CHESS:พลิกกระดานเทพ

10.0

เขียนโดย TKFD

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 01.14 น.

  32 ตอน
  2 วิจารณ์
  5,625 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 01.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

32) ตอนที่ 11.1.1 เพื่อนใหม่?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

    "เมิ่งซิน:..."

 

 

 

    'เมิ่งซิน:แล้วไงต่อ... จะจิบชาอีกก็แปลก จะเงียบต่อก็อึดอัด แล้วฉันควรทำยังไงต่อ!!!'

 

 

 

    เธอเม้มปากแน่น ดวงตาเหลือบมองรอบห้องอย่างระแวดระวัง บรรยากาศนิ่งเงียบจนได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง ความเงียบที่ไม่เป็นมิตรบีบอัดอกเธอช้าๆ

 

 

 

    "???:แล้วท่านหญิงมาที่นี่ได้อย่างไรขอรับ?"

 

 

 

    เสียงของชายแปลกหน้าแทรกขึ้น พร้อมกับสายตาที่จ้องตรงมาอย่างสุภาพแต่แฝงความสงสัย

 

 

 

    "เมิ่งซิน:เอ่อ~ พอดีมันมีประตูโผล่มาในที่ที่ฉันอยู่... ฉันเลยเปิดเข้ามา..."

 

 

 

    เธอยิ้มเจื่อนๆ ขณะเกาหลังคอเบาๆ ท่าทางเหมือนเด็กที่กำลังพยายามอธิบายข้อสอบที่ทำผิดไปทั้งแผ่น

 

 

 

    'เมิ่งซิน:ฉันไม่ได้โกหกนะ... ก็มีประตูโผล่มาจริงๆ! อยู่ดีๆก็มาอยู่ข้างทางแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยด้วยซ้ำ...'

 

 

 

    เธอเหลือบตามองอีกฝ่าย แล้วถอนหายใจยาวเหมือนกลัวอีกฝ่ายจะหาว่าเธอโกหก

 

 

 

    "???:อาฮา ข้าเข้าใจแล้วท่านหญิง ท่านแค่... หลงมาใช่หรือไม่?"

 

 

 

    อีกฝ่ายยิ้มนิดๆ ราวกับพยายามเก็บเสียงหัวเราะไว้ข้างใน แต่น้ำเสียงกลับแฝงความอ่อนโยนปนเอ็นดูเล็กๆ ดวงตาของเขาสงบนิ่ง แต่ในแววตานั้นกลับมีประกายความสนุกเล็กๆ อย่างคนที่เจอบางสิ่งที่ "ไม่ธรรมดา"

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ใช่แล้ว ฉันแค่หลงมา... ถ้าอย่างนั้น ช่วยส่งฉันกลับทีได้ไหม ฉันยังมีเรื่องที่ต้องรีบไปทำต่อ"

 

 

 

    น้ำเสียงของเธอฟังดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย ดวงตาจ้องตรงด้วยความหวัง เธอไม่ได้พูดประชดหรือเอาแต่ใจ—เพียงแค่ต้องการหาทางกลับโดยเร็วที่สุด

 

 

 

    "???:ใจเย็นๆ ก่อนเถิดท่านหญิง ข้าไม่รู้ว่าท่านมีธุระสำคัญเพียงใด แต่ทันทีที่ท่านเหยียบย่างเข้ามาที่นี้ เวลาภายนอกก็ชะลอตัวลงแล้วขอรับ... ดังนั้น ท่านไม่ต้องกังวลอันใดเลย"

 

 

 

    เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก ทว่ามั่นคง ราวกับผู้ที่อยู่เหนือกาลเวลา ม่านบางเบาข้างหลังไหวตามลมที่ไม่มีที่มา กลิ่นหอมอ่อนของสมุนไพรบางอย่างลอยมากระทบปลายจมูก

 

 

 

    "เมิ่งซิน:เวลา... ไหลช้าลงเหรอ... ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?"

 

 

 

    เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าฉายแววประหลาดใจอย่างชัดเจน นิ้วแตะคางเบาๆ พลางก้มมองมือตัวเองราวกับจะหาคำอธิบายจากความจริงตรงหน้า

 

 

 

   'เมิ่งซิน:นี่มัน... ที่แบบไหนกันแน่เนี่ย... แค่เดินตามประตูเข้ามา ทำไมถึงเจออะไรประหลาดแบบนี้ได้ล่ะ...'

 

 

 

    เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่โลกอีกใบที่กฎเกณฑ์ของมันแตกต่างจากโลกที่เธอคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง

 

 

 

    "???:ได้สิ ท่านหญิง ขอแค่ท่านมีพลังเวทมากพอ... บวกกับความเข้าใจในศาสตร์เวทมนตร์ ท่านก็สามารถควบคุมเวลาให้ช้าลง หรือแม้แต่หยุดมันได้เลยขอรับ"

 

 

 

    ;"???:ท่านเอริน่า ลองแสดงให้เธอดูหน่อยสิครับ"

 

 

 

    ;^???:ด-ได้... ข้าจะลองดู^;

 

 

 

    หญิงสาวร่างใหญ่ที่นั่งอยู่เงียบๆ มาตลอดเหมือนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง เธอเหลือบตามองเมิ่งซินแวบหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้น... ท่าทางแม้จะลังเลเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่

 

 

 

    "เป๊าะ"

 

 

 

    เสียงดีดนิ้วแผ่วเบาดังสะท้อนในห้องกว้างอย่างน่าแปลก ราวกับทุกอย่างเงียบลงในวินาทีนั้น

 

 

 

    เมิ่งซินที่ได้ยินเสียงก็หันไปมองตามทันที—และสิ่งที่เห็นก็ทำให้เธอแทบกลั้นหายใจ

 

 

 

    เอริน่ายกถ้วยชาขึ้นสูง... แล้วปล่อยมันลง

 

 

 

    แต่แทนที่ถ้วยจะร่วงลงตามแรงโน้มถ่วง มันกลับค่อยๆ ลอยลดระดับลงอย่างผิดธรรมชาติ ช้ามาก... ชนิดที่เมิ่งซินรู้สึกเหมือนเวลากำลังถูกยืดออกเป็นเส้นยางบางๆ

 

 

 

    เธอกะพริบตาถี่ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่ภาพลวงตา

 

 

 

    'เมิ่งซิน:มะ... ไม่ใช่ภาพลวงตาแน่ๆ... นี่มันของจริง...'

 

 

 

    แม้ไม่มีลมพัด แต่เธอกลับรู้สึกเย็นวาบไปถึงต้นคอ

 

 

 

    เมิ่งซินที่ได้เห็นแบบนั้นก็ทำสีหน้าตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง หายใจแผ่วราวกับไม่กล้ารบกวนช่วงขณะนั้น ท้องน้อยของเธอบีบรัดเหมือนถูกมือมองไม่เห็นบีบไว้แน่น

 

 

 

    'เมิ่งซิน:ถะ-ถ้วยลอยอยู่! ไม่—มันกำลังตกลงแต่ตกช้ามากๆ... เธอสามารถทำให้เวลาเดินช้าลงจริงๆ ด้วย!!!'

 

 

 

    เธออึ้งจนขยับตัวไม่ออก จ้องมองถ้วยใบเล็กนั้นค่อยๆ เคลื่อนลงราวกับภาพสโลว์โมชั่น ทุกวินาทีดูยืดยาวและหนักอึ้งจนเธอแทบลืมหายใจ

 

 

 

    จนเกือบถึงโต๊ะ—มือของหญิงสาวร่างใหญ่ก็ยื่นออกมาจับถ้วยไว้อย่างแม่นยำ... ก่อนจะวางมันกลับที่เดิม

 

 

 

    "เมิ่งซิน:..."

 

 

 

    "เป๊าะ"

 

 

 

    เสียงดีดนิ้วอีกครั้งดังขึ้น—และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง...

 

 

 

    เมิ่งซินก็เพิ่งสังเกตได้ว่าสีสันของโลกกลับคืนมาแล้ว

 

 

 

    เธอกวาดสายตามองรอบตัวช้าๆ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับพึ่งรู้สึกตัวว่าทั้งบรรยากาศเมื่อครู่เหมือนจะ... ซีดจางลง

 

 

 

    'เมิ่งซิน:เอ๊ะ... เมื่อกี้... ไม่มีสีเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เป็นเพราะการชะลอเวลานั่นเหรอ...'

 

 

 

    ความคิดในหัวตีกันวุ่นวาย ความรู้สึกไม่มั่นคงปะปนกับความประหลาดใจปะทะเข้ามาพร้อมกัน

 

 

 

    ในตอนนั้นเอง คนตัวเล็กที่บินอยู่ไม่ห่าวสาวร่างใหญ่ก็ขยับมือเบาๆ ร่ายเวทบางอย่างด้วยเสียงนุ่มนวล

 

 

 

    "???:Calma Mentis"

 

 

 

   ทันใดนั้น—เหมือนโลกทั้งใบก็เงียบสงบลง

 

 

 

    เมิ่งซินชะงัก... แล้วค่อยๆ หายใจเข้าอย่างเรียบเนียน ความตื่นตระหนกและเสียงวุ่นวายในหัวค่อยๆ สงบลงอย่างน่าอัศจรรย์

 

 

 

    "เมิ่งซิน:..."

 

 

 

    "???:นั่นคือเวทมนตร์ที่ทำให้จิตใจสงบ ท่านพอจะดีขึ้นไหมขอรับ?"

 

 

 

    เมิ่งซินพยักหน้าตอบช้าๆ ยังไม่อาจเอ่ยคำใด... แต่แววตาที่เคยสั่นไหวเริ่มสงบนิ่งลงเล็กน้อย ความว้าวุ่นค่อยๆ จางหาย

 

 

 

    "จิมมี่:เอาล่ะ เปลี่ยนเรื่องกันเถอะ ข้าว่าคุยเรื่องง่ายๆ อย่างการแนะนำตัวน่าจะดี"

 

 

 

    ชายหนุ่มยิ้มนิดๆ พลางกวาดชายเสื้อพ่อบ้านเบาๆ ด้วยท่าทีที่ดูร่าเริงอย่างเป็นธรรมชาติ

 

 

 

    "จิมมี่:ข้าชื่อ ซิลเวน นัวร์เวลล์ เรียกข้าว่า จิมมี่ ก็ได้ ข้าทำหน้าที่เหมือนพ่อบ้านให้กับท่านหญิงที่อยู่ข้างๆ นี่แหละขอรับ"

 

 

 

    เขาโค้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้สตรีร่างใหญ่ข้างๆ

 

 

 

    ;"???:ท่านช่วยแนะนำตัวเองด้วยครับ";

 

 

 

    ^???:ข้า... เอริน่า พริสต์เวลล์ เรียกข้าว่า เอริน่า ก็พอ ข้าเป็นผู้ดูแลหอสมุดแห่งนี้ และเป็นเจ้านายของจิมมี่ ยินดีที่ได้รู้จัก^

 

 

 

    เสียงของเธอนุ่มนวลและชัดเจน ฟังดูอ่อนโยนจนเมิ่งซินอดเปรียบเทียบกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูทรงพลังไม่ได้

 

 

 

    'เมิ่งซิน:เสียงเธอฟังดูน่ารักนุ่มนวลมากเลย... ต่างจากท่าทางกับขนาดตัวสุดๆ...'

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ฉันชื่อ เมิ่งซิน หรงเหยา... ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ท่านเอริน่า... และ... ท่านจิมมี่"

 

 

 

    "จิมมี่:ไม่ต้องเติม ท่าน หรอก เรียกข้า จิมมี่ เฉยๆ ก็พอแล้วล่ะ"

 

 

 

    "เมิ่งซิน:...ได้เลย จิมมี่"

 

 

 

    จิมมี่ยิ้มกว้างขึ้นทันที พร้อมทั้งกอดอกอย่างภูมิอกภูมิใจ

 

 

 

    แต่หลังจากแนะนำตัวกันจบ บรรยากาศในห้องก็ค่อยๆเงียบลง เหมือนทุกคนต่างรอฟังอะไรบางอย่าง—หรือไม่ก็แค่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

 

 

 

    ท้ายที่สุด แฟรี่ตัวเล็กที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบนั้น

 

 

 

    "จิมมี่:ข้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหม ท่านเมิ่งซิน?"

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ดะ-ได้ค่ะ เชิญถามมาเลย…"

 

 

 

    "จิมมี่:ท่านมาจากที่ไหนรึ? การออกเสียงชื่อของท่านมันแปลกหูข้ามากเลยนะ ข้าอยู่มาหลายร้อยปี แต่ยังไม่เคยได้ยินชื่อแบบนี้เลย"

 

 

 

    "เมิ่งซิน:..."

 

 

 

    เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาไหววูบลง ก่อนจะหลุบสายตามองพื้น ราวกับใช้มันหลบสายตาของแฟรี่ตัวจิ๋ว

 

 

 

    'เมิ่งซิน:เข้าใจได้อยู่หรอกถ้าจะไม่รู้จักภาษาจีน… ที่นี่ก็คงไม่ใช่โลกแน่ๆ แต่ที่เขาพูดว่า “อยู่มาหลายร้อยปี”… หมายความว่าแฟรี่ตัวนี้อายุหลายร้อยปีจริงๆเหรอ?'

 

 

 

    เธอแอบชำเลืองมองร่างเล็กที่ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ ปีกสีฟ้าใสกระพือเบาๆ เหมือนผีเสื้อเวทมนตร์ในนิทาน แต่คำพูดกับท่าทางกลับไม่เด็กเอาเสียเลย

 

 

 

    'เมิ่งซิน:ฉัน...เลิกตั้งคำถามดีกว่า ถ้าคิดต่ออาจจะบ้าเอาได้ง่ายๆ'

 

 

 

    เมิ่งซินถอนหายใจแรง ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนปนเหนื่อยล้า ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองช้าๆ

 

 

 

    "เมิ่งซิน:เออ... จะว่าไงดีล่ะ ฉันมาจากดวงดาวที่เรียกว่า 'โลก' น่ะ ท่านพอจะเคยได้ยินไหม?"

 

 

 

    จิมมี่เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนส่ายหน้าช้าๆ

 

 

 

    "จิมมี่:ไม่เคยได้ยินเลย... ท่านหญิง ท่านมีหนังสือหรืออะไรที่มาจากดาวโลกไหม?"

 

 

 

    เมิ่งซินยิ้มจืดๆ คล้ายจะขำแต่ก็ไม่ออก

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ไม่มีหรอก ของที่ฉันนำมาด้วยมีแค่ตัวฉันเอง..."

 

 

 

    ^เอริน่า:ในพหูพจน์นี้มีดวงดาวมากมาย ข้าเองก็ไม่รู้จักเช่นกัน... แต่ถ้าบอกลักษณะเด่นๆมาข้าอาจจะพอจำแนกได้^

 

 

 

    น้ำเสียงของเธอเรียบสงบ แต่หันหน้าจับจ้องเมิ่งซินด้วยความสนใจ

 

 

 

    "จิมมี่:ท่านเมิ่งซิน... ท่านพอจะอธิบายลักษณะดวงดาวของท่านได้ไหม?"

 

 

 

    เมิ่งซินนิ่งไปชั่วอึดใจ ราวกับกำลังกลั่นคำพูด

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ดาวโลกของฉัน... มีสีฟ้าเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีน้ำมากกว่าพื้นดิน พื้นดาวก็จะมีสีเขียวจากต้นไม้ แล้วก็น้ำตาลจากพื้นดิน มีชั้นบรรยากาศที่ช่วยให้สิ่งมีชีวิตหายใจได้... เราอยู่กันแบบนั้น"

 

 

 

    ^เอริน่า:ยังกว้างเกินไป มีอะไรเด่นๆ กว่านี้ไหมที่จำได้?^

 

 

 

    เมิ่งซินขมวดคิ้ว สายตาหรี่ลงราวกับกำลังดำน้ำในห้วงความทรงจำ เงียบไปพักใหญ่ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ลักษณะเด่น... ลักษณะเด่นเหรอ? อะไรคือลักษณะเด่นของโลกกัน..."

 

 

 

    จู่ๆเธอก็เบิกตากว้าง ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงกลางสมอง

 

 

 

    "เมิ่งซิน:โลกของฉันไม่มีมานา!  ไม่มีเวทย์มนต์ มีแต่สิ่งที่เรียกว่า เทคโนโลยี และ วิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ผู้คนดำเนินชีวิตได้!!!"

 

 

 

    เสียงของเธอแฝงความตื่นเต้นปนความโล่งใจ ดวงตาเปล่งประกายวูบหนึ่งราวกับได้กลับไปเห็นโลกเดิมอีกครั้ง

 

 

 

    ^เอริน่า:...ดาวที่ไม่มีมานา งั้นเหรอ...^

 

 

 

    หญิงสาวผมสีเงินเอียงคอน้อยๆ สายตาหรี่ลงอย่างใช้ความคิด

 

 

 

    'เมิ่งซิน:เธอจะเข้าใจไหมเนี่ย... คำที่ฉันพูดไป มันล้วนเป็นศัพท์จากโลกทั้งนั้นเลยนี่นา'

 

 

 

    ในขณะที่เมิ่งซินกำลังกลุ้มใจอยู่ในความคิดของตน เอริน่าก็เหลือบมองไปรอบๆ ก่อนจะตบมือเบาๆสองครั้ง

 

 

 

    "แปะ แปะ"

 

 

 

    เสียงนั้นดังกังวานราวกับมีเวทสะท้อนในอากาศ ก่อนจะมีหนังสือเก่า 4 เล่มลอยละลิ่วเข้ามาหาเธออย่างเป็นระเบียบ เอริน่าหันกลับมาทางเมิ่งซินแล้วเปิดหนังสือแต่ละเล่มให้ดูทีละหน้า—แต่ละหน้าเต็มไปด้วยภาพวาดของดวงดาวต่างๆ ที่มีรายละเอียดซับซ้อน

 

 

 

    เมิ่งซินจ้องดูทีละเล่ม ใจเต้นถี่เมื่อเห็นเล่มที่สี่

 

 

 

    "เมิ่งซิน:...เล่มที่สี่นั่นแหละ นั่นคือโลก ดาวของฉัน"

 

 

 

    "จิมมี่:ไหน ข้าขอดูหน่อย"

 

 

 

    จิมมี่บินเข้ามาใกล้ เอริน่าหันหน้าหนังสือให้ทั้งคู่อ่านได้ชัดๆ ดวงตาของทั้งคู่จับจ้องอยู่บนหน้ากระดาษที่ดูเก่าแต่กลับเต็มไปด้วยอักขระเรืองแสงจางๆ

 

 

 

    "จิมมี่:ดาวเคราะห์ที่ 475711 หรือที่สิ่งมีชีวิตในดาวเรียกว่า โลก เป็นดวงดาวที่ถูกสร้างขึ้นโดยปราศจากมานา เพื่อเฝ้าดูว่าสิ่งมีชีวิตจะดำรงอยู่ได้หรือไม่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้น'..."

 

 

 

    เขาหยุดไปชั่วครู่ เหมือนจะอึ้งในสิ่งที่อ่าน ก่อนจะพูดต่อ

 

 

 

    "จิมมี่:ในตอนแรก ดาวดวงนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา จึงถูกจัดว่าไม่มีค่าอะไร และเกือบจะถูกทำลายทิ้ง... จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ใหญ่ที่คร่าชีวิตสิ่งมีชีวิตไปแทบหมดสิ้น ก่อนจะมีสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมา...'"

 

 

 

    เขาเหลือบตามองเมิ่งซินเล็กน้อย ก่อนจะอ่านต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น

 

 

 

    "จิมมี่:สิ่งมีชีวิตกลุ่มนั้นคือ ฮิลแมนนอย ตอนแรกมีความสงสัยว่ามีเทพองค์ใดนำมันลงไป แต่ภายหลังการสอบสวนก็พบว่าไม่มีเทพองค์ใดเกี่ยวข้อง สรุปว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ จึงยกเลิกแผนทำลายและเปลี่ยนเป็นการเฝ้าติดตามแทน..."

 

 

 

    เอริน่ารับช่วงต่อ ริมฝีปากขยับอย่างแผ่วเบาแต่ชัดเจน

 

 

 

    ^เอริน่า:หลังจากติดตามดูอยู่นานผู้ดูแลหอคอยพบว่าดวงดาวนี้... แม้ปราศจากมานา แต่กลับเต็มไปด้วย ศักยภาพ ความทะเยอทะยาน สัญชาตญาณและความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และแนวคิดใหม่ๆ จึงมีการเสนอให้นำโลกเข้าสู่โปรเจกต์ ᚾᛁᚢᛟᚱ ᛏᚺᚨᛚᛖᚱᛖᚾ^

 

 

 

    "เมิ่งซิน:เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะบอกว่าพวกเราถูกจับตามองตลอดเหรอ!? จะบอกว่าที่ผ่านมาเราเป็นแค่... แค่การทดลองเหรอ!? ไม่จริง... ไม่จริงๆๆๆๆ!"

 

 

 

    เมิ่งซินปฏิเสธมันสุดหัวใจ เสียงสั่นอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ความรู้สึกถาโถมจนแทบล้นทะลัก

 

 

 

    "จิมมี่:ท่านเอริน่า ข้าว่า..."

 

 

 

    ^เอริน่า:ข้ารู้แล้ว^

 

 

 

                  —"เปะ!"—

 

    เสียงดีดนิ้วดังขึ้น พร้อมกับที่เมิ่งซินทรุดตัวลงทันที หน้าจะกระแทกกับโต๊ะ แต่จิมมี่ชูมือขึ้น

 

 

 

    "จิมมี่:Telekinesis"

 

 

 

    เวทมนตร์ค่อยๆ ยกตัวเมิ่งซินขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะวางเธอลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา…ราวกับไม่อยากให้เธอต้องเจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้ว

 

 

 

    ^เอริน่า:มันคงเป็นความจริงที่เกินกว่าเธอจะรับได้^

 

 

 

    "จิมมี่:ข้าก็ไม่คิดว่าเธอจะปฏิเสธมัน...ขนาดนี้เลยนะ"

 

 

 

    ^เอริน่า:...ข้าจะเปลี่ยนความทรงจำเธอ^

 

 

 

    "จิมมี่:มันคงเป็นทางเดียวแล้ว"

 

 

 

    ^เอริน่า:ᛗᛁᚾᚾᛋᚲᛁᛈᛏᚨ^

 

 

 

    แล้วเวทมนตร์รูนก็แผ่ประกายเรืองรองจากมือของเอริน่า...

 

มันค่อยๆ ลอยขึ้นแตะที่ขมับของเมิ่งซิน ก่อนจะซึมเข้าไปอย่างนุ่มนวล

 

 

 

    ความทรงจำของเมิ่งซิน…กำลังถูก “เรียบเรียงใหม่”

 

 

 

    เอริน่าใช้สิ่งที่อยู่ในหัวของเมิ่งซินนั่นแหละเป็นวัตถุดิบ เธอไม่โกหก—แต่เธอ จัดเรียงมันใหม่

 

 

 

    ตัดบางอย่างออก

 

แต่งบางอย่างให้ดูนุ่มนวล

 

และใส่ "ฝันดีๆ" เข้าไปแทน "ฝันร้าย"

 

 

 

    ระหว่างนั้น เธอกับจิมมี่ก็เผลอเงียบไป…จ้องจอภาพแห่งความทรงจำที่ค่อยๆ เลื่อนผ่านราวกับกำลังชมสารคดีชีวิต

 

 

 

    "จิมมี่:ว้าว...ในดวงดาวที่ไม่มีมานา พวกเขาใช้ชีวิตกันแบบนี้เหรอ"

 

 

 

    ^เอริน่า:น่าสนใจจริงๆ โดยเฉพาะสิ่งที่พวกเขาใช้ในการเดินทาง...^

 

 

 

    "จิมมี่:ดูสิ! สิ่งบันเทิงของพวกเขากับอาหารนั่น... พวกเขาไปไกลกว่าดาวอื่นๆ เยอะเลย"

 

 

 

    ^เอริน่า:ว้าว...น่าไปเยี่ยมชมจริงๆ^

 

 

 

    พวกเขาใช้เวลาดูความทรงจำเหล่านั้นไปหลายชั่วโมง...

 

 

 

    ...และในช่วงเวลานั้นเอง เมิ่งซินก็หลับอยู่เงียบๆ

 

 

 

    ^เอริน่า:ถึงไม่รู้มันคืออะไรบ้างก็เถอะ แต่น่าสนใจสุดๆไปเลย^

 

 

 

    "จิมมี่:...งั้นก็ให้เธอเป็นคนเล่าฟังเราไหมขอรับ แถมเรายังมีคริสตัลฉายภาพด้วย"

 

 

 

    ^เอริน่า:จริงด้วย ข้าลืมเจ้าคริสตัลฉายภาพไปได้ไง^

 

 

 

    หลังจากพูดจบ เอริน่าก็เริ่มเปลี่ยนความทรงจำของเมิ่งซินจนเสร็จ และค่อยๆ ปลุกเธอขึ้นมา

 

 

 

    "เมิ่งซิน:อืม... ข้อมูลที่พูดมาไม่ต่างจากที่ฉันรู้เท่าไหร่เลย"

 

 

 

    เมิ่งซินลืมตาขึ้นมาทันที ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ความคิดของเธอถูกจัดเรียงใหม่อย่างรวดเร็วและนุ่มนวล

 

 

 

    'เมิ่งซิน:โลกเป็นดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์... พวกเขาใช้ชีวิตโดยไม่มีมานา...'

 

 

 

    สิ่งที่เมิ่งซินรับรู้ตอนนี้คือ โลกเป็นดาวเคราะห์หนึ่งที่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ พวกเขาไม่ได้ใช่มานา แต่ใช้วิทยาศาสตร์ในการดำเนินชีวิต มีวัฒนธรรมที่ซับซ้อนและหลากหลายชาติพันธุ์ ดาวเคราะห์นี้เป็นที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้ชีวิต

 

 

 

    "จิมมี่:มีแค่นี้เอง ไม่รู้เลยมันเป็นยังไง"

 

 

 

    เมิ่งซินฟังแล้วก็นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

 

 

 

    "เมิ่งซิน:...ฉันก็อยากเล่าให้ฟังนะ แต่ไม่รู้จะนึกภาพตามออกไหม"

 

 

 

    เสียงของเมิ่งซินแสดงถึงความไม่มั่นใจในคำพูดของตัวเอง ดูเหมือนเธอกำลังพยายามเรียบเรียงคำพูดในหัว

 

 

 

    ^เอริน่า:น่าเสียดายจริงๆ^

 

 

 

    "จิมมี่:...จริงสิท่านเอริน่า เรามีคริสตัลฉายภาพนิท่าน"

 

 

 

    เอริน่าที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆ หยุดคิดไปชั่วขณะ

 

 

 

    ^เอริน่า:จริงด้วย เดี่ยวข้าไปเอาสักครู่^

 

 

 

    เอริน่าลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปหานไปหลังชั้นหนังสือมากมายที่อยู่ตรงนี้ เมิ่งซินที่เห็นก็รู้สึกสงสัยและหันไปถามจิมมี่

 

 

 

    "เมิ่งซิน:จิมมี่ คริสตัลฉายภาพที่ว่าคืออะไรเหรอ"

 

 

 

    จิมมี่ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคย

 

 

 

    "จิมมี่:มันคืออุปกรณ์เวทย์มนต์ที่สามารถฉายภาพของคนที่แตะคริสตัลโดยที่ภาพที่ฉายจะเป็นภาพที่คนแตะนึกอยู่ขอรับ"

 

 

 

    เมิ่งซินตื่นเต้นทันที ดวงตาของเธอฉายแววความสนใจ

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ว้าว ฟังดูน่าสนใจสุดๆ"

 

 

 

    หลังจากผ่านไปสักพัก เอริน่าก็กลับมาพร้อมกับคริสตัลกลมสีรุ้งที่มีฐานรองรองอยู่ใต้ลูกแก้ว เธอเดินมาด้วยท่าทางสบายๆ แล้ววางมันไว้ตรงหน้าของเมิ่งซินอย่างระมัดระวัง

 

 

 

    ในจังหวะนั้นเอง เมิ่งซินก็เผลอมองไปที่แขนของเอริน่า และสิ่งที่เธอเห็นก็ทำให้สายตาค้างอยู่ตรงนั้นชั่วครู่

 

 

 

    ลวดลายอักขระแปลกตาปรากฏขึ้น ไล่จากใต้แขนไปถึงปลายนิ้วกลาง ก่อนจะวกขึ้นมาตามแนวแขนเข้าไปซ่อนอยู่ใต้เสื้อ

 

 

 

    'เมิ่งซิน:เอ๊ะ… นั่นมัน... รอยสักเหรอ? ไม่สิ มันเหมือนตัวอักษรมากกว่า… แต่ฉันอ่านไม่ออกเลย…'

 

 

 

    เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่ความคิดอีกด้านหนึ่งก็โพล่งขึ้นมาอย่างเร็ว

 

 

 

    'เมิ่งซิน:ฉันควรถามไหมนะ… แต่… ไม่ดีกว่า มันอาจจะเสียมารยาทเกินไปก็ได้…'

 

 

 

    หลังจากวางลูกแก้วคริสตัลไว้ให้ เมิ่งซินแล้ว เอริน่าก็ยิ้มบางๆ แล้วกลับไปนั่งที่เดิมโดยไม่พูดอะไร

 

 

 

    เมิ่งซินนั่งมองลูกแก้วตรงหน้า ก่อนจะกลืนน้ำลายเบาๆ

 

 

 

    'เมิ่งซิน:ถึงจิมมี่จะบอกว่าให้แตะแล้วนึกภาพในหัวก็เถอะ… หวังว่าจะไม่มีอะไรแปลกๆโผล่มานะ…'

 

 

 

    มือของเธอยื่นออกไปอย่างช้าๆ นิ้วแตะลงบนผิวเรียบเย็นของคริสตัลเบาๆ

 

 

 

    เมิ่งซินหลับตา แล้วนึกถึงเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ของบริษัทของเธอ... ลำที่เธอเป็นผู้ดูแลมาตลอด

 

 

 

    ทันใดนั้นเอง คริสตัลก็เปล่งแสงจางๆ ก่อนจะฉายภาพขึ้นกลางอากาศ... ภาพสามมิติแบบโฮโลแกรมของเรือขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นเด่นชัด มองเห็นรายละเอียดทุกอย่างตั้งแต่ตัวเรือยันตู้คอนเทนเนอร์

 

 

 

    เมิ่งซินลืมตาขึ้น และเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เธอก็อึ้งไปทันที

 

 

 

    'เมิ่งซิน:ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย… แบบนี้มันฉายเป็นภาพโฮโลแกรมเลยเหรอ… นี่มัน… เหนือกว่าที่โลกอีกไม่ใช่เหรอไง…'

 

 

 

    เธอหันไปมองคริสตัลด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่ความสงสัยในใจเริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ...

 

 

 

    เอริน่าที่มักจะนั่งก้มหน้าอย่างสงบ กลับเงยหน้าขึ้นช้าๆ เมื่อเห็นภาพโฮโลแกรมลอยอยู่กลางอากาศ สีหน้าเธอสะท้อนความสนใจอย่างชัดเจน

 

 

 

    ส่วนจิมมี่เองก็อ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตื่นเต้น เขาเอียงหัวมองภาพนั้นรอบด้านราวกับกลัวจะพลาดรายละเอียดแม้แต่นิดเดียว

 

 

 

    "จิมมี่:ท่านเมิ่งซิน ไอ้เรือใหญ่นี่มันคืออะไรขอรับ? ดูจากที่เห็นแล้ว มัน… มันใหญ่มากๆ เลยนะขอรับ!"

 

 

 

    เมิ่งซินละสายตาจากภาพหันไปมองจิมมี่ ก่อนจะเริ่มอธิบาย

 

 

 

    "เมิ่งซิน:มันเป็นเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่… เอาไว้ขนของไปขายที่ประเทศ…"

 

 

 

    เธอหยุดนิดหนึ่ง ความคิดหนึ่งแล่นผ่านในหัวอย่างรวดเร็ว

 

 

 

    'เมิ่งซิน:เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน… ถ้าพูดคำว่า “ประเทศ” พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจ… ใช้คำว่า “ดินแดนอื่นๆ” ดีกว่า…'

 

 

 

    "เมิ่งซิน:…ดินแดนอื่นๆ น่ะ"

 

 

 

    "จิมมี่:แล้วเรือใหญ่ขนาดนี้ ขนอะไรไปขายบ้างรึขอรับ?"

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ก็แล้วแต่ที่น่ะ… บางดินแดนขาดอาหาร ฉันก็ส่งอาหารไปขาย... ถ้าเป็นที่ที่ต้องสร้างเมืองใหม่ ก็จะส่งพวกเครื่องมือก่อสร้าง หรือไม่ก็เครื่องจักร"

 

 

 

    เสียงของเธอยังคงเรียบง่าย ไม่ได้ใส่อารมณ์อะไรมากนัก ทว่าจิมมี่กลับตั้งใจฟังราวกับฟังเรื่องเล่าจากตำนานเก่าแก่ ดวงตาเปล่งประกายคล้ายเด็กน้อยที่กำลังเปิดโลกในห้องเรียน

 

 

 

    "จิมมี่:มีภาพของสิ่งที่ท่านส่งไปไหม? ข้าอยากเห็นว่ามันเป็นยังไง..."

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ได้เลย"

 

 

 

    เธอยิ้มบางๆ พลางยื่นมือแตะคริสตัลอีกครั้ง จิตใจเริ่มจดจ่อไปยังภาพในความทรงจำ...

 

 

 

    คราวนี้ เธอนึกถึงตอนที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาหารกระป๋องแห่งหนึ่งที่เป็นคู่ค้าหลักของบริษัท ภาพในหัวเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ที่นี่คือโรงงานผลิตอาหารต่างๆ เอาไว้ส่งไปยังดินแดนอื่นๆ"

 

 

 

    ภาพที่ฉายกลางอากาศคราวนี้เปลี่ยนไป กลายเป็นภาพของเครื่องจักรขนาดใหญ่หลายชุดที่กำลังทำงานอย่างต่อเนื่อง เสียงกลไกหมุนดังเบาๆ ปลาถูกจัดเรียงลงในกระป๋อง ก่อนจะถูกเลื่อนต่อไปตามสายพานเข้าสู่ขั้นตอนการปิดผนึก ฉลาก และบรรจุลงกล่อง

 

 

 

    จิมมี่และเอริน่ามองตาไม่กะพริบ ภาพที่พวกเขาเห็นช่างแปลกตาเกินกว่าจะจินตนาการได้

 

 

 

    ^เอริน่า:เจ้าผลิตเยอะขนาดนี้… ขายหมดงั้นรึ?^

 

 

 

    "เมิ่งซิน:เอ่อ… จะว่าไงดีนะ…"

 

 

 

    เธอคิดสักพัก ก่อนจะอธิบายต่ออย่างใจเย็น

 

 

 

    "เมิ่งซิน:เราจะผลิตเท่าที่มีคำสั่งซื้อเท่านั้น ดังนั้นมันไม่มีของเหลือเก็บไว้เฉยๆ หรอก แต่คำสั่งซื้อแต่ละครั้งก็มหาศาลเลยล่ะ เพราะงั้นเราต้องใช้เครื่องจักรเหล่านี้ เพื่อให้ทำงานได้รวดเร็วและคุณภาพก็เท่าเดิมทุกกระป๋อง..."

 

 

 

    เธอหยุดนิดหนึ่งก่อนจะเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นเล็กน้อย

 

 

 

    "เมิ่งซิน:…แถมยังช่วยประหยัดค่าจ้างแรงงานได้มาก เพราะแค่มีคนดูแลเครื่องจักรไม่กี่สิบคน ก็สามารถผลิตได้เป็นหมื่นๆ กระป๋องในแต่ละวันแล้ว"

 

 

 

    "จิมมี่:ท่านบอกว่า… ใช้แค่ไม่กี่สิบคน? ดูแลเครื่องจักรพวกนี้ทั้งหมดน่ะรึ?"

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ใช่แล้ว"

 

 

 

    "จิมมี่:ว้าว... น่าสนใจจริงๆ..."

 

 

 

    เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ เหมือนกำลังทบทวนโลกใบใหม่ที่เพิ่งได้เห็นครั้งแรก ส่วนเมิ่งซินก็ยังคงจ้องมองภาพในอากาศ เธอรู้สึกถึงความห่างไกล... ระหว่างโลกเก่ากับโลกใบใหม่นี้

 

 

 

    'เมิ่งซิน:ถ้าพวกเขาได้ไปเห็นของจริง... จะตกใจขนาดไหนกันนะ'

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ท่านอยากดูอะไรอีกไหม ท่านเอริน่า?"

 

 

 

    คำถามของเธอเปล่งออกมาอย่างสุภาพ เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความเต็มใจจะเปิดโลกให้พวกเขาได้เห็น

 

 

 

    ^เอริน่า:ก่อนหน้านี้… เจ้าส่งอย่างอื่นด้วยใช่ไหม? ข้าขอดูได้ไหม?^

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ได้เลยท่าน"

 

    เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะจรดปลายนิ้วกับคริสตัลอีกครั้ง ความคิดย้อนกลับไปยังอีกสถานที่หนึ่งที่เธอเคยไปมาเมื่อไม่นานนี้—โรงงานหลอมเหล็ก

 

 

 

    ทันทีที่ภาพเริ่มฉายกลางอากาศ ก็ปรากฏเครื่องจักรขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนเหล็กแท่งยักษ์ไปยังแท่นกลึง ก่อนที่หัวทุบขนาดใหญ่จะกระแทกลงมาด้วยเสียงดัง โครม! แม้เสียงจะถูกลดทอนจากการฉายภาพ แต่ความหนักแน่นของแรงยังสัมผัสได้จากแววตาของผู้ชม

 

 

 

    "จิมมี่:ว้าว... การตีเหล็กของโลกท่านอลังการจริงๆ แล้วเหล็กเหล่านี้จะถูกนำไปสร้างดาบหรืออาวุธอะไรหรือไม่ขอรับ?"

 

 

 

    เมิ่งซินชะงักเล็กน้อย เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ

 

 

 

    'เมิ่งซิน:เดี๋ยวนะ… ฉันนึกว่าลูกแก้วนี่เป็นของที่นี่… เทคโนโลยีที่นี่น่าจะไปไกลแล้วสิ แต่จากคำถามของจิมมี่... พวกเขายังอยู่แค่ยุคที่ต้องใช้ดาบอยู่เลยงั้นเหรอ?'

 

 

 

    เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวเบาๆ

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ไม่ๆ… เหล็กพวกนี้ไม่นำไปใช้ทำอาวุธหรอก มันถูกนำไปใช้ในงานก่อสร้างซะมากกว่า"

 

 

 

    "จิมมี่:งานก่อสร้างหรือขอรับ? โลกของท่านสร้างอะไรกัน ถึงต้องใช้เหล็กเยอะขนาดนั้น?"

 

 

 

    เมิ่งซินยิ้มเล็กน้อย คราวนี้ไม่ใช่เพราะความเอ็นดู แต่เพราะเธอรู้ว่า สิ่งที่พวกเขาจะได้เห็นต่อไป… มันจะเหนือกว่าทุกอย่างที่พวกเขาเคยจินตนาการ

 

 

 

    เธอหลับตาลงชั่วครู่ ก่อนที่คริสตัลจะเริ่มฉายภาพความทรงจำ—ตึกระฟ้าอันตระการตาค่อยๆ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ

 

 

 

    กระจกเงาวับสะท้อนแสงอาทิตย์ อาคารสูงทะลุเมฆราวกับจะไปแตะฟ้า ชั้นบนสุดดูเลือนรางเพราะหมอกจางๆ ปกคลุมเอาไว้ บางชั้นมีสวนลอยฟ้าที่เขียวชอุ่ม บางชั้นประดับด้วยสถาปัตยกรรมล้ำยุคจนดูเหมือนงานศิลป์

 

 

 

    "เมิ่งซิน:เหล็กเหล่านี้… ใช้สร้างสิ่งแบบนี้แหละ"

 

 

 

    เสียงของเธอเบา แต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิ

 

 

 

    ^เอริน่า:ข้าเริ่มเข้าใจแล้ว… ยิ่งอาคารสูงเพียงใด ยิ่งต้องใช้วัสดุที่แข็งแรงมากขึ้น การใช้เหล็กสร้างอาคารเหล่านี้… ก็ดูสมเหตุสมผลดี^

 

 

 

    "เมิ่งซิน:ถูกต้องแล้ว ท่านเอริน่า"

 

 

 

    ^เอริน่า:แต่มันก็ยังน่าเหลือเชื่ออยู่ดี... ที่พวกเจ้าสร้างสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จากเหล็กได้จริงๆ^

 

 

 

        "จิมมี่:ข้าไม่รู้จะพูดยังไง… แต่มันช่าง... เหมือนฝันเลย…"

 

 

 

    เมิ่งซินไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงยืนมองภาพตรงหน้าอย่างเงียบงัน ในใจเธอ... ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกที่สร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้จริง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                    จากผู้แต่ง

 

    ช่วงสงกรานไม่ได้แต่งเลยทำให้ช้านิดหน่อยเพราะไม่ได้แต่งเลยตั้ง 3 วันเพราะสงกรานต์ส่วนหลังจากนี้ก็จะกลับมาลงปกติคือ 8-10 วันจะลง 1 ตอนจะพยายามลดให้เหลือ 7 วันให้ได้คัฟ แต่ไม่สัญญาน่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา