โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )
6.3
19) แยมราสเบอร์รี่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความภายใต้แสงสลัวเสียงดนตรียังขับกล่อมไม่สิ้นสุด ผู้คนที่อยู่ในโรงน้ำสาแห่งนี้ล้วนอยู่ในอาการมึนเมา ลุ่มหลงอยู่ในมายาที่ไม่อาจหลุดพ้น แต่ทั้งหมดก็ลืมความทุกข์ที่สุมอยู่ในใจไปได้ในชั่วครู่ชั่วยาม
น่าแปลกที่คฤหาสน์แห่งนี้เป็นโรงน้ำชา กลุ่มของฟิโลโซเฟอร์กลับไม่ได้รับน้ำชาแม้แต่น้อย มีเพียงอาหารและน้ำผลไม้ที่ทยอยมาบริการโดยไม่ขาดตกบกพร่อง รวมทั้งสาวงามในชุดบางเบาคอยปรนนิบัติใกล้ชิดจนเลโอน่าต้องเชิญพวกนางออกไป เพราะเกรงเด็กผู้ชายจะทำรุ่มร่ามในที่อันไม่ควร
“ ทำไมล่ะ ทีห้องอื่นยังมีสาวงามคอยรับใช้ นี่เราก็จ่ายกันเต็มราคาเจ้ากลับให้พวกนางไปเสียอย่างนั้น ถ้าเจ้าไม่ชอบวันหลังอย่ามาเลย ทำลายความสุขกันชัดๆ ”
โลธอร์ถึงกับประท้วง
“ ดูเจ้าสิ ตาโตจนจะหลุดออกมานอกเบ้าทำอย่างกับไม่เคยเห็นสตรี กิริยาทรามเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหน ถ้าให้พวกนางอยู่ต่อเกรงว่าเจ้าจะทำตัวรุ่มร่ามจนขายหน้ากันทั้งคณะ ”
เลโอน่าว่า
“ นั่นสิ พวกเราอยู่กันเองก็ดีแล้วอย่าไปรบกวนพวกนางเลย อีกอย่างคาโอเรียก็จัดได้ว่างามมากแม้จะยังไม่สาวนัก ห้องของเราไม่ได้น้อยหน้าหรอก ”
ฟีไลร่าเห็นด้วย
“ นั่นสิห้องนี้มีหญิงงามถึงสามคน โลธอร์เจ้าคงไม่หิวตะกละจนอยากกินคนของดารีลเข้าไปด้วยหรอกนะ ”
อีเลียสสนับสนุน
แต่ด้วยการหยอกเย้ามากกว่าจะเป็นจริงเป็นจัง
ทันใดนั้นเสียงดนตรีได้เปลี่ยนไป
ด้วยท่วงทำนองที่รุนแรงขึ้น
เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมในห้องต่างๆ
เด็กๆ กลุ่มนี้ก็ปรบมือไปกับเขาด้วย
โดยไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกัน
แล้วไม่นานก็มีร่างหนึ่ง
สวมชุดกรุยกรายโหนเถาวัลย์จากเพดานโถงกลาง
ลงมาสู่พื้นที่เต็มไปด้วยกุหลาบหนามแหลม
งดงามราวกับผีเสื้อสยายปีก
ในมือข้างหนึ่งถือขลุ่ยทองคำ
และเริ่มบรรเลงบทเพลงประหลาด
เมื่อเสียงเพลงจากขลุ่ยเริ่มต้น
สิ่งที่ซ่อนอยู่ในหีบและหม้อดินเผาก็เผยกายออกมา
มันคืองูพิษมากมาย
ฟิโลโซเฟอร์ถึงกับนั่งตัวแข็งทื่อ
ตกใจที่มีการแสดงเสียงตายแบบนี้ในคฤหาสน์ของดารีล
ผู้คนรอบด้านต่างส่งเสียงฮือ
เมื่อเห็นร่างงดงามนั้นหยอกล้อเล่นหวาดเสียวกับงูพิษนับร้อย
แม้จะคลุมร่างกายมิดชิด
ใบหน้าสวมหน้ากากและยังมีผ้าคลุมผมอีก
แต่คนผู้นั้นก็ยังงามสะกด
ชายหนุ่มน้อยใหญ่จ้องมองตาค้าง
บางคนได้แต่คิดสงสัย
ว่าต้องจ่ายราคาเท่าใด
จึงจะได้คนผู้นี้มาเคียงข้าง
ฟิโลโซเฟอร์รู้สึกหน้ามืดกับการแสดงที่บ้าระห่ำนี้
จนต้องขอตัวออกไปสูดอากาศด้านนอก
รอจนจังหวะดนตรีเปลี่ยนไป
จึงย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง
ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนใจเสาะ
แต่เป็นเพราะเขารู้ว่า
คนที่กำลังเล่นหวาดเสียวกับฝูงงูนั้นเป็นใคร
เมื่อเด็กชายตัวน้อยกลับเข้าไปร่วมโต๊ะกับเพื่อนอีกครั้ง
เขาก็พบว่าบรรยากาศได้เปลี่ยนไป
กับดนตรีเร้าอารมณ์
และกลุ่มสาวงามผู้สวมหน้ากากกระเบื้องสีขาว
ร่ายรำด้วยท่วงท่าอันยั่วยวน
อยู่กลางลานตรงที่เคยมีงูมากมายเลื้อยออกมา
น่าแปลกที่นักแสดงงูคนเมื่อครู่
ยังคงไม่ไปไหน
ยืนเมามายอยู่ท่ามกลางสาวงามที่กำลังคลุ้มคลั่ง
เขาคนนั้นเอื้อมหยิบจอกเหล้าจากถาด
แต่พลาดหยิบเอาจอกแยมราสเบอร์รี่ขึ้นมาดื่ม
ทำเอาแยมสีแดงสดเปราะเปื้อนริมฝีปาก
แทนที่จะรีบเช็ดออก
เขากลับใช้นิ้วละเลงเล่นต่อเสียอย่างนั้น
เหล่าสาวงามที่ร่ายรำอยู่รอบๆ
เริ่มหันมาสนใจเขา
พวกนางรุมล้อมจูบแยมที่เปรอะเปื้อน
ด้วยอาการหื่นกระหาย
เหล่าผู้ชมที่เป็นบุรุษต่างลุกฮือ
ทำท่าจะพังรั้วกั้นเข้าไปร่วมวงด้วย
ฟิโลโซเฟอร์ถึงกับวางแก้วน้ำผลไม้ดังปึง
เขาผุดลุกขึ้นท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนๆ
เดินลงไปชั้นล่างอันเป็นชั้นเดียวกับที่มีการจัดแสดง
แฝงตัวกับผู้คน
ยืนหลบอยู่หลังฝ้าม่านผืนงาม
ตรงโถงทางเดินมุมหนึ่ง
น่าแปลกที่คฤหาสน์แห่งนี้เป็นโรงน้ำชา กลุ่มของฟิโลโซเฟอร์กลับไม่ได้รับน้ำชาแม้แต่น้อย มีเพียงอาหารและน้ำผลไม้ที่ทยอยมาบริการโดยไม่ขาดตกบกพร่อง รวมทั้งสาวงามในชุดบางเบาคอยปรนนิบัติใกล้ชิดจนเลโอน่าต้องเชิญพวกนางออกไป เพราะเกรงเด็กผู้ชายจะทำรุ่มร่ามในที่อันไม่ควร
“ ทำไมล่ะ ทีห้องอื่นยังมีสาวงามคอยรับใช้ นี่เราก็จ่ายกันเต็มราคาเจ้ากลับให้พวกนางไปเสียอย่างนั้น ถ้าเจ้าไม่ชอบวันหลังอย่ามาเลย ทำลายความสุขกันชัดๆ ”
โลธอร์ถึงกับประท้วง
“ ดูเจ้าสิ ตาโตจนจะหลุดออกมานอกเบ้าทำอย่างกับไม่เคยเห็นสตรี กิริยาทรามเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหน ถ้าให้พวกนางอยู่ต่อเกรงว่าเจ้าจะทำตัวรุ่มร่ามจนขายหน้ากันทั้งคณะ ”
เลโอน่าว่า
“ นั่นสิ พวกเราอยู่กันเองก็ดีแล้วอย่าไปรบกวนพวกนางเลย อีกอย่างคาโอเรียก็จัดได้ว่างามมากแม้จะยังไม่สาวนัก ห้องของเราไม่ได้น้อยหน้าหรอก ”
ฟีไลร่าเห็นด้วย
“ นั่นสิห้องนี้มีหญิงงามถึงสามคน โลธอร์เจ้าคงไม่หิวตะกละจนอยากกินคนของดารีลเข้าไปด้วยหรอกนะ ”
อีเลียสสนับสนุน
แต่ด้วยการหยอกเย้ามากกว่าจะเป็นจริงเป็นจัง
ทันใดนั้นเสียงดนตรีได้เปลี่ยนไป
ด้วยท่วงทำนองที่รุนแรงขึ้น
เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมในห้องต่างๆ
เด็กๆ กลุ่มนี้ก็ปรบมือไปกับเขาด้วย
โดยไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกัน
แล้วไม่นานก็มีร่างหนึ่ง
สวมชุดกรุยกรายโหนเถาวัลย์จากเพดานโถงกลาง
ลงมาสู่พื้นที่เต็มไปด้วยกุหลาบหนามแหลม
งดงามราวกับผีเสื้อสยายปีก
ในมือข้างหนึ่งถือขลุ่ยทองคำ
และเริ่มบรรเลงบทเพลงประหลาด
เมื่อเสียงเพลงจากขลุ่ยเริ่มต้น
สิ่งที่ซ่อนอยู่ในหีบและหม้อดินเผาก็เผยกายออกมา
มันคืองูพิษมากมาย
ฟิโลโซเฟอร์ถึงกับนั่งตัวแข็งทื่อ
ตกใจที่มีการแสดงเสียงตายแบบนี้ในคฤหาสน์ของดารีล
ผู้คนรอบด้านต่างส่งเสียงฮือ
เมื่อเห็นร่างงดงามนั้นหยอกล้อเล่นหวาดเสียวกับงูพิษนับร้อย
แม้จะคลุมร่างกายมิดชิด
ใบหน้าสวมหน้ากากและยังมีผ้าคลุมผมอีก
แต่คนผู้นั้นก็ยังงามสะกด
ชายหนุ่มน้อยใหญ่จ้องมองตาค้าง
บางคนได้แต่คิดสงสัย
ว่าต้องจ่ายราคาเท่าใด
จึงจะได้คนผู้นี้มาเคียงข้าง
ฟิโลโซเฟอร์รู้สึกหน้ามืดกับการแสดงที่บ้าระห่ำนี้
จนต้องขอตัวออกไปสูดอากาศด้านนอก
รอจนจังหวะดนตรีเปลี่ยนไป
จึงย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง
ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนใจเสาะ
แต่เป็นเพราะเขารู้ว่า
คนที่กำลังเล่นหวาดเสียวกับฝูงงูนั้นเป็นใคร
เมื่อเด็กชายตัวน้อยกลับเข้าไปร่วมโต๊ะกับเพื่อนอีกครั้ง
เขาก็พบว่าบรรยากาศได้เปลี่ยนไป
กับดนตรีเร้าอารมณ์
และกลุ่มสาวงามผู้สวมหน้ากากกระเบื้องสีขาว
ร่ายรำด้วยท่วงท่าอันยั่วยวน
อยู่กลางลานตรงที่เคยมีงูมากมายเลื้อยออกมา
น่าแปลกที่นักแสดงงูคนเมื่อครู่
ยังคงไม่ไปไหน
ยืนเมามายอยู่ท่ามกลางสาวงามที่กำลังคลุ้มคลั่ง
เขาคนนั้นเอื้อมหยิบจอกเหล้าจากถาด
แต่พลาดหยิบเอาจอกแยมราสเบอร์รี่ขึ้นมาดื่ม
ทำเอาแยมสีแดงสดเปราะเปื้อนริมฝีปาก
แทนที่จะรีบเช็ดออก
เขากลับใช้นิ้วละเลงเล่นต่อเสียอย่างนั้น
เหล่าสาวงามที่ร่ายรำอยู่รอบๆ
เริ่มหันมาสนใจเขา
พวกนางรุมล้อมจูบแยมที่เปรอะเปื้อน
ด้วยอาการหื่นกระหาย
เหล่าผู้ชมที่เป็นบุรุษต่างลุกฮือ
ทำท่าจะพังรั้วกั้นเข้าไปร่วมวงด้วย
ฟิโลโซเฟอร์ถึงกับวางแก้วน้ำผลไม้ดังปึง
เขาผุดลุกขึ้นท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนๆ
เดินลงไปชั้นล่างอันเป็นชั้นเดียวกับที่มีการจัดแสดง
แฝงตัวกับผู้คน
ยืนหลบอยู่หลังฝ้าม่านผืนงาม
ตรงโถงทางเดินมุมหนึ่ง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ