โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
7.3
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
188 บทที่
11 วิจารณ์
137.67K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
123) ดาบสีเงิน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากทุกอย่างสงบลง เด็กๆ ต่างจับกลุ่มกันพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และบางคนได้ไปตามหาผู้ที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องต่างๆ
สภาพภายในห้องโถงนั้นพังพินาศ เมื่องานรื่นเริงกลายเป็นลานสังหาร เด็กหลายคนเสียขวัญบางคนรู้สึกสนุกที่ได้ฆ่าฟัน แต่ยังมีคนที่เฉยเมยกับเหตุดังกล่าว
ดารีลผละออกจากกลุ่มไปเงียบๆ เขาก้าวออกจากตัวปราสาท เพื่อสำรวจความเสียหายภายนอก เสียงอึกทึกโกลาหลเงียบลงแล้ว เมื่อสิ่งชั่วร้ายได้จากไป เหลือเพียงความเสียหายที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง
พ่อมดน้อยนั่งลงในสวน ท้องฟ้าเบื้องบนค่อยๆ ใสกระจ่างแสงจันทร์สาดลงมาอาบร่างของเขาทำให้ดูขาวซีด ถ้าไม่มองไปทางปราสาทอีกหลังที่กำลังลุกไหม้ คืนนี้ก็ดูปรกติดี
อีเลียสก้าวมายืนข้างๆ เขาพร้อมกับส่งคทาที่หักเป็นสองท่อนคืนให้
“ เสียใจด้วยนะสำหรับเรื่องนี้ ”
“ เจ้าก็เห็นแล้วนี่ว่าข้ามีหลายอัน พังไปสักอันข้าก็ไม่เดือดร้อน ”
ถึงจะกล่าวเช่นนั้นแต่เขาก็รับคืนมา
“ ดารีลข้ามีเรื่องอยากขอร้องท่าน ”
เด็กร่างผอมมีท่าทีอ้ำอึ้ง
“ ว่ามาสิ เจ้าขอมาถ้าข้าทำได้ก็คือได้ ถ้าไม่ได้ก็จบแค่นั้น ไม่เห็นต้องกังวล ”
“ เป็นไปได้หรือเปล่าถ้าข้าอยากได้ปลายหอกเล่มนั้น ”
อีเลียสพูดอย่างเร็ว
เหมือนกับว่าถ้ารอช้าไปกว่านี้เขาอาจไม่กล้าพูดออกมา
ดารีลขมวดคิ้ว
สุดท้ายเขาก็เข้าใจ
“ มันเป็นสมบัติของโอรีเวีย ”
เขาว่า
“ ได้วางอยู่ตรงนั้นประวัติคงดีไม่น้อย ข้ารู้เจ้าคิดอะไร เตือนไว้ก่อนเคอร์คารอลน่ะเป็นอมตะ ไม่มีใครสามารถฆ่ามันได้ อย่างมากก็แค่ส่งกลับนรก แต่เอาเถอะข้าจะลองถามท่านวาลานดู ”
“ ขอบคุณ ”
เด็กคนนั้นบอก
“ ขอบคุณตอนนี้ไม่เร็วไปหน่อยหรือ ”
คำพูดนั้นทำให้อีเลียสหัวเราะแห้งๆ
“ ไม่นึกว่าหลังจบเรื่องสยองเจ้าจะอารมณ์ดีได้เร็วขนาดนี้ ”
เสียงของโลธอร์ดังขึ้น
พวกเขาได้ออกตามหาคนทั้งคู่จนพบ
ฟิโลโซเฟอร์ส่งสัญญาณให้เพื่อนๆ ออกไปก่อน
แล้วเขาก็นั่งลงข้างๆ ดารีล
ที่ตอนนี้ทำเป็นนิ่งเงียบ
ไม่นำพาต่อสิ่งใด
“ ข้าทำเจ้าโกรธอีกแล้วสิ ”
“ เปล่า ”
หนุ่มน้อยคนนั้นตอบสั้นๆ แล้วเงียบไปอีก
เด็กชายเห็นดังนั้นจึงไม่พูดอะไร
เขาไม่อยากขัดใจดารีลมากไปกว่านี้
ทั้งสองอยู่ด้วยกันโดยปราศจากคำพูดใด
สุดท้ายกลายเป็นดารีลเองที่เอ่ยปาก
“ ข้าขอโทษเจ้า ”
“ เรื่องอะไรล่ะ ”
เด็กชายตัวน้อยประหลาดใจ
“ ดาบเล่มนั้นบิดาของเจ้าซื้อให้มิใช่หรือ ข้าไม่สมควรโยนมันเข้ากองไฟ แต่ดูเหมือนว่าจะมือไวเกินไปหน่อย ”
เขากล่าว
“ อ้อ เช่นนั้นเอง เจ้าไม่เห็นต้องกังวลมันเป็นแค่ดาบไม้ และข้าทำหักไปหลายอันแล้ว ”
“ จนป่านนี้แล้วเหตุใดเจ้ายังถือดาบไม้อยู่ล่ะ ”
“ บิดาของข้าคงไม่อยากให้ข้าเดินทางสายผู้กล้า ถึงเขาจะไม่เคยห้ามปรามหรือพูดออกมาตรงๆ แต่การกระทำหลายอย่างก็พอจะเข้าใจไปแบบนั้นได้ ”
ฟิโลโซเฟอร์ว่า
“ จริงๆ มันเป็นความคิดที่ดีไม่น้อย ถ้าข้าเลือกได้ ป่านนี้ข้าหนีเข้าป่าลึกไปแล้ว ”
“ เหตุใดเจ้าจึงเลือกไม่ได้ล่ะ ”
“ เพราะข้าโดนหมายหัวแล้วเจ้าเองก็เช่นกัน ”
ดารีลบอก
“ ข้าไม่เข้าใจ ”
“ เคอร์คารอลเป็นปีศาจร้ายที่ไม่ได้มุ่งฆ่าคนเพียงอย่างเดียว มันจะสร้างเงามืดขึ้นในจิตใจของเหยื่อ เพื่อการันตีว่าคนผู้นั้นต้องลงนรกอย่างแน่นอน ข้านั้นชั่งใจอยู่นานว่าสมควรให้เจ้าเข้ามาเกี่ยวของกับเรื่องนี้หรือไม่ แต่เจ้าถูกหมายหัวมาก่อนหน้านั้นแล้ว หากจะถูกเพ่งเล็งอีกรอบก็คงไม่ต่างกัน ถึงอย่างไรข้าต้องขอชื่นชมเจ้าคืนนี้ทำได้ดีมาก อย่างน้อยก็ได้ช่วยชีวิตข้าและปกป้องหัวใจของผู้อื่นเอาไว้ ช่างกล้าหาญนัก ถึงจะโง่ไปหน่อยก็ตามที ผู้กล้าน่ะเจ้าเป็นได้อยู่แล้วหากเจ้าคิดจะเลือกทางนั้น ”
“ จริงหรือ ไม่ใช่ข้าทำเจ้าโกรธแทบตายหรอกนะ ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ดารีลชมเขาตรงๆ
จึงชวนให้ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
“ เมื่อปีศาจร้ายตนนั้นได้ปรากฏกายขึ้นตรงหน้า ข้านั้นก็มีทางเลือกแค่สองทาง หนึ่งคือหนีไปแล้วปล่อยให้ทุกคนถูกฆ่าตาย ผลคือความรู้สึกผิดบาปจะติดตามข้าไปจนตลอดชีวิต สองคือข้าต้องสู้จนตัวตายแล้วคนที่ยืนมองข้าตายโดยไม่เข้ามาช่วย คนที่แสดงความเห็นแก่ตัวออกมา คนนั้นก็จะรอด ”
“ เจ้าเลยเลือกที่จะตายคนเดียว แล้วปล่อยให้คนที่เหลือต้องมีตราบาปไปตลอดชีวิต ”
ฟิโลโซเฟอร์ตกใจ
“ ข้าบอกแล้วอย่างไรล่ะว่ามันไม่ง่ายเลย เรามีเวลาไม่มากนักสำหรับเหตุการณ์นั้น ข้าจึงหวังในทางเลือกที่สามซึ่งก็คือเจ้านั่นเอง ”
พ่อมดน้อยบอก
“ ข้าหรือ อย่างไรกัน ”
“ ความซื่อสัตย์ ความรัก ความดี ความเสียสละเคอร์คารอลเกลียดชังสิ่งเหล่านี้ที่สุด มันจะไม่ทำลายชีวิตของผู้ที่มันได้เลือกแล้ว แต่มันจะใช้เล่ห์กลทำให้จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ต้องพังทลายลง ในคืนนี้เจ้าได้แสดงความเสียสละให้มันได้เห็น ความเกลียดชังทำให้มันหน้ามืดจนลืมคิดว่าคืนนี้ตั้งใจมาทำสิ่งใด เป็นเหตุให้มันต้องถอยร่นกลับไปเพื่อวางแผนอีกครั้ง โดยไม่ได้ฆ่าใครแม้แต่คนเดียว จะบอกว่าเจ้าไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ในวันนี้เจ้าพยายามจะตายแทนข้า แต่ในวันข้างหน้าเคอร์คารอลจะทำให้เจ้าต้องหันปลายดาบมาที่ข้าด้วยความเคียดแค้น ”
“ เป็นไปไม่ได้ ให้ข้าตายดีกว่าจะคิดร้ายกับเจ้า ข้าไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด ”
เด็กชายตัวน้อยว่า
“ เคอร์คารอลมีความสามารถหาจุดอ่อนในใจของผู้คน ต้องมีสักเรื่องที่จะทำให้เราขัดแย้งกันจนได้ ”
ดารีลบอก
“ ว่ามาสิ ”
“ บุรุษมักมีปัญหาหัวใจ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีล่ะ ”
ฟิโลโซเฟอร์หัวเราะ
“ เจ้าไม่ได้ชอบผู้หญิงคนเดียวกับข้า ข้าน่ะสามารถเทิดทูลเจ้าหญิงลูเซียน่าได้ แต่ไม่มีวันรักนางแบบชู้สาวแน่นอน เพราะข้ามีคนรักอยู่แล้ว ”
“ แล้วถ้าเกิดว่าข้าเผลอทำคนที่เจ้ารักตายล่ะ ”
“ จิตใจของเจ้าเป็นอย่างไรข้านั้นรู้ดี ถ้าเกิดเหตุแบบนั้นขึ้นจริง สิ่งเดียวที่ข้าจะทำคือปลอบใจเจ้า ”
“ ตอนนี้พูดอย่างไรก็ได้อยู่หรอก แต่เมื่อวันนั้นมาถึง ข้าก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าผู้ใดที่ต้องเสียใจ ”
ดารีลกล่าว
“ จริงสิ หากเจ้าหวังอยากให้ข้าช่วยอยู่แล้ว เหตุใดจึงเกรี้ยวกราดใส่ข้านัก ”
“ เป็นเพราะข้าไม่แน่ใจว่ามีสายของปีศาจร้ายอยู่ในกลุ่มเราหรือไม่ จึงแกล้งออกอาการไปอย่างนั้น ข้าไม่อยากให้มันรู้ว่ามีใครรู้ทันก็เท่านั้นเอง เจ้าก็รู้นี่ถ้าข้าอยากให้เจ้าไปเจ้าไม่มีทางได้ยืนอยู่ตรงนั้นนานนักหรอก แม้แต่เจ้าหญิงลูเซียน่ายังต้องเสด็จเลย ”
“ ข้าไม่เหมือนเจ้าหญิง ที่ทรงรักเจ้ามาก จนต้องทำตามคำขอของเจ้าทุกอย่างโดยไม่สนเหตุผลใด ”
“ อ้อ เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ได้รักข้าเลยล่ะสิ ถึงได้ดื้อดึงกับข้านัก ”
หนุ่มน้อยคนนั้นย้อน
เด็กชายไม่ตอบ
แต่แกล้งมองไปทางอื่น
เขาแน่ใจว่าตอนเกิดเรื่องได้สารภาพความในใจออกไปแล้ว
ต่อหน้าเคอร์คารอลเสียด้วย
ดารีลหยิบคทาที่หักสองท่อนขึ้นมา
มันละลายเป็นไอสีเงินแล้วหลอมรวมกันอีกครั้ง
ดาบเล่มงามปรากฏขึ้นในมือของเขา
ฝักดาบสลักลวดลายเถาวัลย์ที่คุ้นตา
เพราะมันเป็นลายเดียวกันกับดาบโบราณเล่มนั้น
หนุ่มน้อยร่างบางได้ยื่นมันให้กับฟิโลโซเฟอร์
“ เจ้าจำเป็นต้องมีแล้วล่ะ ดาบเล่มนี้ข้าเพิ่งตีขึ้นมาไม่นาน แน่นอนว่ายังไม่เคยเปื้อนเลือด ถือเอาไว้จนกว่าจะหาดาบที่เหมาะกับตนเองพบ แล้วจึงคืนให้ข้า ถ้าบิดาของเจ้าไม่ชอบใจก็บอกให้มาเจรจากับข้าได้ ”
ฟิโลโซเฟอร์รับดาบมา
รู้สึกผูกพันขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัส
ประกายสีฟ้าเข้มเรื่อเรืองของเพทายที่ประดับตรงด้ามดาบ
ส่องประกายขึ้นในมือของเขา
“ จริงๆ มันเป็นอาวุธเวทแต่เจ้าก็ใช้ได้อยู่หรอกแม้จะไม่เต็มอำนาจที่มีก็ตามที อย่างน้อยก็สามารถต้านทานคำสาปบางประเภทได้ ถึงกระนั้นเจ้าก็อย่าลำพองไปจำเอาไว้ว่าเหนือกว่าข้าก็ยังมีผู้อื่น ”
ดารีลเตือน
สภาพภายในห้องโถงนั้นพังพินาศ เมื่องานรื่นเริงกลายเป็นลานสังหาร เด็กหลายคนเสียขวัญบางคนรู้สึกสนุกที่ได้ฆ่าฟัน แต่ยังมีคนที่เฉยเมยกับเหตุดังกล่าว
ดารีลผละออกจากกลุ่มไปเงียบๆ เขาก้าวออกจากตัวปราสาท เพื่อสำรวจความเสียหายภายนอก เสียงอึกทึกโกลาหลเงียบลงแล้ว เมื่อสิ่งชั่วร้ายได้จากไป เหลือเพียงความเสียหายที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง
พ่อมดน้อยนั่งลงในสวน ท้องฟ้าเบื้องบนค่อยๆ ใสกระจ่างแสงจันทร์สาดลงมาอาบร่างของเขาทำให้ดูขาวซีด ถ้าไม่มองไปทางปราสาทอีกหลังที่กำลังลุกไหม้ คืนนี้ก็ดูปรกติดี
อีเลียสก้าวมายืนข้างๆ เขาพร้อมกับส่งคทาที่หักเป็นสองท่อนคืนให้
“ เสียใจด้วยนะสำหรับเรื่องนี้ ”
“ เจ้าก็เห็นแล้วนี่ว่าข้ามีหลายอัน พังไปสักอันข้าก็ไม่เดือดร้อน ”
ถึงจะกล่าวเช่นนั้นแต่เขาก็รับคืนมา
“ ดารีลข้ามีเรื่องอยากขอร้องท่าน ”
เด็กร่างผอมมีท่าทีอ้ำอึ้ง
“ ว่ามาสิ เจ้าขอมาถ้าข้าทำได้ก็คือได้ ถ้าไม่ได้ก็จบแค่นั้น ไม่เห็นต้องกังวล ”
“ เป็นไปได้หรือเปล่าถ้าข้าอยากได้ปลายหอกเล่มนั้น ”
อีเลียสพูดอย่างเร็ว
เหมือนกับว่าถ้ารอช้าไปกว่านี้เขาอาจไม่กล้าพูดออกมา
ดารีลขมวดคิ้ว
สุดท้ายเขาก็เข้าใจ
“ มันเป็นสมบัติของโอรีเวีย ”
เขาว่า
“ ได้วางอยู่ตรงนั้นประวัติคงดีไม่น้อย ข้ารู้เจ้าคิดอะไร เตือนไว้ก่อนเคอร์คารอลน่ะเป็นอมตะ ไม่มีใครสามารถฆ่ามันได้ อย่างมากก็แค่ส่งกลับนรก แต่เอาเถอะข้าจะลองถามท่านวาลานดู ”
“ ขอบคุณ ”
เด็กคนนั้นบอก
“ ขอบคุณตอนนี้ไม่เร็วไปหน่อยหรือ ”
คำพูดนั้นทำให้อีเลียสหัวเราะแห้งๆ
“ ไม่นึกว่าหลังจบเรื่องสยองเจ้าจะอารมณ์ดีได้เร็วขนาดนี้ ”
เสียงของโลธอร์ดังขึ้น
พวกเขาได้ออกตามหาคนทั้งคู่จนพบ
ฟิโลโซเฟอร์ส่งสัญญาณให้เพื่อนๆ ออกไปก่อน
แล้วเขาก็นั่งลงข้างๆ ดารีล
ที่ตอนนี้ทำเป็นนิ่งเงียบ
ไม่นำพาต่อสิ่งใด
“ ข้าทำเจ้าโกรธอีกแล้วสิ ”
“ เปล่า ”
หนุ่มน้อยคนนั้นตอบสั้นๆ แล้วเงียบไปอีก
เด็กชายเห็นดังนั้นจึงไม่พูดอะไร
เขาไม่อยากขัดใจดารีลมากไปกว่านี้
ทั้งสองอยู่ด้วยกันโดยปราศจากคำพูดใด
สุดท้ายกลายเป็นดารีลเองที่เอ่ยปาก
“ ข้าขอโทษเจ้า ”
“ เรื่องอะไรล่ะ ”
เด็กชายตัวน้อยประหลาดใจ
“ ดาบเล่มนั้นบิดาของเจ้าซื้อให้มิใช่หรือ ข้าไม่สมควรโยนมันเข้ากองไฟ แต่ดูเหมือนว่าจะมือไวเกินไปหน่อย ”
เขากล่าว
“ อ้อ เช่นนั้นเอง เจ้าไม่เห็นต้องกังวลมันเป็นแค่ดาบไม้ และข้าทำหักไปหลายอันแล้ว ”
“ จนป่านนี้แล้วเหตุใดเจ้ายังถือดาบไม้อยู่ล่ะ ”
“ บิดาของข้าคงไม่อยากให้ข้าเดินทางสายผู้กล้า ถึงเขาจะไม่เคยห้ามปรามหรือพูดออกมาตรงๆ แต่การกระทำหลายอย่างก็พอจะเข้าใจไปแบบนั้นได้ ”
ฟิโลโซเฟอร์ว่า
“ จริงๆ มันเป็นความคิดที่ดีไม่น้อย ถ้าข้าเลือกได้ ป่านนี้ข้าหนีเข้าป่าลึกไปแล้ว ”
“ เหตุใดเจ้าจึงเลือกไม่ได้ล่ะ ”
“ เพราะข้าโดนหมายหัวแล้วเจ้าเองก็เช่นกัน ”
ดารีลบอก
“ ข้าไม่เข้าใจ ”
“ เคอร์คารอลเป็นปีศาจร้ายที่ไม่ได้มุ่งฆ่าคนเพียงอย่างเดียว มันจะสร้างเงามืดขึ้นในจิตใจของเหยื่อ เพื่อการันตีว่าคนผู้นั้นต้องลงนรกอย่างแน่นอน ข้านั้นชั่งใจอยู่นานว่าสมควรให้เจ้าเข้ามาเกี่ยวของกับเรื่องนี้หรือไม่ แต่เจ้าถูกหมายหัวมาก่อนหน้านั้นแล้ว หากจะถูกเพ่งเล็งอีกรอบก็คงไม่ต่างกัน ถึงอย่างไรข้าต้องขอชื่นชมเจ้าคืนนี้ทำได้ดีมาก อย่างน้อยก็ได้ช่วยชีวิตข้าและปกป้องหัวใจของผู้อื่นเอาไว้ ช่างกล้าหาญนัก ถึงจะโง่ไปหน่อยก็ตามที ผู้กล้าน่ะเจ้าเป็นได้อยู่แล้วหากเจ้าคิดจะเลือกทางนั้น ”
“ จริงหรือ ไม่ใช่ข้าทำเจ้าโกรธแทบตายหรอกนะ ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ดารีลชมเขาตรงๆ
จึงชวนให้ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
“ เมื่อปีศาจร้ายตนนั้นได้ปรากฏกายขึ้นตรงหน้า ข้านั้นก็มีทางเลือกแค่สองทาง หนึ่งคือหนีไปแล้วปล่อยให้ทุกคนถูกฆ่าตาย ผลคือความรู้สึกผิดบาปจะติดตามข้าไปจนตลอดชีวิต สองคือข้าต้องสู้จนตัวตายแล้วคนที่ยืนมองข้าตายโดยไม่เข้ามาช่วย คนที่แสดงความเห็นแก่ตัวออกมา คนนั้นก็จะรอด ”
“ เจ้าเลยเลือกที่จะตายคนเดียว แล้วปล่อยให้คนที่เหลือต้องมีตราบาปไปตลอดชีวิต ”
ฟิโลโซเฟอร์ตกใจ
“ ข้าบอกแล้วอย่างไรล่ะว่ามันไม่ง่ายเลย เรามีเวลาไม่มากนักสำหรับเหตุการณ์นั้น ข้าจึงหวังในทางเลือกที่สามซึ่งก็คือเจ้านั่นเอง ”
พ่อมดน้อยบอก
“ ข้าหรือ อย่างไรกัน ”
“ ความซื่อสัตย์ ความรัก ความดี ความเสียสละเคอร์คารอลเกลียดชังสิ่งเหล่านี้ที่สุด มันจะไม่ทำลายชีวิตของผู้ที่มันได้เลือกแล้ว แต่มันจะใช้เล่ห์กลทำให้จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ต้องพังทลายลง ในคืนนี้เจ้าได้แสดงความเสียสละให้มันได้เห็น ความเกลียดชังทำให้มันหน้ามืดจนลืมคิดว่าคืนนี้ตั้งใจมาทำสิ่งใด เป็นเหตุให้มันต้องถอยร่นกลับไปเพื่อวางแผนอีกครั้ง โดยไม่ได้ฆ่าใครแม้แต่คนเดียว จะบอกว่าเจ้าไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ในวันนี้เจ้าพยายามจะตายแทนข้า แต่ในวันข้างหน้าเคอร์คารอลจะทำให้เจ้าต้องหันปลายดาบมาที่ข้าด้วยความเคียดแค้น ”
“ เป็นไปไม่ได้ ให้ข้าตายดีกว่าจะคิดร้ายกับเจ้า ข้าไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด ”
เด็กชายตัวน้อยว่า
“ เคอร์คารอลมีความสามารถหาจุดอ่อนในใจของผู้คน ต้องมีสักเรื่องที่จะทำให้เราขัดแย้งกันจนได้ ”
ดารีลบอก
“ ว่ามาสิ ”
“ บุรุษมักมีปัญหาหัวใจ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีล่ะ ”
ฟิโลโซเฟอร์หัวเราะ
“ เจ้าไม่ได้ชอบผู้หญิงคนเดียวกับข้า ข้าน่ะสามารถเทิดทูลเจ้าหญิงลูเซียน่าได้ แต่ไม่มีวันรักนางแบบชู้สาวแน่นอน เพราะข้ามีคนรักอยู่แล้ว ”
“ แล้วถ้าเกิดว่าข้าเผลอทำคนที่เจ้ารักตายล่ะ ”
“ จิตใจของเจ้าเป็นอย่างไรข้านั้นรู้ดี ถ้าเกิดเหตุแบบนั้นขึ้นจริง สิ่งเดียวที่ข้าจะทำคือปลอบใจเจ้า ”
“ ตอนนี้พูดอย่างไรก็ได้อยู่หรอก แต่เมื่อวันนั้นมาถึง ข้าก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าผู้ใดที่ต้องเสียใจ ”
ดารีลกล่าว
“ จริงสิ หากเจ้าหวังอยากให้ข้าช่วยอยู่แล้ว เหตุใดจึงเกรี้ยวกราดใส่ข้านัก ”
“ เป็นเพราะข้าไม่แน่ใจว่ามีสายของปีศาจร้ายอยู่ในกลุ่มเราหรือไม่ จึงแกล้งออกอาการไปอย่างนั้น ข้าไม่อยากให้มันรู้ว่ามีใครรู้ทันก็เท่านั้นเอง เจ้าก็รู้นี่ถ้าข้าอยากให้เจ้าไปเจ้าไม่มีทางได้ยืนอยู่ตรงนั้นนานนักหรอก แม้แต่เจ้าหญิงลูเซียน่ายังต้องเสด็จเลย ”
“ ข้าไม่เหมือนเจ้าหญิง ที่ทรงรักเจ้ามาก จนต้องทำตามคำขอของเจ้าทุกอย่างโดยไม่สนเหตุผลใด ”
“ อ้อ เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ได้รักข้าเลยล่ะสิ ถึงได้ดื้อดึงกับข้านัก ”
หนุ่มน้อยคนนั้นย้อน
เด็กชายไม่ตอบ
แต่แกล้งมองไปทางอื่น
เขาแน่ใจว่าตอนเกิดเรื่องได้สารภาพความในใจออกไปแล้ว
ต่อหน้าเคอร์คารอลเสียด้วย
ดารีลหยิบคทาที่หักสองท่อนขึ้นมา
มันละลายเป็นไอสีเงินแล้วหลอมรวมกันอีกครั้ง
ดาบเล่มงามปรากฏขึ้นในมือของเขา
ฝักดาบสลักลวดลายเถาวัลย์ที่คุ้นตา
เพราะมันเป็นลายเดียวกันกับดาบโบราณเล่มนั้น
หนุ่มน้อยร่างบางได้ยื่นมันให้กับฟิโลโซเฟอร์
“ เจ้าจำเป็นต้องมีแล้วล่ะ ดาบเล่มนี้ข้าเพิ่งตีขึ้นมาไม่นาน แน่นอนว่ายังไม่เคยเปื้อนเลือด ถือเอาไว้จนกว่าจะหาดาบที่เหมาะกับตนเองพบ แล้วจึงคืนให้ข้า ถ้าบิดาของเจ้าไม่ชอบใจก็บอกให้มาเจรจากับข้าได้ ”
ฟิโลโซเฟอร์รับดาบมา
รู้สึกผูกพันขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัส
ประกายสีฟ้าเข้มเรื่อเรืองของเพทายที่ประดับตรงด้ามดาบ
ส่องประกายขึ้นในมือของเขา
“ จริงๆ มันเป็นอาวุธเวทแต่เจ้าก็ใช้ได้อยู่หรอกแม้จะไม่เต็มอำนาจที่มีก็ตามที อย่างน้อยก็สามารถต้านทานคำสาปบางประเภทได้ ถึงกระนั้นเจ้าก็อย่าลำพองไปจำเอาไว้ว่าเหนือกว่าข้าก็ยังมีผู้อื่น ”
ดารีลเตือน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ