ชีวิตใหม่ของผู้กล้าจอมปลอม
-
เขียนโดย GUEST1656840114
วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.39 น.
33 บท
5 วิจารณ์
20.55K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 16.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) Ep25 ง่ายดาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ•นักพจญภัย ไทก้า•
"นายน้อยโนอา ถ้าเงินรางวัลมากมายขนาดนี้ สามารถเอาไปซื้อที่ดินและสามารถสร้างกิลด์ได้สบายๆ แล้วทำไมนายถึงจะต้องทำให้ยุ่งยากขนาดนี้ด้วยครับ?"
ข้าโพลงถามด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินถึงภาระกิจที่เด็กชายผมสีดำขอให้ข้าไปทำ
ตระกูลแอชคลาส ถึงจะตระกูลเป็นขุนนางระดับมาร์ควิส และมีกองกำลังทหารเป็นของตนเอง แต่สถานที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคือ บริเวณชายแดนฝั่งทิศใต้ของจักรวรรดิมิสลูน่า ซึ่งเป็นเขตชนบท ที่อยู่ติดกับป่าไอน์และเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นมิตรอย่างจักรวรรดิอินเนสซา
นายน้อยโนอา ต้องการจะให้ข้านั้นจ้างเควสนักพจญภัยที่สำนักงานกิลด์นักพจญภัยในเมืองหลวง ส่วนเนื้อหาของเควสนั้นคือ สังหารหรือขับไล่ กลุ่มโจรใน สลัมบริเวณชายแดนที่ทางใต้ของอาณาจักร ซึ่งนั้นก็เป็นดินแดนที่ตระกูลแอชคลาสดูแลอยู่นั้นเอง
รางวัล 100 เหรียญทอง! ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเพียงพอที่คนธรรมดาจะสามารถใช้ชีวิตสะดวกสบายไปจนสิ้นอายุขัยได้เลยทีเดียว
แต่ทำไม ในเมื่อเหรียญทองมากมายมหาศาลขนาดนี้ นายน้อยโนอาถึงไม่ซื้อที่ดินแล้วสร้างกิลด์ขึ้นมาใหม่ให้จบๆไปเลย แถมเหรียญน่าจะเหลืออีกเกินครึ่ง
"ของฟรีไม่มีในโลก ขอทานยังต้องตากหน้า พ่อค้าก็ต้องลงทุน คนทำคุณก็ควรสำนึก"
ข้าไม่คิดเลยว่าประโยคที่ลึกซึ้งถึงเพียงนี้ จะออกมาจากปากของเด็กชายที่มีอายุเพียง 6-7 ขวบเท่านั้น
"ข้อแรกเลย ผมต้องการให้พวกเขาชดใช้เหรียญคืนไม่ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่"
นายน้อยโนอาเริ่มอธิบายให้ข้าเข้าใจยิ่งขึ้น โดยแสดงให้เห็นถึงเจตนาแท้จริงโดยไม่ปิดบัง
"ข้อสอง ต้องการที่จะให้เด็กพวกนั้นพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น ไม่ต้องกระทำความผิดโดยไม่จำเป็น"
เหมือนกับประโยคที่กล่าวไว้ว่า ถ้าเราให้ปลา เขากินอิ่มได้เพียงมื้อเดียว ถ้าเราสอนวิธีหาปลา เขาจะหาปลารับประทานได้เองตลอดชีวิต
"ส่วนข้อสุดท้าย ที่นี่เป็นบริเวณชายแดน ซึ่งค่อนข้างอันตรายอยู่บ้าง แต่กลับไม่มีนักผจญภัยมาปักหลักอยู่ที่นี่ เพราะอะไรล่ะ? ก็เพราะว่าที่นี่ไม่มีกิลด์นักผจญภัยยังไงล่ะ"
"อย่างงี้นี่เอง ข้าเข้าใจแล้วครับ นายน้อยเชื่อมือข้าได้เลย"
ถ้าในที่แห่งนี้มีกิลด์นักผจญภัย ก็จะมีเควสให้ทำ และนักผจญภัยบางส่วนก็จะมาปักหลักอยู่ที่นี่ ตัวข้าเองก็อยากจะอยู่ที่บ้านเกิดเหมือนกัน
นายน้อยโนอา ช่างมีความคิดความอ่านล้ำเลิศยิ่งนัก ต่างจากเด็กทั่วไปโข ถึงบางครั้งอาจจะดูหน้ากลัวอยู่บ้าง แต่ก็เหมาะสมจะเป็นผู้นำคนอื่นมาก
"รีบหน่อยนะครับ ผมคิดว่าอยากจะสร้างให้เสร็จก่อนฤดูหนาวนะครับ"
ในขณะที่ข้านั้นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ น้ำเสียงจริงจังของนายน้อยก็ทำให้ข้าได้สติกลับมา
"คะ...ครับ!"
ข้าตอบรับและเตรียมจะออกจากห้องทันที แต่เด็กชายผมสีดำกลับหยุดข้าไว้ก่อน
"เดี๋ยวก่อนครับ ชื่อผู้ว่าจ้างเอาเป็นชื่อ องค์ชายเรน ลูอิส น่ะครับ ผมขออนุญาตเรียบร้อยแล้ว"
เสียงนุ่มนวลของนายน้อยดังขึ้นเบาๆ ใบหน้ายิ้มแย้มราวกับเด็กไร้เดียงสา ซึ่งทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกว่าน่ารักน่าเอ็นดู แต่คนที่รู้จักกับคิดว่าเหมือนดาบเลื่องชื่อที่อยู่ในฝักมากกว่า
"เข้าใจแล้วครับ"
ข้าตอบรับอย่างเต็มใจ และรีบออกเดินทางไปทำภาระกิจที่ได้รับมา ในเมืองหลวงทันที
รางวัลมากมายมหาศาลขนาดนี้ ไม่มีทางจะมาแค่นักผจญภัยกลุ่มเดียวแน่นอน และด้วยชื่อเสียงของผู้จ้างวาน ทำให้เกิดแรงจูงใจอีกมากด้วย กองกำลังมากมายขนาดนั้นบางทีอาจชนะโดย ไม่จำเป็นต้องปะทะกันก็ได้
นายน้อยโนอา แค่อายุเพียงเท่านี้ ก็สามารถวิเคราะห์ สถานการณ์ได้มากขนาดนี้ ช่างเป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ
***
หลังจาก 3 วันที่มีการประกาศเควสสังหารหรือขับไล่กลุ่มโจรที่ซ่อนอยู่ในเขตสลัม ดินแดนทางใต้ของจักรวรรดิมิสลูน่า
นักผจญภัยมากมายในเมืองหลวงก็เกิดความวุ่นวายทันที บ้างก็ต้องการรับภาระกิจนี้ไว้กับพวกตน บ้างก็ต้องการรวบรวมสมัครพรรคพวกไปทำภารกิจกิจนี้ด้วยกัน
อาจะดูเว่อร์วังไปหน่อย แต่ความยากของภารกิจคือระดับ A ภัยคุกคามที่อาจสร้างความเสียหายในวงกว้างต่อทั้งเมืองได้ จึงต้องใช้นักผจญภัยที่มีฝีมือระดับแรงค์ B+ขึ้นไปในการรับภาระกิจนี้
ในเขตสลัมบริเวณชายแดน ซึ่งเป็นดินแดนที่ตระกูลแอชคลาสได้รับมอบหมายให้ดูแลอยู่
ชายรูปร่างสูงใหญ่ร่างกายกำยำ เปิดประตูเข้าไปในกระท่อมหลังใหญ่ด้วยความเร่งรีบ
"ลูกพี่ใหญ่! ในเมือง มีการจ้างเควสให้ขับไล่หรือสังหารพวกเราด้วยละ"
ชายร่างกำยำเอ่ยออกมาอย่างตื่นตระหนัก พร้อมยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับชายร่างอ้วนท้วมสวมชุดเกราะหนังสัตว์สีดำผู้ถูกเรียกว่าลูกพี่ใหญ่ ที่กำลังนั่งยกแก้วดื่มอยู่
กลิ่นสุราหอมหวานโชยมาจากข้างในกระท่อม บนโต๊ะไม้สีดำชายสองคนกำลังร่วมวงกันดื่มสุรา คนหนึ่งเป็นชายร่างอ้วนท้วมสวมชุดเกราะหนังสัตว์สีดำ มีบรรยากาศน่าช่างน่าเกรงขาม ชวนให้ผู้อื่นต้องคอยออกห่าง
ส่วนอีกคนกลับเป็นชายร่างผอมโซ สามชุดคลุมยาวจากหัวจรดเท้าสีดำ มือถือแก้วสุรา ใบหน้าคว่ำแนบติดกับโต๊ะ แต่ทันใดที่มีคนเข้ามาก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ เผยให้เห็นเพียงใบหน้าซีดขาวกับ นัยน์ตาสีแดงเท่านั้น
"ใคร! ใครมันช่างกล้าลูบคมข้า?"
เพล้ง! ทันที่ชายร่างอ้วนท้วมได้ยิน แก้วสุราถูกโยนเข้าใส่กับผนังกำแพงอย่างรุนแรง จนแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวดังก้องไปทั่วห้อง จิตสังหารพลุ่งพล่านทำให้บรรยากาศรอบๆ หนาวสั่นไปจนถึงหัวใจ ผู้อ่อนแอที่สัมผัสอาจจะเสียสติไปเลยก็ได้
"ลูกพี่ใหญ่ ท่านใจเย็นก่อนสิ เดี๋ยวพวกเด็กๆจะทนไม่ไหวเอานะครับ"
ชายสวมเสื้อคลุมสีดำไม่ได้ตกใจอะไร เอ่ยออกมาอย่างเกียจคร้าน ทำให้บรรยากาศรอบๆผ่อนคลายลงอีกครา
"ลูกพี่ใหญ่ ผู้จ้างวานคือ องค์ชายเรน ลูอิส"
ชายร่างกำยำเริ่มอธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวที่มีนักผจญมาจ้างวานเควสที่สำนักกิลด์ในเมืองหลวง
"รางวัลตั้ง 100 เหรียญทองเชียวนะครับ แบบนี้ต้องดึงดูดนักผจญภัยฝีมือดีเข้ามาแน่!"
ชายร่างกำยำเอ่ยออกมาท่าทางหวาดวิตกกังวล แต่สายสวมชุดคลุมสีดำกลับมีปฏิกิริยากับชื่อที่ได้ยินเล็กน้อย
"องค์ชายเรน ลูอิส งั้นหรือ จะว่าไปข้าก็คุ้นชื่ออยู่หรอกนะ?"
ชายสวมชุดคลุมสีดำ เอ่ยพึมพำอย่างเกียจคร้าน ทำท่าทางครุ่นคิดเหมือนพยายามจะนึกอะไรบางอย่าง ทำให้ชายร่างอ้วนท้วมถามด้วยสงสัย
"น้องรอง เจ้าพอจะนึกอะไรออกหรือ?"
"เมื่อสองเดือนก่อน ท่านดยุคได้ให้ภารกิจรอบสังหารแก่ข้า รางวัลค่อนข้างงามเลยทีเดียว ชื่อของผู้ที่เป็นเป้าหมายนั้นก็คือ องค์ชายเรน ลูอิส!"
"แต่ข้างตัวเจ้านั้นกลับมีนักปราชญ์สีแดงและนักผจญภัยมากฝีมือคอยคุ้มกันอยู่"
ชายชุดคลุมสีดำเอ่ยตอบอย่างเกียจคร้าน น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่กลับชวนให้ขนหัวลุกซู่ ดวงตาสีแดงสะท้อนในแก้วสุราทำให้น่ากลัวราวกับไม่ใช่มนุษย์
"โห้ แบบนี้ก็ดี ข้าจะได้จัดการทีเดียวเลย ฮาฮ่าๆ"
ชายร่างอ้วนท้วมผู้ที่ถูกเรียกลูกพี่ใหญ่หัวเราะชอบใจในแววตาเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจราวกับนักล่า
"ข้ามีแผน!"
เสียงนุ่มนวลของหญิงสาวดังขึ้นมาจากมุมมืดของห้อง โดยไม่มีใครทันสังเกตุ เธอก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนแล้ว เธอยื่นริมฝีปากสีแดงสด กระซิบข้างหูของผู้ชายทั้งสองคน
"ฮาฮ่าๆ น่าสนใจดีนะแผนของน้องเล็กนะ"
ชายร่างอ้วนท้วมหัวเราจะอย่างพึงพอใจ ส่วนชายชุดคลุมสีดำได้แต่เงียบสงบพยักหน้ารับ ไม่เอ่ยอะไรออกมา แต่ดวงตาสีแดงกับมีความโลภแฝงอยู่
"งั้นพวกเราก็ต้องไปเยือนสักครั้งแล้วล่ะ คฤหาสน์ตระกูลแอชคลาส"
****
•โนอา แอชคลาส•
ภายในหนึ่งสัปดาห์ ภารกิจทำความสะอาดเขตสลัมก็เสร็จสมบูรณ์ราวกับฝัน แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ผู้ที่รับภาระกิจกับเป็นนักผจญภัยเพียงสามคน ที่ถูกขนานนามว่า กลุ่มสามพี่น้อง
พวกเขาขอรับรางวัลเพียงแค่ 30 เหรียญทองเพียงเท่านั้น พวกเขาให้เหตุผลว่าภารกิจมันง่ายเกินไป และนำเหรียญทองถึง 70 เหรียญ คืนให้กลับผู้ว่าจ้างเพื่อใช้ในการพัฒนาเขตสลัม ช่างเป็นคนดีจริงๆ
วันนี้พวกเราจึงเชิญพวกเขามารับประทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์ และพวกเขาก็ได้ตอบรับอย่างเต็มใจ
"จบง่ายๆก็ดีแล้วไม่ใช่หรอครับ?"
เสียงเรียบนิ่งของเด็กชายผมสั้นเรียบสีทองคล้ายราชสีห์ ซึ่งนี่ถือเป็นเอกลักษณ์ของผู้มีสายเลือดราชวงศ์ลูอิสแห่งจักรวรรดิมิสลูน่า ทำให้ผมนั้นหลุดออกจากภวังค์ความคิด
"อืม... คิดมากไปก็เท่านั้นแหล่ะ"
ผมตอบไปทีอย่างช่วยไม่ได้ เพราะพวกผมไม่ได้ไปอยู่ในเหตุการณ์ ข้อมูลที่ได้รับจึงมีจำกัด
"ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นคนดีถึงขนาดนี้"
เรนเอ่ยอย่างชื่นชมกลุ่มนักผจญภัยสามพี่น้อง ใบหน้าเด็กชายเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา นั้นสินะเป็นคนดีจริงๆนั่นแหล่ะ ดีเกินไปจนน่ากลัว
ต่อให้พวกเขาจะแผนอะไรอยู่ก็ตาม ยังไงผลลัพธ์ก็ออกมาดี คงต้องตอบแทนบุญคุณพวกเขา ไม่ควรให้พวกเขาทำคุณบูชาโทษ
"เรนเองก็ต้องกล่าวสุนทรพจน์ให้แก่พวกเขาด้วยนะ"
เรน ทำท่าทางเหมือนจะคัดค้านแต่ว่า ชื่อของผู้จ้างวานเป็นองค์ชายเรน ลูอิส ไม่ใช่ผมเสียหน่อย จึงได้แต่กล้ำกลืนคำพูดเอาไว้
"เอาเถอะ ผมไม่ใช่ยักษ์มารเสียหน่อย เดียวจะช่วยคิดบทพูดไว้ก็แล้วกันครับ"
ผมยิ้มเยาะเล็กน้อย พร้อมกับยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ทำให้เรนผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่เหมือนจะยังเจ็บใจอยู่
"นายไม่ใช่ยักษ์มารหรอก บางครั้งก็ใจดีเหมือนผู้กล้า บางทีก็ใจร้ายเหมือนจอมมาร"
"นายมัน ผู้กล้าจอมปลอม"
คำพูดของเรนทำให้ร่างของผมแข็งทื่อ นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่มีใครเรียกผมแบบนี้ ก็ตั้งแต่ตอนที่ผม ฆ่าล้างผู้คนทั้งอาณาจักรนี่นะ น่าคิดถึงจังเลยนะครับ...
"ปะ...เป็นอะไรไป ผมพูดแรงไปงั้นหรือ?"
"ขะ...ขอโทษครับ"
เรนมีท่าทีรนรานลุกลี้ลุกลน พยายามจะปลอบผม ผมจึงแกล้งร้องไห้ และใช้โอกาสนี้หนีออกจากคฤหาสน์ซะเลย
ทำตามความต้องการตัวเองแทนที่จะทำเพื่อมนุษย์ชาติ นี่แหละตัวผม ผู้กล้าจอมปลอม
"นายน้อยโนอา ถ้าเงินรางวัลมากมายขนาดนี้ สามารถเอาไปซื้อที่ดินและสามารถสร้างกิลด์ได้สบายๆ แล้วทำไมนายถึงจะต้องทำให้ยุ่งยากขนาดนี้ด้วยครับ?"
ข้าโพลงถามด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินถึงภาระกิจที่เด็กชายผมสีดำขอให้ข้าไปทำ
ตระกูลแอชคลาส ถึงจะตระกูลเป็นขุนนางระดับมาร์ควิส และมีกองกำลังทหารเป็นของตนเอง แต่สถานที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคือ บริเวณชายแดนฝั่งทิศใต้ของจักรวรรดิมิสลูน่า ซึ่งเป็นเขตชนบท ที่อยู่ติดกับป่าไอน์และเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นมิตรอย่างจักรวรรดิอินเนสซา
นายน้อยโนอา ต้องการจะให้ข้านั้นจ้างเควสนักพจญภัยที่สำนักงานกิลด์นักพจญภัยในเมืองหลวง ส่วนเนื้อหาของเควสนั้นคือ สังหารหรือขับไล่ กลุ่มโจรใน สลัมบริเวณชายแดนที่ทางใต้ของอาณาจักร ซึ่งนั้นก็เป็นดินแดนที่ตระกูลแอชคลาสดูแลอยู่นั้นเอง
รางวัล 100 เหรียญทอง! ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเพียงพอที่คนธรรมดาจะสามารถใช้ชีวิตสะดวกสบายไปจนสิ้นอายุขัยได้เลยทีเดียว
แต่ทำไม ในเมื่อเหรียญทองมากมายมหาศาลขนาดนี้ นายน้อยโนอาถึงไม่ซื้อที่ดินแล้วสร้างกิลด์ขึ้นมาใหม่ให้จบๆไปเลย แถมเหรียญน่าจะเหลืออีกเกินครึ่ง
"ของฟรีไม่มีในโลก ขอทานยังต้องตากหน้า พ่อค้าก็ต้องลงทุน คนทำคุณก็ควรสำนึก"
ข้าไม่คิดเลยว่าประโยคที่ลึกซึ้งถึงเพียงนี้ จะออกมาจากปากของเด็กชายที่มีอายุเพียง 6-7 ขวบเท่านั้น
"ข้อแรกเลย ผมต้องการให้พวกเขาชดใช้เหรียญคืนไม่ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่"
นายน้อยโนอาเริ่มอธิบายให้ข้าเข้าใจยิ่งขึ้น โดยแสดงให้เห็นถึงเจตนาแท้จริงโดยไม่ปิดบัง
"ข้อสอง ต้องการที่จะให้เด็กพวกนั้นพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น ไม่ต้องกระทำความผิดโดยไม่จำเป็น"
เหมือนกับประโยคที่กล่าวไว้ว่า ถ้าเราให้ปลา เขากินอิ่มได้เพียงมื้อเดียว ถ้าเราสอนวิธีหาปลา เขาจะหาปลารับประทานได้เองตลอดชีวิต
"ส่วนข้อสุดท้าย ที่นี่เป็นบริเวณชายแดน ซึ่งค่อนข้างอันตรายอยู่บ้าง แต่กลับไม่มีนักผจญภัยมาปักหลักอยู่ที่นี่ เพราะอะไรล่ะ? ก็เพราะว่าที่นี่ไม่มีกิลด์นักผจญภัยยังไงล่ะ"
"อย่างงี้นี่เอง ข้าเข้าใจแล้วครับ นายน้อยเชื่อมือข้าได้เลย"
ถ้าในที่แห่งนี้มีกิลด์นักผจญภัย ก็จะมีเควสให้ทำ และนักผจญภัยบางส่วนก็จะมาปักหลักอยู่ที่นี่ ตัวข้าเองก็อยากจะอยู่ที่บ้านเกิดเหมือนกัน
นายน้อยโนอา ช่างมีความคิดความอ่านล้ำเลิศยิ่งนัก ต่างจากเด็กทั่วไปโข ถึงบางครั้งอาจจะดูหน้ากลัวอยู่บ้าง แต่ก็เหมาะสมจะเป็นผู้นำคนอื่นมาก
"รีบหน่อยนะครับ ผมคิดว่าอยากจะสร้างให้เสร็จก่อนฤดูหนาวนะครับ"
ในขณะที่ข้านั้นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ น้ำเสียงจริงจังของนายน้อยก็ทำให้ข้าได้สติกลับมา
"คะ...ครับ!"
ข้าตอบรับและเตรียมจะออกจากห้องทันที แต่เด็กชายผมสีดำกลับหยุดข้าไว้ก่อน
"เดี๋ยวก่อนครับ ชื่อผู้ว่าจ้างเอาเป็นชื่อ องค์ชายเรน ลูอิส น่ะครับ ผมขออนุญาตเรียบร้อยแล้ว"
เสียงนุ่มนวลของนายน้อยดังขึ้นเบาๆ ใบหน้ายิ้มแย้มราวกับเด็กไร้เดียงสา ซึ่งทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกว่าน่ารักน่าเอ็นดู แต่คนที่รู้จักกับคิดว่าเหมือนดาบเลื่องชื่อที่อยู่ในฝักมากกว่า
"เข้าใจแล้วครับ"
ข้าตอบรับอย่างเต็มใจ และรีบออกเดินทางไปทำภาระกิจที่ได้รับมา ในเมืองหลวงทันที
รางวัลมากมายมหาศาลขนาดนี้ ไม่มีทางจะมาแค่นักผจญภัยกลุ่มเดียวแน่นอน และด้วยชื่อเสียงของผู้จ้างวาน ทำให้เกิดแรงจูงใจอีกมากด้วย กองกำลังมากมายขนาดนั้นบางทีอาจชนะโดย ไม่จำเป็นต้องปะทะกันก็ได้
นายน้อยโนอา แค่อายุเพียงเท่านี้ ก็สามารถวิเคราะห์ สถานการณ์ได้มากขนาดนี้ ช่างเป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ
***
หลังจาก 3 วันที่มีการประกาศเควสสังหารหรือขับไล่กลุ่มโจรที่ซ่อนอยู่ในเขตสลัม ดินแดนทางใต้ของจักรวรรดิมิสลูน่า
นักผจญภัยมากมายในเมืองหลวงก็เกิดความวุ่นวายทันที บ้างก็ต้องการรับภาระกิจนี้ไว้กับพวกตน บ้างก็ต้องการรวบรวมสมัครพรรคพวกไปทำภารกิจกิจนี้ด้วยกัน
อาจะดูเว่อร์วังไปหน่อย แต่ความยากของภารกิจคือระดับ A ภัยคุกคามที่อาจสร้างความเสียหายในวงกว้างต่อทั้งเมืองได้ จึงต้องใช้นักผจญภัยที่มีฝีมือระดับแรงค์ B+ขึ้นไปในการรับภาระกิจนี้
ในเขตสลัมบริเวณชายแดน ซึ่งเป็นดินแดนที่ตระกูลแอชคลาสได้รับมอบหมายให้ดูแลอยู่
ชายรูปร่างสูงใหญ่ร่างกายกำยำ เปิดประตูเข้าไปในกระท่อมหลังใหญ่ด้วยความเร่งรีบ
"ลูกพี่ใหญ่! ในเมือง มีการจ้างเควสให้ขับไล่หรือสังหารพวกเราด้วยละ"
ชายร่างกำยำเอ่ยออกมาอย่างตื่นตระหนัก พร้อมยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับชายร่างอ้วนท้วมสวมชุดเกราะหนังสัตว์สีดำผู้ถูกเรียกว่าลูกพี่ใหญ่ ที่กำลังนั่งยกแก้วดื่มอยู่
กลิ่นสุราหอมหวานโชยมาจากข้างในกระท่อม บนโต๊ะไม้สีดำชายสองคนกำลังร่วมวงกันดื่มสุรา คนหนึ่งเป็นชายร่างอ้วนท้วมสวมชุดเกราะหนังสัตว์สีดำ มีบรรยากาศน่าช่างน่าเกรงขาม ชวนให้ผู้อื่นต้องคอยออกห่าง
ส่วนอีกคนกลับเป็นชายร่างผอมโซ สามชุดคลุมยาวจากหัวจรดเท้าสีดำ มือถือแก้วสุรา ใบหน้าคว่ำแนบติดกับโต๊ะ แต่ทันใดที่มีคนเข้ามาก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ เผยให้เห็นเพียงใบหน้าซีดขาวกับ นัยน์ตาสีแดงเท่านั้น
"ใคร! ใครมันช่างกล้าลูบคมข้า?"
เพล้ง! ทันที่ชายร่างอ้วนท้วมได้ยิน แก้วสุราถูกโยนเข้าใส่กับผนังกำแพงอย่างรุนแรง จนแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวดังก้องไปทั่วห้อง จิตสังหารพลุ่งพล่านทำให้บรรยากาศรอบๆ หนาวสั่นไปจนถึงหัวใจ ผู้อ่อนแอที่สัมผัสอาจจะเสียสติไปเลยก็ได้
"ลูกพี่ใหญ่ ท่านใจเย็นก่อนสิ เดี๋ยวพวกเด็กๆจะทนไม่ไหวเอานะครับ"
ชายสวมเสื้อคลุมสีดำไม่ได้ตกใจอะไร เอ่ยออกมาอย่างเกียจคร้าน ทำให้บรรยากาศรอบๆผ่อนคลายลงอีกครา
"ลูกพี่ใหญ่ ผู้จ้างวานคือ องค์ชายเรน ลูอิส"
ชายร่างกำยำเริ่มอธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวที่มีนักผจญมาจ้างวานเควสที่สำนักกิลด์ในเมืองหลวง
"รางวัลตั้ง 100 เหรียญทองเชียวนะครับ แบบนี้ต้องดึงดูดนักผจญภัยฝีมือดีเข้ามาแน่!"
ชายร่างกำยำเอ่ยออกมาท่าทางหวาดวิตกกังวล แต่สายสวมชุดคลุมสีดำกลับมีปฏิกิริยากับชื่อที่ได้ยินเล็กน้อย
"องค์ชายเรน ลูอิส งั้นหรือ จะว่าไปข้าก็คุ้นชื่ออยู่หรอกนะ?"
ชายสวมชุดคลุมสีดำ เอ่ยพึมพำอย่างเกียจคร้าน ทำท่าทางครุ่นคิดเหมือนพยายามจะนึกอะไรบางอย่าง ทำให้ชายร่างอ้วนท้วมถามด้วยสงสัย
"น้องรอง เจ้าพอจะนึกอะไรออกหรือ?"
"เมื่อสองเดือนก่อน ท่านดยุคได้ให้ภารกิจรอบสังหารแก่ข้า รางวัลค่อนข้างงามเลยทีเดียว ชื่อของผู้ที่เป็นเป้าหมายนั้นก็คือ องค์ชายเรน ลูอิส!"
"แต่ข้างตัวเจ้านั้นกลับมีนักปราชญ์สีแดงและนักผจญภัยมากฝีมือคอยคุ้มกันอยู่"
ชายชุดคลุมสีดำเอ่ยตอบอย่างเกียจคร้าน น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่กลับชวนให้ขนหัวลุกซู่ ดวงตาสีแดงสะท้อนในแก้วสุราทำให้น่ากลัวราวกับไม่ใช่มนุษย์
"โห้ แบบนี้ก็ดี ข้าจะได้จัดการทีเดียวเลย ฮาฮ่าๆ"
ชายร่างอ้วนท้วมผู้ที่ถูกเรียกลูกพี่ใหญ่หัวเราะชอบใจในแววตาเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจราวกับนักล่า
"ข้ามีแผน!"
เสียงนุ่มนวลของหญิงสาวดังขึ้นมาจากมุมมืดของห้อง โดยไม่มีใครทันสังเกตุ เธอก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนแล้ว เธอยื่นริมฝีปากสีแดงสด กระซิบข้างหูของผู้ชายทั้งสองคน
"ฮาฮ่าๆ น่าสนใจดีนะแผนของน้องเล็กนะ"
ชายร่างอ้วนท้วมหัวเราจะอย่างพึงพอใจ ส่วนชายชุดคลุมสีดำได้แต่เงียบสงบพยักหน้ารับ ไม่เอ่ยอะไรออกมา แต่ดวงตาสีแดงกับมีความโลภแฝงอยู่
"งั้นพวกเราก็ต้องไปเยือนสักครั้งแล้วล่ะ คฤหาสน์ตระกูลแอชคลาส"
****
•โนอา แอชคลาส•
ภายในหนึ่งสัปดาห์ ภารกิจทำความสะอาดเขตสลัมก็เสร็จสมบูรณ์ราวกับฝัน แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ผู้ที่รับภาระกิจกับเป็นนักผจญภัยเพียงสามคน ที่ถูกขนานนามว่า กลุ่มสามพี่น้อง
พวกเขาขอรับรางวัลเพียงแค่ 30 เหรียญทองเพียงเท่านั้น พวกเขาให้เหตุผลว่าภารกิจมันง่ายเกินไป และนำเหรียญทองถึง 70 เหรียญ คืนให้กลับผู้ว่าจ้างเพื่อใช้ในการพัฒนาเขตสลัม ช่างเป็นคนดีจริงๆ
วันนี้พวกเราจึงเชิญพวกเขามารับประทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์ และพวกเขาก็ได้ตอบรับอย่างเต็มใจ
"จบง่ายๆก็ดีแล้วไม่ใช่หรอครับ?"
เสียงเรียบนิ่งของเด็กชายผมสั้นเรียบสีทองคล้ายราชสีห์ ซึ่งนี่ถือเป็นเอกลักษณ์ของผู้มีสายเลือดราชวงศ์ลูอิสแห่งจักรวรรดิมิสลูน่า ทำให้ผมนั้นหลุดออกจากภวังค์ความคิด
"อืม... คิดมากไปก็เท่านั้นแหล่ะ"
ผมตอบไปทีอย่างช่วยไม่ได้ เพราะพวกผมไม่ได้ไปอยู่ในเหตุการณ์ ข้อมูลที่ได้รับจึงมีจำกัด
"ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นคนดีถึงขนาดนี้"
เรนเอ่ยอย่างชื่นชมกลุ่มนักผจญภัยสามพี่น้อง ใบหน้าเด็กชายเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา นั้นสินะเป็นคนดีจริงๆนั่นแหล่ะ ดีเกินไปจนน่ากลัว
ต่อให้พวกเขาจะแผนอะไรอยู่ก็ตาม ยังไงผลลัพธ์ก็ออกมาดี คงต้องตอบแทนบุญคุณพวกเขา ไม่ควรให้พวกเขาทำคุณบูชาโทษ
"เรนเองก็ต้องกล่าวสุนทรพจน์ให้แก่พวกเขาด้วยนะ"
เรน ทำท่าทางเหมือนจะคัดค้านแต่ว่า ชื่อของผู้จ้างวานเป็นองค์ชายเรน ลูอิส ไม่ใช่ผมเสียหน่อย จึงได้แต่กล้ำกลืนคำพูดเอาไว้
"เอาเถอะ ผมไม่ใช่ยักษ์มารเสียหน่อย เดียวจะช่วยคิดบทพูดไว้ก็แล้วกันครับ"
ผมยิ้มเยาะเล็กน้อย พร้อมกับยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ทำให้เรนผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่เหมือนจะยังเจ็บใจอยู่
"นายไม่ใช่ยักษ์มารหรอก บางครั้งก็ใจดีเหมือนผู้กล้า บางทีก็ใจร้ายเหมือนจอมมาร"
"นายมัน ผู้กล้าจอมปลอม"
คำพูดของเรนทำให้ร่างของผมแข็งทื่อ นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่มีใครเรียกผมแบบนี้ ก็ตั้งแต่ตอนที่ผม ฆ่าล้างผู้คนทั้งอาณาจักรนี่นะ น่าคิดถึงจังเลยนะครับ...
"ปะ...เป็นอะไรไป ผมพูดแรงไปงั้นหรือ?"
"ขะ...ขอโทษครับ"
เรนมีท่าทีรนรานลุกลี้ลุกลน พยายามจะปลอบผม ผมจึงแกล้งร้องไห้ และใช้โอกาสนี้หนีออกจากคฤหาสน์ซะเลย
ทำตามความต้องการตัวเองแทนที่จะทำเพื่อมนุษย์ชาติ นี่แหละตัวผม ผู้กล้าจอมปลอม
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ