Air Striker
-
เขียนโดย BrokenSpearZ
วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 03.47 น.
3 chapter
0 วิจารณ์
2,084 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2564 03.19 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ทดสอบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความไฟค่อยๆลุกแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมาก่อกวงไฟเพราะใกล้จะค่ำแล้ว เขาเร่งเร้าพลังในกายออกมาส่วนหนึ่งและปล่อยคลื่นลมออกเป็นเส้น ตัดต้นไม้ต้นหนึ่งล้มลง ความจริงท่านี้คือท่าที่เขาใช้กับหอกของเขา แต่ความจริงก็สามารถปล่อยออกมาเฉยๆทั้งอย่างนี้ได้เหมือนกัน
การฝึกปล่อยพลังๆอย่างนี้สามารถทำให้เราดึงพลังๆและปล่อยออกได้ง่ายขึ้น เหมือนดั่งท่อน้ำที่ไร้สิ่งใดๆอุดตันก็ยิ่งมีกำลังในการส่งน้ำมากขึ้น เมื่อเขาฝึกจนถึงประมาณหนึ่งเขาก็เปลี่ยนการฝึกการใช้พลังเป็นการใช้กระบวนท่าแทน
กระบวนท่าการใช้หอกของเขาได้รับการฝึกมาจากอาจารย์เมื่อครั้งยังอยู่ที่หมู่บ้าน การใช้หอกไม่เป็นที่นิยมมากนักในดินแดนนี้ ส่วนเหตุผลจริงๆเขาก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกัน
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงพลังกระแทกต้นไม้ แต่ละครั้งที่กระทบถูกก็จะได้ยินเสียงต้นไม้ถูกโค่นลง เป็นพลังที่เหลือเชื่อจริงๆ แม้แต่ผู้ใหญ่หากไม่ใช่ผู้มีพรสวรรค์ก็ไม่ใช่จะทำกันได้ง่ายๆ ชักอยากรู้อยากเห็นซะแล้ว
เขาตามไปยังที่ที่เสียงส่งผ่านมาเจอเข้าแสงกองไฟแสดงว่าใกล้พบแล้ว เขาแอบมองผ่านพุ้มไม้พบชายคนหนึ่งรูปร่างกำยำมองด้วยตาเปล่าก็เห็นได้ชัดว่าตัวสูงกว่าเขามาก
เขาหันมาทางนี้ ดูเหมือนว่าจะตั้งท่าเตรียมยิงพลังมาทางนี้ ยังไม่ทันจะได้คิดอะไร เขาก็ยิงมาเรียบร้อยแล้ว จะถอยก็คงหลบแรงระเบิดไม่ได้ เหมาตั้งท่าป้องกันการโจมตีระยะไกลควงหอกของเขาด้วยความรวดเร็วจนเหมือนดั่งโล่ ม่านพลังรอบๆอาวุธก็หมุนตามความเร็วหอก
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมม!
เกิดเสียงปะทะดังสนั่น เหมายังคงยืนหยัดเหมือนเดิม แต่ที่ต่างไปคือเขาไม่ได้อยู่ที่เดิม รอยเท้าขูดเป็นทางประมาณ 6 เมตร แขนเขาชาทั้ง 2 ข้าง นี่เหลือเชื่อด้วยซ้ำว่ายังรอดได้ครบ 32
"เป็นอะไรรึเปล่า" ชายร่างสูงใหญ่รีบวิ่งมาหา
"ยังหายใจอยู่"
"ตอบงี้น่าโดนอีกสักดอกจริง"
"แขนชาเลยล่ะ ถ้ากันไม่ทันคงได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกแน่ๆ"
"ยังไงก็เถอะ ฉันขอโทษจริงๆ ขอโทษจากใจ นี่มันอันตรายมาก ฉันอาจจะฆ่าคนไปแล้วถ้านายกันมันไม่ได้"
"ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ช่างมันเถอะพี่ชาย"
"พี่ชายเหรอ ความจริงฉันอายุ 16 เอง"
"เล่นมุขอะไรเนี่ย"
"จริงๆนะ อย่ามาหาว่าฉันแก่ได้ไหม"
สีหน้าเริ่มจริงจังของเขาทำให้เหมาเชื่อ
"เอาเถอะ ความจริงฉันก็ชินแล้วล่ะนะ มานั่งลงเถอะ"
บรรยากาศอบอุ่นพิกล เหมานั่งลงข้างกับชายหนุ่มร่างยักษ์
"เพิ่งเข้าเมืองมางั้นสินะ"
"ก็ใช่ มีอะไรรึ"
"เปล่าหรอก ดูจากกล้ามแขนแสดงว่าฝึกทุกวัน ฉันมาฝึกที่นี่เกือบ 1 อาทิตย์แล้วล่ะ"
"เป็นผู้เข้าทดสอบเหมือนกันสินะ"
พวกเขาคุยเรื่องสัพเพเหระต่างๆระหว่างที่พักการฝึก ตอนนี้ก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว หอพักจะปิดไม่ให้คนเข้า 4 ทุ่มพวกเขาควรจะกลับกันได้แล้ว
"เรามาลองประลองกันหน่อยไหม"
หนุ่มร่างยักษ์ท้าประลองเหมาระหว่างที่ทั้ง 2 กำลังเตรียมกลับหอ
"ทักษะการใช้พลังของนายน่ะเก่งกว่าฉันเยอะ จะให้ประลองกันมันก็ได้อยู่หรอก แต่จะให้ชนะคงน่าจะกลับไปหอไม่ทัน"
"ฉันไม่เก่งขนาดนั้นหรอกน่า"
นี่เขาพูดจริงหรือโกหก เหมาก็ไม่อาจรู้ได้ แต่วัดจากการใช้พลังแล้วเหมาเทียบไม่ติดเลย หากจะปล่อยกระสุนพลังกระทบต้นไม้หักได้ในระยะ 10 เมตร เหมารู้ตัวดีว่าไม่อาจทำได้
"เอาเป็นว่าพวกเรา 2 คนเก็บแรงไว้พรุ่งนี้เถอะ"
"นี่ฉันพูดจริงนะ แต่ก็จริงนะ พรุ่งนี้หมดแรงข้าวต้มมาคงได้อันดับห้องท้ายๆแน่"
พูดแบบนี้เหมาเริ่มคิดคงจะล้อเล่นจริงๆนั้นแหละ หลังจากที่เข้ามาในเมือง หนุ่มร่างยักษ์ขอแยกตัวไปหาอะไรลงท้อง ส่วนเหมาก็ตรงเข้าหอทันที
รุ่งเช้าที่ฝนตก เหมาตื่นตามกิจวัตรประจำวัน โดยปกติเขาต้องฝึกเช้าแต่สำหรับวันนี้คงจะต้องยกเลิกไป มีเสียงเคาะประตูไม่ใช่ใครที่ไหน เคนนั้นเอง
"โย่! เมื่อคืนหายไปไหนน่ะ"
"ฝึกซ้อมตามปกตินั้นแหละ ฉันก็ฝึกตลอด ทำไมนายถึงไม่เห็นระหว่างที่เราเดินทาง"
"อ่ะ งั้นเหรอ แหะๆ โทษทีนะ"
"ว่าแต่บิงบิงที่นายเห็นน่ะมันเป็นยังไง มั่นใจนะว่าไม่เข้าใจผิด"
"ก็คนพวกนั้นเรียกแม่สาวด้วยชื่อนั้นนี่ สีผมฟ้าๆคล้ายๆกันด้วย"
"ผมฟ้าด้วยเหรอ"
"ใช่! ก็แปลกอยู่หรอก ฉันคิดว่าแถวนี้น่าจะเป็นแถบเอเชียเหมือนบ้านฉันอีก"
เคนมักพูดด้วยคำศัพท์แปลกๆที่ทำให้คนรอบข้างสับสนอยู่เรื่อย เหมาไม่เข้าใจเลยว่าเคนพูดถึงอะไร
"พวกผมฟ้าส่วนใหญ่เป็นพวกตระกูลธันเดอร์ไฮด์"
"แล้วมันต่างกับปุถุชนคนธรรมดายังไงล่ะเนี่ย"
"ส่วนใหญ่ก็เก่งกว่าคนปกติล่ะมั้ง"
"ให้ตายเหอะ เกิดใหม่ทั้งทีพระเจ้าจะไม่ให้ฉันสุขสบายเลยรึไง"
ความจริงเหมาก็ชินแล้วกับการพูดอะไรแปลกๆของเคน เขาจึงไม่ถามให้มากความเพราะจะกี่ครั้งเคยก็เลี่ยงที่จะตอบ พอไม่มีเรื่องคุยแล้วพวกเขาจึงตัดสินใจแยกย้ายไปหาอะไรกิน
ก่อน 10 โมงผู้เข้าทดสอบทุกคนต้องพร้อมที่จะเข้ารับการทดสอบแล้ว ผู้ทดสอบทุกคนจะต้องเปลี่ยนชุดหนังหมูป่าและอาวุธที่ใช้ได้จะมีวัสดุประกอบแค่ ไม้,เหล็ก และแร่พินเท่านั้น
เหมาเจอคาเรนโดยบังเอิญแต่ก็ไม่ได้ไปทัก เพราะดูเธอจะมีความสุขมากในการเลือกกินอาหารต่างๆและคุยกับเพื่อนผู้หญิง
10 นาทีก่อนถึงเวลาทดสอบ ชายร่างยักษ์กำลังเปลี่ยนยูนิฟอร์มเป็นแบบที่โรงเรียนกำหนดไว้ เขายังคงคิดถึงหนุ่มผมหงอกที่รับการโจมตีนั้นได้ มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ถึงจะไม่ได้เป็นพลังทั้งหมดที่เขามี แต่ก็ถือว่ามีกำลังทำลายที่สูงกว่าคนทั่วไป เป็นผลมาจากสาปนรกที่เขามี
สาปนรกคือการที่คนคนหนึ่งได้รับความสามารถในด้านใดด้านหนึ่งที่สูงกว่าพรสวรรค์ตามปกติ แต่ต้องเสียความสามารถในด้านใดด้านหนึ่งไป
มีเสียงเรียกให้ไปรวมกันที่ลานฝึกซ้อม การทดสอบแรกคือวัดพลังในการยกวัตถุสี่เหลี่ยม เขามองหาเหมาเพราะอยากรู้ว่าเขามีพลังอากาศบริสุทธิ์มากเท่าไหร่
มีทั้งคนที่ทำได้อย่างดีเยี่ยม พอใช้หรือแม้แต่ไม่ผ่านเกณฑ์
"39 อนุชัย ศรีไชย"
หนุ่มร่างยักษ์ก้าวออกมาประจำจุดที่กำหนด ความสูงใหญ่ของเขาทำให้ไม่อยากเชื่อว่าจะมีอายุแค่ 17 ปี เขาชูมือไปที่วัตถุทรงสี่เหลี่ยมปล่อยพลังยกสี่เหลี่ยมนั้นพุ่งขึ้นฟ้าสูงลิ่ว
ผู้คนทั้งหลายต่างตกตะลึงพลังของหนุ่มนั้นสูงส่งจริงๆ ผู้ทดสอบทั้งหลายต่างสำนึกตนว่าไม่อาจเทียบได้
"จะมาเกิดใหม่ทำไมถ้าแค่คนทั่วไปก็เก่งกว่าฉันเนี้ย"
เสียงโวยวายที่คุ้นเคยดังจากด้านหลัง เคนรู้สึกแย่พลังของเขาทำได้ดีก็จริงแต่ก็ไม่เทียบเท่าหนุ่มร่างยักษ์คนนั้นได้
"โวยวายอะไร น่ารำคาญจริง เคน"
เสียงผู้หญิงดังขึ้นจากด้านหลัง เคนหันไปมอง
"คาเรนจัง เธอไม่เข้าใจหรอกว่าตัวเอกที่ไร้พลังมันแย่แค่ไหน"
"ชอบบ่นอะไรไร้สาระ อยากเก่งก็ฝึกสิยะ อย่ามัวแต่พึ่งพรสวรรค์"
"ก็มัน..."
"ก็อะไรอีก ความจริงนายก็ใช้ได้เลยนะ พลังมากกว่าคนทั่วๆไปแล้ว อย่างน้อยก็เยอะกว่าฉันหน่อยนึง"
"อากาศบริสุทธิ์ไม่ใช่แค่พลังเดียวที่ทำให้นายแข็งแกร่งนะ"
เสียงผู้ชายเรียบๆพูดออกมาข้างๆ เหมานั้นเอง
"นายก็อีกคนที่พลังเยอะกว่าฉัน ไม่ต้องมาพูดเลย เหมาคุง"
ความจริงแล้วก็ไม่ต่างกันมากนัก แต่ก็ทำให้เคนรู้สึกแย่อยู่ดี
"เจอซักที"
ชายร่างยักษ์เดินตรงมาที่เหมา
"ฉันว่าเราคุยกันตั้งเยอะ น่าจะรู้จักชื่อกันได้แล้วนะ ฉัน เหมา"
"อ่ะ นั่นสินะ ฉัน อนุชัย แต่เรียกว่า ทอย ก็ได้นะ ยินดีที่รู้จัก"
"ว่าแต่ขอถามหน่อยได้ไหม ชื่อเล่นกับชื่อจริงทำไมต่างกันจัง อ่อ ส่วนฉันชื่อ อาตาริ เคน เรียกเคนเฉยๆก็ได้นะ"
เคนแทรกการสนทนาของทั้งสอง
"นั้นเป็นวิธีตั้งชื่อของบ้านเกิดฉันน่ะ ชื่อต้นยาวๆ นามสกุลและชื่อสั้นๆไว้เรียก ยินดีที่ได้รู้จักนะ เคน"
ส่วนคาเรนไม่ได้ทำความรู้จักกับหนุ่มร่างยักษ์ หลังจบเธอก็กลับไปหาเพื่อนของเธอที่กำลังจะเข้าทดสอบ
"55 ลูมิไร ซาน บิงบิง"
"ห๊ะ.. "
เหมาเหมือนได้ยินชื่อของคนที่เขากำลังตามหา แต่บิงบิงที่เขารู้จักไม่น่าจะมีชื่อเต็มที่อลังการงานสร้างเช่นนี้
"ยัยนั่นไง ใช่ที่นายหารึเปล่า"
เหมาหันไปมองคนที่กำลังเข้าการทดสอบอยู่ ใช่จริงๆบิงบิงที่เขาคุ้นเคย
"แล้วไมยัยคาเรนดูจะสนิทจัง ยัยนั่นก็รู้ไม่ใช่เหรอว่านายหาคนชื่อบิงบิงอยู่"
"แต่เหมือนฉันไม่ได้บอกรูปร่างหน้าตาให้เธอฟังน่ะ"
เสียงตกตะลึงดังไปทั่ว บิงบิงยกได้สูงมากถึงจะไม่เท่ากับทอยแต่ก็ใกล้เคียงกันมาก เสียงตกตะลึงของผู้คนดังกึกกอง ปีนี้มากไปด้วยเด็กมากพรสวรรค์จริงๆ
"สมแล้วที่มีสายเลือดของท่านผู้นั้น แต่ก็ยังน่าผิดหวังที่ยังแพ้เจ้าหนุ่มนั้น"
ชายผมสีฟ้าที่แต่งตัวดูมีภูมิฐานจนสามารถสังเกตได้แต่ไกลกล่าวขึ้น
"จากความเห็นของผม เด็กคนนั้นสุดยอดเกินไปมากกว่าครับ"
ชายผู้ติดตามตอบกลับ
"ดูเหมือนพลังพวกนั้นไม่ได้มาจากสายเลือดของเขา"
"พรสวรรค์ขนานแท้ไม่ก็สาปนรกสินะ"
หลังจากทดสอบยกก้อนสี่เหลี่ยมเสร็จ ก็จะเริ่มการทดสอบเกี่ยวกับความยาวนานในการใช้พลัง มันควรจะเป็นอย่างนั้นแต่
"น่าเบื่อจริงๆเลยน่า ปีนี้เอาเป็นล่าหมูป่าเลยแล้วกัน ไม่ต้องทดสอบอะไรให้มากความแล้ว"
ชายผู้มีหมวกทรงสูงผมราวสลวยประกายสีทองพูดลอยๆออกมา
"ปีที่แล้วท่านก็เป็นการทดสอบตามใจ ปีนี้ก็ด้วยเหรอครับ"
"มีอำนาจก็ต้องใช้สิ คนที่มีพลังแต่ไม่ใช้มันคือคนโง่นะ"
"แต่ว่าพวกเด็กที่อุตส่าห์เตรียมฝึกฝนคามบททดสอบล่ะท่าน"
"ฝึกพลังไว้เพื่อปกป้องตนเองและการต่อสู้ ไม่ฝึกแล้วเก็บไว้และใช้ชีวิตธรรมดาซักหน่อย แค่ล้มหมูป่าเอง"
"ถึงเป็นผู้ฝึกพลังแต่อย่างกระผมตอนหนุ่มก็ถือว่าเหนื่อยเลยครั้งเมื่อต้องล้มหมูป่าตัวแรก"
"นั้นไงล่ะเหตุผล ปีศาจมากมายถ้าไม่เคยลองสู้ดูฝึกพลังมาจะมีประโยชน์อะไร จริงไหม"
"ก็สุดแท้แต่ท่านเถอะ"
เสียงประกาศดังออกมา มีการเปลี่ยนการทดสอบเป็นการล่าหมูป่าแทน เสียงโอดโอยของผู้ทดสอบดังระงม
"ฮ่าฮ่า อะไรกันแค่หมูป่าเองงั้นเหรอ จะง่ายไปไหม"
เสียงอวดดีนี้ไม่ใช่ใคร เคนนั้นเอง
"งั้นนายก็จัดการมันง่ายๆเลยงั้นสิ"
เหมาถาม ในหัวเขากำลังพิจารณาความเก่งของเคนตามช่วงเวลาที่เดินทางด้วยกัน
"อะไรกันก็แค่หมูป่าไม่ใช่เหรอ อู๊ด อู๊ด วิ่งไปมาให้ฉันฆ่าเล่นเท่านั่นล่ะ
"จะรอดูละกัน"
เหมาตอบสั้นๆ จากคำพูดของเคน เขาคงไม่ตำเป็นต้องอธิบายอะไร
ณ ลานทดสอบ เสียงกรีดร้องดังที่สุดเท่าที่ชีวิตของใครสักคนจะเคยได้ยิน ชายผู้หนึ่งกำลังวิ่งสุดชีวิตหนีสิ่งมีชีวิตสูงเกือบ 3 เมตรวิ่งไล่ชนเขาอยู่
"ว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้"
เหมาพูดกับตัวเอง ตอนนี้เขาต้องช่วยไอ้ชายไร้ประโยชน์นั้นสักหน่อย เห็นแก่ที่เคยร่วมเดินทางมา จะปล่อยให้โดนหมูป่าเหยียบตายมันออกจะรู้สึกผิดมโนธรรมหน่อยๆ
"ตัดเขี้ยวมัน พลังที่มันเก็บสะสมอยู่ในเขี้ยว"
เหมาตะโกน
"ฉันไม่เยี่ยวแตกหรอกเว้ย!"
"เขี้ยว!!!"
เหมาชี้ไปที่เขี้ยวตัวเอง
"จะมายิงฟันล้อกันทำไมวะ"
"เขี้ยว! ไอ้โง่!!!"
ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเหมือนเคนจะรู้สักทีว่าเหมาพยายามจะช่วย เคนรวบรวมความกล้าผนึกพลังที่ดาบคาตานะฟันปาดเขี้ยวทั้งสองของหมูป่า ทันใดนั้นความเร็วจองหมูป่าก็ลดลงไปทันที
"อย่างนี้นี่เอง แม้แต่พวกสัตว์ก็ใช้พลังได้เหมือนกันงั้นสินะ เราคงเอาตรรกะของโลกเดิมมาใช้กับโลกนี้ไม่ได้" เคนพูดกับตัวเอง
การโจมตีของเขาเฉือนเนื้อหมูป่าได้ไม่ค่อยมากนัก แต่ก็ทำให้หมูป่าอ่อนแอลง ความจริงแล้วหมูป่ามีพลังมากกว่าเขามากนัก แต่เพราะการโจมตีกระทันหันของเคน หมูป่าที่เสริมพลังด้านความเร็วจึงไม่ทันได้เสริมพลังปกป้องเขี้ยวของตน ยามนี้อวัยวะที่กักเก็บพลังอากาศบริสุทธิ์เสียไปทำให้มันไม่สามารถใช้พลังได้เยอะตามเดิม
ในที่สุดเคนก็ล้มหมูป่าลงได้สำเร็จ ด้วยการเฉือนหมูป่าทีละนิดๆ เขากลับมาจากลานด้วยความเหมือยล้าแต่ก็ดีใจเพราะเขาเป็นคนแรกจัดการหมูป่าได้สำเร็จ
"นี่สิการเริ่มต้นของพระเอกที่แท้จริง ในที่สุดก็จะได้ใช้ชีวิตในโรงเรียนเวทย์มนต์แล้ว"
"บ่นอะไรของนาย อยากรู้จังถ้าฉันไม่บอกสภาพจะเป็นยังไง"
"ขอบใจมากนะเพื่อนเลิฟ จุ๊บๆ"
"ขยะแขยง ไปไกลๆเลย"
เหมาผลักหัวเคนออกห่างจากตัวเขา เสียงโห่ร้องทั่วสนามดังขึ้น บิงบิงยืนอยู่ในสนามพร้อมกับซากน้ำแข็งประหลาด นั้นคือซากหมูป่าที่ถูกแช่แข็งและถูกทำให้แตก
"แม่สาวนั้นสุดจริงๆ นั้นใช่คนที่นายรู้จักแน่เหรอเหมา"
"ก่อนที่เราจะออกจากหมู่บ้านก็มีเทศกาลล่าหมูป่า บิงบิงก็ล้มได้แต่ไม่เด็ดขาดเท่านี้"
"หรือว่าเธอได้พลังอะไรซักอย่างจากพวกผู้ดีๆพวกนั้นสินะ ต้องเป็นพลังชั่วร้ายแน่ๆ ถึงเวลาของพระเอกอย่างฉันที่จะต้องจัดการเรื่องนี้แล้วล่ะ"
เคนชููมัดแสดงความมั่นใจหนึ่งทีและจะเดินไปหาชายที่เคยคุยกับบืงบิงแต่เหมาดึงคอเสื้อรั้งไว้
"เลิกเพ้อเจ้อแล้วไปถามเธอตรงๆง่ายกว่า"
ในที่สุดเสียงประกาศก็เรียกผู้ทดสอบคนสุดท้าย เหมานั้นเอง อาวุธที่เขาหยิบมาด้วยคือหอกยาว 2 เมตรเป็นที่สะดุดตาอย่างยิ่งเพราะคนระแวกนี้ไม่นิยมใช้กัน
ก่อนหน้านี้เมื่อหลายสิบปีก่อนมียอดคนผู้หนึ่งถูกขนานนามว่าเป็นมารหอกนิลกาฬปกึรองพื้นที่บริเวณนี้ เนื่องจากห่างไกลจากพวกแปดตระกูลและผู้ปกครองบริเวณรอบๆก็ไม่สามารถชนะเขาได้ ผู้คนในแผ่นดินนี้จึงถูกกดขี่ เครื่องหมายแห่งความเจ็บช้ำคือหอกที่เขาพิชิตแผ่นดินผืนนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ในที่นี้จึงเลี่ยงที่จะใช้มันเป็นอาวุธประจำกาย
เหมาตั้งท่าตามปกติ ทันทีที่หมูป่าถูกปล่อยออกมามันก็วิ่งตรงมาทางเหมา เขารีดเร้นพลังเพื่อเสริมสมรรถภาพทางกายพุ่งตรงเข้าหาหมูป่า เขารู้จักการล่าหม๔ป่าเป็นอย่างดีเนื่องจากหมู่บ้านที่เขาจากมาก็มีเทศกาลล่าหมูป่าทุกปี และเหมาก็เป็นเพียงไม่กี่คนที่สามารถล่ามันได้ด้วยตัวคนเดียว
ปลายหอกนั้นสั้นเกินที่จะตัดขาหมูป่า แต่นั้นก็ไม่มีปัญหาสำหรับเหมา เขาถ่ายพลังใส่หอกและทำให้ทั้งด้ามคมด้วยอากาศบริสุทธิ์ของเขา ถึงจะดูรุนแรงแต่เขาก็ตัดได้สวยงามพร้อมนำไปประกอบอาหาร หมูป่าที่เสีนหลักพุ่งชนกำแพงอย่างจัง เหมารีบไปเผด็จศึกเพื่อไม่ให้มันทรมานด้วยการจิ้มหอกตัดกระดูกคอ
ผู้เข้าทดสอบที่ผ่านการทดสอบถ้าไม่ใช่มีพลังมากพอในการฆ่าหมูป่าภายในทีเดียว ก็มักจะเป็นพวกต้องอาศัยจังหวะจัดการกับเขี้ยวหมูป่าและใช้เวลาอีกซักพักในการสู้กับหมูป่าจนมันหมดแรง แต่การต่อสู้ของเหมาต่างออกไป เขาจัดการหมูป่าด้วยประสบการณ์และทักษะในการแปลงพลังเพื่อตัดผ่านเกราะม่านพลังของหมูป่า
เมื่อถึงตอนเย็นทางโรงเรียนก็ได้มีงานฉลอง เหมาได้รับเงินจำนวน 100 เหรียญทองเป็นรางวัลสำหรับการแร่หมูป่าอย่างถูกวิธี รางวัลแปลกๆถูกให้กับนักเรียนโดยที่ผู้อำนวยการหมวกทรงสูงนั้นให้กับมือ เคนได้รับรางวัล 10 เหรียญทองในฐานะคนที่จัดการหมูป่าได้ทุเรศที่สุด
ถ้านับคนที่สอบผ่าน เคนใช้เวลานานที่สุดในการวิ่งตะโกนแหกปากอย่างน่าอนาถและกว่าจะจัดการหมูป่าได้ก็ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆ นี้ต้องนับถือความอึดถึกทนของเคนจริงๆ คนที่ไม่ผ่านส่วนใหญ่แค่ 10 นาทีก็รู้ผลแล้ว
ทอยก็ได้กับเขาเหมือนกัน 50 เหรียญทองในฐานะที่ฆ่าได้สยองที่สุด เขาระเบิดหมูป่าจนเหลือแต่กองเลือด คนส่วนใหญ่ที่ไม่เคยฆ่าสัตว์ต่างอ้วกออกมากันหมดรวมถึงเคนด้วย
เหมาจะหาเวลาช่วงนี้ไปคุยกับบิงบิง แต่เขาก็ไม่เห็นเธออีกเลยหลังจากการทดสอบ ผู้ที่จัดการหมูป่าได้การันตีจากทางโรงเรียนแล้วว่าผ่านการประเมินแค่ยังไม่บอกว่าจะได้อยู่ห้องใด
การฝึกปล่อยพลังๆอย่างนี้สามารถทำให้เราดึงพลังๆและปล่อยออกได้ง่ายขึ้น เหมือนดั่งท่อน้ำที่ไร้สิ่งใดๆอุดตันก็ยิ่งมีกำลังในการส่งน้ำมากขึ้น เมื่อเขาฝึกจนถึงประมาณหนึ่งเขาก็เปลี่ยนการฝึกการใช้พลังเป็นการใช้กระบวนท่าแทน
กระบวนท่าการใช้หอกของเขาได้รับการฝึกมาจากอาจารย์เมื่อครั้งยังอยู่ที่หมู่บ้าน การใช้หอกไม่เป็นที่นิยมมากนักในดินแดนนี้ ส่วนเหตุผลจริงๆเขาก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกัน
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงพลังกระแทกต้นไม้ แต่ละครั้งที่กระทบถูกก็จะได้ยินเสียงต้นไม้ถูกโค่นลง เป็นพลังที่เหลือเชื่อจริงๆ แม้แต่ผู้ใหญ่หากไม่ใช่ผู้มีพรสวรรค์ก็ไม่ใช่จะทำกันได้ง่ายๆ ชักอยากรู้อยากเห็นซะแล้ว
เขาตามไปยังที่ที่เสียงส่งผ่านมาเจอเข้าแสงกองไฟแสดงว่าใกล้พบแล้ว เขาแอบมองผ่านพุ้มไม้พบชายคนหนึ่งรูปร่างกำยำมองด้วยตาเปล่าก็เห็นได้ชัดว่าตัวสูงกว่าเขามาก
เขาหันมาทางนี้ ดูเหมือนว่าจะตั้งท่าเตรียมยิงพลังมาทางนี้ ยังไม่ทันจะได้คิดอะไร เขาก็ยิงมาเรียบร้อยแล้ว จะถอยก็คงหลบแรงระเบิดไม่ได้ เหมาตั้งท่าป้องกันการโจมตีระยะไกลควงหอกของเขาด้วยความรวดเร็วจนเหมือนดั่งโล่ ม่านพลังรอบๆอาวุธก็หมุนตามความเร็วหอก
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมม!
เกิดเสียงปะทะดังสนั่น เหมายังคงยืนหยัดเหมือนเดิม แต่ที่ต่างไปคือเขาไม่ได้อยู่ที่เดิม รอยเท้าขูดเป็นทางประมาณ 6 เมตร แขนเขาชาทั้ง 2 ข้าง นี่เหลือเชื่อด้วยซ้ำว่ายังรอดได้ครบ 32
"เป็นอะไรรึเปล่า" ชายร่างสูงใหญ่รีบวิ่งมาหา
"ยังหายใจอยู่"
"ตอบงี้น่าโดนอีกสักดอกจริง"
"แขนชาเลยล่ะ ถ้ากันไม่ทันคงได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกแน่ๆ"
"ยังไงก็เถอะ ฉันขอโทษจริงๆ ขอโทษจากใจ นี่มันอันตรายมาก ฉันอาจจะฆ่าคนไปแล้วถ้านายกันมันไม่ได้"
"ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ช่างมันเถอะพี่ชาย"
"พี่ชายเหรอ ความจริงฉันอายุ 16 เอง"
"เล่นมุขอะไรเนี่ย"
"จริงๆนะ อย่ามาหาว่าฉันแก่ได้ไหม"
สีหน้าเริ่มจริงจังของเขาทำให้เหมาเชื่อ
"เอาเถอะ ความจริงฉันก็ชินแล้วล่ะนะ มานั่งลงเถอะ"
บรรยากาศอบอุ่นพิกล เหมานั่งลงข้างกับชายหนุ่มร่างยักษ์
"เพิ่งเข้าเมืองมางั้นสินะ"
"ก็ใช่ มีอะไรรึ"
"เปล่าหรอก ดูจากกล้ามแขนแสดงว่าฝึกทุกวัน ฉันมาฝึกที่นี่เกือบ 1 อาทิตย์แล้วล่ะ"
"เป็นผู้เข้าทดสอบเหมือนกันสินะ"
พวกเขาคุยเรื่องสัพเพเหระต่างๆระหว่างที่พักการฝึก ตอนนี้ก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว หอพักจะปิดไม่ให้คนเข้า 4 ทุ่มพวกเขาควรจะกลับกันได้แล้ว
"เรามาลองประลองกันหน่อยไหม"
หนุ่มร่างยักษ์ท้าประลองเหมาระหว่างที่ทั้ง 2 กำลังเตรียมกลับหอ
"ทักษะการใช้พลังของนายน่ะเก่งกว่าฉันเยอะ จะให้ประลองกันมันก็ได้อยู่หรอก แต่จะให้ชนะคงน่าจะกลับไปหอไม่ทัน"
"ฉันไม่เก่งขนาดนั้นหรอกน่า"
นี่เขาพูดจริงหรือโกหก เหมาก็ไม่อาจรู้ได้ แต่วัดจากการใช้พลังแล้วเหมาเทียบไม่ติดเลย หากจะปล่อยกระสุนพลังกระทบต้นไม้หักได้ในระยะ 10 เมตร เหมารู้ตัวดีว่าไม่อาจทำได้
"เอาเป็นว่าพวกเรา 2 คนเก็บแรงไว้พรุ่งนี้เถอะ"
"นี่ฉันพูดจริงนะ แต่ก็จริงนะ พรุ่งนี้หมดแรงข้าวต้มมาคงได้อันดับห้องท้ายๆแน่"
พูดแบบนี้เหมาเริ่มคิดคงจะล้อเล่นจริงๆนั้นแหละ หลังจากที่เข้ามาในเมือง หนุ่มร่างยักษ์ขอแยกตัวไปหาอะไรลงท้อง ส่วนเหมาก็ตรงเข้าหอทันที
รุ่งเช้าที่ฝนตก เหมาตื่นตามกิจวัตรประจำวัน โดยปกติเขาต้องฝึกเช้าแต่สำหรับวันนี้คงจะต้องยกเลิกไป มีเสียงเคาะประตูไม่ใช่ใครที่ไหน เคนนั้นเอง
"โย่! เมื่อคืนหายไปไหนน่ะ"
"ฝึกซ้อมตามปกตินั้นแหละ ฉันก็ฝึกตลอด ทำไมนายถึงไม่เห็นระหว่างที่เราเดินทาง"
"อ่ะ งั้นเหรอ แหะๆ โทษทีนะ"
"ว่าแต่บิงบิงที่นายเห็นน่ะมันเป็นยังไง มั่นใจนะว่าไม่เข้าใจผิด"
"ก็คนพวกนั้นเรียกแม่สาวด้วยชื่อนั้นนี่ สีผมฟ้าๆคล้ายๆกันด้วย"
"ผมฟ้าด้วยเหรอ"
"ใช่! ก็แปลกอยู่หรอก ฉันคิดว่าแถวนี้น่าจะเป็นแถบเอเชียเหมือนบ้านฉันอีก"
เคนมักพูดด้วยคำศัพท์แปลกๆที่ทำให้คนรอบข้างสับสนอยู่เรื่อย เหมาไม่เข้าใจเลยว่าเคนพูดถึงอะไร
"พวกผมฟ้าส่วนใหญ่เป็นพวกตระกูลธันเดอร์ไฮด์"
"แล้วมันต่างกับปุถุชนคนธรรมดายังไงล่ะเนี่ย"
"ส่วนใหญ่ก็เก่งกว่าคนปกติล่ะมั้ง"
"ให้ตายเหอะ เกิดใหม่ทั้งทีพระเจ้าจะไม่ให้ฉันสุขสบายเลยรึไง"
ความจริงเหมาก็ชินแล้วกับการพูดอะไรแปลกๆของเคน เขาจึงไม่ถามให้มากความเพราะจะกี่ครั้งเคยก็เลี่ยงที่จะตอบ พอไม่มีเรื่องคุยแล้วพวกเขาจึงตัดสินใจแยกย้ายไปหาอะไรกิน
ก่อน 10 โมงผู้เข้าทดสอบทุกคนต้องพร้อมที่จะเข้ารับการทดสอบแล้ว ผู้ทดสอบทุกคนจะต้องเปลี่ยนชุดหนังหมูป่าและอาวุธที่ใช้ได้จะมีวัสดุประกอบแค่ ไม้,เหล็ก และแร่พินเท่านั้น
เหมาเจอคาเรนโดยบังเอิญแต่ก็ไม่ได้ไปทัก เพราะดูเธอจะมีความสุขมากในการเลือกกินอาหารต่างๆและคุยกับเพื่อนผู้หญิง
10 นาทีก่อนถึงเวลาทดสอบ ชายร่างยักษ์กำลังเปลี่ยนยูนิฟอร์มเป็นแบบที่โรงเรียนกำหนดไว้ เขายังคงคิดถึงหนุ่มผมหงอกที่รับการโจมตีนั้นได้ มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ถึงจะไม่ได้เป็นพลังทั้งหมดที่เขามี แต่ก็ถือว่ามีกำลังทำลายที่สูงกว่าคนทั่วไป เป็นผลมาจากสาปนรกที่เขามี
สาปนรกคือการที่คนคนหนึ่งได้รับความสามารถในด้านใดด้านหนึ่งที่สูงกว่าพรสวรรค์ตามปกติ แต่ต้องเสียความสามารถในด้านใดด้านหนึ่งไป
มีเสียงเรียกให้ไปรวมกันที่ลานฝึกซ้อม การทดสอบแรกคือวัดพลังในการยกวัตถุสี่เหลี่ยม เขามองหาเหมาเพราะอยากรู้ว่าเขามีพลังอากาศบริสุทธิ์มากเท่าไหร่
มีทั้งคนที่ทำได้อย่างดีเยี่ยม พอใช้หรือแม้แต่ไม่ผ่านเกณฑ์
"39 อนุชัย ศรีไชย"
หนุ่มร่างยักษ์ก้าวออกมาประจำจุดที่กำหนด ความสูงใหญ่ของเขาทำให้ไม่อยากเชื่อว่าจะมีอายุแค่ 17 ปี เขาชูมือไปที่วัตถุทรงสี่เหลี่ยมปล่อยพลังยกสี่เหลี่ยมนั้นพุ่งขึ้นฟ้าสูงลิ่ว
ผู้คนทั้งหลายต่างตกตะลึงพลังของหนุ่มนั้นสูงส่งจริงๆ ผู้ทดสอบทั้งหลายต่างสำนึกตนว่าไม่อาจเทียบได้
"จะมาเกิดใหม่ทำไมถ้าแค่คนทั่วไปก็เก่งกว่าฉันเนี้ย"
เสียงโวยวายที่คุ้นเคยดังจากด้านหลัง เคนรู้สึกแย่พลังของเขาทำได้ดีก็จริงแต่ก็ไม่เทียบเท่าหนุ่มร่างยักษ์คนนั้นได้
"โวยวายอะไร น่ารำคาญจริง เคน"
เสียงผู้หญิงดังขึ้นจากด้านหลัง เคนหันไปมอง
"คาเรนจัง เธอไม่เข้าใจหรอกว่าตัวเอกที่ไร้พลังมันแย่แค่ไหน"
"ชอบบ่นอะไรไร้สาระ อยากเก่งก็ฝึกสิยะ อย่ามัวแต่พึ่งพรสวรรค์"
"ก็มัน..."
"ก็อะไรอีก ความจริงนายก็ใช้ได้เลยนะ พลังมากกว่าคนทั่วๆไปแล้ว อย่างน้อยก็เยอะกว่าฉันหน่อยนึง"
"อากาศบริสุทธิ์ไม่ใช่แค่พลังเดียวที่ทำให้นายแข็งแกร่งนะ"
เสียงผู้ชายเรียบๆพูดออกมาข้างๆ เหมานั้นเอง
"นายก็อีกคนที่พลังเยอะกว่าฉัน ไม่ต้องมาพูดเลย เหมาคุง"
ความจริงแล้วก็ไม่ต่างกันมากนัก แต่ก็ทำให้เคนรู้สึกแย่อยู่ดี
"เจอซักที"
ชายร่างยักษ์เดินตรงมาที่เหมา
"ฉันว่าเราคุยกันตั้งเยอะ น่าจะรู้จักชื่อกันได้แล้วนะ ฉัน เหมา"
"อ่ะ นั่นสินะ ฉัน อนุชัย แต่เรียกว่า ทอย ก็ได้นะ ยินดีที่รู้จัก"
"ว่าแต่ขอถามหน่อยได้ไหม ชื่อเล่นกับชื่อจริงทำไมต่างกันจัง อ่อ ส่วนฉันชื่อ อาตาริ เคน เรียกเคนเฉยๆก็ได้นะ"
เคนแทรกการสนทนาของทั้งสอง
"นั้นเป็นวิธีตั้งชื่อของบ้านเกิดฉันน่ะ ชื่อต้นยาวๆ นามสกุลและชื่อสั้นๆไว้เรียก ยินดีที่ได้รู้จักนะ เคน"
ส่วนคาเรนไม่ได้ทำความรู้จักกับหนุ่มร่างยักษ์ หลังจบเธอก็กลับไปหาเพื่อนของเธอที่กำลังจะเข้าทดสอบ
"55 ลูมิไร ซาน บิงบิง"
"ห๊ะ.. "
เหมาเหมือนได้ยินชื่อของคนที่เขากำลังตามหา แต่บิงบิงที่เขารู้จักไม่น่าจะมีชื่อเต็มที่อลังการงานสร้างเช่นนี้
"ยัยนั่นไง ใช่ที่นายหารึเปล่า"
เหมาหันไปมองคนที่กำลังเข้าการทดสอบอยู่ ใช่จริงๆบิงบิงที่เขาคุ้นเคย
"แล้วไมยัยคาเรนดูจะสนิทจัง ยัยนั่นก็รู้ไม่ใช่เหรอว่านายหาคนชื่อบิงบิงอยู่"
"แต่เหมือนฉันไม่ได้บอกรูปร่างหน้าตาให้เธอฟังน่ะ"
เสียงตกตะลึงดังไปทั่ว บิงบิงยกได้สูงมากถึงจะไม่เท่ากับทอยแต่ก็ใกล้เคียงกันมาก เสียงตกตะลึงของผู้คนดังกึกกอง ปีนี้มากไปด้วยเด็กมากพรสวรรค์จริงๆ
"สมแล้วที่มีสายเลือดของท่านผู้นั้น แต่ก็ยังน่าผิดหวังที่ยังแพ้เจ้าหนุ่มนั้น"
ชายผมสีฟ้าที่แต่งตัวดูมีภูมิฐานจนสามารถสังเกตได้แต่ไกลกล่าวขึ้น
"จากความเห็นของผม เด็กคนนั้นสุดยอดเกินไปมากกว่าครับ"
ชายผู้ติดตามตอบกลับ
"ดูเหมือนพลังพวกนั้นไม่ได้มาจากสายเลือดของเขา"
"พรสวรรค์ขนานแท้ไม่ก็สาปนรกสินะ"
หลังจากทดสอบยกก้อนสี่เหลี่ยมเสร็จ ก็จะเริ่มการทดสอบเกี่ยวกับความยาวนานในการใช้พลัง มันควรจะเป็นอย่างนั้นแต่
"น่าเบื่อจริงๆเลยน่า ปีนี้เอาเป็นล่าหมูป่าเลยแล้วกัน ไม่ต้องทดสอบอะไรให้มากความแล้ว"
ชายผู้มีหมวกทรงสูงผมราวสลวยประกายสีทองพูดลอยๆออกมา
"ปีที่แล้วท่านก็เป็นการทดสอบตามใจ ปีนี้ก็ด้วยเหรอครับ"
"มีอำนาจก็ต้องใช้สิ คนที่มีพลังแต่ไม่ใช้มันคือคนโง่นะ"
"แต่ว่าพวกเด็กที่อุตส่าห์เตรียมฝึกฝนคามบททดสอบล่ะท่าน"
"ฝึกพลังไว้เพื่อปกป้องตนเองและการต่อสู้ ไม่ฝึกแล้วเก็บไว้และใช้ชีวิตธรรมดาซักหน่อย แค่ล้มหมูป่าเอง"
"ถึงเป็นผู้ฝึกพลังแต่อย่างกระผมตอนหนุ่มก็ถือว่าเหนื่อยเลยครั้งเมื่อต้องล้มหมูป่าตัวแรก"
"นั้นไงล่ะเหตุผล ปีศาจมากมายถ้าไม่เคยลองสู้ดูฝึกพลังมาจะมีประโยชน์อะไร จริงไหม"
"ก็สุดแท้แต่ท่านเถอะ"
เสียงประกาศดังออกมา มีการเปลี่ยนการทดสอบเป็นการล่าหมูป่าแทน เสียงโอดโอยของผู้ทดสอบดังระงม
"ฮ่าฮ่า อะไรกันแค่หมูป่าเองงั้นเหรอ จะง่ายไปไหม"
เสียงอวดดีนี้ไม่ใช่ใคร เคนนั้นเอง
"งั้นนายก็จัดการมันง่ายๆเลยงั้นสิ"
เหมาถาม ในหัวเขากำลังพิจารณาความเก่งของเคนตามช่วงเวลาที่เดินทางด้วยกัน
"อะไรกันก็แค่หมูป่าไม่ใช่เหรอ อู๊ด อู๊ด วิ่งไปมาให้ฉันฆ่าเล่นเท่านั่นล่ะ
"จะรอดูละกัน"
เหมาตอบสั้นๆ จากคำพูดของเคน เขาคงไม่ตำเป็นต้องอธิบายอะไร
ณ ลานทดสอบ เสียงกรีดร้องดังที่สุดเท่าที่ชีวิตของใครสักคนจะเคยได้ยิน ชายผู้หนึ่งกำลังวิ่งสุดชีวิตหนีสิ่งมีชีวิตสูงเกือบ 3 เมตรวิ่งไล่ชนเขาอยู่
"ว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้"
เหมาพูดกับตัวเอง ตอนนี้เขาต้องช่วยไอ้ชายไร้ประโยชน์นั้นสักหน่อย เห็นแก่ที่เคยร่วมเดินทางมา จะปล่อยให้โดนหมูป่าเหยียบตายมันออกจะรู้สึกผิดมโนธรรมหน่อยๆ
"ตัดเขี้ยวมัน พลังที่มันเก็บสะสมอยู่ในเขี้ยว"
เหมาตะโกน
"ฉันไม่เยี่ยวแตกหรอกเว้ย!"
"เขี้ยว!!!"
เหมาชี้ไปที่เขี้ยวตัวเอง
"จะมายิงฟันล้อกันทำไมวะ"
"เขี้ยว! ไอ้โง่!!!"
ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเหมือนเคนจะรู้สักทีว่าเหมาพยายามจะช่วย เคนรวบรวมความกล้าผนึกพลังที่ดาบคาตานะฟันปาดเขี้ยวทั้งสองของหมูป่า ทันใดนั้นความเร็วจองหมูป่าก็ลดลงไปทันที
"อย่างนี้นี่เอง แม้แต่พวกสัตว์ก็ใช้พลังได้เหมือนกันงั้นสินะ เราคงเอาตรรกะของโลกเดิมมาใช้กับโลกนี้ไม่ได้" เคนพูดกับตัวเอง
การโจมตีของเขาเฉือนเนื้อหมูป่าได้ไม่ค่อยมากนัก แต่ก็ทำให้หมูป่าอ่อนแอลง ความจริงแล้วหมูป่ามีพลังมากกว่าเขามากนัก แต่เพราะการโจมตีกระทันหันของเคน หมูป่าที่เสริมพลังด้านความเร็วจึงไม่ทันได้เสริมพลังปกป้องเขี้ยวของตน ยามนี้อวัยวะที่กักเก็บพลังอากาศบริสุทธิ์เสียไปทำให้มันไม่สามารถใช้พลังได้เยอะตามเดิม
ในที่สุดเคนก็ล้มหมูป่าลงได้สำเร็จ ด้วยการเฉือนหมูป่าทีละนิดๆ เขากลับมาจากลานด้วยความเหมือยล้าแต่ก็ดีใจเพราะเขาเป็นคนแรกจัดการหมูป่าได้สำเร็จ
"นี่สิการเริ่มต้นของพระเอกที่แท้จริง ในที่สุดก็จะได้ใช้ชีวิตในโรงเรียนเวทย์มนต์แล้ว"
"บ่นอะไรของนาย อยากรู้จังถ้าฉันไม่บอกสภาพจะเป็นยังไง"
"ขอบใจมากนะเพื่อนเลิฟ จุ๊บๆ"
"ขยะแขยง ไปไกลๆเลย"
เหมาผลักหัวเคนออกห่างจากตัวเขา เสียงโห่ร้องทั่วสนามดังขึ้น บิงบิงยืนอยู่ในสนามพร้อมกับซากน้ำแข็งประหลาด นั้นคือซากหมูป่าที่ถูกแช่แข็งและถูกทำให้แตก
"แม่สาวนั้นสุดจริงๆ นั้นใช่คนที่นายรู้จักแน่เหรอเหมา"
"ก่อนที่เราจะออกจากหมู่บ้านก็มีเทศกาลล่าหมูป่า บิงบิงก็ล้มได้แต่ไม่เด็ดขาดเท่านี้"
"หรือว่าเธอได้พลังอะไรซักอย่างจากพวกผู้ดีๆพวกนั้นสินะ ต้องเป็นพลังชั่วร้ายแน่ๆ ถึงเวลาของพระเอกอย่างฉันที่จะต้องจัดการเรื่องนี้แล้วล่ะ"
เคนชููมัดแสดงความมั่นใจหนึ่งทีและจะเดินไปหาชายที่เคยคุยกับบืงบิงแต่เหมาดึงคอเสื้อรั้งไว้
"เลิกเพ้อเจ้อแล้วไปถามเธอตรงๆง่ายกว่า"
ในที่สุดเสียงประกาศก็เรียกผู้ทดสอบคนสุดท้าย เหมานั้นเอง อาวุธที่เขาหยิบมาด้วยคือหอกยาว 2 เมตรเป็นที่สะดุดตาอย่างยิ่งเพราะคนระแวกนี้ไม่นิยมใช้กัน
ก่อนหน้านี้เมื่อหลายสิบปีก่อนมียอดคนผู้หนึ่งถูกขนานนามว่าเป็นมารหอกนิลกาฬปกึรองพื้นที่บริเวณนี้ เนื่องจากห่างไกลจากพวกแปดตระกูลและผู้ปกครองบริเวณรอบๆก็ไม่สามารถชนะเขาได้ ผู้คนในแผ่นดินนี้จึงถูกกดขี่ เครื่องหมายแห่งความเจ็บช้ำคือหอกที่เขาพิชิตแผ่นดินผืนนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ในที่นี้จึงเลี่ยงที่จะใช้มันเป็นอาวุธประจำกาย
เหมาตั้งท่าตามปกติ ทันทีที่หมูป่าถูกปล่อยออกมามันก็วิ่งตรงมาทางเหมา เขารีดเร้นพลังเพื่อเสริมสมรรถภาพทางกายพุ่งตรงเข้าหาหมูป่า เขารู้จักการล่าหม๔ป่าเป็นอย่างดีเนื่องจากหมู่บ้านที่เขาจากมาก็มีเทศกาลล่าหมูป่าทุกปี และเหมาก็เป็นเพียงไม่กี่คนที่สามารถล่ามันได้ด้วยตัวคนเดียว
ปลายหอกนั้นสั้นเกินที่จะตัดขาหมูป่า แต่นั้นก็ไม่มีปัญหาสำหรับเหมา เขาถ่ายพลังใส่หอกและทำให้ทั้งด้ามคมด้วยอากาศบริสุทธิ์ของเขา ถึงจะดูรุนแรงแต่เขาก็ตัดได้สวยงามพร้อมนำไปประกอบอาหาร หมูป่าที่เสีนหลักพุ่งชนกำแพงอย่างจัง เหมารีบไปเผด็จศึกเพื่อไม่ให้มันทรมานด้วยการจิ้มหอกตัดกระดูกคอ
ผู้เข้าทดสอบที่ผ่านการทดสอบถ้าไม่ใช่มีพลังมากพอในการฆ่าหมูป่าภายในทีเดียว ก็มักจะเป็นพวกต้องอาศัยจังหวะจัดการกับเขี้ยวหมูป่าและใช้เวลาอีกซักพักในการสู้กับหมูป่าจนมันหมดแรง แต่การต่อสู้ของเหมาต่างออกไป เขาจัดการหมูป่าด้วยประสบการณ์และทักษะในการแปลงพลังเพื่อตัดผ่านเกราะม่านพลังของหมูป่า
เมื่อถึงตอนเย็นทางโรงเรียนก็ได้มีงานฉลอง เหมาได้รับเงินจำนวน 100 เหรียญทองเป็นรางวัลสำหรับการแร่หมูป่าอย่างถูกวิธี รางวัลแปลกๆถูกให้กับนักเรียนโดยที่ผู้อำนวยการหมวกทรงสูงนั้นให้กับมือ เคนได้รับรางวัล 10 เหรียญทองในฐานะคนที่จัดการหมูป่าได้ทุเรศที่สุด
ถ้านับคนที่สอบผ่าน เคนใช้เวลานานที่สุดในการวิ่งตะโกนแหกปากอย่างน่าอนาถและกว่าจะจัดการหมูป่าได้ก็ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆ นี้ต้องนับถือความอึดถึกทนของเคนจริงๆ คนที่ไม่ผ่านส่วนใหญ่แค่ 10 นาทีก็รู้ผลแล้ว
ทอยก็ได้กับเขาเหมือนกัน 50 เหรียญทองในฐานะที่ฆ่าได้สยองที่สุด เขาระเบิดหมูป่าจนเหลือแต่กองเลือด คนส่วนใหญ่ที่ไม่เคยฆ่าสัตว์ต่างอ้วกออกมากันหมดรวมถึงเคนด้วย
เหมาจะหาเวลาช่วงนี้ไปคุยกับบิงบิง แต่เขาก็ไม่เห็นเธออีกเลยหลังจากการทดสอบ ผู้ที่จัดการหมูป่าได้การันตีจากทางโรงเรียนแล้วว่าผ่านการประเมินแค่ยังไม่บอกว่าจะได้อยู่ห้องใด
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ