แก้วนพคุณ

-

เขียนโดย เวลา

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 16.59 น.

  38 บท
  0 วิจารณ์
  30.65K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

33) รางวัลเหรียญทอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

งานแข่งกีฬาสีแข่งขันกันจบหมดแล้ว รายการสุดท้ายคือการ    แข่งขันฟุตบอลที่มีสีแดงกับสีชมพูแข่งกันในรอบสุดท้าย พริมาอยู่สีน้ำเงินหล่อนไม่มีส่วนได้เสีย แต่การแข่งขันนี้เป็นรายการใหญ่และรายการสุดท้ายที่แม้แต่สีอื่นๆ ยังมาร่วมลุ้น เด็กนักเรียนที่อยู่สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน กระจายตัวกันไปเชียร์เพื่อนๆ ของตัวเอง เพราะฉะนั้นอัฒจันทร์ทั้งสองฝ่ายของสีแดงและสีชมพูจึงมีสีอื่นๆ เคล้าปนกันอยู่ นพคุณกับคเชนทร์อยู่สีชมพู พริมาจึงเลือกนั่งอัฒจันทร์ฝั่งสีชมพู ฝั่งตรงข้าม...สีแดง มองจากตรงนี้จะเห็นการแสดงอย่างชัดเจน ทั้งสองสีฮึกเหิมเต็มที่ ประธานเชียร์ของทั้งสองฝ่ายทำงานอย่างหนักที่จะทำให้สีของตัวเองส่งเสียงข่มขวัญคู่ต่อสู้อย่างสุดความสามารถ สีอื่นๆ ที่นั่งปนกันอยู่ก็ร่วมส่งเสียงเชียร์ไปด้วยข้างล่างนักกีฬาเริ่มทยอยเดินเข้ามา หล่อนเห็นเขา...นพคุณ ดูจากตรงนี้เขาโดดเด่น เพราะตัวสูงๆ ในทีม มีไม่กี่คน อีกคนที่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้มากกว่าใครคือคเชนทร์ คนนั้นเด่นเหมือนกันแต่ในความเด่นของทั้งสองคนช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าไม่นับส่วนสูงที่ไล่เลี่ยกันแล้ว อย่างอื่นสองคนนั่นไม่เหมือนกันเลย นพคุณขาวสูง เด็กหนุ่มติดไปทางผอมแต่หน้าตาหล่อเหลา...หล่อเหมือนคุณลุง พริมานึกในใจ หน้าขาวๆ ที่จืดชืดเกินไปสำหรับบางคน...แต่มีสิ่งหนึ่งที่ขับให้เขาดูหล่อเหลาได้คือคิ้วที่ดกหนาและลักยิ้มทรงเสน่ห์นั่น ตอนนี้เขากำลังยิ้ม...ไม่ได้ยิ้มให้หล่อน แต่เขากำลังคุยอะไรสักอย่างกับเพื่อนในทีม เด็กหนุ่มสองสามคนกำลังหัวเราะ แต่นพคุณแค่ยิ้ม...พวกเขาคุยอะไรกันนะอยากรู้จัง    นพคุณไม่ค่อยจะยิ้มแบบนี้ที่บ้าน หล่อนเห็นแค่เวลาเขาอยู่กับเพื่อนเท่านั้น   ที่จะมีรอยยิ้มแบบนี้ หล่อนจะทำให้เขายิ้มแบบนี้ได้บ้างไหมนะ?               ส่วนด้านหลังถัดไป...คเชนทร์ เขากำลังหันไปโบกมือให้สาวๆ ที่อยู่อัฒจันทร์ฝั่งตรงข้าม...สีแดง! ดูเหมือนคเชนทร์จะมีแฟนคลับฝั่งคู่แข่งอยู่ไม่น้อยทีเดียว นักฟุตบอลฝั่งสีแดงคงออกอาการหมั่นไส้เขาน่าดู เพราะแทนที่จะเชียร์ทีมตนเองกลับมาส่งเสียงเชียร์ฝั่งตรงข้ามเสียได้ แต่คเชนทร์มีเพื่อนมาก...ครึ่งทีมของทั้งสองสีเป็นเพื่อนเขา อย่างมากก็แค่หมั่นไส้ที่หมอนี่เรียกเสียงกรี๊ดมากมายจากทุกสี แต่เรื่องแข่งขันในเกมส์คงต้องดูกันอีกที ไม่แปลกนักที่สาวๆ จะส่งเสียงกรี๊ดเขา คเชนทร์เป็นคนอารมณ์ดี และเขารู้จักวิธีคุยกับผู้หญิงเหมือนกับตอนที่พริมาเจอเขาครั้งแรก พูดคุยกันไปสักพักเขากลับทำให้คุยได้อย่างสนิทใจเหมือนกับรู้จักกันมานาน

            “พี่ตุลย์หล่อเนอะ” เด็กสาวที่นั่งถัดไปจากหล่อนกระซิบกับเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยกัน พริมามองตาม...ใช่พี่ตุลย์หล่อ ตัวสูงใหญ่ เขาตัวสูงพอๆ กับนพคุณแต่มีกล้ามเนื้อมากกว่า ผิวสีแทน คิ้วเข้ม แต่ที่เด่นคือตา ผู้ชายตาหวาน ตาหวานๆ นั่นมาอยู่บนหน้าเข้มๆ แบบนี้ได้อย่างไรนะ...มันเข้ากันได้อย่างดี พริมายังคิดอิจฉา เพราะขนตาเขาหนาและงอนมากกว่าผู้หญิงอย่างหล่อนเสียอีก เขาหล่อเหมือนพระเอกหนังอินเดียที่แม่ชอบเปิดดูเวลารถติด...เรื่องอะไรหล่อนจำไม่ได้ แต่หล่อแบบนั้นจริงๆ ความจริงไม่ใช่แค่หล่อนที่คิดว่าเขาหล่อแบบพระเอกหนังอินเดีย เพราะคเชนทร์มีฉายา “Shaheer แห่งเมืองไทย” แต่ยามาชอบเรียกแค่ “heer แห่งประเทศไทย” ครั้งแรกที่ได้ยินยามาเปิดโทรศัพท์หารูปดาราอินเดียที่ดวงซวยหน้าเหมือนไอ้คเชนทร์ปากเปราะ หล่อนเถียงไม่ออกเพราะมีส่วนคล้ายอยู่เหมือนกัน

            “โถ...พ่อคุณ พ่ออรชุนของฉัน” ยามานั่งมองรูปดาราหนุ่มพร้อมพูดพร่ำต่างๆ นาๆ ว่าเขาน่าสงสารขนาดไหน พริมาไม่แน่ใจว่าเพื่อนหล่อนรู้จักดาราหนุ่มมาก่อนถึงขนาดที่เรียกชื่อตัวละครที่เขาแสดงได้หรือว่าเพิ่งมาดูตอนที่เปิดหาในภายหลัง

                ทั้งสองทีมเริ่มแข่งขันกันแล้ว เสียงผู้คนรอบตัวดังเซ็งแซ่ ยิ่งดังมากเท่าไหร่ ก็สร้างความฮึกเหิมร่วมกันได้มากเท่านั้น ยามาแหวกคนมานั่งข้างพริมา

            “โทษทีมาช้า ได้ไปกี่ลูกแล้ว” พอหย่อนตัวก็ถามผลการแข่งขันทันที ยามาเป็นนักกีฬาวิ่ง หล่อนได้เหรียญทองทุกประเภท เรียกได้ว่าเป็นตัวทำคะแนนของสีน้ำเงินเลยก็ว่าได้ และเพราะตัวสูงขายาว หล่อนจึงค่อนข้างได้เปรียบนักวิ่งคนอื่นๆ

            “ยังหรอก เพิ่งเริ่มเอง” พริมาส่งน้ำให้เพื่อน ดูท่าว่าหล่อนจะวิ่งมาไกลทีเดียวเหงื่อย้อยเต็มหน้าไปหมด รอบตัวผู้คนส่งเสียงร้องเพลงเชียร์กันสนุกสนาน ทีมเชียร์ลีดเดอร์ของทั้งสองฝั่งแข่งกันประชันลีลา...นี่เหรอที่แม่จะให้หล่อนไปเต้น ไม่ไหวๆ แต่ละคนเด้งหน้าเด้งหลังกันสุดเหวี่ยง มองออกมารอบข้าง...ไม่ใช่เฉพาะในสนามเท่านั้นที่แข่งกัน กองเชียร์ของทั้งสองฝั่งก็เชียร์กันได้อย่างดุเดือด กว่าจะจบการแข่งขันไม่รู้นักกีฬาหรือกองเชียร์ใครจะหมดแรงก่อนกันแน่ จบครึ่งแรกผลคะแนนยังเสมอกันอยู่ นักกีฬาทั้งหมดเข้ามาพักริมสนาม โค้ชของทั้งสองทีมกำลังวางแผน เพื่อหาทางเอาชนะฝั่งตรงข้าม ส่วนนักกีฬาก็ฟังแผนของโค้ชอย่างตั้งใจ นพคุณกับคเชนทร์เป็นตัวทำคะแนนของทีม สองคนนี้...แม้ปกติจะไม่ค่อยถูกกันนัก แต่พออยู่ในเกมส์พวกเขามืออาชีพ...คำนี้คเชนทร์เคยกล่าวไว้

            “ลูกแก้วไม่ต้องห่วงหรอก พวกพี่โตๆ กันแล้ว แยกแยะเรื่องส่วนตัวได้ โดยเฉพาะพี่น่ะนะทำงานแบบมืออาชีพ” ยามาเบะปาก เพราะรู้ดีไม่ว่าเรื่องไหน หมอนี่ก็สามารถชงให้เป็นความดีความชอบของตัวเองได้ พริมามองโค้ชและนักกีฬาอย่างสนใจ จังหวะเดียวกันนพคุณมองขึ้นมา...เขามองมาเจอพอดี หรือว่ารู้ว่าหล่อนนั่งอยู่ตรงนี้กันแน่นะ ยามาใช้ข้อศอกถองเพื่อน

            “ไอ้ขี้เก๊กสายตาหยั่งกะเหยี่ยว! มันรู้ด้วยว่าลูกแก้วนั่งอยู่ตรงนี้” บังเอิญน่า! พริมาคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะฝั่งนี้เป็นที่นั่งของสีอื่นๆ          ที่ไม่ใช่สีที่กำลังแข่งขัน มันคงจะเห็นได้ชัดกว่าเพราะพวกหล่อนใส่เสื้อ           สีน้ำเงินนั่งกันอยู่ข้างๆ กองเชียร์สีชมพู...

            “บ้า...ก็คงมองมาพอดีแหละ พวกเราเด่นจะตาย” พริมาก็ยังคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญอยู่ดี

            “เด่นบ้าอะไร! คนตั้งเยอะแยะ หันไปดูรอบๆ สิ นี่ก็สีน้ำเงิน            นั่นสีเหลือง โน่นสีเขียว! แล้วก็ไม่ได้นั่งเป็นกลุ่มเป็นก้อนนะ กระจายกันไปหมด ถ้าจะมองหาใครสักคนบนอัฒจันทร์นี้ล่ะก็ จากข้างล่างนั่นก็ยากอยู่” ยามาวิเคราะห์...ไอ้ขี้เก๊กนั่นมองมาอย่างเจาะจงไม่ได้มองส่ายหาไปทั่ว ขณะที่   สองสาวถกเถียงกันอยู่ นพคุณหันหน้ากลับไปแล้ว เขาหันไปคุยอะไรสักอย่างกับเพื่อนที่นั่งอยู่ติดกันพร้อมกับฟังโค้ชไปด้วยอย่างตั้งใจ ส่วนคเชนทร์นอนแผ่ เท้าแขนข้างหนึ่งเพื่อยกหัวขึ้น เขานอนกระดิกขาฟังโค้ชอยู่ ตอนนี้เขาถอดเสื้อออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ

            “อุบาทว์! ดูไอ้เชนดิ” ยามามองไปอย่างเหยียดหยาม หล่อนทำหน้าเหมือนคเชนทร์ทำเรื่องผิดศีลธรรมร้ายแรง

            “ทำไมไม่ลุกขึ้นนั่งให้มันดีๆ แล้วเสื้อนั่นถอดทำไม? หน้าอกก็มีแต่ขนรุงรังเต็มไปหมดคนหรือหมีวะนั่น” ผิดกันกับยามา...เด็กสาวหลายคนนั่งหน้าแดง พริมาไม่แน่ใจว่าพวกหล่อนคิดไปถึงไหนต่อไหนบ้าง...บางคนก็เอากล้องขึ้นมาถ่ายรูป

            “สมน้ำหน้ามัน! ทำตัวไม่สุภาพให้มันโดนใบแดงไปเลย” ยามาพูดเสียงดังสะใจ พริมาจึงหันมองตามเพื่อนเห็นคเชนทร์กำลังใส่เสื้อลุกขึ้นนั่งเพราะถูกโค้ชด่าชุดใหญ่ แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ส่วนนักกีฬาคนอื่น นั่งขำ...น่าจะขำเรื่องที่โค้ชกำลังเทศนาคเชนทร์อยู่แน่ๆ

นพคุณยิ้มอีกแล้ว วันนี้เขาแจกยิ้มพร้อมลักยิ้มมีเสน่ห์นั่นบ่อยจัง พริมามองยิ้มตาม เป็นจังหวะที่นพคุณที่กำลังยิ้มขำกับเรื่องก่อนหน้ามองขึ้นมาพอดี พวกเขาสบตากัน พริมาเขินหน้าแดงหล่อนกำลังยิ้มให้เขาและไม่คิดว่าเขาจะเงยหน้าขึ้นมาเห็น...จังหวะมันได้!

            “แหวะ! เหม็นความรัก” ยามาเย้าเพื่อน หล่อนเห็นทุกอย่าง ยิ่งพักหลัง นี่แปลกๆ เพื่อนหล่อนก็แปลก ไอ้ขี้เก๊กก็ยิ่งแปลก

            “ส่งยิ้มหวานกันไปมาอยู่ได้...ขนลุก” พริมาหน้าเหวอ...หล่อนหน้าแดง เป็นลูกตำลึง มันแดงเห็นได้ชัดเพราะสาวน้อยผิวขาว

            “โอ้โห! ปัดแก้มให้ตัวเองได้ด้วย ทำได้ไงอ่ะ?” ยามาเอาสองมือประคองหน้าเพื่อนพลิกไปมา

            “ดูสิแก้มนี่เลือดฝาดขึ้นมาเลย” พริมาเอามือปัดมือยามาออก   หล่อนเกลียดจริง! ยามาเหมือนแม่ ช่างสังเกตและจับโกหกเก่ง หล่อนจะไม่พูดอะไรหรือตอบอะไรเด็ดขาดปล่อยให้ยามาพล่ามไปคนเดียวเถอะ

            “เพ้อเจ้อ” พริมาพูดอ้อมแอ้ม ยามายักไหล่แต่ไม่วายส่งสายตาล้อเลียน เกมส์ครึ่งหลังเริ่มแล้ว การเล่นเป็นไปแบบให้ลุ้นตลอดเวลา      เพราะแต้มของทั้งสองทีมเสมอกัน สุดท้ายต้องจบด้วยการยิงลูกโทษ และสีชมพูเป็นฝ่ายชนะ ตบท้ายการแข่งขันด้วยพิธีมอบเหรียญรางวัล และครูใหญ่ประกาศจบการแข่งขัน กองเชียร์แต่ละสีแยกย้ายกันลงอัฒจันทร์ ส่วนพวกนักกีฬาก็แยกย้ายกันไป มีบางส่วนที่ยังนั่งคุยกันอยู่ และพวกนักฟุตบอลที่โดนแฟนบอล (สาวๆ) รุมล้อม แน่นอนต้องมีนพคุณกับคเชนทร์รวมอยู่ด้วย พริมาลังเล หล่อนจะกลับเลยหรือยืนรอดีนะ คเชนทร์มองขึ้นมาเห็นพริมายืนอยู่ก็ตะโกนเรียกเสียงดัง

                “ลูกแก้ว! น้องลูกแล้ว พี่อยู่นี่มาถ่ายรูปกันหน่อยเร้ววว” คเชนทร์กวักมือเรียกหยอยๆ

            “น้องปลาทูไหม้ก็มาด้วยกันนะจ๊ะ” เขายังไม่วายหันไปแขวะยามา พริมาเห็นยามาขมวดคิ้วทำปากจิ๊จ๊ะไม่พอใจ หล่อนลากเพื่อนที่ดูไม่ค่อย   เต็มใจนักลงไปหาคเชนทร์

            “มาๆ มาถ่ายรูปกันหน่อย” คเชนทร์ถอดเสื้ออีกแล้ว ตอนนี้เขาเอาเสื้อพาดบ่า เผยให้เห็นแผงอกกว้างที่มีกล้ามเป็นมัดๆ ขนหน้าอกครึ้มดูเซ็กซี่ในสายตาสาวๆ หลายคน เขาเดินมาหาสองสาว...กำลังจะเข้ามาโอบไหล่ถ่ายรูป ยามาพลิกตัวหนี

            “อี๋!!! สกปรกตัวเหม็นสาบ ไปไกล ๆ เลยนะเหงื่อเต็มเลย แหยะ” ยามาทำหน้าขยะแขยงสุด ๆ

            “สกปรกอะไร? หอมนะ ดมสิ!” ไม่ว่าเปล่าเขาจับหัวยามาซุกใต้รักแร้ เด็กสาวดิ้นแต่ไม่เป็นผลเพราะเขาตัวใหญ่กว่าหล่อนมาก

            “พี่ตุลย์!!” พริมาทั้งขำทั้งสงสารเพื่อน หล่อนขำไปด้วยขณะเข้าไปช่วยยามาแงะตัวเองออกจากวงแขนของคเชนทร์ ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย ยามาเขินหล่อนไม่เคยถูกผู้ชายกอด...ผู้ชายถอดเสื้อเสียด้วย แล้วนี่ก็ต่อหน้าคนทั้งโรงเรียน แต่มืออาชีพแบบหล่อนแล้วไม่มีใครจับพิรุธหล่อนได้แน่นอน

            “แกไอ้ตัวขุนรุงรัง ไอ้...อี๋!” ยามารู้สึกได้ขนรักแร้เขาอยู่บนหัวหล่อน ตัวก็เปียกเหงื่อไปหมด เขาตั้งใจแกล้งหล่อนยามารู้ และหล่อนจะต้องหาทางเอาคืนให้ได้! แต่ตอนนี้สิหล่อนเอาตัวไม่รอด สุดท้ายหลุดออกมาได้เพราะไอ้ตัวขนรุงรังนั่นแหละยอมปล่อยออกมา พริมาหอบแฮ่ก หล่อนทั้งขำทั้งเหนื่อย

            “ลูกแก้วไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ ทำไมไม่ช่วยกัน” ยามาหันไป    เล่นงานเพื่อนแก้เขิน

                “นี่อย่ามาว่าลูกแก้วนะ เดี๋ยวโดนอีกข้าง” คเชนทร์ขู่พร้อมยกแขนอีกข้างที่เหงื่อชุ่มเตรียมตั้งท่ารอ...ส่วนข้างนั้นแห้งไปแล้ว ผมยัยปลาทูนี่ก็ซับเหงื่อ   ดีเหมือนกันแฮะ ข้างหลังเสียงเชียร์ลีดเดอร์สีแดงกำลังแย่งกันถ่ายรูปกับนพคุณ

            “คุณ! ถ่ายรูปกัน เราเป็นเชียร์ลีดเดอร์สีแดง แต่ใจจริงอยากเชียร์สีชมพูใจจะขาด” หญิงสาวในชุดแดงเพลิงสั้นจู๋พูดเจื้อยแจ้วขณะถ่ายรูปเซลฟี่กับนพคุณ คเชนทร์มองตาม เหอะ! ยัยนี่ตอแหล! มารยาหญิงทำไมเขาจะดูไม่ออก เขามีพี่สาวสามคน...แรดแบบนี้เลย ชายหนุ่มยังเคยคิดขำๆ ถ้าในอนาคตเขามีลูกชาย เขาจะต้องมีลูกสาวด้วย เพื่อให้ลูกชายของเขารู้เท่าทันผู้หญิง...ต้องให้คลุกคลีตั้งแต่เด็ก นี่ขนาดเขามีพี่สาวสามคน แต่ละคนยังนิสัยไม่เหมือนกันเลย เลี้ยงมาจากพ่อแม่เดียวกันแท้ๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทั้งสามคนเหมือนกันคือ...ถ้าพวกหล่อนรวมหัวกันคิดจะทำอะไรเมื่อไหร่ เมื่อนั้นบรรลัยเกิด! และด้วยความที่เขาเป็นน้องเล็ก พ่อแม่เลี้ยงตามใจเพราะเป็นลูกหลง       ตอนเด็กเขาจึงโดนกระทำกลั่นแกล้งมาเยอะพอควรเพราะเป็นที่หมั่นไส้ของพี่สาว ประสบการณ์จึงทำให้รู้ว่าถ้าพวกหล่อนสามคนรวมหัวกันแกล้งเขา เขาไม่มีทางสู้ชนะเด็ดขาด จากเด็กที่ถูกกระทำ ฝึกฝนตัวเองมาตลอดชีวิต จนตอนนี้เขารับมือกับพี่สาวสามคนได้อย่างสบาย...แต่อย่าเข้ามาพร้อมกันนะ          อันนี้ยอมแพ้จริงๆ

            “ลูกแก้วววว มาถ่ายรูปเซลฟี่กานนนนน” คเชนทร์ทำเสียงได้         น่าหมั่นไส้มาก แต่คราวนี้เขาทำได้ถูกใจยามา หล่อนเข้าผสมโรง

            “โอ้ย! เธอสองคนยืนคู่กันนี่สมกันดีจัง เหมือนดารามาจากต่างประเทศเลย...คนหนึ่งดาราฮอลลีวู้ด ส่วนอีกคนวิ่งข้ามเขามาจากบอลลีวู้ด” ยามากดชัตเตอร์รัวๆ ถ่ายรูปเพื่อนกับคเชนทร์ คเชนทร์ก็ไม่น้อยหน้า         เขากดชัตเตอร์กล้องหน้าเซลฟี่ไม่ยั้ง เสียงของสองคนเรียกความสนใจของคนรอบข้าง พริมาอึดอัดหล่อนรู้...ปัญหากำลังจะเกิด พวกสาวๆ ที่ยืนรอคเชนทร์ทยอยกลับเพราะคิดว่าเขาน่าจะไม่กลับไปถ่ายรูปกับพวกหล่อนแน่ นพคุณเดินแยกตัวออกมาจากสาวๆ ชุดแดงเช่นกัน ตอนนี้หน้าเขาหงิกตามปกติ...แต่ดูอารมณ์ไม่ค่อยปกติ

            “ฉันว่าแกใส่เสื้อก่อนดีกว่าไหม?” เหมือนจะพูดกับคเชนทร์           แต่ยืนมองหน้าพริมาเขม็ง มือข้างหนึ่งของคเชนทร์กอดคอหล่อนเอาไว้       ถ้าใครไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เห็นแต่รูปก็คงคิดได้หลายแบบ คเชนทร์แค่       ยักไหล่แต่ดูเหมือนไม่นำพา

            “มาลูกแก้ว! เดี๋ยวถ่ายมุมนี้ด้วยให้เห็นสนาม ใครเห็นรูปจะได้ไม่คิดลามก” มืออีกข้างเขาลากยามามาถ่ายด้วย

            “ไอ้ต้นกดชัตเตอร์ให้หน่อย วันนี้เฮียตุลย์ควงสอง” คเชนทร์หันไป   สั่งเพื่อนนักฟุตบอลที่ยังเหลืออยู่ถ่ายรูปคี่ให้เขา ยามาโดนล็อคคอไว้กับแขนข้างนั้น...ข้างที่ยังเปียก ส่วนพริมาอยู่ใต้วงแขนข้างที่คเชนทร์เอาถูกับหัวยามา จนแห้งสนิทแล้ว...ดิ้นไม่หลุดแน่นอนยามาเลยจำยอม ถ่ายไปได้สองสามรูป นพคุณหน้าตึงดึงแขนพริมาออกมา หล่อนเซเล็กน้อย แต่นพคุณจับไว้ทัน     ทั้งคเชนทร์และยามาตกใจ แต่พริมาซะอีกที่ดูเฉยๆ

            “ทำไมต้องดึงแรงขนาดนั้น ลูกแก้วตัวนิดเดียวเดี๋ยวก็ล้มลงไปหรอก!” ยามาแหวใส่นพคุณเสียงดัง คเชนทร์พยักหน้าหงึกๆ เขานึกไม่ถึงว่านพคุณจะเหวี่ยงกลางคนแบบนี้

            “ลูกแก้วไม่เป็นไรค่ะ” พริมาพยายามห้ามทัพ นพคุณเองก็ตกใจตัวเอง เขาโมโหอะไรนะ? หงุดหงิดชะมัด แต่เขาลงกับใครก็ไม่ได้สุดท้ายก็ต้องระบายกับคนข้างตัว เขาแค่อยากให้หล่อน...ออกมา

            “ขอโทษ” นพคุณคลายมือที่บีบแขนพริมาไว้ตอนแรก แต่ยังจับไว้หลวมๆ แทน สีหน้าเขาตอนนี้เหมือนยังงงๆ กับพฤติกรรมตัวเอง คเชนทร์ที่ตอนนี้ยอมใส่เสื้อหรี่ตามองใช้ความคิด...ทันใดนั้นเขายิ้มมุมปาก ไอ้ขี้เก๊ก! ฉันรู้ความลับแกหรอกนะ

            “เอ๊า! มาๆ ถ่ายรูปหมู่ด้วยสิ สี่คนสองคู่ชู้ชื่นตุนาหงัน!” คเชนทร์รวบทุกคน...ยามาอยู่ด้านซ้ายมือของเขาถัดมาด้านขวาเขาเป็นนพคุณ และริมสุดฝั่งขวาพริมาที่ยืนตัวลีบ นพคุณยังใช้มือเขาจับแขนพริมาไว้อยู่ ตอนแรกเขาขืนตัวจะไม่ยอม แต่สักพักก็ยอมยืนถ่ายรูปแต่โดยดี

            “แหม...ขอเราถ่ายรูปด้วยคนสิ ตุลย์กับคุณไม่ชวนกันเลย หรือเพราะชื่อแพรวไม่มีสระอาเลยไม่น่าสนใจ” แพรวพณิตปรายตามองพริมากับยามาสองสาวสระอา

            “งั้นก็เปลี่ยนชื่อเป็นควายหรือหมาสิ...จะได้มีสระอา” สาวสระอาสวนทันควัน หล่อนอยู่เฉยๆ อยู่ดีๆ แพรวพณิตก็เข้ามาเหน็บ พริมาแอบเห็น คเชนกับยามาตีมือกัน...ถ้ามีศัตรูจากภายนอกสองคนนี่จะผนึกกำลังสามัคคีกัน แต่ถ้าไม่มีใครแล้วทิ้งไว้ให้อยู่กันสองคน สองคนนี่จะตีกันเอง!

            “แกสิ! ปากแบบนี้เปลี่ยนชื่อเป็นหมาไปเลย ส่วนอีกคนก็โง่สมองกลวง จะเปลี่ยนด้วยไม๊?” แพรวพณิตแหวใส่ยามา แต่ไม่วายเหมารวมพริมา       เข้าไปด้วย

            “แพรว!” นพคุณปรามเสียงดัง เขาไม่ชอบใจที่หล่อนพาลไปทั่ว

            “เราก็แค่ล้อเล่น ทียัยปลาทูยังพูดได้เลย” แพรวพณิตแกล้งสลด คเชนทร์ยืนมองเฉยๆ อย่างสนใจว่านพคุณจะทำอย่างไร เอาล่ะเว้ย! ไอ้ขี้เก๊ก แกจะรับมือยังไง? คเชนทร์รู้ดีว่าเวลาผู้หญิงตีกันน่ากลัวที่สุด และงานนี้โชคดีที่ไม่ได้ตีกันเพราะเขา...ค่อยสบายใจหน่อย และก่อนที่บรรยากาศจะตึงเครียด ไปกว่านี้ จังหวะเหมาะพอดีเพราะเพื่อนนักฟุตบอลคนอื่นๆ ส่งเสียงเรียกพวกเขาก่อน เนื่องจากโค้ชจะเลี้ยงฉลองชัยชนะที่ได้เหรียญทองในวันนี้

            “เฮ้ย ไอ้คุณ! ไอ้ตุลย์! ไปร้านหมูกระทะกันเร็ว! วันนี้โค้ชจะพาไปเลี้ยง จอดรถรออยู่หน้าตึกเนี้ย” ทั้งหมดจึงต้องยุติการสนทนาที่กำลังระอุอยู่ตอนนี้ พริมาบอกลาคเชนทร์แล้วหันไปมองนพคุณแวบหนึ่ง เขายืนมองนิ่งไม่พูดอะไร หล่อนจึงเลี่ยงเดินไปหายามาที่ยืนรออยู่ห่างออกไป นพคุณมองตามสาวน้อยขณะที่เดินตามไปสมทบกับเพื่อนของหล่อน เหมือนเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง เด็กหนุ่มวิ่งตามไปดักหน้าพริมา สาวน้อยดูงงๆ ที่อยู่ๆ นพคุณก็วิ่งมาหยุดยืนหน้าหล่อน

            “อุ้ย! เอ่อ มีอะไรรึเปล่าคะ?” ดีนะที่หล่อนเดินไม่ได้วิ่ง ถ้าหล่อนวิ่ง แล้วเขาวิ่งมาดักหน้าแบบนี้หล่อนคงล้มหัวคมำอีกแน่ๆ แล้วอยู่ๆ ไม่มีใครคาดคิด นพคุณเอาเหรียญทองคล้องคอเด็กสาว ท่ามกลางสายตาหลายๆ คู่           ยามายกมือขึ้นปิดปากตาโต คเชนทร์เลิกคิ้ว แพรวพณิตยืมมองนิ่ง มีเสียงโห่ล้อเลียนจากเพื่อนๆ นักฟุตบอลที่ยืนรอไปพร้อมกันอยู่

            “ฝากไว้หน่อย” นพคุณพูดสั้นๆ แล้ววิ่งตามไปสมทบกับเพื่อนที่รออยู่ พริมายืนตะลึงเขาจะเอาเหรียญทองมาฝากหล่อนไว้ทำไมนะ?

            “เหรียญอันนิดเดียวเบาขนาดนี้ จะเอามาฝากไว้ทำไม ทีกระเป๋ากับรองเท้าเห็นถือไปด้วย หรือว่ากลัวว่าเหรียญจะหล่นหายเลยฝากลูกแก้วเอากลับบ้านไปก่อน” ยามาเลิกคิ้วล้อเลียน พริมาไม่แน่ใจว่ายามาถามหล่อนหรือว่าแค่อยากเล่าให้ฟัง เพราะมันมีทั้งประโยคคำถามและประโยคบอกเล่าจากสิ่งที่เพื่อนหล่อนพูด

            “เธอนี่ร้ายกว่าที่ฉันคิดอีกนะ” แพรวพณิตกอดอกมองมาทางพริมา หล่อนหมายตานพคุณไว้ตั้งแต่แรกเห็น แต่ถ้ารอให้เขามาจีบคงไม่ทัน     เพราะดูเหมือนเด็กหนุ่มจะเป็นที่หมายตาของใครหลายๆ คน สมัยนี้ผู้หญิงอย่างเราต้องรุก...ไหนจะผู้หญิงสวยๆ เต็มโรงเรียนไปหมด กะเทยที่ดูจะสวยกว่าผู้หญิงและไม่มีงี่เง่าน่ารำคาญเท่าเพราะยังมีฮอร์โมนเพศชายอยู่        หรือแม้แต่ผู้ชายด้วยกันเอง...เป็นยุคสมัยที่ผู้หญิงอยู่ยากจริงๆ หล่อนจะไม่ มัวมาเหนียมอายให้เสียเวลา หล่อนสวย เรียนเก่ง และชัดเจนซึ่งๆ หน้า        ผิดกับบางคนที่ปากว่าตาขยิบ เล่นลับหลังแบบนี้หล่อนเกลียดนัก ปากก็ปฏิเสธว่าไม่ชอบ แต่พฤติกรรมกลับอ่อยให้ท่า! อ่อยผู้ชายสองคนเลยด้วย ถ้าพริมาชัดเจนหล่อนจะไม่ว่าเลย สู้กันแบบแฟร์ๆ แต่นี่หล่อนคิดว่าพริมาตอแหล!!!

            “ถ้าผู้ชายเค้าไม่สนก็อย่าพาล” ยามาเดินเข้ามาช่วยเพื่อนเต็มที่ แพรวพณิตยอมรับว่าถ้ายืนเถียงกัน หล่อนเถียงแพ้ยามาแน่นอน ไม่แน่อาจจะได้อับอายขายหน้า เพราะยัยนี่ชอบด่าเสียงดังประจานคน หล่อนจึงเดินกระฟัดกระเฟียดจากไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ เชียร์ลีดเดอร์สีแดงที่ยืนกันอยู่อีกฝั่งอัฒจันทร์

            “ตามกลิ่นผู้ชายมาหาเรื่องกันถึงฝั่งนี้ ฉันล่ะยอมยัยนั่นจริงๆ” ยามา ยืนเท้าเอวมองตามแพรวพณิตไปจนเด็กสาวเดินกลับไปถึงฝั่งของสีแดง     และยังไม่วายแลบลิ้นใส่ เมื่อฝั่งนั้นหันหน้ากลับมามอง

            “ไปกันเถอะปลาทู แม่มารอแล้ว เดี๋ยวลูกแก้วกับแม่ไปที่ส่งบ้านนะ” พริมาลากเพื่อนไปจากตรงนั้น เพราะตอนนี้เหมือนฝั่งลีดเดอร์สีแดงจะหันมามองกันทั้งกลุ่ม และถ้าพวกนั้นข้ามมารุมถึงฝั่งนี้หล่อนเชื่อว่ายามาจะไม่ถอยแน่นอน แต่อย่าปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นจะดีกว่า ระหว่างทางกลับบ้านภารดีพาสองสาว แวะกินข้าวก่อน ยามาเล่าเรื่องงานกีฬาสีให้ภารดีฟังอย่างออกอรรถรส ยามาเล่าไปเรื่อยจนมาถึงเรื่องที่นพคุณเอาเหรียญทองมาฝากไว้ที่พริมา ภารดีนั่งฟังเฉย หล่อนเพียงแค่เหลือบมองลูกสาว แต่ไม่เอ่ยอะไร พริมานั่งเงียบ หล่อนไม่ได้พูดอะไร แต่ภารดีเห็นเด็กสาวเผลอเอามือขึ้นจับเหรียญทองที่คออย่างลืมตัว

            “แล้วเด็กที่ชี่อแพรวอะไรนั่นสวยไม๊?” ภารดีถามขึ้น เมื่อยามาเล่าว่าแพรวพณิตชอบหาเรื่องพริมา

            “ก็...” ยามาทำท่านึกอยู่นานสลับกับเบ้ปาก

            “ถ้าไม่อคติเกินไป ปลาทูว่าก็พอไปวัดไปวาหมาไม่เห่า แต่ปลาทูคิดว่า ถ้าไม่รักกันจริงผู้ชายคงทนยัยนั่นได้ไม่นานหรอกค่ะ ทำตัวน่ารำคาญจะตายไป” เด็กสาวนินทาคู่ปรับพลางหยิบขนมใส่ปาก วันนี้ยามากินข้าวไปสองจาน   และตอนนี้กำลังตบด้วยของหวาน เพราะหล่อนถือคติโบราณที่ว่ากินคาว    ไม่กินหวานสันดานไพร่ ยามาไม่อยากเป็นไพร่เลยจัดของหวานไปสามอย่าง ภารดีสั่งอาหารมามากมายหล่อนชอบที่เห็นเพื่อนลูกสาวกินได้กินอร่อย     พริมาเองก็พลอยกินมากตามไปด้วย

            “แล้วสวยกว่าลูกแก้วรึเปล่า?” ภารดียังอยากรู้ไม่จบ

            “โอ๊ย! พี่พิมพ์! ทำไมดูถูกลูกสาวตัวเองแบบนี้ล่ะคะ ยัยนั่นน่ะเหรอคะจะมาเทียบลูกแก้ว ถ้าผู้ชายคนไหนคลุกคลีหรือรู้จักลูกแก้วแล้วไปเลือก     ยัยนั่นนะคะ ปล่อยมันไปเถอะค่ะ กาก! แต่ก็ถือว่าดีนะคะจะได้คัดคนคุณภาพ” ตอนนี้ยามาหันมาจิ้มขนมในจานภารดีชิมอย่างอยากรู้

            “ในโรงเรียนนี้น่ะรองจากปลาทูแล้ว...ลูกแก้วสวยที่สุด” ยามาหันมายิ้ม ให้ภารดีแล้วหันไปยักคิ้วให้พริมา สามสาวหัวเราะโดยเฉพาะยามาที่ตอนนี้ลามมาจิ้มขนมในจานพริมาต่อ เพราะของภารดีหล่อนชิมไปแล้ว...แบบนี้ใช่ไหมที่เค้าเรียกกันว่าตลกบริโภค

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา