โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )
6.3
15) ป่วยใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อดารีลได้กลับมาสู่เมืองโอรีเวีย หลังจากหายตัวไปอย่างลึกลับท่ามกลางการโจมตีของเหล่ามังกรดำนั้นสร้างความยินดีให้กับผู้คนมากมาย หนึ่งในนั้นคือจอมเวทวาลานเขาเกือบจะตามไปพบหนุ่มน้อยคนนั้นถึงที่บ้าน ถ้าดารีลไม่ชิงเดินทางมาที่ปราสาทขาวเพื่อพบเขาก่อน
จอมเวทวาลานแทบจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับแต่ด้วยเวลากระชั้นชิด เขาจึงทำได้เพียงสั่งให้คนนำอาหารชั้นดีมาให้ ทั้งหมดถูกจัดวางในถ้วยทองคำที่เลือกสรรมาแล้ว แต่ดารีลก็เอาแต่นั่งนิ่ง ซ่อนใบหน้าเอาไว้ใต้เงาของหมวกฮู้ดสีเข้มไม่ยอมดื่มกินสิ่งใด
“ เด็กเอ๋ย เจ้านั้นฝ่ายผอมลงไปมากเหลือเกินใยไม่รับอะไรเสียบ้าง ของพวกนี้เจ้าเคยชอบมิใช่หรือลองชิมดูสักหน่อย หากว่ามีอะไรไม่ถูกปากข้าเปลี่ยนให้เจ้าก็ได้ ”
จอมเวทผู้สูงศักดิ์กล่าวด้วยน้ำเสียงประจบเอาใจ
หนุ่มน้อยรูปงามส่ายหน้าแทนคำตอบ
ดวงตาของเขาจ้องนิ่งไปยังขอบโต๊ะ
ไม่ใยดีต่ออาหารเลิศรสตรงหน้าแม้แต่น้อย
“ ดารีลเจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะข้าไม่อยากเห็นเจ้าป่วย มีเรื่องทุกข์ใจใดบอกข้ามาสิ อดอาหารประท้วงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เจ้าบอกข้ามาว่ามีเรื่องอันใดกดทับอยู่บนหัวใจแตกร้าวของเจ้า แล้วเรามาหาทางออกของปัญหาเลวร้ายนี้ด้วยกัน ความทุกข์ของเจ้านั้นย่อมเป็นความทุกข์ของข้าด้วย อย่าลืมข้อนี้เสียล่ะ ”
หนุ่มน้อยในชุดคลุมดำยกมือขึ้นกอดอก
ถอนหายใจยาว
แววตานั้นหม่นหมองนัก
แต่เขายังไม่ยอมเอ่ยสิ่งใด
และจอมเวทชราก็ไม่หยุดความพยายาม
“ ในเมื่อเจ้าไม่พูดข้าก็คงต้องเดา วัยหนุ่มสาวจะมีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าความรัก เด็กเอ๋ยข้านั้นผ่านเรื่องนี้มานักต่อนัก เวลานี้เจ้าอาจคิดว่าโลกได้พังทลายลงแล้วเพราะเรื่องนี้หมดสิ้นเสียแล้วทุกอย่าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อเจ้าอายุมากขึ้นเวลานั้นเจ้าก็จะได้รู้ เรื่องเช่นนี้ช่างเล็กน้อยดังฝุ่นผงไร้สาระเกินกว่าที่จะใส่ใจ ”
คำกล่าวเมื่อครู่ทำเอาดารีลถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมา
จ้องหน้าจอมเวทที่เป็นนายของตนนิ่งงัน
“ ข้าคงทำเจ้าโกรธสินะ ใช่ข้าเข้าใจดีตอนข้ายังหนุ่มเลือดยังร้อนข้าก็เคยโกรธ คำสอนพวกนี้ข้าไม่เข้าใจหรอกมันต้องใช้เวลา เจ้าก็แค่ทบทวนดูให้ดี ”
“ ข้าแค่เหนื่อย ไม่ได้เป็นอย่างท่านว่าเสียหน่อย ”
ดารีลเอ่ยขึ้นในที่สุด
เพียงเท่านั้นก็ทำเอาจอมเวทยิ้มหน้าบาน
“ เจ้าโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย ”
วาลานบอกเสียงอบอุ่น
“ แต่ก็นั่นแหละ เพราะความเลินเล่อของข้าทำให้เจ้าต้องสูญเสีย เจ้าหญิงน้อยๆ ผู้เป็นที่รักของเจ้าเรื่องมันหนักหนาทีเดียว ข้าจะไม่โทษเจ้าที่วันนั้นเสียสติจนทำร้ายผู้คน ถึงอย่างไรข้าก็มีส่วนผิดด้วย เจ้าอาจวิตกกังวลเพราะมีคนพยายามใส่ความเจ้า ยิ่งมีเรื่องวันนั้นข่าวลือยุ่งลุกหนัก แต่อย่าห่วงเลยเพียงข้าดีดนิ้วทีเดียวความผิดของเจ้าก็หายลับไปกับสายลม ข้ายืนข้างเจ้า ”
“ ที่ปรึกษาคนสนิทหายไปไหนเสียล่ะ ปรกติข้าไม่เคยเห็นเขาห่างจากกายท่าน ”
ดารีลถามขึ้น
เขาเพิ่งสักเกตเห็นว่าตนเองกำลังอยู่ตามลำพังกับพ่อมดชรา
“ เบรนทรัสไปตรวจงานนอกเมือง เวลานี้มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นมากมาย ข้าจึงอยากให้เจ้าหายป่วยในเร็ววันคนเก่งๆ เรามีไม่มากนัก ประชาชนก็ต้องการความช่วยเหลือ คนเรามีไม่พอ ”
“ ข้าไม่ได้ป่วย ”
ดารีลบอกทื่อๆ
“ เจ้าป่วยใจเด็กน้อย ถ้าไม่รักษาให้ดีร่างกายของเจ้าก็จะป่วยตามไปด้วย เบรนทรัสเป็นคนเตือนข้าเรื่องนี้ ”
วาลานบอก
“ เบรนทรัสอีกแล้ว เขาจะตามจับผิดข้าไปถึงเมื่อไหร่กัน ”
หนุ่มน้อยทำเสียงเบื่อหน่าย
“ อย่าเข้าใจผิดไป แท้จริงแล้วเบรนทรัสเป็นห่วงเจ้ามาก วันที่เจ้าโดนคำสาปสะท้อนกลับเขาเป็นห่วงเจ้ามากเลยนะ เพียงแต่เบรนทรัสเป็นคนเจ้ากฎเกณฑ์มากไปหน่อยเลยไม่ถูกใจเจ้านัก ”
วาลานเตือน
ดารีลกระตุกยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก
แววตาเปล่งประกายปริศนาบางอย่าง
“ เจ้าขำอะไรหรือ ”
จอมเวทวาลานประหลาดใจ
ไม่คิดว่าดารีลที่กำลังเศร้าโศกจะสามารถหัวเราะได้
“ เปล่า ข้าแค่สงสัยว่าท่านคิดจะให้ข้ารับประทานอาหารมากมายพวกนี้ เพื่อว่าข้าจะหายป่วยอะไรก็ตามที่ท่านเรียกนั่น จริงๆ หรือ ”
“ แน่นอนว่าไม่ แต่ข้าอยากให้เจ้าดื่มกินเสียบ้างร่างกายจะได้แข็งแรงก็เท่านั้น ส่วนเรื่องที่เจ้าป่วยทางใจข้ากำลังจะเสนอหนทางหนึ่งให้เจ้า ”
ดารีลเอียงคอน้อยๆ
ข้องใจกับข้อเสนอนั้น
“ เจ้าเสียคนรักไป แน่นอนข้าเข้าใจความเจ็บปวดนั้น และไม่ได้มีเจตนาจะตอกย้ำข้าแค่อยากหาทางช่วย ”
วาลานพูดต่อ
เมื่อเห็นว่าสามารถดึงความสนใจของหนุ่มน้อยคนนั้นได้
“ เจ้าไม่รู้ว่านางไปนรกหรือสวรรค์ส่วนเจ้าก็กำหนดอนาคตไม่ได้ เรื่องที่จะตามไปพบในโลกแห่งความตายความหวังช่างลางเลือนจริงหรือไม่ ”
ดารีลไม่ตอบเรื่องนี้
แต่ใบหน้าของเขาตึงขึ้นเล็กน้อยพอสังเกต
“ แล้วจะรอโชคชะตาไปใยในเมื่อมันมีเอาแน่เอานอนไม่ได้ เจ้าเป็นคนฉลาดมีความสามารถส่วนข้ามีพลังอำนาจมากมายเหตุใดเราไม่ร่วมมือกันล่ะ ”
น้ำเสียงของวาลานนั้นอ่อนโยนและอบอุ่น
“ ท่านปรารถนาสิ่งใด ”
เสียงของหนุ่มน้อยรูปงามนั้นสั่นสะท้านและเบาหวิว
มีความเจ็บปวดมากมายที่พยายามสะกดกลั้นไว้
“ ข้ารู้เจ้าไม่ชอบฝืนธรรมชาติเกลียดการเป็นอมตะ ข้าเองก็เห็นใจเจ้า แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเจ้าเองก็รู้ดีมิใช่หรือจึงได้พยายามปรุงมันขึ้นมา อย่าเสียใจไปเลยนะความผิดพลาดทั้งหมดไม่ได้เกิดจากเจ้าแต่เป็นเพราะไอ้งั่งคนหนึ่ง อย่ากังวลไปเลยข้ามิใช่ครูใหญ่วีแกนไม่มีทางผิดพลาดเช่นนั้นแน่ เจ้าจงปรุงยานั่นขึ้นมาใหม่ด้วยความช่วยเหลือของข้าทุกอย่างจะต้องออกมาดี ไม่เพียงแต่จะช่วยหญิงอันเป็นที่รักของเจ้ามันยังจะช่วยผู้คนมากมายด้วย แล้วอย่างนี้เจ้ายังคิดว่ามีสิ่งใดไม่ถูกต้อง ”
“ ยานั่นไม่อาจเรียกคนตายให้ย้อนคืนมา ”
ดารีลบอกเสียงเย็น
เขากำมือแน่นมันเย็นเฉียบ
แม้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ ข้ารู้ดีเจ้าเด็กน้อย อย่าลืมสิข้าอยู่ข้างเจ้า ด้วยพลังของข้าจะตามหาวิญญาณนางจนพบแล้วพากลับมา หากเราร่วมมือกันไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ ”
ดารีลนิ่งอึ้ง
ใบหน้าซีดเผือด
เขาไม่เอ่ยตอบโต้อะไรออกไปอีก
จอมเวทวาลานจึงกล่าวว่า
“ ข้าไม่บีบคั้นเจ้าหรอก แค่อยากให้เก็บไปคิดดูอีกทีไม่ต้องรีบร้อน ผิดถูกอยู่ที่ใจแค่คิดถึงผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง ไม่มีสิ่งใดเสียหายอย่างแน่นอน ”
จอมเวทวาลานแทบจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับแต่ด้วยเวลากระชั้นชิด เขาจึงทำได้เพียงสั่งให้คนนำอาหารชั้นดีมาให้ ทั้งหมดถูกจัดวางในถ้วยทองคำที่เลือกสรรมาแล้ว แต่ดารีลก็เอาแต่นั่งนิ่ง ซ่อนใบหน้าเอาไว้ใต้เงาของหมวกฮู้ดสีเข้มไม่ยอมดื่มกินสิ่งใด
“ เด็กเอ๋ย เจ้านั้นฝ่ายผอมลงไปมากเหลือเกินใยไม่รับอะไรเสียบ้าง ของพวกนี้เจ้าเคยชอบมิใช่หรือลองชิมดูสักหน่อย หากว่ามีอะไรไม่ถูกปากข้าเปลี่ยนให้เจ้าก็ได้ ”
จอมเวทผู้สูงศักดิ์กล่าวด้วยน้ำเสียงประจบเอาใจ
หนุ่มน้อยรูปงามส่ายหน้าแทนคำตอบ
ดวงตาของเขาจ้องนิ่งไปยังขอบโต๊ะ
ไม่ใยดีต่ออาหารเลิศรสตรงหน้าแม้แต่น้อย
“ ดารีลเจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะข้าไม่อยากเห็นเจ้าป่วย มีเรื่องทุกข์ใจใดบอกข้ามาสิ อดอาหารประท้วงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เจ้าบอกข้ามาว่ามีเรื่องอันใดกดทับอยู่บนหัวใจแตกร้าวของเจ้า แล้วเรามาหาทางออกของปัญหาเลวร้ายนี้ด้วยกัน ความทุกข์ของเจ้านั้นย่อมเป็นความทุกข์ของข้าด้วย อย่าลืมข้อนี้เสียล่ะ ”
หนุ่มน้อยในชุดคลุมดำยกมือขึ้นกอดอก
ถอนหายใจยาว
แววตานั้นหม่นหมองนัก
แต่เขายังไม่ยอมเอ่ยสิ่งใด
และจอมเวทชราก็ไม่หยุดความพยายาม
“ ในเมื่อเจ้าไม่พูดข้าก็คงต้องเดา วัยหนุ่มสาวจะมีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าความรัก เด็กเอ๋ยข้านั้นผ่านเรื่องนี้มานักต่อนัก เวลานี้เจ้าอาจคิดว่าโลกได้พังทลายลงแล้วเพราะเรื่องนี้หมดสิ้นเสียแล้วทุกอย่าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อเจ้าอายุมากขึ้นเวลานั้นเจ้าก็จะได้รู้ เรื่องเช่นนี้ช่างเล็กน้อยดังฝุ่นผงไร้สาระเกินกว่าที่จะใส่ใจ ”
คำกล่าวเมื่อครู่ทำเอาดารีลถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมา
จ้องหน้าจอมเวทที่เป็นนายของตนนิ่งงัน
“ ข้าคงทำเจ้าโกรธสินะ ใช่ข้าเข้าใจดีตอนข้ายังหนุ่มเลือดยังร้อนข้าก็เคยโกรธ คำสอนพวกนี้ข้าไม่เข้าใจหรอกมันต้องใช้เวลา เจ้าก็แค่ทบทวนดูให้ดี ”
“ ข้าแค่เหนื่อย ไม่ได้เป็นอย่างท่านว่าเสียหน่อย ”
ดารีลเอ่ยขึ้นในที่สุด
เพียงเท่านั้นก็ทำเอาจอมเวทยิ้มหน้าบาน
“ เจ้าโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย ”
วาลานบอกเสียงอบอุ่น
“ แต่ก็นั่นแหละ เพราะความเลินเล่อของข้าทำให้เจ้าต้องสูญเสีย เจ้าหญิงน้อยๆ ผู้เป็นที่รักของเจ้าเรื่องมันหนักหนาทีเดียว ข้าจะไม่โทษเจ้าที่วันนั้นเสียสติจนทำร้ายผู้คน ถึงอย่างไรข้าก็มีส่วนผิดด้วย เจ้าอาจวิตกกังวลเพราะมีคนพยายามใส่ความเจ้า ยิ่งมีเรื่องวันนั้นข่าวลือยุ่งลุกหนัก แต่อย่าห่วงเลยเพียงข้าดีดนิ้วทีเดียวความผิดของเจ้าก็หายลับไปกับสายลม ข้ายืนข้างเจ้า ”
“ ที่ปรึกษาคนสนิทหายไปไหนเสียล่ะ ปรกติข้าไม่เคยเห็นเขาห่างจากกายท่าน ”
ดารีลถามขึ้น
เขาเพิ่งสักเกตเห็นว่าตนเองกำลังอยู่ตามลำพังกับพ่อมดชรา
“ เบรนทรัสไปตรวจงานนอกเมือง เวลานี้มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นมากมาย ข้าจึงอยากให้เจ้าหายป่วยในเร็ววันคนเก่งๆ เรามีไม่มากนัก ประชาชนก็ต้องการความช่วยเหลือ คนเรามีไม่พอ ”
“ ข้าไม่ได้ป่วย ”
ดารีลบอกทื่อๆ
“ เจ้าป่วยใจเด็กน้อย ถ้าไม่รักษาให้ดีร่างกายของเจ้าก็จะป่วยตามไปด้วย เบรนทรัสเป็นคนเตือนข้าเรื่องนี้ ”
วาลานบอก
“ เบรนทรัสอีกแล้ว เขาจะตามจับผิดข้าไปถึงเมื่อไหร่กัน ”
หนุ่มน้อยทำเสียงเบื่อหน่าย
“ อย่าเข้าใจผิดไป แท้จริงแล้วเบรนทรัสเป็นห่วงเจ้ามาก วันที่เจ้าโดนคำสาปสะท้อนกลับเขาเป็นห่วงเจ้ามากเลยนะ เพียงแต่เบรนทรัสเป็นคนเจ้ากฎเกณฑ์มากไปหน่อยเลยไม่ถูกใจเจ้านัก ”
วาลานเตือน
ดารีลกระตุกยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก
แววตาเปล่งประกายปริศนาบางอย่าง
“ เจ้าขำอะไรหรือ ”
จอมเวทวาลานประหลาดใจ
ไม่คิดว่าดารีลที่กำลังเศร้าโศกจะสามารถหัวเราะได้
“ เปล่า ข้าแค่สงสัยว่าท่านคิดจะให้ข้ารับประทานอาหารมากมายพวกนี้ เพื่อว่าข้าจะหายป่วยอะไรก็ตามที่ท่านเรียกนั่น จริงๆ หรือ ”
“ แน่นอนว่าไม่ แต่ข้าอยากให้เจ้าดื่มกินเสียบ้างร่างกายจะได้แข็งแรงก็เท่านั้น ส่วนเรื่องที่เจ้าป่วยทางใจข้ากำลังจะเสนอหนทางหนึ่งให้เจ้า ”
ดารีลเอียงคอน้อยๆ
ข้องใจกับข้อเสนอนั้น
“ เจ้าเสียคนรักไป แน่นอนข้าเข้าใจความเจ็บปวดนั้น และไม่ได้มีเจตนาจะตอกย้ำข้าแค่อยากหาทางช่วย ”
วาลานพูดต่อ
เมื่อเห็นว่าสามารถดึงความสนใจของหนุ่มน้อยคนนั้นได้
“ เจ้าไม่รู้ว่านางไปนรกหรือสวรรค์ส่วนเจ้าก็กำหนดอนาคตไม่ได้ เรื่องที่จะตามไปพบในโลกแห่งความตายความหวังช่างลางเลือนจริงหรือไม่ ”
ดารีลไม่ตอบเรื่องนี้
แต่ใบหน้าของเขาตึงขึ้นเล็กน้อยพอสังเกต
“ แล้วจะรอโชคชะตาไปใยในเมื่อมันมีเอาแน่เอานอนไม่ได้ เจ้าเป็นคนฉลาดมีความสามารถส่วนข้ามีพลังอำนาจมากมายเหตุใดเราไม่ร่วมมือกันล่ะ ”
น้ำเสียงของวาลานนั้นอ่อนโยนและอบอุ่น
“ ท่านปรารถนาสิ่งใด ”
เสียงของหนุ่มน้อยรูปงามนั้นสั่นสะท้านและเบาหวิว
มีความเจ็บปวดมากมายที่พยายามสะกดกลั้นไว้
“ ข้ารู้เจ้าไม่ชอบฝืนธรรมชาติเกลียดการเป็นอมตะ ข้าเองก็เห็นใจเจ้า แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเจ้าเองก็รู้ดีมิใช่หรือจึงได้พยายามปรุงมันขึ้นมา อย่าเสียใจไปเลยนะความผิดพลาดทั้งหมดไม่ได้เกิดจากเจ้าแต่เป็นเพราะไอ้งั่งคนหนึ่ง อย่ากังวลไปเลยข้ามิใช่ครูใหญ่วีแกนไม่มีทางผิดพลาดเช่นนั้นแน่ เจ้าจงปรุงยานั่นขึ้นมาใหม่ด้วยความช่วยเหลือของข้าทุกอย่างจะต้องออกมาดี ไม่เพียงแต่จะช่วยหญิงอันเป็นที่รักของเจ้ามันยังจะช่วยผู้คนมากมายด้วย แล้วอย่างนี้เจ้ายังคิดว่ามีสิ่งใดไม่ถูกต้อง ”
“ ยานั่นไม่อาจเรียกคนตายให้ย้อนคืนมา ”
ดารีลบอกเสียงเย็น
เขากำมือแน่นมันเย็นเฉียบ
แม้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ ข้ารู้ดีเจ้าเด็กน้อย อย่าลืมสิข้าอยู่ข้างเจ้า ด้วยพลังของข้าจะตามหาวิญญาณนางจนพบแล้วพากลับมา หากเราร่วมมือกันไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ ”
ดารีลนิ่งอึ้ง
ใบหน้าซีดเผือด
เขาไม่เอ่ยตอบโต้อะไรออกไปอีก
จอมเวทวาลานจึงกล่าวว่า
“ ข้าไม่บีบคั้นเจ้าหรอก แค่อยากให้เก็บไปคิดดูอีกทีไม่ต้องรีบร้อน ผิดถูกอยู่ที่ใจแค่คิดถึงผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง ไม่มีสิ่งใดเสียหายอย่างแน่นอน ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ