Air Striker
เขียนโดย BrokenSpearZ
วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 03.47 น.
แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2564 03.19 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) พบเจอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ่ายแก่ๆของช่วงปลายเดือนเมษายนแดดกำลังดีอากาศแจ่มใสเหมาะแก่เดินทางหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน หนุ่มวัย 16 คนหนึ่งกำลังเดินทางออกจากหมู่บ้านไปทดสอบเพื่อเข้าเรียน เขาแต่งตัวด้วยชุดสีดำสะพายหอกและง้าวไว้ด้านหลัง เขาพบคาราวานพ่อค้าทาสตรงทางแยกพอดี ในกรงขังแต่ละกรงมีเผ่าต่างๆที่ไร้อำนาจและกำลังที่จะต่อต้านมนุษย์ แต่มีอยู่กรงหนึ่งมีสาวกำลังนั่งชิวอยู่ในกรง สีหน้าของเธอดูไร้ความกังวลต่างกับกรงอื่นๆที่สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนักแถมเขายังรู้สึกเหมือนคล้ายกับคนรู้จักของเขาอีกต่างหาก
"พี่ชาย" หนุ่มเอ่ยปากขึ้น
"เป็นไปได้ไหมหากข้าจะอยากขอทาสจากพวกท่านน่ะ" ด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะแสดงอารมณ์เท่าไหร่ เขาดูเหมือนตั้งใจกวนอีกฝ่าย
แน่นอนว่าเด็กจากบ้านนอกคอกนาไม่มีทางที่จะมีเงินมาซื้อทาสแน่ๆ ดีไม่ดีอาจจะถูกจับมาเป็นทาสเองอีกต่างหาก แก๊งพ่อค้าทาส 6 คนเตรียมอาวุธกะจะจับหนุ่มน้อยกวนประสาทผู้นั้นหลังจากได้คำตอบว่าจะขอทาสไปฟรีๆ
ชายฉกรรจ์คนหน้าสุดง้างขวานพุ่งตรงมาทางชายหนุ่มความเร็วที่เคลื่อนที่เข้ามานั้นไม่ใช่การใช้กำลังขาจากปกติ แต่เสริมด้วยพลังอากาศบริสุทธิ์ที่มีรอบตัวของโลกใบนี้ ชายหนุ่มหลบฉากพร้อมซัดหมัดเข้าสีข้างซ้ายด้วยหมัดที่เสริมพลัง ซี่โครงของชายฉกรรจ์ถูกทำลายสิ้น บ่งบอกถึงทักษะที่ฝึกปรือของหนุ่มผู้นี้
พรรคพวกของชายฉกรรจ์ที่เหลือตื่นตระหนก พวกเขาไม่คิดว่าเจ้าหนุ่มนี่ที่อายุน้อยกว่าพวกเขาเกือบ 10 จะสามารถทำร้ายพวกเขาเลือดตกยามออกขนาดนี้ได้ ตอนนี้เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้พวกเขาต้องรุมกินโต๊ะเจ้าหนุ่มนี่ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สั่นคลอนศักดิ์ศรีพวกเขา
แนวหลังมี 2 คนถือธนูกับหน้าไม้และมีอีกคนที่ไม่ได้ถืออะไรแต่เหนือตัวเขามีบางอย่างทรงคล้ายบอลลอยอยู่ 4 ลูกสิ่งนั้นเรียกว่าหลุมอากาศเพื่อเตรียมพร้อมในการใช้ทักษะอากาศบริสุทธิ์ของตนเอง
ดูเหมือนพวกเขาจะเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก เจ้าหนุ่มนี่มันกระตุกหนวดเสือเข้าแล้ว ถึงแม้ว่าเขาอาจจะดูแข็งแกร่งกว่าพวกชายฉกรรจ์ก็จริง แต่การโดนรุมแบบนี้ก็ไม่อาจให้เขาชะล่าใจได้ เขาถือหอกตั้งท่าพร้อมจู่โจม ด้านหน้าของเขามีชายอีก 2 คนที่ชักดาบที่กำลังวิ่งมาใส่ ด้วยความรวดเร็วดุจสายฟ้าชายหนุ่มย่อตัวและกวาดหอกฟาดขาทั้งสองหักล้มหน้าคะมำ แต่วินาทีที่เขาตอบโต้อีกสามคนที่เหลือก็ประเคนลูกดอกลูกธนูและกระสุนไฟใส่เขา
ชายหนุ่มยืนตั้งมั่นและยกหอกของเขาควงเป็นวงกลมม่านพลังค่อยๆเกิดขึ้นปัดการโจมตีทางอากาศกระเด็นออกไปจากเขา แรงปะทะทำให้เขาถอยไปจากจุดที่ยืนเกือบหนึ่งเมตรเกิดควันบดบังทำให้เขาได้โอกาสเข้าไปใกล้แนวหลัง แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ชายที่ไม่ถืออาวุธดูเหมือนเขาสามารถตรวจจับอากาศบริสุทธิ์ภายในตัวคนอื่นได้ ยามนี้ชายฉกรรจ์คนนั้นใช้สมาธิในการระบุตำแหน่งของชายหนุ่มและให้เพื่อนอีกสองคนทำการโจมตีแทน
ลูกดอกความเร็วสูงและลูกธนูพลังทำลายสูงถูกยิงเข้ามา ชายหนุ่มไร้ที่กำบังจึงปักหอกลงพื้นและดีดตัวกลางอากาศด้วยความรวดเร็ว ในเสี้ยววินาทีที่ทั้งมือธนูและหน้าไม้กำลังเตรียมยิงชุดถัดไป เขาปาท่อนเหล็กผับครึ่งทั้ง 2 อันที่เขาพันไว้กับแขนเขาไปที่ศีรษะทั้งสองจนหัวแตกสลบไป
เหลือแค่คนสุดท้ายชายหนุ่มดึงง้าวมาจากด้านหลังของเขาใบมีดโค้งขนาดใหญ่ส่องประกายเมื่อต้องกับแสง ชายฉกรรจ์ปล่อยลูกบอลพลังใส่แต่รอบนี้ชายหนุ่มปัดมันออกโดยใช้ด้านข้างของง้าวจากนั้นพุ่งเข้าไปปาดง้าวขึ้นถูกตัวชายฉกรรจ์ ถึงแม้เขาจะป้องกันแล้วแต่ก็ยังเกิดรอยบาดกลางหน้าอก ขณะที่กำลังตกตะลึงกับบาดแผลที่เกิดขึ้นทันใดนั้นชายฉกรรจ์ก็รู้สึกเจ็บที่ต้นขาซ้ายและไหล่ขวา ไม่น่าเชื่อหนุ่มคนนี้สามารถควบคุมหลุมอากาศได้ 2 ลูกโดยไม่ใช้แร่ใดๆเป็นตัวช่วย
การต่อสู้จบลงชายหนุ่มได้ทำการพังกรงขังที่คุมเหล่าทาสไว้ พวกเขาต่างขอบคุณชายหนุ่มที่ช่วยพวกเขาไว้ ความจริงก็คือพวกเขาแค่โชคดีที่มีสาวมารที่ชายหนุ่มสนใจติดมาด้วย หากเป็นยามปกติเขาคงผ่านไปโดยไม่คิดจะทำอะไร
หลังจากที่ไถ่ของมีค่าจากพวกพ่อค้าทาสแล้ว เขาก็ตรงไปหาสาวมารคนนั้นทันที ไม่ใช่เพราะรักแรกพบหรืออะไรทำนองนั้นแต่เขาแค่รู้สึกว่าหน้าตาคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนจำเป็นจะต้องถามไถ่
"เจ้าโดนจับมารึ" เขาเริ่มการสนทนาแบบหวนๆ
"ใช่แล้ว ทำไมล่ะพ่อพระเอกขี่ม้าขาว" ส่วนเธอก็ตอบแบบประชดประชัน
"ก็แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าดูปกติสุขกว่าทาสคนอื่นๆเขาน่ะ ว่าแต่นั้นคือวิธีตอบผู้มีพระคุณงั้นเหรอ"
"พระคุณบ้าบออะไรล่ะ ไอ้คนพวกนี้จะให้หลับอยู่ฉันก็จัดการได้ง่ายๆ"
"งั้นเหรอ แล้วไมไปอยู่ในกรงล่ะ"
"ก็เพราะฉันขี้เกียจเดินเข้าเมืองยังไงล่ะ นั่งรถม้ามันต้องสบายกว่าอยู่แล้ว ฉันจัดการเพื่อนพวกมันไป 2 คนแล้วขู่ขอนั่งติดไปด้วย จะถามอะไรเพิ่มอีกไหมล่ะพ่อพระเอก ฉันเริ่มรำคาญที่จะตอบแล้วนะ"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ถามต่อแล้วล่ะ" แต่เขาก็ยังสงสัยว่าถ้าจะจัดการคนพวกนี้ได้ง่ายดายขนาดนั้นทำไม่ไม่ฆ่าทิ้งให้หมดแล้วขโมยมาไปแทน แต่เพราะนางดูจะรำคาญจริงๆเขาก็ก็ไม่อยากจะถามต่อ
"เอ่อถ้างั้นเดินทางปลอดภัยละกัน" กล่าวเสร็จเขาก็เก็บอุปกรณ์ที่สู้กันแล้วเดินทางต่อ
"นายก็ด้วยพ่อพระเอก อย่าไปเป็นฮีโร่มากนั้นเดี๋ยวอายุจะสั้นนะ" เธอก็เตรียมตัวจะเกินทางต่อเช่นกัน
...
...
...
...
...
ผ่านมา 2 ชม.แล้วอาทิตย์เริ่มตกสถานที่รอบข้างค่อยเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนก็คือพวกเขา 2 คนยังอยู่ด้วยกัน ดูเหมือนสถานที่ปลายทางจะเป็นที่เดียวกัน คำกล่าวลามากมายก่อนจะเดินทางทำให้พวกเขารู้สึกอายและตลกกับตัวเองที่สุดท้ายก็เดินทางไปทางเดียวกัน
บรรยากาศอึดอัดแบบนี้ทั้งสองต่างหวังว่าระหว่างที่เดินทางและก็เกิดขึ้นจริงๆ พวกเขาเจอชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแต่งชุดเครื่องแบบโรงเรียนที่ที่พวกเขาจะเข้าเรียนพอดี ซึ่งความจริงพวกเขาสมควรเข้ารับการทดสอบคลาสก่อนถึงจะได้รับ
ได้โอกาสเปิดบทสนทนาที่พวกเขารอมา เจ้าหนุ่มที่กำลังดี๊ด๊าตื่นตาตื่นใจใส่ชุดที่ยังไม่สมควรจะใส่คือหัวข้อชั้นเลิศ
"นี่..."
"เขา..."
"เจ้าพูดก่อนเลย"
"อ่า ชายคนนั้นใส่ชุดโรงเรียนเขต เขาไปเอามาจากไหนนะ พวกปี 1 ยังไม่ถึงเวลาทดสอบเลย"
"งั้นเจ้าก็กำลังไปโรงเรียนนั้นเพื่อทดสอบสินะ"
"ใช่แล้วล่ะ ฉันต้องไปให้ถึงก่อน 1 พฤศภาคมนี้"
"งั้นเราก็คงต้องเจอหน้ากันอีกนานเลยล่ะ"
"หรือว่านายก็เข้าเรียนที่นั่นงั้นเหรอ"
"ใช่ ว่าแต่เราก็ร่วมทางกันนานแล้วยังไม่รู้จักชื่อกันเลยนะ ฉันเหมา"
"ฉันคาเรน ยินดีที่ได้รู้จักนะพ่อพระเอก"
"เลิกเรียกแบบนั้นได้แล้ว ที่ฉันทำไม่ใช่เพราะความใจบุญหรอกนะ"
"เฮ้! พวกนาย"
เจ้าหนุ่มท่าทางตื่นเต้นตะโกนโบกมือมาทางนี้ขัดจังหวะการคุยกันของทั้งสอง ตาเขาเป็นประกายทันทีที่ได้เห็นคาเรน
"ว้าว! ตาของเจ้าดูเหมือนสามารถปล่อยไฟออกมาได้งั้นล่ะ"
"เสียมารยาทจัง ไม่รู้จักกันมาทักแบบนี้"
"โอ้ไม่นะ! เราขอโทษ พอดีเราตื่นเต้นมากไปหน่อยน่ะ"
"เจ้าไม่ใช่คนแถวนี้รึไง ทำไมถึงไม่เคยเห็น มันหน้าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยงั้นรึ"
"จะบอกว่าไม่ใช่คนแถวนี้ก็ใช่อยู่หรอก เราไม่รู้จะอธิบายอะไรดี มันห่างไกลกับคำว่าไม่ใช่คนแถวนี้เยอะเลย"
"ยังไงก็เถอะ เจ้าน่ะขื่ออะไรเหรอ"
"อาตาริ เคน ยินดีที่ได้รู้จักพวกนายนะ"
"ยังไงก็ช่างเถอะ แต่ดูเหมือนพวกเรากำลังจะไปจุดหมายเดียวกันสินะ ยังไงก็รีบกันหน่อยเถอะ เผื่อเวลาสำหรับเรื่องเกินคาด"
คำอธิบายกำกวมแบบนี้พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรต่อดี แต่ดูเหมือนพวกเขาจะได้เพื่อนร่วมทางแปลกๆมาอีกหนึ่งคนเรียบร้อย
พวกเขาเดินทางจนถึงเมืองแล้ว วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเดือนเมษายน ระหว่างทางไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นนอกจากอาการตื่นเต้นกับทุกสิ่งที่เห็นของเคน
พวกเขาตรงไปยังหอพักของผู้ทดสอบเข้าของโรงเรียนเพื่อลงทะเบียนข้อมูล สามารถมาลงทะเบียนข้อมูลและเข้าพักได้ก่อนวันทดสอบ 1 สัปดาห์ พักได้ฟรีแต่ไม่มีบริการอาหารหรือเครื่องดื่ม ผู้เข้ารับการทดสอบต้องจัดการเรื่องนี้กันเอง
เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับเหมาเพราะอาจารย์ของเหมาได้ให้เงินไว้ใช้จ่ายเป็นมูลค่าที่พอจะให้เด็กหนุ่มอายุ 16 ปีสามารถอยู่ได้แบบไม่อดอยากเกือบ 1 ปี
"เฮ้! มาถึงก็ส่องสาวเลยนะ ไม่เบาเลยนี่น่า เหมา"
"ฉันกำลังหาเพื่อนฉันอยู่ต่างหาก เรามาจากหมู่บ้านเดียวกัน แต่ฉันมีธุระเลยต้องแยกกันมา"
"ว้าวเพื่อนสมัยเด็กนี่มันตัวละครหลักชัดๆ ไม่ใช่ฉันหรอกเหรอ"
"พูดอะไรของนายน่ะเคน"
"ช่างฉันเถอะ ว่าแต่ลักษณะเพื่อนนายเป็นยังไงล่ะ เผื่อฉันเจอจะคาบข่าวมาบอก"
"สูงเท่าไหล่ฉัน ผมสั้นขาวๆฟ้าๆ"
"แล้วสวยไหม สวยรึเปล่า"
"จะว่าไงดี เอาเป็นว่าก็น่ารักดี"
"ชักตื่นเต้นละสิ ฉันอยากเจอเร็วๆแล้ว"
"อย่าไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจละกัน ไม่งั้นล่ะหนาวแน่"
หลังจาก 2 หนุ่มคุยกันจบเคนก็ขอตัวออกไปหลี่สาวพ่วงหาเพื่อนของเหมาไปด้วย สีหน้าที่ดูเป็นอันตรายต่อผู้หญิงของเคนทำให้เหมารู้สึกไม่ดีแปลกๆ แต่ก็ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป
เหมากำลังตัดสินใจว่าจะกินอาหารอะไรดี เขาอยากลองกินอาหารแพงๆสักครั้งในชีวิตแต่ก็ห้ามใจได้ทัน ความจริงเงินก้อนนี้ที่เหมาได้มาต้องแบ่งใช้กับบิงบิงเพื่อนของเขา นี่เป็นเงินที่ได้มาจากอาจารย์ที่มีแค่เหมาคนเดียวที่รู้จักในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่ามีอาจารย์คนนี้วนเวียนอยู่รอบๆหมู่บ้าน
"สรุปตาลุงผมแดงนั้นเป็นใครกันนะ น่าสงสัยจริง"
เหมากำลังคิดถึงอาจารย์ของเขา ถึงแม้เขาจะอยู่ด้วยกันมาเกือบ 4 เดือนแต่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับอาจารย์คนนั้นเลย หลังจากสลัดความหลังไปแล้วก็กลับไปคิดถึงว่าจะกินอะไรเหมือนเดิม
"เหมา! เหม่ออะไรอยู่ มากินด้วยกันสิ"
เขาหันไปหาเสียงที่เรียก คาเรนนั้นเอง เหมือนเธอจะสั่งอาหารมาแบบมหาศาล
"นี่เธอกินเยอะขนาดนี้เลยเหรอ"
เขาตกใจเล็กน้อย แต่วิเคราะห์ความคิดจองเธอจากการพบกันแล้ว คงไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้ว
"ก็นะ แต่นายจะตักแบ่งไปหน่อยก็ได้นะ ฉันไม่ถือ"
"ถ้างั้นก็ขอหน่อยละกัน"
เหมาตักแบ่งอาหารจากจานต่างๆที่คาเรนสั่งมาเต็มโต๊ะมาอย่างละนิด ถ้าเธอรวยขนาดนี้จะจ้างคนมาส่งก็ได้นี่นา แต่เขาก็ปล่อยความคิดที่จะพูดเรื่องนี้ผ่านไป
"ว่าแต่เจ้าเคนล่ะ"
"หลี่สาวอยู่น่ะ จะให้เจ้านั่นมากินด้วยเหรอ"
"เปล่าหรอก ฉันยังแอบขนลุกมันอยู่เลย นอกจากพูดเรื่องแปลกๆแล้วก็ยังแอบส่องหน้าอกฉันอีกน่ะ"
"อ่า ขนาดฉันยังรู้สึกไม่ค่อยดีเลย ทำเกินไปจริงๆแหละ"
"เฮ้! พวกนาย กำลังเดทกันอยู่เหรอ"
เสียงที่ทั้งสองคนรู้จักดังมาแต่ไกล
"นายนี่มันไร้มารยาทได้เสมอเลยนะ เราแค่กำลังกินข้าวกันอยู่ย่ะ"
"โทษทีๆ เห็นสั่งอาหารเยอะแยะแบบนี้แถมกินด้วยกันอีกเลยอดคิดไม่ได้น่ะ"
"ยังไงก็เถอะเจอบ้างไหม"
"จะว่าไงดีล่ะ เจอไหมก็เจอแหละ แต่ฉันว่ามันแปลกๆน่ะ"
"ฮ่าฮ่า หนุ่มหน้าหม้อหลี่สาวอย่างนายมาว่าคนอื่นว่าแปลก"
"เงียบน่า คาเรน ฉันคุยกับเหมาหรอก"
"อืม แล้วที่ว่าแปลกเนี่ย ยังไง"
"ก็นายน่ะ มาจากทางใต้สุดของประเทศใช่ไหม ที่นั่นคงไม่มีพวกชนชั้นสูงของประเทศนี่หรอกมั้งนะ"
"อ่าห๊ะ แล้ว"
"ก็คนที่คล้ายๆที่นายบอกน่ะ ฉันเห็นเขาคุยกับผู้ใหญ่อีก 2 คนที่แต่งตัวหรูๆน่ะสิ เธอเองก็แต่งตัวหรูหรา"
"ใช่คนที่ฉันบอกแน่เหรอ"
"ก็เป๊ะเลย เธอชื่ออะไรล่ะ ฉันจะได้บอกได้ เพราะฉันแอบได้ยินชื่อของเธอตอนที่พวกเขาคุยกันน่ะ "
"บิงบิง"
"ใช่! ชื่อนั้นแหละ เป็นเธอแน่ๆ"
เรื่องเหลวไหลแบบนี้คืออะไรกัน เธอเป็นแค่เด็กสาวบ้านนอกธรรมดาจะไปมีชุดหรูหราใส่ได้ยังไง เหมาเริ่มตกในภวังค์ความคิด นี้มันออกจะแปลกๆ ถ้ายังไงเจอตัวเป็นๆก็น่าจะลองไปถาม
หลังจากจบมื้ออาหารพวกเขาก็แยกย้ายไปเที่ยวเมืองยามเย็น ยกเว้นแต่เหมาที่ถึงเวลาฝึกจึงออกไปหาป่าฝึกคนเดียว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ