โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  137.54K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

174) ฝันร้ายในโลกจริง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ในปราสาทขาวเวลานี้เหลือผู้คนไม่มากแล้วและล้วนแต่เป็นผู้มีฝีมือ   เข้ามาเพื่อสังหารผีร้าย   ฟิโลโซเฟอร์เล็ดลอดผ่านเข้าไปข้างในโดยไม่อยู่ในความสนใจของผู้ใดเลย   เขาตัวคนเดียวไร้ความวิตกกังวลจิตใจก็สงบเยือกเย็นขึ้น   ทุกอย่างดูกระจ่างชัดในหมอกมืดมัวไม่รู้สึกหวาดกลัวอีกต่อไป   เป็นเพราะความตกใจเลยมิได้สังเกต   หมอกนั้นมีกลิ่นหอมประหลาดเหมือนดารีลแต่ทว่าเจือจางกว่ามาก
 
เขาก้าวผ่านระเบียงต่างๆ กลิ่นกำยานที่คลุ้งอยู่ในผมทำให้เหล่าเกรบอคไม่อยากเข้าใกล้   อีเลียสเลือกของได้ดี   แม้มันไม่สามารถทำลายมนต์ดำ   แต่กลับขับไล่สัตว์ปีศาจจมูกดีเช่นเกรบอคได้
 
เด็กชายตัวน้อยมุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว   เป้าหมายของเขานั้นแน่นอนอยู่แล้ว   เพียงเวลาไม่นานก็ไปถึงห้องเก็บของ   ผลักกล่องต่างๆ ออกไปจนพ้นทางแล้วงัดแผ่นหินอ่อนขึ้นมาด้วยปลายดาบ
 
 
เมืองใต้ดินนั้นดูร้างผิดปรกติ   เป็นเพราะสัตว์ปีศาจและผีร้ายได้ปีนขึ้นไปข้างบนจนเกือบหมดสิ้น   ตามคำเรียกหาของผู้ใช้มนต์ดำ   เด็กชายตัวน้อยจึงผ่านไปยังที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว   เขาจุดตะเกียงที่หยิบมาจากระเบียงทางเดินของปราสาทขาว   มันถูกกระแทกตกลงมาจนกระจกร้าวแต่ก็ยังใช้งานได้ดี
 
ในที่สุดเขาก็มาถึงคุกใต้ดิน   มันเงียบเชียบไร้ซุ่มเสียงใด   เด็กชายวิ่งไปยังกรงที่เคยขังดารีล   พบว่ามันว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง   บางทีพวกนั้นอาจพาเขาหนีขึ้นไปแล้ว   แต่ส่วนหนึ่งในความรู้สึกบอกเขาว่าหนุ่มน้อยคนนั้นยังอยู่ข้างล่างนี่   ที่ไหนสักแห่ง
 
ฟิโลโซเฟอร์รู้สึกวุ่นวายใจไม่รู้จะทำเช่นไรดี   แล้วเขาจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่เข้าท่า   ตะโกนเรียกชื่อดารีลออกมาทั้งอย่างนั้น
 
และได้ผลทันทีตะเกียงแขวนหน้ากรงเหล็กสว่างวาบขึ้นพร้อมกัน
พร้อมกับไอหมอกสีดำคละคลุ้งเต็มห้อง
 
กลิ่นกำยานฉุนเฉียวอย่างร้ายกาจกระแทกเข้าเต็มจมูก
มันเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกหลอกหลอนคุกคาม
 
เด็กชายตัวน้อยลดสายตามองพื้น
เห็นเงาสีดำกำลังทอดยาวตรงมาหาจากทางด้านหลัง
และตอนนี้อยู่ใกล้จนแทบเอื้อมมือไปสัมผัสถึง
 
เขาตะลึงงัน
วูบหนึ่งคิดว่าตอนนี้เวลานี้คือความฝัน
แค่ลืมตาตื่นหมอกชั่วร้ายก็จะหายไป
 
แต่เมื่อตั้งสติให้ดีเขาก็รู้ว่านี่คือความจริงอย่างที่สุด
ทั้งที่ยังไม่หันไปมอง
เขาก็แทบจะมั่นใจว่าคนข้างหลังต้องสวมชุดคลุมดำ
ในมือถือกระถางเผากำยาน
 
และได้แต่หวังอย่างหวาดหวั่น
ว่าเขาคนคนนั้นคงไม่ได้ถือดาบโบราณไว้ในมืออีกข้างหรอกนะ
ดาบที่ประดับด้วยอัญญมณีสีแดง
 
“ ทิ้งดาบนั่นไปเสียคุกเข่าลงแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ”
 
เสียงนุ่มนวลแต่เฉียบขาดดังมาจากด้านหลัง
เด็กชายตัวน้อยค่อยๆ ย่อตัวลงวางตะเกียงกับพื้น
จากนั้นวางดาบลงใกล้ๆ
 
“ ว่าง่ายดีนี่ ”
 
เจ้าของร่างนั้นเอ่ยชม
 
“ เอาล่ะค่อยๆ หันมาข้าจะดึงเจ้าขึ้น   แล้วเจ้าจะได้เป็นมือขวาของข้า   ติดตามข้าและยิ่งใหญ่ไปพร้อมกับข้า ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ลุกขึ้นพร้อมกับชักดาบออกจากฝัก
แล้วหันกลับไปฟาดฟันร่างที่อยู่ข้างหลัง
ด้วยความรวดเร็วและเกรี้ยวกราด
 
หมอกสีดำหายวับในทันที
มีเพียงเขาและความว่างเปล่า
 
เด็กชายตัวน้อยหอบหายใจจนเซไปชนเข้ากับกรง
ผีร้ายในกรงพุ่งเข้ามาจับตัวเขา
 
ฟิโลโซเฟอร์แทงสวนเข้าไปโดยไม่เสียเวลาคิด
ประกายดาบเรื่อเรืองขึ้นพร้อมกับผีร้ายที่สลายเป็นควัน
 
เขาทรุดกายลงนั่งอย่างอ่อนแรง
รู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ดารีลเจ้าอยู่ไหนนะ
อย่าได้นอนจมกองเลือดอย่างที่ข้าเคยเห็นในความฝันเลย
 
บุรุษปริศนาได้ปรากฏเป็นจริงขึ้นแล้ว
แต่เจ้าอย่าเป็นดังนั้น
อย่าจากข้าไปเลย
 
 
            เด็กชายตัวน้อยพาตัวเองออกมาจากคุกใต้ดิน
ด้วยความรู้สึกสับสนวุ่นวาย
ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นจากตรงไหนหรือควรทำอะไรกันแน่
 
การได้พบกับฝันร้ายร่างดำมืดในยามตื่นนั้น
ทำให้เขาตื่นตระหนก
 
นับตั้งแต่หนีรอดออกมาจากหุบเขาต้องสาป
ฟิโลโซเฟอร์ฝันถึงคนผู้นี้เสมอ
 
เด็กชายมักบอกตัวเองว่านี่คือภาพสะท้อนแห่งหุบเขานั่น
คนผู้นี้ไม่มีทางมีอยู่จริง
มันก็แค่ตัวแทนความหวาดกลัวที่กัดกินเขาอยู่ตลอด
 
แต่บัดนี้รู้แน่แล้วว่าไม่ใช่
เขาปรากฏตัวตรงนี้
พูดคุยกับเขาราวกับรู้จักกันดี
ได้อย่างไรกัน
 
ทันใดเขาก็คิดถึงคนอีกผู้หนึ่ง
ว่ายังปรอดภัยดีไหม
 
คนผู้นั้นแข็งแกร่งและชั่วร้าย
แต่กลับปล่อยเขามาอย่างง่ายดาย
 
แล้วเจ้าล่ะดารีล
คนผู้นั้นจะปล่อยเจ้าหรือเปล่า
 
ไม่ว่าจะอย่างไร
ข้าต้องหาเจ้าให้พบ
ก่อนคนผู้นั้นให้ได้
 
เมื่อคิดดังนั้นเขาจึงวิ่งไป
ปากก็ตะโกนเรียกหนุ่มน้อยคนนั้นไปตลอดทาง
 
เสียงของเขาเรียกเอาผีร้ายที่ยังหลงเหลืออยู่
ให้มุ่งตรงมาหา
 
แต่เด็กชายตัวน้อย
ก็ไม่ได้หวั่นไหว
พร้อมกับดาบในมือที่เปล่งแสงเรื่อเรืองขึ้น
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา