ชีวิตใหม่ของผู้กล้าจอมปลอม
-
เขียนโดย GUEST1656840114
วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.39 น.
33 บท
5 วิจารณ์
20.60K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 16.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
27) Ep27 กิลด์รับจ้างสารพัด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ•โนอา แอชคลาส•
“เป็นเกียรติที่ได้พบเหล่าผู้กล้าทั้งหลาย”
เสียงทักทายอย่างทะนงของเด็กชายผมสีทอง ที่กำลังซ้อมบทสุนทรพจน์อยู่หน้ากระจก ท่าทางราวกับพระราชาที่กำลังอยู่ต่อหน้าวีระบุรุษ
“พวกข้าก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบฝ่าบาท”
ภูติไฟซาลามานเดอร์ที่อยู่ข้างๆ เรน ก็เอาด้วย
เสริมบทสนทนาทำให้ทั้งคู่ราวกับ ผู้กล้าและราชา
“เยี่ยมเลยใช่ไหมล่ะครับ”
เรนมองมาทางผม ท่าทางอวดเบ่ง ดูแล้วน่าโมโหหน่อยๆ ผมได้แต่พยักหน้ารับแล้วยกนิ้วโป้งให้
“เยี่ยมเลยครับ”
ผมที่ไม่ได้ช่วย ก็ไม่ควรจะไปตำหนิอะไร ก็เลยปล่อยเลยตามเลย
มองดูเรนกับซาลามานเดอร์พูดคุยกันอย่างสนุกสนานก็ทำให้ผมพลางคิดถึงภูติน้อยแสนสนฟลอร่า ที่ตอนนี้ยังคงเอาแต่หลับ
หนึ่งเดือนข้างหน้า ท่านพี่อลิชก็ต้องกลับไปยังอาณาจักรแห่งการศึกษา ส่วนเรนก็ต้องกลับเมืองหลวง คฤหาสน์แห่งนี้ก็คงจะกลับมาเงียบเหงาอีกครั้งเป็นแน่
“เป็นอะไรไปหรือ?”
เห็นผมเหม่อลอย เรนจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ผมได้ถอนหายใจเฮือก ยิ้มเจื่อนเหมือนไม่เป็นอะไร
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“ทำหน้าเหมือนลูกแมวกำลังจะโดนทิ้งแบบนั้น จะไม่มีอะไรได้ยังไง”
ผมรู้สึกสงสัยมานานละ ว่าเรนเนี่ยสามรถอ่านใจได้หรือป่าว
บางครั้งตอนที่ผมคิดว่าจะแอบหนีออกไปข้างนอก ก็จะโดนจับได้เสียก่อน
“ไม่มีอะไรจริงๆ”
“งั้นหรือ ดีแล้วล่ะครับ”
ผมยังคงปฎิเสธ ส่วนเรนก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อไป แล้วกลับไปซ้อมกล่าวสุนทรพจน์ต่อไป
ผมถอนหายใจเฮือก พยายามสงบสติอารมณ์
ช่างเถอะ! เวลาแห่งความสุขนั้นมักจะผ่านไปเร็วเสมอนั้นแหล่ะ
ผมนั่งคิดอะไรเพลินๆ
ปล่อยให้เวลาร่วงโรยไปจนงานถึงเวลางานเลี้ยงเริ่ม เหล่านักผจญภัยเดินทางมาถึงคฤหาสน์แห่งนี้
“ปะ...เป็นเกียรติ ทะ...ที่ได้พบ เหล่าผะ...ผู้กล้าทั้งหลาย”
เรนเอ่ยทักทายอย่างตะกุกตะกัก
ไม่เห็นเหมือนที่ซ้อมเลยซักนิด! ก็อยากจะตะโกนออกไปแบบนั้นอยู่หรอก แต่มันก็ช่วยไม่ได้สมกับเป็นเรนดี
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบ ฝ่าบาท”
นักผจญภัยทั้งสามคนทำความเคารพอย่างสุภาพ
เห็นดังนั้น ท่านพี่อลิชจึงเข้าไปช่วยรับแขกทั้งสาม
ออร่าที่แผ่ออกมาจากร่างคนทั้งสามใช้หลอกตา ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสามคน มีพลังสูงถึงระดับ [อัศวิน ระยะกลาง]
แต่นั้นเพียงแค่ระดับพลังหลอกตาเท่านั้น ไม่สามารถปิดบังจาก [เนตรสวรรค์] ของผมได้
ผมแอบใช้ [เนตรสวรรค์] ตรวจสอบเหล่านักผจญภัยทั้งสาม โดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว
อืม... [ผู้เชี่ยวชาญ ระยะต้น] !
ไม่น่าแปลกที่กลุ่มโจรจะถูกขับไล่ โดยที่ยังไม่ได้ต่อสู้ด้วยซ้ำ ช่างเป็นปาร์ตี้ที่แข็งแกร่งเสียจริง
“ทางด้านนี้คงจะเป็นนายน้อยโนอาสินะคะ?”
หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม เอ่ยทักผมด้วยความสุภาพ
เป็นสาวงามเมื่อเทียบกับผู้คนทั่วไป ผมยาวสลวยสีดำ ดวงตาสีแดงชี้ขึ้นราวกับสาวจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ สวมชุดคลุมยาวสีดำปิดบังสัดส่วนร่างกาย
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณ...?”
“ขออภัยค่ะ ข้าชื่อ นาร์ซิสซัส ค่ะ”
หญิงสาวตอบอย่างสุภาพ ในมือถือกระถางดอกไม้ช่อหนึ่ง ดอกสีม่วงสวยงามแบบช่อ ดอกจะออกที่ปลายยอด โคนกลีบเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 กลีบ สองกลีบบนขนาดเล็ก สามกลีบล่างขนาดใหญ่
ต้นโลบีเลีย อาจจะดูโหดร้ายไปหน่อยแต่ โลบีเลียนั้นหมายถึง ความร้ายกาจ
“ข้าได้ยินว่านายน้อยโนอา ชื่นชอบดอกไม้เป็นอย่างมาก”
“ข้าจึงได้นำมาฝาก หวังว่าจะถูกใจน่ะค่ะ”
เธอพูดอย่างสุภาพ พร้อมกับยื่นกระถางดอกไม้มาให้
“คุณนาร์ซิสซัส รู้หรือไม่ครับสิ่งนี้คืออะไร”
เธอส่ายหน้า ท่าทางเหมือนจะไม่รู้จักต้นโลบีเลียจริงๆ
ผู้หญิงกับสิ่งสวยงามย่อมเป็นของคู่กันอยู่แล้ว การที่เธอนำต้นโลบีเลียมอบให้ผมก็คงจะคิดว่ามันสวยงาม
“ขอบคุณครับ”
ผมเอ่ยขอบคุณ พร้อมกับยื่นมือรับต้นโลบีเลียที่คุณนาร์ซิสซัสมอบให้
กลีบดอกโลบีเลีย มีสารพิษที่เรียกว่า โลบีลีน ซึ่งอันตรายกว่าสารนิโคตินที่อยู่ในบุหรี่
แต่ความสวยงามของมันก็เพียงพอที่จะให้ผมรับไว้
หลังจากคุณนาร์ซิสซัส มอบดอกโลบีเลียให้ผม เธอก็กลับเข้าสู่งานเลี้ยงสังสรรค์ด้วยความเบิกบาน
เหตุการณ์เหมือนจะปกติแต่ว่า...
“นายน้อยโนอาอยู่หรือไม่? ข้ามีเรื่องด่วนที่ต้องการจะปรึกษาท่าน”
เสียงตะโกนโวกเวกกังวาลมาจากทิศทางฝั่งประตูคฤหาสน์ ทำให้ทุกคนต่างต้องหันสายตาไปมอง
“นายน้อยค่ะ เหมือนจะคุณไทก้าต้องการจะพบนายน้อยนะคะ”
เมดสาวแอนนาเข้ามาอธิบายสถานการณ์
เข้าพบผมเวลานี้? วันนี้ผมมีแขกอยู่ด้วยทำไงดี เห็นบอกว่าเรื่องสำคัญด้วย
“เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญผมจะพบเขา รบกวนบอกให้คุณไทก้าไปรอผมที่ห้องรับแขกครับ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เมดสาวแอนนาที่กำลังเหมือนทำท่าจะออกไปไล่ ชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อได้รับคำสั่งผม ก่อนจะตอบรับและรีบออกไปทันที
“มีอะไรรึป่าวจ้ะ”
ท่านพี่อลิชเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอครับ เหมือนจะแค่เรื่องงานนิดหน่อย”
ผมส่ายหน้าไปมา ตอบคำถามท่านพี่ที่กำลังทำสายตากังวล
“ผมไปด้วยไหมครับ”
เรนเอ่ยเสียงเรียบ แต่ผมก็ส่ายหน้าปฎิเสธอีกครั้ง เพราะตอนนี้ยังคงมีแขกอยู่ จะให้เรนทิ้งแขกได้ยังไง
“ไม่มีอะไรหรอครับ เดี๋ยวผมจะออกไปพบเขาคนเดียว”
ผมเอ่ยเสียงเรียบ และออกไปพบนักผจญภัยไทก้าที่ห้องรับแขกทันที
***
•นักผจญภัย ไทก้า•
ข้ารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อนึกถึงโครงการเปลี่ยนสลัมให้เป็นกิลด์รับจ้างสาระพัด ที่นายน้อยเคยเล่าให้ข้าฟัง
ฤดูหนาวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ ถ้าโครงการของเราสำเร็จ อย่าว่าแต่ฤดูหนาวเลย ต่อให้หิมะตกทั้งปีก็สามารถมีชีวิตรอดได้
ข้าได้รับแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งจากนายน้อย ซึ่งนายน้อยเรียกมันว่าพิมพ์เขียว เป็นแบบแปลนกิลด์รับจ้างสารพัด และห้องพักผู้คนในเขตสลัม ที่นายน้อยเขียนขึ้นมา
นายน้อยได้ให้ข้านำสิ่งนี้ไปมอบให้กับนายช่าง และมีเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นก่อนจะเข้าฤดูหนาว อย่างน้อยกิลด์รับจ้างสาระพัดก็ต้องสร้างให้เสร็จก่อน
“ขอโทษที่ให้รอครับ วันนี้มีแขกมานะครับ”
ประตูห้องรับแขกถูกเปิดออก เผยให้เด็กชายผมสีดำกำลังทำท่าทางอ่อนเพลีย
“ขะ...ขอโทษที่รบกวนครับ”
ข้าเอ่ยอย่างรู้สึกผิด แต่นายน้อยก็โบกมือไปมาเหมือนไม่ใส่ใจอะไรมาก
สาวใช้ยกน้ำชาพร้อมกับคุกกี้มาวางบนโต๊ะ สายตาจ้องข้าเขม็ง ปานจะกินเลือดกินเนื้อ ทำให้ข้าต้องสะดุ้งโหยงเล็กน้อย
นี่คงเพราะข้าทำเรื่องเสียมารยาทไว้ที่หน้าประตูคฤหาสน์เป็นแน่
“มีธุระด่วนอะไรหรอครับ?”
นายน้อยเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง เปิดหัวข้อสนทนาขึ้นทันที
“อ่ะ...เอ่อ...ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องด่วนขนาดนั้นหรอกครับ”
เพียงแต่ ถ้าข้าไม่แหกปากตะโกนออกไปอย่างนั้น เหล่าคนเฝ้าประตูก็คงจะไม่ยอมให้ข้าพบนายน้อยในเวลานี้เป็นแน่
ข้าทำสีหน้ารู้สึกผิด พราวเกาแกรกๆ หัวนึกข้อแก้ตัวไปพราง
นายน้อยเป็นคนฉลาดดังนั้นไม่นานก็เข้าใจเจตนาข้าทันที
เด็กชายถอนหายใจเฮือก ก่อนจะทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย
“แล้วมีเรื่องอะไรหรอครับ”
เด็กชายเอ่ยถามเสียงเรียบ ท่าทางผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“งานก่อสร้างเกือบจะสมบูรณ์แล้วครับ”
“ห๋า...นี้เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้นไม่ใช่หรือครับ”
เสียงเอ่ยออกมาอย่างประหลาดใจของเด็กชายผมสีดำ ทำให้ข้ารู้สึกชื่นใจหน่อย
เพราะปกติแล้วคนที่จะทำให้คนอื่นตกใจ ก็คือนายน้อย โดนคืนบ้างจะได้รู้สึก ฮาฮ่า
“เพราะมีผู้คนในเขตสลัม มาลงมือช่วยด้วยอีกแรง พวกเขาขอเพียงอาหาร 3 มื้อเพียงเท่านั้น”
“แบบนี้ไม่เกินสามวันก็น่าจะเสร็จสมบูรณ์แล้วครับ”
เด็กชายต้องอ้าปากค้างเมื่อได้ยินสิ่งที่ข้าอธิบาย
“งะ...งั้นหรอครับ”
ข้า นั่งคุยกับนายน้อยอย่างตื่นเต้นอยู่นาน จนเมื่อถึงเวลาที่ข้าจะกลับ นายน้อยก็ได้แอบนำอาหารออกมาจากงานเลี้ยงเพื่อฝากให้พวกเด็กๆ
“ข้าขอขอบคุณแทนพวกเด็กๆ ด้วยครับ!”
ข้า ขอบคุณอย่างจริงใจ แต่นายน้อยกับโบกมือไปมาต้องการจะบอกว่าไม่ต้องใส่ใจ
แต่ก่อนที่ข้าจะกลับ
“นายน้อยโนอา พวกข้าเองก็ขอตัวกลับก่อนนะคะ”
เสียงนุ่มนวลของหญิงสาว ที่กำลังพูดคุยกับนายน้อย ช่างคุ้นหูข้ายิ่งนัก ทำให้ข้าต้องหันกลับไปมอง
เห็นหญิงสาวในชุดคลุมสีดำ ใบหน้าแสนคุ้นตา แต่ข้ากลับนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
“อ้อ..นี่คือนักผจญภัยที่ทำภารกิจขับไล่โจรสำเร็จครับ”
นายน้อยที่เห็นท่าทางสงสัยของข้าก็เริ่มแนะนำให้ข้ารู้จัก
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ข้าเองก็เป็นนักผจญภัยเช่นกัน มีนามว่า ไทก้า”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณไทก้า ข้าชื่อนาร์ซิสซัส ค่ะ”
หญิงสาวทักทายอย่างสุภาพ
ไม่นานหญิงสาวก็กลับไป เหลือเพียงข้ากับนายน้อยโนอา
“คุณไทก้า เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
นายน้อยทำท่าทางฉงน เอ่ยถามข้าด้วยความสงสัย
“ปะ...เปล่าครับ”
เธอก็เป็นนักผจญภัยเหมือนกับข้า จะเคยเจอก็คงไม่แปลก
ข้าคงคิดมากไปเอง....
“เป็นเกียรติที่ได้พบเหล่าผู้กล้าทั้งหลาย”
เสียงทักทายอย่างทะนงของเด็กชายผมสีทอง ที่กำลังซ้อมบทสุนทรพจน์อยู่หน้ากระจก ท่าทางราวกับพระราชาที่กำลังอยู่ต่อหน้าวีระบุรุษ
“พวกข้าก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบฝ่าบาท”
ภูติไฟซาลามานเดอร์ที่อยู่ข้างๆ เรน ก็เอาด้วย
เสริมบทสนทนาทำให้ทั้งคู่ราวกับ ผู้กล้าและราชา
“เยี่ยมเลยใช่ไหมล่ะครับ”
เรนมองมาทางผม ท่าทางอวดเบ่ง ดูแล้วน่าโมโหหน่อยๆ ผมได้แต่พยักหน้ารับแล้วยกนิ้วโป้งให้
“เยี่ยมเลยครับ”
ผมที่ไม่ได้ช่วย ก็ไม่ควรจะไปตำหนิอะไร ก็เลยปล่อยเลยตามเลย
มองดูเรนกับซาลามานเดอร์พูดคุยกันอย่างสนุกสนานก็ทำให้ผมพลางคิดถึงภูติน้อยแสนสนฟลอร่า ที่ตอนนี้ยังคงเอาแต่หลับ
หนึ่งเดือนข้างหน้า ท่านพี่อลิชก็ต้องกลับไปยังอาณาจักรแห่งการศึกษา ส่วนเรนก็ต้องกลับเมืองหลวง คฤหาสน์แห่งนี้ก็คงจะกลับมาเงียบเหงาอีกครั้งเป็นแน่
“เป็นอะไรไปหรือ?”
เห็นผมเหม่อลอย เรนจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ผมได้ถอนหายใจเฮือก ยิ้มเจื่อนเหมือนไม่เป็นอะไร
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“ทำหน้าเหมือนลูกแมวกำลังจะโดนทิ้งแบบนั้น จะไม่มีอะไรได้ยังไง”
ผมรู้สึกสงสัยมานานละ ว่าเรนเนี่ยสามรถอ่านใจได้หรือป่าว
บางครั้งตอนที่ผมคิดว่าจะแอบหนีออกไปข้างนอก ก็จะโดนจับได้เสียก่อน
“ไม่มีอะไรจริงๆ”
“งั้นหรือ ดีแล้วล่ะครับ”
ผมยังคงปฎิเสธ ส่วนเรนก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อไป แล้วกลับไปซ้อมกล่าวสุนทรพจน์ต่อไป
ผมถอนหายใจเฮือก พยายามสงบสติอารมณ์
ช่างเถอะ! เวลาแห่งความสุขนั้นมักจะผ่านไปเร็วเสมอนั้นแหล่ะ
ผมนั่งคิดอะไรเพลินๆ
ปล่อยให้เวลาร่วงโรยไปจนงานถึงเวลางานเลี้ยงเริ่ม เหล่านักผจญภัยเดินทางมาถึงคฤหาสน์แห่งนี้
“ปะ...เป็นเกียรติ ทะ...ที่ได้พบ เหล่าผะ...ผู้กล้าทั้งหลาย”
เรนเอ่ยทักทายอย่างตะกุกตะกัก
ไม่เห็นเหมือนที่ซ้อมเลยซักนิด! ก็อยากจะตะโกนออกไปแบบนั้นอยู่หรอก แต่มันก็ช่วยไม่ได้สมกับเป็นเรนดี
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบ ฝ่าบาท”
นักผจญภัยทั้งสามคนทำความเคารพอย่างสุภาพ
เห็นดังนั้น ท่านพี่อลิชจึงเข้าไปช่วยรับแขกทั้งสาม
ออร่าที่แผ่ออกมาจากร่างคนทั้งสามใช้หลอกตา ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสามคน มีพลังสูงถึงระดับ [อัศวิน ระยะกลาง]
แต่นั้นเพียงแค่ระดับพลังหลอกตาเท่านั้น ไม่สามารถปิดบังจาก [เนตรสวรรค์] ของผมได้
ผมแอบใช้ [เนตรสวรรค์] ตรวจสอบเหล่านักผจญภัยทั้งสาม โดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว
อืม... [ผู้เชี่ยวชาญ ระยะต้น] !
ไม่น่าแปลกที่กลุ่มโจรจะถูกขับไล่ โดยที่ยังไม่ได้ต่อสู้ด้วยซ้ำ ช่างเป็นปาร์ตี้ที่แข็งแกร่งเสียจริง
“ทางด้านนี้คงจะเป็นนายน้อยโนอาสินะคะ?”
หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม เอ่ยทักผมด้วยความสุภาพ
เป็นสาวงามเมื่อเทียบกับผู้คนทั่วไป ผมยาวสลวยสีดำ ดวงตาสีแดงชี้ขึ้นราวกับสาวจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ สวมชุดคลุมยาวสีดำปิดบังสัดส่วนร่างกาย
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณ...?”
“ขออภัยค่ะ ข้าชื่อ นาร์ซิสซัส ค่ะ”
หญิงสาวตอบอย่างสุภาพ ในมือถือกระถางดอกไม้ช่อหนึ่ง ดอกสีม่วงสวยงามแบบช่อ ดอกจะออกที่ปลายยอด โคนกลีบเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 กลีบ สองกลีบบนขนาดเล็ก สามกลีบล่างขนาดใหญ่
ต้นโลบีเลีย อาจจะดูโหดร้ายไปหน่อยแต่ โลบีเลียนั้นหมายถึง ความร้ายกาจ
“ข้าได้ยินว่านายน้อยโนอา ชื่นชอบดอกไม้เป็นอย่างมาก”
“ข้าจึงได้นำมาฝาก หวังว่าจะถูกใจน่ะค่ะ”
เธอพูดอย่างสุภาพ พร้อมกับยื่นกระถางดอกไม้มาให้
“คุณนาร์ซิสซัส รู้หรือไม่ครับสิ่งนี้คืออะไร”
เธอส่ายหน้า ท่าทางเหมือนจะไม่รู้จักต้นโลบีเลียจริงๆ
ผู้หญิงกับสิ่งสวยงามย่อมเป็นของคู่กันอยู่แล้ว การที่เธอนำต้นโลบีเลียมอบให้ผมก็คงจะคิดว่ามันสวยงาม
“ขอบคุณครับ”
ผมเอ่ยขอบคุณ พร้อมกับยื่นมือรับต้นโลบีเลียที่คุณนาร์ซิสซัสมอบให้
กลีบดอกโลบีเลีย มีสารพิษที่เรียกว่า โลบีลีน ซึ่งอันตรายกว่าสารนิโคตินที่อยู่ในบุหรี่
แต่ความสวยงามของมันก็เพียงพอที่จะให้ผมรับไว้
หลังจากคุณนาร์ซิสซัส มอบดอกโลบีเลียให้ผม เธอก็กลับเข้าสู่งานเลี้ยงสังสรรค์ด้วยความเบิกบาน
เหตุการณ์เหมือนจะปกติแต่ว่า...
“นายน้อยโนอาอยู่หรือไม่? ข้ามีเรื่องด่วนที่ต้องการจะปรึกษาท่าน”
เสียงตะโกนโวกเวกกังวาลมาจากทิศทางฝั่งประตูคฤหาสน์ ทำให้ทุกคนต่างต้องหันสายตาไปมอง
“นายน้อยค่ะ เหมือนจะคุณไทก้าต้องการจะพบนายน้อยนะคะ”
เมดสาวแอนนาเข้ามาอธิบายสถานการณ์
เข้าพบผมเวลานี้? วันนี้ผมมีแขกอยู่ด้วยทำไงดี เห็นบอกว่าเรื่องสำคัญด้วย
“เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญผมจะพบเขา รบกวนบอกให้คุณไทก้าไปรอผมที่ห้องรับแขกครับ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เมดสาวแอนนาที่กำลังเหมือนทำท่าจะออกไปไล่ ชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อได้รับคำสั่งผม ก่อนจะตอบรับและรีบออกไปทันที
“มีอะไรรึป่าวจ้ะ”
ท่านพี่อลิชเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอครับ เหมือนจะแค่เรื่องงานนิดหน่อย”
ผมส่ายหน้าไปมา ตอบคำถามท่านพี่ที่กำลังทำสายตากังวล
“ผมไปด้วยไหมครับ”
เรนเอ่ยเสียงเรียบ แต่ผมก็ส่ายหน้าปฎิเสธอีกครั้ง เพราะตอนนี้ยังคงมีแขกอยู่ จะให้เรนทิ้งแขกได้ยังไง
“ไม่มีอะไรหรอครับ เดี๋ยวผมจะออกไปพบเขาคนเดียว”
ผมเอ่ยเสียงเรียบ และออกไปพบนักผจญภัยไทก้าที่ห้องรับแขกทันที
***
•นักผจญภัย ไทก้า•
ข้ารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อนึกถึงโครงการเปลี่ยนสลัมให้เป็นกิลด์รับจ้างสาระพัด ที่นายน้อยเคยเล่าให้ข้าฟัง
ฤดูหนาวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ ถ้าโครงการของเราสำเร็จ อย่าว่าแต่ฤดูหนาวเลย ต่อให้หิมะตกทั้งปีก็สามารถมีชีวิตรอดได้
ข้าได้รับแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งจากนายน้อย ซึ่งนายน้อยเรียกมันว่าพิมพ์เขียว เป็นแบบแปลนกิลด์รับจ้างสารพัด และห้องพักผู้คนในเขตสลัม ที่นายน้อยเขียนขึ้นมา
นายน้อยได้ให้ข้านำสิ่งนี้ไปมอบให้กับนายช่าง และมีเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นก่อนจะเข้าฤดูหนาว อย่างน้อยกิลด์รับจ้างสาระพัดก็ต้องสร้างให้เสร็จก่อน
“ขอโทษที่ให้รอครับ วันนี้มีแขกมานะครับ”
ประตูห้องรับแขกถูกเปิดออก เผยให้เด็กชายผมสีดำกำลังทำท่าทางอ่อนเพลีย
“ขะ...ขอโทษที่รบกวนครับ”
ข้าเอ่ยอย่างรู้สึกผิด แต่นายน้อยก็โบกมือไปมาเหมือนไม่ใส่ใจอะไรมาก
สาวใช้ยกน้ำชาพร้อมกับคุกกี้มาวางบนโต๊ะ สายตาจ้องข้าเขม็ง ปานจะกินเลือดกินเนื้อ ทำให้ข้าต้องสะดุ้งโหยงเล็กน้อย
นี่คงเพราะข้าทำเรื่องเสียมารยาทไว้ที่หน้าประตูคฤหาสน์เป็นแน่
“มีธุระด่วนอะไรหรอครับ?”
นายน้อยเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง เปิดหัวข้อสนทนาขึ้นทันที
“อ่ะ...เอ่อ...ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องด่วนขนาดนั้นหรอกครับ”
เพียงแต่ ถ้าข้าไม่แหกปากตะโกนออกไปอย่างนั้น เหล่าคนเฝ้าประตูก็คงจะไม่ยอมให้ข้าพบนายน้อยในเวลานี้เป็นแน่
ข้าทำสีหน้ารู้สึกผิด พราวเกาแกรกๆ หัวนึกข้อแก้ตัวไปพราง
นายน้อยเป็นคนฉลาดดังนั้นไม่นานก็เข้าใจเจตนาข้าทันที
เด็กชายถอนหายใจเฮือก ก่อนจะทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย
“แล้วมีเรื่องอะไรหรอครับ”
เด็กชายเอ่ยถามเสียงเรียบ ท่าทางผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“งานก่อสร้างเกือบจะสมบูรณ์แล้วครับ”
“ห๋า...นี้เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้นไม่ใช่หรือครับ”
เสียงเอ่ยออกมาอย่างประหลาดใจของเด็กชายผมสีดำ ทำให้ข้ารู้สึกชื่นใจหน่อย
เพราะปกติแล้วคนที่จะทำให้คนอื่นตกใจ ก็คือนายน้อย โดนคืนบ้างจะได้รู้สึก ฮาฮ่า
“เพราะมีผู้คนในเขตสลัม มาลงมือช่วยด้วยอีกแรง พวกเขาขอเพียงอาหาร 3 มื้อเพียงเท่านั้น”
“แบบนี้ไม่เกินสามวันก็น่าจะเสร็จสมบูรณ์แล้วครับ”
เด็กชายต้องอ้าปากค้างเมื่อได้ยินสิ่งที่ข้าอธิบาย
“งะ...งั้นหรอครับ”
ข้า นั่งคุยกับนายน้อยอย่างตื่นเต้นอยู่นาน จนเมื่อถึงเวลาที่ข้าจะกลับ นายน้อยก็ได้แอบนำอาหารออกมาจากงานเลี้ยงเพื่อฝากให้พวกเด็กๆ
“ข้าขอขอบคุณแทนพวกเด็กๆ ด้วยครับ!”
ข้า ขอบคุณอย่างจริงใจ แต่นายน้อยกับโบกมือไปมาต้องการจะบอกว่าไม่ต้องใส่ใจ
แต่ก่อนที่ข้าจะกลับ
“นายน้อยโนอา พวกข้าเองก็ขอตัวกลับก่อนนะคะ”
เสียงนุ่มนวลของหญิงสาว ที่กำลังพูดคุยกับนายน้อย ช่างคุ้นหูข้ายิ่งนัก ทำให้ข้าต้องหันกลับไปมอง
เห็นหญิงสาวในชุดคลุมสีดำ ใบหน้าแสนคุ้นตา แต่ข้ากลับนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
“อ้อ..นี่คือนักผจญภัยที่ทำภารกิจขับไล่โจรสำเร็จครับ”
นายน้อยที่เห็นท่าทางสงสัยของข้าก็เริ่มแนะนำให้ข้ารู้จัก
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ข้าเองก็เป็นนักผจญภัยเช่นกัน มีนามว่า ไทก้า”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณไทก้า ข้าชื่อนาร์ซิสซัส ค่ะ”
หญิงสาวทักทายอย่างสุภาพ
ไม่นานหญิงสาวก็กลับไป เหลือเพียงข้ากับนายน้อยโนอา
“คุณไทก้า เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
นายน้อยทำท่าทางฉงน เอ่ยถามข้าด้วยความสงสัย
“ปะ...เปล่าครับ”
เธอก็เป็นนักผจญภัยเหมือนกับข้า จะเคยเจอก็คงไม่แปลก
ข้าคงคิดมากไปเอง....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ