รักวุ่นวายของนายผีหื่น
-
4) ตอนที่ 2 สูงยาวเข่าดีแถมฟรีหุ่นแซ่บ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 2 สูงยาวเข่าดีแถมฟรีหุ่นแซ่บ!
อยู่ๆ ก็มีลมพัดแรง กระแทกแก้วและของที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงผู้ป่วยตกลงพื้นกระจายเต็มไปหมด ลมแรงๆ นั่นทำให้ผีหนุ่มสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“โอ๊ะ! โทษที ลืมปิดหน้าต่าง” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้ความกังวล
เธอค่อยๆ ลุกขึ้นเดินลงไปข้างเตียงอีกฝั่งเพื่อที่จะเอื้อมมือไปปิดหน้าต่างให้สนิท และเมื่อไร้แรงลมเข้าพัดผ่าน เธอก็หันมาถามวิญญาณตนนั้นต่อ
“ว่าแต่นายชื่ออะไรนะ?” เธอมองไปยังผีเจ้าของร่างชายหนุ่มสูงโปร่งผมสั้น ที่ยืนอยู่ข้างๆ เตียงเธอ
“อืมมมมมมมมมมม………….…..”
“อืมมมมม………..”
“เอออ……………..”
“จำอะไรไม่ได้เลยแฮะ แปลกจัง”
วิญญาณหนุ่มทำหน้าถอดสี คิ้วขมวดจนแทบจะชนกัน เมื่อเขาเริ่มสงสัยในความจำของตัวเองก็ยิ่งขมวดหนัก ชายหนุ่มกุมขมับด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อหวังว่าจะช่วยเค้นความจำในส่วนลึกออกมาซักนิดก็ยังดี แต่ไม่ว่าจะบีบเค้นสมองสักแค่ไหน เขาก็ไม่มีวี่แววว่าจะนึกอะไรเพิ่มได้เลย
แต่อยู่ๆ
!!!
จากที่เดินวนไปวนมารัวๆ เขาก็หยุดนิ่งเหมือนคิดอะไรออก ภาพเหตุการณ์นั้นแทรกผ่านสมองโปร่งใสเข้ามาในชั่วขณะ
เอ๊ะทำไมเราเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้กำลังร้องไห้ ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันไม่นาน แต่เหมือนรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าของเธอเศร้าหมองมีน้ำตาซึมออกมาจากนัยน์ตากลมโตนั่น
และ…
เธอกำลังพูดว่าอะไรอยู่นะ…
.
..
…
วิญญาณหนุ่มพยายามปล่อยความรู้สึกเพื่อย้อนกลับไปในความทรงจำนั้นให้ได้มากที่สุด แต่แล้วก็ต้องตื่นจากภวังค์ทันที เพราะเสียงเรียกจากหญิงสาวคนในความจำ ที่ตอนนี้นั่งอยู่ข้างเตียงและกำลังปลุกให้เขาตื่น
“นี่นาย! เป็นอะไรไหม?”
“อยู่ๆ ก็ยืนอึ้งไปซะนาน นายเป็นผีตายด้วยโรคสมองเสื่อมหรอกรึ งี้ก็คงช่วยงานฉันไม่ได้แล้วสินะ” หญิงสาวนั่งกระพริบตานิ่งๆ โต้ตอบพร้อมกับท่าที่ที่ดูเฉยเมย ทันทีที่รู้ว่าเขาไม่น่าจะมีประโยชน์
“ไม่ใช่เฟ่ยยยย ไม่เคยได้ยินที่เขาเล่ากันว่า ถ้าอยู่ๆ ร่างเราตายกระทันหัน ผีจะจำตัวเองไม่ได้ว่าเป็นใคร และไม่รู้ตัวว่าตายไง ไงเล่า”
“เคยดูปะ หนังผีฮ่องกงน่ะ ว่าแต่เมื่อกี้เธอบอกว่าช่วยงอน หรือช่วยเงินอะไรนะ?” วิญญาณหนุ่มทำหน้าลนลานรีบอธิบายกลับ
“อ่อ…!”
“ว่าแต่นายมาทำไม” เธอปัดคำเขาไม่ตั้งใจว่าจะตอบ แล้วถามสวนกลับไปทันที
“ก็บอกว่าจำไม่ได้ไงเฟ่ย นี่เธอไม่ฟังเลยใช่ไหม” วิญญาณชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอเริ่มหงุดหงิด
“ฮ่าๆ เอาหน่าๆ ลืมๆ ตายแล้วยังขี้โมโหได้อีกแฮะ ความรู้ใหม่”
“โอเคๆ งั้นฉันเรียกนายว่าคุณผีละกัน ส่วนฉันชื่อมินอา ยินดีที่ได้รู้จัก^^”
มินอากล่าวเริ่มต้นแนะนำตัว จากใบหน้าที่ดูเฉยๆ ไร้ความรู้สึก แต่พอเธอยิ้มอย่างจริงใจจนตาเป็นรูปสระอิเท่านั้นแหละ ก็กลับมาดูเป็นมิตรสดใสหยั่งกับมีแสงเปร่งประกายออร่าในตัวแบบนางฟ้าใจดี!
อ่า เธอยิ้มแล้วดูน่ารักจัง โลกสดใสขึ้นมาในทันตา
“^_^”
คุณผีเห็นแบบนั้นก็ถึงกับเคลิ้มหลง รีบยื่นมือจะมาเช็คแฮนด์ทำความรู้จักตามมารยาทกับเธอ ทั้งๆ ที่เธอก็ไม่ได้ยื่นมือกะไปจับอะไรใดๆ แต่ยังไม่ทันจะได้จับมือกระชับความสัมพันธ์ เขาก็ต้องวื้ดล้มลงหน้าจิ้มพื้นเสียงดังสนั่นไปทั่วโรงพยาบาล!
“โคร่มมมมมมมมมมมม”
“ทำอะไรอะของนายหน่ะ! อยู่ๆ ก็ยื่นมือ โน้มตัวเข้ามาซะเยอะ นายสัมผัสร่างมนุษย์ได้ซะที่ไหนกันเล่า”
“ว่าแต่คนอื่นคงไม่ได้ยินเสียงนายล้ม เหมือนที่ฉันได้ยินใช่ไหม”
???
มินอาทำหน้าเลิกลั่กแล้วรีบมองรอดออกไปนอกห้องทันที เธอสอดส่ายสายตาไปมาเห็นด้านหน้าประตูยังดูเงียบนิ่งสนิทก็แปลกใจเล็กน้อย เพราะถ้าเป็นปกติมีเสียงอะไรดังนิดหน่อย ป่านนี้นางพยาบาลคงต้องวิ่งหน้าตั้งมากันแล้ว แต่นี่ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครได้ยิน เธอจึงโล่งใจไปได้เปาะหนึ่ง
“ฟู่ โชคดีที่ไม่มีใครได้ยินแฮะ”
พอเธอโล่งอกก็หันขวับมามองที่คุณผีด้วยสายตาดุทันที
“อูยยย หัวจะโนมั้ยเนี่ย เป็นผีแล้วยังหัวปูดได้อีกแฮะ”
คุณผีลูบหัวตัวเองเบาๆ พร้อมกับร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดเสมือนกับตอนยังมีชีวิตอยู่
“ตาบ๊อง ^^” แต่ดูยังไงก็ดุได้ไม่นาน เธอมองเขาพร้อมกับหัวเราะคิกคักในความเปิ่นของผีหนุ่มที่ไม่ได้ดูน่ากลัวเลยซักนิด
.
.
.
.
.
ในระหว่างที่งุนงงสงสัยว่าตัวเองเป็นใคร คุณผีเดินคิดวนไปวนมารอบห้องอยู่นานก็ยังคิดไม่ออก เขาพยายามจ้องมองตัวเองไปในกระจกที่ติดอยู่ที่กำแพงห้องผู้ป่วย แต่ไม่ว่าจะส่องยังไง เอียงดู ตะแคงดู กลับหัวดูก็แล้ว เขาก็ยังไม่เห็นเงาสะท้อนอะไรใดๆ เลย
“เอาหล่ะ งั้นเธอช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าผมหน้าตาเป็นยังไง?”
คุณผีจ้องมองมินอาด้วยสายตาอ้อนวอนจนเธอรู้สึกเลี่ยงไม่ได้ เธอจึงมองดูอยู่ครู่หนึ่ง พยายามเพ่งวิเคราะห์ แล้วอธิบายคร่าวๆ ตามที่เห็น
“อืม… นายดู… เป็นผู้ชายตัวสูง น่าจะเกิน 180 เซ็น ผิวขาวหน้าเกาหลี มีตา มีจมูกเหมือนมนุษย์ทั่วไป” เธอพยายามนึกคำอธิบาย
“ขอละเอียดกว่านีอีกหน่อยได้ไหมอ่า”
คุณผีเดินเข้ามาใกล้ๆ มินอา เพื่อให้เธอมองหน้าเขาได้ชัดๆ
“อืม… ผมสีน้ำตาลเข้ม ตาสองชั้นหลบใน ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ จมูกโด่งพอดีรับกับหน้า ปากบางแบบผู้ชายในนิตยาสารแฟชั่น” มินอาจ้องมองอย่างจริงจัง
“แล้วไงอีก บอกมาเรื่อยๆ เลย”
คุณผีค่อยๆ ย่อตัวลงแล้วเขยิบเข้ามาใกล้มินอามากขึ้นเรื่อยๆ เขาจ้องหน้าเธอระยะประชิด เพื่อให้เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดที่สุด
“….”
ยิ่งเธอบอกรายละเอียดให้ฟังมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ขยับตัวเข้าใกล้เธอมากขึ้นเท่านั้น จากที่ตอนแรกยืนห่างคุยกันปกติ ณ ตอนนี้กลายเป็นหน้าเขากับเธออยู่ในระยะที่ห่างกันไม่เกินหนึ่งคืบ และดูไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยุดเคลื่อนตัวเข้ามาหาเธอได้เลย
“! ! !”
ผีหนุ่มเขยิบตัวเข้ามาใกล้ ซะจนหญิงสาวเริ่มรู้สึกอึดอัดและใจเต้นแบบไม่รู้ตัว
“ตึกตัก ตึกตัก”
“ดะ เดี๋ยวๆ นี่มัน”
“ตึกตักๆ ตึกตักๆ ตึกตักๆ”
“ชักจะใกล้เกินไปแล้วนะยะะ”
“! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! !! !! !!!!!!!!!!”
อยู่ๆ ก็มีลมพัดแรง กระแทกแก้วและของที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงผู้ป่วยตกลงพื้นกระจายเต็มไปหมด ลมแรงๆ นั่นทำให้ผีหนุ่มสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“โอ๊ะ! โทษที ลืมปิดหน้าต่าง” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้ความกังวล
เธอค่อยๆ ลุกขึ้นเดินลงไปข้างเตียงอีกฝั่งเพื่อที่จะเอื้อมมือไปปิดหน้าต่างให้สนิท และเมื่อไร้แรงลมเข้าพัดผ่าน เธอก็หันมาถามวิญญาณตนนั้นต่อ
“ว่าแต่นายชื่ออะไรนะ?” เธอมองไปยังผีเจ้าของร่างชายหนุ่มสูงโปร่งผมสั้น ที่ยืนอยู่ข้างๆ เตียงเธอ
“อืมมมมมมมมมมม………….…..”
“อืมมมมม………..”
“เอออ……………..”
“จำอะไรไม่ได้เลยแฮะ แปลกจัง”
วิญญาณหนุ่มทำหน้าถอดสี คิ้วขมวดจนแทบจะชนกัน เมื่อเขาเริ่มสงสัยในความจำของตัวเองก็ยิ่งขมวดหนัก ชายหนุ่มกุมขมับด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อหวังว่าจะช่วยเค้นความจำในส่วนลึกออกมาซักนิดก็ยังดี แต่ไม่ว่าจะบีบเค้นสมองสักแค่ไหน เขาก็ไม่มีวี่แววว่าจะนึกอะไรเพิ่มได้เลย
แต่อยู่ๆ
!!!
จากที่เดินวนไปวนมารัวๆ เขาก็หยุดนิ่งเหมือนคิดอะไรออก ภาพเหตุการณ์นั้นแทรกผ่านสมองโปร่งใสเข้ามาในชั่วขณะ
เอ๊ะทำไมเราเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้กำลังร้องไห้ ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันไม่นาน แต่เหมือนรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าของเธอเศร้าหมองมีน้ำตาซึมออกมาจากนัยน์ตากลมโตนั่น
และ…
เธอกำลังพูดว่าอะไรอยู่นะ…
.
..
…
วิญญาณหนุ่มพยายามปล่อยความรู้สึกเพื่อย้อนกลับไปในความทรงจำนั้นให้ได้มากที่สุด แต่แล้วก็ต้องตื่นจากภวังค์ทันที เพราะเสียงเรียกจากหญิงสาวคนในความจำ ที่ตอนนี้นั่งอยู่ข้างเตียงและกำลังปลุกให้เขาตื่น
“นี่นาย! เป็นอะไรไหม?”
“อยู่ๆ ก็ยืนอึ้งไปซะนาน นายเป็นผีตายด้วยโรคสมองเสื่อมหรอกรึ งี้ก็คงช่วยงานฉันไม่ได้แล้วสินะ” หญิงสาวนั่งกระพริบตานิ่งๆ โต้ตอบพร้อมกับท่าที่ที่ดูเฉยเมย ทันทีที่รู้ว่าเขาไม่น่าจะมีประโยชน์
“ไม่ใช่เฟ่ยยยย ไม่เคยได้ยินที่เขาเล่ากันว่า ถ้าอยู่ๆ ร่างเราตายกระทันหัน ผีจะจำตัวเองไม่ได้ว่าเป็นใคร และไม่รู้ตัวว่าตายไง ไงเล่า”
“เคยดูปะ หนังผีฮ่องกงน่ะ ว่าแต่เมื่อกี้เธอบอกว่าช่วยงอน หรือช่วยเงินอะไรนะ?” วิญญาณหนุ่มทำหน้าลนลานรีบอธิบายกลับ
“อ่อ…!”
“ว่าแต่นายมาทำไม” เธอปัดคำเขาไม่ตั้งใจว่าจะตอบ แล้วถามสวนกลับไปทันที
“ก็บอกว่าจำไม่ได้ไงเฟ่ย นี่เธอไม่ฟังเลยใช่ไหม” วิญญาณชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอเริ่มหงุดหงิด
“ฮ่าๆ เอาหน่าๆ ลืมๆ ตายแล้วยังขี้โมโหได้อีกแฮะ ความรู้ใหม่”
“โอเคๆ งั้นฉันเรียกนายว่าคุณผีละกัน ส่วนฉันชื่อมินอา ยินดีที่ได้รู้จัก^^”
มินอากล่าวเริ่มต้นแนะนำตัว จากใบหน้าที่ดูเฉยๆ ไร้ความรู้สึก แต่พอเธอยิ้มอย่างจริงใจจนตาเป็นรูปสระอิเท่านั้นแหละ ก็กลับมาดูเป็นมิตรสดใสหยั่งกับมีแสงเปร่งประกายออร่าในตัวแบบนางฟ้าใจดี!
อ่า เธอยิ้มแล้วดูน่ารักจัง โลกสดใสขึ้นมาในทันตา
“^_^”
คุณผีเห็นแบบนั้นก็ถึงกับเคลิ้มหลง รีบยื่นมือจะมาเช็คแฮนด์ทำความรู้จักตามมารยาทกับเธอ ทั้งๆ ที่เธอก็ไม่ได้ยื่นมือกะไปจับอะไรใดๆ แต่ยังไม่ทันจะได้จับมือกระชับความสัมพันธ์ เขาก็ต้องวื้ดล้มลงหน้าจิ้มพื้นเสียงดังสนั่นไปทั่วโรงพยาบาล!
“โคร่มมมมมมมมมมมม”
“ทำอะไรอะของนายหน่ะ! อยู่ๆ ก็ยื่นมือ โน้มตัวเข้ามาซะเยอะ นายสัมผัสร่างมนุษย์ได้ซะที่ไหนกันเล่า”
“ว่าแต่คนอื่นคงไม่ได้ยินเสียงนายล้ม เหมือนที่ฉันได้ยินใช่ไหม”
???
มินอาทำหน้าเลิกลั่กแล้วรีบมองรอดออกไปนอกห้องทันที เธอสอดส่ายสายตาไปมาเห็นด้านหน้าประตูยังดูเงียบนิ่งสนิทก็แปลกใจเล็กน้อย เพราะถ้าเป็นปกติมีเสียงอะไรดังนิดหน่อย ป่านนี้นางพยาบาลคงต้องวิ่งหน้าตั้งมากันแล้ว แต่นี่ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครได้ยิน เธอจึงโล่งใจไปได้เปาะหนึ่ง
“ฟู่ โชคดีที่ไม่มีใครได้ยินแฮะ”
พอเธอโล่งอกก็หันขวับมามองที่คุณผีด้วยสายตาดุทันที
“อูยยย หัวจะโนมั้ยเนี่ย เป็นผีแล้วยังหัวปูดได้อีกแฮะ”
คุณผีลูบหัวตัวเองเบาๆ พร้อมกับร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดเสมือนกับตอนยังมีชีวิตอยู่
“ตาบ๊อง ^^” แต่ดูยังไงก็ดุได้ไม่นาน เธอมองเขาพร้อมกับหัวเราะคิกคักในความเปิ่นของผีหนุ่มที่ไม่ได้ดูน่ากลัวเลยซักนิด
.
.
.
.
.
ในระหว่างที่งุนงงสงสัยว่าตัวเองเป็นใคร คุณผีเดินคิดวนไปวนมารอบห้องอยู่นานก็ยังคิดไม่ออก เขาพยายามจ้องมองตัวเองไปในกระจกที่ติดอยู่ที่กำแพงห้องผู้ป่วย แต่ไม่ว่าจะส่องยังไง เอียงดู ตะแคงดู กลับหัวดูก็แล้ว เขาก็ยังไม่เห็นเงาสะท้อนอะไรใดๆ เลย
“เอาหล่ะ งั้นเธอช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าผมหน้าตาเป็นยังไง?”
คุณผีจ้องมองมินอาด้วยสายตาอ้อนวอนจนเธอรู้สึกเลี่ยงไม่ได้ เธอจึงมองดูอยู่ครู่หนึ่ง พยายามเพ่งวิเคราะห์ แล้วอธิบายคร่าวๆ ตามที่เห็น
“อืม… นายดู… เป็นผู้ชายตัวสูง น่าจะเกิน 180 เซ็น ผิวขาวหน้าเกาหลี มีตา มีจมูกเหมือนมนุษย์ทั่วไป” เธอพยายามนึกคำอธิบาย
“ขอละเอียดกว่านีอีกหน่อยได้ไหมอ่า”
คุณผีเดินเข้ามาใกล้ๆ มินอา เพื่อให้เธอมองหน้าเขาได้ชัดๆ
“อืม… ผมสีน้ำตาลเข้ม ตาสองชั้นหลบใน ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ จมูกโด่งพอดีรับกับหน้า ปากบางแบบผู้ชายในนิตยาสารแฟชั่น” มินอาจ้องมองอย่างจริงจัง
“แล้วไงอีก บอกมาเรื่อยๆ เลย”
คุณผีค่อยๆ ย่อตัวลงแล้วเขยิบเข้ามาใกล้มินอามากขึ้นเรื่อยๆ เขาจ้องหน้าเธอระยะประชิด เพื่อให้เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดที่สุด
“….”
ยิ่งเธอบอกรายละเอียดให้ฟังมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ขยับตัวเข้าใกล้เธอมากขึ้นเท่านั้น จากที่ตอนแรกยืนห่างคุยกันปกติ ณ ตอนนี้กลายเป็นหน้าเขากับเธออยู่ในระยะที่ห่างกันไม่เกินหนึ่งคืบ และดูไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยุดเคลื่อนตัวเข้ามาหาเธอได้เลย
“! ! !”
ผีหนุ่มเขยิบตัวเข้ามาใกล้ ซะจนหญิงสาวเริ่มรู้สึกอึดอัดและใจเต้นแบบไม่รู้ตัว
“ตึกตัก ตึกตัก”
“ดะ เดี๋ยวๆ นี่มัน”
“ตึกตักๆ ตึกตักๆ ตึกตักๆ”
“ชักจะใกล้เกินไปแล้วนะยะะ”
“! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! !! !! !!!!!!!!!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ