โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
7.3
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
188 บทที่
11 วิจารณ์
137.58K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
114) ในเมื่อไม่ขอร้องข้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอาเธอร์กลับมาส่งลูกๆ ในเย็นวันอาทิตย์ เด็กทั้งสองต่างเดินคอตกเข้าไปในปราสาทขาว แม้ที่นี่จะมีความสะดวกสบาย แต่ที่บ้านนั้นอุ่นใจกว่าเป็นไหนๆ
“ อย่าลืมที่รับปากนะ ”
อาเธอร์กำชับบุตรชาย เขาโบกหมวกให้เด็กๆ ก่อนจะจากมา คาโอเรียแยกตัวไปเล่นกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน ฟิโลโซเฟอร์จึงขึ้นไปบนหอนอน เขาเห็นเพื่อนๆ กำลังสุมหัวดูหนังสือเล่มหนึ่ง
“ นั่นดูสิใครมา ”
ฟีไลร่าทักขึ้นก่อน
“ ค่อยยังชั่วนึกว่าจะถูกส่งตัวกลับบ้านเก่าไปแล้ว ”
โลธอร์ว่า
“ ทำไมล่ะ ”
ฟิโลโซเฟอร์สงสัย
“ มีเด็กหลายคนถูกรับตัวกลับไป ความเชื่อมั่นในเมืองโอรีเวียได้ลดทอนลงแล้ว ”
อีเลียสบอก
“ พวกเขากลับเมืองไปเลยหรือ ”
“ แหงล่ะสิ ก็ข่าวเรื่องพายุหมุนทำเอาโอรีเวียเสื่อมความขลังไปโข ดูเหมือนมีความเชื่อว่าโอรีเวียคือเป้าแรกที่จะถูกโจมตี ”
กลางดึกคืนนั้น ครูใหญ่วีแกนกลับเข้ามาในห้องด้วยสภาพเมามาย สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นกำยานที่ตลบอบอวล เขาเพ่งมองไปทั่วห้องที่มืดสลัว แสงไฟจากเตาหินส่องให้เห็นร่างในชุดคลุมดำ นั่งอยู่ข้างเตาสายตาจับจ้องอยู่ในหม้อที่กำลังเดือดพล่าน โดยไม่มีท่าทีสนใจเจ้าของห้องที่เดินเข้ามา
“ เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ”
วีแกนถาม
“ ปิดประตูเสียก่อนที่เรื่องยุ่งยากจะตามมา ”
เจ้าของร่างออกคำสั่ง
แทนที่จะตอบคำถามนั้น
“ เจ้าใช่ไหมที่ก่อเรื่องวันนั้น ไม่น่าเชื่อว่ายังกล้ามาที่นี่อีก เจ้าต้องการอะไรแน่ ”
ถึงจะพูดแบบนั้น
แต่ครูใหญ่วีแกนก็ยอมปิดประตูแต่โดยดี
กาเอลได้ยืดกายขึ้น
เขาดีดนิ้วทีเดียวห้องก็สว่างวาบ
เพราะไฟจากเทียนไขทุกเล่มลุกขึ้นพร้อมกัน
“ หม้อต้มยาของเจ้าประหลาดแท้ แน่ใจว่ากำลังปรุงยาอยู่ นึกไม่ถึงคนมีชื่อเสียงเช่นเจ้าจะทำอะไรเยี่ยงนี้ ”
น้ำเสียงนั้นเย้ยหยันอย่างเปิดเผย
ครูใหญ่วีแกนเบ้ปากแทนคำตอบ
“ ดารีลไม่ช่วยเจ้าแล้วสินะ ”
“ เขายินดีช่วยข้าเสมอ เพียงแต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมนต์ดำ จึงได้ปฏิเสธ เขาไม่เหมือนเจ้าหรอก นอกจากคำแนะนำแล้ว เจ้าก็ไม่เคยช่วยอะไร ”
“ เจ้าก็พูดเกินไป เรื่องใหญ่โตแบบนี้ ในเมื่อไม่ขอร้องข้า ยังหวังให้ข้าช่วยอยู่หรือ แต่เอาเถิดเห็นแก่ความเป็นมิตรของเรา บอกข้าทีเจ้ากำลังพยายามทำอะไร ”
กาเอลว่า
“ บอกไปเจ้าก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ”
เสียงวีแกนก็เย้ยมากเช่นกัน
“ ปากร้ายไม่เบาเลยนะ ข้าที่สามารถถล่มอนุสาวรีย์ในวันก่อน เจ้าคิดว่ายังมีอะไรที่ข้าทำไม่ได้อีก ”
“ เช่นนั้นเจ้าปรุงยาที่ทำให้ข้าเป็นอมตะได้หรือไม่ ”
“ อ้อ สิ่งนี้นี่เอง บอกตามตรงข้าเองก็ไม่เคยลองแต่ข้ารู้วิธี มันเป็นศาสตร์หนึ่งของมนต์ดำ นอกจากข้าแล้วเจ้าไม่สามารถพึ่งใครได้อีก ”
“ ถ้าเช่นนั้นเจ้าจงช่วยข้าสิ ”
เสียงของครูใหญ่วีแกนดูวางอำนาจ
“ โอ้ ตกลงจะไม่ขอร้องข้าจริงๆ น่ะหรือ ”
บุรุษผู้นั้นว่าพลางเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง
“ นอกจากดารีลแล้วข้าไม่สามารถเชื่อใจใครได้ โดยเฉพาะคนเช่นเจ้า เว้นแต่เจ้าจะแสดงให้ข้าเห็น เพราะฉะนั้น ข้าจึงไม่ร้องขอ ”
วีแกนว่า
“ ช่างโง่นัก เจ้าโดนดารีลหลอกเข้าให้แล้ว คิดจริงๆ น่ะหรือว่าหมอนั่นจะผลักดันเจ้าเป็นใหญ่ มงกุฎทองคำอยู่ในมือแล้วใครกันจะยื่นให้คนอื่น ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขาแสดงละครเก่งไม่น้อย ”
“ เหลวไหล เขาช่วยเหลือข้ามาโดยตลอด ”
“ แต่เรื่องสำคัญเช่นนี้กลับไม่ช่วย ”
หนุ่มน้อยผู้สวมหน้ากากเหล็กว่า
“ เป็นเพราะดารีลใช้มนต์ดำไม่ได้หรอกนะ ไม่อย่างนั้นเขาคงรับปากข้าแล้ว ”
“ ถ้าเช่นนั้นเจ้าต้องยอมรับแล้วล่ะว่ามีเพียงข้าที่จะทำให้เจ้าสมหวัง คำแนะนำของข้าส่งผลดีต่อเจ้ามาตลอดมีใช่หรือ เหตุใดจึงบอกว่าดารีลผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถไว้วางใจได้ ”
“ ก็ได้ ข้าจะเชื่อเจ้าให้มากกว่านี้ แล้วทีนี้จะช่วยข้าอย่างไรล่ะ ”
กาเอลได้ลุกขึ้น
เขาวาดรูปดาวหกแฉกล้อมรอบหม้อต้มยา
ก่อนที่ดาวนั้นจะสลายเป็นไอม้วนเข้าไปในหม้อ
ห่อผ้าถูกวางลงตรงหน้าครูใหญ่วีแกน
พร้อมกับม้วนกระดาษสีน้ำตาล
“ นี่เป็นของที่ต้องใช้พร้อมกับตำรา หลังจากนี้ก็ถามหาความจริงใจจากดารีลได้เลย ข้าได้ทำในส่วนของข้าแล้ว ที่เหลือนั้นไม่มีทางเกินฝีมือของเจ้านั่น เว้นแต่เขาจะไม่ทำ ”
“ แล้วข้าจะบอกเขายังไงล่ะ ว่าเจ้าเป็นคนตั้งหม้อยาให้ข้า ถ้าเขารู้เข้าเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ ”
วีแกนมีท่าทีวิตกกังวล
“ เจ้าก็บ่ายเบี่ยงไปสิ จะให้ข้าทำแทนทุกอย่างหรืออย่างไร ตอนนี้มีทองคำกองอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่กลับไม่มีปัญญาหยิบฉวยเอามา คนคิดการใหญ่จัดการเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ข้าว่าเจ้ากลับบ้านไปปลูกผักเลี้ยงวัวไม่ดีกว่าหรือ ดารีลก็แค่เด็กเมื่อวานซืน หลอกใช้ง่ายจะตาย ”
กาเอลบอก
“ อย่าลืมที่รับปากนะ ”
อาเธอร์กำชับบุตรชาย เขาโบกหมวกให้เด็กๆ ก่อนจะจากมา คาโอเรียแยกตัวไปเล่นกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน ฟิโลโซเฟอร์จึงขึ้นไปบนหอนอน เขาเห็นเพื่อนๆ กำลังสุมหัวดูหนังสือเล่มหนึ่ง
“ นั่นดูสิใครมา ”
ฟีไลร่าทักขึ้นก่อน
“ ค่อยยังชั่วนึกว่าจะถูกส่งตัวกลับบ้านเก่าไปแล้ว ”
โลธอร์ว่า
“ ทำไมล่ะ ”
ฟิโลโซเฟอร์สงสัย
“ มีเด็กหลายคนถูกรับตัวกลับไป ความเชื่อมั่นในเมืองโอรีเวียได้ลดทอนลงแล้ว ”
อีเลียสบอก
“ พวกเขากลับเมืองไปเลยหรือ ”
“ แหงล่ะสิ ก็ข่าวเรื่องพายุหมุนทำเอาโอรีเวียเสื่อมความขลังไปโข ดูเหมือนมีความเชื่อว่าโอรีเวียคือเป้าแรกที่จะถูกโจมตี ”
กลางดึกคืนนั้น ครูใหญ่วีแกนกลับเข้ามาในห้องด้วยสภาพเมามาย สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นกำยานที่ตลบอบอวล เขาเพ่งมองไปทั่วห้องที่มืดสลัว แสงไฟจากเตาหินส่องให้เห็นร่างในชุดคลุมดำ นั่งอยู่ข้างเตาสายตาจับจ้องอยู่ในหม้อที่กำลังเดือดพล่าน โดยไม่มีท่าทีสนใจเจ้าของห้องที่เดินเข้ามา
“ เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ”
วีแกนถาม
“ ปิดประตูเสียก่อนที่เรื่องยุ่งยากจะตามมา ”
เจ้าของร่างออกคำสั่ง
แทนที่จะตอบคำถามนั้น
“ เจ้าใช่ไหมที่ก่อเรื่องวันนั้น ไม่น่าเชื่อว่ายังกล้ามาที่นี่อีก เจ้าต้องการอะไรแน่ ”
ถึงจะพูดแบบนั้น
แต่ครูใหญ่วีแกนก็ยอมปิดประตูแต่โดยดี
กาเอลได้ยืดกายขึ้น
เขาดีดนิ้วทีเดียวห้องก็สว่างวาบ
เพราะไฟจากเทียนไขทุกเล่มลุกขึ้นพร้อมกัน
“ หม้อต้มยาของเจ้าประหลาดแท้ แน่ใจว่ากำลังปรุงยาอยู่ นึกไม่ถึงคนมีชื่อเสียงเช่นเจ้าจะทำอะไรเยี่ยงนี้ ”
น้ำเสียงนั้นเย้ยหยันอย่างเปิดเผย
ครูใหญ่วีแกนเบ้ปากแทนคำตอบ
“ ดารีลไม่ช่วยเจ้าแล้วสินะ ”
“ เขายินดีช่วยข้าเสมอ เพียงแต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมนต์ดำ จึงได้ปฏิเสธ เขาไม่เหมือนเจ้าหรอก นอกจากคำแนะนำแล้ว เจ้าก็ไม่เคยช่วยอะไร ”
“ เจ้าก็พูดเกินไป เรื่องใหญ่โตแบบนี้ ในเมื่อไม่ขอร้องข้า ยังหวังให้ข้าช่วยอยู่หรือ แต่เอาเถิดเห็นแก่ความเป็นมิตรของเรา บอกข้าทีเจ้ากำลังพยายามทำอะไร ”
กาเอลว่า
“ บอกไปเจ้าก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ”
เสียงวีแกนก็เย้ยมากเช่นกัน
“ ปากร้ายไม่เบาเลยนะ ข้าที่สามารถถล่มอนุสาวรีย์ในวันก่อน เจ้าคิดว่ายังมีอะไรที่ข้าทำไม่ได้อีก ”
“ เช่นนั้นเจ้าปรุงยาที่ทำให้ข้าเป็นอมตะได้หรือไม่ ”
“ อ้อ สิ่งนี้นี่เอง บอกตามตรงข้าเองก็ไม่เคยลองแต่ข้ารู้วิธี มันเป็นศาสตร์หนึ่งของมนต์ดำ นอกจากข้าแล้วเจ้าไม่สามารถพึ่งใครได้อีก ”
“ ถ้าเช่นนั้นเจ้าจงช่วยข้าสิ ”
เสียงของครูใหญ่วีแกนดูวางอำนาจ
“ โอ้ ตกลงจะไม่ขอร้องข้าจริงๆ น่ะหรือ ”
บุรุษผู้นั้นว่าพลางเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง
“ นอกจากดารีลแล้วข้าไม่สามารถเชื่อใจใครได้ โดยเฉพาะคนเช่นเจ้า เว้นแต่เจ้าจะแสดงให้ข้าเห็น เพราะฉะนั้น ข้าจึงไม่ร้องขอ ”
วีแกนว่า
“ ช่างโง่นัก เจ้าโดนดารีลหลอกเข้าให้แล้ว คิดจริงๆ น่ะหรือว่าหมอนั่นจะผลักดันเจ้าเป็นใหญ่ มงกุฎทองคำอยู่ในมือแล้วใครกันจะยื่นให้คนอื่น ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขาแสดงละครเก่งไม่น้อย ”
“ เหลวไหล เขาช่วยเหลือข้ามาโดยตลอด ”
“ แต่เรื่องสำคัญเช่นนี้กลับไม่ช่วย ”
หนุ่มน้อยผู้สวมหน้ากากเหล็กว่า
“ เป็นเพราะดารีลใช้มนต์ดำไม่ได้หรอกนะ ไม่อย่างนั้นเขาคงรับปากข้าแล้ว ”
“ ถ้าเช่นนั้นเจ้าต้องยอมรับแล้วล่ะว่ามีเพียงข้าที่จะทำให้เจ้าสมหวัง คำแนะนำของข้าส่งผลดีต่อเจ้ามาตลอดมีใช่หรือ เหตุใดจึงบอกว่าดารีลผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถไว้วางใจได้ ”
“ ก็ได้ ข้าจะเชื่อเจ้าให้มากกว่านี้ แล้วทีนี้จะช่วยข้าอย่างไรล่ะ ”
กาเอลได้ลุกขึ้น
เขาวาดรูปดาวหกแฉกล้อมรอบหม้อต้มยา
ก่อนที่ดาวนั้นจะสลายเป็นไอม้วนเข้าไปในหม้อ
ห่อผ้าถูกวางลงตรงหน้าครูใหญ่วีแกน
พร้อมกับม้วนกระดาษสีน้ำตาล
“ นี่เป็นของที่ต้องใช้พร้อมกับตำรา หลังจากนี้ก็ถามหาความจริงใจจากดารีลได้เลย ข้าได้ทำในส่วนของข้าแล้ว ที่เหลือนั้นไม่มีทางเกินฝีมือของเจ้านั่น เว้นแต่เขาจะไม่ทำ ”
“ แล้วข้าจะบอกเขายังไงล่ะ ว่าเจ้าเป็นคนตั้งหม้อยาให้ข้า ถ้าเขารู้เข้าเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ ”
วีแกนมีท่าทีวิตกกังวล
“ เจ้าก็บ่ายเบี่ยงไปสิ จะให้ข้าทำแทนทุกอย่างหรืออย่างไร ตอนนี้มีทองคำกองอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่กลับไม่มีปัญญาหยิบฉวยเอามา คนคิดการใหญ่จัดการเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ข้าว่าเจ้ากลับบ้านไปปลูกผักเลี้ยงวัวไม่ดีกว่าหรือ ดารีลก็แค่เด็กเมื่อวานซืน หลอกใช้ง่ายจะตาย ”
กาเอลบอก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ