LacuXs: Academy of Light
-
เขียนโดย VonDerVisE
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.05 น.
8 ตอน
1 วิจารณ์
4,606 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 14.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) การประลองได้เริ่มขึ้นแล้ว!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่: 5 การประลองได้เริ่มขึ้นแล้ว!!
ณ เสาทางทิศตะวันตก นั้น มันจะแตกต่างกว่าที่ทดสอบที่อื่นนิดหน่อย มันจะมี ลานประลองแปดเหลี่ยมตรงกลาง กฏของการประลองก็แสนง่ายดาย ทำให้ผู้ทดสอบคนอื่นอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถต่อสู้ต่อไปได้ หรือทำให้หลุดออกนอกสนามประลองตัวสนามนั้น ไม่ใหญ่มาก แต่มีหลายสนาม เพื่อให้กสรต่อสู้เกิดอย่างรวดเร็วและจบอย่างรวดเร็ว หนึ่งสนามจะมีผู้ประลอง 3คน จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถผ่านเข้าไปในสถาบัน
เสียงระฆัง ดังขึ้นจาก light academy เป็นความหมายว่าการรับสมัครนั้นปิดลงแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากทั้ง สองเสาเท่านั้นที่จะยังอยู่ ท่าเปรียบเทียบกับจำนวนคนที่มาร้วมสมัคร ก็คงต้องบอกว่าจำนวนนั้นหายไป 3 เลยทีเดียว ของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด
ผู้เข้าแข่งขันหมดจะต้องสู้กัน การประลองครั้งนี้จะคัดนักเรียน 250 คนเท่านั้นที่จะได้เข้าไปยัง light academy ผ่านการประลองส่วนการสอบเข้าแบบปรกตินั้นจะมีประชากร นักเรียนที่มากกว่ามาก ผู้ที่เข้าผ่านการประลองนั้นจะเป็นการจับฉลากเพื่อเลือกโซนการต่อสู้ของแต่ละคน ลาคัส กับ ซุนขึ้นไปยังที่จับฉลาก ก่อนทั้งสอง จะ เอามือล้วงลงไปในกล่องไม้ ลาคัสหยิบกระดาษขึ้นมา ปรากฎเป็นเลข 3 ตัวกระดาษไหม้ไปในทันที และก็ปรากฏไฟขึ้นบนหัวของ ลาคัสเป็นเลข สาม
“ โห.. สุดยอด” เด็กหนุ่มพูดเบาๆ ก่อนจะหันไปมอง ซุนปรากฎเป็นเบอร์ 2 อยู่บนหัว ของเด็กน้อย ผู้คนเริ่มเดินขึ้นมาจับฉลาก บ้างก็เป็น อมนุษย์ คนครึ่งสัตว์ มาอย่างไม่ขาดสาย “เสียดายที่ไม่ได้สู้กันเอง พี่ลาคัส ข้าอยากรู้ว่าพี่เก่งแบบที่บอกรึเปล่า” ซุนพูดพร้อมกับมองไปที่ลาคัส เขา หัวเราะนิดหน่อยก่อนจะตอบกลับไปว่า “ข้านะเก่งอยู่แล้ว ถ้าเจ้าอยากรู้ก็รอเข้ารอบแล้วไปลุยกัน”
“งั้นก็ดีเลย ข้านะเบื่อบ้านเกิเข้ามากเลย ข้าเลยแอบหนีมาอยู่นี้” ซุนพูดลอยๆออกมาแต่ลาคัสก็ได้ยิน ลาคัสกล่าว “แล้วเจอกันข้างใน นะ” ทั้งสองมองหน้ากัน ยิ้ม ก่อนจะเอา หมัดชนกัน ทั้งคู่เริ่มเดินแยกกันไปยังที่ประลองของแต่ละคน การแข่งขันจะเกินขึ้นพร้อมๆ กันทั้ง 3 สนาม เสาทิศตะวันตกนั้นจะอยู่ฝั่งเดียวกับสถาบัน ทำให้พวกขุนนางได้สามารถเห็นการต่อสู้ของผู้แข่งขันได้อย่างชัดเจน ผู้ที่สอบผ่านจะต้องมารอจนกว่าทุกคนจะสอบเสร็จ เพื่อที่จะได้เข้าไปยังสถาบันพร้อมกัน
ณ ห้องโถงใหญ่ที่ติดกับเสาทิศตะวันตก ในห้องมีขุนนางพร้อมกับองค์รักษ์คนสนิทเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปได้ ในห้องปรากฎร้างของ หญิงสาวผมทอง ชายหนุ่มผมน้ำตาล และชายหนุ่มผมน้ำตาลแดง พร้อมกับ หญิงสาวอีกคนที่มีผ้าคลุมทั้งร่างกาย หันหน้ามองไปยังที่ยัดงานแข่งขัน
“เอาละไหนดูสิ ว่าสามัญชนคนไหนมันน่าแทงเงินลงบ้าง” บัททิวนั่งมองจากที่สูงพร้อด้วยขุนนางคนอื่นๆ
“ลูลุชเจ้านะสนใจไหม หรือว่าอาณาจักรของเจ้าจะไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อหาความสนุกได้เพราะความขัดสน” ลูลุชนั่งปิดตาไม่ได้สนใจเสียงของบัททิวแม้แต่น้อย
“หึ..ท่านซิลเว้อละว่าไงสนใจแข่งกับผมไหมละ” บัททิวหันหยิบแก้วไวน์ ก่อนจะมองไปยัง ซิลเว้อที่นั่งอยู่ ข้างๆ
“เอาสิ เราเล่นด้วย” ทันใดนั้น องค์รักษ์ของเจ้าหญิงราวีเอร่าก็เดินมาคุกเข่าลง
“เจ้าหญิง ปรารถนา ที่จะเล่นกับพวกท่านทั้งสองด้วย” องค์รักษ์ประจำตัวของเจ้าหญิงผู้เลอโฉมกล่าว
“เยี่ยมยอดเรายินดีเป็นอย่างมาก” บัททิวกล่าวก่อนจะชูแก้วไวน์ขึ้น
“ แล้ว โยร่า, โยเร่ และ โมเลียไปไหนเสียละ “ ซิลเว้อถามองค์รักษ์ของตน “อย่าไปสนใจพวกนั้นเลย พวกนั้น นะแปลก” บัททิวพูดขั้นขึ้นมา “เรามาสนุกกับการเดิมพันของพวกเราดีกว่า”
ผู้เข้าแข่งขันค่อยๆทยอยไปยังสนามของแต่ละคน ก่อนที่การประลองจะเริ่มขึ้น เสียงแตรยาว เป็นสัณญาณของการแข่งขัน การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ผู้ที่แพ้ต่างออกมาร้องไห้ ผิดหวังในความสามารถของตน บางคนก็อายุมากเกินกว่าจะกลับมาสอบที่สถาบันได้แล้ว มันช่างเป็นการต่อสู้ที่สามารถตัดสินชะตาของ ครอบครัว อนาคต ของผู่แข่งได้เป็นอย่างดี ในการประลองนั้นจะไม่สามารถใช้อาวุธใดๆได้ทั้งสิน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทิ้งเกราะและอาวุธประจำกายของตนไว้กับผู้คุม ณ สนามสอบที่ 2 ผู้คนต่างสงเสียงเชียร์กันยกใหญ่ เหลือเพียงบุรุษ 2คนที่ยังยืนตระหง่านอยู่บนเวที ทั้งสองดู ชายคนนึงมีรอนสักที่แขนขวาเป็น สัญลักษณ์เหมือนชนเผ่า อีกคนนั้นมีรอยบากที่ลำตัวขนาดใหญ่ ทำให้ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก ทั้งคู่ต่างเหน็ดเหนื่อย และ มีรอยช้ำตามร่างกายหลายที่
“ถ้าไม่ติดว่าต้องมาเจอกันนี้ข้าก็อยากเข้าสถาบันไปกับเจ้านะ” ชายคนนึงเอ่ย
“ข้าก็เช่นกัน” ทั้งสอง ยิ้มให้แก่กันก่อนจะวิ่งเข้าชนกันอย่างแรง ร่างของชายร่างใหญ่ทั้งสองที่ตั้งท่าดุจหินผา นั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก ทั้งสองทุ่มเท พลังกายทั้งหมดเพื่อที่จะจบการต่อสู้นี้ลง ถัดไปยังเวที ที่ 1 ดูเหมือนการต่อสู้จะพึ่งจบลงด้วยชัยชนะของหญิงสาวผมสั้นสีดำ เธอถอนหายใจก่อนจะปาดเหงื่อที่ใบหน้าของเธอ
“เป็นเวทมนต์ที่งดงามมาก สามารถจัดการทั้ง 2 คนได้ภายในไม่ถึง 10นาทีเลย” ผู้คนต่างพูดคุยกันไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน เวลายังคงดำเนินต่อไป ชั่วโมง สอง ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงรอบของซุน เขาขึ้นไปบนเวที ที่2 พร้อมกับ นักสู้อีก 2 คน
“สนามสอบที่ 2 รอบที่ 3 กำลังจะเริ่มโปรดรอฟังเสียงระฆังจากเจ้าหน้าที่”
บนเวทีที่สีประกอบไปด้วย ซุนที่ตัวเล็กกว่าใคร หญิงสาวผมสีส้ม ชายหนุ่มและ มนุษย์ครึ่งเสือ “ งานนี้ลำบากแน่” ผู้ชมเริ่มพูดคุยกัน “ใช่พวก อมนุษย์ นะมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ ทั่วๆไป แล้วยิ่งพลังเฉพาะทางธรรมชาติอีกละก็ ก็คงไม่ต่างอะไรจากการต่อสู้กับเด็กแบเบาะเลย”
“เฮ้อ..เรานะไม่อยากเจอไอนี้ที่สุดเลย มันดักทางของเราได้ ทำไงดีน้อ แก้ยังไงดี คิดไม่ออก” ซุนครุ่นคิด พร้อมกับตั้งท่ายืนขาเดียว เอาแขนขึ้นชิดหน้าผาก มนุษย์ครึ่งเสือ เริ่มตั้งท่าเช่นเดียวกัน ในขณะที่คนที่เหลือก็เริ่มตั้งท่าของตน ทุกคนเริ่มมองไปทีกันและกันอย่างรวดเร็ว “ตั้งท่าแบบนั้นมัน หมัดวานรนิ เจ้าเด็กนั้นรู้จักเพลงหมัดหายากขนาดนั้นเลยหรอ” “ครูพักหลักจำมารึเปล่า” ผู้คนพูดกันไปต่างๆนาๆ
“โอะ ไอเด็กนั้นน่าสนใจเอาเรื้องว่างั้นไหมท่านซิลเว้อ” บัททิวกล่าวพร้อมเอนตัวมองไปยังสนามการแข่งขัน
“นั้นสินะ น่าสนใจจริงๆ คงไม่ว่าอะไรถ้ารอบนี้ข้าจะลงเดิมพันข้างเด็กนั้นนะ” ซิลเว้อยิ้มในคณะที่จับคางอยู่ บัททิวหันมามองพร้อมหัวเราะ
“ท่านซิลเว้อข้าจะไปว่าอะไรท่านได้ในเมื่อท่านยังไม่ชนะการเดิมพันเลยสักครั้ง ท่านไม่สนใจเจ้า อมนุษย์นั้นหรอ ข้าว่ามีเปอร์เซ็นต์ชนะมากกว่าเจ้าหนูนั้นอีกนะ ว่างั้นไหม เจ้าหญิง”บัททิวหันไปมองยังเจ้าหญิงที่มีผ้าคลุมกาย เจ้าหญิงกระซิบไปยังองค์รักษ์ ก่อนที่เขาจะเดินมาบอกว่า
“เจ้าหญิงเห็นด้วย แต่ขอลงเดิมพันข้าง หญิงสาวขอรับ” ลูลุชนั่งมองเหล่าขุนนางที่ดูสนุกสนานไปกับการเดิมพัน
“งั้นก็ได้ข้าลงข้าง อมนุษย์นั้นละกัน แพ้ก็อย่ามาโทษ ข้าละ” บัททิวจิบไวน์ทันทีหลังพูดเสร็จ
เสียงระฆังดังขึ้น แต่คนที่อยู่บนเวทีกลับไม่กระดิกเลยสักคน มันก็ไม่ใช้เรื้องแปลกอะไร เพราะการต่อสู้ 1-1 นั้นต่างกับ การต่อสู้หมู่เป็นอย่างมาก การขยับตัวก่อนจะทำให้รู้ถึงสถานที่ ที่จะไป แล้วบางคนก็รอจังหวะนั้นเพื่อตลบหลังศัตรูอยู่
“ไม่มีใครเข้ามางั้นหรอ..งั้นข้าเปิดเอง” เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับการกระโจนไปย้ง เด็กที่ตัวเล็กที่สุด
ออร่าจากร่างค่อยๆจับตัวขึ้น “ผิวหนังเหล็กกล้า” ร่างของซุน มีแสงเคลือบตัวขึ้นมา ก่อนจะเริ่มปักป้องกันการโจมตีของ มนุษย์เสือ หญิงสาวกับชายผอมเริ่มต่อสู้เช่นกัน ซุนเริ่มร้ายเวทต่อเนื้อง
“ออร่าเคลื่นไหว wind step” ร่างของเด็กน้อยเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้นและเร็วขึ้น ดุจสายลมที่พัดผ่าน เด็กน้อยเริ่มจู่โจมด้วยกระบวนท่าอย่างดุเดือด
“ออร่าโจมตี Wind fist“ ที่มือของเด็กน้อยเริ่มมีลมจับตัวขึ้น มันทำให้การโจมตีของเขารุนแรงไปด้วยกระแสลม ฉัว!! เลือดไหลออกมาจากใบหน้าของ มนุษย์เสือเล็กน้อยถึงแม้ เขาจะเอนตัวหลบการโจมตี แต่เพราะคลื่นลมรอบหมัดนั้นคมกริบจึงได้ฝากรอบแผลเอาไว้ได้
“ไม่แย่นิ เล่นผสานออร่า กับ มานาแบบนี้” มนุษย์เสือกระโดดตีลังกาออกจากระยะของ ซุน เขาปาดเลือดขึ้นมาก่อนจะชิม ทันไดนั้นดวงตาของเขาก็เพ่งในตาของเขาหลี่กลายเป็นเส้นตรงพร้อมกับขนที่ฟูฟ่อง ไอมานารอบๆเริ่มจับตัวกันจนเห็นได้ชัด “ งั้นเจอนี้เวทย์แห่งเสียง roar” เสียงอันดั่งสนั่นทำให้ ทุกคนบนเวทีต้องหยุดการต่อสู้เพื่ออุดหูของตัวเอง
“เวทย์เคลื่อนที่ blink” ร่างของ อมนุษย์เคลื่นตัวเข้าหานักสู้คนอื่นก่อนจะ ก้มลงกวาดล้างของชายร่างผอม กับเอาห่างเกี่ยวหญิงสาวแล้วเหวี่ยงออกนอกสนามไปอย่างง่ายดาย
“พวกเจ้ามันเกะกะ ไปฝึกมาใหม่เถอะ” ทั้งสองที่ตกเวทีได้แต่งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะเจ็บช้ำเจ็บช้ำ เพราะพวกเขารู้อยู่แล้วว่าการที่จะชนะ อมนุษย์ได้นั้นเป็นเรื้องยาก แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะแพ้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้
“มาเริ่มกันใหม่เจ้าหนู” เด็กน้อยเริ่มตั้งท่าหมัดวานรอย่างรวดเร็ว สายตายังคงจับจ้องไปยังข้างหน้าอย่างจดจ่อ
“รู้ไหมปัญหาของเจ้าคืออะไร เจ้าใช้ดวงตานั้นมากเกินไป” ทันใดนั้นร่างของ มนุษย์เสือก็หายไปต่อหน้าต่อตา ก่อนจะมาอยู่ข้างหน้า จนเขาไม่อาจจะตั้งท่ารับทัน
“อย่าพึ่งแพ้สะละ” ออร่าวิ่งวนรอบตัวก่อนมนุษย์เสือ จะประสานมือและ ต่อยเข้าไปกลางตัวของเด็กน้อย
“ออร่าป้องกัน Body armor “เปรี้ยง!! ร่างของซุน ก็ลอยละล่องไปตามอากาศ ก่อนจะกลิ้งไปตามสนามประลอง ซุน กระอักเลือดออกมา เขารีบปาดเลือดที่มุมปาก ก่อนจะลุกตั้งท่าใหม่อีกครั้ง
“ใวเหลือเกิน มองไม่ทันเลย นี้ขนาดรวมออร่าใช้ body armor ยังจุกได้ถึงขนาดนี้ ถ้าไม่มีนี้ไม่อยากจะคิดเลย..เราคงต้องเปลี่ยนวิธีสู้ ถ้างั้น…” ซุนเริ่มเปลี่ยนสเต็ปของฝีเท้า
“ออร่าความเร็ว Monkey dance” ร่างของ ซุนค่อยๆแยกออกมาเรื่อยๆ ทำให้ทั่วทั้งสนามมีเด็กน้อยถึง 10 คน และขยับล้อม อมนุษย์ไว้ตรงกลางของสนามแข่งขัน อมนุษย์เริ่มทำการโจมตีอีกครั้ง แต่ก็ไม่ไหวจับได้แต่ร่างเงาของเด็กน้อย หากแต่ทุกครั้งที่ซุนจะโจมตี อมนุษย์ก็สามารถหลบการโจมตีได้เช่นกัน ถึงอย่างนั้นซุน ก็ยังสามารถโจมตีโดนร่างของคู่แข่งได้หลายค่อหลายครั้ง ซุนสังเกตเห็น หูของอมนุษย์ กระดิกไปมา หูนั้นน่าจะจับเสียงการเคลื่อนไหวของเราได้ เราจำเป็นต้องเก็บเสียงให้มิดชิดที่สุด
“เวทย์อำพราง moon walk” เสียงของฝีเท้าค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ
“โห.. ตาคู่นั้นของเจ้านี้มันดีจริงๆ แต่เจ้าก็ยังห่างชั้นกับข้าอยู่มาก
“ออร่าความเร็ว illusion step “ ทันใดนั้นร่างที่ของซุนก็เพิ่มขึ้นอีกทุกการเคลื่อนไหวนั้น สร้างร่างแยกขึ้นมาอีกอย่างละ 3 ผู้ชมต่างเริ่มตาลายกับภาพที่เห็น
“เด็กนั้นเก่งจริงๆ เวทย์ลวงตานะฝึกยากมากๆ นี้เขาทำได้ขนาดนี้ตั้งแต่อายุแค่นี้ ร้ายกาจมาก” ผู้ชมเริ่มพูดคุยกัน“
“แต่ก็เท่านั้นไหมถ้า มนุษย์เสือนั้นใช้เวทเสียงอีก เจ้าหนูนั้นก็หมดสิทธิ์แล้ว”
“ไม่หลอก เจ้านั้นไม่น่าใช้เวทเสียงได้ถี่ๆกัน เวทเสียงนะเป็นเวทย์ที่ละเอียดอ่อน มันมีเวลาจำกัดของมันอยู่”
ผู้คนต่างชื่นชมเด็กน้อยที่สู้อย่างสุดกำลัง เสียงเชียร์ ของเด็กน้อยนั้นดังลั่นไปทั่วทั้งบริเวณ ที่กลางสนาม ตาของ อมนุษย์นั้นเบิกโพลง
“ยอดเยี่ยม...เข้ามาเลย” ซุนคิด ท่านี้กินมานาของเรามากเกินไปต้องรีบจบการต่อสู้ให้ไวที่สุด แต่เจ้านั้นก็ยังดูไม่เอาจริงใดๆเลย คงต้องใช้ท่านั้นแล้ว
“ออร่าโจมตี metal fist” ออร่าไปรวมที่หมัดของซุนอย่างมากจนเริ่มส่องสว่าง
“โห metal fist งั้นหรอ..ดูจากสภาพของเจ้านี้คงเป็นท่าสุดท้ายสินะ..เข้ามาข้าจะใช้ทุกอย่างที่มีต่อสู้กับเจ้าเช่นกัน”
ทุกคนต่างจ้องไปยัง การต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซุนสูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆ ดวงตาสีเขียวนั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลือง “Heat” ร่างของซุนเริ่มมีควันขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็พุ่งทะยานออกไปจากทั่วทุกทิศ ร่างแยกทั้ง 10 ร่างพุ่งรวมเข้ามายังจุดกลางของสนามแข่งขัน “ออร่าโจมตี metal fist blow” หมัดนับร้อยๆชุดได้ถูกกระหน่ำใส่ขู่แข่งอย่างไม่ลดละ หมัดของซุนนั้นกลายเป็นสีแดงเนื้องจากความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกาย เสียงกระแทกของหมัดเหล็กนั้นดังสนั่นไปทั้งบริเวณ.
“ย้ากกก” เปี้รยงๆๆๆ เด็กน้อยทุ่มสุดตัวเขายิ่งปล่อยหมัดเร็วขึ้นไปอีก
“เราต้องรักษาคำพูดที่ให้ใว้กับ ลาคัสให้ได้ ” เด็กน้อยยังคงโจมตีต่อจนหมดแรงที่มี ควันนั้นฟุ้งกระจายไปทั่วสนามประลอง ผู้ชมต่างรอดูผลหารต่อสู้อันดุเดือด ก่อนที่กลุ่มควันจะค่อยๆจางหายไปทำให้เห็น เด็กน้อยที่ยืนหมดแรงอยู่กับพื้น “แฮกๆ” ซุนค่อยๆเงิยหน่ามองเข้าไปในควันที่ฟุ้งกระจาย แต่ก็ต้องตะลึงเมื่อเห็น อมนุษย์ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ทั่วทั้งร่างนั้นมีเลือดไหลออกมาอย่างมาก
“ร้ายมากนะ ไม่คิดว่าจะใช้ท่าประสาน นี้ท่าไม่ใช้ออร่าที่ข้ารวบรวมไว้จนเป็น Body armor ละก็ ป่านนี้ข้าคงแพ้ไปแล้ว เล่นเอาสะข้าไม่ได้ตอบโต้เลย”
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็กระอักเลือดออกมาพร้อมกับ ทรุดลงกับพื้นก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาชูมือขึ้นบนฟ้า
“ศึกนี้ข้าชนะเจ้าแล้ว” ซุนก้มมองลงพื้นปิดตา เพื่อยอมรับความจริง ตัวเขานั้นไม่มีแรงแม้แต่จะลุกเดิน ไม่สามารถป้องกันหากถูกโจมตี ใดๆได้
“ขอโทษนะลาคัสที่ไม่สามารถทำตามที่พูดใด้”
เสียงเชียร์ของผู้คนดังลั่น เฮ...ๆ“สุดยอดมากทั้ง สองคน”
“เจ้าทำดีที่สุดแล้วไอหนู” หน่วยแพทย์ รีบเข้ามาดูอาการของทั้ง สอง ก่อนจะรีบพาตัวพวกเขาออกไปจากสนาม ซุนมองขึ้นไปบนฟ้า ทิศทางของสนามที่ 3 ด้วยดวงตาที่เศร้าหมอง สายลมแผ่วๆ พัดผ่าน แผ่นหลังของเด็กหนุ่มที่กำลังจะขึ้นสู่สนามประลองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
…………………………………………………………………………………………………………………………..
ณ เสาทางทิศตะวันตก นั้น มันจะแตกต่างกว่าที่ทดสอบที่อื่นนิดหน่อย มันจะมี ลานประลองแปดเหลี่ยมตรงกลาง กฏของการประลองก็แสนง่ายดาย ทำให้ผู้ทดสอบคนอื่นอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถต่อสู้ต่อไปได้ หรือทำให้หลุดออกนอกสนามประลองตัวสนามนั้น ไม่ใหญ่มาก แต่มีหลายสนาม เพื่อให้กสรต่อสู้เกิดอย่างรวดเร็วและจบอย่างรวดเร็ว หนึ่งสนามจะมีผู้ประลอง 3คน จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถผ่านเข้าไปในสถาบัน
เสียงระฆัง ดังขึ้นจาก light academy เป็นความหมายว่าการรับสมัครนั้นปิดลงแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากทั้ง สองเสาเท่านั้นที่จะยังอยู่ ท่าเปรียบเทียบกับจำนวนคนที่มาร้วมสมัคร ก็คงต้องบอกว่าจำนวนนั้นหายไป 3 เลยทีเดียว ของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด
ผู้เข้าแข่งขันหมดจะต้องสู้กัน การประลองครั้งนี้จะคัดนักเรียน 250 คนเท่านั้นที่จะได้เข้าไปยัง light academy ผ่านการประลองส่วนการสอบเข้าแบบปรกตินั้นจะมีประชากร นักเรียนที่มากกว่ามาก ผู้ที่เข้าผ่านการประลองนั้นจะเป็นการจับฉลากเพื่อเลือกโซนการต่อสู้ของแต่ละคน ลาคัส กับ ซุนขึ้นไปยังที่จับฉลาก ก่อนทั้งสอง จะ เอามือล้วงลงไปในกล่องไม้ ลาคัสหยิบกระดาษขึ้นมา ปรากฎเป็นเลข 3 ตัวกระดาษไหม้ไปในทันที และก็ปรากฏไฟขึ้นบนหัวของ ลาคัสเป็นเลข สาม
“ โห.. สุดยอด” เด็กหนุ่มพูดเบาๆ ก่อนจะหันไปมอง ซุนปรากฎเป็นเบอร์ 2 อยู่บนหัว ของเด็กน้อย ผู้คนเริ่มเดินขึ้นมาจับฉลาก บ้างก็เป็น อมนุษย์ คนครึ่งสัตว์ มาอย่างไม่ขาดสาย “เสียดายที่ไม่ได้สู้กันเอง พี่ลาคัส ข้าอยากรู้ว่าพี่เก่งแบบที่บอกรึเปล่า” ซุนพูดพร้อมกับมองไปที่ลาคัส เขา หัวเราะนิดหน่อยก่อนจะตอบกลับไปว่า “ข้านะเก่งอยู่แล้ว ถ้าเจ้าอยากรู้ก็รอเข้ารอบแล้วไปลุยกัน”
“งั้นก็ดีเลย ข้านะเบื่อบ้านเกิเข้ามากเลย ข้าเลยแอบหนีมาอยู่นี้” ซุนพูดลอยๆออกมาแต่ลาคัสก็ได้ยิน ลาคัสกล่าว “แล้วเจอกันข้างใน นะ” ทั้งสองมองหน้ากัน ยิ้ม ก่อนจะเอา หมัดชนกัน ทั้งคู่เริ่มเดินแยกกันไปยังที่ประลองของแต่ละคน การแข่งขันจะเกินขึ้นพร้อมๆ กันทั้ง 3 สนาม เสาทิศตะวันตกนั้นจะอยู่ฝั่งเดียวกับสถาบัน ทำให้พวกขุนนางได้สามารถเห็นการต่อสู้ของผู้แข่งขันได้อย่างชัดเจน ผู้ที่สอบผ่านจะต้องมารอจนกว่าทุกคนจะสอบเสร็จ เพื่อที่จะได้เข้าไปยังสถาบันพร้อมกัน
ณ ห้องโถงใหญ่ที่ติดกับเสาทิศตะวันตก ในห้องมีขุนนางพร้อมกับองค์รักษ์คนสนิทเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปได้ ในห้องปรากฎร้างของ หญิงสาวผมทอง ชายหนุ่มผมน้ำตาล และชายหนุ่มผมน้ำตาลแดง พร้อมกับ หญิงสาวอีกคนที่มีผ้าคลุมทั้งร่างกาย หันหน้ามองไปยังที่ยัดงานแข่งขัน
“เอาละไหนดูสิ ว่าสามัญชนคนไหนมันน่าแทงเงินลงบ้าง” บัททิวนั่งมองจากที่สูงพร้อด้วยขุนนางคนอื่นๆ
“ลูลุชเจ้านะสนใจไหม หรือว่าอาณาจักรของเจ้าจะไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อหาความสนุกได้เพราะความขัดสน” ลูลุชนั่งปิดตาไม่ได้สนใจเสียงของบัททิวแม้แต่น้อย
“หึ..ท่านซิลเว้อละว่าไงสนใจแข่งกับผมไหมละ” บัททิวหันหยิบแก้วไวน์ ก่อนจะมองไปยัง ซิลเว้อที่นั่งอยู่ ข้างๆ
“เอาสิ เราเล่นด้วย” ทันใดนั้น องค์รักษ์ของเจ้าหญิงราวีเอร่าก็เดินมาคุกเข่าลง
“เจ้าหญิง ปรารถนา ที่จะเล่นกับพวกท่านทั้งสองด้วย” องค์รักษ์ประจำตัวของเจ้าหญิงผู้เลอโฉมกล่าว
“เยี่ยมยอดเรายินดีเป็นอย่างมาก” บัททิวกล่าวก่อนจะชูแก้วไวน์ขึ้น
“ แล้ว โยร่า, โยเร่ และ โมเลียไปไหนเสียละ “ ซิลเว้อถามองค์รักษ์ของตน “อย่าไปสนใจพวกนั้นเลย พวกนั้น นะแปลก” บัททิวพูดขั้นขึ้นมา “เรามาสนุกกับการเดิมพันของพวกเราดีกว่า”
ผู้เข้าแข่งขันค่อยๆทยอยไปยังสนามของแต่ละคน ก่อนที่การประลองจะเริ่มขึ้น เสียงแตรยาว เป็นสัณญาณของการแข่งขัน การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ผู้ที่แพ้ต่างออกมาร้องไห้ ผิดหวังในความสามารถของตน บางคนก็อายุมากเกินกว่าจะกลับมาสอบที่สถาบันได้แล้ว มันช่างเป็นการต่อสู้ที่สามารถตัดสินชะตาของ ครอบครัว อนาคต ของผู่แข่งได้เป็นอย่างดี ในการประลองนั้นจะไม่สามารถใช้อาวุธใดๆได้ทั้งสิน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทิ้งเกราะและอาวุธประจำกายของตนไว้กับผู้คุม ณ สนามสอบที่ 2 ผู้คนต่างสงเสียงเชียร์กันยกใหญ่ เหลือเพียงบุรุษ 2คนที่ยังยืนตระหง่านอยู่บนเวที ทั้งสองดู ชายคนนึงมีรอนสักที่แขนขวาเป็น สัญลักษณ์เหมือนชนเผ่า อีกคนนั้นมีรอยบากที่ลำตัวขนาดใหญ่ ทำให้ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก ทั้งคู่ต่างเหน็ดเหนื่อย และ มีรอยช้ำตามร่างกายหลายที่
“ถ้าไม่ติดว่าต้องมาเจอกันนี้ข้าก็อยากเข้าสถาบันไปกับเจ้านะ” ชายคนนึงเอ่ย
“ข้าก็เช่นกัน” ทั้งสอง ยิ้มให้แก่กันก่อนจะวิ่งเข้าชนกันอย่างแรง ร่างของชายร่างใหญ่ทั้งสองที่ตั้งท่าดุจหินผา นั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก ทั้งสองทุ่มเท พลังกายทั้งหมดเพื่อที่จะจบการต่อสู้นี้ลง ถัดไปยังเวที ที่ 1 ดูเหมือนการต่อสู้จะพึ่งจบลงด้วยชัยชนะของหญิงสาวผมสั้นสีดำ เธอถอนหายใจก่อนจะปาดเหงื่อที่ใบหน้าของเธอ
“เป็นเวทมนต์ที่งดงามมาก สามารถจัดการทั้ง 2 คนได้ภายในไม่ถึง 10นาทีเลย” ผู้คนต่างพูดคุยกันไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน เวลายังคงดำเนินต่อไป ชั่วโมง สอง ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงรอบของซุน เขาขึ้นไปบนเวที ที่2 พร้อมกับ นักสู้อีก 2 คน
“สนามสอบที่ 2 รอบที่ 3 กำลังจะเริ่มโปรดรอฟังเสียงระฆังจากเจ้าหน้าที่”
บนเวทีที่สีประกอบไปด้วย ซุนที่ตัวเล็กกว่าใคร หญิงสาวผมสีส้ม ชายหนุ่มและ มนุษย์ครึ่งเสือ “ งานนี้ลำบากแน่” ผู้ชมเริ่มพูดคุยกัน “ใช่พวก อมนุษย์ นะมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ ทั่วๆไป แล้วยิ่งพลังเฉพาะทางธรรมชาติอีกละก็ ก็คงไม่ต่างอะไรจากการต่อสู้กับเด็กแบเบาะเลย”
“เฮ้อ..เรานะไม่อยากเจอไอนี้ที่สุดเลย มันดักทางของเราได้ ทำไงดีน้อ แก้ยังไงดี คิดไม่ออก” ซุนครุ่นคิด พร้อมกับตั้งท่ายืนขาเดียว เอาแขนขึ้นชิดหน้าผาก มนุษย์ครึ่งเสือ เริ่มตั้งท่าเช่นเดียวกัน ในขณะที่คนที่เหลือก็เริ่มตั้งท่าของตน ทุกคนเริ่มมองไปทีกันและกันอย่างรวดเร็ว “ตั้งท่าแบบนั้นมัน หมัดวานรนิ เจ้าเด็กนั้นรู้จักเพลงหมัดหายากขนาดนั้นเลยหรอ” “ครูพักหลักจำมารึเปล่า” ผู้คนพูดกันไปต่างๆนาๆ
“โอะ ไอเด็กนั้นน่าสนใจเอาเรื้องว่างั้นไหมท่านซิลเว้อ” บัททิวกล่าวพร้อมเอนตัวมองไปยังสนามการแข่งขัน
“นั้นสินะ น่าสนใจจริงๆ คงไม่ว่าอะไรถ้ารอบนี้ข้าจะลงเดิมพันข้างเด็กนั้นนะ” ซิลเว้อยิ้มในคณะที่จับคางอยู่ บัททิวหันมามองพร้อมหัวเราะ
“ท่านซิลเว้อข้าจะไปว่าอะไรท่านได้ในเมื่อท่านยังไม่ชนะการเดิมพันเลยสักครั้ง ท่านไม่สนใจเจ้า อมนุษย์นั้นหรอ ข้าว่ามีเปอร์เซ็นต์ชนะมากกว่าเจ้าหนูนั้นอีกนะ ว่างั้นไหม เจ้าหญิง”บัททิวหันไปมองยังเจ้าหญิงที่มีผ้าคลุมกาย เจ้าหญิงกระซิบไปยังองค์รักษ์ ก่อนที่เขาจะเดินมาบอกว่า
“เจ้าหญิงเห็นด้วย แต่ขอลงเดิมพันข้าง หญิงสาวขอรับ” ลูลุชนั่งมองเหล่าขุนนางที่ดูสนุกสนานไปกับการเดิมพัน
“งั้นก็ได้ข้าลงข้าง อมนุษย์นั้นละกัน แพ้ก็อย่ามาโทษ ข้าละ” บัททิวจิบไวน์ทันทีหลังพูดเสร็จ
เสียงระฆังดังขึ้น แต่คนที่อยู่บนเวทีกลับไม่กระดิกเลยสักคน มันก็ไม่ใช้เรื้องแปลกอะไร เพราะการต่อสู้ 1-1 นั้นต่างกับ การต่อสู้หมู่เป็นอย่างมาก การขยับตัวก่อนจะทำให้รู้ถึงสถานที่ ที่จะไป แล้วบางคนก็รอจังหวะนั้นเพื่อตลบหลังศัตรูอยู่
“ไม่มีใครเข้ามางั้นหรอ..งั้นข้าเปิดเอง” เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับการกระโจนไปย้ง เด็กที่ตัวเล็กที่สุด
ออร่าจากร่างค่อยๆจับตัวขึ้น “ผิวหนังเหล็กกล้า” ร่างของซุน มีแสงเคลือบตัวขึ้นมา ก่อนจะเริ่มปักป้องกันการโจมตีของ มนุษย์เสือ หญิงสาวกับชายผอมเริ่มต่อสู้เช่นกัน ซุนเริ่มร้ายเวทต่อเนื้อง
“ออร่าเคลื่นไหว wind step” ร่างของเด็กน้อยเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้นและเร็วขึ้น ดุจสายลมที่พัดผ่าน เด็กน้อยเริ่มจู่โจมด้วยกระบวนท่าอย่างดุเดือด
“ออร่าโจมตี Wind fist“ ที่มือของเด็กน้อยเริ่มมีลมจับตัวขึ้น มันทำให้การโจมตีของเขารุนแรงไปด้วยกระแสลม ฉัว!! เลือดไหลออกมาจากใบหน้าของ มนุษย์เสือเล็กน้อยถึงแม้ เขาจะเอนตัวหลบการโจมตี แต่เพราะคลื่นลมรอบหมัดนั้นคมกริบจึงได้ฝากรอบแผลเอาไว้ได้
“ไม่แย่นิ เล่นผสานออร่า กับ มานาแบบนี้” มนุษย์เสือกระโดดตีลังกาออกจากระยะของ ซุน เขาปาดเลือดขึ้นมาก่อนจะชิม ทันไดนั้นดวงตาของเขาก็เพ่งในตาของเขาหลี่กลายเป็นเส้นตรงพร้อมกับขนที่ฟูฟ่อง ไอมานารอบๆเริ่มจับตัวกันจนเห็นได้ชัด “ งั้นเจอนี้เวทย์แห่งเสียง roar” เสียงอันดั่งสนั่นทำให้ ทุกคนบนเวทีต้องหยุดการต่อสู้เพื่ออุดหูของตัวเอง
“เวทย์เคลื่อนที่ blink” ร่างของ อมนุษย์เคลื่นตัวเข้าหานักสู้คนอื่นก่อนจะ ก้มลงกวาดล้างของชายร่างผอม กับเอาห่างเกี่ยวหญิงสาวแล้วเหวี่ยงออกนอกสนามไปอย่างง่ายดาย
“พวกเจ้ามันเกะกะ ไปฝึกมาใหม่เถอะ” ทั้งสองที่ตกเวทีได้แต่งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะเจ็บช้ำเจ็บช้ำ เพราะพวกเขารู้อยู่แล้วว่าการที่จะชนะ อมนุษย์ได้นั้นเป็นเรื้องยาก แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะแพ้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้
“มาเริ่มกันใหม่เจ้าหนู” เด็กน้อยเริ่มตั้งท่าหมัดวานรอย่างรวดเร็ว สายตายังคงจับจ้องไปยังข้างหน้าอย่างจดจ่อ
“รู้ไหมปัญหาของเจ้าคืออะไร เจ้าใช้ดวงตานั้นมากเกินไป” ทันใดนั้นร่างของ มนุษย์เสือก็หายไปต่อหน้าต่อตา ก่อนจะมาอยู่ข้างหน้า จนเขาไม่อาจจะตั้งท่ารับทัน
“อย่าพึ่งแพ้สะละ” ออร่าวิ่งวนรอบตัวก่อนมนุษย์เสือ จะประสานมือและ ต่อยเข้าไปกลางตัวของเด็กน้อย
“ออร่าป้องกัน Body armor “เปรี้ยง!! ร่างของซุน ก็ลอยละล่องไปตามอากาศ ก่อนจะกลิ้งไปตามสนามประลอง ซุน กระอักเลือดออกมา เขารีบปาดเลือดที่มุมปาก ก่อนจะลุกตั้งท่าใหม่อีกครั้ง
“ใวเหลือเกิน มองไม่ทันเลย นี้ขนาดรวมออร่าใช้ body armor ยังจุกได้ถึงขนาดนี้ ถ้าไม่มีนี้ไม่อยากจะคิดเลย..เราคงต้องเปลี่ยนวิธีสู้ ถ้างั้น…” ซุนเริ่มเปลี่ยนสเต็ปของฝีเท้า
“ออร่าความเร็ว Monkey dance” ร่างของ ซุนค่อยๆแยกออกมาเรื่อยๆ ทำให้ทั่วทั้งสนามมีเด็กน้อยถึง 10 คน และขยับล้อม อมนุษย์ไว้ตรงกลางของสนามแข่งขัน อมนุษย์เริ่มทำการโจมตีอีกครั้ง แต่ก็ไม่ไหวจับได้แต่ร่างเงาของเด็กน้อย หากแต่ทุกครั้งที่ซุนจะโจมตี อมนุษย์ก็สามารถหลบการโจมตีได้เช่นกัน ถึงอย่างนั้นซุน ก็ยังสามารถโจมตีโดนร่างของคู่แข่งได้หลายค่อหลายครั้ง ซุนสังเกตเห็น หูของอมนุษย์ กระดิกไปมา หูนั้นน่าจะจับเสียงการเคลื่อนไหวของเราได้ เราจำเป็นต้องเก็บเสียงให้มิดชิดที่สุด
“เวทย์อำพราง moon walk” เสียงของฝีเท้าค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ
“โห.. ตาคู่นั้นของเจ้านี้มันดีจริงๆ แต่เจ้าก็ยังห่างชั้นกับข้าอยู่มาก
“ออร่าความเร็ว illusion step “ ทันใดนั้นร่างที่ของซุนก็เพิ่มขึ้นอีกทุกการเคลื่อนไหวนั้น สร้างร่างแยกขึ้นมาอีกอย่างละ 3 ผู้ชมต่างเริ่มตาลายกับภาพที่เห็น
“เด็กนั้นเก่งจริงๆ เวทย์ลวงตานะฝึกยากมากๆ นี้เขาทำได้ขนาดนี้ตั้งแต่อายุแค่นี้ ร้ายกาจมาก” ผู้ชมเริ่มพูดคุยกัน“
“แต่ก็เท่านั้นไหมถ้า มนุษย์เสือนั้นใช้เวทเสียงอีก เจ้าหนูนั้นก็หมดสิทธิ์แล้ว”
“ไม่หลอก เจ้านั้นไม่น่าใช้เวทเสียงได้ถี่ๆกัน เวทเสียงนะเป็นเวทย์ที่ละเอียดอ่อน มันมีเวลาจำกัดของมันอยู่”
ผู้คนต่างชื่นชมเด็กน้อยที่สู้อย่างสุดกำลัง เสียงเชียร์ ของเด็กน้อยนั้นดังลั่นไปทั่วทั้งบริเวณ ที่กลางสนาม ตาของ อมนุษย์นั้นเบิกโพลง
“ยอดเยี่ยม...เข้ามาเลย” ซุนคิด ท่านี้กินมานาของเรามากเกินไปต้องรีบจบการต่อสู้ให้ไวที่สุด แต่เจ้านั้นก็ยังดูไม่เอาจริงใดๆเลย คงต้องใช้ท่านั้นแล้ว
“ออร่าโจมตี metal fist” ออร่าไปรวมที่หมัดของซุนอย่างมากจนเริ่มส่องสว่าง
“โห metal fist งั้นหรอ..ดูจากสภาพของเจ้านี้คงเป็นท่าสุดท้ายสินะ..เข้ามาข้าจะใช้ทุกอย่างที่มีต่อสู้กับเจ้าเช่นกัน”
ทุกคนต่างจ้องไปยัง การต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซุนสูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆ ดวงตาสีเขียวนั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลือง “Heat” ร่างของซุนเริ่มมีควันขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็พุ่งทะยานออกไปจากทั่วทุกทิศ ร่างแยกทั้ง 10 ร่างพุ่งรวมเข้ามายังจุดกลางของสนามแข่งขัน “ออร่าโจมตี metal fist blow” หมัดนับร้อยๆชุดได้ถูกกระหน่ำใส่ขู่แข่งอย่างไม่ลดละ หมัดของซุนนั้นกลายเป็นสีแดงเนื้องจากความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกาย เสียงกระแทกของหมัดเหล็กนั้นดังสนั่นไปทั้งบริเวณ.
“ย้ากกก” เปี้รยงๆๆๆ เด็กน้อยทุ่มสุดตัวเขายิ่งปล่อยหมัดเร็วขึ้นไปอีก
“เราต้องรักษาคำพูดที่ให้ใว้กับ ลาคัสให้ได้ ” เด็กน้อยยังคงโจมตีต่อจนหมดแรงที่มี ควันนั้นฟุ้งกระจายไปทั่วสนามประลอง ผู้ชมต่างรอดูผลหารต่อสู้อันดุเดือด ก่อนที่กลุ่มควันจะค่อยๆจางหายไปทำให้เห็น เด็กน้อยที่ยืนหมดแรงอยู่กับพื้น “แฮกๆ” ซุนค่อยๆเงิยหน่ามองเข้าไปในควันที่ฟุ้งกระจาย แต่ก็ต้องตะลึงเมื่อเห็น อมนุษย์ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ทั่วทั้งร่างนั้นมีเลือดไหลออกมาอย่างมาก
“ร้ายมากนะ ไม่คิดว่าจะใช้ท่าประสาน นี้ท่าไม่ใช้ออร่าที่ข้ารวบรวมไว้จนเป็น Body armor ละก็ ป่านนี้ข้าคงแพ้ไปแล้ว เล่นเอาสะข้าไม่ได้ตอบโต้เลย”
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็กระอักเลือดออกมาพร้อมกับ ทรุดลงกับพื้นก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาชูมือขึ้นบนฟ้า
“ศึกนี้ข้าชนะเจ้าแล้ว” ซุนก้มมองลงพื้นปิดตา เพื่อยอมรับความจริง ตัวเขานั้นไม่มีแรงแม้แต่จะลุกเดิน ไม่สามารถป้องกันหากถูกโจมตี ใดๆได้
“ขอโทษนะลาคัสที่ไม่สามารถทำตามที่พูดใด้”
เสียงเชียร์ของผู้คนดังลั่น เฮ...ๆ“สุดยอดมากทั้ง สองคน”
“เจ้าทำดีที่สุดแล้วไอหนู” หน่วยแพทย์ รีบเข้ามาดูอาการของทั้ง สอง ก่อนจะรีบพาตัวพวกเขาออกไปจากสนาม ซุนมองขึ้นไปบนฟ้า ทิศทางของสนามที่ 3 ด้วยดวงตาที่เศร้าหมอง สายลมแผ่วๆ พัดผ่าน แผ่นหลังของเด็กหนุ่มที่กำลังจะขึ้นสู่สนามประลองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
…………………………………………………………………………………………………………………………..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ