CHESS:พลิกกระดานเทพ
10.0
เขียนโดย TKFD
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 01.14 น.
32 ตอน
2 วิจารณ์
5,626 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 01.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
32) ตอนที่ 11.1.1 เพื่อนใหม่?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "เมิ่งซิน:..."
'เมิ่งซิน:แล้วไงต่อ... จะจิบชาอีกก็แปลก จะเงียบต่อก็อึดอัด แล้วฉันควรทำยังไงต่อ!!!'
เธอเม้มปากแน่น ดวงตาเหลือบมองรอบห้องอย่างระแวดระวัง บรรยากาศนิ่งเงียบจนได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง ความเงียบที่ไม่เป็นมิตรบีบอัดอกเธอช้าๆ
"???:แล้วท่านหญิงมาที่นี่ได้อย่างไรขอรับ?"
เสียงของชายแปลกหน้าแทรกขึ้น พร้อมกับสายตาที่จ้องตรงมาอย่างสุภาพแต่แฝงความสงสัย
"เมิ่งซิน:เอ่อ~ พอดีมันมีประตูโผล่มาในที่ที่ฉันอยู่... ฉันเลยเปิดเข้ามา..."
เธอยิ้มเจื่อนๆ ขณะเกาหลังคอเบาๆ ท่าทางเหมือนเด็กที่กำลังพยายามอธิบายข้อสอบที่ทำผิดไปทั้งแผ่น
'เมิ่งซิน:ฉันไม่ได้โกหกนะ... ก็มีประตูโผล่มาจริงๆ! อยู่ดีๆก็มาอยู่ข้างทางแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยด้วยซ้ำ...'
เธอเหลือบตามองอีกฝ่าย แล้วถอนหายใจยาวเหมือนกลัวอีกฝ่ายจะหาว่าเธอโกหก
"???:อาฮา ข้าเข้าใจแล้วท่านหญิง ท่านแค่... หลงมาใช่หรือไม่?"
อีกฝ่ายยิ้มนิดๆ ราวกับพยายามเก็บเสียงหัวเราะไว้ข้างใน แต่น้ำเสียงกลับแฝงความอ่อนโยนปนเอ็นดูเล็กๆ ดวงตาของเขาสงบนิ่ง แต่ในแววตานั้นกลับมีประกายความสนุกเล็กๆ อย่างคนที่เจอบางสิ่งที่ "ไม่ธรรมดา"
"เมิ่งซิน:ใช่แล้ว ฉันแค่หลงมา... ถ้าอย่างนั้น ช่วยส่งฉันกลับทีได้ไหม ฉันยังมีเรื่องที่ต้องรีบไปทำต่อ"
น้ำเสียงของเธอฟังดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย ดวงตาจ้องตรงด้วยความหวัง เธอไม่ได้พูดประชดหรือเอาแต่ใจ—เพียงแค่ต้องการหาทางกลับโดยเร็วที่สุด
"???:ใจเย็นๆ ก่อนเถิดท่านหญิง ข้าไม่รู้ว่าท่านมีธุระสำคัญเพียงใด แต่ทันทีที่ท่านเหยียบย่างเข้ามาที่นี้ เวลาภายนอกก็ชะลอตัวลงแล้วขอรับ... ดังนั้น ท่านไม่ต้องกังวลอันใดเลย"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก ทว่ามั่นคง ราวกับผู้ที่อยู่เหนือกาลเวลา ม่านบางเบาข้างหลังไหวตามลมที่ไม่มีที่มา กลิ่นหอมอ่อนของสมุนไพรบางอย่างลอยมากระทบปลายจมูก
"เมิ่งซิน:เวลา... ไหลช้าลงเหรอ... ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?"
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าฉายแววประหลาดใจอย่างชัดเจน นิ้วแตะคางเบาๆ พลางก้มมองมือตัวเองราวกับจะหาคำอธิบายจากความจริงตรงหน้า
'เมิ่งซิน:นี่มัน... ที่แบบไหนกันแน่เนี่ย... แค่เดินตามประตูเข้ามา ทำไมถึงเจออะไรประหลาดแบบนี้ได้ล่ะ...'
เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่โลกอีกใบที่กฎเกณฑ์ของมันแตกต่างจากโลกที่เธอคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง
"???:ได้สิ ท่านหญิง ขอแค่ท่านมีพลังเวทมากพอ... บวกกับความเข้าใจในศาสตร์เวทมนตร์ ท่านก็สามารถควบคุมเวลาให้ช้าลง หรือแม้แต่หยุดมันได้เลยขอรับ"
;"???:ท่านเอริน่า ลองแสดงให้เธอดูหน่อยสิครับ"
;^???:ด-ได้... ข้าจะลองดู^;
หญิงสาวร่างใหญ่ที่นั่งอยู่เงียบๆ มาตลอดเหมือนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง เธอเหลือบตามองเมิ่งซินแวบหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้น... ท่าทางแม้จะลังเลเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่
"เป๊าะ"
เสียงดีดนิ้วแผ่วเบาดังสะท้อนในห้องกว้างอย่างน่าแปลก ราวกับทุกอย่างเงียบลงในวินาทีนั้น
เมิ่งซินที่ได้ยินเสียงก็หันไปมองตามทันที—และสิ่งที่เห็นก็ทำให้เธอแทบกลั้นหายใจ
เอริน่ายกถ้วยชาขึ้นสูง... แล้วปล่อยมันลง
แต่แทนที่ถ้วยจะร่วงลงตามแรงโน้มถ่วง มันกลับค่อยๆ ลอยลดระดับลงอย่างผิดธรรมชาติ ช้ามาก... ชนิดที่เมิ่งซินรู้สึกเหมือนเวลากำลังถูกยืดออกเป็นเส้นยางบางๆ
เธอกะพริบตาถี่ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่ภาพลวงตา
'เมิ่งซิน:มะ... ไม่ใช่ภาพลวงตาแน่ๆ... นี่มันของจริง...'
แม้ไม่มีลมพัด แต่เธอกลับรู้สึกเย็นวาบไปถึงต้นคอ
เมิ่งซินที่ได้เห็นแบบนั้นก็ทำสีหน้าตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง หายใจแผ่วราวกับไม่กล้ารบกวนช่วงขณะนั้น ท้องน้อยของเธอบีบรัดเหมือนถูกมือมองไม่เห็นบีบไว้แน่น
'เมิ่งซิน:ถะ-ถ้วยลอยอยู่! ไม่—มันกำลังตกลงแต่ตกช้ามากๆ... เธอสามารถทำให้เวลาเดินช้าลงจริงๆ ด้วย!!!'
เธออึ้งจนขยับตัวไม่ออก จ้องมองถ้วยใบเล็กนั้นค่อยๆ เคลื่อนลงราวกับภาพสโลว์โมชั่น ทุกวินาทีดูยืดยาวและหนักอึ้งจนเธอแทบลืมหายใจ
จนเกือบถึงโต๊ะ—มือของหญิงสาวร่างใหญ่ก็ยื่นออกมาจับถ้วยไว้อย่างแม่นยำ... ก่อนจะวางมันกลับที่เดิม
"เมิ่งซิน:..."
"เป๊าะ"
เสียงดีดนิ้วอีกครั้งดังขึ้น—และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง...
เมิ่งซินก็เพิ่งสังเกตได้ว่าสีสันของโลกกลับคืนมาแล้ว
เธอกวาดสายตามองรอบตัวช้าๆ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับพึ่งรู้สึกตัวว่าทั้งบรรยากาศเมื่อครู่เหมือนจะ... ซีดจางลง
'เมิ่งซิน:เอ๊ะ... เมื่อกี้... ไม่มีสีเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เป็นเพราะการชะลอเวลานั่นเหรอ...'
ความคิดในหัวตีกันวุ่นวาย ความรู้สึกไม่มั่นคงปะปนกับความประหลาดใจปะทะเข้ามาพร้อมกัน
ในตอนนั้นเอง คนตัวเล็กที่บินอยู่ไม่ห่าวสาวร่างใหญ่ก็ขยับมือเบาๆ ร่ายเวทบางอย่างด้วยเสียงนุ่มนวล
"???:Calma Mentis"
ทันใดนั้น—เหมือนโลกทั้งใบก็เงียบสงบลง
เมิ่งซินชะงัก... แล้วค่อยๆ หายใจเข้าอย่างเรียบเนียน ความตื่นตระหนกและเสียงวุ่นวายในหัวค่อยๆ สงบลงอย่างน่าอัศจรรย์
"เมิ่งซิน:..."
"???:นั่นคือเวทมนตร์ที่ทำให้จิตใจสงบ ท่านพอจะดีขึ้นไหมขอรับ?"
เมิ่งซินพยักหน้าตอบช้าๆ ยังไม่อาจเอ่ยคำใด... แต่แววตาที่เคยสั่นไหวเริ่มสงบนิ่งลงเล็กน้อย ความว้าวุ่นค่อยๆ จางหาย
"จิมมี่:เอาล่ะ เปลี่ยนเรื่องกันเถอะ ข้าว่าคุยเรื่องง่ายๆ อย่างการแนะนำตัวน่าจะดี"
ชายหนุ่มยิ้มนิดๆ พลางกวาดชายเสื้อพ่อบ้านเบาๆ ด้วยท่าทีที่ดูร่าเริงอย่างเป็นธรรมชาติ
"จิมมี่:ข้าชื่อ ซิลเวน นัวร์เวลล์ เรียกข้าว่า จิมมี่ ก็ได้ ข้าทำหน้าที่เหมือนพ่อบ้านให้กับท่านหญิงที่อยู่ข้างๆ นี่แหละขอรับ"
เขาโค้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้สตรีร่างใหญ่ข้างๆ
;"???:ท่านช่วยแนะนำตัวเองด้วยครับ";
^???:ข้า... เอริน่า พริสต์เวลล์ เรียกข้าว่า เอริน่า ก็พอ ข้าเป็นผู้ดูแลหอสมุดแห่งนี้ และเป็นเจ้านายของจิมมี่ ยินดีที่ได้รู้จัก^
เสียงของเธอนุ่มนวลและชัดเจน ฟังดูอ่อนโยนจนเมิ่งซินอดเปรียบเทียบกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูทรงพลังไม่ได้
'เมิ่งซิน:เสียงเธอฟังดูน่ารักนุ่มนวลมากเลย... ต่างจากท่าทางกับขนาดตัวสุดๆ...'
"เมิ่งซิน:ฉันชื่อ เมิ่งซิน หรงเหยา... ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ท่านเอริน่า... และ... ท่านจิมมี่"
"จิมมี่:ไม่ต้องเติม ท่าน หรอก เรียกข้า จิมมี่ เฉยๆ ก็พอแล้วล่ะ"
"เมิ่งซิน:...ได้เลย จิมมี่"
จิมมี่ยิ้มกว้างขึ้นทันที พร้อมทั้งกอดอกอย่างภูมิอกภูมิใจ
แต่หลังจากแนะนำตัวกันจบ บรรยากาศในห้องก็ค่อยๆเงียบลง เหมือนทุกคนต่างรอฟังอะไรบางอย่าง—หรือไม่ก็แค่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
ท้ายที่สุด แฟรี่ตัวเล็กที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบนั้น
"จิมมี่:ข้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหม ท่านเมิ่งซิน?"
"เมิ่งซิน:ดะ-ได้ค่ะ เชิญถามมาเลย…"
"จิมมี่:ท่านมาจากที่ไหนรึ? การออกเสียงชื่อของท่านมันแปลกหูข้ามากเลยนะ ข้าอยู่มาหลายร้อยปี แต่ยังไม่เคยได้ยินชื่อแบบนี้เลย"
"เมิ่งซิน:..."
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาไหววูบลง ก่อนจะหลุบสายตามองพื้น ราวกับใช้มันหลบสายตาของแฟรี่ตัวจิ๋ว
'เมิ่งซิน:เข้าใจได้อยู่หรอกถ้าจะไม่รู้จักภาษาจีน… ที่นี่ก็คงไม่ใช่โลกแน่ๆ แต่ที่เขาพูดว่า “อยู่มาหลายร้อยปี”… หมายความว่าแฟรี่ตัวนี้อายุหลายร้อยปีจริงๆเหรอ?'
เธอแอบชำเลืองมองร่างเล็กที่ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ ปีกสีฟ้าใสกระพือเบาๆ เหมือนผีเสื้อเวทมนตร์ในนิทาน แต่คำพูดกับท่าทางกลับไม่เด็กเอาเสียเลย
'เมิ่งซิน:ฉัน...เลิกตั้งคำถามดีกว่า ถ้าคิดต่ออาจจะบ้าเอาได้ง่ายๆ'
เมิ่งซินถอนหายใจแรง ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนปนเหนื่อยล้า ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองช้าๆ
"เมิ่งซิน:เออ... จะว่าไงดีล่ะ ฉันมาจากดวงดาวที่เรียกว่า 'โลก' น่ะ ท่านพอจะเคยได้ยินไหม?"
จิมมี่เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนส่ายหน้าช้าๆ
"จิมมี่:ไม่เคยได้ยินเลย... ท่านหญิง ท่านมีหนังสือหรืออะไรที่มาจากดาวโลกไหม?"
เมิ่งซินยิ้มจืดๆ คล้ายจะขำแต่ก็ไม่ออก
"เมิ่งซิน:ไม่มีหรอก ของที่ฉันนำมาด้วยมีแค่ตัวฉันเอง..."
^เอริน่า:ในพหูพจน์นี้มีดวงดาวมากมาย ข้าเองก็ไม่รู้จักเช่นกัน... แต่ถ้าบอกลักษณะเด่นๆมาข้าอาจจะพอจำแนกได้^
น้ำเสียงของเธอเรียบสงบ แต่หันหน้าจับจ้องเมิ่งซินด้วยความสนใจ
"จิมมี่:ท่านเมิ่งซิน... ท่านพอจะอธิบายลักษณะดวงดาวของท่านได้ไหม?"
เมิ่งซินนิ่งไปชั่วอึดใจ ราวกับกำลังกลั่นคำพูด
"เมิ่งซิน:ดาวโลกของฉัน... มีสีฟ้าเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีน้ำมากกว่าพื้นดิน พื้นดาวก็จะมีสีเขียวจากต้นไม้ แล้วก็น้ำตาลจากพื้นดิน มีชั้นบรรยากาศที่ช่วยให้สิ่งมีชีวิตหายใจได้... เราอยู่กันแบบนั้น"
^เอริน่า:ยังกว้างเกินไป มีอะไรเด่นๆ กว่านี้ไหมที่จำได้?^
เมิ่งซินขมวดคิ้ว สายตาหรี่ลงราวกับกำลังดำน้ำในห้วงความทรงจำ เงียบไปพักใหญ่ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ
"เมิ่งซิน:ลักษณะเด่น... ลักษณะเด่นเหรอ? อะไรคือลักษณะเด่นของโลกกัน..."
จู่ๆเธอก็เบิกตากว้าง ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงกลางสมอง
"เมิ่งซิน:โลกของฉันไม่มีมานา! ไม่มีเวทย์มนต์ มีแต่สิ่งที่เรียกว่า เทคโนโลยี และ วิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ผู้คนดำเนินชีวิตได้!!!"
เสียงของเธอแฝงความตื่นเต้นปนความโล่งใจ ดวงตาเปล่งประกายวูบหนึ่งราวกับได้กลับไปเห็นโลกเดิมอีกครั้ง
^เอริน่า:...ดาวที่ไม่มีมานา งั้นเหรอ...^
หญิงสาวผมสีเงินเอียงคอน้อยๆ สายตาหรี่ลงอย่างใช้ความคิด
'เมิ่งซิน:เธอจะเข้าใจไหมเนี่ย... คำที่ฉันพูดไป มันล้วนเป็นศัพท์จากโลกทั้งนั้นเลยนี่นา'
ในขณะที่เมิ่งซินกำลังกลุ้มใจอยู่ในความคิดของตน เอริน่าก็เหลือบมองไปรอบๆ ก่อนจะตบมือเบาๆสองครั้ง
"แปะ แปะ"
เสียงนั้นดังกังวานราวกับมีเวทสะท้อนในอากาศ ก่อนจะมีหนังสือเก่า 4 เล่มลอยละลิ่วเข้ามาหาเธออย่างเป็นระเบียบ เอริน่าหันกลับมาทางเมิ่งซินแล้วเปิดหนังสือแต่ละเล่มให้ดูทีละหน้า—แต่ละหน้าเต็มไปด้วยภาพวาดของดวงดาวต่างๆ ที่มีรายละเอียดซับซ้อน
เมิ่งซินจ้องดูทีละเล่ม ใจเต้นถี่เมื่อเห็นเล่มที่สี่
"เมิ่งซิน:...เล่มที่สี่นั่นแหละ นั่นคือโลก ดาวของฉัน"
"จิมมี่:ไหน ข้าขอดูหน่อย"
จิมมี่บินเข้ามาใกล้ เอริน่าหันหน้าหนังสือให้ทั้งคู่อ่านได้ชัดๆ ดวงตาของทั้งคู่จับจ้องอยู่บนหน้ากระดาษที่ดูเก่าแต่กลับเต็มไปด้วยอักขระเรืองแสงจางๆ
"จิมมี่:ดาวเคราะห์ที่ 475711 หรือที่สิ่งมีชีวิตในดาวเรียกว่า โลก เป็นดวงดาวที่ถูกสร้างขึ้นโดยปราศจากมานา เพื่อเฝ้าดูว่าสิ่งมีชีวิตจะดำรงอยู่ได้หรือไม่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้น'..."
เขาหยุดไปชั่วครู่ เหมือนจะอึ้งในสิ่งที่อ่าน ก่อนจะพูดต่อ
"จิมมี่:ในตอนแรก ดาวดวงนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา จึงถูกจัดว่าไม่มีค่าอะไร และเกือบจะถูกทำลายทิ้ง... จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ใหญ่ที่คร่าชีวิตสิ่งมีชีวิตไปแทบหมดสิ้น ก่อนจะมีสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมา...'"
เขาเหลือบตามองเมิ่งซินเล็กน้อย ก่อนจะอ่านต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
"จิมมี่:สิ่งมีชีวิตกลุ่มนั้นคือ ฮิลแมนนอย ตอนแรกมีความสงสัยว่ามีเทพองค์ใดนำมันลงไป แต่ภายหลังการสอบสวนก็พบว่าไม่มีเทพองค์ใดเกี่ยวข้อง สรุปว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ จึงยกเลิกแผนทำลายและเปลี่ยนเป็นการเฝ้าติดตามแทน..."
เอริน่ารับช่วงต่อ ริมฝีปากขยับอย่างแผ่วเบาแต่ชัดเจน
^เอริน่า:หลังจากติดตามดูอยู่นานผู้ดูแลหอคอยพบว่าดวงดาวนี้... แม้ปราศจากมานา แต่กลับเต็มไปด้วย ศักยภาพ ความทะเยอทะยาน สัญชาตญาณและความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และแนวคิดใหม่ๆ จึงมีการเสนอให้นำโลกเข้าสู่โปรเจกต์ ᚾᛁᚢᛟᚱ ᛏᚺᚨᛚᛖᚱᛖᚾ^
"เมิ่งซิน:เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะบอกว่าพวกเราถูกจับตามองตลอดเหรอ!? จะบอกว่าที่ผ่านมาเราเป็นแค่... แค่การทดลองเหรอ!? ไม่จริง... ไม่จริงๆๆๆๆ!"
เมิ่งซินปฏิเสธมันสุดหัวใจ เสียงสั่นอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ความรู้สึกถาโถมจนแทบล้นทะลัก
"จิมมี่:ท่านเอริน่า ข้าว่า..."
^เอริน่า:ข้ารู้แล้ว^
—"เปะ!"—
เสียงดีดนิ้วดังขึ้น พร้อมกับที่เมิ่งซินทรุดตัวลงทันที หน้าจะกระแทกกับโต๊ะ แต่จิมมี่ชูมือขึ้น
"จิมมี่:Telekinesis"
เวทมนตร์ค่อยๆ ยกตัวเมิ่งซินขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะวางเธอลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา…ราวกับไม่อยากให้เธอต้องเจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้ว
^เอริน่า:มันคงเป็นความจริงที่เกินกว่าเธอจะรับได้^
"จิมมี่:ข้าก็ไม่คิดว่าเธอจะปฏิเสธมัน...ขนาดนี้เลยนะ"
^เอริน่า:...ข้าจะเปลี่ยนความทรงจำเธอ^
"จิมมี่:มันคงเป็นทางเดียวแล้ว"
^เอริน่า:ᛗᛁᚾᚾᛋᚲᛁᛈᛏᚨ^
แล้วเวทมนตร์รูนก็แผ่ประกายเรืองรองจากมือของเอริน่า...
มันค่อยๆ ลอยขึ้นแตะที่ขมับของเมิ่งซิน ก่อนจะซึมเข้าไปอย่างนุ่มนวล
ความทรงจำของเมิ่งซิน…กำลังถูก “เรียบเรียงใหม่”
เอริน่าใช้สิ่งที่อยู่ในหัวของเมิ่งซินนั่นแหละเป็นวัตถุดิบ เธอไม่โกหก—แต่เธอ จัดเรียงมันใหม่
ตัดบางอย่างออก
แต่งบางอย่างให้ดูนุ่มนวล
และใส่ "ฝันดีๆ" เข้าไปแทน "ฝันร้าย"
ระหว่างนั้น เธอกับจิมมี่ก็เผลอเงียบไป…จ้องจอภาพแห่งความทรงจำที่ค่อยๆ เลื่อนผ่านราวกับกำลังชมสารคดีชีวิต
"จิมมี่:ว้าว...ในดวงดาวที่ไม่มีมานา พวกเขาใช้ชีวิตกันแบบนี้เหรอ"
^เอริน่า:น่าสนใจจริงๆ โดยเฉพาะสิ่งที่พวกเขาใช้ในการเดินทาง...^
"จิมมี่:ดูสิ! สิ่งบันเทิงของพวกเขากับอาหารนั่น... พวกเขาไปไกลกว่าดาวอื่นๆ เยอะเลย"
^เอริน่า:ว้าว...น่าไปเยี่ยมชมจริงๆ^
พวกเขาใช้เวลาดูความทรงจำเหล่านั้นไปหลายชั่วโมง...
...และในช่วงเวลานั้นเอง เมิ่งซินก็หลับอยู่เงียบๆ
^เอริน่า:ถึงไม่รู้มันคืออะไรบ้างก็เถอะ แต่น่าสนใจสุดๆไปเลย^
"จิมมี่:...งั้นก็ให้เธอเป็นคนเล่าฟังเราไหมขอรับ แถมเรายังมีคริสตัลฉายภาพด้วย"
^เอริน่า:จริงด้วย ข้าลืมเจ้าคริสตัลฉายภาพไปได้ไง^
หลังจากพูดจบ เอริน่าก็เริ่มเปลี่ยนความทรงจำของเมิ่งซินจนเสร็จ และค่อยๆ ปลุกเธอขึ้นมา
"เมิ่งซิน:อืม... ข้อมูลที่พูดมาไม่ต่างจากที่ฉันรู้เท่าไหร่เลย"
เมิ่งซินลืมตาขึ้นมาทันที ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ความคิดของเธอถูกจัดเรียงใหม่อย่างรวดเร็วและนุ่มนวล
'เมิ่งซิน:โลกเป็นดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์... พวกเขาใช้ชีวิตโดยไม่มีมานา...'
สิ่งที่เมิ่งซินรับรู้ตอนนี้คือ โลกเป็นดาวเคราะห์หนึ่งที่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ พวกเขาไม่ได้ใช่มานา แต่ใช้วิทยาศาสตร์ในการดำเนินชีวิต มีวัฒนธรรมที่ซับซ้อนและหลากหลายชาติพันธุ์ ดาวเคราะห์นี้เป็นที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้ชีวิต
"จิมมี่:มีแค่นี้เอง ไม่รู้เลยมันเป็นยังไง"
เมิ่งซินฟังแล้วก็นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เมิ่งซิน:...ฉันก็อยากเล่าให้ฟังนะ แต่ไม่รู้จะนึกภาพตามออกไหม"
เสียงของเมิ่งซินแสดงถึงความไม่มั่นใจในคำพูดของตัวเอง ดูเหมือนเธอกำลังพยายามเรียบเรียงคำพูดในหัว
^เอริน่า:น่าเสียดายจริงๆ^
"จิมมี่:...จริงสิท่านเอริน่า เรามีคริสตัลฉายภาพนิท่าน"
เอริน่าที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆ หยุดคิดไปชั่วขณะ
^เอริน่า:จริงด้วย เดี่ยวข้าไปเอาสักครู่^
เอริน่าลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปหานไปหลังชั้นหนังสือมากมายที่อยู่ตรงนี้ เมิ่งซินที่เห็นก็รู้สึกสงสัยและหันไปถามจิมมี่
"เมิ่งซิน:จิมมี่ คริสตัลฉายภาพที่ว่าคืออะไรเหรอ"
จิมมี่ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคย
"จิมมี่:มันคืออุปกรณ์เวทย์มนต์ที่สามารถฉายภาพของคนที่แตะคริสตัลโดยที่ภาพที่ฉายจะเป็นภาพที่คนแตะนึกอยู่ขอรับ"
เมิ่งซินตื่นเต้นทันที ดวงตาของเธอฉายแววความสนใจ
"เมิ่งซิน:ว้าว ฟังดูน่าสนใจสุดๆ"
หลังจากผ่านไปสักพัก เอริน่าก็กลับมาพร้อมกับคริสตัลกลมสีรุ้งที่มีฐานรองรองอยู่ใต้ลูกแก้ว เธอเดินมาด้วยท่าทางสบายๆ แล้ววางมันไว้ตรงหน้าของเมิ่งซินอย่างระมัดระวัง
ในจังหวะนั้นเอง เมิ่งซินก็เผลอมองไปที่แขนของเอริน่า และสิ่งที่เธอเห็นก็ทำให้สายตาค้างอยู่ตรงนั้นชั่วครู่
ลวดลายอักขระแปลกตาปรากฏขึ้น ไล่จากใต้แขนไปถึงปลายนิ้วกลาง ก่อนจะวกขึ้นมาตามแนวแขนเข้าไปซ่อนอยู่ใต้เสื้อ
'เมิ่งซิน:เอ๊ะ… นั่นมัน... รอยสักเหรอ? ไม่สิ มันเหมือนตัวอักษรมากกว่า… แต่ฉันอ่านไม่ออกเลย…'
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่ความคิดอีกด้านหนึ่งก็โพล่งขึ้นมาอย่างเร็ว
'เมิ่งซิน:ฉันควรถามไหมนะ… แต่… ไม่ดีกว่า มันอาจจะเสียมารยาทเกินไปก็ได้…'
หลังจากวางลูกแก้วคริสตัลไว้ให้ เมิ่งซินแล้ว เอริน่าก็ยิ้มบางๆ แล้วกลับไปนั่งที่เดิมโดยไม่พูดอะไร
เมิ่งซินนั่งมองลูกแก้วตรงหน้า ก่อนจะกลืนน้ำลายเบาๆ
'เมิ่งซิน:ถึงจิมมี่จะบอกว่าให้แตะแล้วนึกภาพในหัวก็เถอะ… หวังว่าจะไม่มีอะไรแปลกๆโผล่มานะ…'
มือของเธอยื่นออกไปอย่างช้าๆ นิ้วแตะลงบนผิวเรียบเย็นของคริสตัลเบาๆ
เมิ่งซินหลับตา แล้วนึกถึงเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ของบริษัทของเธอ... ลำที่เธอเป็นผู้ดูแลมาตลอด
ทันใดนั้นเอง คริสตัลก็เปล่งแสงจางๆ ก่อนจะฉายภาพขึ้นกลางอากาศ... ภาพสามมิติแบบโฮโลแกรมของเรือขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นเด่นชัด มองเห็นรายละเอียดทุกอย่างตั้งแต่ตัวเรือยันตู้คอนเทนเนอร์
เมิ่งซินลืมตาขึ้น และเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เธอก็อึ้งไปทันที
'เมิ่งซิน:ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย… แบบนี้มันฉายเป็นภาพโฮโลแกรมเลยเหรอ… นี่มัน… เหนือกว่าที่โลกอีกไม่ใช่เหรอไง…'
เธอหันไปมองคริสตัลด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่ความสงสัยในใจเริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ...
เอริน่าที่มักจะนั่งก้มหน้าอย่างสงบ กลับเงยหน้าขึ้นช้าๆ เมื่อเห็นภาพโฮโลแกรมลอยอยู่กลางอากาศ สีหน้าเธอสะท้อนความสนใจอย่างชัดเจน
ส่วนจิมมี่เองก็อ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตื่นเต้น เขาเอียงหัวมองภาพนั้นรอบด้านราวกับกลัวจะพลาดรายละเอียดแม้แต่นิดเดียว
"จิมมี่:ท่านเมิ่งซิน ไอ้เรือใหญ่นี่มันคืออะไรขอรับ? ดูจากที่เห็นแล้ว มัน… มันใหญ่มากๆ เลยนะขอรับ!"
เมิ่งซินละสายตาจากภาพหันไปมองจิมมี่ ก่อนจะเริ่มอธิบาย
"เมิ่งซิน:มันเป็นเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่… เอาไว้ขนของไปขายที่ประเทศ…"
เธอหยุดนิดหนึ่ง ความคิดหนึ่งแล่นผ่านในหัวอย่างรวดเร็ว
'เมิ่งซิน:เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน… ถ้าพูดคำว่า “ประเทศ” พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจ… ใช้คำว่า “ดินแดนอื่นๆ” ดีกว่า…'
"เมิ่งซิน:…ดินแดนอื่นๆ น่ะ"
"จิมมี่:แล้วเรือใหญ่ขนาดนี้ ขนอะไรไปขายบ้างรึขอรับ?"
"เมิ่งซิน:ก็แล้วแต่ที่น่ะ… บางดินแดนขาดอาหาร ฉันก็ส่งอาหารไปขาย... ถ้าเป็นที่ที่ต้องสร้างเมืองใหม่ ก็จะส่งพวกเครื่องมือก่อสร้าง หรือไม่ก็เครื่องจักร"
เสียงของเธอยังคงเรียบง่าย ไม่ได้ใส่อารมณ์อะไรมากนัก ทว่าจิมมี่กลับตั้งใจฟังราวกับฟังเรื่องเล่าจากตำนานเก่าแก่ ดวงตาเปล่งประกายคล้ายเด็กน้อยที่กำลังเปิดโลกในห้องเรียน
"จิมมี่:มีภาพของสิ่งที่ท่านส่งไปไหม? ข้าอยากเห็นว่ามันเป็นยังไง..."
"เมิ่งซิน:ได้เลย"
เธอยิ้มบางๆ พลางยื่นมือแตะคริสตัลอีกครั้ง จิตใจเริ่มจดจ่อไปยังภาพในความทรงจำ...
คราวนี้ เธอนึกถึงตอนที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาหารกระป๋องแห่งหนึ่งที่เป็นคู่ค้าหลักของบริษัท ภาพในหัวเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
"เมิ่งซิน:ที่นี่คือโรงงานผลิตอาหารต่างๆ เอาไว้ส่งไปยังดินแดนอื่นๆ"
ภาพที่ฉายกลางอากาศคราวนี้เปลี่ยนไป กลายเป็นภาพของเครื่องจักรขนาดใหญ่หลายชุดที่กำลังทำงานอย่างต่อเนื่อง เสียงกลไกหมุนดังเบาๆ ปลาถูกจัดเรียงลงในกระป๋อง ก่อนจะถูกเลื่อนต่อไปตามสายพานเข้าสู่ขั้นตอนการปิดผนึก ฉลาก และบรรจุลงกล่อง
จิมมี่และเอริน่ามองตาไม่กะพริบ ภาพที่พวกเขาเห็นช่างแปลกตาเกินกว่าจะจินตนาการได้
^เอริน่า:เจ้าผลิตเยอะขนาดนี้… ขายหมดงั้นรึ?^
"เมิ่งซิน:เอ่อ… จะว่าไงดีนะ…"
เธอคิดสักพัก ก่อนจะอธิบายต่ออย่างใจเย็น
"เมิ่งซิน:เราจะผลิตเท่าที่มีคำสั่งซื้อเท่านั้น ดังนั้นมันไม่มีของเหลือเก็บไว้เฉยๆ หรอก แต่คำสั่งซื้อแต่ละครั้งก็มหาศาลเลยล่ะ เพราะงั้นเราต้องใช้เครื่องจักรเหล่านี้ เพื่อให้ทำงานได้รวดเร็วและคุณภาพก็เท่าเดิมทุกกระป๋อง..."
เธอหยุดนิดหนึ่งก่อนจะเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นเล็กน้อย
"เมิ่งซิน:…แถมยังช่วยประหยัดค่าจ้างแรงงานได้มาก เพราะแค่มีคนดูแลเครื่องจักรไม่กี่สิบคน ก็สามารถผลิตได้เป็นหมื่นๆ กระป๋องในแต่ละวันแล้ว"
"จิมมี่:ท่านบอกว่า… ใช้แค่ไม่กี่สิบคน? ดูแลเครื่องจักรพวกนี้ทั้งหมดน่ะรึ?"
"เมิ่งซิน:ใช่แล้ว"
"จิมมี่:ว้าว... น่าสนใจจริงๆ..."
เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ เหมือนกำลังทบทวนโลกใบใหม่ที่เพิ่งได้เห็นครั้งแรก ส่วนเมิ่งซินก็ยังคงจ้องมองภาพในอากาศ เธอรู้สึกถึงความห่างไกล... ระหว่างโลกเก่ากับโลกใบใหม่นี้
'เมิ่งซิน:ถ้าพวกเขาได้ไปเห็นของจริง... จะตกใจขนาดไหนกันนะ'
"เมิ่งซิน:ท่านอยากดูอะไรอีกไหม ท่านเอริน่า?"
คำถามของเธอเปล่งออกมาอย่างสุภาพ เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความเต็มใจจะเปิดโลกให้พวกเขาได้เห็น
^เอริน่า:ก่อนหน้านี้… เจ้าส่งอย่างอื่นด้วยใช่ไหม? ข้าขอดูได้ไหม?^
"เมิ่งซิน:ได้เลยท่าน"
เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะจรดปลายนิ้วกับคริสตัลอีกครั้ง ความคิดย้อนกลับไปยังอีกสถานที่หนึ่งที่เธอเคยไปมาเมื่อไม่นานนี้—โรงงานหลอมเหล็ก
ทันทีที่ภาพเริ่มฉายกลางอากาศ ก็ปรากฏเครื่องจักรขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนเหล็กแท่งยักษ์ไปยังแท่นกลึง ก่อนที่หัวทุบขนาดใหญ่จะกระแทกลงมาด้วยเสียงดัง โครม! แม้เสียงจะถูกลดทอนจากการฉายภาพ แต่ความหนักแน่นของแรงยังสัมผัสได้จากแววตาของผู้ชม
"จิมมี่:ว้าว... การตีเหล็กของโลกท่านอลังการจริงๆ แล้วเหล็กเหล่านี้จะถูกนำไปสร้างดาบหรืออาวุธอะไรหรือไม่ขอรับ?"
เมิ่งซินชะงักเล็กน้อย เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ
'เมิ่งซิน:เดี๋ยวนะ… ฉันนึกว่าลูกแก้วนี่เป็นของที่นี่… เทคโนโลยีที่นี่น่าจะไปไกลแล้วสิ แต่จากคำถามของจิมมี่... พวกเขายังอยู่แค่ยุคที่ต้องใช้ดาบอยู่เลยงั้นเหรอ?'
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
"เมิ่งซิน:ไม่ๆ… เหล็กพวกนี้ไม่นำไปใช้ทำอาวุธหรอก มันถูกนำไปใช้ในงานก่อสร้างซะมากกว่า"
"จิมมี่:งานก่อสร้างหรือขอรับ? โลกของท่านสร้างอะไรกัน ถึงต้องใช้เหล็กเยอะขนาดนั้น?"
เมิ่งซินยิ้มเล็กน้อย คราวนี้ไม่ใช่เพราะความเอ็นดู แต่เพราะเธอรู้ว่า สิ่งที่พวกเขาจะได้เห็นต่อไป… มันจะเหนือกว่าทุกอย่างที่พวกเขาเคยจินตนาการ
เธอหลับตาลงชั่วครู่ ก่อนที่คริสตัลจะเริ่มฉายภาพความทรงจำ—ตึกระฟ้าอันตระการตาค่อยๆ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
กระจกเงาวับสะท้อนแสงอาทิตย์ อาคารสูงทะลุเมฆราวกับจะไปแตะฟ้า ชั้นบนสุดดูเลือนรางเพราะหมอกจางๆ ปกคลุมเอาไว้ บางชั้นมีสวนลอยฟ้าที่เขียวชอุ่ม บางชั้นประดับด้วยสถาปัตยกรรมล้ำยุคจนดูเหมือนงานศิลป์
"เมิ่งซิน:เหล็กเหล่านี้… ใช้สร้างสิ่งแบบนี้แหละ"
เสียงของเธอเบา แต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิ
^เอริน่า:ข้าเริ่มเข้าใจแล้ว… ยิ่งอาคารสูงเพียงใด ยิ่งต้องใช้วัสดุที่แข็งแรงมากขึ้น การใช้เหล็กสร้างอาคารเหล่านี้… ก็ดูสมเหตุสมผลดี^
"เมิ่งซิน:ถูกต้องแล้ว ท่านเอริน่า"
^เอริน่า:แต่มันก็ยังน่าเหลือเชื่ออยู่ดี... ที่พวกเจ้าสร้างสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จากเหล็กได้จริงๆ^
"จิมมี่:ข้าไม่รู้จะพูดยังไง… แต่มันช่าง... เหมือนฝันเลย…"
เมิ่งซินไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงยืนมองภาพตรงหน้าอย่างเงียบงัน ในใจเธอ... ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกที่สร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้จริง
จากผู้แต่ง
ช่วงสงกรานไม่ได้แต่งเลยทำให้ช้านิดหน่อยเพราะไม่ได้แต่งเลยตั้ง 3 วันเพราะสงกรานต์ส่วนหลังจากนี้ก็จะกลับมาลงปกติคือ 8-10 วันจะลง 1 ตอนจะพยายามลดให้เหลือ 7 วันให้ได้คัฟ แต่ไม่สัญญาน่ะ
'เมิ่งซิน:แล้วไงต่อ... จะจิบชาอีกก็แปลก จะเงียบต่อก็อึดอัด แล้วฉันควรทำยังไงต่อ!!!'
เธอเม้มปากแน่น ดวงตาเหลือบมองรอบห้องอย่างระแวดระวัง บรรยากาศนิ่งเงียบจนได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง ความเงียบที่ไม่เป็นมิตรบีบอัดอกเธอช้าๆ
"???:แล้วท่านหญิงมาที่นี่ได้อย่างไรขอรับ?"
เสียงของชายแปลกหน้าแทรกขึ้น พร้อมกับสายตาที่จ้องตรงมาอย่างสุภาพแต่แฝงความสงสัย
"เมิ่งซิน:เอ่อ~ พอดีมันมีประตูโผล่มาในที่ที่ฉันอยู่... ฉันเลยเปิดเข้ามา..."
เธอยิ้มเจื่อนๆ ขณะเกาหลังคอเบาๆ ท่าทางเหมือนเด็กที่กำลังพยายามอธิบายข้อสอบที่ทำผิดไปทั้งแผ่น
'เมิ่งซิน:ฉันไม่ได้โกหกนะ... ก็มีประตูโผล่มาจริงๆ! อยู่ดีๆก็มาอยู่ข้างทางแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยด้วยซ้ำ...'
เธอเหลือบตามองอีกฝ่าย แล้วถอนหายใจยาวเหมือนกลัวอีกฝ่ายจะหาว่าเธอโกหก
"???:อาฮา ข้าเข้าใจแล้วท่านหญิง ท่านแค่... หลงมาใช่หรือไม่?"
อีกฝ่ายยิ้มนิดๆ ราวกับพยายามเก็บเสียงหัวเราะไว้ข้างใน แต่น้ำเสียงกลับแฝงความอ่อนโยนปนเอ็นดูเล็กๆ ดวงตาของเขาสงบนิ่ง แต่ในแววตานั้นกลับมีประกายความสนุกเล็กๆ อย่างคนที่เจอบางสิ่งที่ "ไม่ธรรมดา"
"เมิ่งซิน:ใช่แล้ว ฉันแค่หลงมา... ถ้าอย่างนั้น ช่วยส่งฉันกลับทีได้ไหม ฉันยังมีเรื่องที่ต้องรีบไปทำต่อ"
น้ำเสียงของเธอฟังดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย ดวงตาจ้องตรงด้วยความหวัง เธอไม่ได้พูดประชดหรือเอาแต่ใจ—เพียงแค่ต้องการหาทางกลับโดยเร็วที่สุด
"???:ใจเย็นๆ ก่อนเถิดท่านหญิง ข้าไม่รู้ว่าท่านมีธุระสำคัญเพียงใด แต่ทันทีที่ท่านเหยียบย่างเข้ามาที่นี้ เวลาภายนอกก็ชะลอตัวลงแล้วขอรับ... ดังนั้น ท่านไม่ต้องกังวลอันใดเลย"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก ทว่ามั่นคง ราวกับผู้ที่อยู่เหนือกาลเวลา ม่านบางเบาข้างหลังไหวตามลมที่ไม่มีที่มา กลิ่นหอมอ่อนของสมุนไพรบางอย่างลอยมากระทบปลายจมูก
"เมิ่งซิน:เวลา... ไหลช้าลงเหรอ... ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?"
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าฉายแววประหลาดใจอย่างชัดเจน นิ้วแตะคางเบาๆ พลางก้มมองมือตัวเองราวกับจะหาคำอธิบายจากความจริงตรงหน้า
'เมิ่งซิน:นี่มัน... ที่แบบไหนกันแน่เนี่ย... แค่เดินตามประตูเข้ามา ทำไมถึงเจออะไรประหลาดแบบนี้ได้ล่ะ...'
เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่โลกอีกใบที่กฎเกณฑ์ของมันแตกต่างจากโลกที่เธอคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง
"???:ได้สิ ท่านหญิง ขอแค่ท่านมีพลังเวทมากพอ... บวกกับความเข้าใจในศาสตร์เวทมนตร์ ท่านก็สามารถควบคุมเวลาให้ช้าลง หรือแม้แต่หยุดมันได้เลยขอรับ"
;"???:ท่านเอริน่า ลองแสดงให้เธอดูหน่อยสิครับ"
;^???:ด-ได้... ข้าจะลองดู^;
หญิงสาวร่างใหญ่ที่นั่งอยู่เงียบๆ มาตลอดเหมือนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง เธอเหลือบตามองเมิ่งซินแวบหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้น... ท่าทางแม้จะลังเลเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่
"เป๊าะ"
เสียงดีดนิ้วแผ่วเบาดังสะท้อนในห้องกว้างอย่างน่าแปลก ราวกับทุกอย่างเงียบลงในวินาทีนั้น
เมิ่งซินที่ได้ยินเสียงก็หันไปมองตามทันที—และสิ่งที่เห็นก็ทำให้เธอแทบกลั้นหายใจ
เอริน่ายกถ้วยชาขึ้นสูง... แล้วปล่อยมันลง
แต่แทนที่ถ้วยจะร่วงลงตามแรงโน้มถ่วง มันกลับค่อยๆ ลอยลดระดับลงอย่างผิดธรรมชาติ ช้ามาก... ชนิดที่เมิ่งซินรู้สึกเหมือนเวลากำลังถูกยืดออกเป็นเส้นยางบางๆ
เธอกะพริบตาถี่ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่ภาพลวงตา
'เมิ่งซิน:มะ... ไม่ใช่ภาพลวงตาแน่ๆ... นี่มันของจริง...'
แม้ไม่มีลมพัด แต่เธอกลับรู้สึกเย็นวาบไปถึงต้นคอ
เมิ่งซินที่ได้เห็นแบบนั้นก็ทำสีหน้าตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง หายใจแผ่วราวกับไม่กล้ารบกวนช่วงขณะนั้น ท้องน้อยของเธอบีบรัดเหมือนถูกมือมองไม่เห็นบีบไว้แน่น
'เมิ่งซิน:ถะ-ถ้วยลอยอยู่! ไม่—มันกำลังตกลงแต่ตกช้ามากๆ... เธอสามารถทำให้เวลาเดินช้าลงจริงๆ ด้วย!!!'
เธออึ้งจนขยับตัวไม่ออก จ้องมองถ้วยใบเล็กนั้นค่อยๆ เคลื่อนลงราวกับภาพสโลว์โมชั่น ทุกวินาทีดูยืดยาวและหนักอึ้งจนเธอแทบลืมหายใจ
จนเกือบถึงโต๊ะ—มือของหญิงสาวร่างใหญ่ก็ยื่นออกมาจับถ้วยไว้อย่างแม่นยำ... ก่อนจะวางมันกลับที่เดิม
"เมิ่งซิน:..."
"เป๊าะ"
เสียงดีดนิ้วอีกครั้งดังขึ้น—และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง...
เมิ่งซินก็เพิ่งสังเกตได้ว่าสีสันของโลกกลับคืนมาแล้ว
เธอกวาดสายตามองรอบตัวช้าๆ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับพึ่งรู้สึกตัวว่าทั้งบรรยากาศเมื่อครู่เหมือนจะ... ซีดจางลง
'เมิ่งซิน:เอ๊ะ... เมื่อกี้... ไม่มีสีเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เป็นเพราะการชะลอเวลานั่นเหรอ...'
ความคิดในหัวตีกันวุ่นวาย ความรู้สึกไม่มั่นคงปะปนกับความประหลาดใจปะทะเข้ามาพร้อมกัน
ในตอนนั้นเอง คนตัวเล็กที่บินอยู่ไม่ห่าวสาวร่างใหญ่ก็ขยับมือเบาๆ ร่ายเวทบางอย่างด้วยเสียงนุ่มนวล
"???:Calma Mentis"
ทันใดนั้น—เหมือนโลกทั้งใบก็เงียบสงบลง
เมิ่งซินชะงัก... แล้วค่อยๆ หายใจเข้าอย่างเรียบเนียน ความตื่นตระหนกและเสียงวุ่นวายในหัวค่อยๆ สงบลงอย่างน่าอัศจรรย์
"เมิ่งซิน:..."
"???:นั่นคือเวทมนตร์ที่ทำให้จิตใจสงบ ท่านพอจะดีขึ้นไหมขอรับ?"
เมิ่งซินพยักหน้าตอบช้าๆ ยังไม่อาจเอ่ยคำใด... แต่แววตาที่เคยสั่นไหวเริ่มสงบนิ่งลงเล็กน้อย ความว้าวุ่นค่อยๆ จางหาย
"จิมมี่:เอาล่ะ เปลี่ยนเรื่องกันเถอะ ข้าว่าคุยเรื่องง่ายๆ อย่างการแนะนำตัวน่าจะดี"
ชายหนุ่มยิ้มนิดๆ พลางกวาดชายเสื้อพ่อบ้านเบาๆ ด้วยท่าทีที่ดูร่าเริงอย่างเป็นธรรมชาติ
"จิมมี่:ข้าชื่อ ซิลเวน นัวร์เวลล์ เรียกข้าว่า จิมมี่ ก็ได้ ข้าทำหน้าที่เหมือนพ่อบ้านให้กับท่านหญิงที่อยู่ข้างๆ นี่แหละขอรับ"
เขาโค้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้สตรีร่างใหญ่ข้างๆ
;"???:ท่านช่วยแนะนำตัวเองด้วยครับ";
^???:ข้า... เอริน่า พริสต์เวลล์ เรียกข้าว่า เอริน่า ก็พอ ข้าเป็นผู้ดูแลหอสมุดแห่งนี้ และเป็นเจ้านายของจิมมี่ ยินดีที่ได้รู้จัก^
เสียงของเธอนุ่มนวลและชัดเจน ฟังดูอ่อนโยนจนเมิ่งซินอดเปรียบเทียบกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูทรงพลังไม่ได้
'เมิ่งซิน:เสียงเธอฟังดูน่ารักนุ่มนวลมากเลย... ต่างจากท่าทางกับขนาดตัวสุดๆ...'
"เมิ่งซิน:ฉันชื่อ เมิ่งซิน หรงเหยา... ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ท่านเอริน่า... และ... ท่านจิมมี่"
"จิมมี่:ไม่ต้องเติม ท่าน หรอก เรียกข้า จิมมี่ เฉยๆ ก็พอแล้วล่ะ"
"เมิ่งซิน:...ได้เลย จิมมี่"
จิมมี่ยิ้มกว้างขึ้นทันที พร้อมทั้งกอดอกอย่างภูมิอกภูมิใจ
แต่หลังจากแนะนำตัวกันจบ บรรยากาศในห้องก็ค่อยๆเงียบลง เหมือนทุกคนต่างรอฟังอะไรบางอย่าง—หรือไม่ก็แค่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
ท้ายที่สุด แฟรี่ตัวเล็กที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบนั้น
"จิมมี่:ข้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหม ท่านเมิ่งซิน?"
"เมิ่งซิน:ดะ-ได้ค่ะ เชิญถามมาเลย…"
"จิมมี่:ท่านมาจากที่ไหนรึ? การออกเสียงชื่อของท่านมันแปลกหูข้ามากเลยนะ ข้าอยู่มาหลายร้อยปี แต่ยังไม่เคยได้ยินชื่อแบบนี้เลย"
"เมิ่งซิน:..."
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาไหววูบลง ก่อนจะหลุบสายตามองพื้น ราวกับใช้มันหลบสายตาของแฟรี่ตัวจิ๋ว
'เมิ่งซิน:เข้าใจได้อยู่หรอกถ้าจะไม่รู้จักภาษาจีน… ที่นี่ก็คงไม่ใช่โลกแน่ๆ แต่ที่เขาพูดว่า “อยู่มาหลายร้อยปี”… หมายความว่าแฟรี่ตัวนี้อายุหลายร้อยปีจริงๆเหรอ?'
เธอแอบชำเลืองมองร่างเล็กที่ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ ปีกสีฟ้าใสกระพือเบาๆ เหมือนผีเสื้อเวทมนตร์ในนิทาน แต่คำพูดกับท่าทางกลับไม่เด็กเอาเสียเลย
'เมิ่งซิน:ฉัน...เลิกตั้งคำถามดีกว่า ถ้าคิดต่ออาจจะบ้าเอาได้ง่ายๆ'
เมิ่งซินถอนหายใจแรง ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนปนเหนื่อยล้า ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองช้าๆ
"เมิ่งซิน:เออ... จะว่าไงดีล่ะ ฉันมาจากดวงดาวที่เรียกว่า 'โลก' น่ะ ท่านพอจะเคยได้ยินไหม?"
จิมมี่เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนส่ายหน้าช้าๆ
"จิมมี่:ไม่เคยได้ยินเลย... ท่านหญิง ท่านมีหนังสือหรืออะไรที่มาจากดาวโลกไหม?"
เมิ่งซินยิ้มจืดๆ คล้ายจะขำแต่ก็ไม่ออก
"เมิ่งซิน:ไม่มีหรอก ของที่ฉันนำมาด้วยมีแค่ตัวฉันเอง..."
^เอริน่า:ในพหูพจน์นี้มีดวงดาวมากมาย ข้าเองก็ไม่รู้จักเช่นกัน... แต่ถ้าบอกลักษณะเด่นๆมาข้าอาจจะพอจำแนกได้^
น้ำเสียงของเธอเรียบสงบ แต่หันหน้าจับจ้องเมิ่งซินด้วยความสนใจ
"จิมมี่:ท่านเมิ่งซิน... ท่านพอจะอธิบายลักษณะดวงดาวของท่านได้ไหม?"
เมิ่งซินนิ่งไปชั่วอึดใจ ราวกับกำลังกลั่นคำพูด
"เมิ่งซิน:ดาวโลกของฉัน... มีสีฟ้าเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีน้ำมากกว่าพื้นดิน พื้นดาวก็จะมีสีเขียวจากต้นไม้ แล้วก็น้ำตาลจากพื้นดิน มีชั้นบรรยากาศที่ช่วยให้สิ่งมีชีวิตหายใจได้... เราอยู่กันแบบนั้น"
^เอริน่า:ยังกว้างเกินไป มีอะไรเด่นๆ กว่านี้ไหมที่จำได้?^
เมิ่งซินขมวดคิ้ว สายตาหรี่ลงราวกับกำลังดำน้ำในห้วงความทรงจำ เงียบไปพักใหญ่ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ
"เมิ่งซิน:ลักษณะเด่น... ลักษณะเด่นเหรอ? อะไรคือลักษณะเด่นของโลกกัน..."
จู่ๆเธอก็เบิกตากว้าง ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงกลางสมอง
"เมิ่งซิน:โลกของฉันไม่มีมานา! ไม่มีเวทย์มนต์ มีแต่สิ่งที่เรียกว่า เทคโนโลยี และ วิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ผู้คนดำเนินชีวิตได้!!!"
เสียงของเธอแฝงความตื่นเต้นปนความโล่งใจ ดวงตาเปล่งประกายวูบหนึ่งราวกับได้กลับไปเห็นโลกเดิมอีกครั้ง
^เอริน่า:...ดาวที่ไม่มีมานา งั้นเหรอ...^
หญิงสาวผมสีเงินเอียงคอน้อยๆ สายตาหรี่ลงอย่างใช้ความคิด
'เมิ่งซิน:เธอจะเข้าใจไหมเนี่ย... คำที่ฉันพูดไป มันล้วนเป็นศัพท์จากโลกทั้งนั้นเลยนี่นา'
ในขณะที่เมิ่งซินกำลังกลุ้มใจอยู่ในความคิดของตน เอริน่าก็เหลือบมองไปรอบๆ ก่อนจะตบมือเบาๆสองครั้ง
"แปะ แปะ"
เสียงนั้นดังกังวานราวกับมีเวทสะท้อนในอากาศ ก่อนจะมีหนังสือเก่า 4 เล่มลอยละลิ่วเข้ามาหาเธออย่างเป็นระเบียบ เอริน่าหันกลับมาทางเมิ่งซินแล้วเปิดหนังสือแต่ละเล่มให้ดูทีละหน้า—แต่ละหน้าเต็มไปด้วยภาพวาดของดวงดาวต่างๆ ที่มีรายละเอียดซับซ้อน
เมิ่งซินจ้องดูทีละเล่ม ใจเต้นถี่เมื่อเห็นเล่มที่สี่
"เมิ่งซิน:...เล่มที่สี่นั่นแหละ นั่นคือโลก ดาวของฉัน"
"จิมมี่:ไหน ข้าขอดูหน่อย"
จิมมี่บินเข้ามาใกล้ เอริน่าหันหน้าหนังสือให้ทั้งคู่อ่านได้ชัดๆ ดวงตาของทั้งคู่จับจ้องอยู่บนหน้ากระดาษที่ดูเก่าแต่กลับเต็มไปด้วยอักขระเรืองแสงจางๆ
"จิมมี่:ดาวเคราะห์ที่ 475711 หรือที่สิ่งมีชีวิตในดาวเรียกว่า โลก เป็นดวงดาวที่ถูกสร้างขึ้นโดยปราศจากมานา เพื่อเฝ้าดูว่าสิ่งมีชีวิตจะดำรงอยู่ได้หรือไม่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้น'..."
เขาหยุดไปชั่วครู่ เหมือนจะอึ้งในสิ่งที่อ่าน ก่อนจะพูดต่อ
"จิมมี่:ในตอนแรก ดาวดวงนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา จึงถูกจัดว่าไม่มีค่าอะไร และเกือบจะถูกทำลายทิ้ง... จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ใหญ่ที่คร่าชีวิตสิ่งมีชีวิตไปแทบหมดสิ้น ก่อนจะมีสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมา...'"
เขาเหลือบตามองเมิ่งซินเล็กน้อย ก่อนจะอ่านต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
"จิมมี่:สิ่งมีชีวิตกลุ่มนั้นคือ ฮิลแมนนอย ตอนแรกมีความสงสัยว่ามีเทพองค์ใดนำมันลงไป แต่ภายหลังการสอบสวนก็พบว่าไม่มีเทพองค์ใดเกี่ยวข้อง สรุปว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ จึงยกเลิกแผนทำลายและเปลี่ยนเป็นการเฝ้าติดตามแทน..."
เอริน่ารับช่วงต่อ ริมฝีปากขยับอย่างแผ่วเบาแต่ชัดเจน
^เอริน่า:หลังจากติดตามดูอยู่นานผู้ดูแลหอคอยพบว่าดวงดาวนี้... แม้ปราศจากมานา แต่กลับเต็มไปด้วย ศักยภาพ ความทะเยอทะยาน สัญชาตญาณและความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และแนวคิดใหม่ๆ จึงมีการเสนอให้นำโลกเข้าสู่โปรเจกต์ ᚾᛁᚢᛟᚱ ᛏᚺᚨᛚᛖᚱᛖᚾ^
"เมิ่งซิน:เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะบอกว่าพวกเราถูกจับตามองตลอดเหรอ!? จะบอกว่าที่ผ่านมาเราเป็นแค่... แค่การทดลองเหรอ!? ไม่จริง... ไม่จริงๆๆๆๆ!"
เมิ่งซินปฏิเสธมันสุดหัวใจ เสียงสั่นอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ความรู้สึกถาโถมจนแทบล้นทะลัก
"จิมมี่:ท่านเอริน่า ข้าว่า..."
^เอริน่า:ข้ารู้แล้ว^
—"เปะ!"—
เสียงดีดนิ้วดังขึ้น พร้อมกับที่เมิ่งซินทรุดตัวลงทันที หน้าจะกระแทกกับโต๊ะ แต่จิมมี่ชูมือขึ้น
"จิมมี่:Telekinesis"
เวทมนตร์ค่อยๆ ยกตัวเมิ่งซินขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะวางเธอลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา…ราวกับไม่อยากให้เธอต้องเจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้ว
^เอริน่า:มันคงเป็นความจริงที่เกินกว่าเธอจะรับได้^
"จิมมี่:ข้าก็ไม่คิดว่าเธอจะปฏิเสธมัน...ขนาดนี้เลยนะ"
^เอริน่า:...ข้าจะเปลี่ยนความทรงจำเธอ^
"จิมมี่:มันคงเป็นทางเดียวแล้ว"
^เอริน่า:ᛗᛁᚾᚾᛋᚲᛁᛈᛏᚨ^
แล้วเวทมนตร์รูนก็แผ่ประกายเรืองรองจากมือของเอริน่า...
มันค่อยๆ ลอยขึ้นแตะที่ขมับของเมิ่งซิน ก่อนจะซึมเข้าไปอย่างนุ่มนวล
ความทรงจำของเมิ่งซิน…กำลังถูก “เรียบเรียงใหม่”
เอริน่าใช้สิ่งที่อยู่ในหัวของเมิ่งซินนั่นแหละเป็นวัตถุดิบ เธอไม่โกหก—แต่เธอ จัดเรียงมันใหม่
ตัดบางอย่างออก
แต่งบางอย่างให้ดูนุ่มนวล
และใส่ "ฝันดีๆ" เข้าไปแทน "ฝันร้าย"
ระหว่างนั้น เธอกับจิมมี่ก็เผลอเงียบไป…จ้องจอภาพแห่งความทรงจำที่ค่อยๆ เลื่อนผ่านราวกับกำลังชมสารคดีชีวิต
"จิมมี่:ว้าว...ในดวงดาวที่ไม่มีมานา พวกเขาใช้ชีวิตกันแบบนี้เหรอ"
^เอริน่า:น่าสนใจจริงๆ โดยเฉพาะสิ่งที่พวกเขาใช้ในการเดินทาง...^
"จิมมี่:ดูสิ! สิ่งบันเทิงของพวกเขากับอาหารนั่น... พวกเขาไปไกลกว่าดาวอื่นๆ เยอะเลย"
^เอริน่า:ว้าว...น่าไปเยี่ยมชมจริงๆ^
พวกเขาใช้เวลาดูความทรงจำเหล่านั้นไปหลายชั่วโมง...
...และในช่วงเวลานั้นเอง เมิ่งซินก็หลับอยู่เงียบๆ
^เอริน่า:ถึงไม่รู้มันคืออะไรบ้างก็เถอะ แต่น่าสนใจสุดๆไปเลย^
"จิมมี่:...งั้นก็ให้เธอเป็นคนเล่าฟังเราไหมขอรับ แถมเรายังมีคริสตัลฉายภาพด้วย"
^เอริน่า:จริงด้วย ข้าลืมเจ้าคริสตัลฉายภาพไปได้ไง^
หลังจากพูดจบ เอริน่าก็เริ่มเปลี่ยนความทรงจำของเมิ่งซินจนเสร็จ และค่อยๆ ปลุกเธอขึ้นมา
"เมิ่งซิน:อืม... ข้อมูลที่พูดมาไม่ต่างจากที่ฉันรู้เท่าไหร่เลย"
เมิ่งซินลืมตาขึ้นมาทันที ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ความคิดของเธอถูกจัดเรียงใหม่อย่างรวดเร็วและนุ่มนวล
'เมิ่งซิน:โลกเป็นดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์... พวกเขาใช้ชีวิตโดยไม่มีมานา...'
สิ่งที่เมิ่งซินรับรู้ตอนนี้คือ โลกเป็นดาวเคราะห์หนึ่งที่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ พวกเขาไม่ได้ใช่มานา แต่ใช้วิทยาศาสตร์ในการดำเนินชีวิต มีวัฒนธรรมที่ซับซ้อนและหลากหลายชาติพันธุ์ ดาวเคราะห์นี้เป็นที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้ชีวิต
"จิมมี่:มีแค่นี้เอง ไม่รู้เลยมันเป็นยังไง"
เมิ่งซินฟังแล้วก็นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เมิ่งซิน:...ฉันก็อยากเล่าให้ฟังนะ แต่ไม่รู้จะนึกภาพตามออกไหม"
เสียงของเมิ่งซินแสดงถึงความไม่มั่นใจในคำพูดของตัวเอง ดูเหมือนเธอกำลังพยายามเรียบเรียงคำพูดในหัว
^เอริน่า:น่าเสียดายจริงๆ^
"จิมมี่:...จริงสิท่านเอริน่า เรามีคริสตัลฉายภาพนิท่าน"
เอริน่าที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆ หยุดคิดไปชั่วขณะ
^เอริน่า:จริงด้วย เดี่ยวข้าไปเอาสักครู่^
เอริน่าลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปหานไปหลังชั้นหนังสือมากมายที่อยู่ตรงนี้ เมิ่งซินที่เห็นก็รู้สึกสงสัยและหันไปถามจิมมี่
"เมิ่งซิน:จิมมี่ คริสตัลฉายภาพที่ว่าคืออะไรเหรอ"
จิมมี่ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคย
"จิมมี่:มันคืออุปกรณ์เวทย์มนต์ที่สามารถฉายภาพของคนที่แตะคริสตัลโดยที่ภาพที่ฉายจะเป็นภาพที่คนแตะนึกอยู่ขอรับ"
เมิ่งซินตื่นเต้นทันที ดวงตาของเธอฉายแววความสนใจ
"เมิ่งซิน:ว้าว ฟังดูน่าสนใจสุดๆ"
หลังจากผ่านไปสักพัก เอริน่าก็กลับมาพร้อมกับคริสตัลกลมสีรุ้งที่มีฐานรองรองอยู่ใต้ลูกแก้ว เธอเดินมาด้วยท่าทางสบายๆ แล้ววางมันไว้ตรงหน้าของเมิ่งซินอย่างระมัดระวัง
ในจังหวะนั้นเอง เมิ่งซินก็เผลอมองไปที่แขนของเอริน่า และสิ่งที่เธอเห็นก็ทำให้สายตาค้างอยู่ตรงนั้นชั่วครู่
ลวดลายอักขระแปลกตาปรากฏขึ้น ไล่จากใต้แขนไปถึงปลายนิ้วกลาง ก่อนจะวกขึ้นมาตามแนวแขนเข้าไปซ่อนอยู่ใต้เสื้อ
'เมิ่งซิน:เอ๊ะ… นั่นมัน... รอยสักเหรอ? ไม่สิ มันเหมือนตัวอักษรมากกว่า… แต่ฉันอ่านไม่ออกเลย…'
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่ความคิดอีกด้านหนึ่งก็โพล่งขึ้นมาอย่างเร็ว
'เมิ่งซิน:ฉันควรถามไหมนะ… แต่… ไม่ดีกว่า มันอาจจะเสียมารยาทเกินไปก็ได้…'
หลังจากวางลูกแก้วคริสตัลไว้ให้ เมิ่งซินแล้ว เอริน่าก็ยิ้มบางๆ แล้วกลับไปนั่งที่เดิมโดยไม่พูดอะไร
เมิ่งซินนั่งมองลูกแก้วตรงหน้า ก่อนจะกลืนน้ำลายเบาๆ
'เมิ่งซิน:ถึงจิมมี่จะบอกว่าให้แตะแล้วนึกภาพในหัวก็เถอะ… หวังว่าจะไม่มีอะไรแปลกๆโผล่มานะ…'
มือของเธอยื่นออกไปอย่างช้าๆ นิ้วแตะลงบนผิวเรียบเย็นของคริสตัลเบาๆ
เมิ่งซินหลับตา แล้วนึกถึงเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ของบริษัทของเธอ... ลำที่เธอเป็นผู้ดูแลมาตลอด
ทันใดนั้นเอง คริสตัลก็เปล่งแสงจางๆ ก่อนจะฉายภาพขึ้นกลางอากาศ... ภาพสามมิติแบบโฮโลแกรมของเรือขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นเด่นชัด มองเห็นรายละเอียดทุกอย่างตั้งแต่ตัวเรือยันตู้คอนเทนเนอร์
เมิ่งซินลืมตาขึ้น และเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เธอก็อึ้งไปทันที
'เมิ่งซิน:ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย… แบบนี้มันฉายเป็นภาพโฮโลแกรมเลยเหรอ… นี่มัน… เหนือกว่าที่โลกอีกไม่ใช่เหรอไง…'
เธอหันไปมองคริสตัลด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่ความสงสัยในใจเริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ...
เอริน่าที่มักจะนั่งก้มหน้าอย่างสงบ กลับเงยหน้าขึ้นช้าๆ เมื่อเห็นภาพโฮโลแกรมลอยอยู่กลางอากาศ สีหน้าเธอสะท้อนความสนใจอย่างชัดเจน
ส่วนจิมมี่เองก็อ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตื่นเต้น เขาเอียงหัวมองภาพนั้นรอบด้านราวกับกลัวจะพลาดรายละเอียดแม้แต่นิดเดียว
"จิมมี่:ท่านเมิ่งซิน ไอ้เรือใหญ่นี่มันคืออะไรขอรับ? ดูจากที่เห็นแล้ว มัน… มันใหญ่มากๆ เลยนะขอรับ!"
เมิ่งซินละสายตาจากภาพหันไปมองจิมมี่ ก่อนจะเริ่มอธิบาย
"เมิ่งซิน:มันเป็นเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่… เอาไว้ขนของไปขายที่ประเทศ…"
เธอหยุดนิดหนึ่ง ความคิดหนึ่งแล่นผ่านในหัวอย่างรวดเร็ว
'เมิ่งซิน:เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน… ถ้าพูดคำว่า “ประเทศ” พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจ… ใช้คำว่า “ดินแดนอื่นๆ” ดีกว่า…'
"เมิ่งซิน:…ดินแดนอื่นๆ น่ะ"
"จิมมี่:แล้วเรือใหญ่ขนาดนี้ ขนอะไรไปขายบ้างรึขอรับ?"
"เมิ่งซิน:ก็แล้วแต่ที่น่ะ… บางดินแดนขาดอาหาร ฉันก็ส่งอาหารไปขาย... ถ้าเป็นที่ที่ต้องสร้างเมืองใหม่ ก็จะส่งพวกเครื่องมือก่อสร้าง หรือไม่ก็เครื่องจักร"
เสียงของเธอยังคงเรียบง่าย ไม่ได้ใส่อารมณ์อะไรมากนัก ทว่าจิมมี่กลับตั้งใจฟังราวกับฟังเรื่องเล่าจากตำนานเก่าแก่ ดวงตาเปล่งประกายคล้ายเด็กน้อยที่กำลังเปิดโลกในห้องเรียน
"จิมมี่:มีภาพของสิ่งที่ท่านส่งไปไหม? ข้าอยากเห็นว่ามันเป็นยังไง..."
"เมิ่งซิน:ได้เลย"
เธอยิ้มบางๆ พลางยื่นมือแตะคริสตัลอีกครั้ง จิตใจเริ่มจดจ่อไปยังภาพในความทรงจำ...
คราวนี้ เธอนึกถึงตอนที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาหารกระป๋องแห่งหนึ่งที่เป็นคู่ค้าหลักของบริษัท ภาพในหัวเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
"เมิ่งซิน:ที่นี่คือโรงงานผลิตอาหารต่างๆ เอาไว้ส่งไปยังดินแดนอื่นๆ"
ภาพที่ฉายกลางอากาศคราวนี้เปลี่ยนไป กลายเป็นภาพของเครื่องจักรขนาดใหญ่หลายชุดที่กำลังทำงานอย่างต่อเนื่อง เสียงกลไกหมุนดังเบาๆ ปลาถูกจัดเรียงลงในกระป๋อง ก่อนจะถูกเลื่อนต่อไปตามสายพานเข้าสู่ขั้นตอนการปิดผนึก ฉลาก และบรรจุลงกล่อง
จิมมี่และเอริน่ามองตาไม่กะพริบ ภาพที่พวกเขาเห็นช่างแปลกตาเกินกว่าจะจินตนาการได้
^เอริน่า:เจ้าผลิตเยอะขนาดนี้… ขายหมดงั้นรึ?^
"เมิ่งซิน:เอ่อ… จะว่าไงดีนะ…"
เธอคิดสักพัก ก่อนจะอธิบายต่ออย่างใจเย็น
"เมิ่งซิน:เราจะผลิตเท่าที่มีคำสั่งซื้อเท่านั้น ดังนั้นมันไม่มีของเหลือเก็บไว้เฉยๆ หรอก แต่คำสั่งซื้อแต่ละครั้งก็มหาศาลเลยล่ะ เพราะงั้นเราต้องใช้เครื่องจักรเหล่านี้ เพื่อให้ทำงานได้รวดเร็วและคุณภาพก็เท่าเดิมทุกกระป๋อง..."
เธอหยุดนิดหนึ่งก่อนจะเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นเล็กน้อย
"เมิ่งซิน:…แถมยังช่วยประหยัดค่าจ้างแรงงานได้มาก เพราะแค่มีคนดูแลเครื่องจักรไม่กี่สิบคน ก็สามารถผลิตได้เป็นหมื่นๆ กระป๋องในแต่ละวันแล้ว"
"จิมมี่:ท่านบอกว่า… ใช้แค่ไม่กี่สิบคน? ดูแลเครื่องจักรพวกนี้ทั้งหมดน่ะรึ?"
"เมิ่งซิน:ใช่แล้ว"
"จิมมี่:ว้าว... น่าสนใจจริงๆ..."
เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ เหมือนกำลังทบทวนโลกใบใหม่ที่เพิ่งได้เห็นครั้งแรก ส่วนเมิ่งซินก็ยังคงจ้องมองภาพในอากาศ เธอรู้สึกถึงความห่างไกล... ระหว่างโลกเก่ากับโลกใบใหม่นี้
'เมิ่งซิน:ถ้าพวกเขาได้ไปเห็นของจริง... จะตกใจขนาดไหนกันนะ'
"เมิ่งซิน:ท่านอยากดูอะไรอีกไหม ท่านเอริน่า?"
คำถามของเธอเปล่งออกมาอย่างสุภาพ เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความเต็มใจจะเปิดโลกให้พวกเขาได้เห็น
^เอริน่า:ก่อนหน้านี้… เจ้าส่งอย่างอื่นด้วยใช่ไหม? ข้าขอดูได้ไหม?^
"เมิ่งซิน:ได้เลยท่าน"
เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะจรดปลายนิ้วกับคริสตัลอีกครั้ง ความคิดย้อนกลับไปยังอีกสถานที่หนึ่งที่เธอเคยไปมาเมื่อไม่นานนี้—โรงงานหลอมเหล็ก
ทันทีที่ภาพเริ่มฉายกลางอากาศ ก็ปรากฏเครื่องจักรขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนเหล็กแท่งยักษ์ไปยังแท่นกลึง ก่อนที่หัวทุบขนาดใหญ่จะกระแทกลงมาด้วยเสียงดัง โครม! แม้เสียงจะถูกลดทอนจากการฉายภาพ แต่ความหนักแน่นของแรงยังสัมผัสได้จากแววตาของผู้ชม
"จิมมี่:ว้าว... การตีเหล็กของโลกท่านอลังการจริงๆ แล้วเหล็กเหล่านี้จะถูกนำไปสร้างดาบหรืออาวุธอะไรหรือไม่ขอรับ?"
เมิ่งซินชะงักเล็กน้อย เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ
'เมิ่งซิน:เดี๋ยวนะ… ฉันนึกว่าลูกแก้วนี่เป็นของที่นี่… เทคโนโลยีที่นี่น่าจะไปไกลแล้วสิ แต่จากคำถามของจิมมี่... พวกเขายังอยู่แค่ยุคที่ต้องใช้ดาบอยู่เลยงั้นเหรอ?'
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
"เมิ่งซิน:ไม่ๆ… เหล็กพวกนี้ไม่นำไปใช้ทำอาวุธหรอก มันถูกนำไปใช้ในงานก่อสร้างซะมากกว่า"
"จิมมี่:งานก่อสร้างหรือขอรับ? โลกของท่านสร้างอะไรกัน ถึงต้องใช้เหล็กเยอะขนาดนั้น?"
เมิ่งซินยิ้มเล็กน้อย คราวนี้ไม่ใช่เพราะความเอ็นดู แต่เพราะเธอรู้ว่า สิ่งที่พวกเขาจะได้เห็นต่อไป… มันจะเหนือกว่าทุกอย่างที่พวกเขาเคยจินตนาการ
เธอหลับตาลงชั่วครู่ ก่อนที่คริสตัลจะเริ่มฉายภาพความทรงจำ—ตึกระฟ้าอันตระการตาค่อยๆ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
กระจกเงาวับสะท้อนแสงอาทิตย์ อาคารสูงทะลุเมฆราวกับจะไปแตะฟ้า ชั้นบนสุดดูเลือนรางเพราะหมอกจางๆ ปกคลุมเอาไว้ บางชั้นมีสวนลอยฟ้าที่เขียวชอุ่ม บางชั้นประดับด้วยสถาปัตยกรรมล้ำยุคจนดูเหมือนงานศิลป์
"เมิ่งซิน:เหล็กเหล่านี้… ใช้สร้างสิ่งแบบนี้แหละ"
เสียงของเธอเบา แต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิ
^เอริน่า:ข้าเริ่มเข้าใจแล้ว… ยิ่งอาคารสูงเพียงใด ยิ่งต้องใช้วัสดุที่แข็งแรงมากขึ้น การใช้เหล็กสร้างอาคารเหล่านี้… ก็ดูสมเหตุสมผลดี^
"เมิ่งซิน:ถูกต้องแล้ว ท่านเอริน่า"
^เอริน่า:แต่มันก็ยังน่าเหลือเชื่ออยู่ดี... ที่พวกเจ้าสร้างสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จากเหล็กได้จริงๆ^
"จิมมี่:ข้าไม่รู้จะพูดยังไง… แต่มันช่าง... เหมือนฝันเลย…"
เมิ่งซินไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงยืนมองภาพตรงหน้าอย่างเงียบงัน ในใจเธอ... ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกที่สร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้จริง
จากผู้แต่ง
ช่วงสงกรานไม่ได้แต่งเลยทำให้ช้านิดหน่อยเพราะไม่ได้แต่งเลยตั้ง 3 วันเพราะสงกรานต์ส่วนหลังจากนี้ก็จะกลับมาลงปกติคือ 8-10 วันจะลง 1 ตอนจะพยายามลดให้เหลือ 7 วันให้ได้คัฟ แต่ไม่สัญญาน่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ