โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  138.33K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) ฝันร้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
พวกเขาเดินไปเรื่อยๆ จนพบลำธารตื้นๆ น้ำในลำธารมีรสชาติแปลกแปล่งกว่าที่พบในบริเวณอื่น   พวกเขาดื่มกันจนอิ่มแล้วจึงลงล้างเนื้อล้างตัว   อาเธอร์เอากระติกน้ำออกมาเติมให้เต็มอยู่เสมอ   แม้เขาจะพบว่ามีแหล่งน้ำมากมายภายใต้หุบเขาแห่งนี้ก็ตาม   พวกเขาแบ่งขนมปังที่เหลือก้อนสุดท้ายให้กัน   ฟิโลโซเฟอร์มองส่วนของตัวเองแล้วทำหน้าเศร้า
 
“ ทนไปก่อนถึงโอรีเวียเมื่อไหร่เราจะได้อิ่มกว่านี้ ”
 
คาโลไรน์ปลอบ
 
“ ต่อให้อาหารหมดก็ยังมีน้ำให้ดื่มอย่างเหลือเฟือข้ามั่นใจว่าเราจะไม่แห้งตายอยู่ที่นี่ ”
 
ว่าแล้วนางก็มองลงไปในน้ำ
หินของคาโอเรียนั้นสว่างกว่าคบเพลิงนัก
 
“ โอตายจริงข้าเยินขนาดนี้เลยหรือนี่ ”
 
นางอุทานเมื่อเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง
อาเธอร์ประคองใบหน้านางหันกลับมา
 
“ เปล่าเลยเจ้ายังงดงามเหมือนเดิม ”
 
ชายหนุ่มพูดความจริงจากใจ
แล้วเขาก็ยิ้มกริ่มเมื่อเห็นนางหน้าแดง
 
ฟิโลโซเฟอร์นั่งนิ่งเขาเข้าใจแล้วที่พ่อมดบอกว่าการเดินทางกับอาหารต้องมาด้วยกัน  
เด็กชายกำลังคิดเสาะแสวงหาอาหารแต่เขาก็มืดแปดด้าน
 
คาโอเรียบิขนมปังส่งให้กระต่ายลู
มันดมๆ แล้วก็เมินหน้าหนี
 
“ เถอะน่าถ้าไม่อยากอดตายก็กินเข้าไปซะ ”
 
ลูหันมาช้าๆ มันค่อยๆ แทะกินขนมเหมือนถูกบังคับให้กินยาพิษ
อาเธอร์หยิบดาบของฟิโลโซเฟอร์ขึ้นมา
 
“ เจ้าได้มันมาจากไหน ”
 
เขาตรวจดูโดยละเอียดพบว่ามันถูกตีขึ้นอย่างประณีตด้วยแร่ที่แข็งกว่าเหล็ก   
เป็นแร่ที่นิยมตีเป็นอาวุธมาตั้งแต่โบราณแต่หายากมากแล้ว   
คมดาบเรียบเย็นและแข็งแกร่งจนน่าเชื่อว่าจะฟันหินขาดเป็นสองท่อนได้โดยง่าย
ด้ามจับทำจากโลหะสีดำประดับด้วยทับทิมน้ำงาม
คาโลไรน์ยื่นมือไปสัมผัสอย่างชื่นชม
 
“ งดงามจริงๆ ”
 
“ หรือนี่จะเป็นดาบของซาเหวจหลอด ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ให้ความเห็น
 
คำพูดนั้นทำเอาคาโลไรน์หดมือกลับอย่างรวดเร็ว
 
“ คงไม่ใช่   อาวุธของซาเหวจหลอดคือคทาเหล็กโลหะดำ    ว่าแต่เจ้าพบมันที่ไหน ”
 
อาเธอร์ถามย้ำ
 
“ ในบึงน่ะ ”
 
เด็กชายตอบแบบปัดๆ เขาไม่อยากให้บิดากังวลใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
 
“ เจ้าไปเจอบึงเข้าก็เลยลงไปงมเอาดื้อๆ อย่างนั้นหรือไง   แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้างล่างมีอะไรอยู่  ทำแบบนี้อันตรายมากนะ   อีกอย่างเจ้าว่ายน้ำไม่เป็นมิใช่หรือ   เจ้านี่เหลวไหลขึ้นทุกวันแล้วนะ ”
 
คาโลไรน์ตำหนิ
 
“ ท่านพ่อฟิโลโซเฟอร์เขาไม่ได้ตั้งใจหรอกแต่มังกรดำผลักเขาลงไปต่างหาก ”
 
คาโอเรียตอบอย่างอดไม่ได้เพราะเกรงมารดาจะตำหนิรุนแรงกว่านี้
 
“ นี่ลูกเจอเข้ากับมังกรดำหรือ ”
 
คาโลไรน์ทำตาโต
 
“ ได้อย่างไรกันแล้วลูกหนีมาอย่างไร   เกิดอะไรขึ้นบ้าง ”
 
“ ใช่แล้ว  สงสัยว่าจะเดินเข้าไปในรังของมันเลยล่ะโชคดีที่มีเฝ้ารังอยู่ตัวเดียว ”
 
เด็กหญิงว่าพลางมองหน้าพี่ชายเป็นเชิงขอให้เล่าแทน
อาเธอร์บีบแขนบุตรชายแน่น
 
“ เกิดอะไรขึ้นลูกข้า   เจ้าไปเจอกับอะไรแล้วหนีมาอย่างไร ”
 
เขาเสียงเครียด
 
“ ก็อย่างที่รู้กันคาโอเรียวิ่งตามเจ้าลูไป   หลงเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งที่มีแต่กองกระดูก   ที่นั่นมีมังกรตัวใหญ่ตัวหนึ่งข้ายิงมันด้วยธนูแต่มันไม่ตาย   สุดท้ายข้าฟาดมันด้วยคันธนูจนหักมันก็ยังไม่ยอมตายอีก   ระหว่างที่วิ่งหนีข้าตกลงไปในบึงและที่ก้นบึงนั้นเองข้าพบสิ่งนี้   เจ้ามังกรดำงุ่มง่ามจึงคอขาดกระเด็น ”
 
เด็กชายเล่าทั้งหมดอย่างรวบรัด
 
“ เจ้าไม่พบสิ่งอื่นอีกนะ ”
 
อาเธอร์ทำเสียงหวาดระแวง
 
“ อย่างเช่นอะไรล่ะ ”
 
“ มังกรตัวที่สองหรืออะไรบางอย่างที่คล้ายมังกร ”
 
ฟิโลเฟอร์หัวเราะ
 
“ ถ้ามีตัวที่สอง   เกรงว่าท่านพ่อจะต้องไปแหวกพวกเราออกมาจากท้องของมันแล้วล่ะ   ข้าคงล้มมังกรสองตัวพร้อมกันไม่ได้   แม้ตัวที่ข้าสังหารไปยังนับว่าโชคเข้าข้างไม่อย่างนั้นเรื่องคงจบไม่สวย ”
 
อาเธอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก
 
“ ข้าดีใจ  เปล่าเลยข้ามิได้ดีใจที่เจ้าสามารถพิชิตมังกรได้แต่ข้าดีใจที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่   และดียิ่งกว่านั้นเจ้ายังพาน้องกลับมาอย่างปรอดภัยข้าภูมิใจในตัวเจ้ามากลูกชายข้า ”
 
“ ท่านพ่อนั่นมันแค่มังกรดำแก่ๆ ตัวหนึ่งไม่เห็นต้องตื่นเต้น   ว่าแต่ว่าข้าจะนำดาบเล่มนี้ติดตัวไปได้หรือไม่ ”
 
“ ดาบเล่มนี้หรือ ”
 
อาเธอร์ชักดาบออกมาดูอีกครั้งด้วยสายตาครุ่นคิด
 
“ มันคงจะนอนอย่างสงบในบึงมานานแสนนานดาบเล่มนี้มีพลังอำนาจมาก   ไม่ว่านายเดิมของมันจะเป็นใครคนๆ นั้นต้องเป็นบุคคลที่มีความสำคัญตอนนี้ดาบที่ไร้นายได้พื้นคืนชีพจากบึงลึกลับ   โชคชะตาต้องการให้ดาบออกเดินทางอีกครั้ง  โอ!...ดาบที่สูญหาย  ดาบที่ไร้ชื่อ  ฟิโลโซเฟอร์เจ้านำดาบเล่มนี้ออกไปได้แต่ดาบนี้สูงค่าเกินกว่าจะเป็นของเรา   หากวันนั้นมาถึงเจ้าต้องมอบแก่ผู้ที่คู่ควร ”
 
เด็กชายรับคำเบาๆ แม้ในใจจะนึกเสียดาย
 
“ อันที่จริงข้าก็ชอบมันเข้าแล้ว   ดาบเล่มนี้ช่วยชีวิตข้ากับคาโอเรียเอาไว้   ท่านพ่อดูสิสิ่งนี้จมอยู่ในน้ำมานานเท่าไรแล้ว   แต่สนิมไม่ปรากฏให้เห็นสักจุดคมดาบก็เกลี้ยงเกลาไร้รอยแตกบิ่น   แท้จริงแล้วดาบเล่มนี้ใช้ทำอะไรกันแน่ ”
 
“ ข้ารู้สึกถึงพลังลึกลับที่มากมายจนนึกว่าเป็นของที่ใช้ในงานพิธีศักดิ์สิทธิ์   ยิ่งตัวดาบเองก็มีรูปลักษณ์ที่สวยงามยิ่งชวนให้คิดแบบนั้น   แต่เมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งแล้วก็ยังจัดว่าเป็นอันดับต้นๆ ของดาบสงคราม   บางทีสิ่งนี้อาจใช้สังหารและใช้ในงานพิธีกรรมก็ได้ ” 
 
“  ข้ารู้อยู่แล้วว่าการข้ามเขาต้องสาปนี่ต้องไม่เรียบง่าย   แต่ไม่นึกเลยว่าบุตรทั้งสองของข้าต้องสู้กับมังกรเพียงลำพัง   ช่างเป็นเรื่องเลวร้ายยิ่งนัก ”
 
คาโลไรน์ที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น
 
“ วางใจเถิดท่านแม่พวกเราดูแลตัวเองได้   ดูสิไม่มีใครบาดเจ็บเลย   มังกรตัวนั้นคงเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดแล้ว   จากนี้ไปข้าคิดว่าทางคงสะดวกขึ้น ”
 
บุตรชายคนโตของนางว่า
 
“ ใช่สะดวกสุดๆ ราวกับมีคนเอากลีบกุหลาบมาปูไว้ ”
 
คาโอเรียว่าแกมประชดนางไม่อยากบ่น  
จะราบรื่นได้อย่างไรในเมื่อตอนนี้เจอทางตันเหมือนติดอยู่ในถ้ำที่ไร้ทางออก  
แต่นางรู้ดีว่าเปล่าประโยชน์ที่จะมานั่งคร่ำครวญถึงสิ่งที่เกิดขึ้น  
สู้เอาเวลามาแก้ปัญหาดีกว่า
 
“ ไม่เป็นไรคาโลไรน์ทุกอย่างจะเรียบร้อย ”
 
อาเธอร์รั้งนางเข้ามากอดอย่างปลอบโยน
 
“ พอเราพ้นเขาลูกนี้ออกไปเรื่องร้ายๆ ก็จะจบลงแล้ว ”
 
“ ข้ายังไม่แน่ใจเลยว่าที่นั่นจะปรอดภัยจริงๆ สำหรับลูกๆ ของเราพวก   เขาต้องพบกับอันตรายมากมายเหลือเกิน   ทั้งที่อายุเพียงเท่านี้   แต่ข้าก็ไม่รู้เลยว่าจะมีที่ใดอีกที่จะซ่อนพวกเขาไว้จากสิ่งอันตราย ”
 
“ จงเชื่อเถิด   โอรีเวียอยู่ภายใต้การคุ้มครองของสภาพ่อมด   ไม่ว่าอะไรก็ตามมันจะข้ามกำแพงเมืองเข้าไปไม่ได้ ”
 
อาเธอร์ยืนยันในสิ่งที่เขาเคยเชื่อมั่น
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา