โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  137.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

77) ไม่ชอบบทสวาทก็เล่นบทเถื่อนได้นะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แม้กาเอลจะเติบโตเกินไปที่จะไร้เดียงสาแล้ว   แต่ด้วยอดีตอันขมขื่นและอนาคตที่เลือนราง   อีกทั้งปัจจุบันที่ยังต้องดิ้นรนหาทางเอาตัวรอดแทบทุกวินาที   เรื่องเกี่ยวกับสตรีเพศจึงเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความคิดของเขา   ที่จะต้องมาเสียเวลาให้ความสนใจ

 

แต่ในเวลานี้เขากำลังจะถูกล่วงล้ำด้วยหญิงสาวพราวเสน่ห์ผู้ผ่านโลกีย์มาอย่างช่ำชอง   หนุ่มน้อยที่อ่อนโลกกว่าจึงได้แต่นอนทอดกายรอรับชะตากรรมโดยไม่มีทางขัดขืน

 

ริมฝีปากอิ่มประกบลงมาบนลำคอที่ไวต่อความรู้สึกทำเอากาเอลถึงกับสะดุ้ง   แรงบดขยี้อันร้อนแรงและหื่นกระหายหยุดลมหายใจอันบางเบาให้ขาดเป็นห้วงๆ   เขารับรู้ว่าร่างกายตอบสนองการจู่โจมนี้อย่างไร   แต่มันไม่ได้สลักสำคัญนักในเวลานี้

 

เมือข้างหนึ่งเอื้อมขึ้นมาจับสะโพกผายของหญิงสาวที่ทาบทับอยู่   อีกข้างช้อนผ่านลำคอลากผ่านขึ้นไปจนนิ้วเรียวยาวแข็งแกร่งแทรกเข้าไปในเรือนผมนุ่มสลวย  เขาขยุมเบาๆ ตามจังหวะแรงกระทำของอีกฝ่าย

 

ทันทีที่รู้สึกถึงคมเขี้ยวที่ฝังเบาๆ ลงมาบนผิวเขาก็กำรวบเส้นผมนั้น   ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกระชากนางหลุดจากพันธนาการ   หญิงสาวล้มกลิ้งไปข้างๆ คราวนี้กาเอลรวดเร็วกว่าเขาพุ่งตัวตามไปคร่อมร่างนางเอาไว้แล้วคว้าลำคอบางระหงกระแทกลงกับพื้น   มีดเล่มหนึ่งปักฉึกลงข้างแก้มขาวนวลเนียน   คมมีดเฉียดใกล้จนเกิดแผลเล็กๆ พอมีเลือดไหล

 

“ อาจจะไม่มีใครบนโลกนี้สังหารเจ้าได้   แต่ข้าแน่ใจว่าข้าสามารถสร้างรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเจ้าได้   ข้าเคยเตือนอยู่เสมอว่าไม่ชอบการที่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างใคร   ใยเจ้าจึงอยากลองดีนัก ”

 

  กาเอลถามด้วยน้ำเสียงดุดัน

 

สตรีชุดแดงมีท่าทีตกตะลึง

แต่เพียงชั่วแวบนางก็สามารถกลับมายั่วยวนได้อีกครั้ง

 

“ ตายจริง   ใครสอนให้เจ้าเล่นของมีคมกับสตรีกันนะ   โถๆ ถ้าไม่ชอบใจก็บอกข้าดีๆ ได้นี่นาไม่จำเป็นต้องเกรี้ยวกราดขนาดนั้น   หรือเจ้าแค่กลัวที่จะแสดงความรู้สึก ”

 

“ ข้าไม่เคยเห็นเจ้าเป็นสตรีและตอนนี้ก็ไม่ได้ล้อเล่น ”

 

เขาไม่พูดเปล่าแต่กดคมมีดลึกลงไป

 

“ ก็ได้   ข้ายอมแพ้ ”

 

เมื่อได้ยินดังนั้นกาเอลก็ลุกพรวดขึ้นทันที

โดยไม่ลืมดึงมีดติดมือมาด้วย

เขาถอยหลังออกไปดูนางห่างๆ

 

สตรีชุดแดงค่อยๆ ปัดเศษใบไม้ออกจากร่างกายของตัวเองอย่างละเมียดละไม

กาเอลยืนจ้องกิริยาอาการของนางเงียบๆ

 

สุดท้ายก็โน้มกายลงส่งมือให้นางใช้พยุงร่างลุกขึ้น

ไม่ว่าจะอย่างไรนางก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่อยู่เคียงข้างเขา

มาตลอดในช่วงเวลาที่แสนมืดมน

เขาจึงไม่อาจโกรธเคืองนางได้นานเลย

 

หญิงสาวยิ้มหน้าบานตอบรับความช่วยเหลือนั้น

มันเป็นรอยยิ้มที่สดใสไร้พิษสง

ไม่ได้เจืออารมณ์เสแสร้งดังเช่นที่ผ่านๆ มา

 

“ จริงๆ เลยนะในบรรดาผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามา   ข้าน่ะลุ่มหลงเจ้าที่สุดแล้ว ”

 

กาเอลไม่ได้ตอบโต้อะไร

เขาก้มลงคว้าเสื้อคลุมนอกที่กองอยู่บนพื้น

แล้วปีนขึ้นไปบนโขดหินจ้องไปยังร่างผู้คนที่นอนเกลื่อนกลาด

 

“ แน่ใจว่าจะทิ้งไว้แบบนี้   ถ้าสภาแห่งโอรีเวียรู้เรื่องเข้าคงมีเรื่องใหญ่โตตามมาแน่ ”

 

หนุ่มน้อยร่างบางถามความเห็น

 

“ ไม่เห็นเป็นไรเลย   ตอนนี้สมควรแก่เวลาแล้วที่ผู้คนจะต้องรับรู้   เจ้าเองก็ควรออกไปแสดงตัวด้วย   หลบอยู่ในเงามืดแบบนี้จะสนุกอะไร   หรืออยากให้ข้าช่วย ”

 

“ ช่วยอยู่เฉยๆ ไปก่อนเถอะ   เจ้าลงมือทีไรได้วายป่วงทุกที ”

 

กาเอลว่า

เขายกมือขึ้นแตะลำคอตรงจุดที่เพิ่งถูกฝังเขี้ยวมาเมื่อครู่

 

หนุ่มน้อยรู้ว่าไม่ได้มีร่องรอยอะไรให้สังเกตเห็น

แต่ความรู้สึกประหลาดยังแผ่ลึกไปทั่วร่าง

มันเป็นจูบแรกที่ไม่คิดว่าจะมาถึงในเวลาเช่นนี้

 

“ ทำไมล่ะ   เจ็บหรือ ”

 

นางเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อเห็นอาการอีกฝ่าย

 

“ ข้าแน่ใจว่าไม่ได้กระทำกับเจ้ารุนแรงเกินไปนะ   ไหนขอดูหน่อยสิเป็นแผลหรือเปล่า ”

 

หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงอย่างแท้จริง

แต่กาเอลยกมือขึ้นขวางเอาไว้

 

“ อีกครั้งเดียวข้าก็จะย้อมสีเสื้อผ้าให้เจ้าแล้ว ”

 

“ แหมชุดข้าเป็นสีแดงจัดขนาดนี้   เจ้ายังคิดจะย้อมอีกหรือ   อย่าโง่ไปหน่อยเลยมันไม่แดงไปกว่านี้แล้ว   ถึงเจ้าจะย้อมด้วยเลือดก็ตามที ”

 

“ อันที่จริงเจ้าพูดได้ถูกต้อง   เรื่องนี้ก็ย่อมแพร่งพรายอยู่ดี   เพราะมีคนรอดชีวิตออกไปมากมาย ”

 

กาเอลเปลี่ยนเรื่อง

 

“ ว้าว   พวกเขารู้แล้ว   พวกเขาจะอย่างไรต่อกันนะทีนี้   ข้าต้องรออีกนานหรือไม่   อยากกางปีกบินเต็มทีแล้ว ”

 

หญิงงามเอามือไขว้หลังบิดไหล่ไปมาด้วยท่าทีตื่นเต้น

 

“ ถึงอย่างไรก็ต้องตามหาของวิเศษจากโบราณทั้งเจ็ดให้ครบเสียก่อน   เจ้าอยากเล่นอะไรคอยไปก่อนเถอะ   ตอนนี้ข้าเห็นเอาไว้แล้วสาม   เอาเวลาเพ้อเจ้อไปตามหาส่วนที่เหลือไม่ดีกว่าหรือ ”

 

“ โว๊   ข้าว่า   ข้าเห็นสี่นะ ”

 

นางแย้ง

 

“ นับเฉพาะนี่มั่นใจแล้วจริงๆ   อย่าเพิ่งนับรวมกับการคาดเดา ”

 

หนุ่มน้อยว่า

 

“ แน่นอน   สายตาข้าย่อมไม่ผิดพลาด   ยังไงก็สี่ล่ะ ”

 

“ นับจากวันนี้พวกเราต้องลำบากกันแล้ว   เพราะจะต้องมีคนตามหาว่าใครที่ทำเรื่องแบบนี้   แล้วเจ้ายังอยากให้ข้าออกไปเดินเพ่นพ่านอีกหรือ ”

 

“ ก็เจ้าน่ะหมกมุ่นเกินไป   วันๆ เอาแต่จ้องร่างคนตายอยู่ได้   ข้าแค่อยากให้เจ้าเติมสีสันกับชีวิตบ้าง ”  

 

“ ยังไงล่ะ ”

 

กาเอลว่าพลางดีดนิ้ว

 

ฝูงอีกาจำนวนมากมายก็ถลาลงมารุมทึ้งซากศพ

 

“ อย่างเช่นสาวงามสักคนสองคน ”

 

นางเสนอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์แสนซน

 

“ หึ ”

 

หนุ่มน้อยร่างสูงหัวเราะแบบฝืดเผื่อน

 

“ ถ้าเจ้าไม่ชอบบทสวาทก็เล่นบทเถื่อนตามที่ถนัดก็ได้นี่นา ”

 

หญิงงามชี้ที่ข้างแก้ม

เลือดยังคงไหลรินไม่หยุด

 

“ ถ้าเจ้าสัญญาว่าจะอยู่นิ่งๆ ข้าก็จะ ”

 

กาเอลมีท่าทีลังเล

 

“ จะเป็นไรไปล่ะ   เมื่อเจ้าขอมาข้ายินดีทำทุกอย่างอยู่แล้ว ”

 

ร่างในอาภรณ์สีแดงหรูหราห่อกายลง

เชิดปลายคางขึ้นแล้วหลับตาพริ้มด้วยท่าทางยั่วยวน

 

หนุ่มน้อยรูปงามโน้มกายเข้าไปจุมพิตที่แผล

แล้วฉากหลบออกมาจากระยะเอื้อมถึง

 

อย่างไรก็ตาม

รอยแผลบนผิวแก้มเนียนผ่องได้หายไป

ไม่ทิ้งไว้แม้แต่รอยแผลเป็น

 

“ ใยขี้ตื่นเช่นนี้ ”

 

นางบ่น

 

“ ข้าน่ะเห็นเจ้ามาตั้งแต่ครั้งยังแบเบาะ   เรื่องคิดไม่ดีกับเจ้าไม่มีวันเสียหรอก   แต่ก็นะ   นอกจากจะรูปงามแล้วเจ้ายังมีอารมณ์แปรปรวน   เดี๋ยวดี   เดี๋ยวร้าย   มันทำให้ข้ารู้สึกอยากบดขยี้   อยากครอบครองเจ้าไว้แต่เพียงผู้เดียว   ความไร้เดียงสาของเจ้าต้องมีใครบางคนทลายมันลง   ก่อนที่ข้าจะคลั่งจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ ”

 

“ ขอบคุณมาก   ตอนนี้ข้าเริ่มเครียดแล้วล่ะ ”

 

กาเอลว่า

 

“ เรากลับกันเถอะ   ก่อนที่ผู้คนจะแห่กันมา ”

 

“ น่าสนุกจัง   ไหนว่าจะย้อมชุดใหม่ให้ข้าไง   ตอนนี้มีโอกาสแล้วอยู่คอยต้อนรับพวกเขาเสียหน่อยเป็นไร ”

 

สตรีชุดแดงทำเสียงอิดออด

แต่กาเอลก็เดินนำไปแล้ว

นางจึงต้องวิ่งตามไป

 

“ อย่าลืมที่ข้าบอกเจ้าล่ะ   เรื่องหญิงงามนั่น ”

 

สตรีนางนั้นทวง

 

“ ข้าจำเป็นต้องหาสาวงามจากที่ไหนอีก   ในเมื่อคนที่อยู่เคียงข้างข้า   ก็งดงามที่สุดในสามโลกแล้ว ”

 

สตรีชุดแดงได้ยินดังนั้นก็หยุดกึก

ดวงตากลมโตเบิกกว้าง

 

“ ไม่นึกว่าคนอย่างเจ้าก็ปากหวานเป็นกับเขาด้วย ”

 

นางบอก

 

“ เพียงแต่จิตใจของเจ้าโสโครกเกินรับไหวเท่านั้นเอง ”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา