โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )
6.3
26) สวรรค์หรือนรก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเด็กน้อยจากหมู่บ้านแสนกันดารกับกาเอลนั่งคุยกันอยู่นาน เขาเล่าถึงเรื่องราวในวัยเด็กที่เคยมีความสุขก่อนที่ทุกอย่างจะพังลง แต่สิ่งหนึ่งที่เขายังไม่บอกคือเขาเป็นผู้ใช้เวทมนต์ร้ายไปกว่านั้นเขาคือผู้ใช้มนต์ดำแห่งเมืองคาเล
ส่วนเด็กชายออสมอนด์ก็ได้เล่าถึงพ่อแม่ที่แสนดีของเขา และการถูกกลั่นแกล้งการเอารัดเอาเปรียบในหมู่บ้าน แต่เด็กน้อยก็ยังเชื่อ เชื่อมั่นในความดีเขาอยากไปสวรรค์ที่ๆ เดียวที่คิดว่าพ่อกับแม่ของเขาอยู่ เมื่อความตายมาเยือนเขาจะไปที่นั่น หากเขาเป็นคนดีพอ ไม่ว่าโลกจะเลวร้ายเพียงใดเขาก็จะเป็นคนดี และการมาถึงของกาเอลทำให้เขารู้สึกดีใจที่มีเพื่อน อย่างน้อยก็มีคนรับฟังสิ่งที่อยู่ในใจของเขา
“ เจ้าไม่รู้สึกว่าข้าน่ากลัวหรือ ”
กาเอลถาม
พลางยื่นผลส้มหวานฉ่ำให้
“ ใช่ ในตอนแรกท่านดูน่ากลัวอย่างไรไม่รู้ แต่ข้าบอกตนเองว่าอย่ามองคนที่ภายนอก ข้าเองที่โดนดูถูกย่อมเข้าใจความรู้สึกนั้น ”
หนุ่มน้อยเอนหลังพิงโขดหิน
กระถางเผากำยานแขวนกับโซ่เส้นเล็กๆ
พันจากมือเลื้อยสูงขึ้นไปในแขนเสื้อ
“ แต่เวลานี้ข้ากลับไม่รู้สึกว่าท่านน่ากลัวแม้แต่น้อย ”
“ เหตุใดเจ้าจึงไม่อยากให้ข้าเข้าไปในหมู่บ้าน ”
กาเอลเอ่ยถาม
ทั้งที่ความจริงเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเพราะอะไร
เด็กชายนิ่งอึ้งอยู่เป็นครู่
สุดท้ายก็ยอมเอ่ยปาก
“ คนในหมู่บ้านจะทำร้ายท่าน ”
เขากระซิบบอกเสียงแหบพร่า
“ ความจริงแล้วคนในหมู่บ้านก็มิได้ชั่วร้ายถึงเพียงนั้น เพียงแต่ว่าความลำบากได้บีบคั้นพวกเขา ผู้คนที่อดอยากหิวโหยมักจะทำทุกอย่าง ”
“ ข้าเข้าใจแล้ว ”
กาเอลบอก
“ ถ้าเป็นเรื่องนั้นก็ไม่จำต้องกังวล ข้าสัญญาว่าหากเจ้ายังอยู่ในหมู่บ้าน ข้าจะไม่เข้าไป ”
หนุ่มน้อยว่า
พลางหยิบขนมปังออกมาจากเสื้อคลุม
ส่งให้เด็กน้อยเพิ่มอีก
“ ข้าอิ่มแล้ว ”
เด็กชายปฏิเสธ
“ อิ่มก็เก็บไว้กินวันหลังอย่างที่เคยทำสิ ”
“ ไม่เป็นไรข้าหาใหม่ได้ ท่านเองก็ต้องกินมิใช่หรือ ข้าไม่รู้ว่าท่านจะไปไหนแต่หนทางข้างหน้ากันดารนัก เก็บเอาไว้เถิดไม่อย่างนั้นท่านจะกลายเป็นผู้ที่หิวโหย ”
กาเอลหัวเราะหึ
แล้วยัดขนมใส่มือเด็ก
แต่ยังไม่วายปัดฝุ่นจากมือตนเอง
“ สำหรับข้าแล้วเจ้าช่างโสโครกนัก ”
เด็กน้อยก้มมองตนเองที่เนื้อตัวมอมแมมแล้วทำหน้าเศร้า
“ อันที่จริงข้าเคยสะอาดกว่านี้ แต่น้ำในบึงเป็นพิษและน้ำในบ่อของหมู่บ้านก็ไม่เพียงพอสำหรับข้า ”
“ ข้าขอโทษ ”
กาเอลบอก
แต่ไม่มีความสำนึกปนในน้ำเสียงนั้นเลย
“ ไม่เป็นไรข้าชินแล้ว อีกอย่างเราเป็นเพื่อนกันข้าย่อมไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อย ”
“ เอาล่ะนี่ก็สายมากแล้วจงกลับไปเสียเถิดก่อนที่จะมีใครเป็นห่วง ”
“ ข้าไม่มีใครเป็นห่วงหรอก อีกอย่างข้าตัดสินใจแล้วว่าจะไปกับท่านกาเอล ”
เด็กชายว่า
“ เจ้ารู้หรือว่าข้าจะไปที่ใด ”
หนุ่มน้อยถาม
“ ข้าลำบากมามากแล้วไม่ว่าที่ใดข้าก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้นเพราะไม่มีสิ่งใดแล้วที่ข้าจะทนไม่ได้ ”
ออสมอนด์ว่า
“ ข้าจะไปนรก ”
คำนั้นทำเอาเด็กชายตาโต
“ กาเอล ความโชคร้ายในวัยเด็กของท่านไม่ได้แปลว่าท่านต้องลงนรกหรอกนะ บางทีการที่พระเจ้าไม่เคยเหลียวแลอาจเป็นเพราะว่าพระองค์กำลังลองใจเราอยู่ ความดีนั้นล้ำค่าและคงทน ผู้ที่ผ่านการเลือกสรรแล้วเท่านั้นที่คู่ควรกับแดนสวรรค์ ”
กาเอลถอนหายใจ
รู้สึกขมขื่นอยู่ข้างในลึกๆ
“ แท้จริงแล้วข้าไม่สนว่านรกหรือสวรรค์แต่ข้ากลับถูกเลือกให้เดินทางนี้ แต่เอาเถอะบางทีข้าก็สงสัยเช่นกันว่าอย่างข้านี่สามารถเหยียบแดนสวรรค์ได้หรือไม่ ส่วนเจ้าก็กลับเข้าหมู่บ้านไปเสีย ข้าจะยังไม่ไปไหนหากว่าอยากไปกับข้าจริงพรุ่งนี้ให้กลับมาในป่า ถ้าหาข้าพบเจ้าก็ไปกับข้าได้ ”
“ จริงนะ ”
เด็กชายกระโดดลุกขึ้นยืนด้วยความยินดี
“ ท่านต้องสัญญากับข้า ”
“ แน่นอน ”
กาเอลว่า
เด็กชายจึงก้มเก็บข้าวของของตนพร้อมกับบอกว่าเจอกันพรุ่งนี้
“ ดูแน่ใจเหลือเกินนะ ไม่คิดว่าป่าแห่งนี้กว้างใหญ่ไปหรือ ”
หนุ่มน้อยสงสัย
“ ข้าเที่ยวหาของป่า เดินย่ำอยู่ในนี้จนชินแล้ว ”
ออสมอนด์กล่าวอย่างมั่นใจ
กาเอลจึงพยักหน้า
ปล่อยให้เด็กชายตัวน้อยเดินจากไป
โดยไม่หันไปมอง
ออสมอนด์นั้นอารมณ์ดีเป็นที่สุด
เขาเดินลัดเลอะไปตามโขดหิน
พลางส่งเสียงร้องเพลง
เป็นบทเพลงที่สดใสที่สุดในชีวิต
กาเอลหยิบมีดสั้นของตนขึ้นมา
มันถูกปกคลุมด้วยไอสีดำชั่วร้าย
เขาพิจารณามันอยู่เป็นครู่
ก่อนจะหยิบหินก้อนเล็กๆ
ขึ้นมารูดไปตามคมมีด
ด้วยสีหน้าที่นิ่งงัน
เสียงนกประหลาดร้องดังแกรกขึ้นเหนือยอดไม้
เขาเพียงชำเลืองมองด้วยหางตา
แล้วก็ไม่สนใจมันอีก
ส่วนเด็กชายออสมอนด์ก็ได้เล่าถึงพ่อแม่ที่แสนดีของเขา และการถูกกลั่นแกล้งการเอารัดเอาเปรียบในหมู่บ้าน แต่เด็กน้อยก็ยังเชื่อ เชื่อมั่นในความดีเขาอยากไปสวรรค์ที่ๆ เดียวที่คิดว่าพ่อกับแม่ของเขาอยู่ เมื่อความตายมาเยือนเขาจะไปที่นั่น หากเขาเป็นคนดีพอ ไม่ว่าโลกจะเลวร้ายเพียงใดเขาก็จะเป็นคนดี และการมาถึงของกาเอลทำให้เขารู้สึกดีใจที่มีเพื่อน อย่างน้อยก็มีคนรับฟังสิ่งที่อยู่ในใจของเขา
“ เจ้าไม่รู้สึกว่าข้าน่ากลัวหรือ ”
กาเอลถาม
พลางยื่นผลส้มหวานฉ่ำให้
“ ใช่ ในตอนแรกท่านดูน่ากลัวอย่างไรไม่รู้ แต่ข้าบอกตนเองว่าอย่ามองคนที่ภายนอก ข้าเองที่โดนดูถูกย่อมเข้าใจความรู้สึกนั้น ”
หนุ่มน้อยเอนหลังพิงโขดหิน
กระถางเผากำยานแขวนกับโซ่เส้นเล็กๆ
พันจากมือเลื้อยสูงขึ้นไปในแขนเสื้อ
“ แต่เวลานี้ข้ากลับไม่รู้สึกว่าท่านน่ากลัวแม้แต่น้อย ”
“ เหตุใดเจ้าจึงไม่อยากให้ข้าเข้าไปในหมู่บ้าน ”
กาเอลเอ่ยถาม
ทั้งที่ความจริงเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเพราะอะไร
เด็กชายนิ่งอึ้งอยู่เป็นครู่
สุดท้ายก็ยอมเอ่ยปาก
“ คนในหมู่บ้านจะทำร้ายท่าน ”
เขากระซิบบอกเสียงแหบพร่า
“ ความจริงแล้วคนในหมู่บ้านก็มิได้ชั่วร้ายถึงเพียงนั้น เพียงแต่ว่าความลำบากได้บีบคั้นพวกเขา ผู้คนที่อดอยากหิวโหยมักจะทำทุกอย่าง ”
“ ข้าเข้าใจแล้ว ”
กาเอลบอก
“ ถ้าเป็นเรื่องนั้นก็ไม่จำต้องกังวล ข้าสัญญาว่าหากเจ้ายังอยู่ในหมู่บ้าน ข้าจะไม่เข้าไป ”
หนุ่มน้อยว่า
พลางหยิบขนมปังออกมาจากเสื้อคลุม
ส่งให้เด็กน้อยเพิ่มอีก
“ ข้าอิ่มแล้ว ”
เด็กชายปฏิเสธ
“ อิ่มก็เก็บไว้กินวันหลังอย่างที่เคยทำสิ ”
“ ไม่เป็นไรข้าหาใหม่ได้ ท่านเองก็ต้องกินมิใช่หรือ ข้าไม่รู้ว่าท่านจะไปไหนแต่หนทางข้างหน้ากันดารนัก เก็บเอาไว้เถิดไม่อย่างนั้นท่านจะกลายเป็นผู้ที่หิวโหย ”
กาเอลหัวเราะหึ
แล้วยัดขนมใส่มือเด็ก
แต่ยังไม่วายปัดฝุ่นจากมือตนเอง
“ สำหรับข้าแล้วเจ้าช่างโสโครกนัก ”
เด็กน้อยก้มมองตนเองที่เนื้อตัวมอมแมมแล้วทำหน้าเศร้า
“ อันที่จริงข้าเคยสะอาดกว่านี้ แต่น้ำในบึงเป็นพิษและน้ำในบ่อของหมู่บ้านก็ไม่เพียงพอสำหรับข้า ”
“ ข้าขอโทษ ”
กาเอลบอก
แต่ไม่มีความสำนึกปนในน้ำเสียงนั้นเลย
“ ไม่เป็นไรข้าชินแล้ว อีกอย่างเราเป็นเพื่อนกันข้าย่อมไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อย ”
“ เอาล่ะนี่ก็สายมากแล้วจงกลับไปเสียเถิดก่อนที่จะมีใครเป็นห่วง ”
“ ข้าไม่มีใครเป็นห่วงหรอก อีกอย่างข้าตัดสินใจแล้วว่าจะไปกับท่านกาเอล ”
เด็กชายว่า
“ เจ้ารู้หรือว่าข้าจะไปที่ใด ”
หนุ่มน้อยถาม
“ ข้าลำบากมามากแล้วไม่ว่าที่ใดข้าก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้นเพราะไม่มีสิ่งใดแล้วที่ข้าจะทนไม่ได้ ”
ออสมอนด์ว่า
“ ข้าจะไปนรก ”
คำนั้นทำเอาเด็กชายตาโต
“ กาเอล ความโชคร้ายในวัยเด็กของท่านไม่ได้แปลว่าท่านต้องลงนรกหรอกนะ บางทีการที่พระเจ้าไม่เคยเหลียวแลอาจเป็นเพราะว่าพระองค์กำลังลองใจเราอยู่ ความดีนั้นล้ำค่าและคงทน ผู้ที่ผ่านการเลือกสรรแล้วเท่านั้นที่คู่ควรกับแดนสวรรค์ ”
กาเอลถอนหายใจ
รู้สึกขมขื่นอยู่ข้างในลึกๆ
“ แท้จริงแล้วข้าไม่สนว่านรกหรือสวรรค์แต่ข้ากลับถูกเลือกให้เดินทางนี้ แต่เอาเถอะบางทีข้าก็สงสัยเช่นกันว่าอย่างข้านี่สามารถเหยียบแดนสวรรค์ได้หรือไม่ ส่วนเจ้าก็กลับเข้าหมู่บ้านไปเสีย ข้าจะยังไม่ไปไหนหากว่าอยากไปกับข้าจริงพรุ่งนี้ให้กลับมาในป่า ถ้าหาข้าพบเจ้าก็ไปกับข้าได้ ”
“ จริงนะ ”
เด็กชายกระโดดลุกขึ้นยืนด้วยความยินดี
“ ท่านต้องสัญญากับข้า ”
“ แน่นอน ”
กาเอลว่า
เด็กชายจึงก้มเก็บข้าวของของตนพร้อมกับบอกว่าเจอกันพรุ่งนี้
“ ดูแน่ใจเหลือเกินนะ ไม่คิดว่าป่าแห่งนี้กว้างใหญ่ไปหรือ ”
หนุ่มน้อยสงสัย
“ ข้าเที่ยวหาของป่า เดินย่ำอยู่ในนี้จนชินแล้ว ”
ออสมอนด์กล่าวอย่างมั่นใจ
กาเอลจึงพยักหน้า
ปล่อยให้เด็กชายตัวน้อยเดินจากไป
โดยไม่หันไปมอง
ออสมอนด์นั้นอารมณ์ดีเป็นที่สุด
เขาเดินลัดเลอะไปตามโขดหิน
พลางส่งเสียงร้องเพลง
เป็นบทเพลงที่สดใสที่สุดในชีวิต
กาเอลหยิบมีดสั้นของตนขึ้นมา
มันถูกปกคลุมด้วยไอสีดำชั่วร้าย
เขาพิจารณามันอยู่เป็นครู่
ก่อนจะหยิบหินก้อนเล็กๆ
ขึ้นมารูดไปตามคมมีด
ด้วยสีหน้าที่นิ่งงัน
เสียงนกประหลาดร้องดังแกรกขึ้นเหนือยอดไม้
เขาเพียงชำเลืองมองด้วยหางตา
แล้วก็ไม่สนใจมันอีก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ