โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) ฝันร้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพวกเขาเดินไปเรื่อยๆ จนพบลำธารตื้นๆ น้ำในลำธารมีรสชาติแปลกแปล่งกว่าที่พบในบริเวณอื่น พวกเขาดื่มกันจนอิ่มแล้วจึงลงล้างเนื้อล้างตัว อาเธอร์เอากระติกน้ำออกมาเติมให้เต็มอยู่เสมอ แม้เขาจะพบว่ามีแหล่งน้ำมากมายภายใต้หุบเขาแห่งนี้ก็ตาม พวกเขาแบ่งขนมปังที่เหลือก้อนสุดท้ายให้กัน ฟิโลโซเฟอร์มองส่วนของตัวเองแล้วทำหน้าเศร้า
“ ทนไปก่อนถึงโอรีเวียเมื่อไหร่เราจะได้อิ่มกว่านี้ ”
คาโลไรน์ปลอบ
“ ต่อให้อาหารหมดก็ยังมีน้ำให้ดื่มอย่างเหลือเฟือข้ามั่นใจว่าเราจะไม่แห้งตายอยู่ที่นี่ ”
ว่าแล้วนางก็มองลงไปในน้ำ
หินของคาโอเรียนั้นสว่างกว่าคบเพลิงนัก
“ โอตายจริงข้าเยินขนาดนี้เลยหรือนี่ ”
นางอุทานเมื่อเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง
อาเธอร์ประคองใบหน้านางหันกลับมา
“ เปล่าเลยเจ้ายังงดงามเหมือนเดิม ”
ชายหนุ่มพูดความจริงจากใจ
แล้วเขาก็ยิ้มกริ่มเมื่อเห็นนางหน้าแดง
ฟิโลโซเฟอร์นั่งนิ่งเขาเข้าใจแล้วที่พ่อมดบอกว่าการเดินทางกับอาหารต้องมาด้วยกัน
เด็กชายกำลังคิดเสาะแสวงหาอาหารแต่เขาก็มืดแปดด้าน
คาโอเรียบิขนมปังส่งให้กระต่ายลู
มันดมๆ แล้วก็เมินหน้าหนี
“ เถอะน่าถ้าไม่อยากอดตายก็กินเข้าไปซะ ”
ลูหันมาช้าๆ มันค่อยๆ แทะกินขนมเหมือนถูกบังคับให้กินยาพิษ
อาเธอร์หยิบดาบของฟิโลโซเฟอร์ขึ้นมา
“ เจ้าได้มันมาจากไหน ”
เขาตรวจดูโดยละเอียดพบว่ามันถูกตีขึ้นอย่างประณีตด้วยแร่ที่แข็งกว่าเหล็ก
เป็นแร่ที่นิยมตีเป็นอาวุธมาตั้งแต่โบราณแต่หายากมากแล้ว
คมดาบเรียบเย็นและแข็งแกร่งจนน่าเชื่อว่าจะฟันหินขาดเป็นสองท่อนได้โดยง่าย
ด้ามจับทำจากโลหะสีดำประดับด้วยทับทิมน้ำงาม
คาโลไรน์ยื่นมือไปสัมผัสอย่างชื่นชม
“ งดงามจริงๆ ”
“ หรือนี่จะเป็นดาบของซาเหวจหลอด ”
ฟิโลโซเฟอร์ให้ความเห็น
คำพูดนั้นทำเอาคาโลไรน์หดมือกลับอย่างรวดเร็ว
“ คงไม่ใช่ อาวุธของซาเหวจหลอดคือคทาเหล็กโลหะดำ ว่าแต่เจ้าพบมันที่ไหน ”
อาเธอร์ถามย้ำ
“ ในบึงน่ะ ”
เด็กชายตอบแบบปัดๆ เขาไม่อยากให้บิดากังวลใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ เจ้าไปเจอบึงเข้าก็เลยลงไปงมเอาดื้อๆ อย่างนั้นหรือไง แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้างล่างมีอะไรอยู่ ทำแบบนี้อันตรายมากนะ อีกอย่างเจ้าว่ายน้ำไม่เป็นมิใช่หรือ เจ้านี่เหลวไหลขึ้นทุกวันแล้วนะ ”
คาโลไรน์ตำหนิ
“ ท่านพ่อฟิโลโซเฟอร์เขาไม่ได้ตั้งใจหรอกแต่มังกรดำผลักเขาลงไปต่างหาก ”
คาโอเรียตอบอย่างอดไม่ได้เพราะเกรงมารดาจะตำหนิรุนแรงกว่านี้
“ นี่ลูกเจอเข้ากับมังกรดำหรือ ”
คาโลไรน์ทำตาโต
“ ได้อย่างไรกันแล้วลูกหนีมาอย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง ”
“ ใช่แล้ว สงสัยว่าจะเดินเข้าไปในรังของมันเลยล่ะโชคดีที่มีเฝ้ารังอยู่ตัวเดียว ”
เด็กหญิงว่าพลางมองหน้าพี่ชายเป็นเชิงขอให้เล่าแทน
อาเธอร์บีบแขนบุตรชายแน่น
“ เกิดอะไรขึ้นลูกข้า เจ้าไปเจอกับอะไรแล้วหนีมาอย่างไร ”
เขาเสียงเครียด
“ ก็อย่างที่รู้กันคาโอเรียวิ่งตามเจ้าลูไป หลงเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งที่มีแต่กองกระดูก ที่นั่นมีมังกรตัวใหญ่ตัวหนึ่งข้ายิงมันด้วยธนูแต่มันไม่ตาย สุดท้ายข้าฟาดมันด้วยคันธนูจนหักมันก็ยังไม่ยอมตายอีก ระหว่างที่วิ่งหนีข้าตกลงไปในบึงและที่ก้นบึงนั้นเองข้าพบสิ่งนี้ เจ้ามังกรดำงุ่มง่ามจึงคอขาดกระเด็น ”
เด็กชายเล่าทั้งหมดอย่างรวบรัด
“ เจ้าไม่พบสิ่งอื่นอีกนะ ”
อาเธอร์ทำเสียงหวาดระแวง
“ อย่างเช่นอะไรล่ะ ”
“ มังกรตัวที่สองหรืออะไรบางอย่างที่คล้ายมังกร ”
ฟิโลเฟอร์หัวเราะ
“ ถ้ามีตัวที่สอง เกรงว่าท่านพ่อจะต้องไปแหวกพวกเราออกมาจากท้องของมันแล้วล่ะ ข้าคงล้มมังกรสองตัวพร้อมกันไม่ได้ แม้ตัวที่ข้าสังหารไปยังนับว่าโชคเข้าข้างไม่อย่างนั้นเรื่องคงจบไม่สวย ”
อาเธอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ ข้าดีใจ เปล่าเลยข้ามิได้ดีใจที่เจ้าสามารถพิชิตมังกรได้แต่ข้าดีใจที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ และดียิ่งกว่านั้นเจ้ายังพาน้องกลับมาอย่างปรอดภัยข้าภูมิใจในตัวเจ้ามากลูกชายข้า ”
“ ท่านพ่อนั่นมันแค่มังกรดำแก่ๆ ตัวหนึ่งไม่เห็นต้องตื่นเต้น ว่าแต่ว่าข้าจะนำดาบเล่มนี้ติดตัวไปได้หรือไม่ ”
“ ดาบเล่มนี้หรือ ”
อาเธอร์ชักดาบออกมาดูอีกครั้งด้วยสายตาครุ่นคิด
“ มันคงจะนอนอย่างสงบในบึงมานานแสนนานดาบเล่มนี้มีพลังอำนาจมาก ไม่ว่านายเดิมของมันจะเป็นใครคนๆ นั้นต้องเป็นบุคคลที่มีความสำคัญตอนนี้ดาบที่ไร้นายได้พื้นคืนชีพจากบึงลึกลับ โชคชะตาต้องการให้ดาบออกเดินทางอีกครั้ง โอ!...ดาบที่สูญหาย ดาบที่ไร้ชื่อ ฟิโลโซเฟอร์เจ้านำดาบเล่มนี้ออกไปได้แต่ดาบนี้สูงค่าเกินกว่าจะเป็นของเรา หากวันนั้นมาถึงเจ้าต้องมอบแก่ผู้ที่คู่ควร ”
เด็กชายรับคำเบาๆ แม้ในใจจะนึกเสียดาย
“ อันที่จริงข้าก็ชอบมันเข้าแล้ว ดาบเล่มนี้ช่วยชีวิตข้ากับคาโอเรียเอาไว้ ท่านพ่อดูสิสิ่งนี้จมอยู่ในน้ำมานานเท่าไรแล้ว แต่สนิมไม่ปรากฏให้เห็นสักจุดคมดาบก็เกลี้ยงเกลาไร้รอยแตกบิ่น แท้จริงแล้วดาบเล่มนี้ใช้ทำอะไรกันแน่ ”
“ ข้ารู้สึกถึงพลังลึกลับที่มากมายจนนึกว่าเป็นของที่ใช้ในงานพิธีศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งตัวดาบเองก็มีรูปลักษณ์ที่สวยงามยิ่งชวนให้คิดแบบนั้น แต่เมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งแล้วก็ยังจัดว่าเป็นอันดับต้นๆ ของดาบสงคราม บางทีสิ่งนี้อาจใช้สังหารและใช้ในงานพิธีกรรมก็ได้ ”
“ ข้ารู้อยู่แล้วว่าการข้ามเขาต้องสาปนี่ต้องไม่เรียบง่าย แต่ไม่นึกเลยว่าบุตรทั้งสองของข้าต้องสู้กับมังกรเพียงลำพัง ช่างเป็นเรื่องเลวร้ายยิ่งนัก ”
คาโลไรน์ที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น
“ วางใจเถิดท่านแม่พวกเราดูแลตัวเองได้ ดูสิไม่มีใครบาดเจ็บเลย มังกรตัวนั้นคงเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดแล้ว จากนี้ไปข้าคิดว่าทางคงสะดวกขึ้น ”
บุตรชายคนโตของนางว่า
“ ใช่สะดวกสุดๆ ราวกับมีคนเอากลีบกุหลาบมาปูไว้ ”
คาโอเรียว่าแกมประชดนางไม่อยากบ่น
จะราบรื่นได้อย่างไรในเมื่อตอนนี้เจอทางตันเหมือนติดอยู่ในถ้ำที่ไร้ทางออก
แต่นางรู้ดีว่าเปล่าประโยชน์ที่จะมานั่งคร่ำครวญถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
สู้เอาเวลามาแก้ปัญหาดีกว่า
“ ไม่เป็นไรคาโลไรน์ทุกอย่างจะเรียบร้อย ”
อาเธอร์รั้งนางเข้ามากอดอย่างปลอบโยน
“ พอเราพ้นเขาลูกนี้ออกไปเรื่องร้ายๆ ก็จะจบลงแล้ว ”
“ ข้ายังไม่แน่ใจเลยว่าที่นั่นจะปรอดภัยจริงๆ สำหรับลูกๆ ของเราพวก เขาต้องพบกับอันตรายมากมายเหลือเกิน ทั้งที่อายุเพียงเท่านี้ แต่ข้าก็ไม่รู้เลยว่าจะมีที่ใดอีกที่จะซ่อนพวกเขาไว้จากสิ่งอันตราย ”
“ จงเชื่อเถิด โอรีเวียอยู่ภายใต้การคุ้มครองของสภาพ่อมด ไม่ว่าอะไรก็ตามมันจะข้ามกำแพงเมืองเข้าไปไม่ได้ ”
อาเธอร์ยืนยันในสิ่งที่เขาเคยเชื่อมั่น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ