_ERROR_
-
เขียนโดย CharP
วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09.15 น.
10 ตอน
0 วิจารณ์
7,679 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 09.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) การตัดสินใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ผมคิดเรื่องภาพวาดของA14วนไปวนมา จนผมนอนไม่หลับ เมื่อวานนี้ผมตัดสินใจที่จะส่งข้อมูลเรื่องของD62ให้สำนักงานไปก่อน แต่ยังไม่ส่งข้อมูลเกี่ยวกับA14ไป เนื่องจากผมอยากจะมั่นใจให้ได้ก่อนว่า เธอต้องการให้ช่วยเรื่องอะไร
และแน่นอนว่าผมไม่สามารถถามเธอตรงๆได้ เพราะผมต้องปิดบังเรื่องที่ผมเป็นผู้ดูแล ตอนนี้ผมก็เลยกำลังหาวิธีที่จะ คุยกับเธอโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตนอยู่ แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกซักที
ว่าแล้วก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นที่โฟนของผม เมื่อเปิดดูก็พบว่า A14ส่งข้อความมาหาผม
“เจอกันที่ห้องศิลปะตอน4โมงนะ”
ดูเหมือนว่า ผมควรจะหาวิธีให้ได้ก่อน4โมงวันนี้สินะ ผมหันไปมองนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว
ทำไมเธอถึงส่งข้อความมาเวลานี้ล่ะ?
แต่ตอนนี้ผมต้องหยุดคิดเรื่องนี้ก่อน
เพราะไม่งั้นผมจะไม่ได้นอนแล้วนะ!
สำหรับผมแล้ว การนอนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ฉะนั้นแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะ
.
.
.
.
.
ตอนนี้เป็นเวลา8โมงกว่าๆแล้ว ผมยังไม่ได้หลับซักตื่นเลย ในหัวของผมเต็มไปด้วยเรื่องที่ผมต้องทำวันนี้ นี่ขนาดแค่สองคนนะ ถ้ามากกว่านี้สมองผมจะรับไหวไหมนะ
แต่ข้อดีเดียวของการที่นั่งคิดทั้งคืน จนนอนไม่หลับก็คือ ผมคิดวิธีที่จะติดต่อกับA14ออกแล้ว วันนี้ตอน4โมงกว่าๆ ผมจะเอาจดหมายที่ไม่ระบุผู้ส่ง ไปตั้งไว้ที่ห้องศิลปะ ในจังหวะที่เธอจะเห็นจดหมายได้คนเดียว
ตอนนี้ผมก็ควรจะแต่งตัวแล้วก็ไปกินข้าวได้แล้วสินะ ไว้ไปนอนในห้องเรียนละกัน
‘อ้าว B45นิ พึ่งมากินข้าวหรอ เดี๋ยวก็ไปเรียนไม่ทันหรอก แต่ยังไงนายก็คงไม่ได้เรียนอยู่แล้วนี่เนอะ~’
คนที่ผมไม่อยากจะเจอเท่าไร ทักทายผมด้วยน้ำเสียงเริงร่า
ถึงเขาจะพูดถูก เรื่องที่ผมไม่คิดจะเรียนก็เหอะ
‘นายก็น่าจะพึ่งมาไม่ใช่หรอ G39’
ผมพูดไปโดยมองจานอาหารที่ยังดูเหมือนไม่ได้แตะต้องของเขา
‘ผมว่าจะรอไปห้องเรียนพร้อมกับนายน่ะสิ~’
G39พูด
เขาโกหกชัวร์ๆ เพราะเขาไม่มีทางรู้ว่าผมจะมากินเวลานี้
แต่เอาเหอะ ผมไม่มีเวลาไปใส่ใจเรื่องนั้นหรอก ผมไปสั่งอาหารของผมดีกว่า
หลังจากที่ผมกินข้าวเสร็จ ผมก็เดินไปห้องเรียนกับG39 พอไปถึงก็พบว่าD62มารอ อยู่ที่ห้องเรียนอยู่แล้ว
‘อรุณสวัสดิ์นะ ทั้งสองคน วันนี้ฉันว่าจะไปชุมนุมนักข่าวตอนเย็นน่ะ จะไปด้วยกันไหม’
D62ทักทายพวกเรา
‘วันนี้ตอนเย็น ผมนัดกับA14ไว้น่ะ’
ผมบอก
‘เอ๋~ ความสัมพันธ์คืบหน้าเร็วเหมือนกันนี่’
G39แซว
ผมเคยโกหกเขาไปว่าผมแอบชอบA14น่ะ
‘แค่นัดไปวาดรูปด้วยกันน่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก’
‘แต่เธอเลือกนัดนายตอนเย็นนี่ ที่ชุมนุมศิลปะน่ะ ตั้งแต่4โมงก็ไม่มีคนแล้วล่ะ เธออาจจะแอบมีใจให้นายหรือเปล่า ถึงได้นัดไปเจอกันสองต่อสองแบบนั้นน่ะ’
เอ๋? ผมไม่เห็นรู้เลยเรื่องที่หลัง4โมงจะไม่มีคน ก็ดีสิ แบบนี้ก็เข้ากับแผนของผมพอดีเลย
‘งั้นหรอ งั้นก็สู้ๆนะB45’
D62ให้กำลังใจผมกลับมา
‘ผมก็กำลังสนใจชุมนุมนักข่าวอยู่เหมือนกัน ถ้านายไปทดลองแล้วชอบชุมนุมนี้ เราก็เลือกที่นี่กันเลยละกันนะ’
‘นายก็สนใจที่นี่เหมือนกันหรอ งั้นถ้าฉันไปทดลองแล้วฉันโอเคกับมัน ฉันจะแชทไปบอกนายนะ’
ที่จริงผมก็สนใจชุมนุมนี้อยู่เหมือนกัน เพราะการที่รู้ข่าวสารต่างๆรวมไปถึงข่าวลือในโรงเรียนจะทำให้ผมหาตัวerror ได้ง่ายขึ้น แถมถ้าD62โอเคกับชุมนุมนักข่าว ผมก็จะเคลียร์ปัญหาเรื่องหาชุมนุมให้D62ได้ ทีนี้ผมจะได้เอาเวลาไปโฟกัสกับปัญหาของA14 ฉะนั้นแล้วช่วยโอเคกับมันทีนะ ขอร้องล่ะ
ตอนนี้คาบเรียนเริ่มขึ้นแล้ว ยังไงอาจารย์ก็คงพูดแต่เรื่องที่ผมรู้อยู่แล้ว เพราะงั้นผมนอนดีกว่า
.
.
.
‘นี่ๆ หมดคาบแล้วนะ ไปสวนหย่อมกันเถอะ’
D62ชวน
‘สวนหย่อม? ไปทำไมอ่ะ?’
นี่พวกเขาคุยอะไรกันตอนผมนอนอยู่กันนะ
‘พวกเราว่าจะไปเปลี่ยนบรรยากาศกันน่ะ’
D62บอก
ก็ดีนะ ไปนั่งดูธรรมชาติคลายเครียดบ้างก็ดี
แต่แทนที่ผมจะไปผ่อนคลาย ผมกลับเลือกที่จะไปนั่งเขียนจดหมายให้A14ที่สวนหย่อมแทน
เพราะไม่งั้นมันจะไม่ทันแล้วน่ะ
‘นี่B45 นายเขียนอะไรของนายอยู่น่ะ’
G39ถาม
‘จดหมายรัก’
‘ขอดูหน่อยสิ~’
‘จะบ้าหรือไง’
ให้ตายผมก็ให้เขาดูไม่ได้เด็ดขาด เพราะจริงๆมันก็ไม่ใช่จดหมายรักด้วย
เนื้อหาในจดหมายมีอยู่ว่า…
ถึง เจ้าของภาพคนจมน้ำ
ฉันเห็นภาพที่เธอวาดแล้วนะ
ถึงจะบังเอิญไปเห็นก็เถอะ
มันดูเป็นชายหาดที่ดูสวยงามในแรกเห็น
แต่ในทะเลดันมีคนจมน้ำอยู่
คนๆนั้นคือเธอหรือเปล่านะ
เธอกำลังอยากได้ความช่วยเหลือจากใครสักคนอยู่หรือ
ถึงได้วาดรูป รูปนี้ขึ้นมา
ถ้าฉันเข้าใจถูกต้อง
ช่วยส่งจดหมายมาบอกฉันทีนะ
ด้วยภาษาที่เธอคิดว่า มีแค่เธอที่เข้าใจ
เอามันวางไว้ที่ล็อกเกอร์ที่3ของชุมนุมศิลปะนะ
มันเป็นล็อกเกอร์ว่างที่ไม่มีใครใช้น่ะ
ฉันจะรอข้อความจากเธอนะ
จาก คนคนหนึ่งที่เข้าใจเธอ
ผมพยายามจะเขียนมัน โดยที่หลีกเลี่ยงการใช้สำนวนการพูดปกติของผม และเขียนด้วยข้อความที่ถึงคนอื่นเข้ามาเห็น ก็ยังพอจะเลี่ยงบาลีได้บ้าง
ที่ผมให้เธอเขียนตอบด้วยภาษาที่มีแค่เธอรู้ เพราะว่าที่นี่เราใช้ภาษาที่เรียกว่า “ภาษากลาง” กัน ซึ่งภาษานี้จะถูกใส่เขาไปในสมองของเด็กเข้าใหม่ทุกคน ถ้าไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจ ก็ควรจะใช้ภาษาของเธอในชาติก่อนนั่นแหละ แต่ไม่ใช่ว่าผมเข้าใจทุกภาษาบนโลกมนุษย์นะ ที่ผมพออ่านออกมีแค่ภาษาอังกฤษ แต่ผมพอใช้ฟังก์ชันที่มีแค่ในโฟนของผมแปลได้อยู่
หลังเลิกเรียนผมแอบไปรอA14ตั้งแต่บ่าย3โมง45 เพื่อกันพลาด
แต่ทว่าเมื่อA14มาถึง เธอก็นั่งรอผมอยู่ที่ชุมนุมโดยไม่ขยับไปไหนเลย
ผมจะเอาให้เธอยังไงดีเนี่ย?
ตอนนี้มันเกินเวลานัดมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วนะ นี่จะกลายเป็นว่าเธอจะมองผม เป็นคนที่ไม่รักษาสัญญาแทนนะเนี่ย
ลองพับจดหมายเป็นเครื่องบินแล้ว ให้มันบินไปชนเธอดีไหม?
แต่ถ้าทำงั้นแล้ว เธอมองมาที่หน้าต่างที่ผมแอบดูอยู่ก็จบเห่ทันทีน่ะสิ
ถึงในชุมนุมจะไม่มีคน แต่แถวนี้มีคนผ่านไปผ่านมาค่อนข้างเยอะ ถ้ามีคนเห็นผมมาด้อมๆมองๆที่ห้องศิลปะอยู่แบบนี้นานๆ คงไม่ดีแน่
ผมต้องรีบเอาไปให้เธอแล้ว
ทันใดนั้น! เธอก็เหมือนจะลุกเดินไปที่ไหนซักที่ แต่ดูแล้วน่าจะยังไม่กลับหอ เพราะเธอยังวางกระเป๋าไว้ที่ห้องศิลปะอยู่
ผมจึงรีบปีนหน้าต่าง เอาจดหมายไปวางไว้ แล้วกลับมาซ่อนที่เดิม เพื่อรอดูผล
เมื่อA14กลับมา และเห็นจดหมาย เธอรีบเปิดมันขึ้นมาอ่านอย่างเร่งรีบ เหมือนกับรอเวลานี้มาโดยตลอด เธออ่านมันอย่างตั้งใจมากๆ และเมื่อเธออ่านจบ เหมือนว่าจะมีน้ำตาหยดเล็กๆไหลลงมาจากดวงตาของเธอ
พอผมเห็นปฏิกิริยาแบบนั้น ผมก็มั่นใจได้ว่า ผมน่าจะเข้าใจเรื่องภาพวาดได้ถูกต้อง และตัดสินใจกลับหอพัก ก่อนออกมาจากตึกศิลป์ ผมเห็นเธอหยิบกระดาษกับดินสอออกมาจากกระเป๋า เธอคงคิดจะเขียนตอบตอนนี้เลย แต่ผมคิดว่าเธอคงจะใช้เวลาซักพักในการเรียบเรียงคำพูด เพราะฉะนั้นผมจะมาดูจดหมายตอบกลับของเธอ ตอนเช้ามืดพรุ่งนี้
แน่นอนว่าผมส่งข้อความ ขอโทษที่ผมติดธุระกระทันหันไปให้เธอทางแชทในฐานะB45แล้วด้วย แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอยังสนใจเรื่องที่ผมไม่มาตามนัดอยู่หรือเปล่า
ตกดึก มีแชทจากD62 ส่งมาว่า “ฉันไปทดลองที่ชุมนุมนักข่าวมาแล้ว มันสนุกดีนะ เดี๋ยวไว้หาเวลาไปด้วยกันเถอะ”
แสดงว่าเขาสนใจชุมนุมนี้จริงๆแล้วสินะ เท่านี้ก็ถือว่าภารกิจทั้งหมดสำหรับวันนี้ของผมจบลงได้ด้วยดี ค่อยคุ้มค่าที่อุตส่าห์อดนอนหน่อย ดังนั้นวันนี้ผมจะนอนแต่หัวค่ำเพื่อรีบตื่นมาดูจดหมายของA14 เธอต้องการความช่วยเหลือเรื่องอะไรกันนะ พรุ่งนี้ผมก็จะได้รู้แล้ว
.
.
.
.
ผมตื่นมาตอนตี4เพื่อไปเอาจดหมายของA14กลับมาอ่านที่หอ ตอนนี้ท้องฟ้ายังเป็นสีน้ำเงินแกมเขียว เพราะยังไม่ถึงเวลาเช้าดี วันนี้อากาศค่อนข้างหนาว ผมจึงใส่เสื้อกันหนาวหนาๆตัวหนึ่งไปด้วย
ข้างในล็อกเกอร์ที่3 มีกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ เนื้อหาของจดหมายถูกเขียนด้วยลายมือที่เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ปัญหาคือผมไม่รู้ว่านี่คือภาษาอะไรน่ะสิ
ผมนำกระดาษแผ่นนั้นกลับหอ แล้วปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของเครื่องแปลภาษา
สิ่งที่เธอเขียนมาค่อนข้างจะแตกต่างจากที่ผมจินตนาการไว้ เธอยอมเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเธอในชาติก่อน และสิ่งที่เธอขอความช่วยเหลือ ก็คือช่วยให้เธอไม่สูญเสียความทรงจำที่มีอยู่ในตอนนี้ไป
พอผมอ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ทำให้ผมตัดสินใจยากขึ้น ว่าผมควรจะทำอย่างไรดี ผมสงสารเธอจากใจจริง และก็อยากให้ครั้งนี้ เธอได้วาดรูปอย่างที่เธอฝันด้วย เพียงแต่ กฎก็คือกฎ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรให้เธอมีความทรงจำอยู่แบบนี้ต่อไป เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นด้วย มีข้อมูลเกี่ยวกับโลกมนุษย์หลายอย่าง ที่ห้ามเปิดเผยให้นักเรียนที่นี่รู้ มิเช่นนั้นมันอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้
ถ้าแค่ได้ทำตามความฝันอยู่ เธอจะโอเคไหม
ถ้าแค่ทำให้เธอไม่สูญเสียแพชชั่นในการวาดรูป เธอจะโอเคไหม
ตัวผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ผมไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้ยืดเยื้อ เพราะผมไม่รู้ว่าเธอจะเผลอหลุดปากพูดเกี่ยวกับโลกมนุษย์เมื่อไหร่
เพราะฉะนั้นผมควรจะคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะส่งจดหมายฉบับต่อไป
ผมใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ในการเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา เป็นจดหมายฉบับที่ผมมองว่าผมให้ความช่วยเหลือเธออย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ ผมไม่รู้ว่าเธอจะโอเคกับมันหรือเปล่า แต่ถ้าเธอไม่ยอม ผมอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานใหญ่ ซึ่งวิธีการของพวกเขาย่อมเด็ดขาดกว่านี้แน่นอน
ผมแอบนำจดหมายที่แปล (ด้วยเครื่องแปลภาษา) ให้เป็นภาษาเดียวกับที่เธอเขียนมา ไปใส่ไว้ในล็อกเกอร์ตอนที่ไม่มีใครเห็น หลังจากนั้นก็ไปห้องเรียนตามปกติ
วันนี้ก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งของผม D62ชวนผมกับG39ไปชุมนุมนักข่าว กิจกรรมสำหรับเด็กใหม่ของที่นี่ คือแข่งกันเขียนหัวข้อข่าวให้น่าสนใจ ผมก็ไม่ได้ชอบมันมากมายหรอกนะ แต่D62ดูสนุกกับมันดี ส่วนG39เขาเบื่อมากๆเลยล่ะ จนมีคำแย่ๆหลุดมาจากปากเขามากมาย จนพวกเราต้องพาเขาออกมาจากชุมนุมก่อนที่เขาจะโดนรุ่นพี่เล่นงาน
หลังจากที่พวกเราตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ข้อสรุปที่พวกเราได้ตอนนี้ ซึ่งก็คือวันที่4 ของการทดลองเข้าชุมนุมก็คือ ผมกับD62 เลือกชุมนุมนักข่าว ส่วนG39จะเลือกชุมนุมกุนซือล่ะ
ส่วนเรื่องจดหมายฉบับล่าสุดที่ผมส่งให้A14น่ะเหรอ
ในจดหมายของผม บอกไว้ว่า ถ้าA14ยอมรับข้อเสนอให้มาเจอกันตอนเช้าของวันพรุ่งนี้ ที่หน้าหอคอยกลาง
และแล้ววันพรุ่งนี้ที่ว่าก็มาถึง
‘คนที่เขียนจดหมายคือนายเองหรอ ใช้googleแปลภาษาหรือไง อ่านยากมากเลยนะ’
A14ส่งเสียงมาทักทายผม
‘จริงๆมันก็ประมาณนั้นแหละ ว่าแต่เธอโอเคใช่ไหม?’
ผมถาม
‘ใช่… ที่ฉันมาที่นี่วันนี้ เพราะฉันยอมรับข้อเสนอนั้น
ฉันยินยอมให้ลบความทรงจำของฉันค่ะ’
และแน่นอนว่าผมไม่สามารถถามเธอตรงๆได้ เพราะผมต้องปิดบังเรื่องที่ผมเป็นผู้ดูแล ตอนนี้ผมก็เลยกำลังหาวิธีที่จะ คุยกับเธอโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตนอยู่ แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกซักที
ว่าแล้วก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นที่โฟนของผม เมื่อเปิดดูก็พบว่า A14ส่งข้อความมาหาผม
“เจอกันที่ห้องศิลปะตอน4โมงนะ”
ดูเหมือนว่า ผมควรจะหาวิธีให้ได้ก่อน4โมงวันนี้สินะ ผมหันไปมองนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว
ทำไมเธอถึงส่งข้อความมาเวลานี้ล่ะ?
แต่ตอนนี้ผมต้องหยุดคิดเรื่องนี้ก่อน
เพราะไม่งั้นผมจะไม่ได้นอนแล้วนะ!
สำหรับผมแล้ว การนอนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ฉะนั้นแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะ
.
.
.
.
.
ตอนนี้เป็นเวลา8โมงกว่าๆแล้ว ผมยังไม่ได้หลับซักตื่นเลย ในหัวของผมเต็มไปด้วยเรื่องที่ผมต้องทำวันนี้ นี่ขนาดแค่สองคนนะ ถ้ามากกว่านี้สมองผมจะรับไหวไหมนะ
แต่ข้อดีเดียวของการที่นั่งคิดทั้งคืน จนนอนไม่หลับก็คือ ผมคิดวิธีที่จะติดต่อกับA14ออกแล้ว วันนี้ตอน4โมงกว่าๆ ผมจะเอาจดหมายที่ไม่ระบุผู้ส่ง ไปตั้งไว้ที่ห้องศิลปะ ในจังหวะที่เธอจะเห็นจดหมายได้คนเดียว
ตอนนี้ผมก็ควรจะแต่งตัวแล้วก็ไปกินข้าวได้แล้วสินะ ไว้ไปนอนในห้องเรียนละกัน
‘อ้าว B45นิ พึ่งมากินข้าวหรอ เดี๋ยวก็ไปเรียนไม่ทันหรอก แต่ยังไงนายก็คงไม่ได้เรียนอยู่แล้วนี่เนอะ~’
คนที่ผมไม่อยากจะเจอเท่าไร ทักทายผมด้วยน้ำเสียงเริงร่า
ถึงเขาจะพูดถูก เรื่องที่ผมไม่คิดจะเรียนก็เหอะ
‘นายก็น่าจะพึ่งมาไม่ใช่หรอ G39’
ผมพูดไปโดยมองจานอาหารที่ยังดูเหมือนไม่ได้แตะต้องของเขา
‘ผมว่าจะรอไปห้องเรียนพร้อมกับนายน่ะสิ~’
G39พูด
เขาโกหกชัวร์ๆ เพราะเขาไม่มีทางรู้ว่าผมจะมากินเวลานี้
แต่เอาเหอะ ผมไม่มีเวลาไปใส่ใจเรื่องนั้นหรอก ผมไปสั่งอาหารของผมดีกว่า
หลังจากที่ผมกินข้าวเสร็จ ผมก็เดินไปห้องเรียนกับG39 พอไปถึงก็พบว่าD62มารอ อยู่ที่ห้องเรียนอยู่แล้ว
‘อรุณสวัสดิ์นะ ทั้งสองคน วันนี้ฉันว่าจะไปชุมนุมนักข่าวตอนเย็นน่ะ จะไปด้วยกันไหม’
D62ทักทายพวกเรา
‘วันนี้ตอนเย็น ผมนัดกับA14ไว้น่ะ’
ผมบอก
‘เอ๋~ ความสัมพันธ์คืบหน้าเร็วเหมือนกันนี่’
G39แซว
ผมเคยโกหกเขาไปว่าผมแอบชอบA14น่ะ
‘แค่นัดไปวาดรูปด้วยกันน่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก’
‘แต่เธอเลือกนัดนายตอนเย็นนี่ ที่ชุมนุมศิลปะน่ะ ตั้งแต่4โมงก็ไม่มีคนแล้วล่ะ เธออาจจะแอบมีใจให้นายหรือเปล่า ถึงได้นัดไปเจอกันสองต่อสองแบบนั้นน่ะ’
เอ๋? ผมไม่เห็นรู้เลยเรื่องที่หลัง4โมงจะไม่มีคน ก็ดีสิ แบบนี้ก็เข้ากับแผนของผมพอดีเลย
‘งั้นหรอ งั้นก็สู้ๆนะB45’
D62ให้กำลังใจผมกลับมา
‘ผมก็กำลังสนใจชุมนุมนักข่าวอยู่เหมือนกัน ถ้านายไปทดลองแล้วชอบชุมนุมนี้ เราก็เลือกที่นี่กันเลยละกันนะ’
‘นายก็สนใจที่นี่เหมือนกันหรอ งั้นถ้าฉันไปทดลองแล้วฉันโอเคกับมัน ฉันจะแชทไปบอกนายนะ’
ที่จริงผมก็สนใจชุมนุมนี้อยู่เหมือนกัน เพราะการที่รู้ข่าวสารต่างๆรวมไปถึงข่าวลือในโรงเรียนจะทำให้ผมหาตัวerror ได้ง่ายขึ้น แถมถ้าD62โอเคกับชุมนุมนักข่าว ผมก็จะเคลียร์ปัญหาเรื่องหาชุมนุมให้D62ได้ ทีนี้ผมจะได้เอาเวลาไปโฟกัสกับปัญหาของA14 ฉะนั้นแล้วช่วยโอเคกับมันทีนะ ขอร้องล่ะ
ตอนนี้คาบเรียนเริ่มขึ้นแล้ว ยังไงอาจารย์ก็คงพูดแต่เรื่องที่ผมรู้อยู่แล้ว เพราะงั้นผมนอนดีกว่า
.
.
.
‘นี่ๆ หมดคาบแล้วนะ ไปสวนหย่อมกันเถอะ’
D62ชวน
‘สวนหย่อม? ไปทำไมอ่ะ?’
นี่พวกเขาคุยอะไรกันตอนผมนอนอยู่กันนะ
‘พวกเราว่าจะไปเปลี่ยนบรรยากาศกันน่ะ’
D62บอก
ก็ดีนะ ไปนั่งดูธรรมชาติคลายเครียดบ้างก็ดี
แต่แทนที่ผมจะไปผ่อนคลาย ผมกลับเลือกที่จะไปนั่งเขียนจดหมายให้A14ที่สวนหย่อมแทน
เพราะไม่งั้นมันจะไม่ทันแล้วน่ะ
‘นี่B45 นายเขียนอะไรของนายอยู่น่ะ’
G39ถาม
‘จดหมายรัก’
‘ขอดูหน่อยสิ~’
‘จะบ้าหรือไง’
ให้ตายผมก็ให้เขาดูไม่ได้เด็ดขาด เพราะจริงๆมันก็ไม่ใช่จดหมายรักด้วย
เนื้อหาในจดหมายมีอยู่ว่า…
ถึง เจ้าของภาพคนจมน้ำ
ฉันเห็นภาพที่เธอวาดแล้วนะ
ถึงจะบังเอิญไปเห็นก็เถอะ
มันดูเป็นชายหาดที่ดูสวยงามในแรกเห็น
แต่ในทะเลดันมีคนจมน้ำอยู่
คนๆนั้นคือเธอหรือเปล่านะ
เธอกำลังอยากได้ความช่วยเหลือจากใครสักคนอยู่หรือ
ถึงได้วาดรูป รูปนี้ขึ้นมา
ถ้าฉันเข้าใจถูกต้อง
ช่วยส่งจดหมายมาบอกฉันทีนะ
ด้วยภาษาที่เธอคิดว่า มีแค่เธอที่เข้าใจ
เอามันวางไว้ที่ล็อกเกอร์ที่3ของชุมนุมศิลปะนะ
มันเป็นล็อกเกอร์ว่างที่ไม่มีใครใช้น่ะ
ฉันจะรอข้อความจากเธอนะ
จาก คนคนหนึ่งที่เข้าใจเธอ
ผมพยายามจะเขียนมัน โดยที่หลีกเลี่ยงการใช้สำนวนการพูดปกติของผม และเขียนด้วยข้อความที่ถึงคนอื่นเข้ามาเห็น ก็ยังพอจะเลี่ยงบาลีได้บ้าง
ที่ผมให้เธอเขียนตอบด้วยภาษาที่มีแค่เธอรู้ เพราะว่าที่นี่เราใช้ภาษาที่เรียกว่า “ภาษากลาง” กัน ซึ่งภาษานี้จะถูกใส่เขาไปในสมองของเด็กเข้าใหม่ทุกคน ถ้าไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจ ก็ควรจะใช้ภาษาของเธอในชาติก่อนนั่นแหละ แต่ไม่ใช่ว่าผมเข้าใจทุกภาษาบนโลกมนุษย์นะ ที่ผมพออ่านออกมีแค่ภาษาอังกฤษ แต่ผมพอใช้ฟังก์ชันที่มีแค่ในโฟนของผมแปลได้อยู่
หลังเลิกเรียนผมแอบไปรอA14ตั้งแต่บ่าย3โมง45 เพื่อกันพลาด
แต่ทว่าเมื่อA14มาถึง เธอก็นั่งรอผมอยู่ที่ชุมนุมโดยไม่ขยับไปไหนเลย
ผมจะเอาให้เธอยังไงดีเนี่ย?
ตอนนี้มันเกินเวลานัดมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วนะ นี่จะกลายเป็นว่าเธอจะมองผม เป็นคนที่ไม่รักษาสัญญาแทนนะเนี่ย
ลองพับจดหมายเป็นเครื่องบินแล้ว ให้มันบินไปชนเธอดีไหม?
แต่ถ้าทำงั้นแล้ว เธอมองมาที่หน้าต่างที่ผมแอบดูอยู่ก็จบเห่ทันทีน่ะสิ
ถึงในชุมนุมจะไม่มีคน แต่แถวนี้มีคนผ่านไปผ่านมาค่อนข้างเยอะ ถ้ามีคนเห็นผมมาด้อมๆมองๆที่ห้องศิลปะอยู่แบบนี้นานๆ คงไม่ดีแน่
ผมต้องรีบเอาไปให้เธอแล้ว
ทันใดนั้น! เธอก็เหมือนจะลุกเดินไปที่ไหนซักที่ แต่ดูแล้วน่าจะยังไม่กลับหอ เพราะเธอยังวางกระเป๋าไว้ที่ห้องศิลปะอยู่
ผมจึงรีบปีนหน้าต่าง เอาจดหมายไปวางไว้ แล้วกลับมาซ่อนที่เดิม เพื่อรอดูผล
เมื่อA14กลับมา และเห็นจดหมาย เธอรีบเปิดมันขึ้นมาอ่านอย่างเร่งรีบ เหมือนกับรอเวลานี้มาโดยตลอด เธออ่านมันอย่างตั้งใจมากๆ และเมื่อเธออ่านจบ เหมือนว่าจะมีน้ำตาหยดเล็กๆไหลลงมาจากดวงตาของเธอ
พอผมเห็นปฏิกิริยาแบบนั้น ผมก็มั่นใจได้ว่า ผมน่าจะเข้าใจเรื่องภาพวาดได้ถูกต้อง และตัดสินใจกลับหอพัก ก่อนออกมาจากตึกศิลป์ ผมเห็นเธอหยิบกระดาษกับดินสอออกมาจากกระเป๋า เธอคงคิดจะเขียนตอบตอนนี้เลย แต่ผมคิดว่าเธอคงจะใช้เวลาซักพักในการเรียบเรียงคำพูด เพราะฉะนั้นผมจะมาดูจดหมายตอบกลับของเธอ ตอนเช้ามืดพรุ่งนี้
แน่นอนว่าผมส่งข้อความ ขอโทษที่ผมติดธุระกระทันหันไปให้เธอทางแชทในฐานะB45แล้วด้วย แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอยังสนใจเรื่องที่ผมไม่มาตามนัดอยู่หรือเปล่า
ตกดึก มีแชทจากD62 ส่งมาว่า “ฉันไปทดลองที่ชุมนุมนักข่าวมาแล้ว มันสนุกดีนะ เดี๋ยวไว้หาเวลาไปด้วยกันเถอะ”
แสดงว่าเขาสนใจชุมนุมนี้จริงๆแล้วสินะ เท่านี้ก็ถือว่าภารกิจทั้งหมดสำหรับวันนี้ของผมจบลงได้ด้วยดี ค่อยคุ้มค่าที่อุตส่าห์อดนอนหน่อย ดังนั้นวันนี้ผมจะนอนแต่หัวค่ำเพื่อรีบตื่นมาดูจดหมายของA14 เธอต้องการความช่วยเหลือเรื่องอะไรกันนะ พรุ่งนี้ผมก็จะได้รู้แล้ว
.
.
.
.
ผมตื่นมาตอนตี4เพื่อไปเอาจดหมายของA14กลับมาอ่านที่หอ ตอนนี้ท้องฟ้ายังเป็นสีน้ำเงินแกมเขียว เพราะยังไม่ถึงเวลาเช้าดี วันนี้อากาศค่อนข้างหนาว ผมจึงใส่เสื้อกันหนาวหนาๆตัวหนึ่งไปด้วย
ข้างในล็อกเกอร์ที่3 มีกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ เนื้อหาของจดหมายถูกเขียนด้วยลายมือที่เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ปัญหาคือผมไม่รู้ว่านี่คือภาษาอะไรน่ะสิ
ผมนำกระดาษแผ่นนั้นกลับหอ แล้วปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของเครื่องแปลภาษา
สิ่งที่เธอเขียนมาค่อนข้างจะแตกต่างจากที่ผมจินตนาการไว้ เธอยอมเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเธอในชาติก่อน และสิ่งที่เธอขอความช่วยเหลือ ก็คือช่วยให้เธอไม่สูญเสียความทรงจำที่มีอยู่ในตอนนี้ไป
พอผมอ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ทำให้ผมตัดสินใจยากขึ้น ว่าผมควรจะทำอย่างไรดี ผมสงสารเธอจากใจจริง และก็อยากให้ครั้งนี้ เธอได้วาดรูปอย่างที่เธอฝันด้วย เพียงแต่ กฎก็คือกฎ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรให้เธอมีความทรงจำอยู่แบบนี้ต่อไป เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นด้วย มีข้อมูลเกี่ยวกับโลกมนุษย์หลายอย่าง ที่ห้ามเปิดเผยให้นักเรียนที่นี่รู้ มิเช่นนั้นมันอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้
ถ้าแค่ได้ทำตามความฝันอยู่ เธอจะโอเคไหม
ถ้าแค่ทำให้เธอไม่สูญเสียแพชชั่นในการวาดรูป เธอจะโอเคไหม
ตัวผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ผมไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้ยืดเยื้อ เพราะผมไม่รู้ว่าเธอจะเผลอหลุดปากพูดเกี่ยวกับโลกมนุษย์เมื่อไหร่
เพราะฉะนั้นผมควรจะคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะส่งจดหมายฉบับต่อไป
ผมใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ในการเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา เป็นจดหมายฉบับที่ผมมองว่าผมให้ความช่วยเหลือเธออย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ ผมไม่รู้ว่าเธอจะโอเคกับมันหรือเปล่า แต่ถ้าเธอไม่ยอม ผมอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานใหญ่ ซึ่งวิธีการของพวกเขาย่อมเด็ดขาดกว่านี้แน่นอน
ผมแอบนำจดหมายที่แปล (ด้วยเครื่องแปลภาษา) ให้เป็นภาษาเดียวกับที่เธอเขียนมา ไปใส่ไว้ในล็อกเกอร์ตอนที่ไม่มีใครเห็น หลังจากนั้นก็ไปห้องเรียนตามปกติ
วันนี้ก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งของผม D62ชวนผมกับG39ไปชุมนุมนักข่าว กิจกรรมสำหรับเด็กใหม่ของที่นี่ คือแข่งกันเขียนหัวข้อข่าวให้น่าสนใจ ผมก็ไม่ได้ชอบมันมากมายหรอกนะ แต่D62ดูสนุกกับมันดี ส่วนG39เขาเบื่อมากๆเลยล่ะ จนมีคำแย่ๆหลุดมาจากปากเขามากมาย จนพวกเราต้องพาเขาออกมาจากชุมนุมก่อนที่เขาจะโดนรุ่นพี่เล่นงาน
หลังจากที่พวกเราตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ข้อสรุปที่พวกเราได้ตอนนี้ ซึ่งก็คือวันที่4 ของการทดลองเข้าชุมนุมก็คือ ผมกับD62 เลือกชุมนุมนักข่าว ส่วนG39จะเลือกชุมนุมกุนซือล่ะ
ส่วนเรื่องจดหมายฉบับล่าสุดที่ผมส่งให้A14น่ะเหรอ
ในจดหมายของผม บอกไว้ว่า ถ้าA14ยอมรับข้อเสนอให้มาเจอกันตอนเช้าของวันพรุ่งนี้ ที่หน้าหอคอยกลาง
และแล้ววันพรุ่งนี้ที่ว่าก็มาถึง
‘คนที่เขียนจดหมายคือนายเองหรอ ใช้googleแปลภาษาหรือไง อ่านยากมากเลยนะ’
A14ส่งเสียงมาทักทายผม
‘จริงๆมันก็ประมาณนั้นแหละ ว่าแต่เธอโอเคใช่ไหม?’
ผมถาม
‘ใช่… ที่ฉันมาที่นี่วันนี้ เพราะฉันยอมรับข้อเสนอนั้น
ฉันยินยอมให้ลบความทรงจำของฉันค่ะ’
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ