The Prince of Flower เกมรักมัดใจ เจ้าชายดอกไม้กับยัยเย็นชา
9.7
เขียนโดย Killolat
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07.31 น.
27 บท
1 วิจารณ์
2,886 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567 00.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
27) สารบัญดอกไม้+ไกด์ไลน์+Chitchat
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสำหรับบทนี้ จะแบ่งเป็น 3 ส่วนค่ะ
1.ภาพประกอบ ข้อมูล และความหมายของดอกไม้
(เว็บนี้มีปัญหากับการใส่ภาพมากเลยค่ะ ใครสนใจสามารถเข้าไปดูบทนี้และภาพ Art Event ได้ ทาง Dek-D, ธัญวลัย, Fiction, Readawrite)
2.สปอยภาพรวมคอนเซปต์บทนั้นๆ ความหมายแฝง ถกเนื้อเรื่อง
3.มุมมองของผู้เขียน มีสปอย เวิ่นเว้อ ตัดพ้อ เพ้อเจ้อ บ่นเรื่อยเปื่อย (สำหรับคนขี้รำคาญแนะนำให้ข้ามส่วนนี้)
*ตอนนี้เขียนเสร็จแค่ส่วนสาม*
บทที่ 1 คาโนล่า; ยินดีกับการเริ่มต้นสิ่งใหม่
สำหรับเราที่กลับมาเขียนนิยายอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 10 ปี นิยายเรื่องนี้เริ่มต้นได้ขรุขระทีเดียว เป็นการเปลี่ยนวิธีเขียนจากเรื่องก่อนๆ
โดยสิ้นเชิง จากมุมมองบุคคลที่ 1 ใส่อีโมติค่อนติ๊งต๊องแบบนิยายรักแจ่มใสในความทรงจำ เบาสมอง ผสมการบรรยายในมุมมองบุคคลที่ 3 ที่ต้องเก็บ
รายละเอียดและปราณีตในการเลือกใช้คำมากขึ้น ไม่แปลกที่สำนวนจะออกมาเปล่งพิลึกติดขัดไปหมด ซึ่งในส่วนนี้ผู้เขียนก็พยายามขัดเกลาอยู่ค่ะ
รวมถึงการใส่อิโมติค่อนที่เราชอบนักหนาให้ไม่น่ารำคาญเกินไป สำหรับผู้เขียนการใส่อิโมติค่อนเป็นความชอบส่วนตัวและถือเป็นศาสตร์อย่างนึง ซึ่งก็
ยังทำได้ไม่ดีอีกแหละ ^^;
บทที่ 2 สวีทพี; ขอบคุณและอำลา แด่ทุกช่วงเวลาดีๆ ที่ผ่านเข้ามา
คงเป็นเวรกรรมที่เคยทิ้งนักอ่านที่น่ารักไปเมื่อ 10 ปีก่อน นิยายในเว็บแจ่มใสที่เคยลงก็โดนลบทิ้งหมดเลย ทั้งคอมเม้นต์ ยอดวิว ทุกความทรงจำหาย
เกลี้ยง แต่ใดๆ ก็ต้องขอขอบคุณการสูญเสีย ที่ทำให้เราตระหนักได้ว่าชอบการเขียนนิยายรักมากแค่ไหน นอกจากแต่งนิยายแล้ว เราชอบอ่านนิยาย
เล่นเกมและวาดรูปค่ะ หลังจากจบมัธยมสิ่งที่ชอบก็เหลือแค่เล่นเกมอย่างเดียว เพราะมันเป็นงานอดิเรกที่ง่ายและเครียดน้อยที่สุด ตั้งแต่หยุดแต่ง
นิยายไปเราก็ไม่เคยอ่านนิยายรักอีกเลย เพราะมันทำให้รู้สึกผิดที่หนีออกมา วาดรูปก็ไม่มีเวลา ที่จริงแล้วเวลามันก็แค่ข้ออ้างค่ะ เพราะเราขาดความ
พยายาม ขี้อิจฉา กลัวการถูกเปรียบเทียบจากทั้งคนอื่นและตัวเอง เลยเลือกที่จะตัดงานอดิเรกให้เหลือแค่เล่นเกม แต่ไม่ว่าจะเล่นเกมอะไร เล่นเท่า
ไหร่ มันก็ไม่เคยเติมเต็มส่วนที่ขาดได้เลย
เราเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่มีสิ่งที่ชอบจริงๆ เป็นแค่มนุษย์เป็ดขี้เบื่อไหลตามกระแส จนได้กลับมาแต่งนิยายอีกครั้งถึงรู้ว่า ที่จริงแล้วเรารักการแต่ง
นิยายนี่เอง ถ้าให้เปรียบการแต่งนิยายคือเกมที่สมบูรณ์แบบเลยค่ะ เราสามารถสร้างทุกจินตนาการออกมาได้ดังใจคิด ใช้คำได้อย่างอิสระโดยไม่ถูก
จำกัดด้วยปุ่มบังคับ แม้ผลงานจะออกมาไม่ดีเท่าไหร่ แต่เมื่อย้อนกลับมามองจินตนาการที่ถูกสร้างขึ้นเป็นรูปธรรมแล้ว รู้สึกฟินจริงๆ การวาดรูปก็เหมือนกัน มันคืออิสระภาพทางจินตนาการที่เราต้องการมาตลอด
บทที่ 3 ไฮเดรนเยีย; ขอบคุณที่เข้าใจและยอมรับหัวใจด้านชาของฉัน
สุดท้ายแล้วคนที่อยู่เคียงข้างเราได้ดีที่สุดก็คือตัวเราเอง แค่ยอมรับ เข้าใจ ไม่ว่าอะไรก็ทำได้อย่างไร้ข้อจำกัด สำหรับนักอ่านที่อ่านมาจนถึงบทนี้ได้
แปลว่าคุณพยายามเข้าใจนิยายเรื่องนี้แล้ว ต้องขอบคุณจริงๆ ค่ะ แม้ในท้ายที่สุดจะค้นพบว่า มันห่วยแตกหรือไม่ใช่แนวก็ตาม
บทที่ 4 แคคตัส; จงสู้ต่อไป ดังดอกแคคตัสที่เบ่งบานท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุ
เขียนนิยายมันเหนื่อย แต่สนุกจนหยุดไม่ได้ สำหรับคนที่อ่านมาถึงบทนี้ คุณยังคงพยายามค้นหาและรอคอยความสนุกอยู่ล่ะสิ…เข้าใจค่ะ สำหรับเราใน
มุมมองนักอ่าน บทนี้กร่อย อยู่ในช่วงปูเอื่อยเฉื่อย น่าเบื่อ แถมยังใช้คำน่ารำคาญ เอาจริงถ้าพระเอกไม่หล่อ+ตัวเองมีปมที่เคยหยุดเขียน+อยาก
เอาชนะ+เสียดาย คงไม่เขียนต่อละ
บทที่ 5 แดฟโฟดิล; อัศวินผู้ภักดี มิตรภาพและความกล้าหาญ
บทนี้โครงเรื่องชัดขึ้นแล้ว คาแรกเตอร์เริ่มเสถียร ความพยายามไม่สูญเปล่า ปูปมไปจุดพีคแรกได้สำเร็จ โดยเน้นเล่าเรื่องมิตรภาพ ชูบทตัวประกอบ
บ้าง เพราะเคยโดน บก.วิจารณ์เรื่องเก่าที่ไม่ผ่านว่า บทตัวประกอบน้อยจัง แต่นั่นแหละค่ะ ก็ยังรู้สึกขาดๆ หายๆ อยู่ดี
บทที่ 6 แมรี่โกลด์; ความริษยา, แสงสว่างนำทางสู่ความสุขและความสำเร็จ
เราเกลียดความขี้อิจฉาของตัวเองมากเลย ปกติก็เป็นพวกชอบเปรียบเทียบโดยสันดานอยู่แล้ว เวลาเห็นคนอื่นเค้าเขียนเก่ง มีคนสนใจเยอะ ไม่ด้อย
ค่าตัวเองก็จะด้อยค่าคนอื่นแทน ที่ผ่านมาถึงหนีจากความรู้สึกนี้มาตลอด เพราะไม่อยากอิจฉาจนนำมาสู่ความเกลียด กลายเป็นพลังลบทั้งต่อตัวเอง
และคนรอบข้าง แต่พักหลังมานี้ เริ่มปลงและหาทางเปลี่ยนมันเป็นแรงผลักดันให้ก้าวต่อไปแทน กึ่งๆ หลอก+สะกดจิตตัวเอง อย่างไรก็ตาม ความ
ริษยาก็เป็นเชื้อเพลิงที่ดีจริงๆ
บทที่ 7 คัตเตอร์; ฉันยังอยู่ตรงนี้
ความเหงาไม่เข้าใครออกใคร แต่งๆ ไปก็เหงานะ ดีหน่อยที่เราเป็นพวกขี้ขลาด ยอมเหงาดีกว่าหาเหาใส่หัว ไม่มีใครก็ยังมีเรา มีตัวละครที่สร้าง เรื่อง
ราวที่แต่ง ถูๆ ไถๆ ได้แหละน่า
บทที่ 8 แกลดิโอลัส; คำมั่นสัญญา, รักเร่าร้อนและความลุ่มหลง
แรงผลักดันอีกอย่างที่ทำให้การแต่งนิยายคอยตามหลอกหลอนเรายิ่งกว่าผี คือ คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับนักอ่านก่อนหายไปว่า ไม่ว่านานแค่ไหน ก็
จะแต่งให้ครบทุกเจ้าชายเลยค่ะ (หักนิ้วนับแล้วตอนนี้เหลืออีกสองคน ถ้าไม่นับเรื่องของเจ้าชายราตรีที่ไม่ได้แบล็คอัพไว้โดนลบหายไปพร้อมเว็บ
แจ่มใส) ช่วงนี้คู่พระนางเริ่มเร่าร้อน แต่งสนุกเลยค่ะ
บทที่ 9 แอนนีโมนี่; รักแท้ที่เฝ้ารอคอยตราบชั่วลมหายใจ
กว่าจะเข้าอีเว้นต์แรกน้ำตาจิไหล ทรมานจริงๆ เริ่มรู้ตัวละว่าตัวเองเขียนเยอะเกิน จำนวนคำต่อบทมากกว่าเรื่องเก่า 2-3 เท่า บทนี้เขียนสนุกค่ะ มีแขก
รับเชิญเป็นคู่พระนางเก่าให้หายคิดถึง เคมีดี เวิ่นเว้อ สนุกกับการเขียนเล่นธีมฮาโลวีน เดอะเบสคือการเล่านิทานก่อนนอนของทวิตซ์ ก่อนแต่งเราก็ไม่
คิดว่า ดอกไม้แต่ละชนิดจะมีความหมายและเรื่องราวขนาดนี้ สรุปแล้วบทนี้ช่วยจุดประกายหลายอย่างเลยค่ะ ในมุมมองผู้เขียน นิยายเรื่องนี้แหละคือ
รักแท้ที่เฝ้ารอมาตลอดชีวิต
บทที่ 10 พีโอนี; ความปรารถนาดีและหัวใจที่ซื่อตรง
ตัดเรื่องทางกายออกบ้าง เพราะชักจะสกินชิพหนักละ เป็นเคมีพระนางที่เราชอบมากจริงๆ ไทป์ตรงข้ามลูกหมาคลั่งรักกะแมวดำซึนเดเระ ถึงบทนี้
นิยายยังไม่บูม เราเริ่มเปลี่ยนจุดโฟกัสไปที่ความสนุกและความสุขในการแต่งแทนยอดวิวและคอมเม้นต์แล้วค่ะ สาบานกับตัวเองว่า ยังไงก็ต้องแต่งให้
จบ ไม่ยอมตายก่อนแต่งจบเด็ดขาด
บทที่ 11 เอเดลไวส์; ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่น เพื่อรักแท้ที่งดงามราวกับฝัน
แม้ไม่ใช่ชายหนุ่มแต่ผู้เขียนมุ่งมั่นตั้งใจกับนิยายเรื่องนี้มากจริงๆ อยากให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
บทที่ 12 เดซี่; หัวใจบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
บทนี้แอบรู้สึกเวิ่นเกินตอนต้น แต่พอแต่งจบแล้วรู้ว่านางเอกมโนไปเองนี่หว่า ย้อนกลับมาอ่านก็ขำดี ยังคงแต่งต่อเพราะคาริสม่าของพระเอก
บทที่ 13 ลิลลี่; ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จักคนอย่างคุณ
อ่านมาถึงบทนี้ คุณคงรู้จักกับเรื่องนี้ดีพอๆ กับเราและรู้จักเราผ่านตัวอักษรด้วย ชีวิตจริงเราไม่ชอบทำความรู้จักใครเพิ่มให้ปวดหัวหรอกค่ะ เพราะขี้
เกียจรักษาความสัมพันธ์ ยิ่งสนิทยิ่งคาดหวังจนรู้สึกอึดอัด แต่ในโลกนิยายเรายินดีที่ได้รู้จักนักอ่านทุกคนนะคะ แม้ตัวตนของคุณจะเป็นเพียงยอดวิว
หรือตัวอักษรก็ตาม ขอบคุณที่เข้ามาทำให้หายเหงาค่ะ
บทที่ 14 ไลเซนทัส; ทะนุถนอมทุกความทรงจำอันล้ำค่า
บทนี้ตั้งใจว่าอยากดื่มด่ำความหวานก่อนเจอดราม่าขม เราไม่ชอบท็อกซิก แต่ก็ต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์พระนางมันท็อกซิกจริง ที่ผ่านมาถึง
พยายามเขียนให้ปมจบในบท ฟีลกู๊ดฮีลใจ หรือทิ้งความหวังเล็กๆ ไว้เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกค้างคา ซึมเศร้า ทั้งผู้เขียนและผู้อ่าน ไม่แน่ใจว่าตี
ความทฤษฎีสัมพัทธภาพถูกมั้ย เอาเป็นว่านิยายรักเรื่องนี้กึ่งแฟนตาซี อะไรที่ไม่สมเหตุสมผล ถ้าไม่ขัดหูขัดตาเกินไป โปรดมองข้ามเพื่อข้ามความโร
แมนซ์ด้วยเถอะค่ะ
บทที่ 15 คริแซนธิมัม; ความจริงในใจ
ชอบเอเดลมากจริงๆ เป็นตัวละครที่ตอนแรกอิมเมจในหัวมีแต่คำว่า สวยกับเหมือนทวิตซ์ แต่พอเขียนออกมาแล้วสนุกกว่าที่คิด ปมครอบครัวเราจะ
พยายามไม่ไปแตะมาก เลี่ยงดราม่า+รับความซึมเศร้าไม่ไหว อยากเน้นหวานฟิน ไม่ใช่ขมปี๋ เครียด (เคยคิดเล่นๆ อยู่ว่าอยากเขียนสปินส์ออฟแยก
เพราะคุณพ่อหล่อ) อ้อ ตอนแรกเราก็งงความคิดนางเอกค่ะ รักแต่ต้องเลิกมันซับซ้อนจัง หวังว่าจะสื่อออกมาได้เมคเซ้นต์นะคะ
บทที่ 16 ไลแลค; วอนเธอโปรดยึดมั่นในตัวฉัน
บอกตัวเองและนักอ่าน ให้ตัวละครบอกกันเองด้วย ยึดมั่นไว้ๆ เดี๋ยวความสุขก็มาถึง
บทที่ 17 ป๊อปปี้; รักของฉันคือการเสียสละ
เกลียดนิยามนี้สุดๆ ทันทีที่คิดว่าต้องเสียสละก็คือเราเริ่มเห็นแก่ตัวและความทุกข์จะตามมา ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เพราะสิ่งนั้นมีค่ามาก
พอถึงยอมเสียสละ การเขียนนิยายเรื่องนี้กับเวลาและปัญหาสุขภาพก็เช่นกัน ส่วนเรื่องเงินไม่เกี่ยว เขียนไม่เขียนก็ไส้แห้งอยู่ดี
บทที่ 18 ยิปโซ; ตราตรึงด้วยวังวนแห่งรัก
ผู้เขียนนี่แหละถูกตรึง จนหยุดไม่ได้
บทที่ 19 ลาเวนเดอร์; การรอคอยด้วยความหวังอันเปี่ยมล้น
รอคอยให้จบอยู่นะ รอคอยคนอ่าน รอคอยจินตนาการ รอคอยแรงใจแรงกาย ชอบธีมพระเจ้าสร้างโลก อดัมกับอีฟ ชอบคาแรกเตอร์เอเดล พระเอกฟื้น
แล้ว เย้!
บทที่ 20 เยอบีร่า; ให้รักเรานำพาความสุข
ตอนนี้อยากให้ออกแนวสืบสวนหน่อยโชว์ความฉลาดที่พระเอกมี แต่คนเขียนไม่มี เขียนไปร้องไห้ไปเปลืองน้ำตาพอๆ กะบทที่ 18,17 เลย ภาษา
ฝรั่งเศสก็มีเสน่ห์ การเขียนเข้ามือสุดๆ
บทที่ 21 ฮิบิสคัส; แรงศรัทธาถักทอสายใยรัก
บทนี้ดราม่าทำชะงัก เขียนติดๆ ขัดๆ งานล้นมือ แต่ยังรอดพอถูไถ ทรมานนะ แต่คงเป็นมาโซคิสม์ เพราะอีกใจนึงก็ไม่อยากให้เรื่องนี้จบเลย
บทที่ 22 คาร์เนชั่น; Love me, Love my dog.
แจกความหวานก่อนเข้าดราม่าสุดท้าย ขายฉากเซอร์วิสล้วนๆ ฮีลใจตัวเอง พระเอกสู้เราก็สู้
บทที่ 23 บลูเบล; โอนอ่อนน้อมรัก มั่นคงไม่แปรผัน
หวานเป็นตัวละครที่คิดไว้หลายแบบมาก แต่ดีใจที่ลงเอยรูปแบบนี้ พยายามคิดแก้ต่างให้นางเยอะมากว่าทำยังไงให้คนไม่เกลียดดี เพราะส่วนตัวเรา
เป็นคนที่สร้างตัวละครขึ้นมาแล้ว ไม่อยากรู้สึกเกลียดด้วย ถ้าทำให้เป็นนางร้ายแบบดาร์กฮีโร่ได้ก็ดี หวังว่าจะไม่ออกมาเปล่งๆ นะคะ
บทที่ 24 คามิเลีย; โชคชะตาของฉันอยู่ในมือเธอแล้ว
จะจบแล้ว คลายปมอีกฮึ๊บเดียว เดอะเบสบทนี้ขอยกให้ทวิตซ์เดอะแบก สังคมดราม่าจ๋าสมัยนี้อาจไม่ชอบพระเอกแนวนี้ แต่เรารักเค้าค่ะ หลงรักในตัว
ตนเปี่ยมอัตตา เป็นพระเอกที่ทัชใจสุดๆ เหมือนแสงสว่างของเรื่อง ถึงนิสัยมันจะแปลกๆ ก็เหอะ น่าเสียดายที่ไม่ค่อยได้ลงดีเทลอีเว้นต์สุดท้ายเท่าไหร่
ลำพังแปะเนื้อเพลงก็ยาวเหยียดกลัวยืดเกิน แต่โดยรวมย้อนอ่านแล้วพอใจค่ะ To the moon and never back!
บทที่ 25 ฮันนี่ซัคเกิล; เธอช่างหวานเกินต้าน
บทนี้ชอบที่สุดตั้งแต่เขียนมา เกือบกลายเป็น nc แล้วมั้ยล่ะ ดีนะคาแรกเตอร์นางเอกโลกสวย พูดถึง nc ไม่เคยคิดอยากเขียนแนวนี้เลยค่ะ ชื่นชมนัก
เขียนทุกแนวนะคะ นักอ่านด้วย แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่น่ามีความสามารถพอ เขียนไปแล้วกัดกินจิตวิญญาณ ความรักที่อยากสื่อจะถูกบดบังด้วยตัณหา
(เผื่อไว้ เกิดใครอยากสร้างเสริมจินตนาการ เข้าไปหน้าแนะนำตัวละครแล้วเอาข้อมูล เช่น วันเกิด กรุ๊ปเลือด ราศี ไปเสิร์จตามด้วยคำว่า ‘เรื่องบนเตียง’
แค่นี้ก็มีฉาก nc ในหัวละค่ะ) อีกอย่างเราชอบบทแนะนำตัวละครมากเลย เป็นเหมือนไกด์ไลน์ที่ทำให้ไม่เผลอเขียนหลุดคาแรกเตอร์ สีที่ชอบ ราศี
กรุ๊ปเลือด วันที่ รสชาติอาหารสุดโปรด พอเจาะลึกถึงจิตวิทยาเหล่านี้แล้ว เขียนสนุกสมจริงขึ้นเยอะ
บทส่งท้าย โรส ออฟ ชารอน; รักนิรันดร์
สั้นๆ คือฟิน เขียนไปมียิ้มไป เป็นบทที่เครียดน้อยสุดแล้ว เด็กๆ น่ารักมากเลย
สำหรับเราเรื่องนี้คือ รักนิรันดร์ เป็นโปรเจคตลอดชีพ นอกจากบทบาทนักเขียนแล้ว เรายังเป็นนักอ่านตัวยงที่แวะเวียนกลับมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยค่ะ
ต่อให้เป็นยัยแก่หงำเหงือกก็จะนั่งอ่านและแก้เกลาต่อไปจนลงโลง
สุดท้ายนี้ ผู้เขียนไม่สัญญาว่าจะเก่งขึ้น แต่จะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และขอบคุณนักสำรวจทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาในดินแดนมหัศจรรย์ที่ถูกสร้าง
ขึ้นจากฝีมือนักเขียนไม่เอาอ่าวคนนี้
หวังว่าเราจะได้พบกันอีก
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ^^
1.ภาพประกอบ ข้อมูล และความหมายของดอกไม้
(เว็บนี้มีปัญหากับการใส่ภาพมากเลยค่ะ ใครสนใจสามารถเข้าไปดูบทนี้และภาพ Art Event ได้ ทาง Dek-D, ธัญวลัย, Fiction, Readawrite)
2.สปอยภาพรวมคอนเซปต์บทนั้นๆ ความหมายแฝง ถกเนื้อเรื่อง
3.มุมมองของผู้เขียน มีสปอย เวิ่นเว้อ ตัดพ้อ เพ้อเจ้อ บ่นเรื่อยเปื่อย (สำหรับคนขี้รำคาญแนะนำให้ข้ามส่วนนี้)
*ตอนนี้เขียนเสร็จแค่ส่วนสาม*
บทที่ 1 คาโนล่า; ยินดีกับการเริ่มต้นสิ่งใหม่
สำหรับเราที่กลับมาเขียนนิยายอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 10 ปี นิยายเรื่องนี้เริ่มต้นได้ขรุขระทีเดียว เป็นการเปลี่ยนวิธีเขียนจากเรื่องก่อนๆ
โดยสิ้นเชิง จากมุมมองบุคคลที่ 1 ใส่อีโมติค่อนติ๊งต๊องแบบนิยายรักแจ่มใสในความทรงจำ เบาสมอง ผสมการบรรยายในมุมมองบุคคลที่ 3 ที่ต้องเก็บ
รายละเอียดและปราณีตในการเลือกใช้คำมากขึ้น ไม่แปลกที่สำนวนจะออกมาเปล่งพิลึกติดขัดไปหมด ซึ่งในส่วนนี้ผู้เขียนก็พยายามขัดเกลาอยู่ค่ะ
รวมถึงการใส่อิโมติค่อนที่เราชอบนักหนาให้ไม่น่ารำคาญเกินไป สำหรับผู้เขียนการใส่อิโมติค่อนเป็นความชอบส่วนตัวและถือเป็นศาสตร์อย่างนึง ซึ่งก็
ยังทำได้ไม่ดีอีกแหละ ^^;
บทที่ 2 สวีทพี; ขอบคุณและอำลา แด่ทุกช่วงเวลาดีๆ ที่ผ่านเข้ามา
คงเป็นเวรกรรมที่เคยทิ้งนักอ่านที่น่ารักไปเมื่อ 10 ปีก่อน นิยายในเว็บแจ่มใสที่เคยลงก็โดนลบทิ้งหมดเลย ทั้งคอมเม้นต์ ยอดวิว ทุกความทรงจำหาย
เกลี้ยง แต่ใดๆ ก็ต้องขอขอบคุณการสูญเสีย ที่ทำให้เราตระหนักได้ว่าชอบการเขียนนิยายรักมากแค่ไหน นอกจากแต่งนิยายแล้ว เราชอบอ่านนิยาย
เล่นเกมและวาดรูปค่ะ หลังจากจบมัธยมสิ่งที่ชอบก็เหลือแค่เล่นเกมอย่างเดียว เพราะมันเป็นงานอดิเรกที่ง่ายและเครียดน้อยที่สุด ตั้งแต่หยุดแต่ง
นิยายไปเราก็ไม่เคยอ่านนิยายรักอีกเลย เพราะมันทำให้รู้สึกผิดที่หนีออกมา วาดรูปก็ไม่มีเวลา ที่จริงแล้วเวลามันก็แค่ข้ออ้างค่ะ เพราะเราขาดความ
พยายาม ขี้อิจฉา กลัวการถูกเปรียบเทียบจากทั้งคนอื่นและตัวเอง เลยเลือกที่จะตัดงานอดิเรกให้เหลือแค่เล่นเกม แต่ไม่ว่าจะเล่นเกมอะไร เล่นเท่า
ไหร่ มันก็ไม่เคยเติมเต็มส่วนที่ขาดได้เลย
เราเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่มีสิ่งที่ชอบจริงๆ เป็นแค่มนุษย์เป็ดขี้เบื่อไหลตามกระแส จนได้กลับมาแต่งนิยายอีกครั้งถึงรู้ว่า ที่จริงแล้วเรารักการแต่ง
นิยายนี่เอง ถ้าให้เปรียบการแต่งนิยายคือเกมที่สมบูรณ์แบบเลยค่ะ เราสามารถสร้างทุกจินตนาการออกมาได้ดังใจคิด ใช้คำได้อย่างอิสระโดยไม่ถูก
จำกัดด้วยปุ่มบังคับ แม้ผลงานจะออกมาไม่ดีเท่าไหร่ แต่เมื่อย้อนกลับมามองจินตนาการที่ถูกสร้างขึ้นเป็นรูปธรรมแล้ว รู้สึกฟินจริงๆ การวาดรูปก็เหมือนกัน มันคืออิสระภาพทางจินตนาการที่เราต้องการมาตลอด
บทที่ 3 ไฮเดรนเยีย; ขอบคุณที่เข้าใจและยอมรับหัวใจด้านชาของฉัน
สุดท้ายแล้วคนที่อยู่เคียงข้างเราได้ดีที่สุดก็คือตัวเราเอง แค่ยอมรับ เข้าใจ ไม่ว่าอะไรก็ทำได้อย่างไร้ข้อจำกัด สำหรับนักอ่านที่อ่านมาจนถึงบทนี้ได้
แปลว่าคุณพยายามเข้าใจนิยายเรื่องนี้แล้ว ต้องขอบคุณจริงๆ ค่ะ แม้ในท้ายที่สุดจะค้นพบว่า มันห่วยแตกหรือไม่ใช่แนวก็ตาม
บทที่ 4 แคคตัส; จงสู้ต่อไป ดังดอกแคคตัสที่เบ่งบานท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุ
เขียนนิยายมันเหนื่อย แต่สนุกจนหยุดไม่ได้ สำหรับคนที่อ่านมาถึงบทนี้ คุณยังคงพยายามค้นหาและรอคอยความสนุกอยู่ล่ะสิ…เข้าใจค่ะ สำหรับเราใน
มุมมองนักอ่าน บทนี้กร่อย อยู่ในช่วงปูเอื่อยเฉื่อย น่าเบื่อ แถมยังใช้คำน่ารำคาญ เอาจริงถ้าพระเอกไม่หล่อ+ตัวเองมีปมที่เคยหยุดเขียน+อยาก
เอาชนะ+เสียดาย คงไม่เขียนต่อละ
บทที่ 5 แดฟโฟดิล; อัศวินผู้ภักดี มิตรภาพและความกล้าหาญ
บทนี้โครงเรื่องชัดขึ้นแล้ว คาแรกเตอร์เริ่มเสถียร ความพยายามไม่สูญเปล่า ปูปมไปจุดพีคแรกได้สำเร็จ โดยเน้นเล่าเรื่องมิตรภาพ ชูบทตัวประกอบ
บ้าง เพราะเคยโดน บก.วิจารณ์เรื่องเก่าที่ไม่ผ่านว่า บทตัวประกอบน้อยจัง แต่นั่นแหละค่ะ ก็ยังรู้สึกขาดๆ หายๆ อยู่ดี
บทที่ 6 แมรี่โกลด์; ความริษยา, แสงสว่างนำทางสู่ความสุขและความสำเร็จ
เราเกลียดความขี้อิจฉาของตัวเองมากเลย ปกติก็เป็นพวกชอบเปรียบเทียบโดยสันดานอยู่แล้ว เวลาเห็นคนอื่นเค้าเขียนเก่ง มีคนสนใจเยอะ ไม่ด้อย
ค่าตัวเองก็จะด้อยค่าคนอื่นแทน ที่ผ่านมาถึงหนีจากความรู้สึกนี้มาตลอด เพราะไม่อยากอิจฉาจนนำมาสู่ความเกลียด กลายเป็นพลังลบทั้งต่อตัวเอง
และคนรอบข้าง แต่พักหลังมานี้ เริ่มปลงและหาทางเปลี่ยนมันเป็นแรงผลักดันให้ก้าวต่อไปแทน กึ่งๆ หลอก+สะกดจิตตัวเอง อย่างไรก็ตาม ความ
ริษยาก็เป็นเชื้อเพลิงที่ดีจริงๆ
บทที่ 7 คัตเตอร์; ฉันยังอยู่ตรงนี้
ความเหงาไม่เข้าใครออกใคร แต่งๆ ไปก็เหงานะ ดีหน่อยที่เราเป็นพวกขี้ขลาด ยอมเหงาดีกว่าหาเหาใส่หัว ไม่มีใครก็ยังมีเรา มีตัวละครที่สร้าง เรื่อง
ราวที่แต่ง ถูๆ ไถๆ ได้แหละน่า
บทที่ 8 แกลดิโอลัส; คำมั่นสัญญา, รักเร่าร้อนและความลุ่มหลง
แรงผลักดันอีกอย่างที่ทำให้การแต่งนิยายคอยตามหลอกหลอนเรายิ่งกว่าผี คือ คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับนักอ่านก่อนหายไปว่า ไม่ว่านานแค่ไหน ก็
จะแต่งให้ครบทุกเจ้าชายเลยค่ะ (หักนิ้วนับแล้วตอนนี้เหลืออีกสองคน ถ้าไม่นับเรื่องของเจ้าชายราตรีที่ไม่ได้แบล็คอัพไว้โดนลบหายไปพร้อมเว็บ
แจ่มใส) ช่วงนี้คู่พระนางเริ่มเร่าร้อน แต่งสนุกเลยค่ะ
บทที่ 9 แอนนีโมนี่; รักแท้ที่เฝ้ารอคอยตราบชั่วลมหายใจ
กว่าจะเข้าอีเว้นต์แรกน้ำตาจิไหล ทรมานจริงๆ เริ่มรู้ตัวละว่าตัวเองเขียนเยอะเกิน จำนวนคำต่อบทมากกว่าเรื่องเก่า 2-3 เท่า บทนี้เขียนสนุกค่ะ มีแขก
รับเชิญเป็นคู่พระนางเก่าให้หายคิดถึง เคมีดี เวิ่นเว้อ สนุกกับการเขียนเล่นธีมฮาโลวีน เดอะเบสคือการเล่านิทานก่อนนอนของทวิตซ์ ก่อนแต่งเราก็ไม่
คิดว่า ดอกไม้แต่ละชนิดจะมีความหมายและเรื่องราวขนาดนี้ สรุปแล้วบทนี้ช่วยจุดประกายหลายอย่างเลยค่ะ ในมุมมองผู้เขียน นิยายเรื่องนี้แหละคือ
รักแท้ที่เฝ้ารอมาตลอดชีวิต
บทที่ 10 พีโอนี; ความปรารถนาดีและหัวใจที่ซื่อตรง
ตัดเรื่องทางกายออกบ้าง เพราะชักจะสกินชิพหนักละ เป็นเคมีพระนางที่เราชอบมากจริงๆ ไทป์ตรงข้ามลูกหมาคลั่งรักกะแมวดำซึนเดเระ ถึงบทนี้
นิยายยังไม่บูม เราเริ่มเปลี่ยนจุดโฟกัสไปที่ความสนุกและความสุขในการแต่งแทนยอดวิวและคอมเม้นต์แล้วค่ะ สาบานกับตัวเองว่า ยังไงก็ต้องแต่งให้
จบ ไม่ยอมตายก่อนแต่งจบเด็ดขาด
บทที่ 11 เอเดลไวส์; ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่น เพื่อรักแท้ที่งดงามราวกับฝัน
แม้ไม่ใช่ชายหนุ่มแต่ผู้เขียนมุ่งมั่นตั้งใจกับนิยายเรื่องนี้มากจริงๆ อยากให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
บทที่ 12 เดซี่; หัวใจบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
บทนี้แอบรู้สึกเวิ่นเกินตอนต้น แต่พอแต่งจบแล้วรู้ว่านางเอกมโนไปเองนี่หว่า ย้อนกลับมาอ่านก็ขำดี ยังคงแต่งต่อเพราะคาริสม่าของพระเอก
บทที่ 13 ลิลลี่; ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จักคนอย่างคุณ
อ่านมาถึงบทนี้ คุณคงรู้จักกับเรื่องนี้ดีพอๆ กับเราและรู้จักเราผ่านตัวอักษรด้วย ชีวิตจริงเราไม่ชอบทำความรู้จักใครเพิ่มให้ปวดหัวหรอกค่ะ เพราะขี้
เกียจรักษาความสัมพันธ์ ยิ่งสนิทยิ่งคาดหวังจนรู้สึกอึดอัด แต่ในโลกนิยายเรายินดีที่ได้รู้จักนักอ่านทุกคนนะคะ แม้ตัวตนของคุณจะเป็นเพียงยอดวิว
หรือตัวอักษรก็ตาม ขอบคุณที่เข้ามาทำให้หายเหงาค่ะ
บทที่ 14 ไลเซนทัส; ทะนุถนอมทุกความทรงจำอันล้ำค่า
บทนี้ตั้งใจว่าอยากดื่มด่ำความหวานก่อนเจอดราม่าขม เราไม่ชอบท็อกซิก แต่ก็ต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์พระนางมันท็อกซิกจริง ที่ผ่านมาถึง
พยายามเขียนให้ปมจบในบท ฟีลกู๊ดฮีลใจ หรือทิ้งความหวังเล็กๆ ไว้เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกค้างคา ซึมเศร้า ทั้งผู้เขียนและผู้อ่าน ไม่แน่ใจว่าตี
ความทฤษฎีสัมพัทธภาพถูกมั้ย เอาเป็นว่านิยายรักเรื่องนี้กึ่งแฟนตาซี อะไรที่ไม่สมเหตุสมผล ถ้าไม่ขัดหูขัดตาเกินไป โปรดมองข้ามเพื่อข้ามความโร
แมนซ์ด้วยเถอะค่ะ
บทที่ 15 คริแซนธิมัม; ความจริงในใจ
ชอบเอเดลมากจริงๆ เป็นตัวละครที่ตอนแรกอิมเมจในหัวมีแต่คำว่า สวยกับเหมือนทวิตซ์ แต่พอเขียนออกมาแล้วสนุกกว่าที่คิด ปมครอบครัวเราจะ
พยายามไม่ไปแตะมาก เลี่ยงดราม่า+รับความซึมเศร้าไม่ไหว อยากเน้นหวานฟิน ไม่ใช่ขมปี๋ เครียด (เคยคิดเล่นๆ อยู่ว่าอยากเขียนสปินส์ออฟแยก
เพราะคุณพ่อหล่อ) อ้อ ตอนแรกเราก็งงความคิดนางเอกค่ะ รักแต่ต้องเลิกมันซับซ้อนจัง หวังว่าจะสื่อออกมาได้เมคเซ้นต์นะคะ
บทที่ 16 ไลแลค; วอนเธอโปรดยึดมั่นในตัวฉัน
บอกตัวเองและนักอ่าน ให้ตัวละครบอกกันเองด้วย ยึดมั่นไว้ๆ เดี๋ยวความสุขก็มาถึง
บทที่ 17 ป๊อปปี้; รักของฉันคือการเสียสละ
เกลียดนิยามนี้สุดๆ ทันทีที่คิดว่าต้องเสียสละก็คือเราเริ่มเห็นแก่ตัวและความทุกข์จะตามมา ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เพราะสิ่งนั้นมีค่ามาก
พอถึงยอมเสียสละ การเขียนนิยายเรื่องนี้กับเวลาและปัญหาสุขภาพก็เช่นกัน ส่วนเรื่องเงินไม่เกี่ยว เขียนไม่เขียนก็ไส้แห้งอยู่ดี
บทที่ 18 ยิปโซ; ตราตรึงด้วยวังวนแห่งรัก
ผู้เขียนนี่แหละถูกตรึง จนหยุดไม่ได้
บทที่ 19 ลาเวนเดอร์; การรอคอยด้วยความหวังอันเปี่ยมล้น
รอคอยให้จบอยู่นะ รอคอยคนอ่าน รอคอยจินตนาการ รอคอยแรงใจแรงกาย ชอบธีมพระเจ้าสร้างโลก อดัมกับอีฟ ชอบคาแรกเตอร์เอเดล พระเอกฟื้น
แล้ว เย้!
บทที่ 20 เยอบีร่า; ให้รักเรานำพาความสุข
ตอนนี้อยากให้ออกแนวสืบสวนหน่อยโชว์ความฉลาดที่พระเอกมี แต่คนเขียนไม่มี เขียนไปร้องไห้ไปเปลืองน้ำตาพอๆ กะบทที่ 18,17 เลย ภาษา
ฝรั่งเศสก็มีเสน่ห์ การเขียนเข้ามือสุดๆ
บทที่ 21 ฮิบิสคัส; แรงศรัทธาถักทอสายใยรัก
บทนี้ดราม่าทำชะงัก เขียนติดๆ ขัดๆ งานล้นมือ แต่ยังรอดพอถูไถ ทรมานนะ แต่คงเป็นมาโซคิสม์ เพราะอีกใจนึงก็ไม่อยากให้เรื่องนี้จบเลย
บทที่ 22 คาร์เนชั่น; Love me, Love my dog.
แจกความหวานก่อนเข้าดราม่าสุดท้าย ขายฉากเซอร์วิสล้วนๆ ฮีลใจตัวเอง พระเอกสู้เราก็สู้
บทที่ 23 บลูเบล; โอนอ่อนน้อมรัก มั่นคงไม่แปรผัน
หวานเป็นตัวละครที่คิดไว้หลายแบบมาก แต่ดีใจที่ลงเอยรูปแบบนี้ พยายามคิดแก้ต่างให้นางเยอะมากว่าทำยังไงให้คนไม่เกลียดดี เพราะส่วนตัวเรา
เป็นคนที่สร้างตัวละครขึ้นมาแล้ว ไม่อยากรู้สึกเกลียดด้วย ถ้าทำให้เป็นนางร้ายแบบดาร์กฮีโร่ได้ก็ดี หวังว่าจะไม่ออกมาเปล่งๆ นะคะ
บทที่ 24 คามิเลีย; โชคชะตาของฉันอยู่ในมือเธอแล้ว
จะจบแล้ว คลายปมอีกฮึ๊บเดียว เดอะเบสบทนี้ขอยกให้ทวิตซ์เดอะแบก สังคมดราม่าจ๋าสมัยนี้อาจไม่ชอบพระเอกแนวนี้ แต่เรารักเค้าค่ะ หลงรักในตัว
ตนเปี่ยมอัตตา เป็นพระเอกที่ทัชใจสุดๆ เหมือนแสงสว่างของเรื่อง ถึงนิสัยมันจะแปลกๆ ก็เหอะ น่าเสียดายที่ไม่ค่อยได้ลงดีเทลอีเว้นต์สุดท้ายเท่าไหร่
ลำพังแปะเนื้อเพลงก็ยาวเหยียดกลัวยืดเกิน แต่โดยรวมย้อนอ่านแล้วพอใจค่ะ To the moon and never back!
บทที่ 25 ฮันนี่ซัคเกิล; เธอช่างหวานเกินต้าน
บทนี้ชอบที่สุดตั้งแต่เขียนมา เกือบกลายเป็น nc แล้วมั้ยล่ะ ดีนะคาแรกเตอร์นางเอกโลกสวย พูดถึง nc ไม่เคยคิดอยากเขียนแนวนี้เลยค่ะ ชื่นชมนัก
เขียนทุกแนวนะคะ นักอ่านด้วย แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่น่ามีความสามารถพอ เขียนไปแล้วกัดกินจิตวิญญาณ ความรักที่อยากสื่อจะถูกบดบังด้วยตัณหา
(เผื่อไว้ เกิดใครอยากสร้างเสริมจินตนาการ เข้าไปหน้าแนะนำตัวละครแล้วเอาข้อมูล เช่น วันเกิด กรุ๊ปเลือด ราศี ไปเสิร์จตามด้วยคำว่า ‘เรื่องบนเตียง’
แค่นี้ก็มีฉาก nc ในหัวละค่ะ) อีกอย่างเราชอบบทแนะนำตัวละครมากเลย เป็นเหมือนไกด์ไลน์ที่ทำให้ไม่เผลอเขียนหลุดคาแรกเตอร์ สีที่ชอบ ราศี
กรุ๊ปเลือด วันที่ รสชาติอาหารสุดโปรด พอเจาะลึกถึงจิตวิทยาเหล่านี้แล้ว เขียนสนุกสมจริงขึ้นเยอะ
บทส่งท้าย โรส ออฟ ชารอน; รักนิรันดร์
สั้นๆ คือฟิน เขียนไปมียิ้มไป เป็นบทที่เครียดน้อยสุดแล้ว เด็กๆ น่ารักมากเลย
สำหรับเราเรื่องนี้คือ รักนิรันดร์ เป็นโปรเจคตลอดชีพ นอกจากบทบาทนักเขียนแล้ว เรายังเป็นนักอ่านตัวยงที่แวะเวียนกลับมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยค่ะ
ต่อให้เป็นยัยแก่หงำเหงือกก็จะนั่งอ่านและแก้เกลาต่อไปจนลงโลง
สุดท้ายนี้ ผู้เขียนไม่สัญญาว่าจะเก่งขึ้น แต่จะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และขอบคุณนักสำรวจทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาในดินแดนมหัศจรรย์ที่ถูกสร้าง
ขึ้นจากฝีมือนักเขียนไม่เอาอ่าวคนนี้
หวังว่าเราจะได้พบกันอีก
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ