LacuXs: Academy of Light

-

เขียนโดย VonDerVisE

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.05 น.

  8 ตอน
  1 วิจารณ์
  4,713 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 14.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) อัจฉริยะในรอบ 500ปี?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากจบการประลองอันดุเดือดนั้นทำให้ผู้คนโดยรอบต่าง รู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ ผู้ชมต่างเปล่งเสียงกึกก้องรอการแข่งขันของคู่ต่อไปอย่างจดจ่อ

     “ฮาๆ” เสียงหัวเราะอันดังสนั่นในห้องที่พักของพวกขุนนาง

 “ข้าบอกท่านแล้วใช้ไหมท่านซิลเว้อ ให้ลงข้างเจ้าอมนุษย์ นั้น”

 “แหมๆ มันก็ไม่ได้อู่ยแล้วไม่ใช่หรอ เด็กนั้นสู้ได้ดีทีเดียว ข้าละเสียดายที่เขาจะไม่ได้เข้ามายังสถาบัน” 

“แพ้ก็คือแพ้นะท่าน แบบนี้ข้าก็กินเต็มอีกแล้วนะสิ” บัททิวหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาซดก่อนจะหันไปมองเจ้าหญิง 

“เจ้าหญิงคงไม่ว่ากันนะ” องค์รักษ์เงี้ยวหูฟังเสียงกระซิบ ก่อนจะพูดว่า 

“ไม่เป็นไรครับ ท่านแค่อยากลงข้างผู้หญิงก็เท่านั้นเอง” บัททิวยิ้มก่อนจะกล่าว

 “ก็ไม่แปลก ตาไหนมีผู้หญิงท่านก็ลงฝั่งนั้นหมด ข้าชินแล้วละ เอาหละนี้คงเป็นการแข่งสุดท้ายแล้ว เรามาเพิ่มเงินเดิมพัน ที่ 10 เหรียญทองดำไหมละ”

  10 เหรียญทองดำนั้นถือเป็นค่าเงินที่สูงมาก ตามบัญญัติของกระทรวงการคลัง นั้น 10 เหรียญทองแดง จะมีค่าเป็น 1เหรียญเงิน 10เหรียญเงินจะมีค่าเป็น 1เหรียญทอง แต่ 100 เหรียญทองจะได้ แค่ 1เหรียญทองดำ และ 1000 เหรียญทองดำจะได้ 1เหรียญ เพชร

 “ไม่มีปัญหาหรอก ท่านบัททิว” ซิลเว้อยิ้ม องค์รักษ์ 

ของเจ้าหญิงกล่าว  “ทางนี้ก็เช่นกันขอรับ” 

 บัททิวยิ้มอย่างมีชัย  “ดีงั้นเราก็มาดูคู่สุดท้ายกันอย่าง สนุกสนานละกัน”

 “เดี่ยวก่อน” ทั้งห้องหันไปมองยังเจ้าของเสียง “ข้าเล่นด้วย” ลูลุชกล่าว

นั้นทำให้องค์รักษ์ส่วนจัวถึงกับอึ้งไม่ใช่น้อย นี้มันข่อนข้างจะขัดกับบุคลิก ของตัวลูลุชเป็นอย่างมาก

 “ฮืม เจ้ามีเงินพอที่จะจ่ายอย่างงั้นเรอะ.. หรือเจ้าคิดจะจ่ายด้วยร่างกายของเจ้าละ” บัททิวพูดอย่างเหยียดหยาม เลิชถึงกับกัดฟันด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่สามารถทำอะได้เมื่ออยู่ค่อหน้าขุนนางขั้นสูง 

“ไม่เอาน้า ท่านหญิงลูลุช อุส่าอยากเล่นด้วยทั้งที ก็ให้เขาเล่นเถอะ” 

“เหอะ เห็นแกท่านซิลเว้อละกันนะครั้งนี้ แต่ถ้าเจ้าแพ้ก็อย่าลืมจ่ายมาด้วยละ ท่านตกลงกับเรื้องนี้ไหมเจ้าหญิง” 

เจ้าหญิง ชูมือขึ้นมาพร้อมกับทำสัญลักษณ์ โอเค เป็นการตกลง

 “เอาละเจ้าจะเลือกใครท่านหญิงลูลุช” ซิลเว้อถาม

 “ข้าขอเลือกหมอนั้น” ลูลุชชี้ไปยังเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ในสนาม เลิชถึงกับไม่เชื้อในสายตาของตัวเองก่อนจะรีบปลี่เข้ามา 

“ท่านหญิงทำไมถึงไปเสี่ยงลงกับเจ้านั้นละครับ ท่านก็รู้ว่ามันไม่ไหวแน่นอน” ลูลุชมองไปยังองค์รักษ์ของเธอด้วยหางตา มันทำให้เขาถึงกับสะดุ้ง 

 “ขออภัยขอรับท่านหญิง” เลิชเดินถอยกลับไปอย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าที่เจือนๆ”น่าสนใจ ทำไมเจ้าถึงเลือกหมอนั้นละ หรือเพราะเจ้าชอบมันอย่างงั้นหรอ?” บัททิวท้าวคางก่อนจะยื่นมือชี้ไปยังอีกมุมของสนามแข่งขัน 

“เห็นคนนั้นไหม คนนั้นเป็นตัวแทนนักสู้จากเมืองของข้า...หมอนั้นนะยังไม่เคยแพ้ใครเลย..น่าจะเก่งสุดในรุ้นๆเดียวกันละมั้ง” สายตาอันเย็นชาเหลือบมองไปยัง สาวน้อยผมทอง 

“ข้าจะให้โอกาสอีกครั้ง เจ้าไม่เปลี่ยนนักสู้จริงๆใช่ไหม?”  

“ไม่” ลูลุชตอบอย่างมั่นใจ ซิลเว้อที่นั่งมองไปยังคนทั้ง สองกล่าว “งั้นข้าของลงฝั่งท่านหญิงลูลุชละกัน” บัททิวถึงกับหันมามองอย่างรวดเร็ว 

“ฮาๆ อะไรกันท่าน.. นี้ท่านชอบเสียเงินงั้นหรือ ก็รู้ว่ามันคงไม่ได้มากมายอะไร แต่การที่ข้าชนะท่านมาติดๆกัน มันเริ่มจะหน้าเบื่อ”

“งั้นข้าขอเพิ่มเดิมพันด้วยไอนี้” ซิลเว้อชูมือขึ้นมา มันทำให้เห็นกำไลข้อมือสีเงิน ที่มีอัญมณีขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง บัททิวมองก่อนที่ในตาจะเบิกโพลน

 “เอาจริงเรอะท่าน ฮาๆ ได้งั้นมันก็น่าสนุกมากๆ ถึงกับเอาเครื่องรางเวทมนต์ มาใช้เล่นแบบนี้..ไอนั้นคงมีค่า 100 เหรียญทองดำ ไม่สิ 150 เป็นอย่างน้อย” บัททิวมองไปยังกำไลสีเงินอันแวววาว

“ตกลงข้ารับ การเดิมพันนี้” เจ้าหญิงราวีเอร่าชูมือขึ้น ทหารองค์รักษ์กล่าว “รอบนี้ท่านหญิงขอ ผ่าน ท่านอยากดูความสนุกจากการเดิมพันของพวกท่านทั้ง 3”

 “ย่อมได้.. เซอเบีย รับบัญชาข้า” ชายร่างใหญ่เดินเข้ามายืนข้างหลัง บัททิว”จงไปบอกผู้ประกาศ ในศึกนี้ไครชนะ ข้าจะประทาน 50เหรียญทอง ให้เป็นรางวัล” เซอเบีย พยักหน้าก่อนออกไปจากห้อง

 “เอาละนี้คงกระตุ้นการแข่งขันให้น่าสนใจขึ้นมาได้..ว่างั้นไหมพวกท่านทั้งหลาย?” ซิลเว้อพยักหน้าเบาๆ ดวงตายังมองไปที่สนามแข่งขัน ลูลุชปิดตาของเธอและนั่งเงียบ ราวีเอร่ายังคงอยู่ในท่าทางเดิมไม่ขยับไปไหน แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้ได้ว่าทั้ง 3คนตั้งตารอให้การแข่งขันเริ่มขึ้นนั้นเอง

 

      ณ สนามประลองที่ 3รอบสุดท้าย ลาคัสยืน ยืดเส้นยืดสายอยู่ที่มุมของตัวเอง เขาเอนตัวไปมา ก่อนจะลุกนั่งๆ ผู้แข่งขันคนอื่นตางมองไปยังเด็กหนุ่มที่ดูอยู่ไม่สุข ชายในเสื้อสีดำลายสีทอง สะบัดแขนไปมา ก่อนจะรวมออร่าเข้าที่มือเป็นระยะๆ คนอื่นๆที่เหลือก็เตรียมตัวในแบบฉบับของตัวเอง ทันไดนั้นเสียงประกาศก็ดังขึ้น   

“สนามสอบที่ 3 รอบสุดท้ายของการแข่งกำลังจะเริ่มโปรดรอฟังเสียงระฆังจากเจ้าหน้าที่”

 “โอะ..เดี่ยวก่อนนะครับทุกคน เราได้รับข้อความมาจากองค์ชายบัททิว.. ท่านต้องการมอบเงินรางวัลให้กับผู้ชนะในศึกนี้ 50เหรียญทอง” ผู้คนต่างอึ้งกับเสียงประกาศ  

“50 เหรียญทองอย่างงั้นหรอ มันช่างเยอะอะไรขนาดนี้” 

ผู้คนต่างมองกันไปมาก่อนจะ เฮกันดังลั่น ศึกสุดท้ายที่ดุเดือดกำลังจะเริ่มต้น นักสู้ทั้ง 3 นั้นดูพร้อมที่จะรบเป็นอย่างมาก

“50 เหรียญทอง ท่านบัททิวมองการต่อสู้ของข้าอยู่ คงไม่ใช้การดีที่จะปล่อยให้ท่านรอ” ชายชุดดำคิดในใจก่อนจะหันไปมอง ผู้แข่งขันรอบๆ เขากลับไปสะดุดร่างของเด็กหนุ่ม ที่ยืนตัวค้าง พร้อมกับใบหน้าที่ตกใจเป็นอย่างมาก

 “5...50 เหรียญทองเรอะ” ลาคัสอุทานเสียงดัง ทำเอาคนที่อยู่รอบๆถึงกับกลั้นขำไม่อยู่

“ได้เลยๆ พร้อมแล้วเนี้ย” ลาคัสยืดเส้นยืดสายอีกรอบ” 

“ไอหนูแกคิดว่าจะชนะศึกนี้ได้งั้นหรอ” คนสูงอายุคนนึงที่อยู่ติดขอบสนามถามไปยังเด็กหนุ่ม “แน่นอนสิลุง” ลาคัสยิ้มให้กับลุงอย่างเป็นมิตร 

“ถ้างั้นข้าจะลงเดิมพันข้างเจ้า 3เหรียญทองกับ 5เหรียญเงิน”

 “เห้ยลุงลงอะไรเยอะแยะ ระวังจะหมดตัวเอานะ” ผู้คนต่างขำขัน คนสูงอายุมองไปยังเด็กที่อยู่ข้างหน้าอย่างช้าๆ การเดิมพันได้เกิดขึ้นทั่วทั้งสนาม

 ซุนที่พึ่งได้รับการรักษาค่อยๆเดินมายังลานประลองที่3 ตัวตลกนั้นยืนเฝ้ามองอยู่บนยอดของเสาร์ตะวันตก หญิงสาวที่พึ่งเสร็จจากการเก็บเอกสารค่อยๆเดินมาดูยังลานประลองสุดท้า ทุกๆคนต่างส่งสายตาไปยังการประลองพร้อมกับ เสียงกู่ร้องให้การแข่งขันเริ่มต้น ทหารองค์รักษ์คนนึงเดินขึ้นไปที่ระฆังอย่างช้าๆ ก่อนจะชูไม้ขึ้นเสียดฟ้า พร้อมกับตีมันอย่างดัง  เสียงระฆังดังขึ้นพร้อมกับเสียงเฮของเหล่าผู้ชม “เอาละ มาเริ่มกันเลยไหม?” ลาคัสก้าวเท้าขยับไปในทันที มันเป็นความเร็ว ที่น่าเหลือเชื่อ ร่างของเขาหายไปและโผล่ไปมา มันเร็วจนผู้เข้าแข่งขันคนอื่นต้องเริ่มเขยิบเพราะรู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังจะเข้ามา ชายในชุดดำคิด พรางมองไปยังเงาที่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว

“ไอเด็กนี้อันตรายมาก..นี้ไม่ใช้เวทย์เคลื่อนที่..เอ๊ะ”

 

 ทันใดนั้นทั้ง 2คนก็หลังชนกัน มันเป็นภาพที่หน้าเหลือเชื่อ  ทุกคนต่างอึ้งไปกับความจริงที่ปรากฏอยู่ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนโดนต้อนให้มาอยู่ตรงกลางโดยที่ไม่ทันเอะใจใดๆเลย “บ้าน่าเรื้องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง” ชายในเสื้อดำคิด แต่ยังไม่ทันให้หายตกใจเขาก็เเห็น เด็กหนุ่มมาหยุดอยู่ข้างหน้าพร้อมสะบัดแขนซ้ายเป็นวงก่อนจะก้มลง “วิชายุทธ์ หัตถวายุ” เขาปล่อยหมัดขวาใส่อากาศอย่างรุนแรง เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ คลื่นลมขนาดมหึมาพุ่งชนเข้ากับผู้เข้าแข่งขันทั้ง2 อย่างจังทั้ง2 ไม่มีโอกาสได้ตั้งท่ากันใดๆ ร่างของทั้ง3 ที่รับแรงกระแทกถึงกับกระเด็นออกจากลานประลองไปเกิน 2เมตรในทันที คลื่นลมที่ทะลุผ่านผู้เข้าแข่งขันยังคงพุ้งไปอย่างรวดเร็วจนไปชนกับเสาทิศใต้ทำให้เกิดเป็นลอยร้าวขนาดใหญ่ ตัวตลกที่ยืนอยู่บนยอด ยิ้มอย่างประทับใจ

 “ข้าว่าแล้ว” เขามองไปที่การแข่งขันอย่างตื่นตา ก่อนจะหายตัวไปจากยอดเสาในทันที ผู้คนต่างตกตะลึง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก “ฟู่” เด็กหนุ่มหยุดตั้งท่าก่อนจะปาดเหงื่อที่หน้าผากของตน

    

    เคล้ง เสียงแก้วไวน์ตกในห้องขุนนางนั้น ทำให้พื้นเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง “เห้ยๆ อะไรนะนั้น มันเกิดอะไรขึ้น” บัททิวยืนขึ้นมองด้วยสายตาที่ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

 “สุดยอดมาก” ซิลเว้อต่างอึ้งกับภาพเช่นกัน เลิชเองก็ตกใจเช่นกัน ลูลุชนั้นมองด้วยสายตาที่เป็นประกายสายตาของเธอจับจ้องไปที่เด็กที่เธอเจออย่างตาไม่กระพริบ คนๆนั้นทำให้เธอหลงไหลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอชำเลืองไปมองยัง องค์ชายผู้เย่อหยิ่ง มันเป็นภาพที่ตลกสำหรับเธอจนถึงกับหลุดขำออกมานิดหน่อย เสียงขำของเธอนั้นเรียกสติของ บัททิวก่อนจะหันมามองด้วยตาที่ดุดัน

“เจ้าโกงข้าอย่างงั้นเหรอ” บัททิวตะโกนใส่ลูลุชอย่างดัง แต่ลูลุชกลับนั่งเงียบสงบเฉกเช่นปรกติ

 “เอานาๆ” ซิลเว้อเข้ามาขัด มันทำให้บัททิวต้องถอนหายใจก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง 

“ต้องขออภัยท่านซิลเว้อรอบนี้ท่านชนะ.. เรื้องเงินเดี่ยวข้าจะให้องค์รักษ์นำไปมอบให้ท่านหลังจบพิธี” “ยินดีๆ” ซิลเว้อตอบพลางยิ้ม บัททิวยื่นมือไปเปิดกระเป๋ามิติในอากาศ ก่อนจะล้วงหยิบถุงเงินออกมา

” นี้คือส่วนของเจ้า “ เขาโยนถุงเงินไปหาลูลุช แต่เลิชก็รีบเข้ามาคว้าไว้ทัน  

“ไปกันเถอะ ถึงเวลาแล้ว” ซิลเว้อเอามือสองข้างดันตัวเองขึ้นมาจากเก้าอี้ เหล่าองค์รักษ์หน้าประตูเปิดประตูให้กับองค์ชาย ก่อนที่ทุกๆคนจะเริ่มลุกและออกจากห้องไปเช่นกัน ลูลุชมองไปยังสนามแข็ง เป็นรอบสุดท้ายก่อนจะเริ่มเดินตามคนอื่นๆ    ผู้เข้าแข่งขันทั้ง2ค่อยๆลุกขึ้นมาจากนอกเวที

 “นั้นมันแรงดันลมอย่างงั้นหรอ ไม่เคยเห็นวิชาแบบนี้เลย” ผู้คนต่างยังคงอึ้งกับภาพที่เห็น “เอ้าไหนละเงินรางวัล ของเรา” เด็กหนุ่มกล่าวไปยังผู้คุมก่อนจะแบมือออก เสียงนั้นจุดประกายให้ผู้คนเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ผู้คุมยื้น ถุงทอง ให้พร้อมกับปั้มตราสุดท้ายลงบนกระดาษหนังแกะ ลาคัสค่อยๆ ก้าวลงจากสนามประลอง

 “เด็กคนนี้ คือไครกัน” “อัจฉริยะในรอบ 500ปีเลยรึเปล่า” ผู้คนต่างพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลาคัสเดินไปช้าๆก่อนจะไปหยิบ อาวุธที่เขาฝากไว้ พร้อมกับสพายมันไว้ที่หลังก่อนจะเริ่มเดินไปยังฝูงชน ผู้หญิงที่จัดเอกสารยืนยิ้มมองดูอยู่ห่างๆ น้ำตาของเธอเอ่อนิดหน่อยที่รู้ว่า เขานั้นปลอดภัยจากการต่อสู้ “ลาคัสสสส” เสียงเรียกยาวของ ซุน ทำให้เขาต้องหันไปมอง ลาคัสยิ้มก่อนจะรีบวิ่งไปหาเด็กน้อยที่บาดเจ็บ 

“ยินดีด้วยที่ผ่านการทดสอบ แต่เรามาดูไม่ทันคนมันเยอะ แล้วเราก็ต้องไปรักษา มันเลยใช้เวลานานไปหน่อย อีกอย่างข้าก็ไม่ผ่านเข้ารอบด้วย” ลาคัสเอามือแตะไหล่ของเด็กน้อยเบาๆ

 “ไม่เป็นไร ปีหน้ายังไม่สาย เจ้าอายุยังน้อยนัก” พร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่น น่ำตาของซุนค่อยๆเอ่อและไหล ออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ถึงแม้เขาจะไม่ผ่านเข้ารอบไปข้างใน แต่ลาคัสนั้นรับรู้ได้ว่าในอนาคตพวกเขาจะต้องได้เจอกันอีกแน่นอน ราวกับเขาสัมผัสบางสิ่งได้จากเด็กคนนี้ การแข่งขันได้สิ้นสุดลงแล้วประชาชนเริ่มย้ายไปหน้าทางเข้าของสถาบันอย่างช้าๆ ผู้ที่ผ่านเข้ารอบค่อยๆ ทยอยไปยังหน้าประตูเหล็กของ light academy พวกเขาทั้ง 250คน ที่ผ่านเข้ารอบด้วยการประลองนั้น ยืนอยู่ข้างหน้าประตูที่เป็นดังความฝัน ลาคัสโบกมือลา ซุน ก่อนจะเดินไปรวมกับผู้เข้ารอบคนอื่นๆ  ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มคนนี้ หลังจากเห็นเรื่องเหลือเชื่อ ทุกคนคิดแบบเดียวกัน เด็กคนนี้คือใคร ทำไมมันถึงได้เก่งขนาดนี้ การสอบเข้ามาที่นี้รอบนี้อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดก็เป็นได้

 

    ตึง!! เสียงประตูค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นลานกว้างขนาดใหญ่ “ขอเชิญผู้สอบผ่านทุกคนเข้ามายังสถาบันได้” ทุกคน ค่อยๆเดินเข้าไปยัง ลานกว้าง ชาย ที่มีรอยสักที่แขน ยิ้มขณะเดินเข้าไป หญิงสาวที่ยิ้มพร้อมกับมองไปรอบ อมนุษย์ ที่มีผ้าพันแผลตามตัว และ เด็กหนุ่มที่สพายอาวุธประหลาดไว้ที่หลัง ผู้คนต่างส่งเสียงเชียร์ปิดท้ายก่อนที่ประตูเหล็กนั้นจะปิดลงอย่างช้าๆ ผู้คนมองไปยังแผ่นหลังของผู้ผ่านการทดสอบแต่ ซุนนั้นกลับไม่มองใครแล้วเดินออกไปจากฝูงชนด้วย ใบหน้าแห่งความหวัง

“ข้าจะกลับมา…แต่มีหวังโดนป๊าเม้งแตกหูชาแน่เลยเรา” ซุนเกาหัวของตน ก่อนจะหายวับไปกับสายลม   

ตึง!! เสียงประตูเหล็กนั้นปิดลงอย่างสนิท 

………………………………………………………………………………………………………………………….



 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา