สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
33) ความเจ็บปวด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“อะไรนะคะ?” ฉันโพล่งออกมาด้วยไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“มีอย่างนี้ด้วยเหรอเนี่ย!” เอกเปรยสีหน้าท่าทางประหลาดใจไม่แพ้กัน
“ใช่…คนในหมู่บ้านนี้ต่างมีความเชื่อที่เหนียวแน่นและพวกเขาไม่เชื่อในหลักวิทยาศาสตร์สักเท่าไหร่หรอกนะ...นี่แหละที่ทำให้อามาที่นี่” เขากล่าว
“ที่จริงอาก็ไม่ควรพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้หนูฟังหรอกนะ แต่ว่า อาก็อยากให้หนูเตรียมใจไว้บ้าง”
คำว่าสะเทือนใจคงน้อยเกินไปสำหรับความรู้สึกของฉันในเวลานี้ น้ำตาใสๆ ปริ่มรื้นก่อนจะเอ่อท้นจนพร่าพรายลงมาเป็นสายโดยไม่รู้ตัว ‘นี่คุณพ่อของฉันกำลังจะตายโดยที่ไม่มีใครช่วยอะไรได้เลยอย่างนั้นหรือ’
“อาเองก็พยายามสุดความสามารถที่จะศึกษา รวมถึงแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประหลาดนี้ไปยังโรงพยาบาล กรมการแพทย์ให้ส่งผู้เชียวชาญทางด้านผิวหนัง โรคเลือด และอายุรกรรมในกรุงเทพฯ แต่ก็ยังไม่มีใครตอบรับมา…และพวกคลื่นสัญญาณวิทยุ โทรศัพท์ก็มักจะล่มอยู่บ่อยๆ น่าแปลกจริงๆ เหมือนหมู่บ้านนี้จะถูกปิดกั้นด้วยอะไรสักอย่าง”
“ถูกปิดกั้น!” ฉันเปรยออกมาเบาๆ ด้วยความแปลกใจ รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลที่เจือมาในคำพูดนั้น ก่อนจะสบสายตากับเอกนิดหนึ่ง และเห็นว่าเขาเองก็กำลังตั้งอกตั้งใจฟังอยู่เช่นกัน
“จริงด้วยค่ะ ที่นี่ฯเน็ตก็ใช้ไม่ได้ด้วยนะคะ สัญญาณไวไฟก็ไม่มี แปลกมากๆ เลยค่ะ” แก้วกล่าวเสริม สีหน้าเซ็ง
คงมีคำถามหนึ่งที่ฉันอยากจะไถ่ถามด้วยความห่วงใย
“หมอคะ…แล้วพ่อหนูทรมานมากมั๊ยคะ?” ฉันเอ่ย ใบหน้าชาวาบและปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลหยดเปื้อนแก้ม
หมอวิเชียรได้แต่นิ่งเงียบไป ภายในแววตาคู่นั้น ฉันมองไม่เห็นอะไรนอกจากความรู้สึกเสียใจที่ไม่อาจทำอะไรๆ ให้มันดีไปกว่านี้ ได้
“คุณหมอครับทำไมคุณหมอพูดกับริณเขาแบบนี้ล่ะครับ” เอกต่อว่าต่อขานพร้อมกับแสดงท่าทีฮึดฮัดขึ้นมาจนฉันนึกหวั่น ปกติเขาไม่ใช่เป็นคนใจร้อนหรือบุ่มบ่ามอะไรนัก แต่นี่คงกลัวว่าฉันจะเสียใจถึงเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเช่นนี้
“เอก…ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร” ฉันตอบด้วยความรู้สึกกล้ำกลืนพลางรั้งแขนเขาไว้ ก่อนจะหันไปมองใบหน้าขึงขังภายใต้กรอบแว่นแล้วส่ายหน้าเบาๆ เป็นเชิงห้ามปราม
พอดีกับที่น้าสายทิพย์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ประตูห้องน้ำเปิดผางออกดังปึงพร้อมกับร่างเพรียวระหงที่ย่างกรายออกมาในชุดผ้าฝ้ายคอกลมสีม่วงแก่ พลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมเผ้าที่เปียกหมาดๆ อย่างสบายอารมณ์
“คุณทิพย์” คุณหมอผินหน้าไปทักทายเธอทันที
“เอ้า…คุณหมอ!” เธอกล่าวตอบ “มาตรวจเหรอคะ เด็กๆ หาน้ำหาท่าให้ทานรึยังคะเนี่ย?”
คุณหมอวิเชียรผุดลุกขึ้น ดวงตาเป็นประกายวาวและคลี่ยิ้มราวกับเจ้าบ่าวที่เห็นเจ้าสาวแสนสวยเดินตรงเข้ามาหา
“ไม่เป็นไรครับไม่ต้องหรอกเดี๋ยวผมก็กลับแล้วล่ะ มีคนไข้รอผมอยู่เยอะครับ”
“แหมริณเนี่ยไม่ได้เรื่องจริงๆ อยู่ที่นู่นไม่มีใครบอกมั่งหรือไงว่าถ้ามีแขกมาที่บ้านควรทำยังไง ดูสิมัวแต่ชวนคุณหมอคุยเรื่องอะไรอยู่ก็ไม่รู้ เด็กหนอเด็ก” เธอค่อนว่าแล้วจึงหัวเราะคิก เดินกรีดกรายเข้ามาโดยวางผ้าเช็ดตัวคล้องอยู่ที่แขน ฟังแล้วมันน่าเคืองชะมัด แต่ฉันก็ไม่อยากต่อปากต่อคำกับแกเลยทำเป็นนิ่งปล่อยให้ผู้ใหญ่สองคนเขาคุยกัน
“โทษทีนะคะคุณหมอพอดีทิพย์อาบน้ำอยู่
“ครับ” คุณอาวิเชียรกล่าวรับคำ
“ทิพย์ว่าเราไปคุยกันในห้อง…”
พอได้ยินคุณน้าพูดแบบนี้เข้าพวกเราก็พากันหูผึ่ง ตาโตด้วยอารามตกใจ ซึ่งเธอคงทันสังเกตเห็นจึงรีบพูดเสริม
“เอ่อ…ห้องสามีดิฉันดีกว่าคะ”
“ดีครับ” คุณอาวิเชียรกล่าวสั้นๆ ก่อนจะก้มหยิบหมวกหยิบกระเป๋า แล้วเดินตามแม่เลี้ยงฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของคุณพ่อ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ