กรุ่นไอรักจากตำหนักหวางเฟย
-
เขียนโดย เหวินฉี
วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.51 น.
21 ตอน
0 วิจารณ์
15.09K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563 16.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) แก้แค้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"พระชายา! เมื่อกี๊หม่อมฉันเห็นท่านอ๋องเดินออกไป ดูสีหน้าไม่เป็นสุขเลย มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า" ไป๋ไป๋เดินเข้ามาก่อนจะเห็นว่าตอนนี้เสี่ยวหลานนั่งตาลอยคิดอะไรบางอย่างอยู่
"เปล่า ช่างเถอะ ข้าต้องการล้างเท้า" หานเสี่ยวหลานพูดก่อนจะยื่นเท้าออกไปและแกว่งเล่น
"เจ้าค่ะ" ไป๋ไป๋เอ่ยก่อนจะรีบเดินไปหยิบชามน้ำอุ่นมาวางไว้ข้างล่างเพื่อรองรับเท้าของนาง เธอจึงค่อยๆใช้มือลูบเท้าของหญิงสาวเบาๆ อย่างที่เคยทำมาตลอด
"ว่าแต่ หลินฮั่วล่ะ หลินฮั่วไปไหน?" เสี่ยวหลานถามก่อนจะเอียงคอซ้ายบ้างขวาบ้างมองไปข้างนอกเมื่อไม่เห็นน้องชาย
"กลับไปแล้วเจ้าค่ะ แถมยังฝากบอกพระชายาอีกว่าให้ดื่มชาดอกเหมยบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายสดชื่น" ไป๋ไป๋กล่าวก่อนจะยกเท้าของเสี่ยวหลานขึ้นจากชามน้ำอุ่นและวางลงบนผ้าขาว จากนั้นก็ค่อยๆเช็ดถูให้แห้งและสะอาด
"ดีแล้ว เสร็จนี้ออกไปเก็บดอกเหมยกัน" เสี่ยวหลานพูดเมื่อมันเป็นโอกาสดีๆที่จะได้ออกจากตำหนักไปทำในสิ่งที่ต้องการและน่าตื่นเต้นสักที เข้าวังมาได้ไม่ทันไรก็ถูกขังอยู่ในตำหนักซะงั้น
"เจ้าค่ะ" ไป๋ไป๋ตอบรับก่อนที่จะเก็บชามน้ำอุ่นและผ้าขาวไปวางไว้บนโต๊ะ แม้ว่าเธอจะล้างเท้าแต่นั่นไม่ได้ทำให้น้ำที่ใสสะอาดนั่นขุ่นมัวเลย เห็นได้ชัดว่าเธอเองเป็นคนสะอาดแค่ไหน
"แล้วข้าขอถามเจ้าหน่อยสิ เมื่อคืนนี้หลินฮั่วบอกข้าว่า จวิ้นอ๋องพาผิงเยว่ฉีมาแถมยังบอกว่าเป็นคนรักจริงไหม?" เสี่ยวหลานถามไป๋ไป๋ซึ่งกำลังจัดการบางสิ่งบางอย่างอยู่ ก่อนที่นางจะหันมาตอบ
"จริงเจ้าค่ะ จวิ้นอ๋องประกาศต่อหน้าฮ่องเต้ และต่อหน้าทุกคนว่า นางคือชายาของเขาในอนาคต แล้ววันนี้ก็รับนางเข้าจวน เผลอๆตอนนี้อาจเสร็จแล้วก็ได้" ไป๋ไป๋เอ่ยพร้อมกับหยิบลูกแอปเปิ้ลที่วางอยู่ในถาดขึ้นมากัดกิน
"ตอนนี้จิตใจของชินอ๋องก็คงจะแย่ ได้อยู่ใกล้นางแต่ไม่ได้เป็นเหมือนเดิม เพราะมีข้าเข้ามา ข้าผิดไหมไป๋ไป๋" เสี่ยวหลานพูดอย่างรู้สึกผิดก่อนจะหันไปถามไป๋ไป๋ที่ตอนนี้หยุดเคี้ยวแอปเปิ้ลไป
"ไม่ผิดเลยเจ้าค่ะ.. เราอยู่ของเรา แต่ท่านอ๋องมาฉุดเราไป ต้องโทษเขาที่วางการอะไรไม่ดีตางหาก" เธอตอบด้วยความมั่นใจและพูดจาอย่างฉะฉานแม้ว่าปกติเธอจะไม่ค่อยเป็นเช่นนี้เธอเป็นคนขี้ขลาดและขี้อาย แต่ในเมื่อเธอเองก็ต้องมีหน้าที่ทำให้นางสบายใจ ขืนอยู่อย่างไม่มั่นใจแบบที่เป็นอยู่ตลอด นางคงไม่สามารถให้กำลังใจนายของตนได้
"แต่ข้ารุกล้ำเรื่องผิงเยว่ฉี ซ้ำยังลื้อตำหนักนี้ที่เขาจะมอบให้นางออกอีก" เสี่ยวหลานรู้สึกผิดในใจ เพราะที่เธอทำไปมันก็คือความรัก มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่จะไม่หึงหวงสามี เกิดเป็นผู้ชายแต่มีภรรยาได้หลายคน เกิดเป็นผู้หญิงกลับมีสามีได้เพียงคนเดียว ความเท่าเทียมอยู่ที่ไหนกัน
"แต่ตอนนี้ท่านอ๋องไม่ได้ว่าอะไรนะเจ้าคะ หม่อมฉันกลับมองว่าชินอ๋องผู้นี้โกรธง่ายหายเร็ว แต่นั่นแค่บางเรื่องโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง... ไม่ต้องกังวลไปหรอกเจ้าค่ะ" ไป๋ไป๋พูดเพื่อก่อนจะยิ้มและพยักหน้าเบาๆเพื่อให้เธอเชื่อใจ และไม่คิดมาก
หญิงสาวได้แต่ทำหน้าหงอยไปชั่วครู่ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ไป๋ไป๋ ข้าอยากอาบน้ำ" เสี่ยวหลานพูดพร้อมทำท่าทางเหมือนเหนียวเนื้อเหนียวตัว
"ไม่ได้นะเจ้าคะ อาบน้ำไม่ได้ ยังแสบแผลอยู่ไม่ใช่หรือเจ้าคะ" ไป๋ไป๋ทำท่าทางปฏิเสธก่อนที่เธอจะวางแอปเปิ้ลที่ถูกกัดไปซีกนึงลงและเดินเข้าไปหาเสี่ยวหลานแม้ว่าจะยังเคี้ยวที่อยู่ในปากไม่เสร็จ
"ข้าเป็นหญิงงามนะ ผู้หญิงอย่าทำตัวสกปรก ข้าจะอาบน้ำ ถ้าไม่ได้อาบข้าก็แค่ต้องใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวก็ได้" เสี่ยวหลานพูดก่อนจะมองเนื้อมองตัวของตน
"ก็ได้เจ้าค่ะ แต่ทางที่ดีพระชายาควรล้างยาที่ประคบออกก่อน ถ้าไม่ล้างก็เช็ดออกก็ได้นะเจ้าคะ" ไป๋ไป๋พูด
"อืม ถ้างั้นเจ้าไปเตรียมชุดให้ข้า เตรียมสำรับอาหาร จัดโต๊ะเล็กๆไว้ใต้ต้นดอกเหมยหลังพระราชวัง เราจะไปทานข้าวที่นั่นและไปเก็บดอกเหมยมาทำชากัน" เสี่ยวหลานพูดก่อนจะยิ้มออกไป ไป๋ไป๋รีบพยักหน้าทันที เมื่อเห็นผู้เป็นนายยิ้มได้เธอก็ดีใจมาก จากนั้นก็ทำตามที่เสี่ยวหลานบอก
ภายในตำหนักของจวิ้นอ๋อง เขากับผิงเยว่ฉีแต่งงานกันแล้ว แต่ความสัมพันธ์นั่นไม่ได้เหมือนกับสามีภรรยา ในครั้งนั้นที่เขาทำแบบนั้นไปก็เพื่ออยากให้นางจำยอมจำนนเพื่อเป็นเครื่องมือแก้แค้นของเขาเพียงเท่านั้น
หญิงสาวที่สวมชุดแต่งงานนั่งอยู่บนเตียงด้วยความเรียบนิ่ง ใบหน้าภายใต้ผ้าสีแดงไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ในหัวของเธอเอาแต่นึกถึงเรื่องคืนวันนั้น วันที่ชายาของเสี่ยวฉินโดนแทง ถ้าหากไม่มีนางเข้าไปช่วย ฉางเสี่ยวฉินคงโดนฆ่าไปแล้ว มิหนำซ้ำเยว่ฉีเองก็อาจจะรู้สึกเสียใจลึกๆ แต่ถึงยังไงเธอก็คงไม่มีสิทธิ์คิดเรื่องเช่นนี้ เธอเป็นหญิงที่มีสามีแล้ว จะไปคิดถึงเรื่องของสามีคนอื่นทำไมกัน
"เจ้าเห็นไหมผิงเยว่ฉี ถ้าเขารักเจ้าจริง คงมาฉุดตัวเจ้าไปแต่งกับเขาแล้วจริงไหม" จวิ้นอ๋องกล่าวก่อนที่จะเดินไปนั่งข้างเยว่ฉีพลางเอามือเปิดผ้าคลุมหน้าของเธอออก คำพูดเมื่อกี๊ที่เขาพูดมันทำให้เธอสั่นไปทั่วหน้าอก ถ้าเขารักเธอจริงเขาคงมาฉุดตัวเธอไปแล้วเหมือนที่เขาฉุดเสี่ยวหลาน หญิงสาวกำหมัดแน่นก่อนที่น้ำตาจะไหลอาบแก้มลงหนึ่งหยด
"เจ้าไม่จำเป็นต้องร้องไห้ให้กับชินอ๋อง เจ้ามีข้าอยู่ ข้าจะช่วยเจ้าแก้แค้นเขาเอง" จวิ้นอ๋องเอ่ยก่อนจะลูบผมของนางเบาๆ ตั้งแต่ที่ในหัวคิดแต่เรื่องพวกนี้เขาก็ไม่ค่อยได้แตะเหล้าแม้แต่จอก
"ข้าไม่เข้าใจว่าข้ากำลังทำอะไร ข้าไม่ได้อยากฆ่าเขาให้ตายเสียหน่อย" ผิงเยว่ฉีเอ่ยก่อนจะเอามือกุมหัวตนเอง นางรู้สึกปวดหัวมาก อยากจะกรีดร้องออกมาแรงๆ
"เจ้ารู้ไหมผิงเยว่ฉี แต่ก่อนนี้ชินอ๋องรักเจ้ามาก ขลุ่ยเลานั้นที่ข้าให้เจ้าดู มันก็มาจากชินอ๋อง ทั้งภาพของเจ้าแผ่นนั้นที่เขาวาด ข้าเก็บมันได้ที่หน้าตำหนักของเสี่ยวหลานน่าจะโยนทิ้งแบบไม่ใยดี แล้วบัดนี้เขาก็ไม่ได้ถามหามันเลย" จวิ้นอ๋องพูดพร้อมเน้นน้ำเสียงที่ประโยคสุดท้าย ดวงตาของเยว่ฉีเริ่มแดงก่ำ ยิ่งพูดเรื่องพวกนี้เธอก็ยิ่งอยากแก้แค้น
"แล้วเจ้ารู้ไหม ตั้งแต่ที่หานเสี่ยวหลานเข้ามา นางก็ได้รับทุกอย่างจากเขา สิ่งที่เคยจะเป็นของเจ้าเขาก็มอบให้นาง" เสี่ยวโม่พูดกรอกหูหญิงสาวแม้ว่าความจริงจะบิดเบือนไปนิด ความจริงแล้วเสี่ยวโม่เองก็ไม่ได้รักหานเสี่ยวหลานแม้แต่นิดเดียว ทั้งตอนที่พลาดไปแทงนางคืนนั้นเขาก็ไม่ได้เสียใจ แค่เพียงต้องการทวงคืนสิ่งที่เป็นของตนหรือสิ่งที่โดนแย่งไปเท่านั้น
"เจ้าอยากฆ่าเขาทั้งสองไหมล่ะ การแก้แค้นจะเริ่มขึ้นถ้าเราร่วมมือกัน สนใจหรือเปล่าเล่า?" เสี่ยวโม่พูดพร้อมทั้งจับเส้นผมที่ปล่อยยาวสลวยของนางเล่นอย่างเพลิดเพลิน
"มันเริ่มตั้งแต่ที่เราแต่งงานกันแล้ว" ผิงเยว่ฉีที่ตอนนี้นัยน์ตาแดงก่ำ เธอหันมาเอ่ยด้วยความหนักแน่นบวกกับความเจ็บปวด เสี่ยวโม่จะพูดกรอกหูให้นางเศร้าจนถึงเมื่อไหร่กัน ครั้งนี้เธอสุดจะทนแล้ว
"ดี งั้นทุกอย่างก็ควรจะเริ่มต้นขึ้น" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ตอนนี้ชื่อเสียงของจวิ้นอ๋องเองก็ลดลง เช่นกันหลังจากที่พลาดแทงเสี่ยวหลานไป ข่าวร่ำลือไปทั่วทุกคนรู้ทั่วตำหนัก เขาเองจึงพยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้นโดยทำให้ชินอ๋องต่ำลง ชินอ๋องต้องตายไปข้าง
"เปล่า ช่างเถอะ ข้าต้องการล้างเท้า" หานเสี่ยวหลานพูดก่อนจะยื่นเท้าออกไปและแกว่งเล่น
"เจ้าค่ะ" ไป๋ไป๋เอ่ยก่อนจะรีบเดินไปหยิบชามน้ำอุ่นมาวางไว้ข้างล่างเพื่อรองรับเท้าของนาง เธอจึงค่อยๆใช้มือลูบเท้าของหญิงสาวเบาๆ อย่างที่เคยทำมาตลอด
"ว่าแต่ หลินฮั่วล่ะ หลินฮั่วไปไหน?" เสี่ยวหลานถามก่อนจะเอียงคอซ้ายบ้างขวาบ้างมองไปข้างนอกเมื่อไม่เห็นน้องชาย
"กลับไปแล้วเจ้าค่ะ แถมยังฝากบอกพระชายาอีกว่าให้ดื่มชาดอกเหมยบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายสดชื่น" ไป๋ไป๋กล่าวก่อนจะยกเท้าของเสี่ยวหลานขึ้นจากชามน้ำอุ่นและวางลงบนผ้าขาว จากนั้นก็ค่อยๆเช็ดถูให้แห้งและสะอาด
"ดีแล้ว เสร็จนี้ออกไปเก็บดอกเหมยกัน" เสี่ยวหลานพูดเมื่อมันเป็นโอกาสดีๆที่จะได้ออกจากตำหนักไปทำในสิ่งที่ต้องการและน่าตื่นเต้นสักที เข้าวังมาได้ไม่ทันไรก็ถูกขังอยู่ในตำหนักซะงั้น
"เจ้าค่ะ" ไป๋ไป๋ตอบรับก่อนที่จะเก็บชามน้ำอุ่นและผ้าขาวไปวางไว้บนโต๊ะ แม้ว่าเธอจะล้างเท้าแต่นั่นไม่ได้ทำให้น้ำที่ใสสะอาดนั่นขุ่นมัวเลย เห็นได้ชัดว่าเธอเองเป็นคนสะอาดแค่ไหน
"แล้วข้าขอถามเจ้าหน่อยสิ เมื่อคืนนี้หลินฮั่วบอกข้าว่า จวิ้นอ๋องพาผิงเยว่ฉีมาแถมยังบอกว่าเป็นคนรักจริงไหม?" เสี่ยวหลานถามไป๋ไป๋ซึ่งกำลังจัดการบางสิ่งบางอย่างอยู่ ก่อนที่นางจะหันมาตอบ
"จริงเจ้าค่ะ จวิ้นอ๋องประกาศต่อหน้าฮ่องเต้ และต่อหน้าทุกคนว่า นางคือชายาของเขาในอนาคต แล้ววันนี้ก็รับนางเข้าจวน เผลอๆตอนนี้อาจเสร็จแล้วก็ได้" ไป๋ไป๋เอ่ยพร้อมกับหยิบลูกแอปเปิ้ลที่วางอยู่ในถาดขึ้นมากัดกิน
"ตอนนี้จิตใจของชินอ๋องก็คงจะแย่ ได้อยู่ใกล้นางแต่ไม่ได้เป็นเหมือนเดิม เพราะมีข้าเข้ามา ข้าผิดไหมไป๋ไป๋" เสี่ยวหลานพูดอย่างรู้สึกผิดก่อนจะหันไปถามไป๋ไป๋ที่ตอนนี้หยุดเคี้ยวแอปเปิ้ลไป
"ไม่ผิดเลยเจ้าค่ะ.. เราอยู่ของเรา แต่ท่านอ๋องมาฉุดเราไป ต้องโทษเขาที่วางการอะไรไม่ดีตางหาก" เธอตอบด้วยความมั่นใจและพูดจาอย่างฉะฉานแม้ว่าปกติเธอจะไม่ค่อยเป็นเช่นนี้เธอเป็นคนขี้ขลาดและขี้อาย แต่ในเมื่อเธอเองก็ต้องมีหน้าที่ทำให้นางสบายใจ ขืนอยู่อย่างไม่มั่นใจแบบที่เป็นอยู่ตลอด นางคงไม่สามารถให้กำลังใจนายของตนได้
"แต่ข้ารุกล้ำเรื่องผิงเยว่ฉี ซ้ำยังลื้อตำหนักนี้ที่เขาจะมอบให้นางออกอีก" เสี่ยวหลานรู้สึกผิดในใจ เพราะที่เธอทำไปมันก็คือความรัก มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่จะไม่หึงหวงสามี เกิดเป็นผู้ชายแต่มีภรรยาได้หลายคน เกิดเป็นผู้หญิงกลับมีสามีได้เพียงคนเดียว ความเท่าเทียมอยู่ที่ไหนกัน
"แต่ตอนนี้ท่านอ๋องไม่ได้ว่าอะไรนะเจ้าคะ หม่อมฉันกลับมองว่าชินอ๋องผู้นี้โกรธง่ายหายเร็ว แต่นั่นแค่บางเรื่องโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง... ไม่ต้องกังวลไปหรอกเจ้าค่ะ" ไป๋ไป๋พูดเพื่อก่อนจะยิ้มและพยักหน้าเบาๆเพื่อให้เธอเชื่อใจ และไม่คิดมาก
หญิงสาวได้แต่ทำหน้าหงอยไปชั่วครู่ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ไป๋ไป๋ ข้าอยากอาบน้ำ" เสี่ยวหลานพูดพร้อมทำท่าทางเหมือนเหนียวเนื้อเหนียวตัว
"ไม่ได้นะเจ้าคะ อาบน้ำไม่ได้ ยังแสบแผลอยู่ไม่ใช่หรือเจ้าคะ" ไป๋ไป๋ทำท่าทางปฏิเสธก่อนที่เธอจะวางแอปเปิ้ลที่ถูกกัดไปซีกนึงลงและเดินเข้าไปหาเสี่ยวหลานแม้ว่าจะยังเคี้ยวที่อยู่ในปากไม่เสร็จ
"ข้าเป็นหญิงงามนะ ผู้หญิงอย่าทำตัวสกปรก ข้าจะอาบน้ำ ถ้าไม่ได้อาบข้าก็แค่ต้องใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวก็ได้" เสี่ยวหลานพูดก่อนจะมองเนื้อมองตัวของตน
"ก็ได้เจ้าค่ะ แต่ทางที่ดีพระชายาควรล้างยาที่ประคบออกก่อน ถ้าไม่ล้างก็เช็ดออกก็ได้นะเจ้าคะ" ไป๋ไป๋พูด
"อืม ถ้างั้นเจ้าไปเตรียมชุดให้ข้า เตรียมสำรับอาหาร จัดโต๊ะเล็กๆไว้ใต้ต้นดอกเหมยหลังพระราชวัง เราจะไปทานข้าวที่นั่นและไปเก็บดอกเหมยมาทำชากัน" เสี่ยวหลานพูดก่อนจะยิ้มออกไป ไป๋ไป๋รีบพยักหน้าทันที เมื่อเห็นผู้เป็นนายยิ้มได้เธอก็ดีใจมาก จากนั้นก็ทำตามที่เสี่ยวหลานบอก
ภายในตำหนักของจวิ้นอ๋อง เขากับผิงเยว่ฉีแต่งงานกันแล้ว แต่ความสัมพันธ์นั่นไม่ได้เหมือนกับสามีภรรยา ในครั้งนั้นที่เขาทำแบบนั้นไปก็เพื่ออยากให้นางจำยอมจำนนเพื่อเป็นเครื่องมือแก้แค้นของเขาเพียงเท่านั้น
หญิงสาวที่สวมชุดแต่งงานนั่งอยู่บนเตียงด้วยความเรียบนิ่ง ใบหน้าภายใต้ผ้าสีแดงไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ในหัวของเธอเอาแต่นึกถึงเรื่องคืนวันนั้น วันที่ชายาของเสี่ยวฉินโดนแทง ถ้าหากไม่มีนางเข้าไปช่วย ฉางเสี่ยวฉินคงโดนฆ่าไปแล้ว มิหนำซ้ำเยว่ฉีเองก็อาจจะรู้สึกเสียใจลึกๆ แต่ถึงยังไงเธอก็คงไม่มีสิทธิ์คิดเรื่องเช่นนี้ เธอเป็นหญิงที่มีสามีแล้ว จะไปคิดถึงเรื่องของสามีคนอื่นทำไมกัน
"เจ้าเห็นไหมผิงเยว่ฉี ถ้าเขารักเจ้าจริง คงมาฉุดตัวเจ้าไปแต่งกับเขาแล้วจริงไหม" จวิ้นอ๋องกล่าวก่อนที่จะเดินไปนั่งข้างเยว่ฉีพลางเอามือเปิดผ้าคลุมหน้าของเธอออก คำพูดเมื่อกี๊ที่เขาพูดมันทำให้เธอสั่นไปทั่วหน้าอก ถ้าเขารักเธอจริงเขาคงมาฉุดตัวเธอไปแล้วเหมือนที่เขาฉุดเสี่ยวหลาน หญิงสาวกำหมัดแน่นก่อนที่น้ำตาจะไหลอาบแก้มลงหนึ่งหยด
"เจ้าไม่จำเป็นต้องร้องไห้ให้กับชินอ๋อง เจ้ามีข้าอยู่ ข้าจะช่วยเจ้าแก้แค้นเขาเอง" จวิ้นอ๋องเอ่ยก่อนจะลูบผมของนางเบาๆ ตั้งแต่ที่ในหัวคิดแต่เรื่องพวกนี้เขาก็ไม่ค่อยได้แตะเหล้าแม้แต่จอก
"ข้าไม่เข้าใจว่าข้ากำลังทำอะไร ข้าไม่ได้อยากฆ่าเขาให้ตายเสียหน่อย" ผิงเยว่ฉีเอ่ยก่อนจะเอามือกุมหัวตนเอง นางรู้สึกปวดหัวมาก อยากจะกรีดร้องออกมาแรงๆ
"เจ้ารู้ไหมผิงเยว่ฉี แต่ก่อนนี้ชินอ๋องรักเจ้ามาก ขลุ่ยเลานั้นที่ข้าให้เจ้าดู มันก็มาจากชินอ๋อง ทั้งภาพของเจ้าแผ่นนั้นที่เขาวาด ข้าเก็บมันได้ที่หน้าตำหนักของเสี่ยวหลานน่าจะโยนทิ้งแบบไม่ใยดี แล้วบัดนี้เขาก็ไม่ได้ถามหามันเลย" จวิ้นอ๋องพูดพร้อมเน้นน้ำเสียงที่ประโยคสุดท้าย ดวงตาของเยว่ฉีเริ่มแดงก่ำ ยิ่งพูดเรื่องพวกนี้เธอก็ยิ่งอยากแก้แค้น
"แล้วเจ้ารู้ไหม ตั้งแต่ที่หานเสี่ยวหลานเข้ามา นางก็ได้รับทุกอย่างจากเขา สิ่งที่เคยจะเป็นของเจ้าเขาก็มอบให้นาง" เสี่ยวโม่พูดกรอกหูหญิงสาวแม้ว่าความจริงจะบิดเบือนไปนิด ความจริงแล้วเสี่ยวโม่เองก็ไม่ได้รักหานเสี่ยวหลานแม้แต่นิดเดียว ทั้งตอนที่พลาดไปแทงนางคืนนั้นเขาก็ไม่ได้เสียใจ แค่เพียงต้องการทวงคืนสิ่งที่เป็นของตนหรือสิ่งที่โดนแย่งไปเท่านั้น
"เจ้าอยากฆ่าเขาทั้งสองไหมล่ะ การแก้แค้นจะเริ่มขึ้นถ้าเราร่วมมือกัน สนใจหรือเปล่าเล่า?" เสี่ยวโม่พูดพร้อมทั้งจับเส้นผมที่ปล่อยยาวสลวยของนางเล่นอย่างเพลิดเพลิน
"มันเริ่มตั้งแต่ที่เราแต่งงานกันแล้ว" ผิงเยว่ฉีที่ตอนนี้นัยน์ตาแดงก่ำ เธอหันมาเอ่ยด้วยความหนักแน่นบวกกับความเจ็บปวด เสี่ยวโม่จะพูดกรอกหูให้นางเศร้าจนถึงเมื่อไหร่กัน ครั้งนี้เธอสุดจะทนแล้ว
"ดี งั้นทุกอย่างก็ควรจะเริ่มต้นขึ้น" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ตอนนี้ชื่อเสียงของจวิ้นอ๋องเองก็ลดลง เช่นกันหลังจากที่พลาดแทงเสี่ยวหลานไป ข่าวร่ำลือไปทั่วทุกคนรู้ทั่วตำหนัก เขาเองจึงพยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้นโดยทำให้ชินอ๋องต่ำลง ชินอ๋องต้องตายไปข้าง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ