Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  31.66K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ประธานรุ่น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ประธานรุ่น

 

                ทันทีที่การทดสอบของสายสามัญจบลงท่ามกลางความเสียดายของคนทั้งสนามที่กำลังลุ้นจุดจบของการต่อสู้นั้นว่าจะออกมาเช่นไรก็มีอันพังทลายลงเพราะ….หมดเวลา!!

“ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะค่ะที่การทดสอบต้องยุติก่อนจะรู้ผลเพราะในรอบแรกนี้เราจะตัดสินกันด้วยผลคะแนนจากอาจารย์ทั้งหมดที่ร่วมรับชมการทดสอบอยู่ ณ สนามประลองแห่งนี้   และบัดนี้ผลคะแนนทั้งหมดอยู่ในมือของนิกกี้แล้วคร่า”   กล่าวอย่างกับพิธีกรประกวดร้องเพลงชื่อดังเลยแฮะ   ฮ่าๆๆๆ

ไม่ใช่แค่เด็กปี 1  เท่านั้นที่ตื่นเต้น   แต่คนทั้งสนามก็ลุ้นอยู่เช่นกันว่าใครจะได้เป็นหัวหน้าสายต่างๆ ของปี1   และดูเหมือนว่าตอนนี้ชายน์จะเป็นที่ยอมรับของเพื่อนมากขึ้นแล้วด้วย   อย่างน้อยก็เพื่อนในหอมังกรดำ (Black Dragon) แหละนะ ฮ่าๆๆๆ

 

ณ ห้องรับรองผู้เข้ารับการทดสอบ….

“สรุปนายถนัดเวทย์แสงหรอชายน์   แต่นายก็ใช้รัตติกาลเวทได้ดีมากเลยนะ”   เซฟานี่กล่าวอย่างสงสัยและคาใจเธอมาตลอดจนการแข่งขันจบลง   ชายน์เพียงแต่เหลือบไปมองนิดหน่อยพร้อมกับกล่าวอย่างอารมณ์ดี

“ฉันไม่รู้     ตอนนั้นฉันขาดสติหน่ะ  555”  ชายน์กล่าวตามที่คิดเพราะตลอดการทดสอบเขาจะได้ยินเสียงของบางคนดังอยู่ในหัวเขาตลอดเวลา   แล้วเขาก็ทำตามเสียงนั่นแต่โดยดี!!

“เหตุผลไม่หล่อเลยนะชายน์ 555”   นีโออดที่จะแซวไม่ได้ที่ตอนนี้เห็นว่าสาวสวยประจำหอมังกรดำอย่างเซฟานี่กำลังให้ความสนใจชายน์อยู่ไม่น้อย

“ลำพังแค่หน้าตาของฉันก็กินขาดคนทั้งหอแล้ว”  กล่าวเล่นๆ อย่างคนมั่นใจและคำพูดนั่นก็ทำให้คนที่กำลังดื่มน้ำอยู่สำลักน้ำจนตาเหลือกทันที

แค็กๆๆ   เสียงไอของหนุ่มหัวแดงดำเรียกสายตาของคนทั้ง7 ที่อยู่ในห้องรับรองนั้นหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงกัน

“นายเจ๋งดีว่ะชายน์   ฉันชอบ”   แต่ตอนนี้เราเลิกสนใจหมอนี่แล้วมาวางแผนกันก่อนมั๊ย  อีกเดี๋ยวก็ต้องออกไปทดสอบรอบสองแล้ว   คราวนี้เราอาจโดนรุมมากกว่าเก่านะ

“เหตุผลดีทีเดียว   ฉันว่าใช้แผนเดิมก็ดีนะเพราะทุกอย่างดูลงตัวดีแล้ว   หรือทุกคนว่าไง”   ดัชเอ่ยอย่างใช้ความคิด

“แต่ฉันมีแผนที่ดีกว่านั้นนะ”  สาวสวยหนึ่งเดียวในกลุ่มกล่าวออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

 

“เอาละค่ะ   และก่อนที่ดิฉันจะประกาศรายชื่อของปี1 ในแต่ละสายที่มีผลคะแนนสูงที่สุดในรอบแรก   ดิฉันขอเชิญน้องๆ ทั้งสี่สายที่ผ่านการทดสอบในรอบแรก ณ สนามประลองเวทย์ในขณะนี้เลยคร้า….”   ทันทีที่พี่นิกกี้สุดสวยประกาศจบ   เหล่านักเรียนปี1 ทั้งสี่สายที่อยู่ในห้องรับรองก็เดินเข้าสู่สนามทันที      เมื่อเหล่าปี1 ที่ผ่านการทดสอบรอบแรกพากันเดินออกมาก็เรียกเสียงเฮได้อย่างกึกก้อง

‘เฮ……’

‘กรี๊ดดดดดด’

“แน่นอนว่าผลคะแนนที่ได้นั้นมาจากอาจารย์ทั้งหมดของโฮเนอร์ทีท่านสละเวลามาร่วมรับชมการทดสอบในครั้งนี้     เมื่อดิฉันเอ่ยชื่อใครแล้วขอให้คนๆ นั้นก้าวออกมายังด้านหน้านะคะ”  นิกกี้ชี้แจงอย่างละเอียดหลังจากเห็นว่าน้องๆ ทุกคนที่ยืนอยู่กลางสนามประลองเวทย์นั้นพร้อมแล้ว

“จากการทดสอบที่ผ่านมา   มีนักเรียนชั้นปี1 สามารถผ่านเข้าสู่รอบที่2 ดังนี้   สายเวทย์  7 คน”

‘เฮ….’  

“สายศิลป์ 5 คน”

‘เฮ….’ 

สายยุทธ์ 17 คน

‘เย้…..’  เสียงดังมาจากหอมังกรแดงอย่างกึกก้อง    เพราะคนผ่านเยอะก็หมายถึงโอกาสที่ประธานรุ่นปีนี้จะเป็นของเด็กสายยุทธ์ก็มีเยอะไปด้วย

และสายสามัญ 8 คนค่ะ”

‘เฮ้….’ เสียงเฮดังกึกก้องทันทีที่นิกกี้ประกาศยอดผู้ผ่านการทดสอบ

“และคนที่ได้คะแนนสูงสุดของแต่ละสายมีดังนี้”  นาทีตื่นเต้นกำลังจะเริ่มแล้ว  

“สายเวทย์ได้แก่…..แจ็คกี้   จูเนอร์ ค่ะ”   สิ้นเสียงของนิกกี้   เจ้าของชื่อก็ก้าวออกมาด้านหน้าอย่างเชิดๆ

‘น่าหมั่นไส้ที่สุด ชิ’  เบลคิดอย่างหงุดหงิด

“สายศิลป์ได้แก่…..เจด้า  เอนเชน่า ค่ะ”  สาวน้อยผมดำยาวทรงหน้าม้าก็ก้าวออกมาอย่างยิ้มแย้ม

“สายยุทธ์ได้แก่…..ลุค  บาเรนเทล ค่ะ”  ชายร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก้าวออกมาทันทีที่ได้ยินชื่อตน

“และสำหรับสายสามัญ   คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก…..ชายน์  อินเดอนาส คร้า”  สิ้นเสียงของนิกกี้ก็ตามด้วยเสียงกรี๊ดของสาวๆ และเสียงเฮลั่นของผู้ชมทั้งสนามจนเจ้าตัวยิ้มแป้นจนแก้มแทบฉีก

‘ผมพิสูจน์ตัวเองได้แล้วนะพี่ริว’   ไม่น่าเชื่อว่าความคิดแรกของเขาคือพี่ริว!!

 

“และบัดนี้   เมื่อผู้ผ่านการทดสอบทั้งหมดอยู่ในสนามแล้ว   ดิฉันก็ขอนำทุกท่านเข้าสู้การทดสอบรอบที่สองเลยแล้วกัน   ตามกติกาของเราคือคนที่ยืนอยู่คนสุดท้ายบนสนามแห่งนี้จะได้รับตำแหน่งประธานรุ่นของปีนี้   และถ้าพร้อมแล้ว…น้องๆ เชิญสนุกกันได้เลยนะจร๊ะ ฮ่าๆๆ”  กล่าวจบ   เจ้าของเสียงก็หายวับไปทันที

“เอาละนะ!!”   

บึ้ม ๆๆๆๆ   สิ้นเสียงของแจ็คกี้    ทั้งสนามก็เกิดระเบิดขึ้นพร้อมกับควันสีขาวพวยพุ่งออกมามากมายจนผู้เข้าทดสอบแต่ละคนต้องกระโดดหนีละเบิดนั้นๆ อย่างจ้าละหวั่น

“ไม่คิดเลยว่าเด็กสายศิลป์จะเป็นฝ่ายรุกก่อน  เสียแผนข้าหมดเลย  ชิ!!”  แจ็คกี้บ่นอย่างหงุดหงิดที่แผนการของเขานั้นพังลงเพราะโดนอีกฝ่ายชิงลงมือก่อนพลางปลีกตัวออกจากกลุ่มควันสีขาวเหล่านั้น   เพราะในสถาการณ์แบบนี้เขาไม่รู้เลยว่าคู่ต่อสู้จะมาไม้ไหน   และในระหว่างความชุลมุนนั้นเด็กสายยุทธ์ก็เริ่มแผนการบ้างแล้ว

พลัก!!  อึก!!   อัก!!   เสียงการต่อสู้ที่ฟังดูแล้วน่าจะเป็นการเข้าจู่โจมในระยะประชิดอันเป็นที่รู้กันดีว่า..

“ระวังการจู่โจมระยะประชิดตัวจากพวกสายยุทธ์นะ”   เดวี่กล่าวอย่างรู้ทันเกม

“มีแต่ควัน  ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย   อัก!! ”  เสียงหนึ่งในทีมของสายสามัญที่กล่าวยังไม่ทันจบก็เงียบไปอย่างดื้อๆ   …ไปแล้วสินะคนนึง  

“ว่าแต่ควันนี่มันแปลกๆ นะ   ใครช่วยทำอะไร… หน่อย  สิ”   เสียงของเซฟานี่กล่าวและดูเหมือนว่าเสียงนั้นจะขาดหายไปแล้ว

“ได้เวลาของฉันแล้วสินะ”   มาร์ตินกล่าวเมื่อเห็นว่าบัดนี้สถาการณ์ไม่เป็นไปตามแผนการที่วางไว้แล้ว    พายุหมุนขนาดย่อมก่อตัวอยู่กลางสนามก่อนจะขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับหมุดพัดไปทั่วทั้งสนาม   และเพียงแค่อึดใจเดียวกลุ่มควันสีขาวนั้นก็จางหายไปจนสิ้น

“แค่นี้ไม่เกินมือคนชื่อมาร์ตินหรอก  หึหึ”  กล่าวอย่างอารมณ์ดีทันทีที่งานสำเร็จ   เมื่อกลุ่มควันนั้นหายไปก็ปรากฏว่าบัดนี้ผู้เข้าแข่งขันเหลืออยู่ไม่มากแล้ว

“พลาดท่าจนได้   บ้าชิบ!!”  แจ็คกี้สบถเมื่อเห็นว่าบัดนี้พวกของเขาเหลือแค่ 2 คนคือเขาและสาวสวยนามว่าเนย่าอีกคน

“เราเหลือกันสองคน  นายไหวนะเช”   เจด้า สาวสวยเจ้าของตำแหน่งหัวหน้าสายศิลป์กล่าว  

“ผิดแผนไปหน่อยที่เจอพวกฉวยโอกาส   แต่แค่นี้ก็ดีนะ  จะได้ไม่ลำบากใจที่ต้องมาแย่งตำแหน่งกันเอง 555”  เช หนุ่มหล่อประจำสายศิลป์กล่าวอย่างใจเย็นพร้อมกับกำลังประเมินเด็กสายสามัญอย่างละเอียด   ‘พวกนั้นก็โดนไปหลายคนนี่’

“เมื่อกี้มันฝีมือใครอ่ะ  ใครช่วยบอกฉันที”   เบลถามอย่างสงสัย

“ควันนั่นมาจากพวกสายศิลป์    เป็นการผสานเวทย์เฉพาะของพวกเอลฟ์หน่ะ   ถ้าพลังเวทย์ที่มีไม่แข็งพอที่จะเอาชนะได้ก็จะหมดสติทันที”   เดวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเครียด

“แล้วก็ตามด้วยเด็กสายยุทธ์ที่ใช้โอกาสนั้นเข้าจัดการด้วยการต่อสู้ระยะประชิดตามแบบที่พวกนั้นถนัดสินะ”   เบลกล่าวอย่างจริงจัง   เขาเองก็ประเมินแล้วว่าบัดนี้พวกเขาเหลือกัน 4 คน คือ เขา มาร์ติน เดวี่และชาย์      สายเวทย์และสายศิลป์เหลือสายละ 2  คน   แต่สายยุทธ์นี่สิเหลือ 11 คน!!

“ทำไมพวกนั้นไม่เห็นเป็นอะไรมากเลยล่ะ”   ชายน์ถามอย่างข้องใจ

“พวกนั้นไม่ได้มีพลังเวทย์ที่แข็งหรือมากพอหรอกนะ     แต่พวกนั้นมีร่างกายที่แข็งแรงมากๆ ไง   พวกใช้กำลังอ่ะ   ไม่เห็นหรอว่าพวกนั้นกำจัดคู่แข่งด้วยกำลังมากกว่าเวทย์”   เบลกล่าว

“งั้นพวกนายจัดการที่เหลือนะ   ส่วนพวกใช้กำลังหน่ะฉันขอ!!”   ทันทีที่กล่าวจบชายน์ก็พุ่งตรงไปยังพวกสายยุทธ์ทันที   ทิ้งให้เพื่อนๆ ยืนมองคนที่บ้าบิ่นนั้นอย่างทึ่งๆ

“นายรู้ใช่มั๊ยว่าคนที่รอดจากควันนั่นได้หนะแสดงว่าพลังเวทย์ต้องสูงมากๆ หรือไม่ก็ร่างกายต้องแข็งแกร่งสุดๆ เลยนะ   น้องชายของนายเป็นพวกไหนกันล่ะริว”   โทนี่ถาม

“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน   แต่น้องชายฉันบ้าพลังนะ  หึหึ”   ริวไม่ตอบคำถามนั้นแต่กำลังตอบในสิ่งที่ทุกคนรอบๆ สนามกำลังอึ้งกับภาพเบื้องหน้า

ย๊ากกกกก   อึก!!   ทันทีที่วิ่งเข้ามาก็เจอกับชายน์ที่กระโดดเข่าลอยสวนเข้าไปยังยอดอกของชายร่างใหญ่แห่งสายยุทธ์จนล้มลงไม่เป็นท่า   ภาพของเด็กหนุ่มร่างบางล้มเด็กร่างยักษ์นั้นเรียกเสียงเฮได้เป็นอย่างดี

หมับ!!  เด็กร่างยักษ์อีกคนเข้ามาล็อกแขนชายน์จากด้านหลังพร้อมกับ

ตุ้บ!!  อีกคนชกเข้าไปยังท้องของชายน์ที่บัดนี้ทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว

“ลากมันขึ้นมา”  ลุค   เจ้าของตำแหน่งหัวหน้าสายออกคำสั่ง    แต่ทันทีที่คนรับคำสั่งก้มลงไปจะถึงตัวก็ปรากกว่า

“เฮ้ยยย”   อัก!!   เมื่อก้มลงไปในตำแหน่งที่เห็นว่าเหมาะสมชายน์ก็ยึดข้อมือนั้นไว้แล้วพลิกตัวขึ้นพร้อมกับกระชากเจ้าของมือนั่นจนล้มลง      เด็กสายยุทธ์อีกคนเข้ามาช่วยทันทีแต่ยังไม่ทันเข้าถึงตัวชายน์ก็ก้มลงกวาดขาเตะสกัดข้อเท้านั้นส่งผลให้คนที่วิ่งเข้ามาล้มลงทันที   จากนั้นแม่ไม้มวยไทยที่เคยร่ำเรียนมาก็ถูกงัดมาใช้ทุกกระบวนท่า

บัดนี้เสียงเฮยิ่งดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามเมื่อชายน์เพียงคนเดียวได้ล้มคู่ต่อสู้สายยุทธ์ไปแล้ว 9 คน ภายในเวลาอันรวดเร็ว!!

“ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าเป็นชายน์นะ   เข้าสามารถล้มเด็กสายยุทธ์ได้สบาย  ฮ่าๆๆ”   ริวกล่าวอย่างอารมณ์ดีที่เห็นว่าเด็กสายยุทธ์กำลังเดินเกมพลาด   จริงอยู่ว่าสายยุทธ์เก่งทั้งเวทย์และทักษะการต่อสู้   แต่การที่เด็กสายยุทธ์จะเอาทักษะการต่อสู้ที่สายอื่นไม่ถนัดมาใช้นั้นคงใช้ไม่ได้ผลกับชายน์แน่ๆ

“พวกนั้นคงไม่คาดคิดละมั่งว่าเด็กตัวโย่งๆ ผอมๆ จะมีทักษะการต่อสู้แปลกๆ ที่สามารถล้มพวกเขาได้  ฮ่าๆๆ  สะใจฉันจริงๆ”  แนนนี่กล่าวอย่างชอบใจ

                                                                 …………………………………………..

 

          ทางด้านของเดวี่   เบลและมาร์ติน   ตอนนี้ก็กำลังแย่เพราะบัดนี้มาร์ตินแทบจะประคองตัวเองไม่ได้แล้วหลังจากที่พลาดท่าให้กับแจ็คกี้ไป

“อึดจังนะแก   ฉันจะส่งแกออกไปพักให้ร็วที่สุดนะ   จะได้ไม่ทรมาน”   กล่าวพร้อมกับเรียกเวทย์ไฟดวงโตขึ้นมาบนฝ่ามือ

“พอดีฉันไม่รีบหน่ะ”  กล่าวอย่างท้าทายทั้งๆ ที่ตอนนี้สายตานั้นพร่าเลือนเต็มที่แล้ว   แต่สติสุดท้ายก็สั่งให้เรียกวาโยเวทออกมาบ้าง

 

“ให้ตายสิ  ฉันไม่อยากทำผู้หญิงเลยจริงๆ”   เบลกล่าวด้วยน้ำเสียงเหมืนลำบากใจ

“ก็คิดว่าฉันเป็นผู้ชายสิ  จะได้สะดวกใจ”   เนย่ากล่าวอย่างท้าทาย

“งั้นไม่เกรงใจละนะ!!”  ว่าจบ เปลวเพลิงอันร้อนระอุก็ลุกโชนและพุ่งออกไปยังสาวสวยตรงหน้า   แต่เนย่าหาได้ตกใจไม่   เธอเพียงแค่ใช้วารีเวทย์มาขวางไฟนั้นไว้แล้วใช้วาโยเวทย์พาตัวเองลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างงดงาม

“กำแพงนำเด็กๆ แบบนั้นจะทำอะไรได้ ฮ่าๆๆๆ”   เบลหัวเราะชอบใจเพราะทันทีที่เพลิงนั่นเข้าไปถึงกำแพงวารีของเนย่ากำแพงนั้นก็ระเหยไปทันที

“ฉันก็ไม่ได้หวังจะใช้กำแพงวารีมาดับไฟนี่   น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟเป็นธรรมดา”  เนย่ากล่าวพร้อมกับกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์

“แต่ถ้าน้ำมากละก็ไม่แน่   ฮ่าๆๆ”  กล่าวจบฝนสีขาวผ่องที่เหมือนจะมีแสงสว่างนั้นก็ตกมาอย่างมากมาย   ทันทีที่เพลิงนั่นเจอกับฝนของเนย่ามันก็ดับลงสนิททันที ‘แสงสว่างมักเอาชนะทุกสิ่งได้จริงๆ สินะ’

“เวทย์วารีทิพย์สินะ    ฝีมือดีไม่เบานี่   หึหึ”   เบลหัวเราะอย่างชอบใจ

“ขอบใจที่ชมนะ   แต่หมดเวลาเล่นสนุกแล้วหล่ะ”   กล่าวจบก็บังเกิดแสงสว่างขึ้นรอบๆ กายของหญิงสาวตรงหน้า   บัดนี้เบลเข้าใจแล้วว่าวารีเวทย์ในตอนแรกนั้นแค่ตัวหลอกที่เนย่าใช้ตบตาเขาให้หลงทาง   เพราะจริงแล้วเธอเป็นพวกธาตุแสงนั่นเอง

“แล้วถ้าความมืดมันมีมากกว่าแสงล่ะ   เธอคิดว่าแสงมันจะสว่างได้หรือ”   ทันทีที่กล่าวจบ   เปลวไฟสีดำก็พวยพุ่งขึ้นมามากมายรอบๆ กายของเบล    เพียงแค่สะบัดมือเบาๆ มันก็ลุกลามเข้าไปหาเนย่าอย่างรวดเร็วจนสายฝนสีขาวสว่างนั่นก็ไม่อาจจะดับมันได้ทัน

“ไม่นะ  ต้องไม่เป็นแบบนี้สิ  อึก!!”  ยังไม่ทันหายตกใจและแน่นอนว่าเนย่ายังไม่ทันได้ป้องกัน   เพลิงสีดำที่ถูกบีบอัดด้วยวาโยเวทจนเล็กแหลมดังดอกธนูก็พุ่งเข้าเสียบร่างของเนย่าจนทรุดและหายวับออกนอกสนามไปทันที   

 

อ๊าคคคค!!   เสียงร้องของมาร์ตินเรียกให้เบลหันไปมองตามเสียงนั่นอย่างตกใจ    และทันทีที่เบลจะเข้าไปช่วยเพื่อนก็ปรากฏว่าร่างของมาร์ตินนั้นหายวับไปแล้ว  

“เพื่อนนายเขาไปพักแล้วหล่ะ   ต่อไปก็คิวนายสินะ  ฮ่าๆๆๆ”  แจ็คกี้หัวเราะอย่างพอใจที่บัดนี้เขากำจัดคู่ต่อสู้ไปได้แล้วหนึ่งคน

“บังเอิญว่าฉันไม่ง่ายเหมือนมาร์ตินนะสิ   แกคงเหนื่อยหน่อยนะ”   กล่าวจบก็เรียกดาบสีแดงเพลิงออกมาไว้ในมือทันที   แจ็คกี้เองก็เรียกดาบเช่นเดียวกันออกมา

“อยากจะรู้เหมือนกันว่าไฟของแกกับไฟของฉันใครจะแน่กว่ากัน”   สิ้นเสียงร่างของทั้งสองก็เข้าสู้กันด้วยเชิงดาบที่สูสีโดยผลัดกันรุกผลัดกันรับเป็นระยะๆ

ฉึก!!  คมดาบอันร้อนระอุของแจ็คกี้กรีดเข้าที่ไหล่ซ้ายของเบลจนเลือดสีแดงสดไหลอาบแขนลงมาเป็นทางยาว

“เหมือนว่าไฟของแกมันจะไม่ศักดิ์สิทธ์พอนะ  ฮ่าๆๆๆ”

                                                              …………………………………………..

 

“เอาละนะ   ตอนนี้ก็เหลือนายเพียงคนเดียวแล้ว   ไม่คิดจะใช้เวทย์กับฉันหน่อยหรือ”   ชายน์กล่าวอย่างอารมณ์ดีที่เขาสามารถจัดการเด็กสายยุทธ์ไปได้อีกหนึ่ง   จนตอนนี้เหลือเขากับลุคเพียงตัวต่อตัวเท่านั้น

“ถ้าแกอยากจะออกไปพักเร็วๆ ฉันก็จะสงเคราะห์ให้”   สิ้นคำพูด   ลุคก็พุ่งเข้าหาชายน์พร้อมกับอัคคีเวทย์ที่เขาประเมินไว้ว่าชายน์เป็นพวกใช้รัตติกาลเวทย์ธรรมดา   และโดยทันทีที่ได้จังหวะลูกไฟในมือของลุคก็ถูกส่งออกไปยังชายน์ทันที   ชายน์เองก็พียงแต่ยิ้มบางๆ  แล้วร่ายเวทย์ออกมาเบาๆ ทันทีที่กล่าวจบพื้นดินตรงหน้าก็ยกตัวขึ้นเป็นแนวกำแพงป้องกันลูกไฟจากลุคได้อย่างสบาย

‘นอกจากรัตติกาลแล้วยังใช้เวทย์สายอื่นได้ดีอีกหรือ   นายมันพวกไหนกันแน่?’ ลุคกำลังตั้งคำถามอย่างสงสัย

“ตาฉันบ้างนะ”   กล่าวจบชายน์ก็ระเบิกดำแพงดินตรงหน้าทิ้งทันที   และตามด้วยก้อนหินนับร้อยที่พุ่งออกไปยังลุคที่บัดนี้กำลังตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

“อัคนีเวทย์   อัก!!”   หินนับร้อยพุ่งเข้าใส่ร่างของลุคจนกระเด็น   เขาเองก็ยอมรับว่าเขาประเมินชายน์ต่ำไปจากตอนแรกที่คิดว่าเป็นพวกใช้รัตติกาลเวทย์   แต่เอาเข้าจริงหมอนี่กลับใช้อัคนีเวทย์ได้อย่างรุนแรงทีเดียว

‘ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่ที่แกจัดการเพื่อนฉันทั้ง10 คนแล้วสินะ’   คิดได้เท่านั้นสติก็ดับวูบไปทันที

 

          ทางด้านของเดวี่ตอนนี้สถานการณ์ก็กำลังย่ำแย่เพราะเขาต้องรับมือกับเด็กสายศิลป์ทั้งสองคนที่หนึ่งในนั้นแม้จะเป็นหญิงแต่ด้วยพลังเวทย์ที่สูงนั้นก็ทำให้เด็กผู้หญิงคนนี้ดูอันตรายเป็นอย่างมาก   ส่วนเด็กผู้ชายอีกคนก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่ามีฝีมือที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

“รู้มั๊ยว่าในชีวิตฉันเกลียดอะไร   ก็เกลียดไอ้พวกที่มาจากความมืดอย่างแกยังไงล่ะ ไอ้ปีศาจ!!”   เชกล่าวใส่หน้าของเดวี่ที่บัดนี้แทบจะไม่มีสติแล้วพร้อมกับเหวี่ยงร่างนั้นลงพื้นอย่างแรงจนเจ้าของร่างกระอักเลือดกองโตออกมาบนพื้น

“เพราะพวกแก   แกรนน่าถึงวุ่นวาย   พวกแกมันโอหัง  เนรคุณแผ่นดินแกรนน่า!!”  เชตะโกนใส่หน้าเดวี่ด้วยเสียงดังลั่น  ร่างกายที่สั่นเทาและแววตาที่ยากเกินกว่าจะคาดเดาความรู้สึกได้นั้น  นอกจากเดวี่แล้วหลายคนในสนามคงไม่เข้าใจ   และคงเพราะสายตาคู่นี้เองเดวี่ถึงยอมได้ง่ายขนาดนี้   ตอนนี้เชคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้ว  มีดสั้นถูกเรียกออกมาหมายจะจัดการคนตรงหน้าทันที   แต่เมื่อเชกำลังจะลงมือก็ปรากฏว่ามีบางสิ่งมาขวางไว้

“จะเล่นกันถึงชีวิตเลยหรอ   ขอผมเล่นบ้างสิ ”   กล่าวจบมีดสั้นนับสิบพุ่งเข้าหาเชจนเจ้าตัวต้องกระโดดหลบไม่เป็นท่า   และนั่นก็ทำให้เจด้าต้องเข้ามาคุมสถานการณ์

“ลุกไหวมั๊ย”  ชายน์ตรงเข้าไปประคองร่างของเดวี่ทันที

“รีบจัดการพวกนั้นเถอะก่อนที่ฉันจะไม่ไหวจริงๆ”   เดวี่ว่าพลางพยุงกายลุกขึ้น

‘หมอนี่อึดเป็นบ้าเลย’   ชายน์อดคิดไม่ได้

“อย่าเสียเวลาเลยเช  จัดการ!!”  สิ้นเสียงของเจด้ากลุ่มควันสีขาวแบบเก่าก็พวยพุ่งออกมาอีกครั้งอย่างมากมาย   และไม่รอให้ควันนั่นเข้าถึงตัวชายน์ก็เรียกวาโยเวทย์ออกมาจัดการควันตรงหน้าด้วยวิธีเดียวกันกับมาร์ตินให้ออกไปทันที

“นึกว่าจะเก่งแต่รัตติกาลเวทย์อย่างเดียว    ไม่นึกว่าจะใช้วาโยเวทย์ได้ดีถึงเพียงนี้”   เจด้ากล่าวชื่นชมจากใจจริง  

“ยังมีอีกเยอะนะ   ลองหน่อยแล้วกัน!!”   กล่าวจบก็เรียกวาโยเวทย์ออกมาอีกครั้ง   แต่หากครั้งนี้เขากลับใช้ผสานกับเวทย์แห่งแสงและบีบอัดจนมันกลายเป็นดอกธนูนับร้อยและพุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ทันที   ลูกธนูที่มองเห็นเป็นเส้นสีขาวสว่างพุ่งตรงไปยังเจด้าและเชพร้อมกับที่ใบไม้สีดำนับร้อยที่คมดังมีดก็ปลิวอ้อมไปดักรอแล้วทางด้านหลังของทั้งสอง

“หมอนี่ใช้วาโยเวทย์บังคับเวทย์แห่งแสงและรัตติกาลเวทย์ได้พร้อมกันเลยหรือนี่”   เชกล่าวออกมาอย่างตกใจเมื่อเขากระโดดหลบจากดอกธนูสีขาวแล้วกลับไปโดนใบไม้สีดำจากด้านหลังเล่นงานเข้าจนตอนนี้ทั้งร่างของเขามีแต่รอยบาดแผลเต็มไปหมด   เช่นเดียวกันกับเจด้าที่มีสภาพไม่ต่างกันกับเชเท่าใดนัก  

“ยังไม่หมดนะสหาย   ฮ่าๆๆ”   กล่าวจบไฟสีดำอันร้อนระอุก็ลุกขึ้นไปทั่วสนามจนคู่ของเบลและแจ็คกี้เองยังต้องยุติการสู้นั้นเพื่อหลบวิถีของไฟสีดำที่กำลังลุกลามไปทั่ว

“ไม่ต้องเผื่อแผ่มาทางนี้ก็ได้นะ   ฉันก็มีไฟเป็นของตัวเองและสวยกว่าไฟของนายด้วย  ฮึ!!”  เบลกล่าวอย่างตลกในสถาการณ์ที่กำลังตึงเครียดสุดๆ  บัดนี้ร่างทั้งร่างของเบลโชกไปด้วยเลือดจนเจ้าตัวจะยืนไม่อยู่แล้ว

“นี่ไม่ใช่ไฟธรรมดา   มันคือรัตติกาลเพลิงใช่มั๊ยเช”   เมื่อได้สัมผัสถึงไอร้อนจากไฟสีดำนั่นเจด้าก็เอ่ยถามคู่หูของตนด้วยน้ำเสียงเครียดๆ

“ระวังตัวด้วยนะ  คนๆ นี้ไม่ธรรมดา”   กล่าวจบเชก็พยายามมองหาช่องทางเพื่อหลบวิถีของเปลวไฟที่กำลังลามมาหาตนพลางคิดหาวิธีดับไฟนั่น

“คิดจะดับไฟของฉันมันต้องใช้แสงเยอะนะ  ฮ่าๆๆๆ   ถึงคิวพวกนายแล้ว!!”   สิ้นเสียงของชายน์ก็ปรากฏว่าเพลิงนั่นลุกสูงขึ้นจนท่วมหัวของเชและเจด้า      และเพียงแค่ชายน์เรียกอัคคีย์เวทย์สีดำออกมาบนฝ่ามือแล้วส่งเข้าไปท่ามกลางเปลวเพลิงนั่นมันก็ระเบิดทันที

ตู้มมมมม!!   เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนาม    และบัดนี้หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าชายน์เองก็แทบจะยืนไม่อยู่แล้ว

 

‘นายยังควบคุมพลังเวทย์ตัวเองได้ไม่ดีนัก   ระวังการใช้เวทย์หนักๆ นะ   มันจะทำให้นายหมดสติเอาได้’     อีกครั้งที่เสียงอันคุ้นเคยดังเตือนเขาเป็นระยะๆ   ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็เสียงนี่แหละที่คอยสอนการใช้เวทย์บทต่างๆ ให้กับเขา

‘เสร็จงานนี้เราคงต้องทำความรู้จักกันจริงๆ หน่อยแล้ว  หึหึ’   ชายน์คิดพลางยิ้มออกมาบางๆ พร้อมกับทรุดลงไปกองกับพื้นจนเดวี่ต้องเข้ามาประคองไว้

“ไหวมั๊ย”

“ยังไหว   ขอบใจนะเดวี่”  กล่าวพร้อมกับพยายามยันกายลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

‘นายร้ายกว่าที่ฉันคิดนะชายน์’   ทั้งพลังและไอเวทย์ของชายน์ที่เขาสามารถสัมผัสได้นั้นทำให้เดวี่อดคิดไม่ได้ว่าคนๆ นี้มีบางอย่างที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี    บางอย่างที่เขารู้สึกว่ามันเหมือนกับสิ่งที่เขามี!!

เมื่อเปลวไฟสีดำดับลงก็ปรากฏว่าเด็กทั้งสองจากสายศิลป์นั้นหายไปแล้ว    นั่นหมายความว่าทั้งสองหมดสภาพการทดสอบและถูกส่งตัวออกไปยังสถานพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย      และเมื่อนึกได้ว่ายังเหลือแจ็คกี้และเบลอีกคู่ที่กำลังต่อสู้กันชายน์ก็รีบมองหาเพื่อนทันที

“เก่งนะที่จัดการได้ที่เดียวถึงสองคนเลย   ยังไงก็ขอบใจนะที่แกช่วยผ่อนแรงให้ฉันได้เยอะเลย  ฮ่าๆๆ”     แจ็คกี้กล่าวอย่างอารมณ์ดีที่บัดนี้เข้ากำจัดเบลไปได้แล้วอีกหนึ่งคน   และอาการบาดเจ็บของคนทั้งสองที่เขาสังเกตุได้ก็สร้างความพึงพอใจให้กับเขาไม่น้อย

 “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ   ฉันอุส่าห์ส่งเพื่อนพวกแกไปพักแล้วตั้งสองคนเลยนะ”     กล่าวอย่างเย้ยหยันและมั่นใจในตนเองซะเต็มที่

“งั้นนายก็ออกไปพักได้แล้วล่ะ   ตอนนี้หมดหน้าที่ของนายแล้ว”      เดวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นจนชายน์อดที่จะเสียวสันหลังไม่ได้    ทันทีที่สิ้นเสียงเดวี่ก็เรียกดาบสีดำยาวออกมาพร้อมกับที่แจ็คกี้ส่งก้อนพลังสีแดงส้มอันร้อนระอุมายังเดวี่     ในสถานการณ์ที่ร่างกายไม่เอื้ออำนวยทำให้การเคลื่อนไหวนั้นช้าลง   ในที่สุดดาบของเดวี่ก็ไม่อาจปัดเปลี่ยนวิถีของก้อนพลังนั่นได้

อึก!!   ร่างของเดวี่กระเด็นไปตามแรงอัดของอัคคีย์เวทที่มาจากเบื้องหน้า

‘มันจะต้องไม่จบแบบนี้สิ’   ชายน์คิดพลางเรียกสติและร่ายเวทย์ออกมาเบาๆ

“ออกไปพักเถอะนะ   ฉันจะสงเคราะห์ให้”   มีดสั้นสีดำถูกเรียกออกมาไว้ในมือของแจ็คกี้   แต่ไม่ทันที่จะได้ลงมือก็ปรากฏว่า

ฟิ่วววววว   ฉึก!!   มีดสั้นสีดำจากรัตติกาลเวทย์ของชายน์ส่งเข้าไปปักอยู่ในตำแหน่งช่วงเอวของแจ็คกี้จนเจ้าตัวเซถลาไปจนเกือบล้ม     ไม่รอให้ตั้งตัวได้ชายน์ก็โดดตามเข้าไปซ้ำทันที   หมัดหนักๆ ถูกส่งเข้าใส่โหนกแก้มของแจ็คกี้จนหน้าสะบัดแล้วตามด้วยแม่ไม้มวยไทยอีกครบชุด     จนตอนนี้แจ็คกี้แทบจะยืนไม่อยู่แล้วแต่ก็ยังมีสติพอที่จะกำมีดสั้นที่ถืออยู่ในมือตั้งแต่แรกแล้วให้กระชับขึ้นก่อนจะส่งมันเข้าใส่หน้าท้องของคนตรงหน้า    และจังหวะนั้นเดวี่ที่เห็นว่าโอกาสกำลังเป็นของพวกตนก็พยายามยันกายลุกขึ้นพร้อมกับคว้าดาบของตนมาถือไว้มั่นพร้อมกับวิ่งเข้าใส่แจ็คกี้ทันที

สวบ!!  อึก!!      มีดสั้นสีดำที่ปักอยู่ช่วงท้องของชายน์ทำให้ร่างนั้นทรุดลงพร้อมกันกับร่างของผู้ลงมือนั้นก็ล้มลงด้วยดาบเล่มยาวที่เสียบมาจากด้านหลังโดยคนที่ตอนนี่กำลังยืนอยู่เพียงคนเดียวในสานามแห่งนี้

ทั้งสนามตกอยู่ในความเงียบเพราะกำลังตกใจกับการทดสอบที่พึ่งจบลงเบื้องหน้าจนร่างของนิกกี้ปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง

“และตอนนี้ผลการทดสอบก็สิ้นสุดลงแล้ว      ผู้ดำรงตำแหน่งประธานรุ่นของนักเรียนชั้นปีที่1  ประจำปีนี้ก็คือ  เดวี่   ดาโกน่า   แห่งสายสามัญอีกแล้วคร้า…..”

‘เฮ้…………’  เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีดังก้องไปทั่วทั้งสนาม

 

‘มันไม่ควรจะเป็นฉันเลย   ไม่ควรเลยจริงๆ’

 

..................................................................................................................................................................................................

จบตอนค้าบบบบ  ไม่รู้ถูกใจหรือเปล่า   แฮ่ๆๆ  ไม่คิดละซิว่าจะเป็นเดวี่   จริงๆ เดวี่คือหนึ่งในคนสำคัญเลยนะ  ตัวเดินเรื่องอีกตัวเลยแหละ    ฝากติดตามด้วยนะค้าบบบ  ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา