ชีวิตใหม่ของผู้กล้าจอมปลอม

-

เขียนโดย GUEST1656840114

วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.39 น.

  33 บท
  5 วิจารณ์
  21.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 16.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

24) Ep24 เริ่มลงมือทำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

•โนอา แอชคลาส•

 

"นายน้อยคะ มีจดหมายท่านเลโอนาร์ดมาถึงนายน้อยค่ะ"

 

พี่แอนนา สาวใช้ประจำตัวผม เอ่ยออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้น มือเรียวเธอยื่นซองจดหมายสองฉบับให้ผม

 

"ขอบคุณมากครับ"

 

ผมขอบคุณจากใจจริง พร้อมยื่นมือรับจดหมายทั้งสองฉบับมาเปิดอ่านทันที ตัวผมนั้นก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะนี่คือจดหมายอนุญาตให้ก่อสร้างกิลด์ที่ผมเคยขอเมื่อท่านพ่อเมื่อเดือนที่แล้ว

 

ผมไม่รอช้า รีบเปิดอ่านทันที ฉบับแรกเป็นใบอนุญาต

 

สร้างกิลด์ที่ผมรอคอย ส่วนอีกฉบับนั้นเป็นของที่ท่านแม่เป็นคนส่ง

 

ในจดหมายของท่านแม่ มีคำขอให้ผมไปฉลองวันสิ้นปีที่เมืองหลวง และมีคำบ่นเล็กน้อย ประมาณว่า "แม่ได้ฟังถึงวีรกรรมที่ลูกได้สร้างไว้ จากรายงานของแอนนา หมดแล้ว ภายในเดือนหน้านี้ ให้เดินทางมาที่เมืองหลวงพร้อมกับองค์ชายเรน" ผมจะอ้างว่าเป็นโฮมซิกก็ไม่ได้แล้ว

 

ผมเหลือบไปมองสาวใช้ที่ไม่ทราบว่าเธอเขียนรายงานฟ้องท่านแม่ เธอได้แต่เบือนหน้าหนีไม่พูดไม่สบตา เฮ้อ... ผมได้แต่ถอนหายใจเฮือก ช่างเถอะท่านแม่เพียงแค่บ่นเล็กน้อย แต่ไม่ได้ห้ามแสดงว่าไม่เป็นอะไร

 

ที่สำคัญกว่านั้น... ไปเยี่ยมเจ้าเรนหน่อยดีกว่า เมื่อวานเหมือนจะทำเกินไปหน่อย ท่านนักปราชญ์หญิงลิเลียนถึงขั้นจ้องเขม็งเลยทีเดียว ช่วยไม่ได้นี่เนอะ ฮ่าฮ่า

 

ผมถือซองจดหมายแล้วมุ่งไปยังห้องพักของเรน

 

"ขออนุญาตเข้าไปครับ"

 

ผมเปิดประตูเข้าไปก่อนที่จะได้รับเสียงขานตอบ ทำให้เห็นภาพที่ไม่ควรจะเห็นซักเท่าไหร่

 

"ไอ้บ้า! อย่าเปิดประตูก่อนจะได้ยินเสียงตอบสิเฟ้ย"

 

เรนตะโกนด่าอย่างขุ่นเคือง ร่างของเด็กชายเปลือยเปล่า เส้นผมสีทองของเด็กชายเปียกชื้น ผ้าเช็ดสีขาวคาดเอวไว้ปกปิดส่วนสำคัญ

 

"อะไรของนาย ผู้ชายด้วยกันแท้ๆ จะอายทำไม!"

 

พูดตรงๆ ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเลยสักนิดที่เห็นผู้ชายแก้ผ้าต่อหน้า

 

"ช่วยไม่ได้ นายมันไม่เหมือนผู้ชายนี่หว่า"

 

เรนชี้นิ้วใส่ผม ด้วยใบหน้าขึ้นสีแดงรื่อ เอ่ยประโยคที่ทำให้ใบหน้าผมต้องกระตุกออกมา มันช่วยไม่ได้นี่หว่า พ่อแม่ให้มาเยอะ

 

"ผมไม่เหมือนตรงไหน ผมเป็นผู้ชายนะเฟ้ย! พูดแบบนี้จะดูหลักฐานไหมละ?"

 

ผมยิ้มเยาะเรนที่มีท่าทางเขินอาย วาจายั่วโมโหเด็ก ทำให้แก้มสองข้างเด็กชายต้องแดงเรื่อ มือสองข้างจับที่กางเกงเตรียมจะปลดช้าๆ

 

แต่ในขณะ เสียงของหญิงสาวก็ดังขัดจังหวะเสียก่อน

 

"ท่านเรนคะ! เกิดอะไรขึ้นกันค่ะ ส่งเสียงดังลั่นเชียว"

 

ประตูห้องของเรนเปิดออกอีกครั้ง เผยให้เห็นหญิงงามผมสีชมพูพาสเทล สวมแว่นสายตา แต่นั้นไม่อาจบดบังความงามของนัยน์ตาสีไพลินเธอได้

 

เธอมีบรรยากาศสูงส่งและเย็นชา แต่ทันใดที่ดวงตาของเธอกวาดมองรอบๆ ใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ก็ขึ้นสีแดงเรื่อ ซึ่งเป็นที่หาดูได้ยากยิ่งสำหรับเธอที่มีบรรยากาศเย็นชาอยู่เกือบตลอดเวลา เธอรีบวิ่งออกไปนอกห้องทันทีโดยไม่เอ่ยอะไรออกมา

 

"ท่านลิเลียน!"

 

"ไม่ใช่นะครับ อาจารย์ลิเลียน!"

 

เรนพยายามจะวิ่งตามเธอไปแต่เจ้านี่ลืมไปว่าตัวเองพึ่งอาบน้ำเสร็จ ยังไม่ทันได้ใส่เสื้อผ้า ช่างเถอะ แค่เด็กอายุ6-7ขวบ คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้ง

 

แต่ผมคิดง่ายไป ภายในคฤหาสน์ตระกูลแอชคลาสก็เกิดข่าวลือเสียๆหายๆ ราวกับไฟลามทุ่ง ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป ช่างน่ากลัวจริงๆ...

 

***

 

•เรน ลูอิส•

 

"ผิดที่เรนโวยวายนั้นแหละครับ ก่อนจะเข้าไปผมก็ขออนุญาตก่อนะแล้ว"

 

น้ำเสียงเรียบเฉย กับท่าทางวางท่าสั่งสอนเหมือนของเด็กชายผมยาวสลวยสีดำ ทำให้ผมไม่นั้นอยากจะแย้งด้วย ได้แต่ก้มหน้าทำหูทวนลม ให้จบๆไป

 

"ปากคนเราถือว่าเป็นอาวุธชนิดหนึ่ง บางครั้งก็สามารถใช้ทำร้ายผู้อื่นได้โดยไร้บาดแผล"

 

"และในบางครั้งมันก็เป็นดาบสองคม สามารถทำร้ายตัวของเองได้เช่นกัน...."

 

พอเด็กชายเห็นว่าผมไม่โต้ตอบ ดูเหมือนว่าจะได้ใจยิ่งกว่าเดิม ร่ายบทสั่งสอนราวกับเป็นผู้ปกครอง แต่รูปลักษณ์ของเด็กชายทำให้ผมอยากจะขำออกมามากกว่า

 

ยิ่งสนิทกันเท่าไหร่นับวันเจ้าบ้านี่ ยิ่งเผยด้านเพี้ยนไปให้เห็นบ่อยขึ้น แต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยนละมั้ง เพราะตอนฝึกเมื่อวานก็โดนซัดจนหลับฝันดีไปถึงหนึ่งคืนเต็มๆ บ้างก็ไปจำบทพูดจากวรรณกรรมต่างๆมาใช้ด้วย หรือจริงๆแล้วเจ้านี่ก็เป็นพวกโอตาคุ

 

พออยู่กับคนที่สนิทด้วยแล้ว ดูเหมือนจะไม่ระวังตัวมากเกินไปหน่อย เรื่องนี้ก็น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน

 

"เข้าใจหรือเปล่า?"

 

"คะ...ครับ!"

 

เหมือนว่าเด็กชายจะบ่นจนพอใจแล้ว ใบหน้าถมึงทึงนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจ้องเขม็ง เอ่ยน้ำเสียงเรียบเฉย

 

"แล้วนายมีอะไรหรอ? ถึงได้รีบเข้าไปหาผม"

 

ผมเอ่ยถามเสียงเรียบนิ่ง ทำให้เด็กชายชะงักครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาสงบเยือกเย็นอีกครั้ง

 

"ได้เวลาเริ่มต้นสร้างกิลด์แล้วละครับ"

 

เด็กชายยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ของจักรวรรดิมิสลูน่า

 

นี่เป็นจดหมายอนุญาตให้สร้างกิลด์ขึ้นมาในเขตสลัม ซึ่งผู้ที่ได้รับหน้าที่ก็คือเด็กหนุ่มผมยาวสลวยสีดำ ที่มีอายุเพียง6ขวบเท่านั้น เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องผมเลยสักนิด

 

"ผมสามารถช่วยอะไรได้บ้างไหมครับ"

 

ถ้าผมสามารถเป็นกำลังให้เขาได้บ้างก็คงดี ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะได้นายคอยช่วยเหลืออยู่เป็นประจำ

 

"เรนคิดว่าผมควรเริ่มจากตรงไหนก่อนถึงจะดีหรือ?"

 

เด็กชายผมสีดำเอ่ยถามเสียงเรียบเฉย ใบหน้ายิ้มแย้ม

 

"ผมคิดว่าคงจะต้องขับไล่พวกโจรในสลัมออกไปก่อนล่ะมั้งครับ"

 

ที่จริงการกระทำของเด็กชายผมสีดำก็ทำให้ผมสามารถเดาได้พลางๆแล้วล่ะ ทั้งการสืบรวบรวมข้อมูลและกำลังศัตรู การหากำลังเสริมเข้ามาคอยช่วยเหลือ เรียกได้ว่าทำงานได้รอบครอบมาก

 

"ถูกต้องแล้วล่ะครับ แต่ว่ากองกำลังตอนนี้ยังไม่เพียงพอ ถ้าเป็นแบบนี้จะมีผู้ที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจำนวนมาก ผมเกลียดการเสียสละโดยไม่จำเป็น ดังนั้นผมต้องพึ่งพาพลังขององค์ชายเรนแล้วล่ะครับ"

 

ท่าทางจริงจังและจริงใจของเด็กชายผมสีดำทำให้ผมนั้นยากที่จะปฎิเสธ มันก็จริงอย่างที่เขาพูด บางทีการต่อสู้ก็ไม่ใช่ทางออกเสมอ เด็กชายผมสีดำเลือกความปลอดภัยของผู้คนเป็นหลัก มากกว่าจะทำลายล้างศัตรูจนสิ้น ถึงในบางแง่มุมอาจจะดูเหมือนขี้ขลาดตาขาวก็เถอะ

 

"แล้วจะให้ผมทำอะไรหรือครับ"

 

ผมถามด้วยความสงสัย ไม่ว่ายังไงผมก็เป็นถึงองค์ชาย ตัวผมเองก็น่าจะทำอะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นด้านบารมีชื่อเสียง หรือแม้แต่ด้านกองกำลังทหารก็สามารถช่วยได้ ของเพียงแค่เพื่อนเอ่ยปากขอ อื้มผมเนี่ยเท่ชะมัดยาด

 

"ผะ...ผมขะ...ขอยืมเหรียญทองหน่อยสิครับ!"

 

เด็กชายทำท่าทางเขินอาย เบือนหน้าหนีเล็กน้อย น้ำเสียงตะกุกตะกัก

 

เอ๋... คิดอะไรอยู่กันแน่เนี้ย ทำไมถึงได้มายืมเงินกันละเนี้ย ในหัวของผมนั้นเต็มไปด้วยคำถาม

 

เหมือนเด็กชายจะเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ จึงเริ่มอธิบายพอให้เข้าใจ

 

"เพื่อลดการสูญเสียและเวลาในการดำเนินการ เราก็ต้องใช้คนให้ถูกกับงาน ผมจะเอาใช้เป็นรางวัลสำหรับเควสนักผจญภัยครับ"

 

เด็กชายผมสีดำอธิบายน้ำเสียงเรียบนิ่งราวกับเป็นเรื่องปกติ ผู้นำนั้้นบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทำเองในทุกเรื่อง

 

เพียงแต่คอยพิจารณาเลือกหาคนที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับงานนั้น มาช่วยทำงานให้สำเร็จ ดังนั้น ผู้บริหารที่ดี จะต้องมีคุณสมบัติพิเศษ ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอยู่ประการหนึ่ง คือ "อ่านคนออก บอกคนได้ และใช้คนเป็น"

 

จะว่าไปแล้วเมื่อตอนสู้กันเมื่อวาน ก่อนที่ผมจะโดนเล่นงานจนหมดสติไปเจ้านี่ก็... เฮ้อ...ช่างเถอะ

 

"ต้องใช้ถึงเท่าไหร่หรอครับ"

 

จะใช้สักแค่ไหนกันเชียว ถึงจะทำให้ระดับองค์ชายเรน ลูอิส คนนี้ขนหน้าแข้งร่วงได้

 

"อย่าต่ำน่าจะสัก 100 เหรียญทองครับ"

 

เสียงเรียบเฉยของเด็กชาย ทำให้ผมแทบจะกระอักเลือดออกมา

 

10เหรียญทองแดง เท่ากับ1เหรียญเงิน 10เหรียญเงิน เท่ากับ 1เหรียญทอง 10เหรียญทอง เท่ากับ1เหรียญทองคำขาว แค่วันละ2เหรียญทองแดง ก็ทำให้คนธรรมดาสามารถกินอิ่มได้หนึ่งคนต่อวัน

 

นี่ 100 เหรียญทอง ซึ่งสามารถนำไปซื้อบ้านและไม่ต้องทำอะไรเลยซัก30ปีก็คงจะอยู่ได้สบายๆ

 

เด็กชายตรงหน้านี้จะนำไปทำอะไรถึง100เหรียญทองกันแน่นะ?

 

"มะ...ไม่ได้หรอครับ?"

 

เด็กชายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ออกมา แววตามองมาน่าสงสาร คล้ายกับลูกสัตว์ตัวเล็กๆที่กำลังขอของกิน นี้เป็นวิธีที่เจ้าบ้านนี้ใช้อ้อนพี่สาวอยู่บ่อยๆ ซึ่งทำให้ผมต้องพลอยใจอ่อนไปด้วย

 

"ก็ได้ครับๆ"

 

ยังไง ตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลแอชคลาส ก็อยู่ฟรีกินฟรีอยู่แล้ว เหรียญทองที่ท่านพ่อเคยให้ไว้ ก็ยังไม่ได้ใช้ เอาเถอะท่านพ่อก็เคยบอกให้ผูกมิตรกับเจ้านี่ไว้ คงไม่ว่าอะไรหรอกที่จะให้ยืมสัก 100 เหรียญทอง

 

ก็รวยนี้เนอะ วะฮาฮ่าๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา