ภูผาคอยตะวัน : My Sweet Sunshine [แต่จบแล้ว]

-

เขียนโดย พร่างพระพาย

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 20.00 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.10K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 05.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) 'ผู้ชายอะไร... ตาสวยชะมัด!'

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
นิยายแต่งจบออกเป็น eBook แล้วค่ะ
 

เจ้าของคำถามเป็นของชายหนุ่มร่างสูงผิวเข้ม ตาคม ผมดำตรงหน้า หลังจากที่เธอหันกลับไปมองตามเสียงทุ้มเบา .. สุภาพ
ร้อยตะวันมองอย่างพิจารณาเขาอยู่เพียงครู่ ด้วยความหงุดหงิดอารมณ์เสียที่เริ่มสะสมมาเรื่อย ๆ แต่อะไรบางอย่างที่เพียงแว่บแรกที่ผ่านสัมผัส เธอก็รู้สึกได้ว่าเขานั้นมีความจริงใจในการช่วยเหลือเธอโดยไม่ได้มีความหมายหรือนัยใด ๆ ที่จะแอบแฝงอยู่ด้วยอย่างแน่นอน 
"ค่ะ..." ข่มเสียงให้อ่อนกว่าที่ตั้งใจไว้ 
"ขับ ๆ มาอยู่ดี ๆ มันก็สำลักสองสามทีแล้วก็ดับไปเลย ลองสตาร์ทใหม่เท่าไหร่ก็ไม่ติด" 
ตอบด้วยน้ำเสียงท้อใจในประโยคต่อมา วันนี้ดันมีประชุมที่คณะและใช้เวลานานกว่าที่คิดไว้ในการนั้น เธอเองก็ทั้งเหนื่อยและหิว พอขับรถออกมาไม่ทันพ้นรั้วมหาวิทยาลัยก็มาเจอกับปัญหารถเสียอีกซิ 
"ขอผมดูหน่อยได้ไหม?" 
คนตัวตัวสูง ตาคม ที่หญิงสาวเดาได้ในทันทีว่าเขาต้องมีสายเลือดชาวปักษ์ใต้อย่างแน่นอนเอ่ยอาสาเสียงเรียบ ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง เพราะไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถช่วยเธอได้มากน้อยเท่าไร แม้ไม่บ่อยนักที่รถจอมเกเรจะแผลงฤทธิ์นอนนิ่งไม่ยอมวิ่งซะเฉย ๆ และมักจะเคยมีหนุ่มน้อยใหญ่มาทำทีดูแลทักทายจะซ่อมแซมให้ แต่ก็เพียงเข้ามา 'ดู - แล' จริง ๆ เพราะเขาเหล่านั้นก็ไม่เคยช่วยอะไรได้เลยนอกจากจะนั่งรอช่างเป็นเพื่อนกับเธอ
เขาดูจะใจเย็นระหว่างที่รอคนที่เผลอขมวดคิ้วตัดสินใจ ก่อนที่คนร่างเล็กกระจ้อยจะยอมถอยหลบออกมาให้คนตัวโตตรวจดูรถได้สะดวก ๆ
เห็นมือกว้าง ๆ จับขยับโน่นนี่เล็กน้อยก่อนที่จะบอกให้เธอไปทดลองสตาร์ทรถ ร้อยตะวันขยับตัว แต่ในใจกลับคิดว่าอย่างไรเสียเขาก็คงไม่ได้ช่วยอะไรได้แน่ ๆ แต่ที่ต้องทำตามก็เพราะไม่อยากจะให้เขาเสียน้ำใจที่ได้อุตส่าห์แวะเข้ามาช่วย ...อีกอย่างหนึ่ง... ตอนนี้เธอไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับใครในขณะที่ยังเหนื่อย ๆ อยู่นักหรอก
เสียงเครื่องยนต์ครางแกว่ง ๆ แล้วก็ดับไปดังคาด เจ้ารถจอมเกเรไม่ยอมง่าย ๆ จริง ๆ ด้วย แต่อย่างน้อยอาการสำลักไม่มีแล้ว และถึงแม้จะอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมติด นอกจากเสียงครางที่ยาวกว่าเดิมเท่านั้น … เขาก้มลงดูที่เดิม และก็ลงมือขยับอะไรอีกนิดหน่อย 
เธอแอบถอนใจ... นี่เขาคิดว่าตัวเองมีคาถาวิเศษหรือไงกันน่ะ? .. กะอิแค่แตะโน่นนิด... ขยับนั่นหน่อย
แล้ว?... ต้องเป่ามนต์คาถาบทไหนให้รถมันติดง่าย ๆ กันเล่าเนี่ย!
คนถูกนินทา (ในใจ) เงยหน้าขึ้นมามอง... 
บ้าน่า!!... เธอนินทาเขาในใจใช่ปะ? … ไม่ได้เผลอพูดมันออกไปจริง ๆ หรอก .. ใช่ไหม!? 
กะพริบตาถี่ ๆ ติด ๆ กันเพราะตกใจหน่อย ๆ สุดท้ายก็หยุดแล้วได้แต่มองเขาด้วยดวงตากลมโตแบบอึ้ง ๆ 
ดวงตาคมตวัดขึ้นมามองสบตาใต้ขนตางอนหนาที่มองมาอยู่พอดี ..
อุปทาน?.. 
เธอเหมือนกับมองเห็นมีรอยเข้มเพิ่มขึ้นอีกบนใบหน้าเขา .. แต่ก็แค่!!.. ชั่วแว่บเดียวเท่านั้นนะ!!
"ลองสตาร์ทอีกครั้งครับ" เขาเอ่ยมา ซึ่งเธอทำตามอย่างว่าง่ายอีกครั้งเพราะรู้สึกเขินเหมือนถูกโดนเขาจับได้ว่าแอบนินทาเขาอยู่ในใจอย่างไรไม่รู้ ... และคราวนี้เจ้ารถเกเรก็หายงอนล่ะ!? เพราะมันสตาร์ทติดแล้วนิ?!...
อะ... เขาเป่าคาถาบทไหนนี่...?!? 
ชะโงกหน้าไปมองเขาด้วยดวงตากลมโตอย่างแปลกใจ แกมดีใจ จังหวะเดียวกันกับที่เขาก็เงยหน้ามาสบตากับเธออีกครั้ง ต่างคนต่างชะงักงันกันแว่บเดียว .. เธอเองที่ชะงักงันเพราะจู่ ๆ หัวใจมันดันรู้สึกกระตุกวูบวับแบบแปลก ๆ 
'ผู้ชายอะไร... ตาสวยชะมัด!'
"สายส่งน้ำมัน..มันหลวม" เขาเบือนหลบตาเธอไปก่อน ก่อนที่จะเอ่ยเฉลยปัญหาเครื่องยนต์ขณะที่เอื้อมมือเพื่อจะปิดฝากระโปรงรถให้อย่างเรียบร้อย
"ขอบคุณ...คุณมากนะคะ"
ยิ้มจนตายิบหยี ... ซึ่งเป็นกิริยาที่มักจะทำเป็นประจำให้กับคนที่ค่อนข้างจะสนิทชิดเชื้อกันจริง ๆ เท่านั้น และครั้งนี้เธอก็ไม่ทันรู้ตัวว่าเผลอแสดงกิริยานี้ออกไป ... แหม … ก็ต้องดีใจสิ! ที่จะไม่ต้องติดแงกเพื่อรอช่างประจำมาซ่อมให้ ซึ่งคงต้องใช้เวลา และไม่รู้ว่าจะต้องรออยู่อีกนานแค่ไหนกว่าช่างจะมาถึง
ความดีความชอบจึงควรตกเป็นของเขาที่มีน้ำใจแวะเข้ามาให้การช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ .. มันก็สมควรแล้วนี่!!
"คุณกลับบ้านอย่างไรคะ .. ให้ฉันไปส่งคุณเอาไหม?" 
ถามทันทีหลังจากเห็นชายหนุ่มหันไปเอื้อมคว้าตำราเรียนที่วางไว้บนหลังคา ก่อนจะลงมือ (เป่ามนต์) ซ่อมรถให้ และจากที่สังเกตดูแล้ว … เขาคงไม่ได้ขับรถมาแน่นอน
"อย่าเลย วันนี้ฝนทำท่าจะตกและรถก็คงจะติดหนักตามเคย คุณกลับไปเถอะ ผมกลับเองได้" เขาตอบกลับมาอย่างไม่ค่อยใส่ใจในน้ำใจของเธอบ้างเลยแฮะ!! .. แต่จากประโยคของเขา คนฟังก็ยังดันตีความได้ว่า เขาเองน่าจะเป็นห่วงว่าเธออาจต้องติดอยู่กับการจลาจรจารจลอันหฤโหดหลังฝนตก อย่างที่รู้กันทั้งในและร่ำลือกันไปถึงต่างประเทศแล้วในเรื่องการจราจรติดขัดเข้าขั้นวิกฤติของประเทศนี้ ที่พี่ไทยเรานำมาอยู่อันดับต้น ๆ ไม่แพ้ชาติใด
"แล้วคุณกลับทางไหนล่ะคะ เผื่อจะเป็นทางเดียวกัน อย่างน้อยให้ฉันไปส่งคุณลงที่ป้ายรถเมล์หน้ามหาลัยนี้ก็ได้ค่ะ" 
ยังคงตื้อต่อ เพราะถึงอย่างไรเขาก็มีน้ำใจไมตรีที่แวะช่วยเหลือในเรื่องนี้ แถมน้ำเสียงฟังดูยังเป็นกันเองขึ้นหลังจากคะเนเอาว่าเขาคงต้องเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยนี้แน่นอน ... แต่คงไม่ใช่คณะเดียวกันกับเธอแน่ เพราะไม่เคยคุ้นหน้าเขามาก่อนเลย
"ไม่ต้องหรอก .... ป้ายรถเมล์อยู่อีกไม่ไกลเท่าไร" 
เขาตอบก่อนจะเดินออกไปเพื่อเป็นการตัดบท
"คุณคะ!!...." 
หญิงสาวรีบชะโงกหน้าออกมาร้องเรียกเมื่อนึกขึ้นมาได้
"คุณชื่ออะไรล่ะคะ?" 
ถามแล้วไม่รู้ตัวเองว่าทำไมต้องกลั้นหายใจเพื่อรอคำตอบ เพราะชายหนุ่มหันมามองข้ามไหล่ .. ท่าทางเขาเหมือนจะลังเลอยู่นิด ๆ ว่าจะบอกเธอดีหรือไม่

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา