โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  135.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

76) หญิงงามในป่า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

กาเอลเดินท่องไปตามป่าใหญ่อย่างเดียวดาย   เสื้อคลุมสีดำแถบแดงของเขากลืนไปกับแมกไม้และเงามืดอันลึกลับ   นานมาแล้วเขาเคยหลบหนีออกจากปราสาทเพื่อเข้าไปท่องเที่ยวในป่า   ช่วงเวลานั้นเขาคือเจ้าชายตัวน้อยๆ ที่ผู้คนต่างรักใคร่  

 

เขาเคยทอดกายลงบนผืนดิน   ปล่อยให้ฝูงสัตว์เข้ามารายล้อม   สิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ล้วนอยากใกล้ชิดเขา   แม้ดอกไม้ก็ยังบานสะพรั่งเพื่อต้อนรับการมาถึง

 

ในเวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปตามแสงแดดและสายลมที่ผันผ่าน   ใบหน้าที่เคยสดใสร่าเริงกลับเยือกเย็นลง   หัวใจที่งดงามอ่อนโยนบัดนี้ได้แข็งกระด้าง   ทุกย่างก้าวนำมาซึ่งความหวาดหวั่น   สัตว์ทั้งหลายหลบเร้นหายไป   แม้แต่ฝูงแมลงก็ยังต้องเงียบเสียงลง

 

 

ร่างสูงสง่าได้มาหยุดบนโขดหินก้อนหนึ่ง  

เขานั่งลงจ้องมองไปยังร่างไร้วิญญาณของเล่าทหารอารักขา

ตรงลานกว้านนั้นเต็มไปด้วยเศษชิ้นส่วนเนื้อมนุษย์

และกลิ่นเลือดที่คาวคลุ้ง

 

“ นึกไม่ถึง   พวกอสูรกายจะทำเลอะเทอะได้ถึงเพียงนี้   ต้องเสียเวลาเก็บกวาดอีกไม่น้อยเลย   หรือเจ้าคิดว่าอย่างไร ”     

 

กาเอลเอ่ยขึ้นมาลอยๆ ท่ามกลางความว่างเปล่า

 

“ จะต้องเก็บกวาดไปใยความตายนั้นงดงามยิ่งนัก   ปล่อยเอาไว้แบบนี้เถอะ   อย่างน้อยสัตว์ป่าจะได้ดื่มกิน ” 

 

เสียงหวานหยาดเยิ้มตอบรับมาจากด้านหลัง

พร้อมกับการปรากฏขึ้นของสตรีนางหนึ่ง

 

หญิงสาวนั้นผิวขาวหมดจดริมฝีปากอวบอิ่มได้รูป

และมีผมสีดำเงาเป็นประกาย

 

กาเอลหันกลับไปมองพลางยืดกายขึ้น

สตรีนางนั้นเคลื่อนใกล้เข้ามา

 

ด้วยเรือนร่างกลมกลึงสมส่วนในเสื้อผ้าอาภรณ์สีแดงสดที่รัดรึง

กับคอเสื้อคว้านลึกจนถึงเนินอวบอิ่ม

 

ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวนั้นเย้ายวนชวนลุ่มหลง

แค่เพียงการปรายตามองเพียงปราดเดียว

ก็มีอำนาจเพียงพอที่จะทำให้บุรุษผู้มัวเมาในราคะต้องคุกเข่าลง

และวิงวอนขอความเมตตา

 

แต่กาเอลกลับยังนิ่งเฉย

หัวใจของเขาด้านชาเกินกว่า

ความอ่อนหวานและงดงามใดจะสามารถปลอบประโลมได้

 

“ เอลานอสก็ไม่ได้แย่อย่างที่เจ้าว่าไว้   วันนี้เขาทำได้ดีทีเดียว ”

 

บุรุษหน้ากากเหล็กกล่าว

 

“ สำหรับคนขี้ขลาดเช่นเขาก็ถือว่าพอใช้ได้   แต่คนที่จัดได้ว่าไร้ที่ติ   ข้ายกให้เจ้าเป็นที่หนึ่ง ”

 

สตรีชุดแดงว่า

 

“ ข้าเคยทำให้ผิดหวังด้วยหรือ ”

 

“ แน่นอนว่าไม่และข้าประทับใจเจ้ามาก   วันนี้คงต้องมีการตบรางวัลแล้วล่ะ ”

 

“ ส่วนเจ้าชายเอลานอสเอง   ถ้ามีแรงผลักดันมากพอเขาก็ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ”

 

หนุ่มน้อยร่างสูงบอก

 

“ แล้วเจ้าล่ะมีแรงผลักดันมากเท่าไหร่   ข้าอยากรู้เสียจริง ”

 

นางเริ่มเดินไปรอบๆ กายของเขา

ไล้ฝ่ามือผ่านแผ่นหลังลากเลื้อยขึ้นมาบนไหล่

ก่อนจะหยุดลงที่กลางอก

 

“ ทำให้คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ   นานมาแล้วที่ซาเหวจลอร์ดจากข้าไป   แต่เจ้าทำได้ดีกว่าเขามากนัก   ข้ารอวันเช่นนี้มานานเหลือเกิน   วันที่จะได้เดินเคียงข้างกัน   ในคืนและวันอันมืดมิด ”

 

“ ถ้าหวังจะให้ข้าเป็นซาเหวจลอร์ดคนที่สองล่ะก็   ลืมไปได้เลย   ข้าจะไม่เป็นใครทั้งนั้น   เว้นแต่ตัวของข้าเอง ”

 

กาเอลเสียงเย็น

 

“ โอ๊ว!   ก็ไม่แน่หรอกหนุ่มน้อย   บางทีเจ้าอาจติดใจก็ได้   ใครจะรู้ ”  

 

สตรีผู้มากด้วยเสน่หามายากล่าว

นางลากนิ้วเรียวยาวจากทรวงอกผ่านลำคอล่วงเลยไปจนถึงปลายคาง

 

กาเอลเงยหน้าขึ้นช้าๆ ตามแรงบังคับ

ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

 

สตรีชุดแดงเห็นดังนั้นก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ

นางเอื้อมมือไปดึงหมวกฮู้ดและปลดชุดคลุมของบุรุษตรงหน้าออก

 

 กาเอลชำเลืองมองเสื้อคลุมตัวยาวที่หล่นลงไปกองกับพื้น

ขณะกำลังเอ่ยปากประท้วงเขาก็ถูกผลักลงไปในกองใบไม้เสียก่อน

 

หนุ่มน้อยรูปงามพยายามพลิกตัวกลับเพื่อยันกายขึ้น

แต่ก็เหมือนจะช้าเกินไป

ร่างของเขาถูกรวบและเหวี่ยงกลับลงไปอีกครั้ง

เศษใบไม้แห้งสีแดงสดปลิวกระจาย

 

สตรีนางนั้นนอนอยู่แนบชิดร่างของเขา

มือข้างหนึ่งกดไหล่เอาไว้แนบพื้น

 

ในยามที่กาเอลยืนอยู่ลำพังเขาดูสูงใหญ่พอสมควร

แต่เขาก็ยังเป็นเพียงหนุ่มน้อยวัยสิบห้า

 

เมื่อต้องมาอยู่ในเงื้อมมือของสตรีที่เติบโตเต็มวัยเต็มอายุ

อีกทั้งยังมากด้วยอารมณ์เสน่หา

 

เขาก็กลายเป็นเด็กน้อยที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาในทันที

แม้แต่หน้ากากโลหะสีดำที่สวมปิดบังใบหน้า

ก็ไม่อาจคงความน่ากลัวได้อีกต่อไป

 

“ คิดจะทำอะไรน่ะ ”

 

กาเอลกัดฟันถาม

 

“ แหมเด็กฉลาดอย่างเจ้า   จะเดาไม่ออกเลยเชียวหรือ   ข้าไม่เชื่อหรอก ”

 

“ กลางป่ากลางเขานี่นะ ”

 

“ ใช่ ”

 

เสียงนางเย้ายวน

 

“ รายรอบด้วยซากศพเกลื่อนกลาดแบบนี้ ”

 

กาเอลท้วง

 

“ แน่นอน   ทั้งหมดได้รับเกียรติให้เป็นพยานของสองเรา ”

 

“ เจ้านี่มันวิปริตของแท้เลย ”  

 

“ บุรุษก็ปากร้ายเหมือนกันนั่นแหละ   โดยเฉพาะพวกที่คำพูดไม่ตรงกับใจ ”

 

สตรีแสนงามพูดจาเย้าแหย่

 

เมื่อเห็นว่าว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีอาการขัดขืนอีกต่อไป

อีกทั้งยังนอนราบลงกับพื้นด้วยท่าทียอมจำนน

 

นางจึงเคลื่อนกายขึ้นไปบนร่างของเขา

มือเล็กๆ ดูบอบบางนั้นป่ายปัดเอาเศษใบไม้ออกไปอย่างเบามือ

 

กาเอลรับรู้ถึงน้ำหนักของหญิงสาวที่ทาบทับลงมาบนร่าง

เขาสูดลมหายใจเฮือกสองมือกำเศษใบไม้เอาไว้แน่น

 

สตรีชุดแดงสังเกตเห็นปฏิกิริยาตอบโต้ของเขาก็อมยิ้มด้วยความเอ็นดู

 

“ โถเด็กน้อย   ใยถึงได้กลัวขนาดนั้น   ไม่เป็นไรนะข้าจะระวังไม่ไห้เจ้าต้องบาดเจ็บ   หรือมีร่องรอยฟกช้ำอันใด ”

 

กาเอลไม่ตอบ

เขาหลับตาลงเพื่อหลบหนีจากแววตาหิวกระหายนั้น

เหมือนว่าหนุ่มน้อยจะยอมรับชะตากรรมได้แล้ว 

 

สตรีผู้เลอโฉมเลื่อนกายสูงขึ้นมาอีก

นางใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมสีเข้มให้ออกไปพ้นใบหน้า

แล้วก้มลงประทับริมฝีปากสุดเย้ายวนลงบนหน้ากากของเขา

 

กาเอลได้แต่ขบกรามแน่นด้วยอารมณ์สับสนอลหม่าน

 

“ ไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองขนาดนั้น   ปล่อยวางเสียบ้าง   ฟังเสียงหัวใจของเจ้าสิ   เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอกอยู่แล้ว   ข้าน่ะต่อให้ระมัดระวังเพียงใดแต่หากเจ้ายังฝืนอยู่อย่างนี้   ก็คงได้เจ็บตัวบ้างล่ะ   ฉะนั้นจงเป็นเด็กดีและเชื่อใจข้า   ไม่นานหรอกเดี๋ยวมันก็จบลงแล้ว ”

 

เสียงหวานหยาดเยิ้มปลอบประโลมอยู่ข้างหู

 

หนุ่มน้อยผู้ถูกบังคับให้นอนราบอยู่บนพื้นจึงเงยหน้าขึ้น

เผยให้เห็นลำคอแข็งแกร่งแต่ขาวเนียนเรียบน่าสัมผัส

 

“ ข้าอยากให้เจ้าเป็นเด็กดีของข้าแบบนี้ทุกวันจัง ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา