Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ
-
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.24 น.
40 ตอน
0 วิจารณ์
34.20K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) บทที่14 มหาวิทยาลัยเขียวชอุ่ม (3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่14 มหาวิทยาลัยเขียวชอุ่ม (3)
อี้เป่ยซีกินข้าวกับหลานฉือเซวียนนานมาก คุยกันอยู่ที่โต๊ะอาหารจนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดแล้ว ทั้งสองคนจึงค่อยเตรียมตัวกลับบ้าน
เมื่อกลับถึงหอพักหญิง อี้เป่ยซีผลักประตูเปิดอย่างอึดอัดเล็กน้อย มองเห็นห้องพักสำหรับนักศึกษาหญิงสี่คนมีคนคนหนึ่งอยู่ นี่มันเด็กผู้หญิงที่ให้บัตรเชิญหลานฉือเซวียนวันนี้นี่นา เธออึ้งไปเล็กน้อย หลานฉือเซวียนเอ๊ยหลานฉือเซวียน ครั้งนี้นายทำร้ายฉันซะแล้ว
เธอยิ้มให้เด็กสาวด้วยความเคอะเขิน“สวัสดีจ้ะ”
เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวคนนั้นก็จำเธอได้ ยิ้มน้อยๆ ให้เธอ“ขอโทษนะ เธอมาหาฉันเหรอ?”
“เปล่าๆๆ” อี้เป่ยซีชี้ป้ายของตัวเอง“ฉันชื่ออี้เป่ยซี”
“สวัสดี ฉันถังเสวี่ย” รอยยิ้มของเธออบอุ่นอย่างยิ่ง นี่คือความประทับใจแรกที่อี้เป่ยซีมีต่อเธอ
“แล้วคนอื่นล่ะ?” อี้เป่ยซีมองไปรอบๆ ด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่ไม่เห็นเงาของคนอื่นเลย
“พวกเขา พวกเขาจะกลับมาดึกหน่อย” ถังเสวี่ยก้มหน้าพูด แม้น้ำเสียงปกติ แต่ว่าอี้เป่ยซีกลับได้ยินความผิดปกติบางอย่าง เธอพยักหน้าให้ เดินกลับไปที่โต๊ะเล็กๆ ของตัวเอง มองดูกุญแจในมือ กำลังคิดวางแผนจัดแจงรังน้อยของตัวเอง
“เป่ยซี” ถังเสวี่ยเดินไปข้างเธอช้าๆ“เธอกับรุ่นพี่หลานเป็นอะไรกันเหรอ”
อี้เป่ยซีเห็นท่าทางเขินอายของเธอ ก็พิงพนักเก้าอี้ตัวเอง“คนรักตั้งแต่สมัยเด็กน่ะ”
ถังเสวี่ยได้ยินคำตอบนี้ก็เงยหน้าขึ้นโดยพลัน ในดวงตามีแววลนลาน
“ขะ ขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอสองคน…”
“ฮ่าๆ…”อี้เป่ยซีอดไม่ไหว หัวเราะออกมา“แค่เพื่อนเท่านั้นแหละ เธออย่าคิดมากเลย”
“ฉันว่าคนโดดเด่นอย่างรุ่นพี่หลานคงจะมีคนมาชอบเขาเยอะ” แววตาที่แน่วแน่ของเธอเปี่ยมด้วยความเทิดทูนต่อบุคคลที่เธอเอ่ยถึง
อี้เป่ยซีเกาหัวอย่างทำตัวไม่ถูก คนที่ตัวเองรู้จักคือหลานฉือเซวียนคนนั้นที่อีกฝ่ายพูดถึงเหรอ“ถังเสวี่ย ฉันเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้หรอก ไม่รู้ว่าหลานฉือเซวียนอยู่ที่นี่เป็นคนยังไงกันแน่” อี้เป่ยซีสังเกตเห็นว่าดวงตาของเด็กสาวเป็นประกายขึ้นโดยพลัน อี้เป่ยซีคลำจมูก รู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่ตัวเองหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด
อี้เป่ยซีเอามือเท้าคาง ฟังเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าพูดเรื่องของเขา ความสนใจหายไป เธอรู้สึกว่าเสียงเบาลงเรื่อยๆ ภาพที่อยู่ตรงหน้ายิ่งพร่ามัวลง
“เป่ยซี” ถังเสวี่ยตบเธอเบาๆ อี้เป่ยซีได้สติทันที
“อืมๆๆ ยัง...ยังมีอีกไหม”
ถังเสวี่ยส่ายหัวพูด“เธอง่วงแล้ว หรือว่าที่ฉันพูดมันน่าเบื่อเกินไป?”
อี้เป่ยซีส่ายหน้า“เปล่า เธอพูดได้อารมณ์มาก แต่ว่าเนื้อหาไม่มีอะไรที่ดึงดูดฉันน่ะ” เธอพยักหน้าด้วยท่าทีจริงจัง ถ้าหากตอนนี้มีคนพูดกับเธอเรื่องอี้เป่ยเฉินละก็ ต่อให้เป็นเรื่องขี้ประติ๋วและพูดอย่างเรียบง่ายน่าเบื่อ เธอก็จะตั้งอกตั้งใจฟัง แต่คนที่พูดถึงคือหลานฉือเซวียน เจ้าหมอนั่นมีอะไรน่าฟังกัน
“ถึงยังไงรุ่นพี่ก็เป็นเหมือนเทพบุตรในใจฉัน” อี้เป่ยซีเห็นใบหน้าน้อยๆ กระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาก็ยิ้มในใจ จู่ๆ ก็ชอบเพื่อนร่วมหอคนนี้มาก
“เป่ยซี เธอรู้ไหมว่าทำไมเทพบุตรถึงไม่มีแฟน?”
อี้เป่ยซีเงียบอยู่พักหนึ่ง ทำไมน่ะเหรอ เหมือนกับตัวเองยังไม่เคยสังเกตชีวิตของหลานฉือเซวียนเลย ทุกครั้งราวเธอไปหาเขาเพื่อระบายอารมณ์ เธอเอ่ยปากอย่างระมัดระวังเป็นที่สุด“เรื่องนี้ อาจเป็นเพราะว่ารู้สึกว่าไม่ใช่มั้ง”
“รู้สึก?”
อี้เป่ยซีเหมือนคิดคำตอบได้แล้ว เธอกระแอมไอ“หลานฉือเซวียนเป็นคนระมัดระวังเรื่องความรู้สึกมาก เป็นความรู้สึกยังไง ฉันว่าเขาเองก็อธิบายไม่ได้ ก็เลยอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดละมั้ง”
ถังเสวี่ยยิ้มขมขื่น“ไม่น่าล่ะ”
เธอรีบปลอบโยน“แต่ว่าเธอก็อย่าท้อเลย อีกหน่อยเขาก็จะรู้ว่าความรู้สึกมันไม่น่าเชื่อถือมากแค่ไหน”
“รุ่นพี่หลานก็ฉลาดเรื่องความรักเหมือนกัน” เธอส่ายหัว“ไม่น่าล่ะเขาถึงไม่ชอบพวกเรา”
อี้เป่ยซีรู้สึกว่าตัวเองกำลังสีซอให้ควายฟังอยู่บ้าง ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน‘เทพบุตรของเธอฉลาดที่สุด’
ถังเสวี่ยพูดพึมพำตัวเองอีก“อย่างพวกเรามีมาตรฐานอะไร คิดว่าการไปให้ถึงมาตรฐานเป็นสิ่งที่ถูก แต่ว่าหลายครั้งพวกเราจะไปรู้ได้ยังไงว่าอันไหนเป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ”
น้ำที่อี้เป่ยซีกำลังดื่มหยุดอยู่ในปาก มองดูสาวน้อยเบื้องหน้าที่แทบไม่ปกปิดความรู้สึก กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไปช้าๆ มองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวข้างนอก ไม่รู้ว่ากำลังพยักหน้ากับใคร
------------
อี้เป่ยซีกินข้าวกับหลานฉือเซวียนนานมาก คุยกันอยู่ที่โต๊ะอาหารจนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดแล้ว ทั้งสองคนจึงค่อยเตรียมตัวกลับบ้าน
เมื่อกลับถึงหอพักหญิง อี้เป่ยซีผลักประตูเปิดอย่างอึดอัดเล็กน้อย มองเห็นห้องพักสำหรับนักศึกษาหญิงสี่คนมีคนคนหนึ่งอยู่ นี่มันเด็กผู้หญิงที่ให้บัตรเชิญหลานฉือเซวียนวันนี้นี่นา เธออึ้งไปเล็กน้อย หลานฉือเซวียนเอ๊ยหลานฉือเซวียน ครั้งนี้นายทำร้ายฉันซะแล้ว
เธอยิ้มให้เด็กสาวด้วยความเคอะเขิน“สวัสดีจ้ะ”
เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวคนนั้นก็จำเธอได้ ยิ้มน้อยๆ ให้เธอ“ขอโทษนะ เธอมาหาฉันเหรอ?”
“เปล่าๆๆ” อี้เป่ยซีชี้ป้ายของตัวเอง“ฉันชื่ออี้เป่ยซี”
“สวัสดี ฉันถังเสวี่ย” รอยยิ้มของเธออบอุ่นอย่างยิ่ง นี่คือความประทับใจแรกที่อี้เป่ยซีมีต่อเธอ
“แล้วคนอื่นล่ะ?” อี้เป่ยซีมองไปรอบๆ ด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่ไม่เห็นเงาของคนอื่นเลย
“พวกเขา พวกเขาจะกลับมาดึกหน่อย” ถังเสวี่ยก้มหน้าพูด แม้น้ำเสียงปกติ แต่ว่าอี้เป่ยซีกลับได้ยินความผิดปกติบางอย่าง เธอพยักหน้าให้ เดินกลับไปที่โต๊ะเล็กๆ ของตัวเอง มองดูกุญแจในมือ กำลังคิดวางแผนจัดแจงรังน้อยของตัวเอง
“เป่ยซี” ถังเสวี่ยเดินไปข้างเธอช้าๆ“เธอกับรุ่นพี่หลานเป็นอะไรกันเหรอ”
อี้เป่ยซีเห็นท่าทางเขินอายของเธอ ก็พิงพนักเก้าอี้ตัวเอง“คนรักตั้งแต่สมัยเด็กน่ะ”
ถังเสวี่ยได้ยินคำตอบนี้ก็เงยหน้าขึ้นโดยพลัน ในดวงตามีแววลนลาน
“ขะ ขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอสองคน…”
“ฮ่าๆ…”อี้เป่ยซีอดไม่ไหว หัวเราะออกมา“แค่เพื่อนเท่านั้นแหละ เธออย่าคิดมากเลย”
“ฉันว่าคนโดดเด่นอย่างรุ่นพี่หลานคงจะมีคนมาชอบเขาเยอะ” แววตาที่แน่วแน่ของเธอเปี่ยมด้วยความเทิดทูนต่อบุคคลที่เธอเอ่ยถึง
อี้เป่ยซีเกาหัวอย่างทำตัวไม่ถูก คนที่ตัวเองรู้จักคือหลานฉือเซวียนคนนั้นที่อีกฝ่ายพูดถึงเหรอ“ถังเสวี่ย ฉันเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้หรอก ไม่รู้ว่าหลานฉือเซวียนอยู่ที่นี่เป็นคนยังไงกันแน่” อี้เป่ยซีสังเกตเห็นว่าดวงตาของเด็กสาวเป็นประกายขึ้นโดยพลัน อี้เป่ยซีคลำจมูก รู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่ตัวเองหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด
อี้เป่ยซีเอามือเท้าคาง ฟังเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าพูดเรื่องของเขา ความสนใจหายไป เธอรู้สึกว่าเสียงเบาลงเรื่อยๆ ภาพที่อยู่ตรงหน้ายิ่งพร่ามัวลง
“เป่ยซี” ถังเสวี่ยตบเธอเบาๆ อี้เป่ยซีได้สติทันที
“อืมๆๆ ยัง...ยังมีอีกไหม”
ถังเสวี่ยส่ายหัวพูด“เธอง่วงแล้ว หรือว่าที่ฉันพูดมันน่าเบื่อเกินไป?”
อี้เป่ยซีส่ายหน้า“เปล่า เธอพูดได้อารมณ์มาก แต่ว่าเนื้อหาไม่มีอะไรที่ดึงดูดฉันน่ะ” เธอพยักหน้าด้วยท่าทีจริงจัง ถ้าหากตอนนี้มีคนพูดกับเธอเรื่องอี้เป่ยเฉินละก็ ต่อให้เป็นเรื่องขี้ประติ๋วและพูดอย่างเรียบง่ายน่าเบื่อ เธอก็จะตั้งอกตั้งใจฟัง แต่คนที่พูดถึงคือหลานฉือเซวียน เจ้าหมอนั่นมีอะไรน่าฟังกัน
“ถึงยังไงรุ่นพี่ก็เป็นเหมือนเทพบุตรในใจฉัน” อี้เป่ยซีเห็นใบหน้าน้อยๆ กระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาก็ยิ้มในใจ จู่ๆ ก็ชอบเพื่อนร่วมหอคนนี้มาก
“เป่ยซี เธอรู้ไหมว่าทำไมเทพบุตรถึงไม่มีแฟน?”
อี้เป่ยซีเงียบอยู่พักหนึ่ง ทำไมน่ะเหรอ เหมือนกับตัวเองยังไม่เคยสังเกตชีวิตของหลานฉือเซวียนเลย ทุกครั้งราวเธอไปหาเขาเพื่อระบายอารมณ์ เธอเอ่ยปากอย่างระมัดระวังเป็นที่สุด“เรื่องนี้ อาจเป็นเพราะว่ารู้สึกว่าไม่ใช่มั้ง”
“รู้สึก?”
อี้เป่ยซีเหมือนคิดคำตอบได้แล้ว เธอกระแอมไอ“หลานฉือเซวียนเป็นคนระมัดระวังเรื่องความรู้สึกมาก เป็นความรู้สึกยังไง ฉันว่าเขาเองก็อธิบายไม่ได้ ก็เลยอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดละมั้ง”
ถังเสวี่ยยิ้มขมขื่น“ไม่น่าล่ะ”
เธอรีบปลอบโยน“แต่ว่าเธอก็อย่าท้อเลย อีกหน่อยเขาก็จะรู้ว่าความรู้สึกมันไม่น่าเชื่อถือมากแค่ไหน”
“รุ่นพี่หลานก็ฉลาดเรื่องความรักเหมือนกัน” เธอส่ายหัว“ไม่น่าล่ะเขาถึงไม่ชอบพวกเรา”
อี้เป่ยซีรู้สึกว่าตัวเองกำลังสีซอให้ควายฟังอยู่บ้าง ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน‘เทพบุตรของเธอฉลาดที่สุด’
ถังเสวี่ยพูดพึมพำตัวเองอีก“อย่างพวกเรามีมาตรฐานอะไร คิดว่าการไปให้ถึงมาตรฐานเป็นสิ่งที่ถูก แต่ว่าหลายครั้งพวกเราจะไปรู้ได้ยังไงว่าอันไหนเป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ”
น้ำที่อี้เป่ยซีกำลังดื่มหยุดอยู่ในปาก มองดูสาวน้อยเบื้องหน้าที่แทบไม่ปกปิดความรู้สึก กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไปช้าๆ มองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวข้างนอก ไม่รู้ว่ากำลังพยักหน้ากับใคร
------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ