Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  31.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) หนึ่งมิตรชิดใกล้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หนึ่งมิตรชิดใกล้

 

 

บอกแล้วไงว่านายยังควบคุมพลังเวทย์ตัวเองได้ไม่ดีนัก   ถ้ารู้จักใช้นายจะไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ

แล้วต้องทำยังไงถึงจะควบคุมได้ดีล่ะ

เอาเป็นว่ามันอยู่ที่วิธีการเอาออกมาใช้มากกว่า   นายมีพลังมากมายที่ใช้ยังไงก็ไม่หมด   แต่การที่นายเป็นแบบนี้เพราะนายยังเรียกใช้พลังนั่นได้ไม่เต็มที่ต่างหากล่ะ

แล้วต้องทำยังไงถึงจะใช้ได้เต็มที่เท่าที่มีล่ะ

ปลุกพลังที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นสิ

ยังไง

เดี๋ยวถึงเวลาฉันจะบอก

 

 

‘อืมมมม’   เสียงครางของคนที่นอนหลับไหนไปกว่าสองวันเต็มดังออกมาเบาๆ อันเป็นสัญญาณว่าคนป่วยเริ่มรู้สึกตัวแล้ว  

“รู้สึกตัวแล้วหรือ  ค่อยๆลุกนะ”   นีโอที่นอนเฝ้าชายน์มาทั้งคืนเข้ามาประคองหลังจากที่ได้ยินเสียงของชายน์   แม้ว่านีโอเองจะบาดเจ็บจากการทดสอบมาก่อนหน้านั้นแล้วก็ตาม   แต่เมื่อได้รับการปฐมพยาบาลแล้วก็สามารถทำกิจกรรมได้ปกติ  เพราะกฏการพาตัวออกจากสนามของเข็มกลัดที่ติดไว้นั้นจะไม่ปล่อยให้ผู้เข้าทดสอบสูญเสียพลังเวทย์ไปมากจนไม่สามารถฟื้นฟูได้นั่นเอง

“ฉันยังไม่ตายใช่มั๊ยนีโอ   แล้วผลการทดสอบเป็นยังไงบ้าง”   ชายน์ถามหลังจากที่พอจะลำดับเหตุการณ์ได้บ้างแล้ว   เขาจำได้ว่าเขากำลังสู้กับแจ็คกี้และเขาก็โดนแทงจนล้มลงและหมดสติไป

“จบแล้วหล่ะ   เดวี่คือคนสุดท้ายที่ยืนอยู่บนสนามประลองเวทย์หลังจากที่นายและแจ็คกี้ล้มลง”   นีโอกล่าว

“ฉันคิดนะว่าถ้าฉันได้ตำแหน่งประธานรุ่นแล้วทุกคนจะยอมรับฉันมากกว่านี้   ฉันแค่อยากพิสูจน์ตัวเอง   แต่ฉันก็ทำไม่ได้    ฉันแค่อยากได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆ โดยเฉพาะเพื่อนที่ไม่เคยจะพูดจากับฉันเลยทั้งๆ ที่อยู่ร่วมห้องกัน”   ชายน์กล่าวในสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

“ตำแหน่งหัวหน้าสายนั่นก็พิสูจน์ตัวนายได้แล้วนี่   จริงอยู่ว่าตอนที่นายเข้ามาทุกคนต่างพากันไม่ชอบหน้านายเพราะนายเข้ามาอย่างง่ายดายต่างจากพวกเราที่ต้องทดสอบแข่งขันกับคนนับหมื่น   และที่สำคัญนะทั้งเบลและดัชที่อยู่ห้องเดียวกับนายหรือพวกฉันก็ไม่ได้ไม่ชอบนายนะ   เพียงแต่……”     นีโอกล่าวออกมาก่อนจะเว้นระยะคำพูดไปเหมือนกับกำลังชั่งใจในสิ่งที่จะพูด

“เพียงแต่พวกฉันเองก็แค่อยากมั่นใจตัวนายอ่ะ”

“พวกนายไม่ได้เกลียดหรือไม่ชอบหน้าฉันใช่มั๊ย”  ชายน์ถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงในแบบฉบับที่เขาเคยใช้มาตลอด

“ถ้าฉันผู้หญิงแล้วเจอสีหน้าน้ำเสียงแบบนี้นะฉันคงพลีกายถวายตัวยอมให้นายไปแล้วอ่ะ   ฮ่าๆๆๆ”  นีโอกล่าวอย่างอารมณ์ดีและเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนๆ สมาชิกหอมังกรดำเขายกขบวนเข้ามาพอดี

“อ้าว  ชายน์รู้สึกตัวแล้วหรอ?   เป็นอย่างไรบ้างล่ะ   เจ็บแผลอยู่มั๊ย?”  เซฟานี่ถามด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเป็นห่วงอย่างชัดเจนพร้อมทั้งเดินเข้ามาจับแขนชายน์ไว้เบาๆ

“ไม่เป็นไรแล้วล่ะ   ขอบคุณนะเซฟานี่”   ชายน์กล่าวอย่างสุภาพ

“มากันครบแล้ว   นายสงสัยอะไรก็ถามพวกเขาเอานะชายน์”   กล่าวจบนีโอก็พยักหน้าให้ชายน์เป็นเชิงให้สัญญาณ

“พวกนายคิดยังไงกับฉัน?   เกลียดหน้าฉันหรือเปล่า?  ทำไมฉันรู้สึกว่าฉัน….” ยังไม่ทันจะจบคำถาม   หนุ่มน้อยเจ้าของผมสีแดงดำก็ขัดขึ้นมาทันที

“ไม่ชอบหน้า   ไม่พอใจ   แต่ตอนนี้หายล่ะ  ฮ่าๆๆๆ”   เบลกล่าวความในใจออกมาบ้าง   เขาเองในตอนแรกก็ไม่ชอบใจที่เด็กใหม่คนนี้จะเข้ามาโดยไม่ต้องทดสอบอะไรเลย   แต่จากการประลองเวทย์ที่ผ่านมานั่นเขาและเพื่อนๆ ก็มั่นใจแล้วว่าถ้าคนๆนี้จะเข้ามาเรียนโดยไม่ต้องสอบเขาก็ไม่ติดใจอะไรแล้ว

“นีโอคงบอกเหตุผลนายแล้ว   ก็ตามนั้นแหละนะ   ตอนนี้พวกเราไม่ได้ติดใจเรื่องเข้าเรียนของนายแล้ว   อย่าคิดมาก”   มาร์ตินเอ่ยออกมาบ้างพร้อมกับดัชที่ส่งยิ้มมาให้กับเขาอย่างเป็นมิตร

“จะไม่พูดอะไรหน่อยหรือท่านประธานรุ่น   ฮ่าๆๆๆ”   ดัชเอ่ยแซวเดวี่ที่เอาแต่ยืนมองชายน์นิ่งๆ โดยไม่พูดอะไรซักคำ

“เดี๋ยวฉันจะอยู่เฝ้าเขาเอง   พวกนายรีบไปเถอะ”    ทันทีที่เดวี่กล่าวออกมาทุกคนในห้องก็พากันหัวเราะลั่น

“นายจะไล่พวกฉันหรอ  ฮ่าๆๆๆ   ก็ได้ๆๆ  แต่อย่าทำอะไรชายน์มันนะ   มันป่วยอยู่  คิกคิก”   มาร์ตินแซวพร้อมกับเสียงหัวเราะของเพื่อนๆอีกครั้งจนคนที่โดนแซวในตอนนี้ถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาอีกรอบ  

“อาจารย์กริมเมอร์ให้ไปหาซื้ออาวุธไม่ใช่หรือ   รีบไปสิ”   ยกเหตุผลมาอ้างเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกลึกๆในใจทันที

“ขอบคุณนะ  สำหรับมิตรภาพที่มีให้ฉัน”   ชายน์กล่าวขอบคุณจากใจ

 

          ทันทีที่กลุ่มเพื่อนๆ พากันออกไปตลาดเพื่อหาซื้ออาวุธประจำตัวที่จะต้องใช้ในชั่วโมงเรียนสัปดาห์หน้าตามคำสั่งของอาจารย์กิมเมอร์  เดวี่ก็เอาแต่นั่งจ้องชายน์โดยไม่พูดอะไรซักคำซึ่งพฤติกรรมนั่นทำให้ชายน์อึดอัดไม่น้อย

“เอ่ออออ  นายจ้องหน้าฉันแบบนั้นทำไม?”

“ขอบใจนะที่ช่วยฉัน  จริงๆ ไม่ควรจะเป็นฉันเลยที่ได้รับตำแหน่งประธานรุ่น”   เดวี่กล่าวพลางถอนหายใจยาวๆ

“นายเก่ง  ก็สมควรแล้ว”   ชายน์ตอบอย่างชื่นชมจากใจจริง

“หิวน้ำมั๊ย?”    ไม่รอให้คนป่วยตอบ   เดวี่ลุกขึ้นไปหยิบน้ำมาเทใส่แก้วพร้อมกับยื่นให้ชายน์ทันที

“เอ่อออ  คือ..”   ชายน์ยังคงงุนงงกับการกระทำของคนตรงหน้า

“ลุกไม่ถนัดสินะ  มา ฉันป้อน”   ทันทีที่พูดจบเดวี่ก็นั่งลงข้างๆ ชายน์   มือซ้ายสอดไปด้านหลังพร้อมกับพยุงให้คนที่นอนอยู่ค่อยๆ ยกหลังขึ้นอิงหมอนใบใหญ่ที่สอดเข้ามารองไว้พร้อมกับมือขวาที่ยื่นแก้วน้ำไปจรดไว้ที่ริมฝีปากของชายน์อย่างแผ่วเบา   …..ถึงขนาดนี้แล้วคงต้องกินสินะ > <

“แล้วนายไม่ไปตลาดกับพวกนั้นหรือ”  ชายน์ถามด้วยความสงสัย

“ฉันจะรอไปพร้อมนาย”   เดวี่ตอบเรียบๆ

“จริงๆ ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกนะ   เขาน่าจะปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วเพราะแผลก็ปิดไม่มีเลือดแล้วและมีดนั่นก็สั้นนิดเดียว คงไม่ถึงกับตายหรอก   อีกอย่าง…นายปล่อยฉันเหอะ   ฉันนั่งเองได้ ”   ชายน์บอกหลังจากที่เดวี่ยังคงกอดเอวเขาไม่ยอมปล่อย

“นายอยากไปตลาด?”   เดวี่ถามอย่างรู้ทันแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากเอวของชายน์

“ก็ประมาณนั้น   เพราะฉันเองก็ยังไม่มีอาวุธประจำตัวเลยนะ   อยากจะไปเลือกหาสักชิ้นหน่ะ”

“งั้นฉันจะพาไปเอง ”

  

 

“เด็กนั่นเป็นอย่างไรบ้าง  เมอร์ดอร์ฟ

“สายของข้ารายงานว่าเด็กนั่นเข้าเรียนที่โฮเนอร์แล้วขอรับนายท่าน”   ชายชุดดำผู้น้อยตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม

“จับตาดูให้ดีๆ นะ   ได้โอกาสเมื่อไหร่เอาตัวมาให้ข้าทันที   แต่อย่าให้ช้านักนะ   เพราะทางนั้นคงรู้ตัวแล้วถึงได้รับเข้าเรียนอย่างง่ายดาย”

“ขอรับนายท่าน”

                                                    …………………………………………………………………….

 

 

ณ แกรนมาร์เกต  ตลาดชื่อดังในแกรนโซน

“โหยยย  มีแต่เสื้อผ้าสวยๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะ   มาร์ติน  ไปดูกระโปรงเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”  เซฟานี่กำลังตื่นเต้นกับสินค้ามากมายที่วางขายในตลาดแห่งนี้   เนื่องจากเธอมาจากกรีนโซนที่ยังไม่เจริญเท่ากับแกรนโซนนั่นเอง

“ฉันเป็นผู้ชายนะเซ   จะให้เข้าไปเลือกกระโปรงได้ไง   อายคนเขา”   มาร์ตินเอ่ยอย่างอายๆ

“อย่ามาพูดหน่อยเลย   ฉันรู้นะว่านายซื้อเสื้อผ้าให้น้องสาวนายบ่อยๆ   แล้วเดี๋ยวเจอกันที่ร้านไอศกรีมนะ”   เซฟานี่หันมากล่าวกับเพื่อนที่เหลือพร้อมกับลากหูมาร์ตินวิ่งเข้าร้านเสื้อผ้าไปทันที

“ไม่เอาฉันไม่ไปนะเซ  ม่ายยยยยย”  

“ฉันว่ากลุ่มเราควรมีผู้หญิงอีกนะ  เซจะได้มีเพื่อนที่เข้าใจเขา  ฮ่าๆๆๆ”   นีโอกล่าวอย่างขำๆ พร้อมกับแอบสงสารมาร์ตินเบาๆ ที่งานนี้รับเคราะห์ไปเต็มๆ

“เราก็ไปดูของที่เหมาะกับผู้ชายแมนๆ อย่างเราดีกว่า”   เบลเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี

“อะไรล่ะของที่ว่าอ่ะ”  ดัชสงสัยจนอดที่จะถามไม่ได้

“เครื่องสำอางมั้ง  ฮ่าๆๆๆ   ฉันเคยเห็นมีร้านขายดาบอยู่ซอยข้างหน้าอ่ะ” เบลตอบพร้อมกับเดินออกนำไปแล้ว

 

“สวัสดีคร้าบบบ  สนใจอาวุธแบบไหนสอบถามได้นะครับ   หรือจะลองเดินเลือกดูก่อนก็ได้  ราคาไม่แพงครับ”   เจ้าของร้านออกมาต้อนรับอย่างดีที่เห็นนักเรียนจากโฮเนอร์เข้ามาใช้บริการในร้าน

“ผมขอดูธนูนั่นหน่อยได้ไหมครับ”   นีโอร้องบอกเจ้าของร้านหลังจากที่เดินดูอยู่พักหนึ่งก็พอดีที่เหลือบไปเห็นธนูไม้สีดำที่มีลวดลายสวยงามสะดุดตา

“แล้วดาบนี่ละครับ   ถ้าผมสนใจคุณจะขายให้ผมไหม”   เบลถามขัดจังหวะขึ้นหลังจากที่หันไปหยิบดาบสีส้มเล่มยาวขึ้นมาจากเคาน์เตอร์ของเจ้าของร้านที่ดูเหมือนว่าทางร้านน่าจะพึ่งได้มา

“ดาบนั่นผมพึ่งจะได้มาเมื่อเช้านี้   เป็นดาบเก่าแก่จากเผ่าพันธุ์ของพวกฟินิกซ์หน่ะ   เธอแน่ใจหรือว่าจะใช้มันได้”   เจ้าของร้านร้องถามอย่างเสียดายแต่เหมือนว่าเขาจะไม่สามารถจะครอบครองดาบนั่นได้

“ก็ผมหยิบมันออกมาจากห่อผ้านี่แล้วและมันก็ถนัดมือดีนี่   ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”   นั่นสินะ   เบลที่รู้จักกับดาบเล่มนี้ดีบอกกับตัวเองว่าดาบนี้ยังไงๆ เขาก็ต้องเอาให้ได้

“ถ้าเธออยากจะได้มันฉันก็พร้อมจะขายให้   แต่ราคาสูงหน่อยนะ”   ไม่วายโกงราคาเพราะความเสียดายดาบล้วนๆ

“จะเอาเท่าไรก็ว่ามา   ผมพร้อมจะจ่าย”   เบลกล่าวอย่างตัดความรำคาญ

“แล้วนายละดัช   ได้อะไรยัง”   นีโอหันมาถามเพื่อนอีกคนที่มาพร้อมกัน

“ฉันมีแล้วหน่ะ   อีกอย่างฉันยังไม่เจอที่ถูกใจด้วย”  

 “งั้นถ้าเรียบร้อยแล้วก็ไปกันเถอะ   มาร์ตินกับเซคงจะไปรอเราแล้วแหละ”      นีโอกล่าวหลังจากที่เห็นว่าเบลชำระค่าสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว   และเมื่อไปถึงร้านไอศกรีมก็พอดีกับเซฟานี่และมาร์ตินเดินเข้ามาพอดี     โดยนอกจากเซจะได้เสื้อผ้าแล้วทั้งคู่ยังได้อาวุธมาด้วยซึ่งอาวุธของเซคือดาบเล่มยาวสีฟ้าครามที่มีอัญมณีสีฟ้าใสประดับอยู่ที่ด้ามจับ   ส่วนของมาร์ตินเป็นดาบที่มีลักษณะเป็นดาบใสๆ แต่เมื่อสะบัดมือแรงๆ จะมีเสียงดังกังวานที่ฟังแล้วชวนให้หลับใหลได้ทุกเมื่อจนเซต้องรีบสั่งให้เก็บดาบทันทีที่เจ้าตัวกำลังโชว์ดาบอย่างสนุกสนาน

 

ทางด้านของชายน์และเดวี่…..

“โห…   ที่นี่ครึกครื้นกันดีจริงเลยแฮะ    ไปดูขนมร้านนั้นกันก่อนนะเดวี่แล้วเดี๋ยวค่อยไปหาซื้ออาวุธกัน”   ชายน์เอ่ยชวนเดวี่ทันทีที่มองเห็นร้านขนมหลากสีสันชวนให้ลิ้มลอง   และเมื่อคนชวนเดินนำเข้าไปแล้วมีหรือที่คนตามอย่างเดวี่จะทักท้วงได้นอกจากเดินตามแล้วถอนหายใจออกมายาวๆ

‘เมื่อไหร่จะโตนะ นายน้อย’   คิดตำหนิคนตรงหน้าแต่ก็แอบที่ยิ้มบางๆ ไปกับพฤติกรรมของคนเบื้องหน้าไม่ได้   คนที่เขาพึ่งจะเชื่อใจและพร้อมที่จะยอมให้ทุกอย่างทั้งชีวิตของเขา

 

นายน้อยกลับมาแล้ว   และถ้าข้าคาดการณ์ไม่ผิดเขาจะต้องอยู่ในโฮเนอร์   เจ้าจงจับตาคนที่ใช้รัตติกาลเพลิงให้ดีนะ   เพราะนั่นคือเวทย์ที่ผู้พิทักษ์จะสามารถเรียกใช้ได้ง่ายที่สุด

มีอะไรพิเศษอีกมั๊ย

ผู้พิทักษ์จะมีอะไรที่มากกว่าคนทั่วไป  อัจฉริยะกว่าและโดดเด่นกว่า   ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะสัมผัสถึงตัวตนเขาได้นะ

‘ขอให้สิ่งที่ข้าคิดและรู้สึกเป็นความจริงด้วยเถิด   ท่านพ่อ’

 

‘ข้างหน้ามีร้านขายดาบชื่อดังอยู่   เข้าไปเลย’   เสียงอันคุ้นเคยดังอยู่ในหัวของชายน์   ซึ่งเจ้าตัวเพียงแต่ยิ้มออกมาบางๆ  แต่ก็ยอมละจากร้านขนมไปตามคำแนะนำของเสียงนั่นทันที   หลังจากตอนแรกที่เขาเจอเจ้าของเสียงในความฝันนั้นเขาก็ตกใจไม่น้อยที่ทั้งหน้าตาและน้ำเสียงเหมือนกับตัวของเขาเองไม่มีผิด   แต่ทว่าครั้งต่อๆ มาเจ้าเสียงนั่นก็โผล่มาคุยกับเขาตลอดโดยที่ชายน์เองก็เลิกกลัวไปแล้ว   อีกทั้งเขาก็สามารถสื่อสารกับคนในความคิดได้เพียงแค่เขาคิดในใจเสียงนั่นก็จะตอบเขากลับมาทันที

“ไปร้านขายดาบกันดีกว่า   ฉันเปลี่ยนใจไม่กินขนมแล้ว”   ชายน์กล่าวพร้อมกับคว้ามือเดวี่เดินตรงไปยังร้านขายดาบชื่อดังตามที่เสียงในความคิดเขาแนะนำ  

“ช้าๆ ก็ได้   นายพึ่งจะหายนะชายน์”   เดวี่ร้องเตือน

“ถ้าฉันบอกว่าไหวคือไหว   แต่ถ้าไม่ก็คือไม่เช่นกัน”   ชายน์กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง   คนข้างๆ จึงยอมเดินตามไปเงียบๆ แต่โดยดี

“อ่าว  คุณหนูจากโฮเนอร์อีกแล้ว  เชิญครับ เชิญๆๆๆ”   เจ้าของร้านกล่าวเชิญอย่างยิ้มแย้มที่วันนี้ลูกค้าจากโฮเนอร์มาอุดหนุนร้านเขาทั้งวันตั้งแต่เช้าแล้ว

“สนใจอะไรสอบถามได้นะครับ  ทางร้านเรามีของให้เลือกมากมาย   แต่ต้องบอกตรงๆ ว่าบางชิ้นที่สวยๆ และดีก็มีคนรับไปเยอะแล้วนะ   ยังไงลองเดินเลือกดูก่อนครับ”   เจ้าของร้านยังคงกล่าวต่อไปเรื่อยๆ

‘หลังร้านมีตู้เก็บของ   ไปเปิดตู้นั่นสิ  มีดาบที่เป็นของนายอยู่ในนั้น’   เสียงคนในความคิดดังบอกให้เขาเดินไปหลังร้านและชายน์ก็ตรงไปยังประตูหลังร้านทันที

“เอ่อออ คุณหนูจะไปไหนครับ”   เจ้าของร้านร้องทักที่เห็นว่าหนึ่งในเด็กหนุ่มที่เข้ามานั้นเดินตรงไปหลังร้านซึ่งปกติลูกค้าเขาจะไม่เข้าไปส่วนนั้น

“หลังร้านมีดาบเก็บไว้ในตู้เก็บของใช่มั๊ยครับ   ผมอยากดูดาบนั่น”   ทันทีที่ชายน์กล่าวจบเจ้าของร้านก็หน้าซีดขึ้นมาทันทีเพราะเขาเก็บดาบเล่มนั้นมากว่าสิบปีแล้วโดยที่ไม่มีใครเคยรู้และสนใจดาบนั่นเลย   และเขาเองก็เกือบจะลืมดาบเล่มนั้นไปแล้ว!!

“เอ่อออ  คุณหนูรู้ได้ไงครับว่ามีดาบอยู่ที่นั่น”   เจ้าของร้านยังคงถามต่อ

“แสดงว่ามันมีอยู่จริงสินะ   ขอผมดูหน่อย”

“ดาบนั่นมันอันตรายนะ   ว่ากันว่าถ้าไม่ใช่เจ้าของมันจริงๆ มันจะกลืนกินพลังเวทย์ของคนที่ครอบครองจนอาจถึงตายเลยนะ”

“แล้วมีเหตุผลอะไรที่คุณจะเก็บมันไว้ล่ะ”   เดวี่ทักในสิ่งที่ชายน์เองก็สงสัยไม่น้อย

“มีคนเอามาฝากไว้หน่ะ   แต่ก็ร่วมๆ สิบปีแล้วมั้ง   เขาบอกว่าดาบจะเรียกหาเจ้าของเอง”

“พาพวกเราไปดูหน่อย”   ชายน์ยังคงยืนยันความต้องการ   เห็นดังนั้นเจ้าของร้านจึงยอมทำตามความประสงค์ของเด็กทั้งสอง

‘หรือนี่จะเป็นเจ้าของที่แท้จริงของดาบนั่นกันแน่นะ’   คิดอย่างสงสัยจนเมื่อมาถึงตู้เก็บของนั่นเจ้าของร้านจึงเอ่ยเตือนอีกครั้งว่า

“ในตอนแรกที่ดาบมาอยู่ที่ร้านผมมีคนมาขอซื้อดาบนี่มากมาย   แต่ไม่มีใครสามารถจับดาบนี่ได้เกินหนึ่งนาทีเลยซักคนเดียว   บ้างก็ไม่แม้แต่จะสัมผัสมันได้   ยังไงคุณหนูทั้งสองจะลองก็ได้นะ   แต่ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีครับ”   กล่าวจบก็เปิดตู้ใบนั้นออกเผยให้เห็นกล่องไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่สลักลวดลายอันงดงามไว้บนกล่อง  

“ฉันจะลองให้นายก่อนเอง”     เดวี่กล่าวพร้อมกับยื่นมือไปยกกล่องนั่นออกมาวางพร้อมกับเปิดฝากล่องออก   ทันทีที่เปิดก็เผยให้เห็นดาบสีดำเล่มยาวที่สลักเสลาลวดลายอันวิจิตรไว้ที่ด้ามพร้อมกับมีอัญมณีสีดำประดับอยู่ที่ด้ามจับด้วย

“สวยจริงๆ”   ทันทีที่ชายน์เห็นมันเต็มๆ ตาเขาก็รู้สึกถูกใจไม่น้อย

เคร้ง!!   ทันทีที่เดวี่หยิบดาบเล่มนั้นขึ้นมาเขาก็ต้องรีบโยนมันออกไปทันทีเพราะความรู้สึกบางอย่างบอกว่าดาบนี่อันตรายมาก

“เป็นอะไรเดวี่   ดาบนั่นทำไมหรอ”   ชายน์ถามอย่างอดห่วงไม่ได้ที่เห็นอาการของเดวี่

“ร้อนหน่ะ”   เดวี่ตอบสั้นๆ ทั้งๆ ที่ตอนสัมผัสดาบนั่นร่างกายเขามันกระตุกจนหมดแรงไปเสียดื้อๆ

“งั้นฉันขอลองบ้างนะ”

“อย่า!!”

“ก็ปกตินี่”   ชายน์ก้มลงไปหยิบดาบขึ้นมาพลางพลิกมือไปมาเพื่อชมความงามของดาบในมือโดยไม่สนใจคำทักท้วงของเดวี่

“เอ่อออ  คุณหนูไม่รู้สึกอะไรบ้างหรืครับ”   เจ้าของร้านร้องทักหลังจากที่เห็นว่าหนุ่มน้อยหัวเกรียนตรงหน้ากำลังยืนถือดาบแกว่งไปมาอย่างไม่มีทีท่าแปลกๆ เหมือนคนก่อนๆ หน้านี้แต่ประการใด

“รู้สึกว่าชอบและอยากได้อ่ะ  ฮ่าๆๆๆ”   ชายน์กล่าวอย่างอารมณดี

“ถ้าคุณหนูไม่เป็นอะไรก็คงแสดงว่าดาบนี่เจอเจ้าของแล้วล่ะ   เชิญรับไปได้เลยครับผมไม่คิดเงิน” เจ้าของร้านกล่าวอย่างยินดี   และชายน์ก็ยอมเก็บดาบลงกล่องพร้อมกับกล่าวขอบคุณเจ้าของร้านอีกครั้งก่อนจะพากันออกมา

“แล้วนายไม่อยากได้อะไรบ้างหรอ   เห็นว่าอาจารย์กริมเมอร์ให้เด็กปี1 มาหาซื้ออาวุธประจำตัวนี่”    ชายน์ถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเดวี่ยังไม่ได้ซื้อของตัวเองเลย

“ฉันมีแล้ว”   ตอบน้อยอีกตามเคย

“หิวมั๊ยล่ะ  ไปหาอะไรกินกัน”   อยู่ๆ เดวี่ก็เอ่ยชวนออกมาและชายน์เองก็คงจะหิวไม่น้อยเพราะทันทีที่พูดเรื่องของกินท้องเจ้ากรรมก็ร้องออกมาซะดังลั่นจนเดวี่อดที่จะกระตุกยิ้มออกมาไม่ได้

“ฉันว่าท้องฉันมันตอบคำถามนายแทนแล้วหล่ะ  ฮ่าๆๆ”  ชายน์กล่าวอย่างอายๆ พร้อมกับหัวเราะกลบเกลื่อน

“งั้นไปร้านตรงมุมทางนั่นนะ ใกล้ดี”  กล่าวจบทั้งสองก็พากันตรงไปยังร้านอาหารที่ใกล้ที่สุดเพราะเกรงว่าถ้ามัวแต่เลือกร้านอยู่คนที่ท้องร้องจะเป็นลมไปซะก่อน    ทันทีที่เปิดร้านเข้าไปทั้งชายน์และคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน

“พี่ริว” / ”ชายน์”!!

 

 

…………………………………………..........................................................………………………………………………………………………………………

ตอนนี้อาจเนือยไปหน่อยอย่าพึ่งเบื่อนะ   เพราะผมพยายามอธิบายการกระทำและทุกที่มาที่ไปของแต่ละคน   ตอนนี้เดวี่รู้แล้วว่าชายน์เป็นใคร   ตอนนี้คือจุดเริ่มต้นที่ชายน์และริวจะต้องห่างกันและตอนนี้ก็พยายามจะเปิดตัวคนในความคิดของชายน์ ฮ่าๆๆๆ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา