LacuXs: Academy of Light
เขียนโดย VonDerVisE
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.05 น.
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 14.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) การสอบเข้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ จตุรัสกลางเมืองที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วย เสาขนาดใหญ่ ทั้ง 4ทิศ ตรงกลางของจตุรัสนั้น มี ผลึกแก้ว คริสตัลขนาดมหึมา ว่ากันว่า นี้คือ ผลึกเวทมนต์ที่ครั้งหนึ่ง ผู้ก่อตั้งเมือง sandford ได้ใช้เพื่อปกป้องประชาชนของเขาจากสงครามกับพวก dark mage มันจึงเป็นดั่งสัญลักษณ์ของเมือง sandford และเป็นจุดดึง ดูดนักท่องเที่ยวจากทั่ว สารทิศ มันยังเป็นดั่งสวนให้ผู้คนในเมืองได้พักผ่อน เข้ามาใช้ชีวิตกันอย่างสนุกสนาน ในพื้นที่อันสวยงาม แต่วันนี้ของทุกปี ที่จตุรัส จะกลายเป็นสนามสอบให้กับผู้ที่ต้องการจะเข้าไปศึกษายังสถาบัน light academyพื้น ที่ทั้ง สี่ ทิศ ของจตุรัสจะถูกแบ่ง เป็นโซนการทดสอบ โดยพื้นที่ทิศใต้จะเป็นที่สมัครสอบ, ตะวันออก เป็น ที่วัดพลังปราณ, เหนือเป็นที่วัดพลังกาย, และตะวันตก เป็นที่ประลอง โดย เหล่าอาจารย์จากสถาบันจะมาดูการประลอง เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าไม่มีไครโกง ก่อนเข้าไปยังสถาบันอันโด่งดัง
ผู้คนจากทั่วทุกทิศเริ่มทยอยมาที่จตุรัสกันอย่างล้นหลาม ประชาชนธรรมดาไปนั่งจับจองพื้นที่รอบๆเพื่อดูการสอบเข้า ผู้คนเริ่มไปแออัดกันที่ เสาทิศใต้เพื่อที่จะสมัครเข้าด้วยจำนวนขนาดนี้ เหล่าผู้คุมที่นั่งอยู่ต่างยุ่งอยู่กับการจัดการกับเอกสาร
“ใจเย็นๆ นะค้า ทีละคน” สาววัยกลางคนกำลังบอกให้ผู้สมัครแต่ละคนใจเย็นลงเนื้องจากว่าทีมงานของเธอไม่สามารถลองรับทุกความต้องการได้ เธอนั้นปวดหัวกับสิ่งที่เจอมากแต่ก็มีเหมือนเสียงที่ช้วยชีวิตของเธอไว้
“เอาละทุกคนไม่ต้องแย่งกัน เข้าแถวกันให้เป็นระเบียบนะจ้า” ทุกคนหันไปมองยังทิศทางของเสียงที่ลอยมา เป็นตัวตลกที่ยืนเด่นอยู่บนยอดน้ำพุ ของจตุรัส ทางทิศใต้
“ทุกคนโปรดฟัง ทางนี้ การจะสมัครสอบ นั้นถูกแบ่งเป็น 4 โซน แต่ก่อนอื่น การจะสมัครเข้าได้นั้นโปรดเตรียม 10 เหรียญเงิน ไปยังโซนใต้เพื่อที่จะได้เข้าไปทดสอบนะจ้าทุกคน” ตัวตลกบิดตัวไปมาระหว่างพูดอยู่บนยอดน้ำพุ
“โปรดใจเย็นและเข้าแถวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ก่อเรื้อง ไม่อย่างนั้นระวังจะถูกผู้คุมตัดสิทธิ์การสมัคร นะจ้า” หลังจากได้ยินดังนั้นผู้คนก็เริ่มจัดแถวใหม่เพื่อให้เป็นระเบียบมากขึ้น
“แย่แล้ว!! 10เหรีนญเงิน ก็ว่าคุ้นๆ เหมือนอาจารย์เคยบอกอยู่ แต่ตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจเอาเงินที่อาจารย์ให้ไปซื้อของกินระหว่างเดินทางมาเมืองนี้จนหมดละอะดิ”
เด็กหนุ่มคิดในใจพร้อมกับยืนคิ้วขมวด เอามือจับคาง
“นี้คุณตัวตลก.... นี้”
ตัวตลกหันไปหาเสียงที่เรียกเขาอยู่ ดวงตาของเขาหลี่ลง เผยให้เห็นหนุ่มน้อยที่สพายอาวุธพังๆ “ว่าไงไอหนู” ตัวตลกยืนท้าวเอว ก่อนจะมองลงมาจากน้ำพุ
“คือว่า ผมไม่มี 10เหรียญเงินอะ ดิ มีวิธีไหนให้เข้าไปสอบได้ไหมอะคุณตัวตลก”
ตัวตลกยิ้มก่อนจะกระโดดตีลังกาลงมาจากยอดน้ำพุแล้วยืนด้วยแขนทั้งสองข้างอย่างสวยงาม ชาวบ้านปรบมือให้กำการแสดงเล็กน้อย “ขอบคุณครับ ขอบคุณ” ตัวตลกโบกมือให้กับประชาชน “เจ้าหนู มีคนฝากนี้มาให้เจ้า” ตัวตลกชูมือขึ้นมา แล้วเขาก็ดึงถุงออกมาจากไหนไม่รู้ ก่อนจะโยนไปให้เด็กหนุ่ม “นั้น 10 เหรียญเงิน รีบเอาไปสมัครสะสิ” เด็กหนุ่มถึงกับงง
“ไครฝากมาอะคุณตัวตลก ผมไม่รู้จักไครเลยนะ” “ฮืมม...นั้นนะสิไครกันน้า” ตัวตลกบิดตัวไปมาก่อนจะกระโดดกลับขึ้นไปยังยอดน้ำพุอีกครั้ง
“รีบไปได้แล้วข้างานยุ่งนะเจ้าหนู” “อะ” เหมือเด็กหนุ่มจะคิดอะไรออกก่อนจะยิ้มแล้วเริ่มวิ่งไป “ขอบคุณนะครับ เซลติก” เด็กหนุ่มวิ่งไปพร้อมโบกมือลามายังตัวตลก
“เอาละม่านการแสดงได้เปิดขึ้นแล้ว” ตัวตลกก่าวก่อนจะเริ่มทำหน้าที่ของเขาอีกครั้ง
“ฮืมม?”
เด็กหนุ่มต่อคิวไปอย่างช้าๆ “เห้ย หลบไปนี้มันนานจนข้าขี้เกียจรอแล้ว” ชายร่างยักษ์ตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด “หลบไปๆ” เขาเริ่มเดินชนคนที่อยู่ในแถวไปเรื้อยๆ ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตทำให้เขาไม่ได้ใส่เกราะอะไรมาด้วย ที่ข้างเอวมีลูกตุ้มขนาดมหึมา มาด้วย แต่กลับมาหยุดอยู่ที่เด็กหนุ่ม ที่ตัวสูงแค่ช้วงเอวของเขาเท่านั้น “มองอะไรไอหนู อยากตายหรือไง”
“คุณควรกลับไปต่อแถวนะ คนอื่นก็รอคิวเหมือนกัน” เด็กหน่มพูดกับชายร่างยักษ์อย่างตรงไปตรงมา ผู้คนแถวนั้นเริ่มถอยห่าง ไม่อยากจะมีเรื้องสักเท่าไหร่ เพราะชายร่างยักษ์นั้น คือ โอราวาน ผู้ที่ถูกขนามนามว่ายักษ์แห่งขุนเขา ชายร่างยักษ์หงุดหงิดกับคำพูดของเด็กหนุ่ม เขาง้างมือขนาดใหญ่หวังสัดเด็กหนุ่มให้กระเด็น
“ตัวแค่นี้ยังจะมาสมัครงานอย่างงี้อีกเรอะ” หมัดของเขาพุ่งใส่อย่างแรงทำให้เกิดคลื่นลมรุนแรงปะทะ เด็กหนุ่มรีตาลงพร้อมกับกำลังจะยกมือขึ้น แต่ยังไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น คลื่นลมก็ถูกหยุด ด้วยตัวตลกกับนิ้วเพียง หนึ่งนิ้วเท่านั้น
“ผมบอกแล้วนะว่าไม่ให้ก่อเรื้องนะ” ตัวตลกหมุนนิ้วเป็นวงกลม ก็ทำให้ โอราวาน หมุนเคว้ง หน้าฟาดลงกับพื้นจนเกิดเสียงดัง ตึง.. ผู้คนต่างมองไม่ละสายตา
“โอะ.. ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” เด็กหนุ่มยิ้มให้กับตัวตลก ตัวตลกชูมือขึ้น พร้อมโบกมือเบาๆ เหล่าทหารที่คุ้มกันก็โผล่โค้งเล็กน้อยก่อนจะพาร่างที่หมดสติของ โอราวานไป
“เจ้านี้เป็นตัวดึงดูดปัญหาชั้นดีเลยนิเจ้าหนู” เซลอติกแอ่นหลังหันมามอง เด็กหนุ่ม
“ผมยังไม่ทันทำอะไรเลยนะครับ” เด็กหนุ่มยืนกอดอกหน้าตาฉุนหนิดหน่อย ก่อนตัวตลกจะทำมือเหมือนไล่เบา ด้วยการสบัดหลังมือ พร้อมยิ้มและหายไปในที่สุด ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปรกติ ผู้คนเริ่มต่อแถวอีกครั้ง เด็กหนุ่มเดินจนไปถึงแถวหน้าซึ่งก็เป็นเวลาใกล้เที่ยงพอดี
“กรุณาว่าง 10 เหรียญเงินไว้ ด้วยคะ” หญิงสาวกล่าว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากการเก็บเอกสาร เธอถึงกับตลึงในความของเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ เด็กหนุ่มล้วงไปหยิมถุงเงินก่อนจะวางมันลงบนโตะสมัครทันที
“ข...ขอชื่อกับอายุ ด้วยคะ” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเพราะความเขินอาย
“ลาคัส อายุ 14 ปีครับ” “นามสกุลคะ” หญิงสาวพูดขณะกรอกใบสมัคร “อืม..ไม่มีครับ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะลังเลเล็กน้อย “เธอไม่มีนามสกุล จริงๆหรอ” ที่หญิงสาวถามอย่างนั้นอาจเป็นเพราะหน้าตาที่หล่อเหลา เมือนผู้ดีชั้นสูง หากเธอเขียนชื่อโดยไม่มีนามสกุล แล้วเด็กคนนี้เป็นทายาทของคนชั้นสูง เธออาจจะเดือดร้อนได้
“ไม่มีครับ...หรือพี่สาวจะเอานามสกุลพี่สาวใส่ไปก็ได้นะครับ”
เด็กหนุ่มตอบอย่างตรงไปตรงมา หญิงสาวหน้าแดงเป็นอย่างมาก ตัวเธอก็อายุไม่ได้ห่างจากเด็กคนนี้มากนัก การที่จะให้นามสกุลไครไปก็เหมือนเป็นการขอแต่งงานโดยชอบธรรม “เด็กบ้า..ไม่มีก็ไม่มี” เธอกรอกใบสมัครจนเสร็จ ก่อนจะยื่นให้ ลาคัส เซ็นรับรอง ตึง! เสียงตราได้ถูกประทับลงบนกระดาษหนังแกะอย่างดี “มันมี 4ช่องนิครับพี่สาว” เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย
“เธอจะได้ตราประทับทั้งสี่หากเธอผ่านการสอบคัดเลือกทั้งหมด”
เธอยื่นกระดาญที่มีสัญลักษณ์ของเมือง light kingdom พร้อมบอก “โชคดีกับการคัดเลือกนะ เชิญไปที่ เสาทางด้านทิศตะวันออก เพื่อทำการวัดโซลด้วยคะ” เธอชำเลืองมองเด็กหนุ่มด้วยความเขินอาย “อื้อ” เด็กหนุ่มยิ้ม ก่อนจะเดินออกไป สายตาของหญิงสาวยังคงจ้องมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มไม่ละสายตา
“เห้ ตาฉันแล้วใช่ไหม” เสียงของผู้ชายคนถัดไป ทำให้เธอตกใจก่อนจะร้อนรน รีบทำงานต่อในทันที
ณ เสาทางทิศตะวันออก ผู้คนต่างยืนรอการทดสอบวัดโซล การวัดโซลจะให้ผู้เข้าร้วม เอามือเข้าไปสำผัส กับผลึกแก้วตรงกลาง ผลึกแก้วข้างหลังจะมี 4 อัน ผู้เข้าการทดสอบจะไม่ต้องทำอะไรหากแต่ผลึกจะทำการตรวจสอบโดยอัตโนมัต ผลึกแต่ละอันจะบ่งบอกปริมาณโซลในร่างของแต่ละบุคคล หากโซลมีปริมาณที่มาก ผลึกข้างหลังก็จะส่องแสงและส่งไปยังผลึกถัดไป ใครที่ไม่อาจทำให้ผลึกเปล่งประกายได้เลยก็จะถือว่าสอบตกในทันที
“เห้ นายอะ” เสียงของใครคนนึงกำลังเรียกลาคัสอยู่ข้างหลัง เขาหันไปมองยังเสียงที่มาก็ได้พบกับเด็กชายร่างเล็กอีกคน เขาตัวเล็กกว่าลาคัสนิดหน่อยหากแต่พลองที่อยู่ด้านหลังของเขามันชั้งสูงเหลือเกินเมื่อเทียบกับขนาดตัวของเขา
“นายชื่ออะไรเราชื่อ ซุน ยินดีที่ได้รู้จัก มาเป็นเพื่อนกันนะ” เด็กน้อยถามด้วยประโยคทั้งพวงเล่นเอาคนฟังถึงกับงงไม่ใช้น้อย ลาคัสยิ้มพยักหน้า ก่อนจะบอกชื่อของออกตนไป
“นายอายุเท่าไหร่ มาคนเดียวหรอ มีใครรู้จักที่งานนี้ไหม แล้วนายเก่งรึเปล่า”
คำถามเยอะแยะทำเอาลาคัสตอบไม่ทันเลย และได้แต่ทำหน้าแปลกประหลาด
ลาคัสมองไปยังเด็กน้อยที่มีนัยตาสีเขียวและตอบคำถามไปทีละข้อ “งั้นนายก็เป็นพี่เรานะสิ” แต่ก่อนที่ ซุนจะทันได้ถามอะไรเพิ่ม ก็มีเสียงของผู้คุมที่ดึงเอาความสนใจของทั้ง สองไปก่อน
“ โซล ระดับ 2 เชิญไปยังเสาทิศเหนือได้เลยคะ” “โซลระดับ 1 เชิญไปยังทิศเหนือคะ” ผู้ตรวจสอบทำงานกันอย่างแข่งขัน เนื้องจากผู้คนนั้นเยอะจำเป็นต้องรีบทำเวลาก่อนที่ จะเข้าสู่ช่วงหลักของงานผู้คนมากมายเริ่มสำผัสไปที่ผลึก บ้างก็มีแสง บ้างก็ไม่มีแสง จนมาถึงคิวของลาคัส กับ ซุน
“เชิญผู้สมัครคนต่อไปด้วยคะ” ซุนและลาคัสขึ้นไปยังแท่นที่มีผลึกอยู่คนละอัน ซุน เอามือสำผัสที่ ผลึก ตาสีเขียวของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก่อนที่ผลึกจะส่องแสงออกมาอย่างสว่างไสว ผลึก ชิ้น ที่ 1 สีค่อยๆสว่างขึ้น ชิ้นที่2 ก็ ค่อยๆสว่างขึ้นเช่นกัน ทันไดนั้น ชิ้นที่ 3 ก็ค่อยๆสว่างขึ้น “3 ชิ้นเลยหรอ ไอเด็กนั้นมันอัจฉริยะชัด” ผู้คนที่ดูอยู่ถึงกับอุทาน
“โซลระดับ 3 เชิญไปยังเสาทิศเหนือได้เลยคะ” ซุนเอามือลง ก่อนจะมองไปที่ลาคัส
“เดี่ยวไปรอตรงนู้นนะ” ซุนกระโดดลงจากแท่นทดสอบ
เด็กหนุ่มค่อยๆเอามือสำผัสกับผลึกก่อนจะปิดตาแล้วสูดลมหายใจเข้าเบาๆ วิ้งๆ เสียงของผลึกค่อยๆดังขึ้น แต่มันกลับไม่มีแสงใดๆออกมาเลย ผู้คนข้างหลังต่างพากันหัวเราะ
“ฮาๆ ไอหนูกลับไปเลี้ยงวัวที่บ้านดีกว่ามั้ง”
“แปปนึงๆ ขออีกทีๆ” ลาคัสพูดกับผู้คุม ผู้คนต่างพากันขำ
“เชิญท่านต่อไป...” ก่อนจะพูดจบก็มีผู้คุมอีกคนมากระซิบอะไรสักอย่าง ผู้คุมหยุดนิ่งไปพักหนึงก่อนจะเอ่ย “เชิญลองอีกครั้งคะ ลาคัสยิ้มทั้นที เขาพยักหน้าและเอามือวางลงผลึกอีกครั้ง ผู้คนข้างหลังก็ยังเยาะเย้ย เด็กหนุ่ม ยังไม่ทันจะหมดเสียงหัวเราะ เปรี้ยๆ ผลึกค่อยๆร้าว มันไม่ได้ส่องแสงใดๆ มันผิดปรกติเป็นอย่างมาก โผละ!! ผลึกตรงกลางแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ใช่แค่นั้น ผลึกข้างหลังทั้ง 4 ก็แตกออกพร้อมๆกัน โผละๆๆๆ
ผู้คนถึงกับปากข้าง ไม่ใช่แค่ ผู้ทดสอบ แต่ผู้คุมก็ ปากข้างเช่นกัน
ฟู่.. ลาคัสถอนหายใจออก พร้อมกับยิ้ม
“ช...เชิญไปยังเสาทิศเหนือเลยคะ” เด็กหนุ่มยื่นตราไปให้ประทับก่อนจะเดินไปยังที่ต่อไป
“นายทำได้ยังไง” เด็กน้อยที่ยืนรอ ลาคัสอยู่ถามอย่างงุนงง
“ไม่รู้สิ” เด็กหนุ่มขำ พลางยิ้ม ทั้ง สองเดินไปยังเสาทิศเหนือ ที่ผู้สมัครจะต้องทำลาย ผลึกที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งให้ได้ ผู้เข้าทดสอบสามารถใช้อาวุธหรืออะไรก็ได้ในการทำลายผลึกนี้ ต้องกล่าวว่าผลึกนั้นแข็งมาก ผู้เข้าสมัครจำเป็นจะต้องควบคุม ออร่า หรือ มานา เป็นอย่างดีถ้าจะสามารถทำลายผลึกได้ เนื่องจากผลึกนั้นจะไม่แตกหากพลังไม่เพียงพอ และถ้าหากพลังมากเกินไป ผลึกก็จะไม่แตกเช่นกัน เปรียบง่ายๆคือ ผลึกนี้มีไว้เพื่อวัตรความสามารถในการควบคุมปริมาณและกำลังที่พอเหมาะนั้นเอง ผู้คนมากมายต่างพากันล้มเหลวเนื่องจากความหินของการทดสอบ
บางคนถึงกับเอ่ยว่าผลึกนี้คือการทดสอบที่เป็นไปไม่ได้ หากแต่ทั้ง ลาคัส และ ซุนนั้นใช้เวลาไม่นานในการเข้าใจ และสามารถทำลายผลึกลง ทั้ง 2ผ่านการทดสอบพลังกายนั้นอย่างไม่ยากเย็น ตราประทับถูกปั้มลงบนกระดาษหนังแกะของทั้ง 2 ขาดเพียง 1ตราเท่านั้น การประลองที่เสาทิศตะวันตก จะเป็นตัวตัดสินว่าใครจะได้เข้าไปยัง สถาบันหรือไม่
ประชาชนเริ่มเดินทางไปยังที่ทดสอบสุดท้าย เพราะที่นี้ตือศูนย์รวมความตื่นเต้น จากผู้เข้าทดสอบทุกคน
…………………………………………………………………………………………………………………………..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ