กรุ่นไอรักจากตำหนักหวางเฟย
เขียนโดย เหวินฉี
วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.51 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563 16.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) สัญญา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ตำหนักของเสี่ยวหลาน เช้าวันนี้เป็นเช้าที่แสนจะสดใสพร้อมเปิดรับวันใหม่ ฤดูใบไม้ผลิเช่นนี้ดอกเหมยกำลังเบ่งบาน เธอรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างในวันนี้อาจจะดีกว่าวันที่ผ่านมา นึกแล้วก็คิดถึงสายตาอาฆาตของชินอ๋อง มันช่างอบอุ่นต่อเธอ
เสี่ยวหลานกำลังดั้นด้นพยายามพยุงร่างของตนลุกขึ้นนั่ง หลังจากที่เธอตื่นแล้ว ก่อนที่ไป๋ไป๋ซึ่งพึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับสำรับอาหารในมือ เมื่อสังเกตเห็นเสี่ยวหลาน เธอจึงรีบวางสำรับลงบนโต๊ะ และเดินมาพยุงช่วยเธออีกแรง
"พระชายาตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่" ไป๋ไป๋ถามเมื่อทุกอย่างเข้าที่แล้ว
"สักพักแล้วล่ะไป๋ไป๋" เธอพูดก่อนจะเอามือลูบผ้าที่บดบังแผลของตนไว้เพื่อดูว่ามันเข้าที่หรือยัง แต่ก็ยังคงเจ็บอยู่
"พี่สาว ข้ามาแล้ว" ดวงตาคู่สวยสองคู่หันไปมองพร้อมกัน เมื่อมีเสียงของใครสักคนเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะเผยให้เห็น หานหลินฮั่ว ซึ่งกำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทีดีใจพร้อมกับขวดโหลอะไรบางอยู่ในมือ
"หลินฮั่ว ท่านมาแล้ว!" ไป๋ไป๋เดินไปจับแขนของเขาด้วยความดีใจ ทั้งสองหันไปยิ้มให้กัน
"นั่นคืออะไรหรอ?" เสี่ยวหลานชี้ไปยังขวดโหลนั่นก่อนที่เธอจะเอ่ยถามไปอย่างสงสัย
"นี่คือสมุนไพรที่หมอหลวงบอกให้เตรียมไว้ให้เพื่อประคบแผลให้พี่สาว" เมื่อหลินฮั่วพูดแบบนั้น เธอก็รู้สึกอาการไม่ดีทันที จะต้องเจ็บเพียงใดกัน เธอเอามือลูบคลำแผลดูอีกครั้งก่อนจะทำหน้าหยี ถ้าหากถูกยาพวกนั้นแม้แต่นิดเธอเองต้องร้องตายแน่ๆ
"ใช่แล้ว ท่านประคบนิดหน่อยก็ดีขึ้น" ไป๋ไป๋พูดเพื่อให้เสี่ยวหลานรู้สึกดี ก่อนจะหันไปยิ้มให้หลินฮั่ว
"เอาล่ะ ไป๋ไป๋ เทผงยาที่ข้าตำผสมกันไว้แล้วในขวดโหลนี่ลงใส่ถ้วย พร้อมกับเติมน้ำร้อนหน่อยๆ คนให้เนื้อมันข้นอย่าให้น้ำเยอะเกินไป ก่อนจะนำมาทา" หลินฮั่วพูด แต่เสี่ยวหลานที่ฟังอยู่กลับรู้สึกกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก เธอใช้ฟันกัดชายผ้าห่มแน่น นึกแล้วก็อยากจะตาย น้ำร้อนๆกับแผลที่พึ่งเย็บมันถูกกันซะที่ไหน
"เอาล่ะ เสร็จแล้ว" ไป๋ไป๋พูดก่อนจะยกถ้วยผสมยานั่นขึ้นและยิ้มกว้างภูมิใจในตัวเองที่ทำสำเร็จ ก่อนที่สายตาสองคู่จะจ้องมาที่เธอพร้อมกันเสี่ยวหลาน นั่นราวกับว่าเธอกลายเป็นนักโทษไปแล้ว แถมกำลังโดนบังคับให้เอาคองัดไม้จิ้มฟันตายเสีย
"เอาล่ะ ถือไว้นะ" หลินฮั่วหันไปบอกกับไป๋ไป๋นางก็พยักหน้าตอบรับทันที ก่อนที่เขาจะพับแขนเสื้อขึ้น พร้อมกับใช้สองนิ้วแตะลงไปที่เนื้อยาเบาๆ
"ท่านพี่โปรดถอดผ้าคลุมออก ข้าจะทาแผลให้ท่านได้" บาดแผลของนางอยู่กลางอก เพียงนอกถอดออกก็สามารถทาได้ แต่ตอนนี้นางกลับกำลังคลุมผ้าแบบมิดชิดด้วยความกลัว
"ไม่ๆๆๆ!! ยังไงข้าก็ไม่ทา!" นางพูดพร้อมกับส่ายหัวไปมา นางจะไม่มีวันให้ใครได้เห็นไหล่เห็นอะไรต่างๆของตนเด็ดขาด คนที่จะเห็นได้ก็ต้องมีเพียงแค่คนที่นางรักเท่านั้น
"พระชายา ทำไมท่านถึงปฏิเสธ.." ไป๋ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนคนงอนก่อนที่นางจะเงยหน้าขึ้นมองหลินฮั่วที่ตอนนี้ก็มองนางเช่นกัน พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงแต่ต้องฟังเหตุผลจากเสี่ยวหลาน
"จะไม่มีใครแตะต้องเนื้อตัวข้าได้! ข้ายังอยากบริสุทธิ์!! พวกเจ้ารู้ไหมเล่า!" นางกอดอกก่อนจะเบือนหน้าหนีไปด้วยความโกรธ
"แต่หมอหลวงตอนเย็บแผลยังไงก็เห็นเนื้อตัวของพระชายานะเจ้าคะ....." ไป๋ไป๋พูดเบาก่อนจะก้มหน้างุด นางกอดถ้วยยาเอาไว้ระดับเอว เสี่ยวหลานถึงขั้นต้องหันกลับมามอง
"ย..อย่างงั้นหรอ.. ต..แต่!ช่างเถอะถึงยังไงตอนนั้นข้าก็ไม่รู้นี่นา!" นางเบือนหน้าหนีไปอีกครั้ง
"อย่างน้อยข้าก็เป็นหมอเหมือนกัน อีกอย่างข้าก็สายเลือดเดียวกันกับท่าน ข้าว่าข้าทำได้" หลินฮั่วพูด เขาได้แต่จ้องยาที่ถูกป้ายบนมือของตนและใบหน้าอันไม่พอใจของเสี่ยวหลานไปมา
"ถึงยังไงก็ไม่ได้!! มันไม่ได้ๆๆๆ" เธอแถ
"แล้วพี่สาวจะทำยังไง ในเมื่อข้ากับไป๋ไป๋ทำอะไรไม่ได้เลย นางก็กลัวแผลอีก" หลินฮั่วมองไปที่ไป๋ไป๋ ก่อนที่นางจะทำตาโตและก้มหน้างุดหนีอีกครั้ง
"ข้าไม่ได้บอกซักหน่อยว่าจะให้ไป๋ไป๋ทำ แม้แต่ผู้หญิงข้าก็ไม่อยากให้เห็น!" นางพูดก่อนจะหันไปมองหลินฮั่วกับไป๋ไป๋
"แล้วท่านจะทำยังไง" หลินฮั่วถาม ตอนนี้เขาหมดปัญญาแล้ว
"ให้เขาทำ!" เธอชี้ไปยังชินอ๋อง เมื่อเห็นว่าเขากำลังเดินเข้ามา แม้แต่เขาเองก็ต้องตกใจ เมื่อทุกคนต่างจ้องไปที่เขา เขากลายเป็นจุดสนใจซะเมื่อไหร่ เขาชี้มือเข้าหาตัวเพื่อความแน่ใจว่าใช่เขาไหม ก่อนจะมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใคร
"อื้ม!" ทั้งสามคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
ชินอ๋องเดินเข้ามาด้วยท่าทีที่ทำตัวไมาถูกเก้ๆกังๆ หมดกันความโหดร้ายนี้
"มีอะไร!?" เขาพูดก่อนจะกอดอกมอง เหมือนไม่สบอารมณ์ แต่เสี่ยวหลานกลับแอบหัวเราะเล็กๆน้อยๆ
"ข้าได้เอายานี้มาให้แล้ว ฝากพี่สาวด้วยล่ะ" หลินฮั่วตบแขนของชินอ๋องไปหนึ่งทีทำเหมือนสนิทสนมกัน ก่อนจะเดินออกไป ไม่เคยมีใครทำเช่นนี้กับเขามาก่อนอย่างที่บอก ไม่นานนักถ้วยยาก็อยู่ตรงหน้าเขา ไป๋ไป๋ยื่นมันให้พร้อมกับพยักหน้าหนึ่งทีเหมือนสื่อเขาหยิบเอา ก่อนที่เขาจะตัดสินใจรับเอาถ้วยยานั่นมา
สุดท้ายภายในห้องก็มีเพียงแค่เขากับเธอ ชินอ๋องนั่งลงบนเตียงข้างๆเสี่ยวหลานที่ตอนนี้กำลังทำตาปริบๆ นางไม่ได้ต่อต้านแม้แต่นิดเลย
"ถอดผ้าคลุมออกสิ.." เสี่ยวฉินพูดก่อนจะหันหน้าไปที่อื่น เขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังวิ่งแล่นอยู่ในอกของตัวเอง เหงื่อแทบแตก รู้สึกร้อนผ่าวในอก
"ถอดแล้ว" นางพูดก่อนจะนอนลงเพื่อให้ง่ายต่อการทาแผล แต่ทว่าเขากลับนั่งนิ่งอยู่นานไม่ยอมหันมา เสี่ยวหลานจึงนึกขำในใจ เธอพอจะรู้
"จะไม่ทาหรือไง?" เสี่ยวหลานพูดก่อนจะค่อยๆหลับตาลง มาถึงขั้นนี้แล้วเขาจึงตัดสินใจหันไปมองนาง พยายามเลื่อนสายตาไปที่อื่นบ้าง ก่อนจะก้มลงค่อยๆเริ่มทา มือของเขาสั่นระริกระรี้เมื่อมันจะแตะลงบนผิวขาวของสาวงามเช่นเสี่ยวหลาน เขาจึงพยายามควบคุมนิ้วของตนและตั้งสติ
แต่ทว่าสายตาคู่สวยกลับจ้องมองที่นัยน์ตาดำขลับของเขาแทบไม่ละ ก่อนที่เธอจะยิ้มเบาๆ มือหยาบกระด้างของเขาก็ค่อยๆลูบบนแผลของเธอไปมา แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิด มันคงจะเป็นเพราะเขา เขาอ่อนโยนกับเธอ แค่มีเขาอยู่เธอก็ไม่กลัวอะไร
"ท่านรู้ไหมมีเพียงท่านเลยนะที่เห็นเรืองร่างของข้า" เสี่ยวหลานพูดเบาๆ ก่อนจะนึกเรื่องที่ไป๋ไป๋พูดว่าหมอเห็นเรือนร่างของเธอแล้ว ก็ทำหน้าหยีออกไป
"หมอหลวงเห็น" เขาพูดแบบเรียบๆ เธอกำลังคิดเรื่องนั้นแต่ชินอ๋องกลับพูดมันออกมาอีก เธอจึงทำหน้าบึ้งและตอกกลับไป
"ไม่นับ! นั่นมันความจำเป็น! แต่ข้าขอสัญญานะว่าจะไม่ให้ใครเห็นเรือนร่างของข้าอีกจะมีแค่ท่านเท่านั้นที่เห็น แล้วข้าจะพยายามไม่บาดเจ็บเพื่อให้หมอหลวงเห็นอีก!"
"สัญญาหรอ?" เมื่อเสี่ยวหลานพูดถึงเรื่องนั้น มันก็ทำให้ภาพผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขาลอยขึ้นมา เขาละมือที่กำลังแตะที่ผิวหนังของนางขึ้นก่อนจะหยุดทา
เธอเงียบไปเมื่อเห็นเขาถามแปลกๆแล้วทุกอย่างก็หยุดไป ก่อนที่เธอจะตอบ "ใช่.. ข้าสัญญากับเจ้าไง"
"ทำให้ได้ล่ะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งตึงและน่ากลัวขึ้นจากที่ไม่ได้ยินมานาน ก่อนที่เสี่ยวฉินจะลุกขึ้นยืนมองนางซักพัก แล้วหันไปวางถ้วยยาลงบนโต๊ะ พร้อมทั้งเดินจากไปเลย ทิ้งไว้เพียงเสี่ยวหลานที่ตอนนี้กำลังพยายามคลุมผ้าคลุมบนเรือนร่างของเธอ เธอพอที่จะคิดได้แล้วแหละว่าทำไมเขาถึงเป็นเช่นนี้
ในหัวของชินอ๋องมีแต่ผิงเยว่ฉีไปหมด เขายังไม่ลืมนาง ที่วันนี้นางเองต้องได้แต่งเข้าจวนจวิ้นอ๋อง
เมื่อพูดถึงอะไรซักอย่างเขาก็จะมักนึกถึงนาง ไม่เป็นอันจะกินไม่เป็นอันจะทำงาน มันเหมือนว่าเขาล้มเหลวไปแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ