โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  135.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

121) เจ้าเด็กนรกหัดดูเวลาเสียบ้าง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

การต่อสู้เหมือนว่าจะไม่มีทางสิ้นสุด   เช่นเดียวกับความช่วยเหลือที่ไม่มีวันมาถึง   สัตว์ปีศาจยังหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด   และเด็กๆ ก็เริ่มเหนื่อยอ่อน

 

ดารีลต้องเติมผงจำยานลงในกองเพลิงให้เข้มขึ้น   เพื่อตัดความสามารถในการดมกลิ่นของเกรบ๊อกให้มากที่สุด   แต่ในตอนนี้พวกเขาก็เริ่มแสบจมูกกันเองบ้างแล้ว   จนต้องหาผ้ามาปิดหน้าไว้

 

เหมือนการเวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน   เมื่อเสียงกรีดร้องได้ดังขึ้นอีก   มันหนาวเยือกบาดลึกอย่างปวดร้าว   ราวกับเสียงคร่ำครวญของผู้สิ้นหวังสะท้อนออกมา

 

ทุกอย่างหยุดนิ่ง   แม้แต่แต่ฝูงเกรบ๊อกยังค้างเติ่งราวกับต้องมนต์สะกด   พริบตาต่อมาพวกมันก็หันหลังกลับ   แล้ววิ่งผ่านประตูออกไป

 

เด็กๆ ต่างทรุดกายลงนั่งอย่างเหนื่อยอ่อน

 

“ จบได้หรือยังข้าไม่ไหวแล้วนะ ”

 

อีเลียสว่า

นั่งลงพลางหอบเหนื่อย

 

“ ใช่   งานนี้หนักไม่น้อย   ประเดี๋ยวตอนเย็นเราไปถล่มร้านอร่อยกัน   ข้ากับฟีไลร่าจ่ายคนละครึ่งดื่มกินกันได้ไม่อั้น ”

 

คู่หูร่างอ้วนทรุดลงข้างๆ

 

“ เย็นไหน   ตอนนี้ดึกแล้วเวลาแบบนี้ใครเขาเปิดร้านกัน   อีกอย่างเจ้าเป็นคนชวน   ยังจะหวังให้สตรีช่วยจ่ายอีกหรือ   ได้อย่างไรกัน ”

 

อีเลียสท้วง 

 

“ ใครใช้ให้นางรวยล่ะ   ข้าก็หารครึ่งแล้วไง   ยังเป็นสุภาพบุรุษไม่พออีกหรือ ”

 

เด็กน้อยร่างผอมได้แต่ส่ายหน้า

 

“ ถอยออกจากหน้าประตู ”

 

ดารีลเสียงเข้ม

เขาเดินอย่างสง่าผ่าเผยไปยืนกลางโถง

 

หันหน้าออกสู่ประตูที่เปิดกว้าง

คทาสีเงินกำแน่นอยู่ในมือข้างหนึ่ง

 

เด็กๆ รีบตะกายออกจากตรงนั้นอย่างว่าง่าย

พวกเขาเข้าไปยืนเบียดกันตามขอบนอก

 

เว้นแต่ดัลลัจเขาเข้ามาขวางพ่อมดน้อยเอาไว้

 

“ คิดว่าเก่งคนเดียวหรือ   อยากจบงานนี้ด้วยตัวคนเดียวสินะ   ทั้งที่คนอื่นสู้มาแทบตายแต่เจ้าตั้งใจจะเอาความดีความชอบไปแต่เพียงผู้เดียว ”

 

“ สิ่งที่อยู่ด้านนอกนั่น   ข้าไม่คิดว่าใครจะสามารถเอาชนะได้   อย่าเพิ่งคิดถึงชื่อเสียงแค่หาทางเอาตัวรอดยังเป็นไปไม่ได้เลย ”

 

“ เช่นนั้นแล้วเจ้ายังคิดจะสู้คนเดียวอีกหรือ ”

 

หนุ่มน้อยกล้ามโตขึ้นเสียง

 

“ ทำไม   เกิดเป็นห่วงข้าขึ้นมาหรือไง   เสียใจด้วยนะข้าไม่ได้มีรสนิยมอะไรแบบนั้น ”

 

ดารีลหลิ่วตาข้างหนึ่งด้วยสีหน้าสุดกวน

 

คำพูดนั้นแทงใจ

เป็นความจริงที่ดัลลัจห่วงใยเขา

 

เพราะความตายของบุรุษผู้นี้

จะนำพาความเสียใจอย่างใหญ่หลวงมาสู่เจ้าหญิงลูเซียน่า

 

ชายหนุ่มรู้สึกขัดเคืองใจที่มีคนรู้ทัน

เขาจึงผลักไหล่ดารีลจนเซถอยหลัง

 

ฟิโลโซเฟอร์ได้พุ่งเข้ามาคว้าร่างบอบบางเอาไว้

ทั้งที่ความจริงไม่จำเป็นเลย

 

“ ให้ตายสิ   แค่ถูกปฏิเสธความรักถึงกับต้องทำร้ายร่างกายเลยหรือ   แบบนี้ไม่ไหวเลยนะ   เกิดเป็นผู้ชายทั้งทีหัดใจกว้างกว่านี้หน่อยได้ไหม   ในเมื่อคนเขาไม่มีใจให้   ยังจะบังคับขู่เข็ญอีก ”

 

เด็กชายว่า

พลางยิ้มให้คนในอ้อมแขนแบบมีเลศนัย

 

ดัลลัจถึงกับยืนงง

เขาไม่เข้าใจมุกตลกของเด็กน้อย

 

ดารีลสลัดร่างออกมาจนพ้น

เขาจ้องเด็กชายด้วยสายตาคมกริบ

 

“ ถอยไปห่างๆ ”

 

น้ำเสียงของเขาก็เข้มมากเช่นกัน

 

“ เจ้าไล่ข้าไม่ได้หรอกดารีล   อย่างน้อยข้าก็กุมความลับของคืนนั้นเอาไว้   เจ้าคงไม่อยากให้ข้าเอาไปโพนทะนาใช่ไหม ”

 

ฟิโลโซเฟอร์เริ่มทำตัวเจ้าเล่ห์

 

“ คืนไหน ”

 

คิ้วเรียวงามของพ่อมดน้อยขมวดเข้าหากัน

เขาดูจริงจังพอๆ กับดัลลัจเลย

 

“ คืนก่อนนี้ไง   ที่เจ้าอุ๊บ ”

 

ปากของเขาโดนรวบปิดไว้เสียก่อน

 

“ เจ้าเด็กนรกหัดดูเสียบ้าง   นี่ไม่ใช่เวลามาเพ้อเจ้อ   เก็บปากของเจ้าเสียแล้วไปอยู่กับเพื่อนของเจ้า ” 

 

ความดุดันนั้นมีมากมายนัก

แต่เด็กชายชาวซีนาร์ยกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

 

และกิริยาของดารีล

กลับไปกระตุ้นความสงสัยของเด็กๆ

ว่าคืนนั้นมันยังไงกัน

 

“ ดารีล   ข้าจะไม่ยอมยืนดูเจ้าตายหรอกนะ ”

 

พ่อมดน้อยไม่ตอบ

เขาลากฟิโลโซเฟอร์ไปหาเพื่อนทั้งสอง

 

คว้าริ้วผ้าสีทองมามัดเด็กชายเอาไว้

รวดเร็วจนไม่สามารถสลัดออกได้ทัน

 

“ ปล่อยนะ   เจ้ากล้าทำแบบนี้กับข้าหรือ   อีเลียสช่วยข้าด้วย ”

 

โลธอร์ได้แต่ยืนทำตาปริบๆ

ส่วนสหายร่างผอมนั้นส่ายหน้าเอือมระอา

 

“ ใครกล้าปลดเชือกข้าจะสาปให้กลายเป็นสลอธพิการ ”

 

ดารีลขู่

 

มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นที่หน้าประตู

ร่างครึ่งคนครึ่งมังกรก้าวเข้ามา

 

ปีศาจตนนั้นสูงใหญ่เป็นสามเท่าของคนปรกติ

ดวงตาสีส้มแสดและผิวสีน้ำตาลแดง

 

ดัลลัจยังคงยืนจังก้า

ดาบหนากำมั่นอยู่ในมือข้างหนึ่ง

 

ในขณะที่คนอื่นต่างหวาดกลัวลนลาน

เด็กหนุ่มร่างกำยำได้พุ่งเข้าใส่

 

แต่เคอร์คารอลนั้นว่องไวนัก

มันเบี่ยงตัวหลบ

แล้วเหวี่ยงแขนฟาด

 

เจ้าหนุ่มผู้กล้านั่นถึงกับกระเด็นไปชนเข้ากับหุ่นปัน

เขาหล่นลงพื้นพร้อมกับเศษปูนปั้นที่แตกเกลื่อน

 

ปีศาจร้ายตัวนั้นย่างสามขุมเข้าไปหา

ด้วยท่าทีมุ่งร้าย

 

ดารีลไปถึงได้ก่อน

เขาร่ายคาถาสร้างกำแพงน้ำแข็งขวางทางไว้

 

แล้วลากดัลลัจที่นอนสลบไสล

ออกมาจนพ้นระยะโจมตี

 

แต่กำแพงน้ำแข็งนั้นก็แตกลง

เพียงเพราะโดนหมัดกระแทกเข้าครั้งเดียว

 

ฟิโลโซเฟอร์มองเห็นประกายสีแดง

ในมือของเคอร์คารอล

 

เด็กชายตัวน้อยพอจะเดาออกว่ามันคือสิ่งใด

เขารู้สึกหวั่นใจจนแทบคลั่ง

 

ในเวลานี้มีเพียงดารีลเท่านั้นที่ยืนหยัดต่อหน้าสิ่งชั่วร้าย

เขานั้นว่องไวอย่างน่าประหลาด

แต่เคอร์คารอลแข็งแกร่งกว่าโดยไร้ข้อโต้แย้ง

 

หนุ่มน้อยร่างบางระหงทำได้เพียงแค่ถอยร่น

การโจมตีใดๆ ด้วยคาถาของเขา

ไม่อาจระคายผิวของปีศาจร้ายตรงหน้าได้เลย

 

สุดท้ายดารีลก็ถูกต้อนไปจนมุม

เคอร์คารอลตะปบรูปปั้นเทพีผู้ถือถาดใส่ปลายหอกศักดิ์สิทธิ์แตกเกลื่อน

 

ดารีลสร้างม่านน้ำแข็งเป็นหลังคาคุ้มกันตนเอง

และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง

ปีศาจร่างแดงทิ้งหมัดลงตรงนั้น

 

พ่อมดน้อยใช้ความรวดเร็วไถลร่างออกมาพ้นแรงประทะได้หวุดหวิด

เขาดีดตัวลุกขึ้นหันกลับไปเผชิญกับเคอร์คารอลที่กำลังร้องโหยหวน

 

ดูเหมือนเขาจะว่างจัด

เพราะยังมีเวลาจัดชุดให้เข้าที่เข้าทาง

หลังจากม้วนตัวหลายตลบ

 

ปีศาจตัวนั้นชูมือที่มีหอกศักดิ์สิทธิ์ปักอยู่ขึ้นมา

แท้จริงดารีลแอบจับปลายหอกตั้งรอไว้แล้ว

 

เมื่อกำปั้นขนาดใหญ่ทุบลงมาโดยไม่ระวังจึงเกิดเหตุดังกล่าว

เลือดสีดำหยดลงพื้นกลายเป็นหลุมยุบดังโดนน้ำกรด

 

“ เป็นแผลได้เหมือนกันหรือ ”

 

ดารีลว่า

พร้อมกับยิ้มยั่วน้อยๆ

 

เคอร์คารอลคำรามลั่น

มันดึงปลายหอกออกจากมือ

แล้วปาเข้าใส่หนุ่มน้อยคนนั้นด้วยความเร็วและรุนแรง

 

ดารีลเบี่ยงตัวหลบได้อย่างไม่เดือดร้อนอะไร

หอกนั้นพุ่งเฉียดร่างไปเพียงเล็กน้อย

 

ตอนนี้ปีศาจร้ายได้เดือดดาลอย่างหนัก

และพ่อมดน้อยก็ยังยั่วยุมันไม่หยุด

 

เสียงคำรามลั่นจนพื้นสะเทือน

เลือดไหลนองรวมตัวกันเป็นดาบดีดำ

อัญมณีในมือก็เปล่งประกายสุดเยือกเย็น

 

ฟิโลโซเฟอร์ใจหายวาบ

เขาดิ้นรนอย่างสุดกำลัง

 

ชั่วพริบตาหนึ่งเคอร์คารอลได้หันมาทางเขา

แล้วพันธนาการทั้งปวงก็ร่วงหล่น

เด็กชายเป็นอิสระในทันที

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา