สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)
-
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.
45 chapter
53 วิจารณ์
21.45K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) เสียงปริศนา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ว่าแต่เรานี่ไม่เจอหลายปีโตเป็นสาวแล้วนะ ฮะ ฮะ ฮะ” ผู้ใหญ่บ้านหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี พลางเอื้อมมือขวามาจับหัวฉันอย่างเอ็นดูก่อนจะละมือไปบังคับพวงมาลัยต่อ แม้ว่าปลายจมูกได้กลิ่นอับชื้นจากแขนเสื้อโค้ทหนังสีน้ำตาลที่อีกฝ่ายใส่อยู่ แต่ก็เก็บอาการไว้
มันคงเป็นเรื่องยาก ที่จะทำให้ฉันกลับไปพูดคุยหยอกล้อกับคุณอาอย่างที่เคยเป็นมา ก็ฉันไม่ได้เหยียบย่างมาที่หมู่บ้านนี้อีกเลยหลังจากที่ต้องจากไปเรียนที่อื่น...นี่ก็เกือบเจ็ดปีแล้วสินะ
ก่อนนั้นฉันเคยพยายามที่จะกลับมาเยี่ยมพ่อและแม่ตอนปิดภาคเรียน แต่ทว่าเมื่อโทรมาบอกแม่ครั้งใด ท่านก็จะตอบกลับมาด้วยคำตอบเดิมทุกครั้ง
“ริณไม่ต้องมาหรอกลูก...ไว้แม่จัดการทุกอย่างได้แล้วจะรีบลงไปหาลูกทันทีเลยจ้ะ”
“ค่ะแม่”
และฉันก็ได้แต่ตอบรับเช่นนั้นด้วยใจที่รอคอยและวาดหวังว่าสักวันท่านทั้งสองจะมาหาฉัน จวบจนกระทั่งห้าปีก่อนที่แม่ได้ลาจากโลกนี้ไปซึ่งทำให้ฉันตระหนักได้ว่า....ฉันจะไม่มีวันพบเจอหน้าท่านอีกต่อไปแล้ว
“เฮ้ย!”
ทันใดนั้นชานนท์ก็ร้องดังขึ้นมา
“เป็นไรอีตาเอกฉันตกใจหมด” แสงพลอยแหวใส่
“ได้ยินเสียงอะไรกันรึเปล่า?” เขาถามสีหน้าตาตื่นพลางหันมองไปทุกทิศทุกทางอย่างหวาดผวา
“เงียบดิ…”
พวกเราลองเงี่ยหูฟังตามที่เขาบอก แล้วก็ได้ยิน
เสียงนั่นดังก้องสะท้อนสะท้านไปทั่ว เหมือนบางสิ่งกำลังกู่ร้อง เป็นเสียงครางหรือคำราม แปลกๆ ที่ไม่ใช่เสียงครวญของเครื่องยนต์อย่างแน่นอน มันมีระดับเสียงที่ทุ้มต่ำเป็นจังหวะเดียวยาว เนิ่นนานราวสิบวิ แล้วก็เงียบไป
“เสียงตัวอะไรร้องอ่า?” แก้วร้องถามเสียงสั่นพร้อมๆ กับถดตัวถอยชิดกับด้านของชานนท์
“เสียงอะไรเหรอคะคุณอา?” ฉันเองก็อยากรู้เช่นกัน
อาสุบรรณหันมองไปตามเสียงที่ดังขึ้นห่างไกลออกไป
“คงเป็นเสียงสัตว์ป่าแถวนี้ละมั้ง ช่วงนี้มันคงหาคู่ผสมพันธุ์ไม่ต้องกลัวไปหรอกหนู” คำตอบของเจ้าของถิ่นทำให้พวกเรารู้สึกเบาใจขึ้น แต่ถึงกระนั้นเสียงร้องปริศนานั่นก็ทำให้ฉันขนลุกเกรียว และหัวใจเต้นแรงด้วยความระทึกขวัญ
คุณอาพยายามชวนคุยเพื่อให้เราคลายความตื่นตระหนก เขาเล่าเรื่องขำขันให้พวกเราฟังจนไม่นานเราก็ไม่ได้ใส่ใจกับเสียงนั่นอีก
มันคงเป็นเรื่องยาก ที่จะทำให้ฉันกลับไปพูดคุยหยอกล้อกับคุณอาอย่างที่เคยเป็นมา ก็ฉันไม่ได้เหยียบย่างมาที่หมู่บ้านนี้อีกเลยหลังจากที่ต้องจากไปเรียนที่อื่น...นี่ก็เกือบเจ็ดปีแล้วสินะ
ก่อนนั้นฉันเคยพยายามที่จะกลับมาเยี่ยมพ่อและแม่ตอนปิดภาคเรียน แต่ทว่าเมื่อโทรมาบอกแม่ครั้งใด ท่านก็จะตอบกลับมาด้วยคำตอบเดิมทุกครั้ง
“ริณไม่ต้องมาหรอกลูก...ไว้แม่จัดการทุกอย่างได้แล้วจะรีบลงไปหาลูกทันทีเลยจ้ะ”
“ค่ะแม่”
และฉันก็ได้แต่ตอบรับเช่นนั้นด้วยใจที่รอคอยและวาดหวังว่าสักวันท่านทั้งสองจะมาหาฉัน จวบจนกระทั่งห้าปีก่อนที่แม่ได้ลาจากโลกนี้ไปซึ่งทำให้ฉันตระหนักได้ว่า....ฉันจะไม่มีวันพบเจอหน้าท่านอีกต่อไปแล้ว
“เฮ้ย!”
ทันใดนั้นชานนท์ก็ร้องดังขึ้นมา
“เป็นไรอีตาเอกฉันตกใจหมด” แสงพลอยแหวใส่
“ได้ยินเสียงอะไรกันรึเปล่า?” เขาถามสีหน้าตาตื่นพลางหันมองไปทุกทิศทุกทางอย่างหวาดผวา
“เงียบดิ…”
พวกเราลองเงี่ยหูฟังตามที่เขาบอก แล้วก็ได้ยิน
เสียงนั่นดังก้องสะท้อนสะท้านไปทั่ว เหมือนบางสิ่งกำลังกู่ร้อง เป็นเสียงครางหรือคำราม แปลกๆ ที่ไม่ใช่เสียงครวญของเครื่องยนต์อย่างแน่นอน มันมีระดับเสียงที่ทุ้มต่ำเป็นจังหวะเดียวยาว เนิ่นนานราวสิบวิ แล้วก็เงียบไป
“เสียงตัวอะไรร้องอ่า?” แก้วร้องถามเสียงสั่นพร้อมๆ กับถดตัวถอยชิดกับด้านของชานนท์
“เสียงอะไรเหรอคะคุณอา?” ฉันเองก็อยากรู้เช่นกัน
อาสุบรรณหันมองไปตามเสียงที่ดังขึ้นห่างไกลออกไป
“คงเป็นเสียงสัตว์ป่าแถวนี้ละมั้ง ช่วงนี้มันคงหาคู่ผสมพันธุ์ไม่ต้องกลัวไปหรอกหนู” คำตอบของเจ้าของถิ่นทำให้พวกเรารู้สึกเบาใจขึ้น แต่ถึงกระนั้นเสียงร้องปริศนานั่นก็ทำให้ฉันขนลุกเกรียว และหัวใจเต้นแรงด้วยความระทึกขวัญ
คุณอาพยายามชวนคุยเพื่อให้เราคลายความตื่นตระหนก เขาเล่าเรื่องขำขันให้พวกเราฟังจนไม่นานเราก็ไม่ได้ใส่ใจกับเสียงนั่นอีก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ