Twin แฝดเลือดผสม
8.0
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.
39 ตอน
3 วิจารณ์
31.75K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
39) ภาค2 แสงแห่งสมุทร
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแสงแห่งสมุทร
“นีโอ!!” เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกับร่างของนีโอกำลังค้างเกร็ง หากสังเกตดีๆ จะเห็นไอเวทย์กำลังระเหยออกจากร่าง
“รีบช่วยเหลือเขาก่อน” เจ้าเมืองสั่งการ เชโด้และเบลจึงตรงเข้าช่วยนีโอออกจากโซ่ตรวนที่พันธนาการร่าง
“ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ เอายังไงต่อดี” เบลเอ่ย
“จะหนีไปตลอดไม่ได้ ต้องแก้ที่ต้นเหตุถึงจะถูกต้อง” ชายน์เอ่ยขณะที่ตรงเข้ามาดูอาการของนีโอ
“เชื่อว่าเธอมีทางออกสำหรับเรื่องนี้แล้ว งั้นเราฝากนีโอด้วยนะ จาร์น่า กลับคฤหาสน์ไปจับคนกบฏพร้อมกับเรา” เจ้าเมืองเอ่ยตัดสินใจ
“ที่นี่มีทหารของคุณจาร์น่าควบคุมสถานการณ์แล้ว พวกนายไปช่วยท่านไคล์ ส่วนนีโอฉันจัดการเอง”
“แล้วผมละครับพี่?” คิมถามเพราะตนไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ
“นายไปกับฉัน ” ชายน์เอ่ยพร้อมกับอุ้มร่างของนีโอแล้วบินออกไปยังลานพื้นที่ว่างใจกลางเมือง
‘อดทนอีกนิดนะนีโอ’
“เอ้ยย ผมบินไม่ได้นะพี่ชายน์ เอายังไงละเนี่ย” คิมที่ไม่เคยใช้เวทย์สำหรับการเดินทางอากาศก็ได้แต่โอดครวญจนพี่ๆ อดขำไม่ได้
“อ่ะ พี่สาวให้นายยืมก่อน แค่ขี่มันไว้แล้วสั่งการได้เลย มันฟังรู้เรื่อง” ฮันนี่เอ่ยพร้อมกับส่งไม้กวาดให้คิม
“แล้วพี่ละครับ?” คิมยังคงห่วงพี่
“พี่ยืมส่วนกลางได้ รีบไป” ฮันนี่เอ่ยตัดบทพร้อมรีบผลักรุ่นน้องให้ออกตามเพื่อนไป แม้ว่าจะดูทุลักทุเลไปบ้างสำหรับครั้งแรกของการใช้ไม้กวาดแม่มด แต่แค่คิมไม่ตกลงมาบาดเจ็บก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
“นีโอ เป็นไงบ้าง?” ชายน์เอ่ยถามหลังจากที่ตนสร้างบาเรียป้องกันให้นีโอแล้วและดูเหมือนว่านีโอมีอาการที่ดีขึ้น
“ขอบใจนะชายน์ นายจะทำอะไรต่อ?”
“ฉันจะไม่ยอมให้นายต้องเสียสละอีก อัญมณีนั่นเป็นหน้าที่ของฉันดังนั้นฉันจะจัดการมันเอง”
“ยังไง?” นีโอเอ่ย
“มันอยากได้พลังเวทย์ ก็ให้มันมาเอาที่ฉันนี่” คำกล่าวของชายน์สร้างความตะลึงให้นีโอไปชั่วขณะ
“ฉันจะถ่ายพลังไปยังอัญมณีแล้วนายจะต้องดึงพลังเวทย์นายกลับมาให้ได้ เข้าใจนะ”
“แล้วนายล่ะ? จะเป็นอย่างไรต่อ?” นีโอถามเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของชายน์
“นายว่าเกาะนี้มันจมลงเพราะอะไร? ถ้ามันจะกลับขึ้นไปได้อีกครั้งก็เพราะสิ่งนั้นแหละ” ชายน์เอ่ยอย่างมีความหวัง
“อืม เข้าใจแล้ว” นีโอที่เริ่มเข้าใจความหมายของชายน์ก็เริ่มมีสีหน้าดีขึ้น แม้เขาจะรู้ว่าชายน์มีความสามารถและจริงจังกับทุกสิ่งที่ทำแต่ทว่าภารกิจเสี่ยงอันตรายแบบนี้ยังไงเขาก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้
ณ คฤหาสน์เจ้าเมือง
ทันทีที่เนย์ยาและหัวหน้าทหารเวทย์หลบออกจากคุกเวทย์ก็พากันกลับมายังคฤหาสน์ของเจ้าเมือง เพราะหากหนังสือแต่งตังของเขาได้ประทับตราของเจ้าเมืองคนปัจจุบันแล้วนั่นก็หมายถึงเขาได้เป็นเจ้าเมืองคนใหม่โดยสมบูรณ์แบบ และสิ่งที่เขาต้องการคือตราประทับที่เขาเชื่อว่ามันอยู่ในคฤหาสน์นี่
“ท่านและคนของท่านจัดการทหารองครักษ์นี้ที เราจะเข้าไปหาตราประทับของท่านเจ้าเมือง” เนย์ยาเอ่ยสั่งหัวหน้าทหารเวทย์
“ท่านต้องรีบหน่อยนะครับ ”
“อย่ากลัวไปนักเลย พวกนั้นคงปลีกตัวออกมาจากคุกเวทย์ไม่ได้ง่ายๆ หรอกเพราะแม่ทัพทหารกองกำลังป้องกันและแม่ทัพกองกำลังอาสากำลังพาคนไปสมทบที่นั่น ส่วนคนของอารามเทพกำลังมาที่นี่แล้ว ” เนย์ยาเอ่ยแผนการให้หัวหน้าทหารเวทย์สบายใจ
“งั้นเชิญท่านตามสบายเลยครับ ทางนี้ข้าและคนของข้าจะจัดการให้” หัวหน้าทหารเวทย์เอ่ยพร้อมกับที่เนย์ยารีบบุกเข้ายังคฤหาสน์ แม้ว่าสถานการณ์จะดูเงียบผิดปกติไปบ้างแต่เนย์ยาก็ไม่ได้สนใจมากเท่ากับการค้นหาตราประทับของตำแหน่งเจ้าเมือง เหตุนี้จึงไม่ได้สังเกตว่ามีบางคนกำลังเข้ามาในห้องนี้เช่นกัน
“แทนที่จะสำนึกหรือหนีไป แต่กลับมาอยู่ที่นี่ ท่านช่างกล้ามากนะ ” เสียงเจ้าของคฤหาสน์เอ่ยขึ้นทำให้เนย์ยาชะงักไป
“หึ แต่ท่านก็กล้ากว่านะ พลังเวทย์เท่าทีมีก็น้อยนิด ยังกล้ามาเผชิญหน้ากับข้า” เนย์ยาเอ่ยพร้อมเรียกวารีเวทย์ออกมาบนฝ่ามือ ลูกบอลน้ำขนาดใหญ่เคลื่อนไหวไปมาพร้อมจู่โจม
“เราไม่กลัวท่านหรอก ยังไงซะท่านก็ไปจากที่นี่ไม่ได้แล้ว อ้อ ท่านกำลังตามหาสิ่งนี้อยู่สินะ” เจ้าเมืองเอ่ยพร้อมแสดงตราประทับออกมาให้เนย์ยาได้เห็น ทันทีที่เนย์ยาเห็นก็รีบจู่โจมเจ้าเมืองทันที แม้พลังเวทย์จะสู้เนย์ยาไม่ได้แต่ก็เพียงพอที่จะป้องกันตนได้ในระยะเวลาหนึ่ง เหตุนี้บาเรียแก้วจึงถูกสร้างขึ้นมาป้องกันพลังเวทย์จากเนย์ยาที่จู่โจมอย่างฉับพลัน
“ส่งตราประทับมาดีกว่านะท่านไคล์ เรื่องจะได้จบ”
“ต่อให้ท่านได้มันไป ท่านก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเมืองนี้ได้หรอก”
“งั้นท่านก็จงพังพินาศไปกับคฤหาสน์นี้เลยแล้วกัน” เนย์ยาเอ่ยพร้อมเตรียมร่ายเวทย์อย่างสุดกำลัง ฉับพลันก็มีเสียงดังแทรกขึ้นพร้อมกับกลุ่มทหารมากมายวิ่งเข้ามาล้อมเนย์ยาไว้ทันที
“ท่านนั่นแหละหยุดได้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเป็นตัวท่านเองที่พินาศนะ ท่านหัวหน้าแม่ทัพ” จาร์น่าเอ่ยแทรกพร้อมเข้าขวางเพื่อคุ้มกันเจ้าเมือง บัดนี้ทหารจำนวนมากต่างวิ่งเข้ามาปิดล้อมทุกทางเข้าออกของคฤหาสน์ ส่วนภายในห้องโถงที่เกิดเหตุอยู่
“ถึงตอนนี้ข้าเองก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว หึหึ!!”
..................................
“ทุกคนเข้าไปช่วยท่านไคล์ ทางนี้ให้พวกเราจัดการดีกว่า” เฟย์เอ่ยให้เด็กๆ เข้าไปยังในตัวคฤหาสน์หลังจากที่ทั้งหมดได้เดินทางมาถึงก็พบว่าทหารของจาร์น่าและเนย์ยากำลังต่อสู้กันอยู่ และยังมีคนของอารามเทพติดตามพวกเขามาด้วย
“ทำตามนี้เถอะ พวกอารามเวทย์ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ” ดัสค์เอ่ยสนับสนุนเฟย์ เดวี่ ฮันนี่ เซ เชโด้และเบลจึงพากันเข้าไปยังด้านใน
“เราคงต้องร่วมมือกันดีๆ แล้วแหละนะ” เฟย์เอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้ดัสค์
“ไม่ต้องพูดมาก จะเอายังไงก็บอกมา” ดัสค์เอ่ยแต่ก็ทำให้เฟย์ยิ้มออกมาทันที แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ลงมือก็มีเสียงเอ่ยแทรกจากผู้มาเยือนดังขึ้น
“พวกเธอเป็นใครถึงมาขวางทางพวกเรา” กลุ่มผู้มาเยือนทั้งเก้าคนเอ่ย
“แล้วพวกท่านเป็นใครถึงกล้ามาบุกคฤหาสน์เจ้าเมือง” เฟย์เอ่ยย้อนคนเบื้องหน้าทั้งเก้าคนที่ดูแล้วมีอายุมากพอควรแล้วและคิดว่าน่าจะเป็นพวกบำเพ็ญเพียรฝึกเวทย์เป็นแน่
“เรามาตามล่าปีศาจ เมืองของเราไม่ต้อนรับและไม่ยอมให้ใครคบคิดกับปีศาจเพื่อทำลายเมืองนี้เด็ดขาด”
“แม้แต่เจ้าเมืองพวกท่านก็จะจัดการรึ?” ดัสค์เอ่ยแทรก
“นี่เจ้า!! แบบนี้ก็แสดงว่าข่าวที่เราทราบมาเป็นความจริงสินะ” ผู้นำของอารามเทพเอ่ย
“จริงหรือไม่จริงพวกเราไม่รู้หรอก แต่อีกซักครูทุกอย่างที่เป็นความจริงจะกระจ่าง อย่างไรเชิญท่านรอดีกว่านะ อย่าเข้าไปเลย” เฟย์เอ่ยเสริม
“เกรงว่าจะไม่ได้แน่ๆ หากพวกเจ้าขัดขวางเราเห็นทีเราคงจะต้องจัดการพวกเจ้าไปด้วย” หนึ่งในกลุ่มของอารามเทพเอ่ยแทรกขึ้นสร้างความหงุดหงิดให้ดัสค์จนเห็นได้ชัด
“พวกนี้เป็นถึงเทพผู้บำเพ็ญเพียรแต่กลับโดนหลอกชักจูงได้ง่ายจัง หึ!!” ดัสค์เอ่ยอย่างหงุดหงิด
“งั้นเราก็เล่นกับเขาหน่อยสิ 555” เฟย์เอ่ยพร้อมเดินออกไปหากลุ่มของอารามเวทย์ทันที
“นี่ ถ้าอยากจะจัดการพวกเราก็เข้ามาเลย แต่ขอเตือนนะว่าหากพวกท่านแพ้ พวกท่านคงต้องเสียพลังเวทย์ที่อุส่าห์บำเพ็ญเพียรมาให้กับเราแน่ๆ หึ!!” เอ่ยจบดาบสีส้มก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับเปลวเพลิงสีส้มที่ลุกโชติขึ้นจะกลุ่มของอารามเทพแตกกระเจิง
“ไฟแห่งฟินิกซ์ ระวังตัวกันด้วย” ผู้นำอารามเวทย์เอ่ยพร้อมสร้างบาเรียเวทย์มาคุ้มกันพวกตัวเองทันที แต่ยังไม่ทันได้อุ่นใจก็ปรากฏว่าเด็กหนุ่มอีกคนกำลังส่งของขวัญมาให้อีกแล้ว
“ระวัง!!” เพียงเสี้ยววินาทีที่ผู้นำเอ่ยเตือนทำให้กลุ่มของอารามเวทย์หลบพ้นอัคคีเวทย์ของดัสค์ไปได้
“เจ้าเด็กพวกนี้ รับไป!!” หนึ่งในกลุ่มของอารามเทพยกไม้คฑาขึ้นพร้อมกับเกลียวคลื่นพุ่งเข้าจู่โจมดัสค์ แต่ก็มลายไปทันทีเมื่อปะทะเข้ากับเปลวเพลิงของเฟย์
“ไฟแห่งฟินิกซ์จริงๆ สินะ” ผู้ใช้วารีเวทย์โจมตีดัสค์เอ่ยอย่างรู้ทันเมื่อเห็นว่าเวทย์ของตนไม่สามารถเอาชนะเด็กหนุ่มเบื้องหน้าได้
“ทุกคนฟัง เราคือผู้บำเพ็ญเพียรฝึกเวทย์ หากเราร่วมมือกันอย่างไรเราก็เอาชนะเด็กสองคนนี้ได้แน่ๆ ” ทันทีที่ผู้นำเอ่ยเหล่าสมาชิกของอารามเวทย์ก็ขยับประจำที่ตามตำแหน่งในจุดที่แปลกตาออกไปพร้อมกับเริ่มร่ายเวทย์
“ค่ายกล ระวังพวกนี้ไว้หน่อยนะ” เฟย์เอ่ยเตือนดัสค์เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้กำลังผสานเวทย์เพื่อมาสู้กับฝ่ายของตน แม้ว่าเวทย์ของกลุ่มอารามเทพจะสูงแต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าเขาและดัสค์ได้ เพราะเป็นที่รู้กันว่าเขาทั้งคู่ไม่ใช่มนุษย์แต่คือภูตที่บำเพ็ญเพียรฝึกจิตมานานนับร้อยๆปีจนสามารถอยู่ในร่างมนุษย์ได้ แต่หากว่าคนเบื้องหน้าทั้งเก้าคนนี้รวมพลังกันก็น่ากลัวมิใช่น้อย
“กลัวรึ” ดัสค์เอ่ยพร้อมกระตุกยิ้มน้อยๆ และถือเป็นยิ้มแรกที่เฟย์ได้เห็นเลยก็ว่าได้
“ฉันเป็นห่วงนายต่างหาก หากผิดพลาดไปนายคงได้กลับไปเป็นมังกรตัวดำๆ แบบเก่าอีกแน่ หึหึ” เฟย์แซวแต่ก็มิวายอดยิ้มไม่ได้
“เอางี้ เรามาลองร่วมมือกันสู้บ้างเป็นไง?” เฟย์ยังคงเสนอความคิดต่อ และดูเหมือนว่าดัสค์ก็เห็นดีด้วย
“งั้นก็ลองดู” สิ้นคำของดัสค์วงแหวนสีส้มทองและสีดำก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับอักขระสีทองและสีเงินลอยรอบๆ วงแหวนนั้น บัดนี้ร่างของเด็กหนุ่มทั้งสองลอยอยู่ใจกลางวงแหวนนั่นพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงค่อยๆ เกิดขึ้น
“โจมตี!!” ฝ่ายอารามเทพที่บัดนี้ผสานเวทย์เรียบร้อยแล้วก็ชิงโจมตีก่อน เมื่อคนทั้งเก้าตั้งค่ายกลก็ปรากฏขึ้นเขตแดนแปดเหลี่ยมสีขาวสว่างจ้าขึ้น ทันทีที่ผู้นำเอ่ยจู่โจมใจกลางค่ายกลก็ปรากฏมังกรเวทย์สีขาวเลื้อยพุ่งออกมาเข้าจู่โจมเฟย์และดัสค์ทันที
“ช้าไปแล้ว หึหึ ขึ้นหลังฉันมา!!” เฟย์ที่กลับสู่ร่างจริงเอ่ยเรียกให้ดัสค์ขึ้นมาบนหลังพร้อมกับบินทะยานสวนออกไปเช่นกัน สองปีกใหญ่ที่กางออกพร้อมกับเปลวเพลิงสีส้มแดงที่ลุกโชติช่วงอีกทั้งเสียงร้องที่ก้องกังวานของฟินิกซ์สร้างความน่าเกรงขามมิใช่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีร่างของหนุ่มน้อยที่บัดนี้มีเขาสีดำเงาและสวมชุดเกราะเกร็ดมังกรสีดำยืนถือแซ่กระดูกมังกรอยู่ด้านบนพร้อมจิตสังหารสีดำที่พวยพุ่งออกมาก็ยิ่งทำให้ผู้ที่เผชิญหน้าถึงกับตกตะลึง ทันทีที่ฟินิกซ์และมังกรเวทย์ปะทะกันก็เกิดกระแสพลังขนาดมหึมาแผ่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนสั่นสะเทือนไปตามแรงพลัง เพียงแค่แซ่กระดูกมังกรของดัสค์ที่ตวัดเข้าใส่มังกรเวทย์เพียงครั้งเดียวร่างนั้นก็สลายไปทันที
“เป็นไปไม่ได้” ผู้นำอารามเทพเอ่ยอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นความสามารถของเด็กหนุ่มที่อยู่บนหลังมังกร แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเฟย์ก็จู่โจมคนทั้งเก้าต่อทันที เสียงร้องของฟินิกซ์ทำให้คนทั้งเก้าต่างก็ยกมือปิดป้องหูอย่างทรมาน
“อ๊าคคคคคคค”
‘พวกท่านยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา’
กลับมาที่ชายน์และนีโอ...
หลังจากที่ชายน์และนีโอตกลงกันได้ ชายน์ก็เริ่มลงมือทันที วงแหวนสีทองปรากฏขึ้นรอบๆ ร่างของชายน์ ที่เจ้าตัวยังคงใช้ร่างเทพแห่งแสงอยู่ บัดนี้อาณาบริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยไอเวทย์ของชายน์ที่ปลดปล่อยออกมาและดูเหมือนว่าเจ้าลูกแก้วสีขาวขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ด้านบนนั้นก็กำลังตอบสนองต่อชายน์เป็นอย่างดี
“ฉันจะดึงมันลงมาแล้วนะ พร้อมมั๊ยลีโอ?” ชายน์หันมาเอ่ยกับเพื่อน และเมื่อนีโอพยักหน้าชายน์ก็ลงมือทันที ลูกแก้วสีขาวกำลังลอยลงมาหาชายน์ ทันทีที่มันสัมผัสกับมือของชายน์บางอย่างก็เกิดขึ้น
“อึก!!” ร่างของชายน์กระตุกเกร็งค้างก่อนจะหลับตาค่อยๆ ผ่อนความรู้สึกลงพร้อมกับเอ่ยกับนีโอ
“ลงมือเลยนีโอ”
“อืม” สิ้นคำของนีโอ เจ้าตัวก็เอื้อมมือไปสัมผัสกับอีกด้านของลูกแก้วและก็เกิดอาการเดียวกันกับชายน์ แต่เพียงครูเดียวก็กลับสู่สภาพปกติ บัดนี้ร่างของคนทั้งสองกำลังยืนแตะลูกแก้วสีขาวขนาดใหญ่คนละด้านโดยที่คนทั้งสองต่างก็หลับตานิ่ง เพียงแต่คนหนึ่งมีสีหน้าและอาการที่ดีขึ้นแต่อีกคนกำลังค่อยๆ แสดงอาการทรมานออกมาเรื่อยๆ ไอเวทย์ที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของชายน์บัดนี้ทวีความรุนแรงขึ้น ผู้คนที่หลบอยู่ในบ้านต่างรับรู้ได้เป็นอย่างดี บ้างออกมามุงดูการกระทำของคนทั้งสอง บ้างไม่สามารถทนต่อกระแสไอเวทย์ได้ก็ต้องหลบอยู่ในบ้านหรืออยู่ในระยะห่างๆ แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ยังพื้นที่นั้นได้เลย
“ชายน์ นายจะไม่ไหวแล้วนะ” นีโอที่ลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าเพื่อนของตนเองมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก บัดนี้ร่างของชายน์เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ไอเวทย์สีขาวลอยคละคลุ้งอยู่รอบๆร่าง และทั้งหมดจะถูกดูดเข้าสู่ลูกแก้ว ในขณะที่นีโอเองก็รับรู้ได้เช่นกันว่าไอเวทย์แห่งแสงที่คุ้นเคยถูกส่งออกมาจากลูกแก้วเข้าหาตนเอง
“แค่นี้ยังไหว นี่ยังไม่ถึงครึ่งที่นายสูญเสียเลยนีโอ ฉันจะชดใช้ให้ อึก!!” ชายน์เอ่ยพร้อมกับหลับตารวมสมาธิอีกครั้ง ไอเวทย์ระลอกใหม่ถูกผลักเข้าสู่ลูกแก้วพร้อมกับร่างของชายน์เริ่มสั่น แม้นีโอจะเห็นใจและสงสารเพื่อนแต่ทว่าเขาก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถหยุดเพื่อนได้ จึงได้แต่ให้ความร่วมมือกับชายน์ต่อไป แต่ผ่านไปเพียงไม่นานชายน์กลับเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาเสียเอง
“นีโอ..” ชายน์เอ่ยออกมาเมื่อพบว่าบัดนี้ไอเวทย์ที่ตนปลดปล่อยออกมานั้นบางลงทุกทีและกำลังมีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกแก้ว
“ฉันอยู่นี่” นีโอรีบเอ่ยรับเพื่อน
“เวทย์ฉันกำลังถึงขีดจำกัดแล้ว มันอันตรายเกินไป นายออกไปก่อน”
“ฉันจะส่งมันกลับคืนให้นาย ฉันไม่ได้ต้องการมันขนาดนี้ชายน์” นีโอที่ขณะนี้ไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างไรแล้วเอ่ยเป็นห่วงเพื่อนเพราะเวทย์แห่งแสงที่ชายน์ส่งผ่านลูกแก้วมาให้และเจ้าลูกแก้วขนาดใหญ่นี้ที่คืนพลังเวทย์ของตนกลับมาให้นั้นมันมากเกินพอที่นีโอจะรับไว้แล้วเช่นกัน
“ไม่ ปล่อยมือแล้วรีบออกไปซะ” ชายน์ย้ำ
“แต่นายจะบาดเจ็บนะ” นีโอก็ปฏิเสธคำขอของชายน์เช่นกัน บัดนี้เมื่อทั้งคู่ต่างก็ส่งพลังกลับคืนสู่ลูกแก้วและเพียงเสี้ยวระยะเวลาที่จะได้เอ่ยต่อ ลูกแก้วก็ร้าวและแตกกระจายออกทันที
“กรี๊ดดดด”
“ชายน์!!”
………………………………………………………………………………………………………………………..
เสียงร้องของคนที่มุงดูอยู่ห่างๆ หวีดร้องดังขึ้นอันเนื่องมาจากการระเบิดของลูกแก้วนั้นส่งผลต่อสิ่งต่างๆ มากมาย ทุกคนต่างวิ่งหลบหนีชุลมุนโดยไม่มีใครสนใจถึงลำแสงสีฟ้ากำลังพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับเมืองทั้งเมืองกำลังสั่นไหวเหตุเพราะพื้นแผ่นดินกำลังเกิดการเคลื่อนตัวขึ้นนั่นเอง
“ชายน์!!” นีโอตะโกนอย่างสุดเสียงเมื่อเห็นบางสิ่งกำลังพาร่างของเพื่อนพุ่งทะลุบาเรียของเมืองสมุทรออกไป ทันทีที่บาเรียได้แตกลงก็พบว่าบัดนี้เมืองสมุทรที่เคยจมอยู่ก้นทะเลได้ลอยขึ้นสู้พื้นทะเลกลายเป็นเกาะแล้ว
เบื้องบนในตอนนี้คือท้องฟ้าที่สดใสพร้อมแสงแดดที่มาจากดวงอาทิตย์จริงๆ หาใช่ลูกแก้วลูกเดิมไม่ นีโอนิ่งตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมๆ กับที่ผู้คนต่างค่อยๆ ออกมาจากอาคารบ้านเรือนเมื่อเห็นว่าทุกอย่างปกติแล้ว พร้อมกับเริ่มมีเสียงพูดคุย ตะโกนเรียกกันอย่างตื่นเต้น จนสุดท้ายก็ครึกครื้นไปด้วยเสียงโห่ร้องอย่างยินดีของชาวเมืองสมุทรที่ได้เห็นท้องฟ้าและแสงแดดอีกครั้ง....
หลังจากความวุ่นวายได้สงบลง แม่ทัพใหญ่เนย์ยาถูกตัดสินประหารชีวิต แต่เห็นแก่ความรื่นเริงของชาวเมืองที่ได้หลุดพ้นขึ้นมาจากใต้ทะเล นีโอจึงขออภัยโทษให้แม่ทัพเนย์ยาเหลือรับโทษแค่คุมขังอยู่ในคุกเวทย์ตลอดชีวิต ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดก็โดนคุมขังเช่นกัน เจ้าเมืองประกาศให้จัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองให้แก่ชาวเมืองและแสดงความยินดีกับนีโอที่ได้เวทย์แห่งแสงกลับคืนมาจากลูกแก้ว พร้อมทั้งประกาศรับกองกำลังเหล่าต่างๆ และจอมเวทย์ทั่วทั้งเมืองเพื่อคัดสรรเข้าสู่อารามเทพแทนกลุ่มคนก่อนๆ ที่ก่อกบฏ ...นีโอที่กำลังยืนมองเมืองทั้งเมืองของตนในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟและเสียงดนตรีมากมายคละเคล้าไปกับเสียงหัวเราะของผู้คนแต่เจ้าตัวกลับไร้ซึ่งความรู้สึกยินดีใดๆ
“อย่าคิดมากเลยนีโอ ชายน์ไม่เป็นอะไรหรอก” เดวี่ที่เห็นว่าหนุ่มน้อยกำลังแบกความรู้สึกไม่ดีไว้มากมายก็ฉวยโอกาสเข้ามาพูดคุยกับนีโอ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ถนัดเรื่องปลอบประโลมแต่ในยามที่เพื่อนกำลังทุกข์ เดวี่ก็ไม่อาจอยู่เฉยได้
“ฉันทำให้ชายน์ต้องลำบากแล้ว” นีโอเอ่ยจากความรู้สึก
“ตอนนี้เฟย์กำลังออกตามหาชายน์ เขาน่าจะสื่อสารถึงกันได้” เดวี่เอ่ยเรียบๆ
“นายก็กำลังจะออกไปอีกคน?” นีโอเอ่ยดักทางอย่างรู้ทัน จนเดวี่ชะงักไปทันที
“ฉันปล่อยให้ชายน์หายไปจากสายตาไม่ได้”
“ทำไม?” นีโอเอ่ย แต่เดวี่ก็ยังคงเงียบอยู่
“ระหว่างนายสองคน มันมีอะไรที่พวกเรายังไม่รู้อีกหรือเปล่า เดวี่?”
“สำหรับฉัน แม้ฉันจะเป็นแค่คนธรรมดา หรือวันข้างหน้าฉันจะได้ทุกอย่างคืน แต่ชายน์คือคนที่สำคัญที่สุด” คำตอบของเดวี่ แม้ว่าจะตอบไม่ตรงคำถามแต่ก็ทำให้นีโอยอมแพ้ที่จะถามไถ่ต่อไปได้
“งั้นก็ขอให้นายโชคดีนะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ฉันจะให้เพื่อนๆ ได้พักอีกสักสองสามวัน จากนั้นเราจะไปส่งคิมเข้าโรงเรียนตามที่นายกับชายน์เคยเอ่ยไว้ แล้วเราจะออกเดินทางตามไปสมทบพวกนายอีกที”
“อืม อย่างไรก็ตาม ให้ยึดแผนเดิมของชายน์นะ” เดวี่เอ่ยย้ำก่อนจะปรากฏกลุ่มควันสีดำปรากฏขึ้นท่วมร่างของเดวี่พร้อมกับร่างนั้นหายวับไปกับตา
‘ถ้าไม่ใช่ชายน์เดวี่ไม่มีทางเอาจริงแบบนี้แน่ หึหึ’
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
“นีโอ!!” เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกับร่างของนีโอกำลังค้างเกร็ง หากสังเกตดีๆ จะเห็นไอเวทย์กำลังระเหยออกจากร่าง
“รีบช่วยเหลือเขาก่อน” เจ้าเมืองสั่งการ เชโด้และเบลจึงตรงเข้าช่วยนีโอออกจากโซ่ตรวนที่พันธนาการร่าง
“ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ เอายังไงต่อดี” เบลเอ่ย
“จะหนีไปตลอดไม่ได้ ต้องแก้ที่ต้นเหตุถึงจะถูกต้อง” ชายน์เอ่ยขณะที่ตรงเข้ามาดูอาการของนีโอ
“เชื่อว่าเธอมีทางออกสำหรับเรื่องนี้แล้ว งั้นเราฝากนีโอด้วยนะ จาร์น่า กลับคฤหาสน์ไปจับคนกบฏพร้อมกับเรา” เจ้าเมืองเอ่ยตัดสินใจ
“ที่นี่มีทหารของคุณจาร์น่าควบคุมสถานการณ์แล้ว พวกนายไปช่วยท่านไคล์ ส่วนนีโอฉันจัดการเอง”
“แล้วผมละครับพี่?” คิมถามเพราะตนไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ
“นายไปกับฉัน ” ชายน์เอ่ยพร้อมกับอุ้มร่างของนีโอแล้วบินออกไปยังลานพื้นที่ว่างใจกลางเมือง
‘อดทนอีกนิดนะนีโอ’
“เอ้ยย ผมบินไม่ได้นะพี่ชายน์ เอายังไงละเนี่ย” คิมที่ไม่เคยใช้เวทย์สำหรับการเดินทางอากาศก็ได้แต่โอดครวญจนพี่ๆ อดขำไม่ได้
“อ่ะ พี่สาวให้นายยืมก่อน แค่ขี่มันไว้แล้วสั่งการได้เลย มันฟังรู้เรื่อง” ฮันนี่เอ่ยพร้อมกับส่งไม้กวาดให้คิม
“แล้วพี่ละครับ?” คิมยังคงห่วงพี่
“พี่ยืมส่วนกลางได้ รีบไป” ฮันนี่เอ่ยตัดบทพร้อมรีบผลักรุ่นน้องให้ออกตามเพื่อนไป แม้ว่าจะดูทุลักทุเลไปบ้างสำหรับครั้งแรกของการใช้ไม้กวาดแม่มด แต่แค่คิมไม่ตกลงมาบาดเจ็บก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
“นีโอ เป็นไงบ้าง?” ชายน์เอ่ยถามหลังจากที่ตนสร้างบาเรียป้องกันให้นีโอแล้วและดูเหมือนว่านีโอมีอาการที่ดีขึ้น
“ขอบใจนะชายน์ นายจะทำอะไรต่อ?”
“ฉันจะไม่ยอมให้นายต้องเสียสละอีก อัญมณีนั่นเป็นหน้าที่ของฉันดังนั้นฉันจะจัดการมันเอง”
“ยังไง?” นีโอเอ่ย
“มันอยากได้พลังเวทย์ ก็ให้มันมาเอาที่ฉันนี่” คำกล่าวของชายน์สร้างความตะลึงให้นีโอไปชั่วขณะ
“ฉันจะถ่ายพลังไปยังอัญมณีแล้วนายจะต้องดึงพลังเวทย์นายกลับมาให้ได้ เข้าใจนะ”
“แล้วนายล่ะ? จะเป็นอย่างไรต่อ?” นีโอถามเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของชายน์
“นายว่าเกาะนี้มันจมลงเพราะอะไร? ถ้ามันจะกลับขึ้นไปได้อีกครั้งก็เพราะสิ่งนั้นแหละ” ชายน์เอ่ยอย่างมีความหวัง
“อืม เข้าใจแล้ว” นีโอที่เริ่มเข้าใจความหมายของชายน์ก็เริ่มมีสีหน้าดีขึ้น แม้เขาจะรู้ว่าชายน์มีความสามารถและจริงจังกับทุกสิ่งที่ทำแต่ทว่าภารกิจเสี่ยงอันตรายแบบนี้ยังไงเขาก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้
ณ คฤหาสน์เจ้าเมือง
ทันทีที่เนย์ยาและหัวหน้าทหารเวทย์หลบออกจากคุกเวทย์ก็พากันกลับมายังคฤหาสน์ของเจ้าเมือง เพราะหากหนังสือแต่งตังของเขาได้ประทับตราของเจ้าเมืองคนปัจจุบันแล้วนั่นก็หมายถึงเขาได้เป็นเจ้าเมืองคนใหม่โดยสมบูรณ์แบบ และสิ่งที่เขาต้องการคือตราประทับที่เขาเชื่อว่ามันอยู่ในคฤหาสน์นี่
“ท่านและคนของท่านจัดการทหารองครักษ์นี้ที เราจะเข้าไปหาตราประทับของท่านเจ้าเมือง” เนย์ยาเอ่ยสั่งหัวหน้าทหารเวทย์
“ท่านต้องรีบหน่อยนะครับ ”
“อย่ากลัวไปนักเลย พวกนั้นคงปลีกตัวออกมาจากคุกเวทย์ไม่ได้ง่ายๆ หรอกเพราะแม่ทัพทหารกองกำลังป้องกันและแม่ทัพกองกำลังอาสากำลังพาคนไปสมทบที่นั่น ส่วนคนของอารามเทพกำลังมาที่นี่แล้ว ” เนย์ยาเอ่ยแผนการให้หัวหน้าทหารเวทย์สบายใจ
“งั้นเชิญท่านตามสบายเลยครับ ทางนี้ข้าและคนของข้าจะจัดการให้” หัวหน้าทหารเวทย์เอ่ยพร้อมกับที่เนย์ยารีบบุกเข้ายังคฤหาสน์ แม้ว่าสถานการณ์จะดูเงียบผิดปกติไปบ้างแต่เนย์ยาก็ไม่ได้สนใจมากเท่ากับการค้นหาตราประทับของตำแหน่งเจ้าเมือง เหตุนี้จึงไม่ได้สังเกตว่ามีบางคนกำลังเข้ามาในห้องนี้เช่นกัน
“แทนที่จะสำนึกหรือหนีไป แต่กลับมาอยู่ที่นี่ ท่านช่างกล้ามากนะ ” เสียงเจ้าของคฤหาสน์เอ่ยขึ้นทำให้เนย์ยาชะงักไป
“หึ แต่ท่านก็กล้ากว่านะ พลังเวทย์เท่าทีมีก็น้อยนิด ยังกล้ามาเผชิญหน้ากับข้า” เนย์ยาเอ่ยพร้อมเรียกวารีเวทย์ออกมาบนฝ่ามือ ลูกบอลน้ำขนาดใหญ่เคลื่อนไหวไปมาพร้อมจู่โจม
“เราไม่กลัวท่านหรอก ยังไงซะท่านก็ไปจากที่นี่ไม่ได้แล้ว อ้อ ท่านกำลังตามหาสิ่งนี้อยู่สินะ” เจ้าเมืองเอ่ยพร้อมแสดงตราประทับออกมาให้เนย์ยาได้เห็น ทันทีที่เนย์ยาเห็นก็รีบจู่โจมเจ้าเมืองทันที แม้พลังเวทย์จะสู้เนย์ยาไม่ได้แต่ก็เพียงพอที่จะป้องกันตนได้ในระยะเวลาหนึ่ง เหตุนี้บาเรียแก้วจึงถูกสร้างขึ้นมาป้องกันพลังเวทย์จากเนย์ยาที่จู่โจมอย่างฉับพลัน
“ส่งตราประทับมาดีกว่านะท่านไคล์ เรื่องจะได้จบ”
“ต่อให้ท่านได้มันไป ท่านก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเมืองนี้ได้หรอก”
“งั้นท่านก็จงพังพินาศไปกับคฤหาสน์นี้เลยแล้วกัน” เนย์ยาเอ่ยพร้อมเตรียมร่ายเวทย์อย่างสุดกำลัง ฉับพลันก็มีเสียงดังแทรกขึ้นพร้อมกับกลุ่มทหารมากมายวิ่งเข้ามาล้อมเนย์ยาไว้ทันที
“ท่านนั่นแหละหยุดได้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเป็นตัวท่านเองที่พินาศนะ ท่านหัวหน้าแม่ทัพ” จาร์น่าเอ่ยแทรกพร้อมเข้าขวางเพื่อคุ้มกันเจ้าเมือง บัดนี้ทหารจำนวนมากต่างวิ่งเข้ามาปิดล้อมทุกทางเข้าออกของคฤหาสน์ ส่วนภายในห้องโถงที่เกิดเหตุอยู่
“ถึงตอนนี้ข้าเองก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว หึหึ!!”
..................................
“ทุกคนเข้าไปช่วยท่านไคล์ ทางนี้ให้พวกเราจัดการดีกว่า” เฟย์เอ่ยให้เด็กๆ เข้าไปยังในตัวคฤหาสน์หลังจากที่ทั้งหมดได้เดินทางมาถึงก็พบว่าทหารของจาร์น่าและเนย์ยากำลังต่อสู้กันอยู่ และยังมีคนของอารามเทพติดตามพวกเขามาด้วย
“ทำตามนี้เถอะ พวกอารามเวทย์ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ” ดัสค์เอ่ยสนับสนุนเฟย์ เดวี่ ฮันนี่ เซ เชโด้และเบลจึงพากันเข้าไปยังด้านใน
“เราคงต้องร่วมมือกันดีๆ แล้วแหละนะ” เฟย์เอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้ดัสค์
“ไม่ต้องพูดมาก จะเอายังไงก็บอกมา” ดัสค์เอ่ยแต่ก็ทำให้เฟย์ยิ้มออกมาทันที แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ลงมือก็มีเสียงเอ่ยแทรกจากผู้มาเยือนดังขึ้น
“พวกเธอเป็นใครถึงมาขวางทางพวกเรา” กลุ่มผู้มาเยือนทั้งเก้าคนเอ่ย
“แล้วพวกท่านเป็นใครถึงกล้ามาบุกคฤหาสน์เจ้าเมือง” เฟย์เอ่ยย้อนคนเบื้องหน้าทั้งเก้าคนที่ดูแล้วมีอายุมากพอควรแล้วและคิดว่าน่าจะเป็นพวกบำเพ็ญเพียรฝึกเวทย์เป็นแน่
“เรามาตามล่าปีศาจ เมืองของเราไม่ต้อนรับและไม่ยอมให้ใครคบคิดกับปีศาจเพื่อทำลายเมืองนี้เด็ดขาด”
“แม้แต่เจ้าเมืองพวกท่านก็จะจัดการรึ?” ดัสค์เอ่ยแทรก
“นี่เจ้า!! แบบนี้ก็แสดงว่าข่าวที่เราทราบมาเป็นความจริงสินะ” ผู้นำของอารามเทพเอ่ย
“จริงหรือไม่จริงพวกเราไม่รู้หรอก แต่อีกซักครูทุกอย่างที่เป็นความจริงจะกระจ่าง อย่างไรเชิญท่านรอดีกว่านะ อย่าเข้าไปเลย” เฟย์เอ่ยเสริม
“เกรงว่าจะไม่ได้แน่ๆ หากพวกเจ้าขัดขวางเราเห็นทีเราคงจะต้องจัดการพวกเจ้าไปด้วย” หนึ่งในกลุ่มของอารามเทพเอ่ยแทรกขึ้นสร้างความหงุดหงิดให้ดัสค์จนเห็นได้ชัด
“พวกนี้เป็นถึงเทพผู้บำเพ็ญเพียรแต่กลับโดนหลอกชักจูงได้ง่ายจัง หึ!!” ดัสค์เอ่ยอย่างหงุดหงิด
“งั้นเราก็เล่นกับเขาหน่อยสิ 555” เฟย์เอ่ยพร้อมเดินออกไปหากลุ่มของอารามเวทย์ทันที
“นี่ ถ้าอยากจะจัดการพวกเราก็เข้ามาเลย แต่ขอเตือนนะว่าหากพวกท่านแพ้ พวกท่านคงต้องเสียพลังเวทย์ที่อุส่าห์บำเพ็ญเพียรมาให้กับเราแน่ๆ หึ!!” เอ่ยจบดาบสีส้มก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับเปลวเพลิงสีส้มที่ลุกโชติขึ้นจะกลุ่มของอารามเทพแตกกระเจิง
“ไฟแห่งฟินิกซ์ ระวังตัวกันด้วย” ผู้นำอารามเวทย์เอ่ยพร้อมสร้างบาเรียเวทย์มาคุ้มกันพวกตัวเองทันที แต่ยังไม่ทันได้อุ่นใจก็ปรากฏว่าเด็กหนุ่มอีกคนกำลังส่งของขวัญมาให้อีกแล้ว
“ระวัง!!” เพียงเสี้ยววินาทีที่ผู้นำเอ่ยเตือนทำให้กลุ่มของอารามเวทย์หลบพ้นอัคคีเวทย์ของดัสค์ไปได้
“เจ้าเด็กพวกนี้ รับไป!!” หนึ่งในกลุ่มของอารามเทพยกไม้คฑาขึ้นพร้อมกับเกลียวคลื่นพุ่งเข้าจู่โจมดัสค์ แต่ก็มลายไปทันทีเมื่อปะทะเข้ากับเปลวเพลิงของเฟย์
“ไฟแห่งฟินิกซ์จริงๆ สินะ” ผู้ใช้วารีเวทย์โจมตีดัสค์เอ่ยอย่างรู้ทันเมื่อเห็นว่าเวทย์ของตนไม่สามารถเอาชนะเด็กหนุ่มเบื้องหน้าได้
“ทุกคนฟัง เราคือผู้บำเพ็ญเพียรฝึกเวทย์ หากเราร่วมมือกันอย่างไรเราก็เอาชนะเด็กสองคนนี้ได้แน่ๆ ” ทันทีที่ผู้นำเอ่ยเหล่าสมาชิกของอารามเวทย์ก็ขยับประจำที่ตามตำแหน่งในจุดที่แปลกตาออกไปพร้อมกับเริ่มร่ายเวทย์
“ค่ายกล ระวังพวกนี้ไว้หน่อยนะ” เฟย์เอ่ยเตือนดัสค์เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้กำลังผสานเวทย์เพื่อมาสู้กับฝ่ายของตน แม้ว่าเวทย์ของกลุ่มอารามเทพจะสูงแต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าเขาและดัสค์ได้ เพราะเป็นที่รู้กันว่าเขาทั้งคู่ไม่ใช่มนุษย์แต่คือภูตที่บำเพ็ญเพียรฝึกจิตมานานนับร้อยๆปีจนสามารถอยู่ในร่างมนุษย์ได้ แต่หากว่าคนเบื้องหน้าทั้งเก้าคนนี้รวมพลังกันก็น่ากลัวมิใช่น้อย
“กลัวรึ” ดัสค์เอ่ยพร้อมกระตุกยิ้มน้อยๆ และถือเป็นยิ้มแรกที่เฟย์ได้เห็นเลยก็ว่าได้
“ฉันเป็นห่วงนายต่างหาก หากผิดพลาดไปนายคงได้กลับไปเป็นมังกรตัวดำๆ แบบเก่าอีกแน่ หึหึ” เฟย์แซวแต่ก็มิวายอดยิ้มไม่ได้
“เอางี้ เรามาลองร่วมมือกันสู้บ้างเป็นไง?” เฟย์ยังคงเสนอความคิดต่อ และดูเหมือนว่าดัสค์ก็เห็นดีด้วย
“งั้นก็ลองดู” สิ้นคำของดัสค์วงแหวนสีส้มทองและสีดำก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับอักขระสีทองและสีเงินลอยรอบๆ วงแหวนนั้น บัดนี้ร่างของเด็กหนุ่มทั้งสองลอยอยู่ใจกลางวงแหวนนั่นพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงค่อยๆ เกิดขึ้น
“โจมตี!!” ฝ่ายอารามเทพที่บัดนี้ผสานเวทย์เรียบร้อยแล้วก็ชิงโจมตีก่อน เมื่อคนทั้งเก้าตั้งค่ายกลก็ปรากฏขึ้นเขตแดนแปดเหลี่ยมสีขาวสว่างจ้าขึ้น ทันทีที่ผู้นำเอ่ยจู่โจมใจกลางค่ายกลก็ปรากฏมังกรเวทย์สีขาวเลื้อยพุ่งออกมาเข้าจู่โจมเฟย์และดัสค์ทันที
“ช้าไปแล้ว หึหึ ขึ้นหลังฉันมา!!” เฟย์ที่กลับสู่ร่างจริงเอ่ยเรียกให้ดัสค์ขึ้นมาบนหลังพร้อมกับบินทะยานสวนออกไปเช่นกัน สองปีกใหญ่ที่กางออกพร้อมกับเปลวเพลิงสีส้มแดงที่ลุกโชติช่วงอีกทั้งเสียงร้องที่ก้องกังวานของฟินิกซ์สร้างความน่าเกรงขามมิใช่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีร่างของหนุ่มน้อยที่บัดนี้มีเขาสีดำเงาและสวมชุดเกราะเกร็ดมังกรสีดำยืนถือแซ่กระดูกมังกรอยู่ด้านบนพร้อมจิตสังหารสีดำที่พวยพุ่งออกมาก็ยิ่งทำให้ผู้ที่เผชิญหน้าถึงกับตกตะลึง ทันทีที่ฟินิกซ์และมังกรเวทย์ปะทะกันก็เกิดกระแสพลังขนาดมหึมาแผ่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนสั่นสะเทือนไปตามแรงพลัง เพียงแค่แซ่กระดูกมังกรของดัสค์ที่ตวัดเข้าใส่มังกรเวทย์เพียงครั้งเดียวร่างนั้นก็สลายไปทันที
“เป็นไปไม่ได้” ผู้นำอารามเทพเอ่ยอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นความสามารถของเด็กหนุ่มที่อยู่บนหลังมังกร แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเฟย์ก็จู่โจมคนทั้งเก้าต่อทันที เสียงร้องของฟินิกซ์ทำให้คนทั้งเก้าต่างก็ยกมือปิดป้องหูอย่างทรมาน
“อ๊าคคคคคคค”
‘พวกท่านยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา’
กลับมาที่ชายน์และนีโอ...
หลังจากที่ชายน์และนีโอตกลงกันได้ ชายน์ก็เริ่มลงมือทันที วงแหวนสีทองปรากฏขึ้นรอบๆ ร่างของชายน์ ที่เจ้าตัวยังคงใช้ร่างเทพแห่งแสงอยู่ บัดนี้อาณาบริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยไอเวทย์ของชายน์ที่ปลดปล่อยออกมาและดูเหมือนว่าเจ้าลูกแก้วสีขาวขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ด้านบนนั้นก็กำลังตอบสนองต่อชายน์เป็นอย่างดี
“ฉันจะดึงมันลงมาแล้วนะ พร้อมมั๊ยลีโอ?” ชายน์หันมาเอ่ยกับเพื่อน และเมื่อนีโอพยักหน้าชายน์ก็ลงมือทันที ลูกแก้วสีขาวกำลังลอยลงมาหาชายน์ ทันทีที่มันสัมผัสกับมือของชายน์บางอย่างก็เกิดขึ้น
“อึก!!” ร่างของชายน์กระตุกเกร็งค้างก่อนจะหลับตาค่อยๆ ผ่อนความรู้สึกลงพร้อมกับเอ่ยกับนีโอ
“ลงมือเลยนีโอ”
“อืม” สิ้นคำของนีโอ เจ้าตัวก็เอื้อมมือไปสัมผัสกับอีกด้านของลูกแก้วและก็เกิดอาการเดียวกันกับชายน์ แต่เพียงครูเดียวก็กลับสู่สภาพปกติ บัดนี้ร่างของคนทั้งสองกำลังยืนแตะลูกแก้วสีขาวขนาดใหญ่คนละด้านโดยที่คนทั้งสองต่างก็หลับตานิ่ง เพียงแต่คนหนึ่งมีสีหน้าและอาการที่ดีขึ้นแต่อีกคนกำลังค่อยๆ แสดงอาการทรมานออกมาเรื่อยๆ ไอเวทย์ที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของชายน์บัดนี้ทวีความรุนแรงขึ้น ผู้คนที่หลบอยู่ในบ้านต่างรับรู้ได้เป็นอย่างดี บ้างออกมามุงดูการกระทำของคนทั้งสอง บ้างไม่สามารถทนต่อกระแสไอเวทย์ได้ก็ต้องหลบอยู่ในบ้านหรืออยู่ในระยะห่างๆ แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ยังพื้นที่นั้นได้เลย
“ชายน์ นายจะไม่ไหวแล้วนะ” นีโอที่ลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าเพื่อนของตนเองมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก บัดนี้ร่างของชายน์เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ไอเวทย์สีขาวลอยคละคลุ้งอยู่รอบๆร่าง และทั้งหมดจะถูกดูดเข้าสู่ลูกแก้ว ในขณะที่นีโอเองก็รับรู้ได้เช่นกันว่าไอเวทย์แห่งแสงที่คุ้นเคยถูกส่งออกมาจากลูกแก้วเข้าหาตนเอง
“แค่นี้ยังไหว นี่ยังไม่ถึงครึ่งที่นายสูญเสียเลยนีโอ ฉันจะชดใช้ให้ อึก!!” ชายน์เอ่ยพร้อมกับหลับตารวมสมาธิอีกครั้ง ไอเวทย์ระลอกใหม่ถูกผลักเข้าสู่ลูกแก้วพร้อมกับร่างของชายน์เริ่มสั่น แม้นีโอจะเห็นใจและสงสารเพื่อนแต่ทว่าเขาก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถหยุดเพื่อนได้ จึงได้แต่ให้ความร่วมมือกับชายน์ต่อไป แต่ผ่านไปเพียงไม่นานชายน์กลับเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาเสียเอง
“นีโอ..” ชายน์เอ่ยออกมาเมื่อพบว่าบัดนี้ไอเวทย์ที่ตนปลดปล่อยออกมานั้นบางลงทุกทีและกำลังมีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกแก้ว
“ฉันอยู่นี่” นีโอรีบเอ่ยรับเพื่อน
“เวทย์ฉันกำลังถึงขีดจำกัดแล้ว มันอันตรายเกินไป นายออกไปก่อน”
“ฉันจะส่งมันกลับคืนให้นาย ฉันไม่ได้ต้องการมันขนาดนี้ชายน์” นีโอที่ขณะนี้ไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างไรแล้วเอ่ยเป็นห่วงเพื่อนเพราะเวทย์แห่งแสงที่ชายน์ส่งผ่านลูกแก้วมาให้และเจ้าลูกแก้วขนาดใหญ่นี้ที่คืนพลังเวทย์ของตนกลับมาให้นั้นมันมากเกินพอที่นีโอจะรับไว้แล้วเช่นกัน
“ไม่ ปล่อยมือแล้วรีบออกไปซะ” ชายน์ย้ำ
“แต่นายจะบาดเจ็บนะ” นีโอก็ปฏิเสธคำขอของชายน์เช่นกัน บัดนี้เมื่อทั้งคู่ต่างก็ส่งพลังกลับคืนสู่ลูกแก้วและเพียงเสี้ยวระยะเวลาที่จะได้เอ่ยต่อ ลูกแก้วก็ร้าวและแตกกระจายออกทันที
“กรี๊ดดดด”
“ชายน์!!”
………………………………………………………………………………………………………………………..
เสียงร้องของคนที่มุงดูอยู่ห่างๆ หวีดร้องดังขึ้นอันเนื่องมาจากการระเบิดของลูกแก้วนั้นส่งผลต่อสิ่งต่างๆ มากมาย ทุกคนต่างวิ่งหลบหนีชุลมุนโดยไม่มีใครสนใจถึงลำแสงสีฟ้ากำลังพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับเมืองทั้งเมืองกำลังสั่นไหวเหตุเพราะพื้นแผ่นดินกำลังเกิดการเคลื่อนตัวขึ้นนั่นเอง
“ชายน์!!” นีโอตะโกนอย่างสุดเสียงเมื่อเห็นบางสิ่งกำลังพาร่างของเพื่อนพุ่งทะลุบาเรียของเมืองสมุทรออกไป ทันทีที่บาเรียได้แตกลงก็พบว่าบัดนี้เมืองสมุทรที่เคยจมอยู่ก้นทะเลได้ลอยขึ้นสู้พื้นทะเลกลายเป็นเกาะแล้ว
เบื้องบนในตอนนี้คือท้องฟ้าที่สดใสพร้อมแสงแดดที่มาจากดวงอาทิตย์จริงๆ หาใช่ลูกแก้วลูกเดิมไม่ นีโอนิ่งตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมๆ กับที่ผู้คนต่างค่อยๆ ออกมาจากอาคารบ้านเรือนเมื่อเห็นว่าทุกอย่างปกติแล้ว พร้อมกับเริ่มมีเสียงพูดคุย ตะโกนเรียกกันอย่างตื่นเต้น จนสุดท้ายก็ครึกครื้นไปด้วยเสียงโห่ร้องอย่างยินดีของชาวเมืองสมุทรที่ได้เห็นท้องฟ้าและแสงแดดอีกครั้ง....
หลังจากความวุ่นวายได้สงบลง แม่ทัพใหญ่เนย์ยาถูกตัดสินประหารชีวิต แต่เห็นแก่ความรื่นเริงของชาวเมืองที่ได้หลุดพ้นขึ้นมาจากใต้ทะเล นีโอจึงขออภัยโทษให้แม่ทัพเนย์ยาเหลือรับโทษแค่คุมขังอยู่ในคุกเวทย์ตลอดชีวิต ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดก็โดนคุมขังเช่นกัน เจ้าเมืองประกาศให้จัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองให้แก่ชาวเมืองและแสดงความยินดีกับนีโอที่ได้เวทย์แห่งแสงกลับคืนมาจากลูกแก้ว พร้อมทั้งประกาศรับกองกำลังเหล่าต่างๆ และจอมเวทย์ทั่วทั้งเมืองเพื่อคัดสรรเข้าสู่อารามเทพแทนกลุ่มคนก่อนๆ ที่ก่อกบฏ ...นีโอที่กำลังยืนมองเมืองทั้งเมืองของตนในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟและเสียงดนตรีมากมายคละเคล้าไปกับเสียงหัวเราะของผู้คนแต่เจ้าตัวกลับไร้ซึ่งความรู้สึกยินดีใดๆ
“อย่าคิดมากเลยนีโอ ชายน์ไม่เป็นอะไรหรอก” เดวี่ที่เห็นว่าหนุ่มน้อยกำลังแบกความรู้สึกไม่ดีไว้มากมายก็ฉวยโอกาสเข้ามาพูดคุยกับนีโอ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ถนัดเรื่องปลอบประโลมแต่ในยามที่เพื่อนกำลังทุกข์ เดวี่ก็ไม่อาจอยู่เฉยได้
“ฉันทำให้ชายน์ต้องลำบากแล้ว” นีโอเอ่ยจากความรู้สึก
“ตอนนี้เฟย์กำลังออกตามหาชายน์ เขาน่าจะสื่อสารถึงกันได้” เดวี่เอ่ยเรียบๆ
“นายก็กำลังจะออกไปอีกคน?” นีโอเอ่ยดักทางอย่างรู้ทัน จนเดวี่ชะงักไปทันที
“ฉันปล่อยให้ชายน์หายไปจากสายตาไม่ได้”
“ทำไม?” นีโอเอ่ย แต่เดวี่ก็ยังคงเงียบอยู่
“ระหว่างนายสองคน มันมีอะไรที่พวกเรายังไม่รู้อีกหรือเปล่า เดวี่?”
“สำหรับฉัน แม้ฉันจะเป็นแค่คนธรรมดา หรือวันข้างหน้าฉันจะได้ทุกอย่างคืน แต่ชายน์คือคนที่สำคัญที่สุด” คำตอบของเดวี่ แม้ว่าจะตอบไม่ตรงคำถามแต่ก็ทำให้นีโอยอมแพ้ที่จะถามไถ่ต่อไปได้
“งั้นก็ขอให้นายโชคดีนะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ฉันจะให้เพื่อนๆ ได้พักอีกสักสองสามวัน จากนั้นเราจะไปส่งคิมเข้าโรงเรียนตามที่นายกับชายน์เคยเอ่ยไว้ แล้วเราจะออกเดินทางตามไปสมทบพวกนายอีกที”
“อืม อย่างไรก็ตาม ให้ยึดแผนเดิมของชายน์นะ” เดวี่เอ่ยย้ำก่อนจะปรากฏกลุ่มควันสีดำปรากฏขึ้นท่วมร่างของเดวี่พร้อมกับร่างนั้นหายวับไปกับตา
‘ถ้าไม่ใช่ชายน์เดวี่ไม่มีทางเอาจริงแบบนี้แน่ หึหึ’
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ