แต่งกับเจ้าแล้วไง! ข้าก็ไม่ได้รักเจ้าเสียหน่อย!
เขียนโดย darkaura24
วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.30 น.
แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม พ.ศ. 2563 15.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) 3:ไว้นึกออก ข้าจะบอกเจ้าค่ะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
3
ไว้นึกออก ข้าจะบอกเจ้าค่ะ
“อย่าเพิ่งรีบร้อนไป ยังพอมีทางชนะได้อยู่” บุรุษผู้นั้นพูด ท่ามกลางความงุนงงของอิงมี่และหมิงซาน แต่พอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ อิงมี่ก็รู้ทันทีว่านี่คือ ‘ไอ้คุณชายเสเพล’ ที่เธอเกลียดขี้หน้าเป็นนักหนา
จะว่าไปเขามาตั้งแต่เมื่อใดกัน.. บิดามารดาเขาล่ะ
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกไป ก็เห็นเซี่ยเฟยหงถือวิสาสะเข้ามาเล่นแทนหมิงซานเสียแล้ว
“เจ้าเป็นใครเนี่ย” หมิงซานถาม ด้วยเขายังไม่เคยเห็นหน้าของเฟยหงมาก่อน
“ข้านั้นคือเซี่ยเฟยหง คู่หมั้นของคุณหนูหานอิงมี่ วันนี้ทางครอบครัวข้าจะมาคุยกันเรื่องงานแต่งในอีกสามเดือนข้างหน้า ระหว่างรอเจรจาข้าเห็นท่านกับแม่นางคนนี้เดินหมากกันอยู่ เลยอยากเข้ามาสอดเสียหน่อย” เฟยหงตอบอย่างหน้าด้านๆ พร้อมกับเดินหมากไปด้วย ทางด้านหมิงซานก็คิดจะแกล้งน้อง จึงเดินออกไปเสียดื้อๆ ปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่กันตามลำพัง
หึๆ ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าจะไล่ต้อนให้ยับเลย!! อิงมี่แอบหัวเราะเงียบๆ ในใจ
“แม่นาง เจ้ามีนามว่าอะไรรึ” เฟยหงถามสตรีรูปงามตรงหน้าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน อีกเหตุผลนึงที่เขาแอบดูสองคนนี้เล่นหมาก ก็เพราะสนใจในตัวสตรีคนนี้นี่แล มิรู้มาก่อนว่านอกจากยายม้าดีดกะโหลกหานอิงมี่แล้ว ในจวนสกุลหานจะยังมีบุปผางามซ่อนอยู่อีก
“…..” อิงมี่ไม่ได้ตอบอะไรออกไป หากแต่นึกเย้ยอยู่ในใจ แค่นางเห็นแววตาเป็นประกายของเขา เพียงวูบหนึ่ง นางก็พอเดาออกแล้วว่าเขาคิดอะไร สมกับเป็นคุณชายเสเพลจริงๆ
บอกว่าจะมาพบคู่หมั้น…. แต่กลับ..
เอาเถอะ ไหนๆ การที่จะได้ถอนหมั้นก็เป็นเรื่องดี เช่นนั้นตอนนี้นางยังไม่บอกเขาละกันว่านางคือว่าที่คู่หมั้นของเขา อิงมี่จึงแกล้งทำเป็นยิ้มเอียงอายเล็กน้อยแล้วเดินหมากต่อไป โดยไม่พูดกับอีกฝ่ายสักคำ
“เอาอย่างนี้ ถ้าข้าชนะเจ้าต้องบอกชื่อเจ้ามา แต่ถ้าข้าแพ้ ข้าจะยอมทำอะไรก็ได้ 1 อย่าง ตกลงไหม” เฟยหงสำคัญผิดว่าสตรีตรงหน้าคงอายเขา จึงบอกไปแบบนั้น
แต่เอ…ตัวเขารู้สึกคุ้นหน้านางเสียจริง เหมือนว่าเคยเจอกันมาก่อน..
“ตกลงเจ้าค่ะ” อิงมี่ตอบแล้วยิ้มหวาน ในใจยิ่งนึกขัน นี่เขาจำข้ามิได้จริงๆ ด้วย
เมื่อสองปีก่อนเราเพิ่งจะเจอกันแท้ๆ แล้วนางก็หันมาสนใจกับการแข่งเดินหมากตรงหน้า
พร้อมกับคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย..
หากข้าชนะ… ข้าควรจะให้ยอดแม่ทัพคนนี้ทำอะไรดี… ส่วนเฟยหงก็เคลิ้มกับรอยยิ้มนั้นอยู่นานพอตัว ก่อนจะได้สติแล้วกลับมาสนใจหมากบนกระดาน
……..การแข่งของคนทั้งคู่ยังคงดำเนินไปอย่างยืดเยื้อ เพราะอิงมี่เดินหมากผิด ทำให้จากที่นางกำลังจะชนะ กลับกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะเอง รอยยิ้มผุดขึ้นบนหน้าของเฟยหง
ขณะที่เขาเริ่มพลิกกระดานได้ ขอเพียงเดินหมากอีกตาเดียวเท่านั้น เขาก็จะเป็นฝ่ายชนะแล้ว หันไปมองหน้าแม่นางผู้นั้นก็ดูเหงื่อออกอย่างเห็นได้ชัด คิดแล้วก็ขยับกือ
มาจ่อหน้าสือ ของอีกฝ่าย‘แม่นางผู้นี้มิได้เก่งกาจอะไรดอก แต่บุรุษเมื่อครู่อ่อนหัดเองมากกว่า’
ทว่า…. เฟยหงก็ได้แสดงสีหน้าตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขารู้ตัวว่าตนเพิ่งทำอะไรลงไป นี่เขา…
หึๆๆ รอยยิ้มค่อยๆ ผุดขึ้นมาจากใบหน้าหวานของสตรีตรงหน้า มันเป็นแผนของนางตั้งแต่แรก ที่ตั้งใจเดินหมากผิด ตั้งใจเดินโง่ๆ ไปให้เขากินได้เสียง่ายๆ เหตุเพราะประเมินจากบุรุษตรงหน้าก็ดูเก่งกาจมิใช่น้อย จึงจำต้องให้เขาประมาทเสียก่อน ระหว่างที่เขามัวแต่ไล่กินหมากตัวล่อ นางก็แอบย้ายหมากตัวเก่งไปดักไว้ทีละจุดๆ และดูเหมือนเขาจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
“ท่านรู้อะไรไหม…” นางเอ่ยถามและพูดต่อทันทีโดยไม่รอคำตอบ
“คุณสมบัติของผู้ที่เดินหมากได้ดี นอกจากคาดการณ์เก่ง เดินตัวหมากเป็นแล้ว เขายังต้องมีสายตาที่กว้างไกล เพื่อจะได้มองเห็นทั้งกระดาน…” นิ้วเรียวบางค่อยๆ เคลื่อนไปหยิบกือ
ของนางที่เหลืออยู่ และถูกวางไว้นอกจุดสังเกตของสายตา ก่อนจะเตรียมขยับมัน
“และสิ่งที่สำคัญที่สุด… ความไม่ประมาท” และนางก็ย้ายมันไปวางที่จุดๆ หนึ่ง เพียงเท่านี้ก็…
“กระดานนี้ ข้าขอนะเจ้าคะ!” อิงมี่กล่าวเสียงดังแล้วยิ้มอย่างผู้มีชัย ส่วนเฟยหงก็ปรบมือให้นางและมองนางอย่างชื่นชม ถึงลึกๆ เขาจะอายก็เถอะ
‘นี่ข้าแพ้สตรีหรือนี่’
แต่ทำอย่างไรได้ ตัวเขาดันประมาทเองว่าสตรีผู้นี้ไร้ฝีมือ
“ตามที่ตกลงกันไว้ อยากให้ข้าทำอะไรล่ะ” เฟยหงถามโดยมิรอให้สตรีตรงหน้าทวง เขาเป็นชายชาตรีพอที่จะยืดอกรับผล
อิงมี่ตอบไปเหมือนคนยังไม่ได้คิดทันทีว่า
“ตอนนี้ข้ายังนึกไม่ออก ไว้นึกออกแล้วจะบอกนะเจ้าคะ ท่านอย่าลืมละกัน”
เพราะสิ่งที่นางคิดในหัวตอนนี้มีแต่เรื่องที่ถ้าให้เขาทำแล้ว ดีไม่ดีแม่ทัพเกรียงไกรผู้นี้อาจจะต้องอับอายจนปลิดชีพตัวเองเลยก็ได้ อาทิเช่น
‘ข้าอยากให้ท่านวิ่งแก้ผ้ารอบเมือง’
‘ข้าอยากให้ท่านจีบทหารเลวสักคนในสังกัดตนเอง’
‘ข้าอยากให้ท่านไปเป็นขันทีซะ’ และความคิดที่น่าขันนี้ยังมีอีกเพียบ จากนั้นนางก็อัญเชิญตัวเองเดินออกจากศาลาไปเสียดื้อๆ โดยมิหันมาเอ่ยวาจาใดกับเฟยหงซักคำ
“รอข้าถอนหมั้นกับยายคุณหนูอิงมี่ก่อนเถิด แม่นางตัวดี แล้วข้าจะมาจัดการกับเจ้าทีหลัง” เขาพึมพำกับตัวเอง ดวงตาสีสนิมดูเป็นประกาย ขณะที่มองร่างบางเดินหายไปในตัวบ้านอย่างคาดโทษ
แล้วก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้..
แววตานั้น.. เหมือนเขาเคยเห็นที่..
อาใช่แล้ว! ที่ตลาดเหว่ยป๋อเมื่อสองปีก่อน… สาวชาวบ้านที่เขาชวนนางไปโรงเตี๊ยมแล้วโดนปฏิเสธ… หรือว่านางจะเป็นอนุของท่านลุงหานหลี่หลุน สักพักบิดาของเขาก็เดินมาตาม
“เจ้ามานั่งทำอะไรอยุ่ตรงนี้เฟยหง เข้าไปคารวะท่านหลี่หลุนได้แล้ว”
“ขอรับท่านพ่อ” เฟยหงรับคำแล้วเดินตามพ่อไป…
กือ = เทียบเท่าเรือของหมากรุกสากล
สือ = องครักษ์ เดินได้ในแนวเฉียง 4 ทิศ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ