สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)
-
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.
45 chapter
54 วิจารณ์
21.51K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
32) โรคประหลาด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคุณหมอวิเชียรสอดมือกอดอกทำสีหน้าไม่สู้ดี
“เขามีอาการเสียเลือดมาก ทุกๆ วันจะมีตุ่มเลือดผุดขึ้นตามตัว และแตกออกจนเลือดไหลโซมกายไปหมด ตอนแรกๆ อากับสายทิพย์เราก็เหนื่อยกันมากทีเดียวล่ะ เพราะต้องคอยใช้ผ้าสะอาดคอยซับเลือด และเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกๆ เย็น หมอลองให้ยาห้ามเลือด และยาแก้ปวดรวมถึงพวกยาอื่นๆ รักษาไปตามอาการ แต่ก็ดูจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ เพิ่งจะมีช่วงหลังๆ มานี่แหละ ที่อาการที่ว่าค่อยทุเลาลง แต่ว่า…..”
“แต่ว่าอะไรคะหมอ?” ฉันซักไซ้ด้วยความร้อนใจ เมื่อจ้องมองไปยังดวงตาใต้คิ้วบางคู่นั้นก็รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวและกังวลที่ฉายชัดออกมา
“เขาไม่ใช่คนแรกที่มีอาการประหลาดแบบนี้”
“ว่ายังไงนะครับ!?” เสียงเอกที่สอดขึ้น พร้อมกับดวงตาโตเรียวของแก้วที่มองมาทางเราอย่างสนอกสนใจทำให้การสนทนาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่คุณอาวิเชียรจะกล่าวต่อ
“โรคประหลาดนี่เกิดขึ้นกับพวกชาวบ้านมาแล้วหลายคน และสุดท้ายคนที่เป็นโรคนี้….ก็”
พอได้ยินคุณอาว่าเช่นนั้นก็พลันสะอึกในใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ดีว่าถ้อยคำที่แกไม่ได้เอ่ยออกมานั้นคืออะไร
หัวใจของฉันห่อเหี่ยวลงและได้แต่นั่งอึ้งรับฟังด้วยความเจ็บปวด
“น่าแปลกที่ผู้ป่วยโรคนี้จะไม่มีอาการไข้ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อ หรือการต่อต้านของร่ายกายเลย และที่แปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือถึงแม้มันจะไม่ได้เป็นโรคติดต่อแต่ก็เหมือนว่าจะมีคนเป็นโรคนี้อยู่เรื่อยๆ เพียงสองสามปีที่ผ่านมาก็มีคนในหมู่บ้านนี้ป่วยด้วยโรคอุบัติใหม่นี้ไปแล้วเกือบสิบราย”
ชานนท์เลื่อนฝ่ามือมากุมมือซ้ายของฉันที่วางอยู่ข้างตัว
“อย่าพึ่งหมดหวังนะริณ” เขากล่าวให้กำลังใจแต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาเลย
“ถ้าคนในหมู่บ้านนี้พากันเป็นโรคนี้จริง มันก็น่าจะเป็นโรคร้ายแรงแล้วไม่ใช่เหรอคะ แล้วมีใครถูกส่งไปที่โรงพยาบาลบ้างรึยังคะ?” แก้วเอ่ยถาม
คุณหมอส่ายศีรษะนิดหนึ่งเป็นคำตอบ
“เชื่อมั๊ยว่าทุกคนที่นี่ต่างไม่มีใครยินยอมให้พาพวกเขาออกจากหมู่บ้านนี้ไปโรงพยาบาลเลยสักคนเดียว แม้ว่าอาจะพยายามเกลี้ยกล่อมหว่านล้อมแค่ไหนก็ไม่มีใครฟัง…”
“เขามีอาการเสียเลือดมาก ทุกๆ วันจะมีตุ่มเลือดผุดขึ้นตามตัว และแตกออกจนเลือดไหลโซมกายไปหมด ตอนแรกๆ อากับสายทิพย์เราก็เหนื่อยกันมากทีเดียวล่ะ เพราะต้องคอยใช้ผ้าสะอาดคอยซับเลือด และเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกๆ เย็น หมอลองให้ยาห้ามเลือด และยาแก้ปวดรวมถึงพวกยาอื่นๆ รักษาไปตามอาการ แต่ก็ดูจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ เพิ่งจะมีช่วงหลังๆ มานี่แหละ ที่อาการที่ว่าค่อยทุเลาลง แต่ว่า…..”
“แต่ว่าอะไรคะหมอ?” ฉันซักไซ้ด้วยความร้อนใจ เมื่อจ้องมองไปยังดวงตาใต้คิ้วบางคู่นั้นก็รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวและกังวลที่ฉายชัดออกมา
“เขาไม่ใช่คนแรกที่มีอาการประหลาดแบบนี้”
“ว่ายังไงนะครับ!?” เสียงเอกที่สอดขึ้น พร้อมกับดวงตาโตเรียวของแก้วที่มองมาทางเราอย่างสนอกสนใจทำให้การสนทนาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่คุณอาวิเชียรจะกล่าวต่อ
“โรคประหลาดนี่เกิดขึ้นกับพวกชาวบ้านมาแล้วหลายคน และสุดท้ายคนที่เป็นโรคนี้….ก็”
พอได้ยินคุณอาว่าเช่นนั้นก็พลันสะอึกในใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ดีว่าถ้อยคำที่แกไม่ได้เอ่ยออกมานั้นคืออะไร
หัวใจของฉันห่อเหี่ยวลงและได้แต่นั่งอึ้งรับฟังด้วยความเจ็บปวด
“น่าแปลกที่ผู้ป่วยโรคนี้จะไม่มีอาการไข้ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อ หรือการต่อต้านของร่ายกายเลย และที่แปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือถึงแม้มันจะไม่ได้เป็นโรคติดต่อแต่ก็เหมือนว่าจะมีคนเป็นโรคนี้อยู่เรื่อยๆ เพียงสองสามปีที่ผ่านมาก็มีคนในหมู่บ้านนี้ป่วยด้วยโรคอุบัติใหม่นี้ไปแล้วเกือบสิบราย”
ชานนท์เลื่อนฝ่ามือมากุมมือซ้ายของฉันที่วางอยู่ข้างตัว
“อย่าพึ่งหมดหวังนะริณ” เขากล่าวให้กำลังใจแต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาเลย
“ถ้าคนในหมู่บ้านนี้พากันเป็นโรคนี้จริง มันก็น่าจะเป็นโรคร้ายแรงแล้วไม่ใช่เหรอคะ แล้วมีใครถูกส่งไปที่โรงพยาบาลบ้างรึยังคะ?” แก้วเอ่ยถาม
คุณหมอส่ายศีรษะนิดหนึ่งเป็นคำตอบ
“เชื่อมั๊ยว่าทุกคนที่นี่ต่างไม่มีใครยินยอมให้พาพวกเขาออกจากหมู่บ้านนี้ไปโรงพยาบาลเลยสักคนเดียว แม้ว่าอาจะพยายามเกลี้ยกล่อมหว่านล้อมแค่ไหนก็ไม่มีใครฟัง…”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ