Mention Of Love (รัก)
-
เขียนโดย Nanpm
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.52 น.
12 ตอน
0 วิจารณ์
10.47K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) นางเอก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “ว่าน ว่านครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งเรียกว่าน ทำให้เธอหยุดเดินแล้วหันหน้าไปหาเจ้าของเสียงเรียกนั้น
เต้ซึ่งเดินมาพร้อมกับว่านก็ต้องหยุดแล้วหันหน้าไปมองหน้าชายหนุ่มที่เขาไม่อยากจะเจอหน้าเลย อิงยิ้มเป็นการทักทายเต้แต่เขาไม่ยิ้มตอบกลับทำหน้าเซ็ง ๆ ใส่
“เต้เข้าไปในห้องก่อนแล้วกันนะ”
ว่านพยักหน้ารับเมื่อเต้บอก แล้วก็หันหน้ามาคุยกับอิง
“อิงมาทำอะไรที่เหรอ” ว่านถามขึ้นมาเพราะสงสัยที่เห็นเขามาที่คณะเรียนของเธอ
“เราแวะมาคุยกับพี่ไผ่เรื่องวาดโปสเตอร์ละครน่ะ พึ่งคุยเสร็จเห็นว่านเดินมาพอดีก็เลยแวะมาทัก ไม่กวนแล้วล่ะ เราก็ต้องกลับไปเรียนเหมือนกัน ไว้เจอกันนะครับ” อิงพูดจบก็โบกมือเป็นการบอกลาเพื่อกลับไปเข้าเรียนที่คณะของตน
ว่านยิ้มแล้วเดินเข้ามาในห้องเรียน เจอพัทกับเต้ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งทั้งสองคนจะเว้นที่ตรงกลางไว้ให้ว่านนั่งเสมอ
“เห็นนะว่าคุยกับใคร” พัทเริ่มแซวขึ้น
เต้นั่งทำหน้านิ่งไม่พูดจาอะไรแต่หูของเขาก็ได้ยินสิ่งที่พัทแซวว่าน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีก
“อะไรของเธอ” ว่านถามกลับ แต่ไม่ทันจะพูดอะไรต่อ อาจารย์ก็เดินเข้าห้องมาพอดี ทำให้บทสนทนาของทั้งสองสาวต้องหยุดลง
หลังจากที่อาจารย์ออกจากห้องเรียนไปแล้ว ว่านหันหน้ามามองเต้เพราะรู้สึกว่าวันนี้เขาดูเงียบผิดปกติ
“เป็นอะไรหรือเปล่าเต้” ว่านถามขึ้นด้วยความสงสัย
“เปล่า ไม่มีอะไร” เต้ตอบแล้วยิ้มให้หญิงสาว
“เมื่อเช้าไม่ได้ถ่ายมามั้ง เลยหน้าบูดเป็นตูดลิง” พัทชะโงกหน้ามากวนประสาทชายหนุ่มอีกตามเคย
“เธอน่ะสิ หน้าเหมือนตูดลิง ดูปัดแก้มมาซะแดงแจ๋เชียว” ชายหนุ่มกวนกลับ ทำให้พัทต้องรีบเอากระจกขึ้นมาส่องดู
“บ้า แดงที่ไหน ออกจะสวย นิสัยไม่ดีเลย” พัททำท่าไม่พอใจ
“พอได้แล้วทั้งคู่น่ะแหละ ไปหาอะไรกินเล่นดีกว่า” ว่านรีบห้ามทัพตามเคย
“ก็ได้ เห็นแก่ว่านนะเนี่ย” พัทลุกขึ้นแล้วดึงว่านให้ลุกตาม เต้ก็เดินตามสองสาวออกมาจากห้องเรียน
“น้อง ๆ น้องทั้งสามคนน่ะแหละ มากับพี่หน่อยสิ” ชายหนุ่มรุ่นพี่เรียกให้ว่าน เต้ และพัทให้เดินตามเขาไปนั่งที่ม้านั่งหน้าคณะ
“อะไรกันพี่ไผ่ เรียกเราสามคนมาทำไมคะ คุณปู่รหัสสุดหล่อ” พัทถามขึ้นเมื่อนั่งลงบนม้านั่ง
“ไม่มีอะไรมาก พี่อยากให้พวกเราช่วยพี่หน่อย พี่อยากให้มาเล่นละครเวทีของพี่ที่จะจัดขึ้นเดือนหน้า” พี่ไผ่รีบบอกจุดประสงค์ที่เรียกให้รุ่นน้องทั้งสามคนมาคุยด้วย
“มันจะดีเหรอคะ ว่านยังไม่เคยเล่นละครมาก่อนเลย” ว่านรีบพูดขึ้นเพราะไม่มั่นใจว่าจะทำได้
“เอาน่า ถือว่าเป็นการฝึกฝนไปในตัว อีกหน่อยน้องจบจากที่นี่ไปจะได้มีโปรไฟล์ไปนำเสนอเวลาสมัครงานไง ไม่แน่นะน้อง ๆ อาจจะได้เป็นดาราใหญ่ในอนาคตก็ได้” พี่ไผ่พยายามโน้มน้าวให้ว่านเห็นด้วยและยอมมาเล่นละครเวทีให้กับเขา
“นั่นสิ ตกลงนะว่าน เต้ พัทเองก็อยากเล่น ช่วยปู่รหัสเราหน่อยนะ” พัททำหน้าเว้าวอนให้เพื่อนยอมเล่นละครของพี่ไผ่
“ยั้ยพัท พี่น่ะอยู่ปีสามลุงก็พอมั้ง ไม่ต้องขนาดปู่” พี่ไผ่หันมาพูดกับพัทให้เรียกเขาใหม่
“หรือไม่จริงคะ ก็พี่นะดรอปไปหนึ่งปีนี่ น้องจะมีลุงรหัส 2 คนไม่ได้นะคะ” พัททำท่ากวนแล้วยิ้มให้กับไผ่
“เอาเลย จะเรียกอะไรก็เรียก” ไผ่เริ่มอ่อนใจกับคำพูดของพัท
“แล้วพี่จะให้พัทเป็นนางเอกใช่ไหมคะ” พัทยิ้มแล้วทำหน้าที่คิดว่าตัวเองสวยที่สุด
“จริง ๆ พี่คุยกับในทีมแล้วว่าจะให้ลองน้อง ๆ ในคณะไปแคสกันดูก่อน เดี๋ยวตอนเย็นไปเจอพี่ที่ชมรมละครเวทีนะ” พี่ไผ่ทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเรียน
ช่วงเย็นพัทลากเอาว่านกับเต้มาแคสบทตามที่พี่ไผ่บอก ละครเวทีที่พี่ไผ่ทำชื่อเรื่องว่าซิลเดอเรลล่าภาคพิสดาร แล้วพี่ไผ่ให้น้อง ๆ ในคณะที่เรียกมาลองแคสบทแล้วก็ได้ข้อสรุปว่า ว่านได้รับบทเป็นซิลเดอเรลล่าหรือนางเอกของเรื่อง ส่วนเต้ก็ได้รับบทเป็นเจ้าชายหรือพระเอกของเรื่องนั่นเอง สำหรับพัทนั้นได้บทเป็นหนึ่งในลูกสาวของแม่เลี้ยงใจร้าย
“พี่ไผ่ทำไมน้องไม่ได้เป็นนางเอก น้องออกจะสวย” พัททำหน้างอเดินมาหาพี่ไผ่ซึ่งนั่งรอใครบางคนที่เขานัดไว้
“อะไรยั้ยพัท ก็ว่านเขาเหมาะกับบทนี้นี่ เอาน่าบทไหนก็สำคัญหมด ไว้เรื่องหน้าพี่จะทำอีก พี่สัญญาว่าจะให้เราเป็นนางเอกเลย เพราะบทเหมาะกับเรามาก ๆ” พี่ไผ่บอกพัทแล้วยิ้มเหมือนคิดอะไรเล่น ๆ ขึ้นมาได้
“เรื่องอะไรคะ” พัทถามด้วยความตื่นเต้น
“เรื่องแก้วหน้าม้า” ชายหนุ่มรุ่นพี่ตอบแล้วหัวเราะออกมา ซึ่งว่านกับเต้ได้ยินก็หัวเราะออกมาเช่นเดียวกัน แต่พัททำหน้างอใส่พวกเพื่อน ๆ และรุ่นพี่ของเธอ
“บทเหมาะกับเธออยู่นะ” เต้พูดสนับสนุน
“กลัวคนคิดว่าเป็นใบ้เหรอ ผู้ชายคณะนี้ทำไมปากร้าย” พัทค้อนใส่ทั้งเต้และพี่ไผ่
“อ้าว อิงทางนี้” พี่ไผ่ควักมือเรียกให้ชายหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องของชมรมมานั่งข้าง ๆ เขา
พี่ไผ่แนะนำให้อิงรู้จักรุ่นน้องทั้งสามคนที่จะมาเล่นละครเวทีให้เขา
“พี่ไผ่ นี่เพื่อนน้องเองค่ะ เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยมต้น สนิทกันอยู่ เรารู้จักกันหมดแล้วค่ะ” พัทพูดขึ้นเมื่อพี่ไผ่แนะนำเสร็จ
“อ้าวเหรอ ดีเลยจะได้ทำงานกันสบาย ๆ สนุก ๆ”
พี่ไผ่บอกอิงให้อิงมาวาดภาพของเต้กับว่านลงในโปสเตอร์ที่ไว้ติดด้านหน้างาน โดยอิงจะมีเวลามาวาดช่วงเย็นหลังจากที่ทุกคนซ้อมละครเสร็จ ซึ่งอาจจะใช้เวลาหลายวันหน่อย
หลังจากพี่ไผ่แจ้งรายละเอียดให้น้อง ๆ ได้ทราบกันหมดแล้ว ก็ให้ทั้งสี่คนกลับบ้าน
“นางเอกละครเวทีของพี่ไผ่สวยไหม” พัทหันหน้าไปถามอิงซึ่งเดินมาข้าง ๆ เธอ
ว่านแอบมองหน้าอิงเพื่อจะดูว่าเขาจะตอบพัทว่ายังไง ซึ่งเธอเห็นว่าชายหนุ่มพยักหน้าแล้วยิ้ม
“ก็ต้องสวยอยู่แล้วไม่อย่างนั้นคงไม่ได้รับบทนางเอกหรอก ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้ สวยหรือเปล่าไม่รู้ได้เป็นตัวอิจฉา แต่เรื่องหน้าจะได้เป็นนางเอกแก้วหน้าม้าด้วยนะ” เต้พูดจบก็หัวเราะดังลั่น
พัทได้ยินเต้พูดว่าเธอขึ้นมา หญิงสาวทำหน้าตาโมโห แล้วยกหนังสือในมือขึ้นทำท่าจะตีเขา เต้เห็นพัททำท่าแบบนั้นจึงรีบวิ่งหนี แต่หญิงสาวไม่ลดละวิ่งตามไล่ตีเขาไป ทำให้ตอนนี้เหลือแค่ว่านกับอิงที่ยืนขำเพื่อนทั้งสองของเขาที่ทะเลาะกันเหมือนเด็ก เมื่อทั้งสองคนหยุดขำก็หันมาสบสายตากัน จนว่านรู้สึกเขินขึ้นมาทันที
“ว่านว่าเราตามสองคนนั้นไปดีกว่านะคะ” ว่านพูดขึ้นแล้วหันหน้าหนีเพื่อแก้เขิน
ว่านและอิงเดินตามมาจนทันเห็นพัทกำลังยืนหอบเหนื่อยอยู่หลังจากที่วิ่งตามเต้มาสักพัก
“หยุดเลย ไม่ตามแล้ว ฝากไว้ก่อนแล้วกัน” พัทพูดไปก็หอบไป
เต้หัวเราะแล้วเดินกลับมาหาพัท ซึ่งว่านกับอิงก็ยืนอยู่ด้วย
“เดี๋ยวเราขอกลับไปเก็บของที่คณะก่อนนะ” อิงขอตัวกลับไปที่คณะเพื่อเก็บของกลับบ้าน
“ไว้เจอกัน” พัทบอกลาอิง
อิงหันมายิ้มให้กับว่านเป็นการบอกลา หญิงสาวก็ยิ้มกลับให้เขา
หลังจากที่อิงแยกตัวออกมาแล้ว เขาเดินมาถึงที่คณะก็พบว่ามีหญิงสาวมานั่งรอเขาอยู่
“ลินมารอนานแล้ว ทำไมไม่โทรมาก่อน ขอโทษนะพอดีไปคุยงานอยู่”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ลินรอได้ นั่งเล่นแถวนี้ลมเย็นสบายดี เดี๋ยวเราไปหาอะไรอร่อย ๆ ทานกันดีกว่าเนอะ” หญิงสาวยิ้มให้กับคนรักของเธอแล้วจับมือแล้วเดินพาชายหนุ่มไปขึ้นรถที่เธอขับมารับ
เมื่อลินทานข้าวกับอิงเสร็จก็ขับรถมาส่งชายหนุ่มที่บ้าน
“ไปหาหมอมาหรือยังคะ แล้วหมอว่ายังไงบ้าง” ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงก่อนเขาจะลงจากรถ
“ไปมาแล้วค่ะ หมอก็บอกว่าหัวใจยังเต้นอยู่ ยังไม่ตาย ถ้าตายมันจะหยุดเต้น” หญิงสาวตอบแล้วหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“พูดเล่นอีกแล้ว ห้ามพูดอะไรแบบนี้อีกนะ ลินขับรถขับดี ๆ นะคะ อิงเป็นห่วงรู้ไหม” อิงพูดทิ้งท้ายด้วยความเป็นห่วง
หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้ารับคำของชายหนุ่ม แล้วเธอก็ขับรถออกไป
ว่านกำลังเตรียมตัวเข้านอน หญิงสาวอยากจะเล่าเรื่องที่ตนได้รับเลือกเล่นละครเวทีให้พี่ลูกหว้าฟัง
“ว้าว! น้องสาวพี่เก่งจริง ๆ” ลูกหว้าเอ่ยชมน้องสาวของเธอ
“พี่หว้าต้องอยู่ดูว่านแสดงด้วยนะ ห้ามกลับไปเมืองนอกก่อนล่ะ” หญิงสาวนอนกอดแล้วอ้อนพี่สาวของเธอ
“คิดดูก่อน” ลูกหว้าแกล้งแหย่น้องสาว
ว่านทำท่างอนแล้วพลิกตัวหันหลังให้กับพี่สาว ลูกหว้าหันมากอดทางด้านหลังของน้องสาวเป็นการง้อ
“เป็นสาวแล้วขี้งอนนะเรา นี่อย่าไปงอนแฟนบ่อย ๆ ล่ะ มันไม่ดีนะจ๊ะ” ลูกหว้าแซวขึ้นมา
“แฟนอะไรกันพี่หว้า ว่านยังไม่มีเสียหน่อย” ว่านแอบยิ้ม
“ไม่ลองดูคนใกล้ตัวหน่อยเหรอ” ลูกหว้ากำลังชงใครบางคนให้น้องสาว
“ง่วงนอนแล้วค่ะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้า ฝันดีนะคะพี่สาว” ว่านรีบชิงตัดบท
“พอคุยเรื่องนี้แล้วทำไมต้องอายด้วย ฝันดีนะนางเอก” ลูกหว้ายิ้มแล้วหลับตาลง
ว่านยังคงนอนยิ้มนึกถึงใครคนหนึ่งอยู่ เธอได้ยินเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้ามาที่มือถือของเธอ หญิงสาวรีบคว้ามือถือเปิดดูแล้วหันไปดูว่าพี่สาวของเธอตื่นหรือเปล่า
“ฝันดีครับ”
เป็นข้อความจากชายหนุ่มที่เธอกำลังนึกถึงอยู่นั่นเอง
“เช่นกันค่ะ”
หญิงสาวส่งข้อความตอบกลับไปแล้วยิ้ม ก่อนที่เธอจะหลับไปอย่างมีความสุข
เต้ซึ่งเดินมาพร้อมกับว่านก็ต้องหยุดแล้วหันหน้าไปมองหน้าชายหนุ่มที่เขาไม่อยากจะเจอหน้าเลย อิงยิ้มเป็นการทักทายเต้แต่เขาไม่ยิ้มตอบกลับทำหน้าเซ็ง ๆ ใส่
“เต้เข้าไปในห้องก่อนแล้วกันนะ”
ว่านพยักหน้ารับเมื่อเต้บอก แล้วก็หันหน้ามาคุยกับอิง
“อิงมาทำอะไรที่เหรอ” ว่านถามขึ้นมาเพราะสงสัยที่เห็นเขามาที่คณะเรียนของเธอ
“เราแวะมาคุยกับพี่ไผ่เรื่องวาดโปสเตอร์ละครน่ะ พึ่งคุยเสร็จเห็นว่านเดินมาพอดีก็เลยแวะมาทัก ไม่กวนแล้วล่ะ เราก็ต้องกลับไปเรียนเหมือนกัน ไว้เจอกันนะครับ” อิงพูดจบก็โบกมือเป็นการบอกลาเพื่อกลับไปเข้าเรียนที่คณะของตน
ว่านยิ้มแล้วเดินเข้ามาในห้องเรียน เจอพัทกับเต้ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งทั้งสองคนจะเว้นที่ตรงกลางไว้ให้ว่านนั่งเสมอ
“เห็นนะว่าคุยกับใคร” พัทเริ่มแซวขึ้น
เต้นั่งทำหน้านิ่งไม่พูดจาอะไรแต่หูของเขาก็ได้ยินสิ่งที่พัทแซวว่าน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีก
“อะไรของเธอ” ว่านถามกลับ แต่ไม่ทันจะพูดอะไรต่อ อาจารย์ก็เดินเข้าห้องมาพอดี ทำให้บทสนทนาของทั้งสองสาวต้องหยุดลง
หลังจากที่อาจารย์ออกจากห้องเรียนไปแล้ว ว่านหันหน้ามามองเต้เพราะรู้สึกว่าวันนี้เขาดูเงียบผิดปกติ
“เป็นอะไรหรือเปล่าเต้” ว่านถามขึ้นด้วยความสงสัย
“เปล่า ไม่มีอะไร” เต้ตอบแล้วยิ้มให้หญิงสาว
“เมื่อเช้าไม่ได้ถ่ายมามั้ง เลยหน้าบูดเป็นตูดลิง” พัทชะโงกหน้ามากวนประสาทชายหนุ่มอีกตามเคย
“เธอน่ะสิ หน้าเหมือนตูดลิง ดูปัดแก้มมาซะแดงแจ๋เชียว” ชายหนุ่มกวนกลับ ทำให้พัทต้องรีบเอากระจกขึ้นมาส่องดู
“บ้า แดงที่ไหน ออกจะสวย นิสัยไม่ดีเลย” พัททำท่าไม่พอใจ
“พอได้แล้วทั้งคู่น่ะแหละ ไปหาอะไรกินเล่นดีกว่า” ว่านรีบห้ามทัพตามเคย
“ก็ได้ เห็นแก่ว่านนะเนี่ย” พัทลุกขึ้นแล้วดึงว่านให้ลุกตาม เต้ก็เดินตามสองสาวออกมาจากห้องเรียน
“น้อง ๆ น้องทั้งสามคนน่ะแหละ มากับพี่หน่อยสิ” ชายหนุ่มรุ่นพี่เรียกให้ว่าน เต้ และพัทให้เดินตามเขาไปนั่งที่ม้านั่งหน้าคณะ
“อะไรกันพี่ไผ่ เรียกเราสามคนมาทำไมคะ คุณปู่รหัสสุดหล่อ” พัทถามขึ้นเมื่อนั่งลงบนม้านั่ง
“ไม่มีอะไรมาก พี่อยากให้พวกเราช่วยพี่หน่อย พี่อยากให้มาเล่นละครเวทีของพี่ที่จะจัดขึ้นเดือนหน้า” พี่ไผ่รีบบอกจุดประสงค์ที่เรียกให้รุ่นน้องทั้งสามคนมาคุยด้วย
“มันจะดีเหรอคะ ว่านยังไม่เคยเล่นละครมาก่อนเลย” ว่านรีบพูดขึ้นเพราะไม่มั่นใจว่าจะทำได้
“เอาน่า ถือว่าเป็นการฝึกฝนไปในตัว อีกหน่อยน้องจบจากที่นี่ไปจะได้มีโปรไฟล์ไปนำเสนอเวลาสมัครงานไง ไม่แน่นะน้อง ๆ อาจจะได้เป็นดาราใหญ่ในอนาคตก็ได้” พี่ไผ่พยายามโน้มน้าวให้ว่านเห็นด้วยและยอมมาเล่นละครเวทีให้กับเขา
“นั่นสิ ตกลงนะว่าน เต้ พัทเองก็อยากเล่น ช่วยปู่รหัสเราหน่อยนะ” พัททำหน้าเว้าวอนให้เพื่อนยอมเล่นละครของพี่ไผ่
“ยั้ยพัท พี่น่ะอยู่ปีสามลุงก็พอมั้ง ไม่ต้องขนาดปู่” พี่ไผ่หันมาพูดกับพัทให้เรียกเขาใหม่
“หรือไม่จริงคะ ก็พี่นะดรอปไปหนึ่งปีนี่ น้องจะมีลุงรหัส 2 คนไม่ได้นะคะ” พัททำท่ากวนแล้วยิ้มให้กับไผ่
“เอาเลย จะเรียกอะไรก็เรียก” ไผ่เริ่มอ่อนใจกับคำพูดของพัท
“แล้วพี่จะให้พัทเป็นนางเอกใช่ไหมคะ” พัทยิ้มแล้วทำหน้าที่คิดว่าตัวเองสวยที่สุด
“จริง ๆ พี่คุยกับในทีมแล้วว่าจะให้ลองน้อง ๆ ในคณะไปแคสกันดูก่อน เดี๋ยวตอนเย็นไปเจอพี่ที่ชมรมละครเวทีนะ” พี่ไผ่ทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเรียน
ช่วงเย็นพัทลากเอาว่านกับเต้มาแคสบทตามที่พี่ไผ่บอก ละครเวทีที่พี่ไผ่ทำชื่อเรื่องว่าซิลเดอเรลล่าภาคพิสดาร แล้วพี่ไผ่ให้น้อง ๆ ในคณะที่เรียกมาลองแคสบทแล้วก็ได้ข้อสรุปว่า ว่านได้รับบทเป็นซิลเดอเรลล่าหรือนางเอกของเรื่อง ส่วนเต้ก็ได้รับบทเป็นเจ้าชายหรือพระเอกของเรื่องนั่นเอง สำหรับพัทนั้นได้บทเป็นหนึ่งในลูกสาวของแม่เลี้ยงใจร้าย
“พี่ไผ่ทำไมน้องไม่ได้เป็นนางเอก น้องออกจะสวย” พัททำหน้างอเดินมาหาพี่ไผ่ซึ่งนั่งรอใครบางคนที่เขานัดไว้
“อะไรยั้ยพัท ก็ว่านเขาเหมาะกับบทนี้นี่ เอาน่าบทไหนก็สำคัญหมด ไว้เรื่องหน้าพี่จะทำอีก พี่สัญญาว่าจะให้เราเป็นนางเอกเลย เพราะบทเหมาะกับเรามาก ๆ” พี่ไผ่บอกพัทแล้วยิ้มเหมือนคิดอะไรเล่น ๆ ขึ้นมาได้
“เรื่องอะไรคะ” พัทถามด้วยความตื่นเต้น
“เรื่องแก้วหน้าม้า” ชายหนุ่มรุ่นพี่ตอบแล้วหัวเราะออกมา ซึ่งว่านกับเต้ได้ยินก็หัวเราะออกมาเช่นเดียวกัน แต่พัททำหน้างอใส่พวกเพื่อน ๆ และรุ่นพี่ของเธอ
“บทเหมาะกับเธออยู่นะ” เต้พูดสนับสนุน
“กลัวคนคิดว่าเป็นใบ้เหรอ ผู้ชายคณะนี้ทำไมปากร้าย” พัทค้อนใส่ทั้งเต้และพี่ไผ่
“อ้าว อิงทางนี้” พี่ไผ่ควักมือเรียกให้ชายหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องของชมรมมานั่งข้าง ๆ เขา
พี่ไผ่แนะนำให้อิงรู้จักรุ่นน้องทั้งสามคนที่จะมาเล่นละครเวทีให้เขา
“พี่ไผ่ นี่เพื่อนน้องเองค่ะ เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยมต้น สนิทกันอยู่ เรารู้จักกันหมดแล้วค่ะ” พัทพูดขึ้นเมื่อพี่ไผ่แนะนำเสร็จ
“อ้าวเหรอ ดีเลยจะได้ทำงานกันสบาย ๆ สนุก ๆ”
พี่ไผ่บอกอิงให้อิงมาวาดภาพของเต้กับว่านลงในโปสเตอร์ที่ไว้ติดด้านหน้างาน โดยอิงจะมีเวลามาวาดช่วงเย็นหลังจากที่ทุกคนซ้อมละครเสร็จ ซึ่งอาจจะใช้เวลาหลายวันหน่อย
หลังจากพี่ไผ่แจ้งรายละเอียดให้น้อง ๆ ได้ทราบกันหมดแล้ว ก็ให้ทั้งสี่คนกลับบ้าน
“นางเอกละครเวทีของพี่ไผ่สวยไหม” พัทหันหน้าไปถามอิงซึ่งเดินมาข้าง ๆ เธอ
ว่านแอบมองหน้าอิงเพื่อจะดูว่าเขาจะตอบพัทว่ายังไง ซึ่งเธอเห็นว่าชายหนุ่มพยักหน้าแล้วยิ้ม
“ก็ต้องสวยอยู่แล้วไม่อย่างนั้นคงไม่ได้รับบทนางเอกหรอก ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้ สวยหรือเปล่าไม่รู้ได้เป็นตัวอิจฉา แต่เรื่องหน้าจะได้เป็นนางเอกแก้วหน้าม้าด้วยนะ” เต้พูดจบก็หัวเราะดังลั่น
พัทได้ยินเต้พูดว่าเธอขึ้นมา หญิงสาวทำหน้าตาโมโห แล้วยกหนังสือในมือขึ้นทำท่าจะตีเขา เต้เห็นพัททำท่าแบบนั้นจึงรีบวิ่งหนี แต่หญิงสาวไม่ลดละวิ่งตามไล่ตีเขาไป ทำให้ตอนนี้เหลือแค่ว่านกับอิงที่ยืนขำเพื่อนทั้งสองของเขาที่ทะเลาะกันเหมือนเด็ก เมื่อทั้งสองคนหยุดขำก็หันมาสบสายตากัน จนว่านรู้สึกเขินขึ้นมาทันที
“ว่านว่าเราตามสองคนนั้นไปดีกว่านะคะ” ว่านพูดขึ้นแล้วหันหน้าหนีเพื่อแก้เขิน
ว่านและอิงเดินตามมาจนทันเห็นพัทกำลังยืนหอบเหนื่อยอยู่หลังจากที่วิ่งตามเต้มาสักพัก
“หยุดเลย ไม่ตามแล้ว ฝากไว้ก่อนแล้วกัน” พัทพูดไปก็หอบไป
เต้หัวเราะแล้วเดินกลับมาหาพัท ซึ่งว่านกับอิงก็ยืนอยู่ด้วย
“เดี๋ยวเราขอกลับไปเก็บของที่คณะก่อนนะ” อิงขอตัวกลับไปที่คณะเพื่อเก็บของกลับบ้าน
“ไว้เจอกัน” พัทบอกลาอิง
อิงหันมายิ้มให้กับว่านเป็นการบอกลา หญิงสาวก็ยิ้มกลับให้เขา
หลังจากที่อิงแยกตัวออกมาแล้ว เขาเดินมาถึงที่คณะก็พบว่ามีหญิงสาวมานั่งรอเขาอยู่
“ลินมารอนานแล้ว ทำไมไม่โทรมาก่อน ขอโทษนะพอดีไปคุยงานอยู่”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ลินรอได้ นั่งเล่นแถวนี้ลมเย็นสบายดี เดี๋ยวเราไปหาอะไรอร่อย ๆ ทานกันดีกว่าเนอะ” หญิงสาวยิ้มให้กับคนรักของเธอแล้วจับมือแล้วเดินพาชายหนุ่มไปขึ้นรถที่เธอขับมารับ
เมื่อลินทานข้าวกับอิงเสร็จก็ขับรถมาส่งชายหนุ่มที่บ้าน
“ไปหาหมอมาหรือยังคะ แล้วหมอว่ายังไงบ้าง” ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงก่อนเขาจะลงจากรถ
“ไปมาแล้วค่ะ หมอก็บอกว่าหัวใจยังเต้นอยู่ ยังไม่ตาย ถ้าตายมันจะหยุดเต้น” หญิงสาวตอบแล้วหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“พูดเล่นอีกแล้ว ห้ามพูดอะไรแบบนี้อีกนะ ลินขับรถขับดี ๆ นะคะ อิงเป็นห่วงรู้ไหม” อิงพูดทิ้งท้ายด้วยความเป็นห่วง
หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้ารับคำของชายหนุ่ม แล้วเธอก็ขับรถออกไป
ว่านกำลังเตรียมตัวเข้านอน หญิงสาวอยากจะเล่าเรื่องที่ตนได้รับเลือกเล่นละครเวทีให้พี่ลูกหว้าฟัง
“ว้าว! น้องสาวพี่เก่งจริง ๆ” ลูกหว้าเอ่ยชมน้องสาวของเธอ
“พี่หว้าต้องอยู่ดูว่านแสดงด้วยนะ ห้ามกลับไปเมืองนอกก่อนล่ะ” หญิงสาวนอนกอดแล้วอ้อนพี่สาวของเธอ
“คิดดูก่อน” ลูกหว้าแกล้งแหย่น้องสาว
ว่านทำท่างอนแล้วพลิกตัวหันหลังให้กับพี่สาว ลูกหว้าหันมากอดทางด้านหลังของน้องสาวเป็นการง้อ
“เป็นสาวแล้วขี้งอนนะเรา นี่อย่าไปงอนแฟนบ่อย ๆ ล่ะ มันไม่ดีนะจ๊ะ” ลูกหว้าแซวขึ้นมา
“แฟนอะไรกันพี่หว้า ว่านยังไม่มีเสียหน่อย” ว่านแอบยิ้ม
“ไม่ลองดูคนใกล้ตัวหน่อยเหรอ” ลูกหว้ากำลังชงใครบางคนให้น้องสาว
“ง่วงนอนแล้วค่ะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้า ฝันดีนะคะพี่สาว” ว่านรีบชิงตัดบท
“พอคุยเรื่องนี้แล้วทำไมต้องอายด้วย ฝันดีนะนางเอก” ลูกหว้ายิ้มแล้วหลับตาลง
ว่านยังคงนอนยิ้มนึกถึงใครคนหนึ่งอยู่ เธอได้ยินเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้ามาที่มือถือของเธอ หญิงสาวรีบคว้ามือถือเปิดดูแล้วหันไปดูว่าพี่สาวของเธอตื่นหรือเปล่า
“ฝันดีครับ”
เป็นข้อความจากชายหนุ่มที่เธอกำลังนึกถึงอยู่นั่นเอง
“เช่นกันค่ะ”
หญิงสาวส่งข้อความตอบกลับไปแล้วยิ้ม ก่อนที่เธอจะหลับไปอย่างมีความสุข
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ