CHESS:พลิกกระดานเทพ
เขียนโดย TKFD
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 01.14 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 01.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
31) ตอนที่ 11.1 สัญชาตญาณผู้หญิง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ—6 ชั่วโมงต่อมา—
เมิ่งซินตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น เธอลุกขึ้นนั่งพลางเหยียดแขนเบาๆ ก่อนจะหยิบขวดน้ำและอาหารออกมากินอย่างสบายใจ ภายใต้บาเรียที่แผ่ออกมาจากผ้าห่ม
หลังจากกินเสร็จ เธอก็เก็บผ้าห่มอย่างระมัดระวัง และทันทีที่พับมันเรียบร้อย บาเรียก็หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่
"เมิ่งซิน:เปิดใช้งานฉายานักวิ่ง เปิดใช้งานเร่งความเร็ว เร่งความเร็ว 2 เท่า เพิ่มมูฟเมนต์ เพิ่มการตอบสนอง แล้วก็ ควบคุมลมหายใจ!"
เธอยืดตัว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
"เมิ่งซิน:ฟูล~~ เอาล่ะ... มาต่อกันเลย!"
สิ้นเสียง เมิ่งซินก็ออกตัววิ่งทันที ร่างของเธอพุ่งทะยานไปตามเส้นทางด้วยความเร็วที่แม้แต่นกยังต้องหลีกทาง ระหว่างทางเธอเจอมอนสเตอร์บ้างประปราย แต่ไม่มีตัวไหนไล่ตามเธอทัน
ถึงจะมีโคลโบลบางกลุ่มที่พยายามตามหลังมา แต่ก็ต้องยอมแพ้ให้กับความเร็วและความอึดที่เหนือมนุษย์ของเธอในเวลาไม่นาน
เมิ่งซินก็วิ่งไปอีกประมาณ 6–7 ชั่วโมง โดยที่ไม่หยุดพักแม้แต่น้อย ร่างของเธอเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่มั่นคงตลอดเส้นทาง จนในจังหวะหนึ่ง... หางตาของเธอกลับสะดุดกับบางสิ่งที่วูบผ่านมาทางด้านซ้าย
'เมิ่งซิน:เอ๊ะ...? เมื่อกี้เหมือนจะเห็นอะไรแว่บๆ ทางซ้าย... ฉันควรจะไปดูดีไหม หรือจะวิ่งต่อไปเลยดี'
เธอยังคงวิ่งไปข้างหน้า แต่ใจกลับเริ่มลังเล ความเร็วที่เคยสม่ำเสมอเริ่มมีจังหวะสะดุดเล็กน้อย... ไม่ใช่เพราะร่างกาย แต่เป็นเพราะความรู้สึกบางอย่างในใจที่เริ่มรบกวนเธอ
'เมิ่งซิน:...นี่มันอะไรกัน ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับ... ฉันกำลังจะพลาดบางสิ่งที่สำคัญมากไป... หรือว่านี่คือ... สัญชาตญาณ?'
ปลายเท้าชะงัก ร่างของเธอหยุดลงชั่วครู่ หันกลับไปมองเบื้องหลังอย่างไม่รู้ตัว...
เมิ่งซินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเบนตัวกลับและเริ่มวิ่งย้อนกลับไปทางเดิม เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องย้อนกลับมา แต่หัวใจมันบอกว่า...เธอควรทำ
ไม่กี่อึดใจ เธอก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าสิ่งที่สะดุดหางตาเธอก่อนหน้านี้ และสิ่งนั้นก็คือประตูไม้สีขาวซึ่งดูไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมรอบข้างแม้แต่น้อย มันตั้งอยู่ราวกับไม่ควรอยู่ตรงนั้น
เมิ่งซินมองดูรายละเอียดก็เห็นว่าขอบประตูเป็นไม้เช่นเดียวกัน แต่กลับประดับด้วยลวดลายสีทองที่แวววาว แถมยังมีลายแกะสลักวงกลมขนาดใหญ่กลางบานประตูดูโดดเด่น ในวงกลมนั้นมีภาพมือสองข้างยื่นออกมารองรับหนังสือเล่มหนึ่งที่ลอยอยู่เหนือฝ่ามือราวกับกำลังรับพรจากฟากฟ้า
เมิ่งซินจ้องมันราวกับต้องมนตร์ สีขาวบริสุทธิ์ของบานประตูตัดกับสีทองหรูหราอย่างลงตัวราวกับชิ้นงานศิลป์ระดับสูง มันทั้งสวยงาม... และน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน
"เมิ่งซิน:ว้าว..."
เสียงนั้นหลุดออกมาจากปากอย่างไม่ตั้งใจ ในดวงตาของเธอมีทั้งความตื่นตา... และความอยากรู้ที่เริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย
'เมิ่งซิน:ฉันไม่เคยเห็นประตูแบบนี้มาก่อนเลย... ทั้งสวยงามและดูสูงส่ง มันคืออะไรกันแน่'
ความสงสัยผลักดันมือของเธอให้ยื่นไปแตะที่ประตู—เบาๆ อย่างเกรงใจ และในขณะที่ปลายนิ้วสัมผัสถึงเนื้อไม้เรียบเย็นนั้น...
"แกร๊บ..."
เสียงกลไกภายในบางอย่างดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่บานประตูจะเปิดออกอย่างช้าๆ
แสงไฟอ่อนๆลอดออกมาจากภายใน ราวกับเชิญชวนให้เธอก้าวเข้าไป
เบื้องหน้าของเมิ่งซินคือห้องโถงกว้างที่เต็มไปด้วย ชั้นหนังสือ สูงตระหง่านเรียงรายจรดเพดานที่มองไม่เห็นสุดสายตา ราวกับโลกอีกใบที่ซ่อนอยู่หลังบานประตูเดียว
เธอชะงักค้าง ยืนอยู่ที่ธรณีประตู ดวงตากวาดมองไปรอบ ๆ อย่างระวัง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหัวใจเต้นแรง
'เมิ่งซิน:...ชั้นหนังสือตรงหน้านี่มันคืออะไรกันแน่ ทั้งสูง ทั้งยาว เหมือนไม่มีที่สิ้นสุดเลย...'
บรรยากาศภายในเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจของเธอที่สะท้อนกับความกว้างใหญ่จนได้ยินชัด ราวกับสถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีไว้ให้ใครเข้ามาง่ายๆ
เมิ่งซินยังไม่ก้าวเข้าไป เธอยังคงยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยหัวใจที่สั่นไหว... ดวงตาจับจ้องไปข้างหน้าด้วยตื่นเต้น... และหวาดระแวงในคราวเดียวกัน
ภาพตรงหน้ามันช่าง... เหนือจินตนาการ จนเมิ่งซินไม่อาจหาคำใดมาอธิบายได้
ขาของเธอหยุดนิ่งอยู่ตรงธรณีประตูไม่ขยับ ไม่เดินเข้าไป ไม่ถอยออกมา ดวงตายังคงจับจ้องภาพตรงหน้า ขณะที่ภายในใจเต็มไปด้วยคำถามและความลังเลปะปนกัน
'เมิ่งซิน:ฉะ-ฉันควรทำยังไงดี... ควรเข้าไปไหม...'
เธอกัดริมฝีปากเบาๆ พลางหลุบตามองพื้นอย่างใช้ความคิด... เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนน่าแปลกใจ หรือเพียงแค่ในใจเธอรู้สึกเช่นนั้น?
จนในที่สุด... เธอก็ตัดสินใจ
'เมิ่งซิน:...ไม่...ไม่ ฉันไม่ได้มาเพื่อสำรวจ... ฉันมาเพื่อช่วยอากิ ฉันต้องไปแล้ว'
น้ำเสียงในใจฟังดูเด็ดเดี่ยว แต่ลึกๆ ก็ยังมีบางอย่างที่สะกิดอยู่ไม่หาย
เมิ่งซินสูดหายใจลึก ข่มอารมณ์ทั้งหมด แล้วหมุนตัว เตรียมจะออกวิ่งอีกครั้ง
ทว่าในจังหวะที่เท้าเพิ่งจะยกขึ้นความรู้สึกประหลาดนั้น... ก็กลับมาอีกครั้ง
'เมิ่งซิน:!!!ความรู้สึกนี้อีกแล้ว... เหมือนเดิมเป๊ะ แต่ครั้งนี้มันแรงกว่าครั้งไหนๆ! ฉันจะปล่อยมันไว้เฉยๆ ไม่ได้แน่... ฉันควรเข้าไปใช่ไหม?'
สัญชาตญาณของเธอเริ่มส่งเสียงชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ กระซิบอยู่ในใจว่า
—"อย่าทิ้งมันไป..."—
ราวกับบางสิ่งที่มองไม่เห็นกำลังเรียกหาเธอจากเบื้องลึกของสถานที่แห่งนี้
เธอมองเข้าไปอีกครั้ง ลมหายใจสั่นนิดๆ ด้วยความลังเล... ก่อนจะกำมือแน่นแล้วพยักหน้าให้ตัวเองเบาๆ
'เมิ่งซิน:มีหลายครั้งแล้วที่ฉันรู้สึกแบบนี้... และมันก็ไม่เคยพาฉันไปสู่เรื่องไม่ดีเลย... ถ้าอย่างนั้น...'
'เมิ่งซิน:ฉันจะเชื่อมันอีกครั้ง!'
เมิ่งซินก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปภายใน ความรู้สึกแรกที่พุ่งเข้ามาคือความเวิ้งว้างของพื้นที่ตรงหน้า
ที่นี่กว้างขวางจนแทบไม่เห็นจุดจบ ชั้นหนังสือสูงเสียดเพดานเรียงรายซ้อนกันหลายชั้น บางชั้นดูเหมือนจะล่องลอยอยู่กลางอากาศ บางชั้นซ่อนตัวในเงามืดของทางเดินด้านหลัง
เธอหมุนตัวช้าๆ มองสำรวจอย่างทึ่งในความอลังการนั้น โดยไม่ทันสังเกตเลยว่า... ประตูที่เธอเพิ่งผ่านเข้ามา กำลังเคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบ
—"ครืดดดดด..."—
เสียงดังขึ้นจากข้างหลัง ก่อนจะตามมาด้วยเสียง
—"ปึ้ง!"—
เมิ่งซินหันขวับกลับไปมองอย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นประตูที่เคยเปิดอ้า... ปิดสนิทไปแล้ว
"เมิ่งซิน:เห้ย! เดี๋ยว!"
เสียงร้องของเธอดังลั่นในความเงียบ
เมิ่งซินรีบตรงเข้าไปพยายามเปิดประตู แต่สิ่งที่พบกลับทำให้เธอชะงัก… ประตูนี้ไม่มีที่จับ ไม่มีร่อง ไม่มีลูกบิด มีเพียงผิวไม้เรียบเนียนล้อมกรอบด้วยทองคำ
เธอเคาะ ใช้ฝ่ามือดัน ใช้แรงผลักเท่าที่จะมี แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร... ประตูก็ไม่ไหวติง
พยายามอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งแรงกายและความพยายามในตัวเริ่มลดลง... เมิ่งซินจึงค่อยๆ ผ่อนมือแล้วถอยออกมา
เธอหันกลับไปเผชิญกับห้องขนาดมโหฬารอีกครั้ง รอบตัวเธอเต็มไปด้วยความเงียบและกลิ่นของกระดาษเก่า
“เมิ่งซิน:…”
ดวงตาของเธอไล่มองไปยังแสง จากโคมไฟแขวนบนเพดานสูงและชั้นหนังสือ
จนความเงียบที่ยืดยาวเริ่มทำให้เธอรู้สึกอึดอัด เมิ่งซินนั้งอยู่หน้าประตูนิ่งๆ อย่างหมดหนทาง จนกระทั่งเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
“เมิ่งซิน:เออ... ฉันควรทำไงดี อยู่มาตั้งนานแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย… หรือฉันควรเดินสำรวจดี?”
เสียงพึมพำของเธอแผ่วเบา แต่ก็ชัดพอที่จะเตือนตัวเองให้ตื่นจากอาการนิ่งงัน
เมิ่งซินสูดลมหายใจลึก ๆ พยายามรวบรวมสติและความกล้าให้มากที่สุด ก่อนจะตัดสินใจก้าวเดินเข้าไปในทางเดินที่ทอดยาวอยู่ตรงหน้า
เธอระวังทุกก้าว เดินช้าๆ ไม่เร่งรีบ ไม่เอื้อมแตะชั้นหนังสือหรือสิ่งของใดๆ ข้างทาง และพยายามอยู่ตรงกลางทางเดินไว้เสมอ ราวกับกลัวว่าการเฉออกจากเส้นทางจะปลุกบางสิ่งขึ้นมา
'เมิ่งซิน:ก็คิดมาสักพักใหญ่ๆแล้วว่าที่นี่อาจเป็นห้องสมุด เพราะมีทั้งชั้นหนังสือและหนังสือเยอะมาก... แบบนี้แปลว่าต้องมีคนดูแล หรืออะไรบางอย่างที่ดูแลอยู่ใช่ไหม...'
พอความคิดนั้นผุดขึ้นมาในหัว ร่างของเมิ่งซินก็เย็นวาบในทันที ขนอ่อนทั่วตัวลุกชัน ความรู้สึกวูบหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากท้ายทอยไล่ขึ้นสู่ศีรษะ
"เมิ่งซิน:หวังว่าจะไม่ใช่ตัวอะไรแปลกๆนะ..."
เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ พร้อมกวาดตามองรอบด้านอย่างระแวดระวัง แต่สิ่งที่ตอบกลับมีเพียง... ความเงียบ
ความเงียบที่มากเกินไป มากจนเธอได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง
เสียงฝีเท้าเบาๆ ที่เหยียบพื้นพรมในทุกย่างก้าว
บรรยากาศอึดอัดเริ่มกดทับลงมาช้าๆ เมิ่งซินรู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง จนกระทั่ง...
—“ฟึ่บ”—
'เมิ่งซิน:นั่นเสียงอะไร!!!'
หัวใจเธอกระตุกวูบ เธอหยุดทุกการเคลื่อนไหวและเบาเสียงลงโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะตั้งใจฟังให้ดี... พยายามไม่หายใจแรงจนเกินไป
—“แกรก...”—
"เมิ่งซิน:..."
เธอไม่พูดอะไรอีก สายตากวาดมองซ้ายขวาอย่างช้าๆ ปลายนิ้วแนบเข้าหากันแน่นโดยไม่รู้ตัว
—"ฟึ่บ..."—
'เมิ่งซิน:...เสียงมาจากด้านขวา... เหมือนเสียงเปิดหน้ากระดาษเลย'
ด้วยความสงสัยที่มากกว่าความกลัว เมิ่งซินค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้แหล่งต้นเสียง ก้าวย่างของเธอเบาเสียจนแทบไม่มีเสียงใดเล็ดลอด มือทั้งสองยกขึ้นประคองตัวขณะก้มย่อตัวลง คืบคลานช้าๆ เข้าไปหลังชั้นหนังสือที่เรียงซ้อนเป็นแนวยาว
เธอแอบอยู่ด้านหลัง แล้วค่อยๆ โน้มศีรษะออกมามองผ่านช่องว่างแคบระหว่างหนังสือ
ดวงตาสีเข้มเบิกกว้างทันทีที่เห็น...
มีบางสิ่ง...
บางสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ กำลังยืนอยู่กลางห้อง
แต่สิ่งนั้นสูงมาก... สูงเกือบ 2 เมตรครึ่ง
ร่างกายสูงผิดธรรมชาติ กำลังยืนอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ในความเงียบสงัด
เมิ่งซินรีบดึงศีรษะกลับทันที ร่างทั้งร่างแนบกับชั้นหนังสือ มือหนึ่งปิดปากตัวเองแน่น
หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ หายใจแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
'เมิ่งซิน:มีรูปร่างเหมือนคนเลย... แต่สูงกว่ามากๆเลย ฉันควรทำยังไงดี... ฉันควรทำไงดี...'
ความกลัวเริ่มกัดกินสติ ร่างกายเธอสั่นเล็กน้อยโดยไม่ตั้งใจ ความรู้สึกเหมือนเลือดไหลย้อนกลับปะทะกับอกและสมอง
หายใจของเมิ่งซินเริ่มถี่... และถี่ขึ้นเรื่อยๆ
เธอพยายามกดมันไว้ พยายามสงบใจ
แต่ไม่ไหว...
'เมิ่งซิน:มะ... มันเกิดอะไรขึ้น... ทำไมฉันควบคุมตัวเองไม่ได้...'
เสียงหายใจของเมิ่งซินเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ดังจนทะลุไปทั่วห้องสมุดที่เงียบสงัด และแน่นอนว่าผู้หญิงร่างสูงคนนั้นได้ยิน
^???:!^
เธอหยุดอ่าน ก่อนจะเริ่มเดินเข้ามา
“คล็อก... คล็อก...”
เสียงส้นสูงกระทบพื้นดังแหลม แทรกความเงียบจนเหมือนเสียงมันกรีดลงในหู เมิ่งซินที่ได้ยินพยายามจะขยับหนี แต่ร่างกายกลับไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว เธอยืนแข็งอยู่ตรงนั้น ราวกับถูกตรึงไว้
เสียงก้าวเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ... ใกล้จนในที่สุด หญิงสาวคนนั้นก็ยืนอยู่ข้างๆเธอ
เมิ่งซินก้มมองเห็นชายชุดเดรสสีฟ้า ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้น... ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าเธอสวยเกินบรรยาย ผิวขาวผ่อง ผมยาวลื่นไหลสีฟ้าอ่อน... และสิ่งที่เมิ่งซินไม่สามารถละสายตาได้เลย คือดวงตาของเธอ
ตาสีทองลึกเหมือนบึงน้ำขุ่นข้นที่ขยับเคลื่อนไหวตลอดเวลา ขอบตาที่ควรจะเป็นสีขาวกลับกลายเป็นสีดำสนิท
เพียงแค่มองสบตา...
ความทรงจำต่างๆ ก็ถาโถมเข้ามาในหัวเมิ่งซิน ภาพเหตุการณ์ลามกทั้งหมดที่เธอเคยผ่านมา ผุดขึ้นราวกับหนังม้วนย้อนกลับ
แต่มันไม่ใช่แค่
—“เห็น”—
เพราะความรู้สึกจากตอนนั้นทั้งหมดมันถูกถ่ายทอดมาที่เธอในตอนนี้ความเสียว ความกระสัน ทุกอย่างชัดเจนจนร่างกายเธอเกร็ง น้ำหล่อลื่นพุ่งออกมาจนกางเกงเปียกชุ่ม
...แต่มันยังไม่หยุด
ความทรงจำอื่นๆ ก็เริ่มไหลเข้ามา ทั้งหมดซ้อนทับกันวินาทีต่อวินาที ราวกับเครื่องฉายภาพที่เสียจนตัดไม่ได้
เพียงแค่ 3 วินาทีที่เธอสบตา สมองก็เหมือนจะระเบิด ในวินาทีที่ 4 และ 5 เลือดก็เริ่มไหลออกจากหู จากจมูก จากตา จากปาก หน้าอกก็เจ็บจนแทบทนไม่ไหว
...แต่เธอก็ยังขยับไม่ได้ และละสายตาไม่ได้
ผู้หญิงร่างสูงมองเธอนิ่งๆ ก่อนจะหลับตาลง
ทันใดนั้น ทุกอย่างก็หยุดลง เมิ่งซินทรุดฮวบลงกระแทกพื้น พร้อมกับความเงียบที่กลับคืนมาอีกครั้ง
^???:อ็า อ็าๆๆๆ §§£$§$§∆℅###/!?*!"&-+&฿#&฿-+)@(+฿^
[ระบบ: พบภาษาใหม่ ใช้งานสกิลแปลภาษาโดยอัตโนมัติ]
^???:อ็า อ็าๆๆๆ ฉันควรทำไงดี... ไม่มีใครเข้ามาที่นี่นานแล้ว ฉันเลยไม่ได้พกผ้าปิดตา! จะทำไงดีเนี่ย!?
หญิงร่างใหญ่ที่เห็นเมิ่งซินทรุดลงไปกับพื้น เลือดไหลออกจากตาและจมูก ปากและหู เธอถึงกับลนลาน ก่อนจะตะโกนเรียกหาบางสิ่ง
!!!^???:จิมมี่! มานี่ เดี๋ยวนี้!!^!!!
'เมิ่งซิน:ตัวใหญ่ขนาดนั้น... แต่ทำไมเสียงน่ารักจัง'
เสียงสุดท้ายที่เมิ่งซินได้ยินก่อนจะหมดสติ คือเสียงของหญิงคนนั้น...
เสียงที่นุ่มนวล น่ารัก และเต็มไปด้วยความอ่อนโยนอย่างเหลือเชื่อ
...แต่เมิ่งซินก็ได้ยินเพียงสองประโยคเท่านั้น ก่อนจะหลับไป
—2 ชั่วโมงผ่านไป—
"???:ให้เธอกินโพชั่นไปแล้ว ไม่นานคงฟื้นคืนสติ"
^???:นางจะไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม...^
"???:ถ้าเป็นอะไรขึ้นมา ก็คงเป็นความผิดของท่านนั่นแหละ เพราะท่านไม่พกที่ปิดตาไปด้วย"
^???:ข้าจะไปรู้เหรอว่าวันนี้จะมีคนมา! ข้าอยู่ที่นี่มาตั้งหลายร้อยปีแล้วนะ นี่มันเพิ่งเป็นครั้งที่สี่เองที่มีคนหลุดเข้ามาแบบนี้!^
"???:ไม่ว่ากี่ปีก็ตาม ข้าอยากให้ท่านพกที่ปิดตาไว้... หรือข้าควรทำที่คาดเอวไว้สำหรับเก็บผ้าปิดตาท่านดี?"
^???:อืม... เป็นความคิดที่ดีเลย แต่ทำไมไม่ทำตั้งแต่แรกล่ะ?^
"???:ถึงข้าจะทำไป คนรักสวยรักงามแบบท่านจะใส่รึ?"
^???:ใส่สิ! ทำไมข้าจะไม่ใส่!^
"???:อ้อเหรอ~~~"
เสียงยานคางลากยาวอย่างจงใจยั่วเย้า พร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่แม้จะมองไม่เห็นก็รับรู้ได้จากน้ำเสียง
^???:นี่! อย่ามาทำน้ำเสียงแบบนั้นน่ะ!^
น้ำเสียงเริ่มแหลมขึ้นอย่างหงุดหงิดปนเขิน
"???:บู้ๆๆๆ"
เสียงล้อเลียนแบบพร้อมทำท่ากวนประสาทอยู่ไกลๆ
^???:นี้ลงมานี้เลยนะ!^
เธอเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนใส่เพดานด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ในขณะที่หญิงร่างโตยังยุ่งอยู่กับการไล่จับเพื่อนของเธอ เมิ่งซินก็ค่อยๆ รู้สึกตัว
"เมิ่งซิน:มันเกิดอะไรขึ้น..."
เธอค่อยๆ ขยับตัว ลุกขึ้นนั่งช้าๆ ด้วยท่าทีระมัดระวัง กลิ่นหอมของชาสมุนไพรลอยมากระทบจมูกจางๆ ทำให้เธอหันไปมอง
รอบตัวเธอมีโซฟานุ่มสี่ตัวล้อมรอบโต๊ะน้ำชาที่จัดเรียงอย่างสวยงามอยู่ตรงกลาง ห้องที่เธออยู่มีลักษณะกลมเหมือนโดม และหนังสือจำนวนมหาศาลที่รายล้อมทุกทิศทางก็ยังคงอยู่ เหมือนเดิม แต่...ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว
มันเป็นศูนย์กลางของที่นี่... เมิ่งซินรู้สึกได้
เธอหันมองไปรอบๆ ด้วยดวงตาเป็นประกายความตื่นเต้นผสมกับความสงสัย
แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากข้างหลัง
"กึก! กึก! กึก!"
เสียงฝีเท้าหนักที่เร่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ใกล้เข้ามาทุกที
เมิ่งซินที่ได้ยินก็รีบทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง แล้วแกล้งหลับอย่างแนบเนียน ใจเต้นถี่อย่างควบคุมไม่อยู่
เสียงฝีเท้าไม่หยุด มันวนไปรอบๆ โซฟาที่ล้อมโต๊ะน้ำชาอยู่ วนไปราวกับตามหาอะไรบางอย่าง
"กึก! กึก! กึก!"
จังหวะฝีเท้ากระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ... จนในที่สุด มันก็หยุดลงตรงหน้าเธอ
^???:ข้าจับได้แล้ว! เจ้าไม่รอดแน่!^
'เมิ่งซิน:เอ๊ะ!? ฉันโดนจับได้แล้วเหรอว่าแกล้งหลับ!?'
เมิ่งซินสะดุ้งในใจ เลือดในกายไหลย้อนชั่วขณะ แต่เธอก็รีบเก็บอาการ พยายามนอนนิ่งให้แนบเนียนที่สุดแม้กล้ามเนื้อจะเกร็ง
เธอได้ยินเสียงฝีเท้าขยับเข้ามาใกล้อีกนิด... ลมหายใจของเธอเกือบจะหลุดเสียงดัง
"???:อย่าทำข้าเลย ท่านเอริน่า..."
เสียงสั่นพร่าและหวาดหวั่นที่แว่วเข้าหูเมิ่งซินทำให้หัวใจเธอกระตุกวาบ
^???:โดนนี่!^
"???:อ็ากกก~~~"
เสียงร้องโหยหวนปนแปลกประหลาดดังลั่นห้อง
'เมิ่งซิน:พวกเขาทำอะไรกัน... แล้วทำไมต้องทำต่อหน้าฉันด้วย! ฉันจะลืมตาดูก็ไม่ได้!'
หลังจากเสียงร้องเงียบลง ความเงียบก็เข้าปกคลุมอีกครั้ง
ไม่นานนัก เธอได้ยินเสียงฝีเท้าเคลื่อนไปด้านหน้า ตามด้วยเสียงเลื่อนเก้าอี้และมีคนนั่งลง
"กึก... กึก... ซึบ... ซับ..."
'เมิ่งซิน:เสียงเดินไปด้านหน้า... หรือว่าไปนั่งที่โต๊ะน้ำชานั่นแล้ว?'
ขณะที่เมิ่งซินกำลังนึกภาพตามในหัว เสียงลมหรืออะไรบางอย่างก็เคลื่อนเข้ามาใกล้หูเธออย่างกะทันหัน
"ฟึบๆๆๆๆ"
'เมิ่งซิน:เอ๊ะ!? เสียงอะไร!? เหมือนมีอะไรมาบินอยู่ใกล้หูเลย!'
เธอเกร็งตัวเล็กน้อย กลั้นหายใจเอาไว้แทบไม่ไหว ร่างกายอยากสะบัดหนี แต่สัญชาตญาณบอกให้
—“อยู่นิ่งไว้!”—
ในจังหวะที่เมิ่งซินกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นใกล้หูอย่างสุภาพ
"???:ท่านหญิงเอริน่า ขอเรียนเชิญท่านไปดื่มน้ำชา โปรดลุกขึ้นเถิด"
'เมิ่งซิน:พวกเขารู้แล้วว่าฉันแกล้งหลับ... แกล้งนิ่งต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ'
เมิ่งซินค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างระมัดระวัง ก่อนจะลืมตาช้าๆ
สิ่งที่ปรากฏในสายตา คือหญิงสาวร่างใหญ่ในชุดเดรสสีฟ้าอ่อน ตัดกับผิวขาวซีดอย่างงดงาม หมวกใบใหญ่ปกคลุมผมยาว และที่สำคัญที่สุด—ดวงตาของเธอถูกปิดไว้ด้วยผ้าคาดตาสีเดียวกับชุด
เมิ่งซินเผลอมองอย่างลืมตัว ใบหน้าอีกฝ่ายมีริมฝีปากบางสีฟ้าอ่อน ใบหูสั้นแต่แหลมเล็ก บ่งบอกว่าเธอไม่ใช่มนุษย์
หญิงตัวโตรู้สึกถึงสายตานั้น เธอเอื้อมมือขึ้นขยับหมวกกดลงต่ำราวกับต้องการปิดบังใบหน้า
เมิ่งซินรีบเบือนหน้าหลบด้วยความรู้สึกผิด
'เมิ่งซิน:ฉันคงจะจ้องเธอมากเกินไป... น่าอายจัง'
ขณะที่เมิ่งซินกำลังหลบสายตาอย่างเขินอาย ก็มีอะไรบางอย่างลอยผ่านหน้าเธอไปทางซ้ายด้วยความเร็วเบาๆ ราวกับกลีบดอกไม้ที่ปลิวตามลม เธอรีบหันไปมองทันที
สิ่งที่เห็นทำให้เธอต้องเบิกตากว้างคือมนุษย์ตัวเล็กเท่าฝ่ามือมีปีกบางใสเหมือนปีกผีเสื้อ กำลังบินวนอยู่รอบโต๊ะน้ำชา เขาสวมชุดพ่อบ้านอย่างเรียบร้อย และท่าทางก็ดูสุภาพอย่างน่าประหลาด
"เมิ่งซิน:..."
เธอพูดไม่ออก ได้แต่จ้องมองอย่างอึ้งๆ มนุษย์จิ๋วคนนั้นบินไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามหญิงตัวสูง แล้วจัดมันให้เข้าที่อย่างเชี่ยวชาญ ถึงจะตัวเล็กขนาดนั้น แต่กลับยกเก้าอี้ได้อย่างไม่มีปัญหา แถมยังยกกาน้ำชาและถ้วยน้ำชาอย่างคล่องแคล่วราวกับไม่มีน้ำหนักเลย
'เมิ่งซิน:ตัวเท่าฝ่ามือเอง แต่คล่องแคล้วจัง... แถมแรงเยอะด้วย...'
ขณะที่เมิ่งซินยังมองตามอย่างตะลึง หญิงตัวโตก็ลอบเหลือบมองเธอจากใต้หมวกอย่างเงียบๆ ไม่พูดอะไร มีเพียงรอยยิ้มบางๆ ที่แต้มบนริมฝีปากของเธออย่างบางเบา
จนในที่สุด ที่นั่งสำหรับเมิ่งซินก็จัดเสร็จเรียบร้อย
"???:เชิญขอรับคุณผู้หญิง"
เสียงเรียกพยักหน้าตอบเบาๆอย่างงงๆ เธอลุกขึ้นและเดินไปนั่งลงตามคำเชิญ
ทันทีที่เธอนั่งลง มนุษย์ตัวเล็กที่มีปีกผีเสื้อก็ลอยเข้ามาอย่างคล่องแคล่ว เขารินน้ำชาให้เมิ่งซินอย่างนุ่มนวล ก่อนจะหันไปรินให้หญิงสาวตัวใหญ่ จากนั้นเขาก็กลับมาลอยนิ่งอยู่ข้างๆเธอ ราวกับพ่อบ้านส่วนตัวที่รอคำสั่ง
หญิงตัวใหญ่ค่อยๆยกถ้วยชาขึ้นด้วยมือขวา เตรียมจะจิบอย่างเงียบงัน
*^ฟู~^*
เธอเป่าลมเบาๆใส่ขอบถ้วยอย่างเผลอตัวด้วยความเคยชิน ราวกับลืมไปว่านี่ไม่ใช่เวลาส่วนตัวของเธอ
มนุษย์ตัวเล็กที่เห็นแบบนั้นก็ลอยเข้าไปกระซิบข้างใบหูของหญิงร่างโตอย่างแผ่วเบา
"???:ท่านเอริน่า งานเลี้ยงน้ำชาแบบนี้... อย่าเป่าสิครับ มันเสียมารยาทนะขอรับ"
หญิงสาวชะงัก... ดวงตาที่อยู่ใต้ผ้าปิดตาเบิกน้อยๆก่อนจะรีบเบือนหน้าไปอีกทางทันที มือที่ถือถ้วยชาก็ลดต่ำลงเล็กน้อยราวกับกำลังตั้งหลัก
'เอริน่า: ข้าทำอีกแล้ว... ลืมตัวอีกแล้ว...'
เอริน่ารู้ตัวทันทีที่เป่าชาออกไปโดยไม่คิด หน้าเธอร้อนวาบในพริบตา ถึงจะไม่เห็นภาพสะท้อนในถ้วย แต่ก็รู้ได้เลยว่าใบหน้าของตัวเองต้องแดงก่ำแน่ๆ
เธอรีบก้มหน้าลงทันที ให้หมวกใบใหญ่บดบังสีหน้าของตัวเองไว้ให้มากที่สุด
เมิ่งซินที่ไม่ได้จ้องตรงๆอยู่ในตอนนั้นก็เลยไม่ทันสังเกตอะไรเป็นพิเศษ เธอกำลังเงียบคิดอะไรบางอย่าง...
"เมิ่งซิน:ถ้าจำไม่ผิด... ตอนฉันไปอังกฤษ เคยมีงานน้ำชาอยู่... ฉันต้องรอให้เจ้าภาพดื่มก่อนใช่ไหมนะ?"
เธอพึมพำเบาๆกับตัวเอง พลางหันกลับไปมองถ้วยชาตรงหน้าอย่างลังเล
ในจังหวะนั้นเอง เอริน่าก็ยกถ้วยขึ้นจิบอย่างเงียบๆ เธอไม่ได้ส่งเสียงเป่าอีกแล้ว และทุกอย่างดูเรียบร้อยขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
เมิ่งซินที่เห็นจังหวะนั้น ก็ยกถ้วยชาของตัวเองขึ้นอย่างระมัดระวัง
นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลางจับหูถ้วยไว้มั่น ส่วนที่เหลือประคองก้นถ้วยอย่างแผ่วเบา ก่อนจะจิบเล็กๆช้าๆ เหมือนกับสิ่งที่เคยเรียนรู้มา
'เมิ่งซิน: หวังว่าจะไม่ดูตลกนะ...'
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชาค่อยๆ ลอยเข้าจมูก ราวกับปลอบใจให้หัวใจที่เพิ่งเต้นแรงเมื่อครู่ค่อยๆ สงบลง
ความเงียบรอบตัวที่เคยดูน่าอึดอัดก็พลันเปลี่ยนเป็นเงียบสงบอย่างน่าประหลาด...
เมิ่งซินยิ้มบางๆ ก่อนจะค่อยๆ ยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างเบามือ
ทว่า
"เมิ่งซิน:ร้อน...!"
เธอรีบเบือนหน้าหนีพลางวางถ้วยลงทันที พยายามไม่ให้เสียงกระทบดังเกินไป
'เมิ่งซิน:ฉันน่าจะรอให้เย็นกว่านี้...'
เมิ่งซินพึมพำในใจอย่างเขินๆ ก่อนจะหลบตาแล้วก้มหน้าลงมองตักตัวเองเหมือนเด็กที่เพิ่งทำอะไรผิด
;^เอริน่า:นางเป็นอะไรไป? ทำไมถึงก้มหน้าลงแบบนั้นล่ะ...^;
;"พ่อบ้าน:ก็ท่านเล่นเงียบอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้น่ะสิครับ เธอก็อึดอัดเป็นเหมือนกันนะ พูดอะไรบ้างสิครับ!"
;^เอริน่า:แล้วจะให้ข้าพูดอะไรล่ะ... ข้าไม่ได้พูดคุยกับใครนอกจากเจ้ามา *147 ปี* แล้วนะ^;
;"พ่อบ้าน:โอเคๆ... ถ้างั้นเดี๋ยวข้าช่วยเปิดบทสนทนาให้เองก็ได้ครับ!"
หญิงสาวตัวใหญ่ที่เห็นเมิ่งซินก้มหน้าลง ก็ใช้เทเลพาทีส่งหามนุษย์ตัวเล็กที่อยู่ข้างๆเพื่อพูดคุย หลังจากสนทนากันอย่างเงียบๆ มนุษย์ตัวเล็กก็บินมาใกล้เมิ่งซินอีกครั้ง ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ
"???:ชาเป็นยังไงบ้างขอรับคุณผู้หญิง?"
'เมิ่งซิน:เขาเรียกฉันว่าคุณผู้หญิง! แล้วฉันต้องตอบแบบไหนถึงจะดูสุภาพดีล่ะ... คิดสิ เมิ่งซิน คิดเร็ว!'
"เมิ่งซิน:เอ่อ... หลังจากจิบไปเมื่อครู่ ชามีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์มากเลยค่ะ ฉันไม่เคยดื่มชาแบบนี้มาก่อนเลย"
"???:ขอบคุณสำหรับคำชมขอรับท่านหญิง"
—จากผู้แต่ง—
ก็จบแล้วสำหรับตอนที่ 11.1.1 แต่มีตอนที่ 11.1.2 น่ะเพราะเนื้อหายาวมากกกก อีกตอนก็จะยาวเหมือนกัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ