Mention Of Love (รัก)
เขียนโดย Nanpm
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.52 น.
แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) คนสำคัญ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบรรยากาศของเช้าวันเสาร์เริ่มขึ้น ซึ่งเป็นวันพักผ่อนของใครหลาย ๆ คน วันนี้ว่านตื่นมาช่วยแม่เก็บกวาดบ้านแต่เช้าเพื่อต้อนรับใครบางคนกลับมา ขณะที่หญิงสาวกำลังถูพื้นอยู่เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นมา เธอรีบวิ่งไปรับสายเพราะคิดว่าใครบางคนที่เธอกำลังคิดถึงจะโทรมาหา แต่เมื่อหญิงสาวกดรับสายและได้ยินเสียงจากปลายสายกลับทำให้เธอผิดหวังเล็กน้อย
“ว่าไงเต้ มีอะไรหรือเปล่า โทรมาแต่เช้าเชียว” หญิงสาวทำน้ำเสียงผิดหวังจนคนปลายสายรู้สึกได้
“รอสายใครอยู่หรือเปล่า ตอนแรกทำเสียงตื่นเต้นตอนนี้ทำเสียงเหมือนผิดหวังเลยที่เป็นเราโทรมา” เต้ถามออกมาด้วยความรู้สึกน้อยใจ
“นายก็พูดไป จะรอสายใครล่ะ เรากำลังยุ่งอยู่น่ะ แล้วนี่โทรมาแต่เช้ามีอะไร ถ้ามัวแต่งอนจะวางสายแล้วนะ” ว่านรีบปฏิเสธและทำน้ำเสียงเคือง ๆ กลับไปบ้าง
เต้จะช่วยว่านไปดูหนังที่พึ่งเข้าใหม่น่ะ”
“เดี๋ยวก่อนนะเต้ ว่านว่ามีใครมากดกริ่งหน้า เดี๋ยวไว้เราโทรกลับนะ” ว่านรีบวางสาย แล้วปล่อยให้ชายหนุ่มปลายสายที่พึ่งวางสายไปบ่นพึมพำด้วยความงุนงงอยู่คนเดียว
ว่านรีบวิ่งไปดูที่หน้าบ้านว่ามีใครมาหาแต่เช้า เมื่อหญิงสาววิ่งมาถึงประตูรั้วที่หน้าก็เห็นใครบางคนยืนหันหลังให้เธออยู่ ว่านยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจแล้วรีบเปิดประตูบ้านต้อนรับแขกคนสำคัญ ว่านโผตัวเข้ากอดหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรักและความคิดถึงอย่างที่สุด
“พี่หว้า พี่หว้าจริง ๆ ด้วย ไหนแม่บอกว่าพี่หว้าจะมาถึงวันจันทร์ไงคะ” ว่านถามออกมาด้วยความรู้สึกดีใจปนประหลาดใจ
“เมื่อยจะแย่แล้วสาวน้อย ให้พี่เข้าบ้านได้หรือยัง” หญิงสาวผู้เป็นพี่สาวของว่านเอ่ยขึ้น ว่านยิ้มพยักแล้วรีบช่วยถือกระเป๋าของพี่หว้าเข้าไปในบ้าน
“ใครมาแต่ชอบกันว่าน เต้หรือเปล่า” เสียงแม่ตะโกนถามออกมาจากทางห้องครัว แต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบจากลูกสาวของเธอ เธอจึงเดินออกมาดูด้วยตัวเอง
“เซอร์ไพรส์!” ลูกหว้าตะโกนออกมาพร้อมกับเดินอ้าแขนเพื่อเข้าไปสวมกอดแม่ของเธอด้วยความดีใจและคิดถึง
“ลูกหว้าทำไมมาวันนี้ล่ะลูก ไหนบอกแม่ว่าจะมาถึงวันจันทร์” แม่ถามด้วยความประหลาดใจและดีใจที่ได้เห็นลูกสาวคนโตของเธอ
“แม่กับว่านนี่เหมือนกันจริง ๆ เลย ถามเหมือนกันเด๊ะ” ลูกหว้าแซวแม่กับน้องสาวของเธอ เมื่อทั้งคู่ตั้งคำถามและทำท่าประหลาดใจเมื่อเห็นหน้าของเธอ ยังไม่ทันที่ว่านจะได้ยินคำตอบจากพี่สาว เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นมาอีก คราวนี้เธอมองหน้าจอก่อนที่จะรับสาย จึงเห็นว่าใครเป็นคนโทรมา
“ว่าไงนายเต้ บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวโทรกลับ จะรีบโทรมาทำไมกัน” หญิงสาวเอ่ยตำหนิที่เต้โทรมาขัดจังหวะการสนทนาระหว่างคนในครอบครัวของเธอ
“ก็เต้เห็นว่านเงียบหายไปนานก็เลยสงสัย แล้วใครมาเหรอ” เต้รู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่านทำน้ำเสียงเหมือนเคือง ๆ เขา
“คนสำคัญ” ว่านตอบด้วยน้ำเสียงดีใจ
“คนสำคัญ! อย่าบอกนะว่าเป็น...” เต้กำลังนึกถึงใครบางคนที่เขาไม่ชอบหน้าเท่าไหร่นัก
“ถูกต้องแล้วครับ พี่หว้ากลับมาแล้วนะ มาถึงก่อนกำหนดล่ะ กะมาเซอร์ไพรส์เรากับแม่ เรายังตื่นเต้นและดีใจไม่หายเลย เอาไว้เราค่อยคุยกันนะ ตอนนี้เราอยากคุยกับพี่หว้าให้หายคิดถึงก่อน” ว่านบอกลาชายหนุ่มแล้ววางสาย
เต้รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเมื่อรู้ว่าคนสำคัญที่ว่านพูดถึงเป็นพี่ลูกหว้าซึ่งพี่สาวของว่านไม่ใช่ชายหนุ่มที่ชื่ออิง เต้รีบลุกขึ้นไปแต่งตัวเพื่อจะไปพบพี่หว้าที่บ้านของว่านเช่นกัน
หลังจากที่วางสายของเต้เรียบร้อยแล้ว ว่านรีบเดินมาหาลูกหว้าและช่วยพี่สาวของเธอยกกระเป๋าเดินทางไปเก็บบนห้องนอนของเธอ ลูกหว้ากวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องนอนของน้องสาว เธอเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของการตกแต่งห้องที่เปลี่ยนไปจากห้องของเด็กน้อยที่เต็มไปด้วยตุ๊กตากลายเป็นห้องของสาวน้อยช่างฝันไปเสียแล้ว ในขณะที่ว่านกำลังรื้อกระเป๋าเสื้อผ้าของลูกหว้าเพื่อเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าอยู่นั้น ลูกหว้าเหลือบไปเห็นกระดาษที่ผูกโบว์ม้วนไว้วางอยู่ที่ตรงหัวนอน ด้วยความอยากรู้เธอจึงค่อย ๆ แกะออกมาดู
“อิง อิงนี่ใครกัน เป็นคนที่วาดรูปนี้เหรอ” ลูกหว้าถามขึ้นเมื่อเห็นภาพวาดเป็นรูปเหมือนของน้องสาว และมีลายเซ็นกำกับที่อยู่ใต้ภาพ
คำถามจากพี่สาวทำให้ว่านก้มหน้าแล้วแอบยิ้ม ก่อนที่จะตอบว่าเป็นเพื่อนของเธอเอง
“เพื่อนจริงเหรอ แน่ใจนะ ถ้าให้เดาต้องเป็นผู้ชายและก็ต้องเป็นเพื่อนพิเศษสุด ๆ เลยใช่ไหมจ๊ะ” ลูกหว้าแกล้งถามและดูเหมือนสิ่งที่เธอเดาก็น่าจะถูกเสียด้วย ถึงแม้ว่านจะไม่ตอบอะไรแต่ท่าทางที่ดูเหมือนเขินอายก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนสำหรับเธอแล้ว
“พี่หว้าก็ เพื่อนจริง ๆ ค่ะ” ว่านย้ำคำพูดแต่มีอาการเขินอายอยู่
“โอเค เพื่อนก็เพื่อน ไม่แซวแล้ว เดี๋ยวน้องพี่จะตัวขาดเสียก่อนเพราะมัวเคยบิดไปบิดมา” ลูกหว้าหัวเราะขึ้นเมื่อยังเห็นน้องสาวเธอยังไม่หายเขิน
ว่านจัดเสื้อผ้าของลูกหว้าเข้าตู้เสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็ชวนพี่สาวของเธอลงไปรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน
เมื่อสองสาวเดินลงมาจากห้องก็พบใครบางคนนั่งยิ้มหน้าบานอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก
“ว๊าย! นึกว่าหนุ่มที่ไหนมานั่งรอ หล่อขึ้นเป็นกองนะเรา มีแฟนหรือยังล่ะ” ลูกหว้าส่งเสียงทักทายชายหนุ่มที่เธอคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก
“สวัสดีครับพี่หว้าคนสวย อย่ามาแซวกันแบบนี้นะครับ แฟนอะไรกันไม่มีหรอก รอพี่หว้าพิจารณาอยู่” เต้ทักทายกลับลูกหว้า
“รอพี่หรือใครแถวนี้กันแน่จ้ะ” ลูกหว้ายังแซวเต้ต่อและเหมือนจะรู้ใจชายหนุ่มว่ากำลังแอบเล็งน้องสาวเธออยู่ ทำให้ว่านรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่ทั้งสองคนเริ่มจะเอาเธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับบทสนทนา
“พี่หว้า เลิกคุยไร้สาระกับนายนี่ได้แล้วล่ะค่ะ ไปทานข้าวกันดีกว่า ว่านหิวจะแย่อยู่แล้ว” ว่านรีบตัดบท ทำให้พี่สาวของเธอขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองหน้าเต้
“ป่ะ ๆ เต้ไปทานข้าวกัน เดี๋ยวใครบางคนจะหิวจนงอนอีก” ลูกหว้าเอ่ยปากชวนเต้แต่ยังไม่วายแอบแซวน้องสาวของเธอ
เมื่อทุกคนรับประทานอาหารเสร็จ ว่านช่วยแม่เก็บจานไปล้าง แล้วปล่อยให้พี่หว้ากับเต้ไปนั่งคุยกันที่ห้องรับแขก
“มัวแต่ช้า เดี๋ยวใครก็คว้าไปหรอก” ลูกหว้าเอ่ยขึ้นลอย ๆ ยังไม่ทันที่เต้จะตอบอะไร ว่านก็เดินออกมาจากห้องครัว
“แม่ไล่มา แม่บอกจะล้างเอง ไม่ยอมให้ช่วย แล้วนี่คุยอะไรกันอยู่คะ” ว่านถามขึ้นเมื่อได้ยินเสียงพี่สาวพูดอะไรบางอย่างกับเต้
“อ๋อ! เต้กำลังคิดว่าจะชวนพี่หว้ากับว่านไปดูหนังเรื่องที่เข้าใหม่วันพรุ่งนี้น่ะ พี่หว้าไม่ได้ดูจะต้องเสียดายมาก ๆ แน่ ที่อังกฤษไม่มีดูนะครับ” เต้ชี้ภาพหนังไทยเรื่องใหม่ที่จะพึ่งเข้าฉายในโรงวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นหนังแนวรักโรแมนติก
“เขาเหมาะสำหรับไปกันสองคนหรือเปล่าเนี่ย” ลูกหว้าหยิบมือถือเต้มาดูตัวอย่างหนังที่เต้เปิดอยู่
“ดีเลยพี่หว้า เราไม่ได้ไปเที่ยวไหนด้วยกันนานแล้ว ไปกันนะ ดูหนังเสร็จไปไหนกันต่อดีล่ะ” ว่านทำท่าวางแผนการเที่ยวต่อ
คุยกันได้สักพักเต้ก็ขอตัวกลับบ้าน เมื่อเขาได้ทำการนัดแนะกับสองสาวเรียบร้อยแล้วว่าพรุ่งนี้มีแผนจะไปไหนและทำอะไรกัน
สองสาวนอนคุยกันด้วยความคิดถึงเพราะไม่ได้เจอหน้ากันมานานมากจนดึก ทำให้ทั้งสองสาวตื่นสายจนเกือบลืมไปว่ามีนัดไปเที่ยวกับเต้ไว้ ส่วนเต้นั้นมาหาหญิงสาวทั้งสองตั้งแต่เช้าทำให้แม่ของทั้งสองสาวต้องมาเคาะประตูปลุกลูกสาวของเธอให้ตื่น ขณะที่เต้รอหญิงสาวทั้งสองแต่งตัว เขาไม่ได้นั่งรออยู่เฉย ๆ เขาเดินออกมาช่วยแม่ของหญิงสาวรดน้ำต้นกุหลาบที่ปลูกไว้ที่หน้าบ้าน
“ทำคะแนนใหญ่เลยนะ” เสียงลูกหว้าเอ่ยแซวขึ้นเมื่อเห็นเต้ขะมักเขม้นในการรดน้ำต้นไม้
“พร้อมแล้วไปกันดีกว่าค่ะ” ว่านเดินออกมาทีหลังเลยไม่ทันได้ยินสิ่งที่พี่สาวของเธอพูดกับชายหนุ่ม
ทั้งสามเดินออกจากบ้านไปพร้อมกัน ซึ่งทั้งสามคนดูหนัง เดินเที่ยวตามแผนที่วางไว้จนค่ำ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน
“พรุ่งนี้ต้องไปเรียนแล้วอะ ยังอยากอยู่คุยกับพี่หว้าอยู่เลย ยังไม่หายคิดถึงเลยนะเนี่ย” ว่านทำเสียงอ้อนพี่สาวของเธอ
“แหม ทำกับว่าจะไม่กลับมานอนบ้านนะเรา ตอนเย็นก็เจอกันล่ะ อีกอย่างพี่ก็อยู่อีกตั้งหลายวัน” พี่หว้ายิ้มเมื่อเห็นน้องสาวทำท่าทางอ้อนเธอ
เสียงมือถือของว่านดังขึ้นเหมือนมีข้อความเข้ามา หญิงสาวรีบหยิบมือถือขึ้นมาดู เธอยิ้มออกมาเมื่อเห็นชื่อของคนที่ส่งมาพร้อมกับข้อความสั้น ๆ แต่ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“ฝันดีครับ หวังว่าจะได้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ” ข้อความที่ถูกส่งมาจากชายหนุ่มที่ชื่ออิง
“ใครส่งข้อความมา ยิ้มไม่หุบเลยนะ” ลูกหว้าแซวขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวของเธอนั่งยิ้มกับมือถือ
“นอนดีกว่า พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าด้วย เดี๋ยวตื่นสายเหมือนวันนี้อีก ฝันดีนะคะพี่สาวคนสวยของน้อง” ว่านรีบล้มตัวลงนอนหันหลังให้พี่สาวของเธอ
“นอนก็นอน ฝันหวานนะจ๊ะน้องสาว”
ว่านกำลังรู้สึกความสุขมาก ๆ ทั้งเรื่องที่พี่สาวของเธอกลับมา รวมไปถึงข้อความที่ชายหนุ่มได้ส่งมาบอกฝันดี คืนนี้เธอคงฝันดีและฝันหวานเป็นแน่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ