The Prince of Flower เกมรักมัดใจ เจ้าชายดอกไม้กับยัยเย็นชา
เขียนโดย Killolat
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07.31 น.
แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567 00.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) -แดฟโฟดิล-
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
-1 สัปดาห์ต่อมา-
พอมีคนมากขึ้น เราเริ่มแบ่งงานกันลงตัวและดำเนินนโยบายไปเร็วมากจนมีเวลาว่างเหลือเฟือ ปลาดาวกับฉันจัดการเรื่องแอป ทวิตซ์เคลียร์เอกสาร
ส่วนไอ้แว่นทำงานจิปาถะ พอไม่มีอะไรให้ทำ เลยตกลงกันว่าจะเตรียมงานอีเว้นต์ล่วงหน้า ใกล้วันจริงจะได้สบาย
มีข่าวใหม่อีกอย่างคือตอนนี้ทุกคนในสภานักเรียนเริ่มสนิทกันมากขึ้น เช่น ฉันกับปลาดาวที่แทบไม่สื่อสารกันเลย เราเริ่มพูดคุยเรื่องงาน เรื่องเรียนและ
อื่นๆ ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพึ่งโพสอิท ส่วนอีตาทวิตซ์กะไอ้แว่นก็มีความสัมพันธ์แปลกๆ ซื้อขนมแลกกันไปมา ก่อนลามเป็นโรคระบาดทั้งสภา
นักเรียน
ทีแรกมันเริ่มจากทวิตซ์ชอบเอาขนมมาแจก พอปลาดาวเห็นไอ้แว่นซื้อคืนเธอเลยทำตามบ้าง สุดท้ายฉันก็ต้องซื้อด้วยเหมือนกัน = = เพราะไม่อยาก
ถูกมองว่ากินฟรีอยู่คนเดียว กลายเป็นวัฒนธรรมประหลาดของที่นี่ไปแล้ว
ห้องสภานักเรียนมีขนมเยอะมากถึงขั้นกินกันไม่ทัน จนต้องจัดโซนสำหรับเก็บขนมโดยเฉพาะ แล้วทุกคนก็คุยกันมากขึ้นเพราะเรื่องนี้ด้วย
“ทำไมของฉันถึงเป็นนมตลอดเลย?”
ตาแว่นนั่งตัดเปเปอร์มาเช่เตรียมอีเว้นต์ฮาโลวีนยิงคำถามใส่ทวิตซ์
“เพราะฉันอยากให้นายกินนมเยอะๆ ไง ^^ สาวๆ ชอบผู้ชายตัวสูงน้าา”
ฉันว่านายด่ามัน ‘ไอ้เตี้ย’ ไปเลยเถอะ ถ้าจะตอบแบบนี้ =-=
“อ้อ~”
เหมือนไอ้แว่นไม่รู้ตัวว่าโดนด่าหรืออาจไม่ใส่ใจ เบี่ยงประเด็นมาทางฉันแทน
“แล้วทำไมของยัยถังน้ำแข็งถึงเป็นสตอเบอรี่วะ? เห็นให้ทีไรก็โกรธทุกที”
เออ! ซื่อบื้ออย่างไอ้แว่นมันยังรู้เลยว่าฉันไม่ชอบ -o- คิดเหตุผลอื่นไม่ออกจริงๆ นอกจากตั้งใจซื้อมากวนบาทา
“เพราะฉันชอบสตอเบอรี่”
ยังคงเป็นคำตอบเดิม - -* ที่ได้ฟังกี่ทีก็หงุดหงิด
แต่ประโยคต่อมาของไอ้แว่นนี่สิ เล่นเอาฉันไปไม่เป็นเลยทีเดียว
“หื้ออ เหมือนที่ผู้หญิงชอบให้แฟนกินสัปปะรดป่ะ รสนิยมดีเหมือนกันนี่หว่า~”
ไอ้แว่นตบหลังทวิตซ์ดังปั่กๆ เป็นการชื่นชมกันในหมู่ผู้ชาย
แล้วฉันดันเก็ทมุกอะไรแบบนี้ซะด้วย เพราะเคยอ่านเจอในนิตยสารโดยบังเอิญ >\\\< เลยต้องแอ๊บไร้เดียงสาก้มหน้างุดตัดกระดาษต่อไป
ทวิตซ์ไม่เขวไปกับคำแซว ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์กอดคอเพื่อนเกลอ แล้วสวนกลับจนเจ้าตัวเสียทรงแทน
“หืม~ เพราะแบบนี้นายถึงชอบซื้อเค้กส้มให้ปลาดาวสินะ?”
“เฮ้ย! ฉะ ฉันซื้อเพราะยัยนั่นบอกว่าชอบกินต่างหาก >\\<”
ตาแว่นผลักทวิตซ์ออก เขินหน้าแดงพูดจาตะกุกตะกัก
ทำไมฉันต้องมานั่งฟังคู่หูชายฉกรรจ์คุยเรื่องใต้สะดือด้วยเนี่ย -*- โชคดีของปลาดาวละที่ออกไปซื้อของ เลยไม่ต้องมาได้ยินเรื่องจังไรแบบนี้
สำหรับใครที่ไม่เก็ทว่าจังไรอย่างไร กูเกิลมีคำตอบ ฉันไม่บอกหรอกย่ะ! >o<
ว่าแต่ไอ้แว่นชอบปลาดาวจริงดิ แล้วยัย ผอ.เชอรี่ ที่นายเคยอายม้วนล่ะยะ เก็บเข้ากรุไปแล้วเรอะ?! =o=
จะว่าไปตอนอยู่กับปลาดาวมันก็ชอบทำตัวเป็นโคตรสุภาพบุรุษบ่อยๆ ทีแรกฉันคิดว่าตานี่แค่สองมาตรฐานเฉยๆ เพราะเกลียดขี้หน้าฉัน…หารู้ไม่ว่ามัน
หวังจะงาบรูมเมทฉันนี่หว่า! -_-+
“อ้าวเฮ้ย! ทำไมเธอมองฉันแบบนั้นวะ -*- จัดการแฟนแกดิ๊ทวิตซ์”
ที่ไม่เปลี่ยน คงมีแค่ความสัมพันธ์ของฉันกะไอ้แว่นนี่แหละ เหม็นขี้หน้ากันยังไงก็ยังเหม็นอยู่อย่างนั้น เผลอๆ หึ่งกว่าเดิมอีก!
“ยูแชของฉันออกจะน่าร้าก~ ^^”
เจ้าชายหน้าหวานส่งยิ้มให้ ทำเสียงสองลากยาวเอ็นดู ใช้สองมือยีหัวฉันเล่น
“ปล่อยนะ!”
ฉันตวาดเสียงใส่ ปัดมือเค้าออกทันที
“ดุยังกะหมาไม่กัดแกตายก็บุญละ”
หุบปากไอ้แว่น! กล้าว่าใครเป็นหมาห๊ะ?! - -*
“ถึงได้น่ารักไง”
ทวิตซ์ไม่สะทกสะท้าน เอื้อมมือลูบหัวฉันต่อ แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยนทำเอาใจสั่น
“อี๋~เหม็นความรัก!”
ไอ้แว่นทำหน้าแหวะใส่ นั่งหันหลังตัดกระดาษคนเดียวไม่สนใจใครอีก
อืม…บรรยากาศประจำวันในห้องสภานักเรียนก็ประมาณนี้แหละ
.
“เสาร์นี้กลับบ้านมั้ย? ฉันไปด้วยสิ~”
ขณะเดินมาส่งฉันกลับหอ จู่ๆ อีตาทวิตซ์ก็โพล่งเรื่องนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนไม่เกรงใจปลาดาว
=_= ฉันตอกย้ำด้วยหน้าตายว่า ‘ไม่-มี-ทาง’
เอานายกลับให้ป๊าม๊าแซวเล่นรึไง ฝันไปเหอะ!
“ปลาดาวก็อยากไปเนอะ ค้างบ้านเพื่อนสนุกจะตาย ^o^”
เมื่อเห็นว่าฉันไม่ยอมแน่ ไอ้คนเจ้าเล่ห์เลยหาแนวร่วม
“เอ่อ…คือ”
วลีติดปากของปลาดาวช่วงนี้
ขอโทษนะ ที่รอบตัวฉันมันมีแต่พวกเพี้ยนๆ ทำให้เธอลำบากใจ T T
“ฉันไม่มีเพื่อน…เลยไม่รู้เหมือนกัน”
ปลาดาวตอบอ้อมแอ้มน่าสงสาร
โอ้ยย ปวดใจ ToT
ไอ้คนขี้โกง! นายจะใช้ปลาดาวโจมตีฉันไม่ได้นะ
“มีฉัน เค ยูแชไง! ไปกันเยอะๆ เลย ต้องสนุกแน่ ^^”
ทวิตซ์รวบหัวรวบหางจัดทัพเรียบร้อย
ตกลงไปบ้านใคร บ้านฉันหรือบ้านนาย - -* ถามฉันซักคำมั้ย คิดเองเออเองเก่งเหลือเกิน!
ต้องเป็นเพราะวันหยุดที่แล้วฉันแอบหายต๋อม 2 วันเต็มๆ โดยไม่บอก ครั้งนี้อีตาทวิตซ์เลยติดแจ ไม่ยอมปล่อยฉันไปง่ายๆ
“เดี๋ยวฉันคุยกับที่บ้านเธอให้ พอมีคอนเทคอยู่”
“ห๊า?!”
นายไปแอบตีซี้พ่อแม่ฉันตอนไหนย๊ะ?!
ไอ้หมอนี่มันสตอล์กเกอร์มือฉมังชัดๆ เข้าแทรกซึมชีวิตฉันไวยิ่งกว่าอะมีบาเสียอีก =[]=
ว่าแล้วหมอนั่นก็ยกหูโทรทันที
“คร้าบ พรุ่งนี้พวกผมอยากค้างบ้านยูแชครับ…ครับ ขอบคุณครับ”
พูดแค่นั้นแล้วตัดสาย มาเร็วเคลมไวปานประกันรถยนต์
ทวิตซ์ส่งยิ้มหวานให้ ทอดมองเยี่ยงผู้ชนะ ตอกย้ำว่าฉันหนีไม่รอด
“เอาเป็นว่าตกลงนะ”
ขณะที่ฉันกำลังอึ้งเป็นไก่ตาแตก พยายามคิดวกวนซ้ำๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ภาพตัดมาอีกทีก็ถึงหอแล้ว
“เจอกัน ^^”
จุ๊บ!
ทวิตซ์แจกจุ๊บเหม่งหนึ่งทีก่อนจาก
ลืมเล่าไปว่าตั้งแต่ถูกขโมยจูบหน้าผากวันนั้น บอกลาเสร็จตานี่จะเข้ามาจุ๊บเหม่งฉันตลอด >\\\<
ถึงรู้ว่ามันเป็นแค่การแสดง แต่ยังอดใจเต้นไม่ได้อยู่ดี
ให้ตายสิ กะหวานให้มดตายทั้งโลกเลยรึไง!
เอาจริง แค่นายเดินจูงมือฉันทุกวันคนก็เชื่อแล้วย่ะ
ช่วงนี้อุตส่าห์โล่งใจที่ไม่ค่อยโดนรุกใส่เท่าไหร่ ตั้งแต่เริ่มตัวติดปลาดาว
แต่ดูท่าคงประมาทไม่ได้ซะแล้ว
.
-เวลา 1 ทุ่มตรง-
(ณ หอพักหญิง)
กริ๊งงง
เสียงริงโทนน่าเบื่อของฉันเอง
“มีอะไร”
ฉันตอบรับปลายสายเสียงห้วน
อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ ทวิตซ์เลิกบุกหอแล้ว ตั้งแต่ชวนปลาดาวเข้าทีมสำเร็จ
แต่เขาดันโทรมาก่อกวนฉันทุกคืนแทน ให้ทายว่าได้เบอร์จากไหน…ก็ตอนเอามือถือฉันไปโหลดแอปให้นั่นแหละ
[เย็นชาจัง]
เสียงทุ้มนุ่มปนเศร้านิดๆ
[คิดถึงเหมือนเดิม…อยากได้ยินเสียงเธอก่อนนอน]
น้ำเสียงซาบซ่านเหมือนถูกเจ้าตัวกระซิบข้างหูทำใจเต้นไม่เป็นอันนอน
[อยากกอดเธอจัง อย่าหายไปอีกนะ…]
ฉันควรตัดสายทิ้ง แต่ไม่รู้ทำไมถึงยังฟังเขาพล่ามต่อ…
[ยูแช…ฉันก็อยากได้ยินเธอเรียกชื่อฉันเหมือนกัน]
เสียงปลายสายออดอ้อนซะจนใบหน้าร้อนผ่าว
โชคดีเหลือเกินที่ตอนนี้เรารับรู้ถึงกันได้แค่เสียง ไม่อย่างนั้น ฉันคงได้หัวใจวายตายแน่ >\\\<
ลำพังตอนนี้มันก็แทบจะทะลุออกจากอกอยู่แล้ว
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
[ฝันดีครับเจ้าหญิง]
ติ๊ด
คนเอาแต่ใจชิงวางสายก่อนทุกที
แม้จะมีสวีทพีน้อยช่วยทำให้จิตใจสงบ…แต่นี่คงกลายเป็นอีกคืนที่ฉันนอนไม่หลับเพราะเขา
.
-เช้าวันต่อมา-
เบาะหลังแท็กซี่มีเจ้าชายสตอล์กเกอร์ หมาป่าในคราบไอ้แว่นและแกะน้อยไร้เดียงสา นั่งเรียงกันตามลำดับ ส่วนฉันนั่งข้างคนขับคอยบอกทาง
“ถ้าง่วงพิงได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”
ไอ้แว่นเริ่มทำตัวแปลกๆ ใส่ปลาดาวอีกแล้ว
“ไม่เป็นไรจ้ะ ^^; เคจะพิงฉันก็ได้นะ”
ดูปลาดาวสิ ถึงจะลำบากใจ แต่ช่างเป็นเด็กดีเหลือเกิน T^T
ส่วนอีตาทวิตซ์น่ะหรอ…
“Zzzzzz”
หลับสนิท…อิงซบไหล่ไอ้แว่นเต็มที่ จนตานั่นต้องเอียงตัวเบียดปลาดาวอย่างช่วยไม่ได้
ฉันแอบมองสถานการณ์ผ่านกระจกหน้ารถด้วยความรู้สึกผิดบาป
…ขอโทษนะปลาดาว ที่ทิ้งเธอนั่งข้างหลังกับไอ้สองตัวนี้ T T
จริงๆ ฉันพยายามหนีขึ้นรถมาสองคนตั้งแต่เช้ามืดแล้ว แต่ถูกอีตาทวิตซ์โทรจิกไม่หยุดเหมือนรู้ทัน เลยต้องจำยอมพามาด้วยยกแก๊ง = =;
ข้อดีคือมีคนช่วยหารค่าแท็กซี่ ส่วนข้อเสียน่ะหรอ เฮอะ…บานเบอะ ร่ายทั้งวันก็ไม่หมด
30 นาทีต่อมา…
รถแท็กซี่จอดส่งถึงที่หมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ
หน้าบ้านหลังใหญ่ของฉันเอง
ไม่ได้ใหญ่ธรรมดานะ ระดับคฤหาสน์เลยล่ะ สมเป็นบ้านของช่างภาพระดับโลกและนางแบบชื่อดัง
“แม่เจ้าโว้ย~ ยังกะละครไทย -o-”<-ไอ้แว่น
“ว้าว…*o*”<- ปลาดาว
“- -^”<- ทวิตซ์
คนอื่นฉันไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่พออีตาทวิตซ์เห็นบ้านฉัน ทำไมถึงทำหน้าไม่สบอารมณ์แบบนั้นล่ะ - -*
นอนน้อยหรือเพคะองค์ชาย?
เมื่อเจ้าของเรือนผมสีเงินรู้ตัวว่าถูกฉันจ้อง เขาก็รีบเปลี่ยนสีหน้ายิ้มแย้มให้ตามปกติ
…ไบโพล่าร์ชัดๆ
“อ๊ะ…”
ฉันที่รีบปรี่มาเอาสัมภาระท้ายรถก่อนใครเพื่อน ถูกทวิตซ์แย่งไปถือหน้าตาเฉย
“ฉันช่วย ^^”
เขาส่งยิ้มให้ตามสูตรพร้อมสะพายกระเป๋าเป้ของตัวเองเพิ่มอีกใบ
แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ดูเท่ขึ้นมาเชียว…
โคตรเท่ซะจนไอ้แว่นลอกการบ้าน
“ฉันถือให้!”
ไอ้แว่นฮุบกระเป๋าใบน้อยของปลาดาวไปครองเหมือนโจรวิ่งราว
“มะ ไม่เป็นไรจ้ะ ><;”
ปลาดาวที่ถูกแย่งของรักของหวง พยายามเอาคืนอย่างกระอั่กกระอ่วน เพราะกลัวเสียน้ำใจ
พอเป็นไอ้แว่นทำบ้างทำไมมันดูคุกคามจัง?
เฮอะๆ…เพราะนายไม่มีฟิลเตอร์เจ้าชายสินะ =o=
ฉันไขกุญแจรั้วเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงประตูหน้าบ้าน
ข้อดีของบ้านฉันคือไม่มีพวกคนใช้เหมือนในละครไทย มีแต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นกับกล้องวงจรปิด เพราะแม่ฉันทำงานบ้านเก่งมาก ส่วนพ่อชอบทำสวนและ
ซ่อมได้ทุกอย่าง
เปิดประตูเข้ามาก็เห็นป๊าม๊ากำลังนั่งกินข้าว
ป๊ายังหล่อเท่ภูมิฐาน ส่วนม๊าสวยสะบัด ผิวขาว ผมดำ สูงยาวเข่าดี 170 ซม.
ฉันได้ม๊ามาเกือบหมดยกเว้นส่วนสูงที่ขาดไป 7 เซนฯ
ทั้งสองยิ้มร่าโบกมือทักทายฉันและเดอะแก๊ง กวักมือเรียกให้ร่วมวง
“มาสิเด็กๆ ฝีมือม๊าเนี่ยอย่างงี้เลย ^0^b”
ป๊าโปรโมทอาหารม๊าเต็มที่ ยกนิ้วโป้งชูฮก
“กินเยอะๆ เลยน้า ถ้าไม่อิ่มห้ามลุกนะจ๊ะ ^-^”
ม๊าเองก็ตั้งใจต้อนรับขับสู้ไม่แพ้กัน
ทั้งคู่ดูดีใจมาก เพราะฉันไม่ได้พาเพื่อนมาบ้านนานแล้ว…
พอเห็นป๊าม๊ามีความสุขแบบนี้ ฉันเลยเผลอยิ้มตามไปด้วย
บรื๋อ~
รู้สึกขนลุกวาบเหมือนมีคนแอบมอง >~<
พอหันไปทางผู้ต้องสงสัยก็พบว่า เจ้าของนัยย์ตาน้ำทะเลกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มจ้องฉันอยู่จริงๆ
“อะไรเล่า! -*-//”
ฉันชักสีหน้าใส่แก้เขิน เชิดหนีมานั่งข้างป๊า
“เปล่าหนิ”
ทวิตซ์ยักไหล่ไม่ยี่หระ เดินตามมานั่งด้วยกัน
บรรยากาศบนโต๊ะรื่นเริงเหมือนงานเทศกาล ป๊าม๊าซักถามเรื่องฉันกับเดอะแก๊งมากมายอย่างออกรส ซึ่งแต่ละคนก็ตอบดีบ้างไม่มีดีบ้างตามประสา ส่วน
ตัวฉันให้คะแนนปลาดาว 10 เต็ม ไอ้แว่น 10 กะโหลก ส่วนอีตาทวิตซ์ 100 กระโหลกไปเลย! =*=
และนี่คือประโยคเด็ดฝังใจที่ฉันคัดมาในวันนี้
‘คอยช่วยเหลือเพื่อนตลอดค่ะ…ปะ เป็นคนเข้มแข็ง…จริงใจค่ะ’
‘โหย ไม่เป็นมิตรเลยป๊า ชอบทำหน้าบูดใส่ อมทุกข์ วันๆ ไม่สุงสิงกะใคร ไม่รู้เครียดอะไรนักหนา’
‘น่ารักครับ ทำอะไรก็สวยไปหมดเลย เก่งเหมือนพ่อ สวยเหมือนแม่’
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นเจ้าของประโยคไหน - -*
ส่วนเหตุผลที่ฉันให้อีตาเจ้าชาย 100 กระโหลก เพราะหลังจากนั้นป๊าม๊าแซวฉันยับเลยน่ะสิ! ToT
ทำเอาเกือบสำลักข้าวตายหลายช็อต อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หมดสิ้นแล้วมาดเจ้าหญิงน้ำแข็ง! >\\<
หลังกินเสร็จทุกคนช่วยกันเก็บจาน ส่วนที่เหลือม๊าจัดการต่อเองได้หายห่วง เพราะบ้านฉันมีเครื่องล้างจานราคาแพงหูฉี่กับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
มากมาย
ตั้งแต่จำความได้ ฉันก็รู้ว่าป๊าไม่เคยปล่อยให้เมียสุดที่รักต้องเหนื่อยโดยใช่เหตุ เขาทะนุถนอมม๊ามาก
ถ้าซักวันต้องแต่งงาน ฉันก็อยากได้ผู้ชายที่ดูแลใส่ใจคนรักและมั่นคงแบบป๊าเนี่ยแหละ
ฉันใช้เวลาทั้งวันช่วยม๊าทำงานจิปาถะเรื่อยเปื่อย ส่วนอีตาทวิตซ์ถูกป๊าลากไปคุยสัพเพเหระสนุกสนาน ไอ้แว่นกับปลาดาวว่างจัดเลยพากันทัวร์รอบ
บ้าน ถึงเวลาทุกคนก็มานั่งกินข้าวด้วยกัน วนอยู่แบบนี้จนจบวัน
ตกดึกเราแยกย้ายพักผ่อน ปลาดาวนอนห้องฉัน ส่วนสองคนนั้นขอจองห้องนั่งเล่น เพราะติดใจทีวีจอแบน
กริ๊งง
หัวยังไม่ทันถึงหมอน เสียงมือถือเจ้ากรรมนายเวรก็ดังขึ้นทุ่มตรงเป๊ะ
[เจอกันห้องนั่งเล่นนะ ฉันเอาอูโน่มาด้วย]
เสียงปลายสายฟังดูตื่นเต้นสนุกสนาน พนันได้เลยว่าเจ้าตัวกำลังยิ้มร่าอยู่
“ฉันง่วง”
แน่นอนว่าต้องปฏิเสธอยู่แล้ว ลำพังแค่นายมาที่นี่ ฉันก็เพลียจะแย่ ขอพักบ้างเถอะ!
[โอเค เจอกันห้องเธอนะ]
ห๊ะ! ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นย่ะ!!! >o<
“เดี๋ยว…!”
ติ๊ด
ปลายสายรีบกดวาง ไม่เปิดโอกาสให้ทักท้วง
ไม่นะ! ไม่เอา! มันต้องไม่ใช่แบบนี้เซ่!
ฉันหันซ้ายแลขวา รีบตั้งสติว่าควรทำอะไรก่อนดี
“มีอะไรหรอ?”
ปลาดาวนั่งเช็ดผมอยู่บนเตียงมองตาใสแป๋วห่วงใย เพราะเห็นฉันดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติ
“พวกผู้ชายจะมาที่ห้อง ToT”
ฉันตอบกลับด้วยท่าทีสุดหดหู่
เพราะปลาดาวเป็นผู้หญิงด้วยกัน ฉันเลยไม่คิดอะไรมาก แต่ถ้าไอ้สองหน่อนั่นจะบุกห้องจริง ฉันคงต้องแสกนละเอียดยิบ ว่ายังมีอะไรที่ไอ้ลิงกังพวก
นั้นไม่ควรเห็นรึเปล่า?
ฉันกับปลาดาวเปลี่ยนชุดนอนให้มิดชิดขึ้น ช่วยกันเคลียร์ห้องจนสะอาดวิบวับ พวกของกระจุ๊กกระจิ๊กสาวน้อยหอยสังฆ์ถูกเก็บยัดซ่อนตู้หมด
สภาพตอนนี้เหมือนห้องตัวอย่างตามงานขายบ้านมากกว่าห้องที่ฉันอยู่มา 16 ปีซะอีก
“ขอบคุณนะปลาดาว~ ><”
ฉันดีใจกับความสำเร็จครั้งนี้มาก พุ่งตัวกอดปลาดาวที่ได้แต่หัวเราะแหะๆ
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูในจังหวะคุ้นเคยดังแทรก
ฉันรู้นิสัยดื้อด้านของคนหน้าห้องดี ว่าคืนนี้เขาจะไม่หยุดกวนใจแน่ ถ้าไม่ได้สิ่งที่ต้องการ
แกร๊ก
ฉันเปิดประตูต้อนรับเหล่าชายฉกรรจ์เข้าห้องเป็นครั้งแรก
แฟชั่นชุดนอนของหนุ่มๆ ค่ำคืนนี้ มาในธีม ‘แมนๆ เตะบอลฮะ’
สองหน่อสวมชุดบอลกางเกงปะเข่า แต่อยู่คนละทีม
อา…เข้าใจล่ะ คืนนี้พวกนายมีนัดดูบอลกันสินะ ไม่น่าถึงรีบจองห้องนั่งเล่นบ้านฉันอย่างไว
ถ้าให้เดาหลังกล่อมม๊านอนเสร็จ ป๊าฉันคงมาร่วมแจมด้วยอีกคน…
นับเป็นเรื่องดีที่ได้รู้ว่าไม่ต้องติดเหง็กอยู่กับอีตาพวกนี้ทั้งคืน
ทวิตซ์หามุมเหมาะเจาะทิ้งตัวนั่งในท่าขัดสมาธิ สับไพ่อูโน่ในมือเรียกรวมพลตั้งวง ฉันย่อตัวนั่งข้างเขา มองสำรับไพ่อย่างสนอกสนใจ
…ไม่ได้เล่นนานจนลืมกติกาไปหมดแล้ว
เมื่อชายหนุ่มชุดขาวรู้ตัวว่าถูกจ้อง เค้าก็หันมาทำตาหวานส่งยิ้มให้
หว๋า…ดาเมจยังรุนแรงเหมือนเดิม เชื่อแล้วว่าคนหล่อใส่อะไรก็ดูดี แถมได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวตานั่นอีก เลือกที่ผิดซะแล้วฉัน >\\\< รู้งี้นั่งข้างทีม
ชุดดำดีกว่า!
สับไพ่เสร็จทวิตซ์ก็ช่วยสอนกติกาใหม่ตั้งแต่ศูนย์ พอเล่นเป็นแล้วเวลาผ่านไปเร็วมาก มีเถียงกัน แพ้บ้างชนะบ้าง แต่รู้สึกสนุกจนลืมง่วง
ติ๊ดๆๆๆ
นาฬิกาแจ้งเตือนเวลาเที่ยงคืนทำวงแตก ทวิตซ์กดปิดเสียง รวบเก็บสำรับไพ่เตรียมตัวกลับ
ก่อนพยุงร่างลุกจากพื้น คนขี้อ่อยยังไม่วายเอี้ยวตัวมากระซิบบอกลาฉันอย่างหวานเสี่ยว
“ฝันดีนะเจ้าหญิง”
จุ๊บ
คราวนี้ฉันโดนขโมยจุ๊บแก้มไม่ทันตั้งตัวต่อหน้าไอ้แว่นและปลาดาวที่ช็อคไปตามๆ กัน
ไม่รู้สึกดีใจเลยซักนิดที่มีคนช่วยเขินเพิ่ม >\\\<
ยังไม่ทันขยับปากด่า เจ้าชายดอกไม้ก็ลากไอ้แว่นเพื่อนซี้หนีไปแล้ว…
จบค่ำคืนแสนว้าวุ่นลงแต่เพียงเท่านี้
.
-3 วันต่อมา-
(ณ ห้องสภานักเรียน)
หลังกลับจากป่วนบ้านฉันก็ไม่มีอะไรพิเศษ ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ
ซึ่งปกติที่ว่าหมายถึง อีตาทวิตซ์เข้ามาก่อกวนตามปกติ - -;
สำหรับความคืบหน้างานฮาโลวีน พวกเราวางแผนว่าจะใช้บางส่วนของตึกสภานักเรียนทำบ้านผีสิงทดสอบความกล้า เพราะไหนๆ มันก็น่ากลัวอยู่แล้ว
เผลอๆ ไม่ต้องให้ใครแต่งเป็นผี จะมีผีโผล่มาช่วยหลอกคนเองด้วยซ้ำ
ตอนนี้ ฉัน ทวิตซ์และปลาดาว กำลังง่วนอยู่กับการทำพร๊อพประกอบฉากสุดหลอน
ทุกอย่างราบรื่นดี จนกระทั่ง…
“มีเรื่องแล้วโว้ยย!!! O[]O”
ไอ้แว่นพังประตูห้องสภานักเรียนเข้ามา แหกปากร้องโวยวายเหมือนโลกแตก
“ใจเย็นเค…เป็นอะไร?”
ทวิตซ์ปลอบลูบหลังเพื่อนป่อยๆ ให้สงบสติอารมณ์ก่อนเป็นลมบ้าหมูตาย
ตาแว่นชูหนังสือพิมพ์โรงเรียนในมือ ชี้ไปที่ข่าวหน้าหนึ่ง
“ดูนี่ดิ! ยัยถังน้ำแข็งดังใหญ่แล้ว!”
“ห๊า…!?”
ฉันหรอ? =o=;
ทวิตซ์ดึงหนังสือพิมพ์ในมือไอ้แว่นมาอ่านอย่างไว ฉันเห็นลางไม่ดีเลยเดินเข้าไปร่วมแจมด้วย
-พาดหัวข่าว-
[ฉาว! ประธานสาวพาผู้ชายขึ้นห้อง แหกกฎหอแอบเลี้ยงแมวตัวผู้ ขุดอดีตเคยเป็นสาวเฉิ่มมาก่อน!!!]
เชี้ยไรเนี่ย?! คือคำอุทานแรกที่ผุดขึ้นในหัวหลังเห็นพาดหัวข่าวโคตรปัญญาอ่อน
แล้วดูรูปประกอบดิ =-=* นี่มันฉันสมัย ม.ต้น นี่หว่า
แก้มป่องเป็นปลาทอง แว่นหนาเตอะ ตัดผมบ๊อบ ไว้หน้าม้าปิดตา
เอิ่ม…เฉิ่มจริง
แกร่บ แกร่บ แกร่บ
ในขณะที่ฉันกำลังรู้สึกหงุดหงิดและไอ้แว่นยังสติแตกไม่หาย ร่างสูงก็แผดแผ่รังสีอำมหิตออกมา…
ได้ยินเสียงกัดฟันกรอด หนังสือพิมพ์ในมือถูกบดขยำเละเป็นก้อน ก่อนที่เขาจะปามันใส่หน้าปลาดาว…!
=[]= !!!!
o[]O !!!!
ฉันและไอ้แว่นช็อคติดสตั๊นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“…พูดอะไรซักอย่างสิ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำถูกอารมณ์ครุกรุ่นกดให้เข้มขึ้น
ดวงตาสีฟ้าครามขุ่นมัวทอดมองร่างสาวน้อยผมเปียตรงหน้า ซึ่งเป็นเพียงคนเดียวในห้องที่ยังคงนิ่งเฉยไม่แสดงท่าทีใดๆ
“เค…จำได้มั้ยว่าเราเคยเห็นรูปนั้นที่ไหน?”
ทวิตซ์พูดกัดฟันพยายามข่มอารมณ์สุดขีด
…เดาว่าเขาคงหมายถึงรูปสุดเฉิ่มของฉัน
คนถูกถามนิ่งเงียบพักใหญ่ ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดใจ
“…ห้องนั่งเล่นบ้านยัยนั่น”
“…”
ตอนนี้ฉันเริ่มฉลาดขึ้นมาแล้ว
“…ฮึกๆ”
ปลาดาวถูกแรงกดดันจากทุกคนในห้องบีบคั้นให้น้ำตาไหลออกมา
เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นวิ่งหนีไปโดยไร้ซึ่งคำพูด ราวกับตัวเองเป็นเหยื่อ
“…”
ฉันก็รู้สึกอยากร้องไห้เหมือนกัน…แต่น้ำตามันไม่ยอมไหล
มีแต่ความทรงจำสีจางในอดีตพุ่งจู่โจมเหมือนฉากหนัง…
…
อีกแล้วสินะ กลายเป็นยัยหน้าโง่ที่คิดว่าตัวเองมี ‘เพื่อน’ ทั้งที่ ‘ไม่เคยมี’
หมับ
ก่อนที่ฉันจะจมดิ่งไปกับความรู้สึก…ก็ถูกร่างสูงดึงเข้าไปกอดไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก
“อย่าร้องนะ”
น้ำเสียงอ่อนโยนแผ่วเบาและสัมผัสอบอุ่นปลอบประโลมหัวใจ
…แต่มันกลับทำให้น้ำตาไหลรินออกมาอย่างง่ายดาย
“ฮึก…ฮืออออ!!!”
ก้อนสะอื้นถูกปล่อยไม่เหลือ ตามด้วยเสียงร้องคร่ำครวญน่าเวทนา
ตาบ้าเอ้ย! ถ้านายไม่ทำแบบนี้ฉันคงไม่ร้องหรอกย่ะ!
TT[]TT หยุดร้องไม่ได้ด้วย…ยิ่งเป็นต่อหน้าไอ้แว่นอีก! แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่หนายยย
(จบตอน)
แดฟโฟดิล; อัศวินผู้ภักดี มิตรภาพและความกล้าหาญ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ