉันพยักหน้าเบาๆ
“ฉันคงโง่มากสินะ…” คำพูดลอยๆหลุดออกมาจากปากของฉัน
“ขอโทษนะ…” โยเอ่ยเสียงเรียบ
“พ่อกับแม่นายถูกรถชนตายอย่างที่ลุงโทนัสเคยบอกฉันรึเปล่า?”
“เปล่า…พวกท่านยังอยู่ทั้งคู่”
“ทำไมนายไม่เคยบอกฉัน!...” ฉันเริ่มอารมณ์ขึ้น -_-*
“อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยถาม”
“…”
“ทำไมยอมพูดกับฉันแล้วล่ะ…” คราวนี้โยถามฉันบ้าง “เธอไม่โกรธฉันแล้วรึไง?”
“ใช่…”
“…”
“เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว….ฉันถึงไม่จำเป็นต้องโกรธนายอีก…”
“ก็ดีแล้ว” โยตอบด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ฉันนี่บ้าจริงๆที่คาดหวังให้เค้าแคร์ในสิ่งที่ฉันพูดบ้าง
“ขอโทษที่หลอกเธอ…”
“…”
“แม่ฉันเกิดอุบัติเหตุจริงๆแต่ท่านไม่ตาย ท่านยังหลับเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่ญี่ปุ่น…พ่อเองก็มีปัญหาทางธุรกิจเลยหาเงินมารักษาแม่ไม่ได้ ฉันไม่อยู่อยากเป็นภาระก็เลยตกลงมาอยู่กับลุงที่นี่….”โยถอนหายใจออกมาแบบปลงๆ
“ตาแก่นั่นไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิดหรอกนะ”
“ลุงโทนัส…? ทำไม…”
“เพื่อเชื่อมธุรกิจกับพ่อเธอ เค้าเลยอยากให้เราแต่งงานกัน…”
“…แต่ครอบครัวของฉันก็กำลังล้มละลายอยู่นะ ฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่ มาเชื่อมธุรกิจกับครอบครัวฉันจะมีประโยชน์อะไร??” ฉันถามแบบงงๆ
“นั่นก็แค่ละครฉากหนึ่ง ที่ทำให้เธอยอมอยู่ที่นี่ไงล่ะ แม้แต่ฉันเองก็หลอกเธอ…แต่ตอนนี้มันคงถึงเวลาบอกความจริงกับเธอซักที” สายตาที่สื่อมายังฉันช่างว่างเปล่า “ตาแก่นั่นให้ข้อเสนอฉันว่าถ้าทำให้เธอรักฉันให้ได้หลังจบเกรด 12 จะช่วยจ่ายค่ารักษาแม่ให้…เพราะฉันรักแม่มาก…ฉันมันโง่เองที่มาเล่นกับหัวใจของคนอื่น”
“…”
“ฉันจะไม่ปฏิเสธว่าทำเพื่อเงิน…ฉันไม่อยากหาประโยชน์จากเธออีกแล้ว ขอโทษ…ที่โกหกเธอ” น้ำเสียงราบเรียบนั่นไม่มีความรู้สึกใดๆแฝงอยู่ทั้งสิ้น
โกหก…แปลว่าที่ผ่านมาเค้าไม่เคยรักฉันเลยเหรอ? ที่ทำไปเพราะเงินสินะ!!
“ขอบใจ…ที่ทำให้ฉันหายโง่!” แล้วน้ำตาของฉันก็ไหลพรากออกมาอาบแก้มทั้งสองข้าง มันเป็นเรื่องหลอกลวง…ที่นายทำไปเพราะต้องการเงิน…เรื่องของเรามันแค่ละครฉากหนึ่งงั้นเหรอ!!
น้ำตาของฉันไหลสะอื้น ตัวสั่นเทา หัวใจเองก็เจ็บแปลบไปหมด…ฉันไม่อยากรู้ความจริงเลย…ไม่อยากรู้เรื่องนี้!!
“ฮึก…โย…นายเคยรักฉันจริงๆรึเปล่า?,,.” ฉันมองใบหน้าเฉยชาที่ไร้ความรู้สึกแล้วจ้องเข้าไปในตาของเค้า
“…” ทำไมถึงเงียบล่ะโย!? นายควรจะตอบอะไรบ้าง…
“โย…ตอบฉัน…!” ฉันกำอกเสื้อเค้าไว้แน่น…และยังคงร้องไห้ไม่หยุด…
นิ้วเรียวปาดน้ำตาให้ฉันเบาๆแต่มันกลับทำให้ฉันยิ่งสะอื้นไม่หยุด…
“…” คำถามของฉันยังคงไร้ซึ่งคำตอบ
โยไม่พูดอะไรเพียงแต่จ้องหน้าฉันซักพักก่อนจะสอดนิ้วเข้ามาประสานมือกับฉัน ริมฝีปากของเค้าโน้มลงมาจูบฉันอย่างดูดดื่ม…จูบนั่นเหมือนเป็นการปลอบประโลมให้น้ำตาเหือดหายไป…จูบที่ลึกซึ้งนี่ทำให้หัวใจของฉันกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง มือของฉันถูกกุมไว้แน่นก่อนที่เค้าจะถอนริมฝีปากออกไปช้าๆเหมือนอยากให้สัมผัสนี้ตราตรึงไว้นานๆ…แล้วโอบกอดฉันไว้เบาๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เค้าตั้งใจจูบฉันจริงๆ…ฉันเผลอนึกดีใจไปเพราะคำพูดต่อมานั้นทำให้ฉันวูบลงทันที
“ทุกอย่างที่ฉันทำ…เรื่องของเรา…มันเป็นเรื่องโกหก ลืมมันให้หมดซะ จูบนี่คือสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะใช้บอกลาเธอจริงๆ…เธอไม่เคยรู้จักฉัน…ไม่เคยรู้จักคนชื่อ ‘วาโย’…จำเอาไว้…” เค้ายิ้มเศร้าๆให้ฉันก่อนจะเดินจากฉันไป
…หัวใจของฉันถูกกรีดอีกครั้ง…จนมันเป็นแผลลึกกว่าเดิม
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ