โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  135.61K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

46) น้ำชาและกลิ่นกำยาน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เมื่อเดินไปถึงหน้าประตูห้องส่วนตัวของครูใหญ่วีแกน   ดารีลก็ยกห่วงทองเหลืองขึ้นเคาะ   ประตูบานนั้นทำจากไม้โอ๊คสีน้ำตาลทอง   มองดูเรียบเนียนไร้ที่ติ     

 

“ เปิดอยู่แล้ว ”

 

มีเสียงอู้อี้ลอดออกมา

เขาจึงเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไป

ในห้องนั้นมืดสลัวดารีลถึงกับยกมือปิดปากปิดจมูก

เมื่อกลิ่นบางอย่างพุ่งเข้ามาปะทะ

 

“ นี่ท่านเผากำยานอยู่หรือไง ”

 

หนุ่มน้อยพ่อมดเดินไปกระชากฝ้าม่านพร้อมกับเปิดหน้าต่างออก

ปล่อยให้แสงสว่างและสายลมไหลเข้ามา

 

“ ข้าเปล่าเสียหน่อย ”

 

วีแกนว่า

 

“ ใครให้กำยานมามันมีพิษหลอนประสาทแบบอ่อนๆ ”

 

เขาถามย้ำ

 

“ นี่เจ้าคิดว่าข้าโกหกงั้นหรือ ”

 

ดารีลหรี่ตาดูคู่สนทนาแล้วส่ายหน้า

 

“ นึกแล้วว่าท่านต้องดื่ม ”

 

เขาว่าพลางรวบทั้งขวดและแก้วเหล้าปาเข้าผนังหินอ่อนแตกกระจายเกลื่อน

 

“ นั่นแพงมากเลยนะ ”

 

ครูใหญ่อุทาน

 

“ ข้าเคยบอกแล้วว่าจะไม่คุยกับคนเมา   ท่านดื่มได้แต่ไม่ใช่เวลาที่เรียกข้ามา ”

 

เขาว่าแล้วหมุนกายนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง

ผายมือไปทางชายร่างอ้วนด้วยท่าทีเชื้อเชิญ

 

“ มีอะไรว่ามา ”

 

ครูใหญ่เดินหมุนกระสับกระส่ายแล้วนั่งกระแทกลงบนเก้าอี้ตรงข้ามเขา

 

“ เจ้าก็เห็นแล้วในที่ประชุม ”

 

วีแกนถอนหายใจหนัก

 

“ ว่า ”

 

ดารีลเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

 

“ คนพวกนั้นใส่ความเจ้าและเหยียดหยามข้า ”

 

ดารีลเป็นฝ่ายถอนหายใจบ้าง

 

“ สิ่งที่ข้าบอกท่านเสมอคือ   ถ้าได้นั่งอยู่ตรงนั้นก็อย่าได้ใส่ใจเรื่องเล็กน้อย   คำพูดเผ็ดร้อนของโธรินจงปล่อยไปเสีย   อย่างน้อยก็ไม่มีใครให้ราคา ”

 

“ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ”

 

วีแกนสวนทันที

 

“ คนพวกนั้นตั้งใจโจมตีเรา   เพราะเราแตกต่างเราไม่เหมือนพวกเขา   ทั้งหมดจึงต่อต้านเรา ”

 

เขาแผดเสียงหน้าแดงก่ำ

 

“ มันถือว่าเป็นเลือดบริสุทธิ์   ส่วนเราเป็นครึ่งพันธ์ชั้นต่ำถึงได้เหยียดหยามเรา   ทั้งที่เรามีเลือดของนักเวทย์แต่ไม่ได้รับการยกย่องอย่างเท่าเทียม ”

 

“ ข้าว่าท่านใช้อารมณ์พูดมากเกินไปแล้ว   เอาอย่างนี้ท่านชงชาให้ข้าหน่อยชาแบบที่ข้าสอนท่านน่ะ   ใช้เตานั่นได้หรือเปล่า ”

 

อยู่ๆ ดารีลก็เปลี่ยนเรื่อง

เขาชี้ไปที่เตาโลหะบนนั้นมีหม้อใบเล็กเดือดปุดๆ

วีแกนที่กำลังงุนงงเพราะปรับอารมณ์ไม่ทันจึงพูดว่า

 

“ ได้   ได้สิ   ไม่มีอะไรสำคัญในหม้อนั้นหรอก ”

 

วีแกนยกหม้อดินเผาลงแล้วเปลี่ยนเป็นกาทองเหลือง

 

“ ถามหน่อยนั่นหม้ออะไรกลิ่นมันพิกล ”

 

ดารีลว่าพลางลุกมานั่งใกล้ๆ

 

“ ข้าพยายามปรุงยาตามแบบที่เจ้าใช้รักษาคนเป็นโรคระบาดที่เมืองซีนาร์ย ”

 

“ ไม่ใช่ละ ”

 

ดารีลใช้ช้อนก้านยาวตักตัวยาขึ้นมาดูใกล้ๆ

 

“ จะบอกว่าขี้ขลาดก็ได้แต่ลักษณะนี้ข้าไม่กล้าชิม ”

 

“ ข้าชิมไปแล้ว ”

 

ดารีลถึงกับผงะเมื่อได้ยินดังนั้น  

 

“ ทั้งที่กลิ่นไม่น่าไว้วางใจอย่างนี้นี่นะ ”

 

เขาตักสิ่งที่อยู่ในหม้อใส่ลงในถาดแล้วเกลี่ยดู

 

“ ตัวยาก็ไม่มีอะไรแปลกนี่นา   แล้วส่วนที่เปื่อยยุ่ยไปนี่คืออะไร   ใช่เห็ดเบรมสโตนหรือเปล่า ”

 

“ ข้าหาเห็ดอย่างที่เจ้าบอกไม่ได้   เลยใช้เห็ดอย่างอื่น   ที่มีสีเหลืองเหมือนกันแทน ”

 

“ เห็ดอะไร   เก็บจากที่ไหนล่ะ ”

 

ดารีลสงสัย

 

“ ข้าไม่รู้ชื่อ   เห็นขึ้นอยู่ตามขอบหลุมศพเลยเก็บมา ”

 

“ เอาจริงดิ ”

 

เด็กน้อยทำตาปริบๆ แบบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

เขาตักยาขึ้นจิบอึกหนึ่งแล้วรีบคายทิ้ง

 

“ เป็นพิษจริงด้วย   เอาล่ะข้าต้องเตือนท่านแล้ว   การปรุงยามันง่ายก็จริงแต่ท่านต้องเข้มงวดเรื่องวัตถุดิบ   ถ้าพลาดแม้แต่ตัวเดียวยาก็จะเปลี่ยนสรรพคุณทันที   ว่าแต่ท่านดื่มเข้าไปนานเท่าไหร่แล้ว ”

 

“ ก่อนเข้าประชุม ”

 

วีแกนตอบ

 

“ ถึงว่าท่านดูเลอะเลือน ”

 

ดารีลหยิบแก้วทรงสูงสำหรับดื่มวายขึ้นมาสองอัน

หยดน้ำจากขวดแก้วใบเล็กลงสามหยดไปส่งให้ครูใหญ่ใบหนึ่ง

และของเขาใบหนึ่ง

 

“ มาชนแก้วดื่มให้สำหรับความไร้เดียงสาของพวกเรา ”

 

หนุ่มน้อยนักเวทบอก

 

“ มันคืออะไร ”

 

ครูใหญ่วีแกนสงสัยแต่เขาก็ยอมดื่มแต่โดยดี

 

“ ยาถอนพิษ   เห็ดที่ท่านนำมามันคือเห็ดเทียนไขศพ   โชคดีที่ท่านหยิบดอกสีเหลืองถ้าหยิบสีเหลืองขอบดำแล้วล่ะก็ ”

 

เขาว่าพลางกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิม

 

“ ให้ตายสิข้าคิดว่าได้กลิ่นกำยานจริงๆ นะ   แน่ใจว่าไม่ได้เผลอเทลงในหม้อต้มยา ”

 

ดารีลยังข้องใจ

 

“ ข้าไม่ได้จุด   ถ้าไม่เชื่อก็ค้นห้องของข้าได้เลย   ว่าแต่เจ้าไม่ชอบกลิ่นกำยานหรือความจริงก็หอมดีออก ”

 

“ เปล่า   มันไม่ใช่กำยานแบบปรกติอาจมีคนกำลังเล่นตลก   ท่านไม่ได้กลิ่นหรือไง ”

 

“ ไม่รู้สิ   แต่ตอนนี้ข้ารู้สึกมึนๆ   คงโดนพิษเข้าให้แล้ว ”

 

วีแกนบอกด้วยน้ำเสียงตระหนก

 

“ อ้อ   นั่นมันผลจากการดื่มสุราต่างหาก   ช่างเถอะตอนนี้กลิ่นจางไปมากแล้ว   บางทีข้าอาจกังวลเกินเหตุ   ตอนนี้น้ำกำลังเดือดได้ที่   เรามาดื่มชากัน ”

 

ดารีลชวน

พลางขนชุดถ้วยชางาช้างออกมาจากตู้  

 

“ ข้าไม่ชงชาของเจ้าล่ะ   เพราะข้ามีนี่ ”

 

วีแกนหยิบห่อกระดาษจากชั้นบนสุดของตู้ลงมา  

ตอนนี้เขามีสีหน้าดีขึ้นแล้ว

 

“ ชาจากยอดเขาสูงราคาแพงระยับเหมาะสำหรับคนมีระดับ   เก็บเกี่ยวได้ปีละครั้ง   และส่วนใหญ่ถูกจองหมดก่อนจะออกจากถิ่นกำเนิดเสียด้วยซ้ำ ”

 

เจ้าของห้องโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจ

 

ดารีลแกะห่อกระดาษออกดู

ใบชาแห้งสีเขียวซีดจางจนแทบจะเป็นสีขาวกองอยู่ในนั้น

เขาหยิบใบนึ่งขึ้นมาดมแล้วขมวดคิ้วให้กับปริมาณที่น้อยนิด

 

“ เป็นอย่างไรบ้าง ”

 

ครูใหญ่ถามพลางถูมือด้วยสีหน้าคาดหวัง

 

“ ไม่รู้สิ ”

 

คนอ่อนวัยกว่าหยิบชาใส่ถ้วยสองถ้วยแล้วเติมน้ำจากกาทองเหลือง

จากนั้นเลื่อนถ้วยชามาที่ขอบโต๊ะ  

จรดจมูกลงสูดไอร้อนที่ระเหยขึ้นมาแล้วกระตุกยิ้มแปลกประหลาด

 

“ ไม่ดีหรือ ”

 

ครูใหญ่มีท่าทีผิดหวัง

 

“ แต่นี่ของหายากและราคาแพงสุดๆ เลยนะ ”

 

“ อย่าเพิ่งสิข้าแค่ไม่ชินกับของแบบนี้   หมายถึงข้าเคยดื่มเฉพาะชาที่ปรุงแล้ว ”

 

ว่าแล้วหนุ่มน้อยก็ยกถ้วยขึ้นจิบ  

คราวนี้เขากัดริมฝีปากมุมขวา  

ช้อนตาขึ้นไปมองครูใหญ่ด้วยแววสงสัย

 

ครูใหญ่ยกชาของตัวเองขึ้นจิบบ้าง

 

“ ไม่มีสี   ไม่มีกลิ่น   ไม่มีรส   ให้ตายสิข้าจ่ายสิบเหรียญทองเพื่อสิ่งนี้ ”

 

ดารีลอมยิ้มแก้มป่องขณะจิบชาไปเรื่อยๆ

 

“ ชาร้อนๆ นี่ดีจริงๆ เราดื่มเพื่อสุขภาพมากกว่าความอภิรมย์ ”

 

“ เจ้าประชด ”

 

วีแกนเสียงขุ่นและเริ่มทำหน้างอ

 

“ ข้าเปล่า   ชานี่มาจากเทือกเขาแถบไอโอเนีย   ของแบบนี้ใช้เป็นสมุนไพรมากกว่าจะชงดื่มเป็นของว่าง   เห็นได้ชัดว่าพวกเราร่ำรวยล้นฟ้า   ถึงได้เอาของล้ำค่ามาละลายน้ำร้อนเล่นอย่างนี้ ”

 

ดารีลบอก

 

“ เออจริงสิข้าพบนี่ ”

 

วีแกนนึกขึ้นได้

เขายื่นสมุดปกหนาสามเล่มให้ดารีล

มันเก่าแก่เสียจนราสีเขียวขึ้นลามไปทั่ว

 

“ ข้าค้นพบมันที่ห้องใต้ดินที่บ้านเก่าแต่ข้าอ่านมันไม่ออก   เจ้าคิดว่าเป็นตำราประเภทไหน ”

 

“ ข้าเองก็อ่านไม่ออกแม้จะดูคุ้นตาอยู่บ้าง   คงต้องพยายามแกะตัวอักษรดู   หนังสือพวกนี้เป็นอักษรโบราณ ”

 

ดารีลเปิดหนังสือทีละหน้าละอองเชื้อราก็ฟุ้งกระจาย

สายตากวาดดูตัวหนังสืออย่างละเอียดแล้วสีหน้าก็แสดงความเศร้าหมองออกมา

 

“ ข้าว่าสิบปีที่ผ่านมาเจ้าอ่านหนังสือจนหมดทั้งโอรีเวียแล้วมั้ง   ว่าแต่เจ้าจะเอาหนังสือพวกนี้ไปทำไม ”

 

ครูใหญ่วีแกนว่าพลางส่งเสียงไอเพราะเขาแพ้ฝุ่น

 

“ กฎข้อแรกของการเป็นพ่อมดคือความรอบรู้   ท่านต้องหัดอ่านให้มากกว่านี้   ถ้าข้าไม่มีหนังสือที่จะอ่านแล้วข้าคงหนีไปเมืองอื่นเพื่อตามหาหนังสือเล่มใหม่   ว่าแต่ท่านได้หนังสือนี่มาอย่างไร ”

 

“ ข้าก็บอกแล้วว่าค้นมาจากห้องใต้ดิน   พ่อของข้าเคยเป็นบรรณลักษณ์ห้องสมุดประจำเมืองโอรีเวีย   คิดว่าคงเป็นหนังสือเก่าที่ถูกโละทิ้ง   เขาเป็นคนหัวเก่าน่ะคงเสียดายเลยแอบเก็บไว้ ”

 

วีแกนตอบ

 

“ แน่ใจนะว่าทั้งหมดมีเท่านี้ ”

 

“ ก็แหงสิข้ารื้อจนห้องกระจุยหมดแล้ว   ทำไมล่ะเจ้าชอบหรือ   บางทีข้าอาจหาได้อีกจากร้านขายของเก่า ”

 

“ อย่าทีเดียวเชียว ” 

 

ดารีลเสียงเครียด

 

“ ข้านึกออกแล้ว   มันคือตำรามนต์ดำ   ตัวหนังสือพวกนี้มีลักษณะเฉพาะ   มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย   ถ้าเกิดวาลานรู้ว่าท่านมีหนังสือแบบนี้เกิดเรื่องใหญ่แน่ ”

 

วีแกนได้ยินดังนั้นก็หน้าซีด

 

“ แล้วห้องสมุดแห่งโอรีเวียมีของแบบนี้ได้อย่างไร ”

 

ครูใหญ่ร่างอ้วนถาม

 

“ นั่นแหละที่ข้าสงสัย   บางทีโอรีเวียกับเมืองคาเลอาจเคยมีความสำพันธ์ที่ดี   แต่เราคงหาความจริงเรื่องนี้กับวาลานไม่ได้ ”

 

“ แล้วเราจะทำอย่างไรกับพวกมัน   เผาทิ้งดีไหมก่อนที่ใครจะมาเห็น ”

 

วีแกนชี้ที่หนังสือด้วยท่าทีวุ่นวายใจ

หนุ่มน้อยจ้องมองอย่างใช้ความคิด

 

“ อย่าเพิ่งเลย ”

 

เขาตอบ

มือก็ปิดหนังสือลง

 

“ ข้าจะเก็บไว้เอง ”

 

“ มันจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าภายหลังหรือ   ข้ารู้ว่าเจ้าชอบหาความรู้   แต่นี่มันบ้ามาก   ถ้าวาลานรู้เข้านี่ถึงตายเลยนะ ”

 

วีแกนแย้ง

 

“ มีบางคนใช้มนต์ดำในโอรีเวีย   เป็นคาถาเก่าแก่ยากที่จะรับมือ   ข้าคิดว่าหนังสือพวกนี้สามารถช่วยข้าได้ ”

 

“ หมายถึงเจ้าจะเข้าสู่สายมืดเหมือนหมอนั่น ”

 

วีแกนทำท่าขนลุก

ดารีลได้แต่หัวเราะ

 

“ พลังของมนต์ดำมีลักษณะตายตัว   ใช่ว่าแค่อ่านตำราแล้วจะทำได้   มันเกี่ยวข้องกับสายเลือดด้วยจึงยากที่คนภายนอกจะเข้าถึง   นั่นเป็นเหตุให้ผู้ใช้มนต์ดำมีจำนวนน้อยมาก   ข้าแค่อยากศึกษาอย่างน้อยก็เพื่อให้รู้ลักษณะการโจมตีของมนต์ดำ   แต่ที่ข้าทำได้อย่างแน่นอนคือการปรุงยา   หวังว่าในสามเล่มนี้คงมีสักเล่มนะที่ใช่ ”

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา